Veea ร่วมมือกับ ICT มอบการเชื่อมต่อไร้สายขั้นสูงและการติดตามทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงเพื่อพลิกโฉมการดำเนินงานเหมืองแร่

Logo

การติดตั้งระบบไร้สายใหม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการทรัพย์สิน ความปลอดภัยของพนักงาน และการติดตามสภาพแวดล้อมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ห่างไกล

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–17 ตุลาคม 2024

Veea (NASDAQ : VEEA) ผู้นำรายแรกในตลาดด้านเครือข่ายมัลติแอคเซสที่รวมการทำงานหลายส่วนเข้าด้วยกันพร้อมการรักษาความปลอดภัยด้วย AI ได้ประกาศความร่วมมือกับ Inti Cakrawala Teknologi (ICT) ผู้ให้บริการโซลูชั่นการเชื่อมต่อดิจิทัลยุคใหม่ เพื่อนำเสนอการเชื่อมต่อขั้นสูงและการติดตามทรัพย์สินให้กับลูกค้าของ ICT ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และพลังงานในอินโดนีเซียและทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การติดตั้งครั้งแรกมีกำหนดเริ่มขึ้นในวันที่ 20 ตุลาคม 2024

ICT ให้บริการแก่เหมืองขนาดใหญ่หลายแห่งที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งการเชื่อมต่อเป็นปัญหาสำคัญ เนื่องจากระยะทางอันยาวไกลระหว่างเหมืองและคลังเก็บสินค้า ทำให้การจัดการทรัพย์สิน การรักษาความปลอดภัย และการดูแลความปลอดภัยของพนักงานแบบเรียลไทม์เป็นเรื่องยาก หากไม่มีโซลูชั่นไร้สายที่ทันสมัย

“คุณสมบัติที่น่าประทับใจของ Veea hub คือไม่เพียงแค่แก้ปัญหาการเชื่อมต่อ แต่ยังมาพร้อมกับเกตเวย์ IoT หลายตัวที่สนับสนุนการประมวลผลที่ขอบเครือข่าย (Edge Computing) Wi-Fi การเชื่อมต่อแบบ IoT meshing และการเชื่อมต่อกับคลาวด์ได้” Wiwit Ongko ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ ICT กล่าว “เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ Veea ในการติดตั้งครั้งนี้และสำรวจความเป็นไปได้ที่เทคโนโลยีนี้สามารถนำเสนอในอนาคต”

โซลูชั่นเครือข่ายขอบแบบรวมหลายส่วนของ Veea มอบโครงสร้างพื้นฐานด้านการเชื่อมต่อและ IoT ที่ครอบคลุม ซึ่งช่วยให้บริษัทเหมืองแร่ในภูมิภาคนี้สามารถแก้ไขความท้าทายในการดำเนินงานในพื้นที่ห่างไกลได้ โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามทรัพย์สิน เพิ่มความปลอดภัย และลดต้นทุนการดำเนินงาน โซลูชั่นร่วมระหว่าง Veea และ ICT ไม่เพียงตอบสนองความต้องการเร่งด่วนของบริษัทเหมืองแร่ในปัจจุบัน แต่ยังช่วยให้พวกเขาพร้อมรับการพัฒนาเทคโนโลยีเหมืองแร่ในอนาคต

ICT และ Veea ได้พัฒนาและจะดำเนินการติดตั้งดังต่อไปนี้ :

  • Wi-Fi แบบสองทิศทาง (Bi-Directional Wi-Fi) : มีการติดตั้งระบบเชื่อมต่อไร้สายที่มีความเสถียร ตั้งแต่ทางเข้าของเหมืองตามเส้นทางถนนไปยังพื้นที่จัดเก็บสินค้า เพื่อให้การสื่อสารไม่มีสะดุด
  • เกตเวย์ IoT และเซ็นเซอร์ LoRaWAN : Veea hub แบบมัลติฟังก์ชันที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ LoRaWAN เพื่อใช้ในการติดตามและตรวจสอบสถานีอากาศ การเคลื่อนที่ของพื้นดิน และระดับฝุ่น PM2.5
  • การประมวลผลที่ขอบเครือข่าย : โซลูชั่นของ Veea ช่วยให้สามารถประมวลผลข้อมูลและตัดสินใจได้แบบเรียลไทม์ที่ขอบเครือข่าย ลดความล่าช้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
  • การเชื่อมต่อแบบ IoT Meshing และการเชื่อมต่อกับคลาวด์ : ด้วยการเชื่อมต่อแบบ IoT Meshing Veea hub ได้สร้างเครือข่ายที่มีความแข็งแกร่ง สามารถขยายการเชื่อมต่อได้ทั่วพื้นที่เหมือง และยังเชื่อมต่อกับคลาวด์ได้อย่างราบรื่น เพื่อการเก็บข้อมูลระยะยาวและการวิเคราะห์

“ผลิตภัณฑ์ VeeaHub ของเรา ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีไร้สายขั้นสูงและความสามารถในการรันแอปพลิเคชันในท้องถิ่นที่ขอบเครือข่าย ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาช่องว่างด้านการเชื่อมต่อในพื้นที่ห่างไกลด้วยต้นทุนที่คุ้มค่า โดยไม่จำเป็นต้องใช้การเชื่อมต่อดาวเทียมที่มีค่าใช้จ่ายสูง พร้อมมอบโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการดำเนินงานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมเหมืองแร่” Allen Salmasi ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Veea กล่าว “ด้วยการสื่อสารและการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ เรามุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการเหมืองแร่ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายที่สุด พร้อมทั้งเพิ่มความปลอดภัยและการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมด้วย Edge AI”

เกี่ยวกับ Veea

Veea® ทำให้การใช้ชีวิตและการทำงานที่ขอบเครือข่ายง่ายขึ้นและปลอดภัยยิ่งขึ้น Veea ได้รวมการประมวลผลแบบหลายผู้เช่า การสื่อสารแบบมัลติแอคเซสหลายโปรโตคอล การจัดเก็บข้อมูลที่ขอบเครือข่าย และโซลูชั่นด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ไว้ในผลิตภัณฑ์ที่บริหารจัดการทั้งบนคลาวด์และที่ขอบเครือข่ายแบบครบวงจร ผลิตภัณฑ์ Multiaccess Edge Computing (MEC) ของ Veea ซึ่งพัฒนาขึ้นตั้งแต่ต้นในรูปแบบขนาดกะทัดรัด ได้นำฟังก์ชันการทำงานที่โดยปกติจะได้รับจากการรวมกันของเซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลบนเครือข่าย (Network Attached Storage หรือ NAS) เราท์เตอร์ ไฟร์วอลล์ จุดเชื่อมต่อ Wi-Fi (Access Points หรือ AP) เกตเวย์ IoT การเข้าถึงไร้สาย 4G หรือ 5G และการประมวลผลบนคลาวด์ (Cloud Computing หรือ CC) มารวมไว้ในผลิตภัณฑ์เดียวกันที่มีการบูรณาการระบบฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และระบบต่าง ๆ ซึ่ง IT/OT จะต้องดูแลรักษา เมื่อเปรียบเทียบกับโซลูชั่นแบบเดิมแล้ว Veea Edge Platform ให้ประสิทธิภาพในการตอบสนองแอปพลิเคชันที่สูงขึ้น เพิ่มความปลอดภัยด้านไซเบอร์ ปกป้องข้อมูล และสร้างการรับรู้ตามบริบท รวมถึงลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งข้อมูลและค่าใช้จ่ายรวมของการเป็นเจ้าของ ทั้งยังติดตั้ง ใช้งาน ตรวจสอบ และบำรุงรักษาเครือข่ายขอบได้อย่างง่ายดาย ผลิตภัณฑ์ VeeaHub ใช้เซิร์ฟเวอร์ที่รันระบบ Linux ซึ่งมีสภาพแวดล้อมซอฟต์แวร์ที่จำลองแบบเสมือนอย่างครบถ้วนสำหรับแอปพลิเคชันที่พัฒนาขึ้นในรูปแบบคลาวด์โดยใช้คอนเทนเนอร์ Docker™ ที่มีการรักษาความปลอดภัยสูง โดยมีการแยกข้อมูลผู้ใช้และแอปพลิเคชันออกจากกันอย่างเข้มงวด รวมถึงมีการสร้างเครือข่ายที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ (Software Defined Networking หรือ SDN) และการจำลองฟังก์ชันของเครือข่าย (Network Function Virtualization หรือ NFV) ที่ครอบคลุมความปลอดภัยทางไซเบอร์เพื่อส่งมอบเครือข่ายแบบมัลติฟังก์ชันผ่านเครือข่ายเชื่อมต่อและประมวลผล โซลูชั่นครบวงจรที่ติดตั้งได้ง่ายนี้มีการจัดการอุปกรณ์ แอปพลิเคชัน และบริการเสริมต่าง ๆ จากคลาวด์ได้อย่างครบวงจร พร้อมการเข้าถึงเครือข่ายแบบ Zero Trust Network Access (ZTNA) และบริการ Secure Access Service Edge (SASE) ที่ใช้ 5G ซึ่งติดตั้งได้อย่างง่ายดายและเป็นตัวเลือก Veea Edge Platform รองรับการเชื่อมต่อโดยตรงจากเครือข่ายไฟเบอร์ออปติก เครือข่ายเซลลูลาร์ และดาวเทียมสู่เครือข่ายท้องถิ่นที่สร้างขึ้นโดยกลุ่มเครือข่าย VeeaHub ที่เชื่อมต่อกับ Wi-Fi และอุปกรณ์ IoT ในลักษณะเดียวกับการจัดการเครือข่ายเซลลูลาร์ ซึ่งเป็นความสามารถที่ได้รับการจดสิทธิบัตรภายใต้ชื่อการแบ่งเครือข่าย (Network Slicing) นอกจากนี้ Veea Developer Portal และเครื่องมือพัฒนายังช่วยให้การพัฒนาแอปพลิเคชันที่ขอบเครือข่ายเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว พร้อมความสามารถในการรองรับ Edge AI เป็นทางเลือกเสริม Veea ได้พัฒนาโซลูชั่นที่คุ้มค่าหลากหลายสำหรับข้อเสนอ B2B และ B2B2C ผ่านผู้ให้บริการ ผู้จัดจำหน่ายพันธมิตร ระบบอินทิเกรเตอร์ พันธมิตรด้านองค์กร และหน่วยงานรัฐบาล สำหรับการใช้งานด้านการค้าปลีกอัจฉริยะ การก่อสร้างอัจฉริยะ โลจิสติกส์และคลังสินค้าอัจฉริยะ การเกษตรอัจฉริยะ อาคารอัจฉริยะ โรงเรียนอัจฉริยะ โรงพยาบาลอัจฉริยะ พิพิธภัณฑ์อัจฉริยะ ไปจนถึงเมืองอัจฉริยะ Veea ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในนครนิวยอร์ก โดยมีประวัติอันยาวนานในด้านนวัตกรรมเครือข่ายขั้นสูง เทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบไร้สายและการประมวลผล รวมถึงมีสิทธิบัตรที่ได้รับการอนุมัติกว่า 103 รายการ และกำลังรอการอนุมัติอีก 33 รายการในเทคโนโลยีหลักด้านการประมวลผลขอบแบบมัลติฟังก์ชัน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม veea.com และติดตามเราทาง X และ LinkedIn

เกี่ยวกับ ICT

Inti Cakrawala Teknologi ก่อตั้งขึ้นในปี 2022 และเติบโตอย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าโดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลล้ำสมัยมาใช้ ด้วยความมุ่งมั่นของผู้ก่อตั้งและความเป็นมืออาชีพที่สั่งสมมากว่าสองทศวรรษ Inti Cakrawala Teknologi สามารถนำเสนอเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ โดยมอบความร่วมมือทางธุรกิจระยะยาว Inti Cakrawala Teknologi มุ่งมั่นที่จะให้บริการและช่วยเหลือลูกค้าให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น ผ่านการบริการหลังการขายที่มีคุณภาพสูงครบวงจร Inti Cakrawala Teknologi ประกอบด้วยทีมงานสนับสนุนด้านเทคนิคที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญสูง พร้อมด้วยทีมงานขาย การตลาด และฝ่ายธุรการที่มุ่งมั่นในการมอบโซลูชั่นที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ Inti Cakrawala Teknologi ได้ร่วมมือกับผู้จำหน่ายเทคโนโลยีดิจิทัลชั้นนำของโลก

แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ในอนาคตภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลาง โดยทั่วไปแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ในอนาคตเหล่านี้จะถูกระบุด้วยคำว่า “เชื่อว่า” “คาดการณ์” “คาดว่า” “ประเมิน” “ตั้งใจ” “กลยุทธ์” “อนาคต” “โอกาส” “แผน” “อาจจะ” “ควรจะ” “จะ” “จะเป็น” “จะดำเนินต่อไป” “จะส่งผลให้” และการแสดงออกที่คล้ายกัน

ตัวอย่างของแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ในข่าวประชาสัมพันธ์นี้รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง แถลงการณ์เกี่ยวกับการติดตั้งเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นของบริษัทในความร่วมมือกับ ICT และวันเริ่มต้นที่คาดหวัง แถลงการณ์เหล่านี้ขึ้นอยู่กับสมมติฐานต่าง ๆ ไม่ว่าจะระบุไว้หรือไม่ในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ และจากความคาดหวังในปัจจุบันของผู้บริหารของ Veea และ ICT ซึ่งไม่ได้เป็นการทำนายประสิทธิภาพที่แท้จริง แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ในอนาคตเหล่านี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการอธิบายเท่านั้น และไม่ควรใช้เป็นหลักประกัน คำมั่น หรือการทำนายผลลัพธ์ในอนาคตที่แท้จริง หากความเสี่ยงใด ๆ เหล่านี้เกิดขึ้น หรือสมมติฐานของฝ่ายต่าง ๆ ผิดพลาด ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างอย่างมากจากที่แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ในอนาคตบ่งชี้ มีหลายปัจจัยที่อาจทำให้เหตุการณ์ในอนาคตแตกต่างอย่างมากจากที่ระบุไว้ในแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ในข่าวประชาสัมพันธ์นี้ อาจมีความเสี่ยงเพิ่มเติมที่ Veea หรือ ICT ไม่ทราบในปัจจุบันหรือที่ Veea และ ICT เชื่อว่าไม่มีนัยสำคัญ แต่สามารถทำให้ผลลัพธ์จริงแตกต่างจากที่ระบุไว้ในแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ แถลงการณ์เชิงคาดการณ์กล่าวถึงสถานะ ณ วันที่ที่มีการจัดทำเท่านั้น ผู้อ่านควรระมัดระวังไม่ให้เชื่อถือแถลงการณ์เชิงคาดการณ์เหล่านี้เกินไป Veea และ ICT ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบในการปรับปรุงหรือแก้ไขแถลงการณ์เชิงคาดการณ์เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นผลจากข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคต หรือเหตุผลอื่นใด Veea และ ICT ไม่ให้การรับรองใดๆ ว่า Veea หรือ Plum จะบรรลุเป้าหมายตามที่คาดหวัง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ
James Christopherson
Sterling Communications สำหรับ Veea Inc.
veea@sterlingpr.com

แหล่งที่มา : Veea

The Bangkok Reporter