ขอแนะนำ Starbucks Oleato™ วิธีการชงกาแฟแบบใหม่ที่ปฏิวัติวงการ

Logo

การผสมผสานที่คาดไม่ถึงของกาแฟอาราบิก้าชั้นดีของ Starbucks® กับน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ Partanna® มอบประสบการณ์การดื่มกาแฟแบบใหม่ที่นุ่มละมุนและอร่อย

เปิดตัวแล้วที่ร้าน Starbucks Reserve® Roastery Milan และร้าน Starbucks Italy โดย Oleato จะเปิดตัวในบางสาขาทั่วโลกในปีหน้า

มิลาน–(BUSINESS WIRE)–22 กุมภาพันธ์ 2023

วันนี้ Starbucks เปิดตัว Oleato นวัตกรรมแห่งการเปลี่ยนแปลงกาแฟ ซึ่งเป็นกลุ่มเครื่องดื่มกาแฟที่รวบรวมสิ่งที่คาดไม่ถึงไว้ด้วยกัน อย่างกาแฟอาราบิก้าของ Starbucks ที่ผสมผสานความอร่อยด้วยน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ Partanna หนึ่งช้อนเต็ม ผลลัพธ์ที่ได้คือกาแฟที่เนียนนุ่ม หวานละมุนละไม และเข้มข้นที่ยกระดับแต่ละถ้วยด้วยรสชาติและเนื้อสัมผัสใหม่ที่ไม่ธรรมดา เครื่องดื่มใหม่ที่เปิดตัวในร้าน Starbucks ในอิตาลีเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ได้แก่ Oleato™ Caffè Latte, Oleato™ Iced Shaken Espresso และ Oleato™ Golden Foam™ Cold Brew อีกทั้ง Starbucks Reserve Roastery Milan เปิดตัวเครื่องดื่ม 5 ชนิดให้กับลูกค้าในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ได้แก่ Oleato™ Caffè Latte, Oleato™ Iced Cortado, Oleato™ Golden Foam™ Cold Brew, Oleato™ Deconstructed และ Oleato™ Golden Foam™ Espresso Martini ซึ่ง Starbucks จะเริ่มแนะนำเครื่องดื่มในบางสาขาทั่วโลก โดยเริ่มที่แคลิฟอร์เนียตอนใต้ในสหรัฐอเมริกาในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้ และจะเปิดตัวเครื่องดื่มที่ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง และสหราชอาณาจักรในปลายปีนี้

Introducing Starbucks Oleato™ – a Revolutionary New Coffee Ritual (Photo: Business Wire)

ขอแนะนำ Starbucks Oleato™ วิธีการชงกาแฟแบบใหม่ที่ปฏิวัติวงการ (ภาพ: Business Wire)

Howard Schultz ประธานเจ้าหน้าที่บริหารชั่วคราวของ Starbucks กล่าวว่า “ระหว่างการเดินทางไปมิลานครั้งแรกในปี 1983 ผมรู้สึกประทับใจในความรู้สึกของความเป็นชุมชน การเชื่อมต่อ และความหลงใหลในกาแฟที่ผมพบในบาร์เอสเปรสโซของเมือง การเดินทางครั้งนั้นเป็นแรงบันดาลใจให้ผมนำวิธีการทำเอสเปรสโซแบบทำมือมาสู่ Starbucks และอเมริกา Oleato เป็นตัวแทนของการปฏิวัติครั้งต่อไปในกาแฟที่รวบรวมส่วนผสมที่ดีที่สุดของธรรมชาติ อย่างเมล็ดกาแฟอาราบิก้าของ Starbucks และน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษสกัดเย็น Partanna” Schultz กล่าวว่า “วันนี้ผมรู้สึกได้รับแรงบันดาลใจเหมือนกับเมื่อ 40 ปีที่แล้ว Oleato ได้เปิดโลกทัศน์ของเราให้มองเห็นความเป็นไปได้ใหม่ ๆ และวิธีการเปลี่ยนแปลงในการเพลิดเพลินกับกาแฟในแต่ละวันของเรา”

การค้นหาแรงบันดาลใจอย่างต่อเนื่องของ Starbucks เผยให้เห็นถึงประเพณีของครอบครัวที่มีในภูมิภาคต่าง ๆ ของอิตาลีมาหลายชั่วอายุคน อย่างการเพลิดเพลินไปกับการดื่มน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์หนึ่งช้อนทุกวันก็จัดเป็นพิธีกรรมที่ยกระดับจิตใจ สิ่งนี้ทำให้ Starbucks ได้รู้จักกับ Partanna ซึ่งเป็นแบรนด์น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ของอิตาลีที่มีมายาวนานกว่า 100 ปีและอุทิศตนให้กับการทำฟาร์มและการผลิตน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ระดับพรีเมียม

Oleato วิธีการชงกาแฟแบบใหม่

Partanna สร้างสรรค์ส่วนผสมของน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษจากมะกอกเมดิเตอร์เรเนียนที่ดีที่สุด รวมถึงมะกอก Nocellara del Belice คุณภาพสูง (เรียกอีกอย่างว่า Castelvetrano) จากเมือง Partanna แคว้น Sicily การผสมผสานได้รับการคัดเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อให้จับคู่กับกาแฟของ Starbucks ได้อย่างลงตัว ซึ่งจะผสมลงในเครื่องดื่มอย่างเชี่ยวชาญเพื่อปลดล็อกประสบการณ์ที่นุ่มละมุนและอร่อยไม่เหมือนใคร

เครื่องดื่ม Starbucks Oleato ที่จะให้บริการในร้าน Starbucks ทั่วโลกมีดังนี้

  • Oleato™ Caffè Latte: Starbucks Blonde Espresso Roast เป็นการคั่วแบบเบา ๆ ที่หอมนุ่ม ผสมด้วยน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษของ Partanna และสตีมด้วยครีมนมข้าวโอ๊ตเพื่อทำลาเต้ที่นุ่มและอร่อย
  • Oleato™ Golden Foam™ Cold Brew: กลิ่นหอมที่ดึงดูดใจของน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ Partanna ผสมโฟมนมที่ไหลรินอย่างช้า ๆ ผ่าน cold brew สีเข้มที่นุ่มละมุน สร้างความหวานอ่อน ๆ ให้กับเครื่องดื่ม
  • Oleato™ Iced Shaken Espresso: เครื่องดื่มกาแฟนี้นำเสนอเลเยอร์รสชาติที่หอมหวานด้วยกลิ่นของเฮเซลนัท เอสเปรสโซเข้มข้น และครีมนมข้าวโอ๊ต ผสมกับน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษของ Partanna

ในบางสาขา ลูกค้ายังสามารถขอเพิ่มน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ Partanna หนึ่งช้อนเต็ม เพื่อปรับแต่งเครื่องดื่มบางประเภทได้ จากนั้นจะผสม (สตีม เขย่า หรือปั่น) เพื่อปรับแต่งเครื่องดื่มบางประเภท เช่น เครื่องดื่มเอสเปรสโซและชาลาเต้ อีกทั้งยังมี Golden Foam ให้สามารถเพิ่มเป็นท็อปปิ้งแสนอร่อยได้ในเครื่องดื่มร้อนและเย็น

วันนี้ Starbucks Reserve Roastery Milan เปิดตัวเครื่องดื่ม Starbucks Reserve Oleato ห้ารายการต่อไปนี้ ซึ่งออกแบบมาเพื่อจับคู่กับกาแฟ Starbucks Reserve ได้อย่างลงตัว

  • Oleato™ Caffè Latte: Starbucks Reserve Espresso และครีมนมข้าวโอ๊ตผสมกับน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษของ Partanna ได้เป็นลาเต้ที่นุ่มละมุนและหอมหวาน
  • Oleato™ Iced Cortado: Starbucks Reserve Espresso, น้ำเชื่อม Demerara, Orange Bitters และนมข้าวโอ๊ตผสมกับน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษของ Partanna จากนั้นเสิร์ฟแบบใส่น้ำแข็งและปิดท้ายด้วยเปลือกส้ม
  • Oleato™ Golden Foam™ Cold Brew: Starbucks Reserve Cold Brew เติมความหวานเล็กน้อยด้วยน้ำเชื่อม Demerara และปิดท้ายด้วยโฟมนมผสมน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ Partanna สร้างกลิ่นหอมที่เย้ายวนใจและความหวานอ่อน ๆ
  • Oleato™ Deconstructed: บทกวีเกี่ยวกับประเพณีของชาวอิตาลีในการผสมน้ำมันมะกอกเข้ากับมะนาว เครื่องดื่มนี้จับคู่ Starbucks Reserve Espresso และ Partanna น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ผสมกับโฟมนมเสาวรสสุดหรู
  • Oleato™ Golden Foam™ Espresso Martini: Starbucks Reserve Espresso, วอดก้า และน้ำเชื่อมถั่ววานิลลาราดด้วย Golden Foam ที่เป็นการผสมระหว่าง fior di latte (ครีมหวาน) และน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษของ Partanna

“เมื่อสร้างสรรค์เครื่องดื่ม เราได้รับแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์อันยาวนานและเรื่องราวต้นกำเนิดของกาแฟและน้ำมันมะกอก ซึ่งเป็นส่วนผสมที่เหนือธรรมชาติที่สุดสองชนิด” กล่าวโดย Amy Dilger ผู้พัฒนาเครื่องดื่มหลักของ Starbucks “การผสมกาแฟ Starbucks เข้ากับน้ำมันมะกอกทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่มและเข้มข้น พร้อมกลิ่นเนยที่กลมกล่อมจากน้ำมันมะกอกที่เข้ากันได้อย่างลงตัวกับกลิ่นช็อกโกแลตที่นุ่มละมุนของกาแฟ”

“สิ่งหนึ่งที่พิเศษเกี่ยวกับมะกอกของ Partanna คือรสชาติที่หวานเล็กน้อยและเป็นเอกลักษณ์ ให้ลองนึกถึงความเนียนนุ่มของเนยคาราเมล ซึ่งเป็นส่วนประกอบตามธรรมชาติของกาแฟของเรา” Dilger กล่าว “ไม่ว่าคุณจะเพลิดเพลินกับ Oleato แบบร้อนหรือแบบเย็น คุณจะได้รับประสบการณ์สัมผัสที่หรูหราอย่างแท้จริง”

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับแรงบันดาลใจและการสร้างสรรค์เครื่องดื่มเหล่านี้ได้ที่นี่

ยกระดับนวัตกรรมกาแฟ

ความโรแมนติกของอิตาลีที่มีต่อกาแฟ อาหาร และการเชื่อมต่อเป็นแรงบันดาลใจสำหรับ Starbucks Experience ตั้งแต่วันแรก ๆ ของบริษัท ซึ่งมีอิทธิพลต่อกาแฟ อาหาร และการออกแบบร้าน ตลอดจนการแสดงความเคารพต่อศิลปะ

“ศิลปะการชงกาแฟ การคัดสรร และการสร้างสรรค์ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของ Starbucks ความปรารถนาของเราที่จะเป็นผู้นำด้านกาแฟระดับพรีเมียมของโลกต่อไป ทั้งในด้านศิลปะและวิทยาศาสตร์นั้นยังคงแข็งแกร่งเหมือนเมื่อกว่า 50 ปีก่อนที่ Starbucks เปิดตัวครั้งแรก” Schultz กล่าว “เรายังคงทุ่มเทเพื่อให้เหนือความคาดหมายของลูกค้าด้วยการนำประสบการณ์ใหม่ ๆ มาให้ลิ้มลองอยู่เรื่อย ๆ”

ตั้งแต่ Starbucks Caffè Latte เสิร์ฟครั้งแรกในปี 1984 ไปจนถึง Pumpkin Spice Latte, Nitro Cold Brew และเครื่องดื่ม Iced Shaken Espresso ล่าสุด Starbucks ยังคงนำเสนอเครื่องดื่มที่ปรับปรุงใหม่ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

เกี่ยวกับ Starbucks

ตั้งแต่ปี 1971 เป็นต้นมา Starbucks Coffee Company มุ่งมั่นที่จะจัดหาและคั่วกาแฟอาราบิก้าคุณภาพสูงอย่างมีจรรยาบรรณ ปัจจุบันมีร้านค้าเกือบ 36,000 แห่งทั่วโลก โดยบริษัทเป็นผู้คั่วและผู้ค้าปลีกกาแฟชนิดพิเศษชั้นนำของโลก ด้วยความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่สู่ความเป็นเลิศและหลักการชี้นำของเรา เราจึงนำ Starbucks Experience ที่ไม่เหมือนใครมาแนะนำให้กับลูกค้าทุกคนผ่านทุกแก้ว หากต้องการแบ่งปันประสบการณ์ โปรดเยี่ยมชมเราได้ที่ร้านค้าของเราหรือทางออนไลน์ที่ stories.starbucks.com หรือ starbucks.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53334939/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

อีเมล: press@starbucks.com
สายด่วน: 206-318-7100

แหล่งที่มา: Starbucks






NEC Corporation เลื่อนตำแหน่งให้ Aalok Kumar รับบทบาทระดับโลก โดยการให้เป็นหัวหน้าธุรกิจเมืองอัจฉริยะระดับโลก เพิ่มเติมจากความรับผิดชอบในอินเดีย

Logo

ตอนนี้ Aalok Kumar เป็นเจ้าหน้าที่องค์กรและรองประธานอาวุโส หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจเมืองอัจฉริยะระดับโลก และประธานและซีอีโอของ NEC Corporation India Pvt. Ltd.

เขาจะเป็นแนวหน้าในธุรกิจเมืองอัจฉริยะระดับโลก และแผนระยะยาวของ NEC รวมถึงการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านเมืองอัจฉริยะระดับโลกในอินเดีย

เดลี อินเดีย–(BUSINESS WIRE)–22 กุมภาพันธ์ 2023

NEC Corporation India ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ NEC Corporation ได้ประกาศเลื่อนตำแหน่ง Mr. Aalok Kumar ประธานและซีอีโอของ NEC Corporation India ขึ้นเป็นเจ้าหน้าที่องค์กรและรองประธานอาวุโส หัวหน้าธุรกิจเมืองอัจฉริยะระดับโลก

Mr. Aalok Kumar, Corporate Officer & Sr VP - Head of the Global Smart City Business (Photo: Business Wire)

Mr. Aalok Kumar เจ้าหน้าที่องค์กรและรองประธานอาวุโส หัวหน้าธุรกิจ Global Smart City (ภาพ: Business Wire)

Aalok จะยังคงเป็นผู้นำธุรกิจในอินเดียและเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ของอินเดียสำหรับ NEC Group โดยรวม เขาจะยังคงร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนต่อไป ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ว่า “ในอินเดีย เพื่ออินเดีย” และ “จากอินเดีย เพื่อทั่วโลก” Aalok จะเข้ารับตำแหน่งใหม่ในฐานะเจ้าหน้าที่องค์กรและรองประธานอาวุโสและหัวหน้าธุรกิจเมืองอัจฉริยะระดับโลก ในฐานะส่วนหนึ่งของทีมบริหารองค์กรของ NEC เขาจะรับผิดชอบในการสร้างธุรกิจระดับโลก โดยใช้การเรียนรู้ที่ไม่เหมือนใครจากประสบการณ์ระดับโลกของเขา

Mr. Takayuki Morita ประธานและซีอีโอของ NEC Corporation กล่าวถึงการเลื่อนตำแหน่งนี้ว่า "หลังจากที่ Aalok ได้เป็นผู้นำในโครงการขนาดใหญ่ที่สุดของเราสำหรับทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชนในช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่ NEC Corporation India นั้น Aalok มีบทบาทสำคัญในการประสานความร่วมมือตำแหน่งของ NEC Corporation ในฐานะพันธมิตรการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่น่าเชื่อถือสำหรับรัฐบาลและองค์กรต่าง ๆ ของอินเดีย ตำแหน่งใหม่ของเขาในฐานะเจ้าหน้าที่องค์กรและสมาชิกฝ่ายบริหารของ NEC ที่เป็นผู้นำในอินเดีย แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความสำคัญของ NEC ที่มีต่ออินเดียในฐานะตลาด”

NEC ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างแนวดิ่งธุรกิจเมืองอัจฉริยะระดับโลกที่แข็งแกร่ง ซึ่งนำเสนอโดยผู้มีความสามารถจากทั่วโลกที่มีความรู้และประสบการณ์ทางเทคโนโลยีอย่างลึกซึ้ง อินเดียจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดรูปแบบนี้ โดยใช้ความเชี่ยวชาญของ Aalok ในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในอินเดีย และการเรียนรู้จากโครงการเมืองอัจฉริยะที่ดำเนินการในประเทศ ในระยะยาว เขาจะพยายามจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านเมืองอัจฉริยะระดับโลกในอินเดีย ซึ่งจะช่วยให้บริษัทบรรลุวิสัยทัศน์ในการพัฒนาโซลูชัน “จากอินเดีย เพื่อทั่วโลก” ได้อย่างรวดเร็ว

Aalok Kumar ศิษย์เก่าของ St. Stephens College, Delhi และ Indian Institute of Management, Ahmedabad นำประสบการณ์เกือบสามทศวรรษในบทบาทผู้นำระดับสูงมาใช้ในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ การปรับปรุงประสิทธิภาพ และการขยายอัตรากำไรขั้นต้น ก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานและซีอีโอของ NEC India ในปี 2020 เขาดำรงตำแหน่งรองประธานอาวุโสของ McKinsey & Company อีกทั้งเขายังทำงานในบริษัทต่าง ๆ เช่น GE Healthcare, GE Capital และ ABN Amro Bank

Aalok Kumar เจ้าหน้าที่องค์กรและรองประธานอาวุโส หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจเมืองอัจฉริยะระดับโลก และประธานและซีอีโอของ NEC Corporation India Pvt. Ltd. กล่าวว่า ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ผู้นำระดับโลกมอบโอกาสนี้ให้ผม ผมได้รับสิทธิพิเศษให้เป็นผู้นำทีมที่ยอดเยี่ยมในอินเดีย และด้วยความสามารถและการสนับสนุนที่ไม่มีใครเทียบได้ทำให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายที่สำคัญบางอย่างสำหรับ NEC Corporation India จนถึงตอนนี้ ผมตั้งตารอที่จะทำหน้าที่ความรับผิดชอบที่มาพร้อมกับบทบาทใหม่นี้ให้สำเร็จ และจะมุ่งมั่นพา NEC ไปสู่จุดสูงสุดด้วยการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับทีมงานทั้งหมด”

หน่วยธุรกิจต่าง ๆ และโครงสร้างการจัดการองค์กรได้รับการปรับปรุงและรวมเข้าด้วยกันในระดับโลก เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงองค์กรของ NEC Corporation เพื่อให้สอดคล้องกับ "วิสัยทัศน์ปี 2030 (2030VISION)" ของ NEC บริษัทตั้งเป้าที่จะเสริมสร้างการกำกับดูแลกิจการและเพิ่มความเร็วในการจัดการเพื่อกระตุ้นการเติบโตของเสาหลักทางธุรกิจทั่วโลก สิ่งนี้จะช่วยให้ NEC Corporation บรรลุแผนการจัดการระยะกลางปี ​​2025 และเพิ่มมูลค่าองค์กรระยะกลางถึงระยะยาวของ NEC ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก

เกี่ยวกับ NEC Corporation India (NEC India)

NEC เป็นผู้นำในการผสานรวมเทคโนโลยีไอทีและเครือข่าย และนำความเชี่ยวชาญเกือบ 125 ปี ในด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีมาให้บริการโซลูชันสำหรับการเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้คน ธุรกิจ และสังคม NEC มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น และเริ่มดำเนินการในอินเดียในทศวรรษที่ 1950 โดยเร่งการเติบโตผ่านการขยายธุรกิจไปยังตลาดโลก NEC ในอินเดียขยายธุรกิจจากโทรคมนาคมไปสู่ความปลอดภัยสาธารณะ ลอจิสติกส์ การขนส่ง การค้าปลีก การเงิน การสื่อสารแบบรวมศูนย์ และแพลตฟอร์มไอที โดยให้บริการทั่วทั้งรัฐบาล ธุรกิจ ตลอดจนบุคคลทั่วไป ด้วยศูนย์ความเป็นเลิศด้านโซลูชันแพลตฟอร์มการวิเคราะห์ ข้อมูลขนาดใหญ่ ไบโอเมตริก อุปกรณ์เคลื่อนที่และการค้าปลีกนั้น NEC ในอินเดียนำเสนอบริการและโซลูชันใหม่ที่เป็นนวัตกรรมสำหรับอินเดียและตลาดทั่วโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม: https://in.nec.com/

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53335907/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Arvind Saxena: arvind.saxena@india.nec.com

แหล่งที่มา: NEC Corporation India

Chunghwa Telecom เข้าร่วมกับ Vietnam Smart City Consortium (VSCC) ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง

Logo

ขยายโซลูชันเมืองอัจฉริยะในเวียดนาม

ไทเป ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–22 กุมภาพันธ์ 2023 

Chunghwa Telecom (CHT) และ VSCC ลงนาม MOU อย่างเป็นทางการในวันนี้ และประกาศให้ CHT กลายเป็นสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งรายใหม่ การร่วมมือกับ Chunghwa Telecom ถือเป็นก้าวใหม่ในการสร้างเมืองอัจฉริยะในเวียดนาม

CHT Join VSCC signed MOU, (L to R), H. L. Liu, CHT-I Assistant VP, Hồ Huỳnh Hưng, CEO, DQ Group, Alfonso Vegara, Founder and Honorary President, Fundacion Metropoli. (Photo: Business Wire)

CHT เข้าร่วมกับ VSCC ลงนาม MOU, (จากซ้ายไปขวา), H. L. Liu CHT-I ผู้ช่วยรองประธาน CHT-I, Hồ Huỳnh Hưng ซีอีโอของ DQ Group, Alfonso Vegara ผู้ก่อตั้งและประธานกิตติมศักดิ์ของ Fundacion Metropoli (ภาพ: Business Wire)

ปัจจุบัน แนวคิดเกี่ยวกับเมืองอัจฉริยะของเวียดนามยังไม่ได้รับการกำหนดมาตรฐาน ด้วยเหตุนี้ CHTCityOS ที่เป็นแพลตฟอร์มการกำกับดูแลอัจฉริยะที่พัฒนาโดย Chunghwa Telecom จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยมี API มาตรฐานที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบใดก็ได้และรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ในแพลตฟอร์มเดียว CHTCityOS ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบทุกมุมเมืองได้ตลอดเวลา ด้วยคุณสมบัติทริกเกอร์เหตุการณ์และฟังก์ชันการวิเคราะห์ AI แล้ว ทำให้ไม่เพียงแต่สามารถส่งเหตุการณ์การเตือนภัยต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์ แต่ยังสามารถเปิดใช้งานอุปกรณ์หรือโปรแกรมโดยอัตโนมัติเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยในเมืองและเอฟเฟกต์การประหยัดพลังงานอัจฉริยะ สามารถให้ความช่วยเหลือด้านนโยบายที่ถูกต้องที่สุดแก่ผู้บริหารเมือง ซี่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในโซลูชันอัจฉริยะที่จำเป็นที่สุดสำหรับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในเวียดนาม

Vietnam Smart City Consortium ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกโดยมีบริษัทก่อตั้ง 2 บริษัท คือ Fundacion Metropoli และ Dien Quang บริษัท Fundación Metropoli เป็นบริษัทฐานในยุโรปที่มีประสบการณ์ในการสร้างระบบนิเวศระดับภูมิภาคสำหรับเมือง ภูมิทัศน์เมือง และสถาปัตยกรรม ส่วนบริษัท Dien Quang เป็นบริษัทที่วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีอัจฉริยะ และโซลูชันต่าง ๆ ที่ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในหลายสาขา เมื่อทำงานร่วมกับ Chunghwa Telecom ซึ่งเป็นผู้นำด้านบริการโทรคมนาคมระดับ Tier 1 ของไต้หวัน ทำให้ VSCC สามารถใช้ประโยชน์จากประสบการณ์การใช้งานแอปพลิเคชันที่ดีที่สุดของ Chunghwa บนโครงสร้างพื้นฐาน อินเทอร์เน็ต และบริการอัจฉริยะ 5G ซึ่งสามารถช่วยเวียดนามในการยกระดับเทคโนโลยีโทรคมนาคมสมัยใหม่ได้ นอกเหนือจากการให้บริการโซลูชันอัจฉริยะ 5G ล่าสุดแล้ว Chunghwa Telecom ยังสามารถจัดหาโซลูชันโดยรวมสำหรับการเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อ การจัดการที่มีประสิทธิภาพ และการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ได้ ซึ่งคาดว่าสมาชิกผู้ก่อตั้งทั้งสามบริษัทจะนำคุณูปการมากมายมาสู่เมืองต่าง ๆ ของเวียดนาม

Chunghwa Telecom กล่าวว่า คาดว่าการเข้าร่วม VSCC จะขยายขอบเขตความร่วมมือกับพันธมิตรจากประเทศต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสบการณ์อันมีค่าในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในไต้หวันได้ขยายไปยังเวียดนาม ด้วยความช่วยเหลือจากประสบการณ์ของ VSCC ในการออกแบบสถาปัตยกรรมและโซลูชันอัจฉริยะของเวียดนาม รวมถึง Chunghwa Telecom เพื่อพัฒนาโอกาสเพิ่มเติมในเวียดนามและเดินหน้าสร้างการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของเวียดนามต่อไป

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53335958/en

ติดต่อ

Angela Tsai
chofen@cht.com.tw

แหล่งที่มา: Chunghwa Telecom

นักวิจัยของ NTHU พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการถ่ายภาพอิเล็กตรอน

Logo

ซินจู๋ ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–22 กุมภาพันธ์ 2023

ทีมวิจัยที่ National Tsing Hua University (NTHU) ในไต้หวันได้จับภาพชั่วขณะหนึ่งในโลกนาโนด้วยการผลิตคลื่นอัลตราไวโอเลตที่รุนแรงในระดับอัตโตวินาที แหล่งกำเนิดแสงนี้เปรียบเสมือนกล้องนาโนที่ใช้จับภาพวัตถุขนาด 5 นาโนเมตรที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงมาก เช่น อิเล็กตรอน เทคโนโลยีนี้คาดว่าจะพัฒนาการออกแบบทรานซิสเตอร์และชิปหน่วยความจำรุ่นต่อไปด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างมากสำหรับคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร

Members of the NTHU research team (right to left): Ming-Chang Chen, Po-Wei Lai, Ming-Shian Tsai, An-Yuan Liang, and Ming-Wei Lin. (Photo: National Tsing Hua University)

สมาชิกของทีมวิจัย NTHU (ขวาไปซ้าย): Ming-Chang Chen, Po-Wei Lai, Ming-Shian Tsai, An-Yuan Liang และ Ming-Wei Lin (ภาพ: National Tsing Hua University)

นำโดยรองศาสตราจารย์ Ming-Chang Chen จากภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าและรองศาสตราจารย์ Ming-Wei Lin จากสถาบันวิศวกรรมนิวเคลียร์และวิทยาศาสตร์ เป็นครั้งแรกในโลกที่พัฒนาเทคโนโลยีการบีบอัดพัลส์ประสิทธิภาพสูงสำหรับการบีบอัดเลเซอร์เจืออิตเทอร์เบียมถึง 3,000 อัตโตวินาที เมื่อแหล่งกำเนิดแสงนี้ถูกโฟกัสไปที่ก๊าซเฉื่อย มันจะสร้างพัลส์รังสีอัลตราไวโอเลตมากด้วยระยะเวลาเพียง 290 อัตโตวินาที สิทธิบัตรสำหรับเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมนี้ได้รับการนำไปใช้ในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และไต้หวัน และงานวิจัยของทีมได้รับการตีพิมพ์โดยวารสาร Science Advances ชั้นนำ

อิเล็กตรอนมีขนาดเล็กมากและเคลื่อนที่ได้เร็ว ดังนั้นการถ่ายภาพจึงมีความท้าทายอย่างมาก Chen อธิบายว่ามันคล้ายกับการใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงในการถ่ายภาพนกฮัมมิงเบิร์ดที่กำลังบินและปีกสั่นไหวอย่างชัดเจน ดังนั้น เนื่องจากอิเล็กตรอนเคลื่อนที่เร็วมาก การถ่ายภาพอิเล็กตรอนเหล่านั้นจึงต้องใช้กล้องที่มีความละเอียดสูงเพื่อจับภาพการเคลื่อนไหวที่เร็วมาก และต้องใช้ความละเอียดเชิงพื้นที่สูงเพื่อจับภาพวัตถุขนาดเล็กเหล่านี้

Chen ยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาแหล่งกำเนิดแสงที่มีความยาวคลื่นสั้นเพื่อปรับปรุงความละเอียดเชิงพื้นที่ในการวัด สำหรับแสงที่มองเห็น คลื่นขนาด 400 นาโนเมตรจะให้ความละเอียดเชิงพื้นที่ที่ประมาณ 400 นาโนเมตร ในทางตรงกันข้าม สามารถรับความละเอียดเชิงพื้นที่ได้ดีขึ้นมากถึง 10 นาโนเมตร โดยใช้แสงอัลตราไวโอเลตสูงขนาด 10 นาโนเมตรที่สร้างขึ้นในงานนี้ ในขณะเดียวกัน ด้วยระยะเวลา 290 อัตโตวินาที พัลส์ของเราทำให้ได้ความเร็วชัตเตอร์ที่เร็วเป็นพิเศษสำหรับการวัดค่า

ด้วยเป้าหมายที่จะทำให้ระยะเวลาของพัลส์ลดลงอย่างมาก ทีมงานจึงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยี "การขยายสเปกตรัมและการบีบอัดพัลส์" โดยขั้นแรกให้กระตุ้นคลื่นแสงที่มีความถี่ต่างกันในอวกาศให้มากขึ้น จากนั้นจึงปรับตำแหน่งจุดสูงสุดของคลื่นใหม่เหล่านี้ให้ซ้อนทับกัน การทำขั้นตอนการขยายสเปกตรัมและการบีบอัดซ้ำ ๆ นี้สามารถลดระยะเวลาของพัลส์และเพิ่มจุดพีคของพัลส์ได้ ด้วยเทคโนโลยีนี้ ระยะเวลาของพัลส์สามารถบีบอัดได้ตั้งแต่ 160,000 อัตโตวินาที ถึง 290 อัตโตวินาที ด้วยอัตราส่วนการบีบอัดที่โดดเด่นที่ 550

Chen กล่าวว่า ความเร็วที่เร็วที่สุดของกล้องทั่วไปคือประมาณหนึ่งในพันของวินาที แต่เวลาชัตเตอร์สำหรับกล้องระดับอัตโตวินาทีนั้นเร็วกว่าถึงสิบล้านล้านเท่า ทำให้สามารถถ่ายภาพอิเล็กตรอนที่เคลื่อนที่เร็วได้ การใช้งานในอนาคตของเทคโนโลยีนี้มีส่วนประกอบระดับนาโนของเซมิคอนดักเตอร์และเซ็นเซอร์ที่มีความแม่นยำ ซึ่งต้องใช้แหล่งกำเนิดแสงในระดับอัตโตวินาทีเพื่อวิเคราะห์ไดนามิกของอุปกรณ์นาโน

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53333239/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Holly Hsueh NTHU
(886)3-5162006
hoyu@mx.nthu.edu.tw

แหล่งที่มา: National Tsing Hua University

Wemade อัปเดตจัตุรัสเวทย์มนต์ และยอดเขาลับแลชั้นสูงสุดใน MIR4 แล้ว

Logo

  • มอบรางวัลมากมายเพื่อการเติบโตของผู้เล่นที่ปฏิบัติภารกิจบนชั้นสูงสุด ของจัตุรัสเวทย์มนต์และยอดเขาลับแล
  • เปิดตัว ‘เซทราแห่งแสงสว่าง’ ภูติพิทักษ์หัวหน้าปาร์ตี้ตัวใหม่ ช่วยเพิ่มการป้องกันทางกายภาพและพลังป้องกันเวทได้เป็นอย่างมาก
  • ระบบการชำระเงิน WEMIX$ ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาตลาด

กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)— Wemade ได้อัปเดตบล็อกบัสเตอร์ของ MMORPG MIR4 เพื่อขยายชั้นสูงสุดของจัตุรัสเวทย์มนต์และยอดเขาลับแล ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2023

มอนสเตอร์อันทรงพลังที่เกิดบนชั้น 9 ที่เพิ่มเข้ามาใหม่จะช่วยให้ผู้เล่นระดับสูงมีโอกาสได้รับ EXP จำนวนมาก ผู้เล่นสามารถออกสำรวจเพื่อเข้าร่วมในภารกิจต่าง ๆ เพื่อรับรางวัลที่ช่วยในการเติบโตของผู้เล่น เช่น “ศิลาเสริมพลังแห่งความมืดระดับตำนาน” “โสมหิมะในมหากาพย์” และอื่น ๆ อีกมากมาย

The highest floors for Magic Square and Secret Peak were updated in MIR 4 (Graphic: Wemade)

จัตุรัสเวทย์มนต์และยอดเขาลับแลชั้นสูงสุดได้อัปเดตใน MIR4 แล้ว (กราฟิก: Wemade)

MIR4 เปิดตัวภูติพิทักษ์หัวหน้าปาร์ตี้ใหม่ “เซทราแห่งแสงสว่าง” “เซทราแห่งแสงสว่าง” เป็นภูติแห่งแสงในตำนานที่มีเอฟเฟกต์พิเศษที่ช่วยเพิ่มการป้องกันทางกายภาพ ผู้เล่นที่อัญเชิญภูติตนนี้สามารถแบ่งปันทักษะหัวหน้าปาร์ตี้กับสมาชิกปาร์ตี้ที่อยู่ใกล้กัน ซึ่งการป้องกันทางกายภาพและพลังป้องกันเวทย์ของปาร์ตี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

ในขณะเดียวกัน “กิจกรรมชวนใจเต้นของความรักที่หวานเจี๊ยบ” จะจัดขึ้นจนถึงวันที่ 6 มีนาคม 2023 ผู้เล่นสามารถรับรางวัลต่าง ๆ เช่น “ศิลาเสริมพลังแห่งมังกรศักดิ์สิทธิ์อีปิค” “รูปปั้นมังกรฟ้าตำนาน” และอื่น ๆ อีกมากมาย ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เข้าร่วม “กิจกรรมเช็กชื่อ 14 วันแห่งความหวานเจี๊ยบ”

นอกจากนี้ MIR4 ได้เปลี่ยนวิธีการชำระเงินจาก HYDRA เป็น WEMIX$ ผู้เล่นสามารถแลกเปลี่ยนยอดคงเหลือใน HYDRA หรือ WEMIX$ เป็น pWEMIX$ เพื่อซื้อสินค้าต่าง ๆ เช่น ภารกิจเลื่อนระดับ และอื่น ๆ ในร้านค้าในเกม WEMIX$ ที่เปิดตัวขึ้นมาใหม่ จะยังคงรักษามูลค่าของสินค้าจำนวนมากเอาไว้ แม้ว่าจะมีความผันผวนของราคาตลาดของโทเค็นเกมก็ตาม ทั้งนี้ ระบบการชำระเงิน WEMIX$ ให้บริการเฉพาะเวอร์ชันพีซีเท่านั้น

จากการต่อสู้ของข้า สู่สงครามของพวกเรา ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับ MIR4 ได้ที่ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53330302/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Wemade Co., Ltd. (112040: KOSDAQ)
Jennifer Jung เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์
jennifer@wemade.com

แหล่งที่มา: Wemade Co., Ltd.

Medidata เปิดตัวทีมผู้นำระดับอาวุโสเพื่อต่อยอดการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัลให้วงการชีววิทยาศาสตร์ด้วยโซลูชันแบบครบวงจรที่ไม่มีใครเทียบ

Logo

คุณ Pascal Daloz ได้รับตำแหน่งเป็น CEO และคุณ Michael Pray ได้รับตำแหน่งเป็น COO ของ Medidata

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–21 กุมภาพันธ์ 2023

วันนี้ Medidata ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Dassault Systèmes ได้ประกาศโครงสร้างความเป็นผู้นำรูปแบบใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเดินหน้าภารกิจของบริษัทในการพัฒนาโซลูชันแบบครบวงจรที่ช่วยยกระดับการรักษาให้ชาญฉลาดยิ่งขึ้นและช่วยให้ผู้คนมีสุขภาพดีขึ้น โดยการพัฒนาเชิงกลยุทธ์เช่นนี้เปิดโอกาสให้สามารถต่อยอดเป้าหมายและการเติบโตในระยะยาว เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากสายผลิตภัณฑ์ของ Dassault Systèmes ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยยกระดับการพัฒนายาขึ้นไปอีกระดับในท้ายที่สุด

คุณ Pascal Daloz ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้มากความสามารถของ Dassault Systèmes ได้เข้าดำรงตำแหน่งเป็น CEO ของ Medidata โดยคุณ Daloz มีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เข้าซื้อกิจการ Medidata ได้สำเร็จเมื่อปี 2019 โดยความสามารถในการเป็นผู้นำธุรกิจและวิสัยทัศน์อันยอดเยี่ยมของเขาจะเข้ามาช่วยเสริม Medidata ได้เป็นอย่างดี

ส่วนคุณ Michael Pray ได้รับแต่งตั้งเป็น COO ของบริษัทดังกล่าว โดยก่อนจะเข้ามารับตำแหน่งนี้ให้กับ Medidata เขาเคยเป็นบุคลากรคนสำคัญที่ช่วยให้บริษัทเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงการเพิ่มรายได้รวมขึ้น 2 เท่าเป็นจำนวนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา โดยคุณ Pray จะเข้ามาดูแลการปฏิบัติงานในแต่ละวันของ Medidata และจะร่วมงานกับคุณ Daloz อย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างชุดโซลูชันที่ครบครันสำหรับวงการชีววิทยาศาสตร์ในวงกว้าง

คุณ Pascal Daloz  ซึ่งเป็น CEO ของ Medidata กล่าวว่า “ลูกค้าคาดหวังให้ Medidata ตอบโจทย์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น และเราก็คอยพัฒนาตัวเองให้สอดรับกับความต้องการด้านการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัลของลูกค้า” ก่อนกล่าวต่อไปว่า “เราจะคิดค้นโซลูชันใหม่ ๆ ที่ไม่มีใครเทียบได้สำหรับงานชีววิทยาศาสตร์ในทุก ๆ ด้านอย่างไม่หยุดยั้งโดยต่อยอดจากรากฐานที่มั่นคงมากว่า 20 ปี เรายังมุ่งมั่นทุ่มเทให้กับวงการนี้ และจะไม่หยุดทุ่มเทเพื่อให้วิสัยทัศน์ของเราเกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะเป็นการป้องกัน การรักษาอย่างตรงจุด การค้นพบ ไปจนถึงการจัดจำหน่าย เพื่อให้เราได้เป็นศูนย์กลางในทุก ๆ ขั้นตอนของการดูแลรักษาผู้ป่วย”

Medidata เป็นบริษัทย่อยที่ Dassault Systèmes ได้เข้าซื้อกิจการทั้งหมดแล้ว โดยแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE ของ Medidata มีส่วนช่วยอย่างมากในการปรับเปลี่ยนงานชีววิทยาศาสตร์ให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลในยุคปัจจุบันที่การรักษาแบบเฉพาะบุคคลกำลังเป็นที่นิยม โดยให้บริการแพลตฟอร์มด้านวิทยาศาสตร์และธุรกิจแบบครบวงจรที่ครอบคลุมตั้งแต่การวิจัยไปจนถึงการจำหน่าย

เกี่ยวกับ Medidata

Medidata เป็นผู้นำในการเปลี่ยนงานชีววิทยาศาสตร์ให้เป็นระบบดิจิทัล ช่วยให้ผู้ป่วยหลายล้านรายเกิดความหวัง โดย Medidata ช่วยสร้างข้อมูลหลักฐานและข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ เพื่อช่วยเร่งประโยชน์ ลดความเสี่ยง และยกระดับผลลัพธ์ให้กับบริษัทด้านเภสัชกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และการวินิจฉัย ตลอดจนนักวิจัยทางวิชาการต่าง ๆ ทั้งนี้ แพลตฟอร์มที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในโลกของบริษัทมีผู้ใช้ที่ลงทะเบียนมากกว่า 1 ล้านรายจากลูกค้าและพาร์ทเนอร์กว่า 2,100 ราย ซึ่งเข้าใช้เพื่อรับข้อมูลการพัฒนาทางคลินิก การจำหน่าย และข้อมูลที่การใช้งานที่เกิดขึ้นจริง Medidata ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Dassault Systèmes (Euronext Paris: FR0014003TT8, DSY.PA), มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นิวยอร์กซิตี และมีสำนักงานตั้งอยู่ทั่วโลกเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.medidata.com และติดตามเราที่ @Medidata

เกี่ยวกับ Dassault Systèmes

Dassault Systèmes ซึ่งเป็นบริษัท 3DEXPERIENCE เป็นบริษัทที่มุ่งพัฒนาด้านบุคลากร เราช่วยให้ธุรกิจและผู้คนมีสภาพแวดล้อมเสมือนจริงแบบ 3 มิติเพื่อร่วมกันรังสรรค์นวัตกรรมที่ยั่งยืน เมื่อมีแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน 3DEXPERIENCE แบบเสมือนจริงที่ใกล้เคียงความเป็นจริง ลูกค้าของเราจึงสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดในการคิดค้นนวัตกรรม การเรียนรู้ และการผลิต เพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นให้แก่ผู้ป่วย ผู้คน และผู้บริโภค ในปัจจุบัน Dassault Systèmes มีลูกค้ามากกว่า 300,000 ในทุกขนาดและวงการในกว่า 140 ประเทศ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.3ds.com

3DEXPERIENCE, ไอคอนรูปเข็มทิศ, ไอคอน 3D, CATIA, BIOVIA, GEOVIA, SOLIDWORKS, 3DVIA, ENOVIA, NETVIBES, MEDIDATA, CENTRIC PLM, 3DEXCITE, SIMULIA, DELMIA และ IFWE เป็นเครื่องหมายการค้าเชิงพาณิชย์หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Dassault Systèmes หรือภาษาฝรั่งเศสคือ “société européenne” (การจดทะเบียนพาณิชย์ Versailles # B 322 306 440) หรือบริษัทย่อยในเครื่องในสหรัฐอเมริกาและ/หรือประเทศอื่น ๆ

ผู้ติดต่อ

Tom Paolella
Senior Director, Corporate Communications & Affairs
+1-848-203-7596
thomas.paolella@3ds.com

Paul Oestreicher
External Communications Director
+1-917-522-4692
paul.oestreicher@3ds.com

แหล่งที่มา: Medidata

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Education New Zealand เปิดทุนการศึกษา Manaaki New Zealand ประจำปี 2023 สำหรับการศึกษาระดับสูงกว่าปริญญาตรี

Logo

นักเรียนจากประเทศที่มีสิทธิ์ในแปซิฟิก เอเชีย ลาตินอเมริกา แอฟริกา และแคริบเบียนสามารถสมัครได้

เวลลิงตัน นิวซีแลนด์–(BUSINESS WIRE)–21 กุมภาพันธ์ 2023

Education New Zealand มีความยินดีที่จะประกาศว่าทุน Manaaki New Zealand เปิดรับสมัครแล้ว รอบคัดเลือกปี 2023 เป็นรอบแรกของทุนการศึกษานับตั้งแต่เกิดโรคระบาด

ภายใต้การดูแลของกระทรวงการต่างประเทศและการค้าของนิวซีแลนด์ ทุนการศึกษานี้เป็นเสาหลักของความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของนิวซีแลนด์ โดยมอบทุนการศึกษามากกว่า 1,100 ทุนต่อปีให้กับนักเรียนจาก 112 ประเทศที่มีสิทธิ์เข้าศึกษาในนิวซีแลนด์และแปซิฟิก

ในรอบปี 2023 นิวซีแลนด์เสนอทุนการศึกษาระดับอนุปริญญาโท ปริญญาโท และปริญญาเอก สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในสาขาที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศของตน

ทุนการศึกษานี้เปิดให้สำหรับนักเรียนที่สนใจการศึกษาระดับอุดมศึกษาในนิวซีแลนด์ในปี 2024 นักเรียนจากประเทศที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในแปซิฟิก เอเชีย ละตินอเมริกา แอฟริกา และแคริบเบียนสามารถสมัครเพื่อขอรับทุนการศึกษาได้ในหลากหลายโปรแกรม

ประเด็นสำคัญสำหรับรอบคัดเลือกปี 2023 ได้แก่ โปรแกรมการศึกษาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม การจัดการภัยพิบัติ ความมั่นคงด้านอาหารและการเกษตร พลังงานทดแทน ธรรมาภิบาล และการสอนภาษาอังกฤษ (TESOL) ผู้สมัครที่เลือกหนึ่งในวิชาที่ได้รับอนุมัติสำหรับการศึกษาจะได้รับสิทธิพิเศษก่อน

Julia Moore ผู้จัดการทุนการศึกษา Manaaki ของนิวซีแลนด์กล่าวว่าทุนการศึกษา Manaaki New Zealand เป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการพัฒนาของรัฐบาลนิวซีแลนด์เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรือง ความมั่นคง และการเติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศคู่ค้าของเรา

“สถาบันระดับอุดมศึกษาของนิวซีแลนด์เสนอคุณวุฒิการศึกษาคุณภาพสูงในสาขาต่าง ๆ เช่น การจัดการภัยพิบัติ ธรณีวิทยา วิศวกรรมโยธา และสิ่งแวดล้อม

“ฉันสนับสนุนให้ผู้สมัครที่มีศักยภาพทั้งหมดสมัครเพื่อรับทุนรอบปี 2023” Moore กล่าว

ทุนการศึกษา Manaaki New Zealand เป็นตัวแทนของการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดเพียงครั้งเดียวของรัฐบาลนิวซีแลนด์ในทุนการศึกษานานาชาติและได้รับรางวัลมากว่า 70 ปี

การสมัครทางออนไลน์สำหรับทุนการศึกษา Manaaki New Zealand ประจำปี 2023 เพื่อดำเนินการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาในนิวซีแลนด์เปิดรับสมัครแล้ว และจะปิดในเที่ยงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2023 (เวลานิวซีแลนด์)

สำหรับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับทุนการศึกษาของ Manaaki New Zealand รวมถึงคุณสมบัติและขั้นตอนการสมัคร โปรดไปที่หน้าเว็บทุนการศึกษาของ Manaaki New Zealand

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Education New Zealand

manaaki@enz.govt.nz

แหล่งที่มา: Education New Zealand

Telford Offshore ประกาศเสร็จสิ้นกระบวนการขายและการเข้าซื้อกิจการโดย Merced Capital

Logo

Robert Duncan ได้แต่งตั้ง CEO เพื่อเป็นผู้นำตำนานบทถัดไปของการเติบโต

ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–20 กุมภาพันธ์ 2023

Telford Offshore Group (“Telford Offshore” หรือ “บริษัท”) ประกาศในวันนี้ว่า หน่วยงานในเครือของ Merced Capital ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัทแล้ว การซื้อกิจการแสดงถึงการเสร็จสิ้นกระบวนการขายที่มีการแข่งขันซึ่งประกาศไว้ก่อนหน้านี้ (“กระบวนการขาย”) โดยปัจจุบัน เจ้าของ Telford Offshore ก็คือ Merced Capital

ในส่วนหนึ่งของธุรกรรมนี้ Merced Capital ซึ่งได้รับคำแนะนำจาก Sidley Austin ได้เพิ่มเงินทุนใหม่ในบริษัทเพื่อรองรับบทต่อไปของการเติบโตและปรับปรุงงบดุล โดยลดสถานะหนี้สินสุทธิเป็นศูนย์หลังการทำธุรกรรม ด้วยการสนับสนุนของผู้สนับสนุนทางการเงินและสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก Telford Offshore จะอยู่ในสถานะที่ดีที่จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวที่กำลังดำเนินอยู่ในอุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลกและความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับบริการนอกชายฝั่ง

Telford Offshore ยังประกาศว่า Robert Duncan ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของบริษัท Mr. Duncan จะเข้ารับหน้าที่โดยมีผลทันที โดยรับตำแหน่งต่อจาก Fraser Moore ผู้บริหารที่น่าเคารพซึ่งมีประสบการณ์กว่าสองทศวรรษในการเป็นผู้นำทีมระดับโลกในอุตสาหกรรมพลังงานนอกชายฝั่งและอุตสาหกรรมทางทะเล Mr. Duncan เคยดำรงตำแหน่งผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Capital Strategies International และก่อนหน้านั้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Seafox International

Joe McElroy หุ้นส่วนของ Merced Capital กล่าวว่า "เราเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินหลักของ Telford Offshore ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท และตั้งตารอที่จะสนับสนุนทีมต่อไปในบทใหม่ของประวัติศาสตร์องค์กรนี้ เราขอขอบคุณ Fraser สำหรับรากฐานที่แข็งแกร่งที่เขาสร้างขึ้นที่ Telford และการสนับสนุนของเขาในช่วงการเปลี่ยนผ่านนี้ เมื่อมองไปข้างหน้า เรามั่นใจว่า Robert จะเป็นผู้นำในอุดมคติในการพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์มของบริษัท และใช้ประโยชน์จากโอกาสในการเติบโตในตลาดบริการนอกชายฝั่ง”

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับ Telford Offshore ในช่วงเวลาสำคัญของบริษัทและในช่วงเวลาที่สำคัญในอุตสาหกรรมของเรา ซึ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นของสิ่งที่เราคาดว่าจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังจากหลายปีที่ท้าทาย” กล่าวโดย Robert Duncan ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Telford Offshore “ภายใต้การเป็นเจ้าของคนใหม่และงบดุลที่คล่องตัว Telford พร้อมที่จะสร้างตัวเองให้เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมต่อไป”

ความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ Telford Offshore ที่มีต่อลูกค้า ผู้ขาย และพนักงานจะไม่ได้รับผลกระทบ และการดำเนินงานในปัจจุบันจะยังคงดำเนินต่อไปตามปกติ ปัจจุบัน Telford Offshore มีสินทรัพย์ 5 รายการ ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้สัญญาเพื่อทำงานร่วมกับคู่ค้าที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงบริษัทน้ำมันแห่งชาติ (NOCs) และบริษัทน้ำมันระหว่างประเทศ (IOCs) ดังนี้

– Telford 25 พร้อมเครนขนาด 800 ตัน สามารถวางท่อแบบแข็งได้ พื้นที่ดาดฟ้า 1,500 ตร.ม. และท่าเทียบเรือ 379 ท่า

– Telford 28 พร้อมเครนขนาด 270 ตัน พื้นที่ดาดฟ้า 1,500 ตร.ม. และท่าเทียบเรือ 462 ท่า

– Telford 30 พร้อมเครนขนาด 270 ตัน สามารถวางท่อแบบแข็งได้ พื้นที่ดาดฟ้า 300 ตร.ม. และท่าเทียบเรือ 480 ท่า

– Telford 31 พร้อมเครนขนาด 400 ตัน พื้นที่ดาดฟ้า 1,300 ตร.ม. และท่าเทียบเรือ 477 ท่า

– Telford 34 พร้อมเครนขนาด 800 ตัน ระบบท่อแบบแข็ง พื้นที่ดาดฟ้า 1,350 ตร.ม. และท่าเทียบเรือ 339 ท่า

ชีวประวัติของ Robert Duncan

Mr. Duncan ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหลายตำแหน่งในองค์กรต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลกในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา เขาประจำอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ตลอด 17 ปีที่ผ่านมา เมื่อเร็ว ๆ นี้ Mr. Duncan ได้ก่อตั้งและเป็นผู้นำในบริษัท Capital Strategies International Limited (CSIL) ที่ให้บริการคุณภาพสูงระดับมืออาชีพแก่บริษัทพลังงานนอกชายฝั่งและภาคส่วนทางทะเล ตลอดจนสถาบันการเงิน ก่อนหน้านั้น Mr. Duncan มีบทบาทที่หลากหลาย ได้แก่ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินที่ Seafox International ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านพลังงานและการเดินเรือนอกชายฝั่งระหว่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2017 โดยปัจจุบัน Mr. Duncan ยังดำรงตำแหน่งกรรมการที่ไม่ได้เป็นผู้บริหารและสมาชิกคณะกรรมการของ Advance Global Recruitment ซึ่งเป็นธุรกิจจัดหางานตามสัญญาและโซลูชันถาวรชั้นนำที่ให้บริการภาคส่วนพลังงานนอกชายฝั่งทั่วโลก และเป็นตัวแทนพิเศษในตะวันออกกลางสำหรับ Van Aalst Group B.V. อีกทั้ง Mr. Duncan ยังเป็นสมาชิกที่มีคุณสมบัติของ Institute of Chartered Accountants of Scotland (ICAS) และ Chartered Institute of Public Finance and Accountancy (CPFA) อีกด้วย

เกี่ยวกับ Telford Offshore

กองเรือของ Telford Offshore ประกอบด้วยเรือที่ทันสมัย ​​5 ลำ ได้แก่ Telford 25, Telford 28, Telford 30, Telford 31 และ Telford 34 ความสามารถ DP3 และระบบการเดินไปยังที่ทำงานแบบถาวร (walk-to-work system) ช่วยให้ได้รับประโยชน์จากอัตราการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและสูงมากไปยังการติดตั้งการผลิตแบบประจำที่และแบบเคลื่อนที่ ซึ่งช่วยลดเวลาหยุดทำงานขณะอยู่บนสถานี ความสามารถอเนกประสงค์เหล่านี้ทำให้มั่นใจได้ว่าเรือลำเดียวสามารถปฏิบัติการได้หลากหลาย เรือแต่ละลำสามารถให้บริการที่พัก บริการยกของหนักใต้ทะเลและด้านบน วางท่อแข็งและยืดหยุ่นได้ และดำเนินการก่อสร้างใต้ทะเล Telford Offshore สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของลูกค้าและทำงานในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายที่สุด โดยมอบการเข้าถึงที่ปลอดภัยและการสนับสนุนของไซต์งานนอกชายฝั่ง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ www.telfordoffshore.com

เกี่ยวกับ Merced Capital

Merced Capital เป็นบริษัทการลงทุนเอกชนที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1988 และตั้งอยู่ในเมืองมินนิอาโปลิส รัฐมินนิโซตา เป็นบริษัทจัดการเงินทุนในนามของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งรวมถึงเงินบริจาคชั้นนำ กองทุนบำเหน็จบำนาญ และสำนักงานครอบครัว โดยมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมพลังงาน การเดินเรือ และการบริการนอกชายฝั่งทั่วโลก

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม:
FGS Global
อีเมล: merced@fgsglobal.com
หรือ
Telford Offshore
อีเมล: contact@telfordoffshore.com

แหล่งที่มา: Telford Offshore

ความเป็นอยู่ที่ดี ความสนิทสนมกลมเกลียว และผลกระทบต่อชุมชนเป็นจุดศูนย์กลางที่ J.P. Morgan Run

Logo

พนักงาน 23,000 คนวิ่งด้วยกันทั่วมุมไบ เบงกาลูรู ไฮเดอราบัด และปูเน่ ในกิจกรรมองค์กรปลอดขยะ

มุมไบ ไฮเดอราบัด เบงกาลูรู และปูเน่ ในอินเดีย–(BUSINESS WIRE)— ก่อนหน้านี้ JPMorgan Chase (NYSE:JPM) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการเริ่มดำเนินการโดยองค์กรเป็นครั้งแรกในรอบสองปี กิจกรรมนี้เพิ่มความสนิทสนมกลมเกลียว ช่วยสร้างวัฒนธรรมของการรวมเป็นหนึ่งและการเป็นเจ้าของ และนำพนักงานมารวมกันเพื่อตอบแทนชุมชนท้องถิ่น พนักงาน 23,000 คนทั่วทั้งเมืองมุมไบ เบงกาลูรู ไฮเดอราบัด และปูเน่ เข้าร่วมกิจกรรมลดขยะ (Zero-Waste) นี้

ในวันครบรอบ 10 ปีนั้น 2023 J.P. Morgan Run เป็นหนึ่งในงานวิ่งขององค์กรที่ใหญ่ที่สุดในอินเดียจนถึงปัจจุบัน นอกจากการระดมทุนเพื่อสวัสดิภาพและการศึกษาของเด็กแล้ว การวิ่งยังเป็นกิจกรรมที่ปลอดขยะ ซึ่งหมายความว่าขยะน้อยกว่า 10% ที่เกิดขึ้นระหว่างงานจะจบลงด้วยการเป็นขยะฝังกลบ งานนี้อนุญาตให้ผู้เข้าร่วมเลือกระหว่างการแข่งขัน 5K หรือ 10K และเสนอหมวดหมู่เพิ่มเติมที่พบได้ไม่บ่อยในสถานที่แบบนี้ อย่างการแข่งขันอายุ 50 ปีขึ้นไปและเพศที่ไม่ใช่ไบนารี ซึ่งนำไปสู่การปฏิบัติแบบไม่แบ่งแยก

Deepak Mangla ซีอีโอของ JPMorgan Chase Corporate Centers ในอินเดียและฟิลิปปินส์ กล่าวว่า “J.P. Morgan Run เป็นงานสำคัญสำหรับพนักงานแฟรนไชส์ในอินเดียของเรา เป็นการเฉลิมฉลองประจำปีเพื่อเพิ่มความสนิทสนมกลมเกลียว เป็นเวลาให้ได้ออกกำลังกาย และเป็นโอกาสในการแสดงการสนับสนุนของเราต่อความพยายามเพื่อการกุศลของบริษัทในการสนับสนุนการศึกษาและสวัสดิการของเด็ก”

ธีมในปีนี้คือ “Run Together” ได้รับเลือกโดยตั้งใจให้รวมพนักงานทุกระดับทักษะ ตั้งแต่นักวิ่งมือใหม่ไปจนถึงนักวิ่งผู้เชี่ยวชาญ โดยไม่คำนึงถึงอายุและเพศ ในบรรดานักวิ่งหลายพันคน มีนักวิ่งทั้งมือใหม่และผู้มีประสบการณ์ที่เคยวิ่งอัลตรามาราธอนมาแล้ว

งานนี้ยังเป็นเวทีสำหรับเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ระหว่างกันและกันกับพนักงานที่ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนกิจกรรมที่ตรงกับใจของพวกเขาด้วยธีมที่จัดแสดงซึ่งครอบคลุมความพิการ LGBTQ+ ทหารผ่านศึก สตรีและการอยู่ร่วมกันระหว่างรุ่น ความยั่งยืน ความเป็นอยู่ที่ดี ความสนิทสนมกลมเกลียว และผลกระทบต่อชุมชน

การวิ่งครั้งนี้จะสนับสนุนการศึกษาและสวัสดิการของเด็กผ่าน United Way Mumbai ที่เป็นพันธมิตรระยะยาว นอกจากนี้ยังจะสนับสนุนสวัสดิภาพสัตว์ร่วมกับ YODA, CARE และ People for Animals

เกี่ยวกับ JPMORGAN CHASE ในอินเดีย

JPMorgan Chase & Co. หนึ่งในสถาบันการเงินที่เก่าแก่ที่สุดในโลก นำเสนอโซลูชันทางการเงินที่เป็นนวัตกรรมแก่ผู้บริโภคหลายล้านราย ธุรกิจขนาดเล็ก และลูกค้าองค์กร สถาบัน และรัฐบาลที่โดดเด่นที่สุดในโลกจำนวนมากภายใต้แบรนด์ J.P. Morgan และ Chase ประวัติศาสตร์ของเรายาวนานกว่า 200 ปี และปัจจุบันเราเป็นผู้นำในด้านวาณิชธนกิจ การธนาคารเพื่อผู้บริโภคและธุรกิจขนาดเล็ก การธนาคารพาณิชย์ การประมวลผลธุรกรรมทางการเงิน และการจัดการสินทรัพย์

J.P. Morgan ทำธุรกิจในอินเดียมาตั้งแต่ปี 1922 และเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นผู้ให้บริการชั้นนำที่ครอบคลุมทั้งบรรษัทและวาณิชธนกิจ (Corporate & Investment Banking), ธนาคารพาณิชย์ (Commercial Banking), การจัดการสินทรัพย์และความมั่งคั่ง (Asset & Wealth Management) ตลอดจนบริการและโซลูชันสำหรับองค์กร อินเดียยังเป็นที่ตั้งของศูนย์องค์กรของบริษัท ซึ่งให้บริการการดำเนินธุรกิจ เทคโนโลยี การเงิน และการวิจัยของบริษัททั่วโลก

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ช่องทางติดต่อสำหรับสื่อ:
Sanam Mirchandani
sanam.mirchandani@jpmchase.com

แหล่งที่มา: JPMorgan Chase & Co.

Aura Network ระดมทุน 4 ล้านเหรียญฯ ในช่วง Pre-Series A นำโดย Hashed และ Coin98

Logo

Aura Network เริ่มต้นปี 2023 ด้วยรอบการระดมทุน 4 ล้านเหรียญสหรัฐโดยมี Hashed และ Coin98 เป็นผู้นำการระดมทุนดังกล่าว Aura Network กำลังก้าวขึ้นสู่แนวหน้าในปีนี้ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ซบเซา

ฮานอย เวียดนาม –(BUSINESS WIRE)–15 กุมภาพันธ์ 2023

Aura Network ได้ปิดรอบการระดมทุนเป็นจำนวนเงิน 4 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมี Hashed และ Coin98 Ventures ร่วมกันเป็นผู้นำการระดมทุนดังกล่าว ทั้งนี้ การระดมทุนนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญก่อนการเปิดใช้งาน Mainnet ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 ถัดจากการประกาศความร่วมมือด้านการให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์กับ Republic Crypto

(Photo: Business Wire)

(Photo: Business Wire)

การระดมทุนครั้งนี้นับเป็นหนึ่งในครั้งที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ Aura Network โดยมีการลงทุนจาก Hashed ซึ่งเป็นบริษัทการลงทุนคริปโตรายใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ หลังจากก่อตั้งบริษัทมา 5 ปี Hashed ได้ลงทุนกับโครงการต่าง ๆ กว่า 80 โครงการในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ NFT อย่าง Axie Infinity และ The Sandbox, เครือข่ายบล็อกเชนอย่าง Cosmos และ Klaytn และโปรโตคอล DeFi อย่าง MakerDAO

คุณ Joseph Young ผู้ดำรงตำแหน่ง Senior Associate ของ Hashed ได้กล่าวว่า "Hashed ยินดีอย่างยิ่งที่ได้ให้การสนับสนุน Aura Network ในช่วงก่อนการเปิดใช้งาน Mainnet เราประทับใจในความสำเร็จด้านเทคนิคที่ผ่าน ๆ มาของ Aura Network ซึ่งช่วยให้บริษัทนี้พัฒนาขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโอเพนซอร์สรายใหญ่ที่สุดแก่ Cosmos” ทั้งยังกล่าวต่อไปว่า “เราเล็งเห็นว่าระบบนิเวศของ Cosmos มีแนวโน้มที่ดี และเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของ Aura Network ในพัฒนา Layer-1 ที่สนับสนุน NFT, การเล่นเกม และ DeFi ที่ยั่งยืนอย่างครอบคลุมในที่เดียว"

ในรอบการระดมทุนนี้ Aura Network ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการบล็อกเชนบางโครงการ ซึ่งรวมถึง GuildFi, Istari Ventures, Republic Crypto และนักลงทุนกับธุรกิจในระยะเริ่มต้น (Angel investor) รายอื่น ๆ นอกจากนี้ ความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับนักลงทุนและพาร์ทเนอร์เหล่านี้จะช่วยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินการ ผลิตภัณฑ์และการพัฒนาธุรกิจ การทำการตลาด และอื่น ๆ

คุณ Thanh Le ผู้ก่อตั้ง Coin98 กล่าวว่า ”การได้สนับสนุน Giang และทีมงานผู้มีความสามารถของ Aura ตั้งแต่ต้นและเฝ้าดูพวกเขาพัฒนาขึ้นในทุก ๆ วันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก Aura Network ให้บริการ Layer-1 ที่ให้ความสำคัญกับ NFT ทั้งยังมีความน่าเชื่อถือ รวดเร็ว และรองรับการปรับขยาย จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะช่วยให้การนำ NFT เข้ามาใช้ในด้านต่าง ๆ ทั่วโลกเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น” และกล่าวต่อไปว่า “เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุน Aura, ทีมงานที่ดำเนินงานได้อย่างยอดเยี่ยม, ความรู้ทางเทคนิคในเชิงลึก, รากฐานที่มีประสิทธิภาพสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้กับผู้พัฒนา ตลอดจนความทุ่มเทอย่างสุดความสามารถในด้านคุณภาพเพื่อให้ NFT เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง"

ก้าวต่อไปของ Aura Network

“Web3 และ NFT จะอยู่กับเราไปอีกนาน เมื่อได้รับการสนับสนุนจากบริษัทขนาดใหญ่ เราจะใช้เงินทุนนี้เพื่อดำเนินงานพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าตลาดจะอยู่ในสภาวะเช่นไรก็ตาม” said Giang Tran, Founder & CEO of Aura Network.

เงินทุนจะถูกนำไปใช้เพื่อขยายระบบนิเวศของ Aura Network ซึ่งรวมถึงการเพิ่มจำนวนโครงการ Web3 ระดับสากลและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นภายในระบบนิเวศดังกล่าว ทั้งนี้ ทีมฝ่ายพัฒนาของ Aura Network อยู่ระหว่างพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มากมายเพื่อเดินหน้าสู่การเปิดใช้งาน Mainnet โดยบริษัทจะประกาศกำหนดการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในอีกไม่ช้าในแผนดำเนินงานประจำปี 2023

เมื่อได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากนักลงทุนกับธุรกิจในระยะเริ่มต้น (Angel investor) และพาร์ทเนอร์ Aura Network จะช่วยให้ NFT มีการนำมาใช้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้นและก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้พัฒนา Web3 ชั้นนำ

เกี่ยวกับ Aura Network

Aura Network เป็นระบบนิเวศที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้มีการนำ NFT มาใช้งานทั่วโลกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดย Aura Network มุ่งเน้นการพัฒนาอินเทอร์เน็ตของ NFT และทำให้ NFT กับ web3 มีการใช้งานโดยผู้คนจำนวนมาก

Website | Twitter | Discord | Telegram | Blog

เกี่ยวกับ Hashed

Hashed ก่อตั้งขึ้นจากทีมผู้ประกอบการต่อเนื่องและวิศวกรในปี 2017 โดยเป็นบริษัทบล็อกเชนรายใหญ่ในเอเชียที่มีผลงานอยู่ทั่วโลก

Website | Twitter | Blog | Linkedin

เกี่ยวกับ Coin98 Ventures

Coin98 Ventures เป็นหน่วยธุรกิจเงินร่วมลงทุนของ Coin98 Finance ซึ่งเป็นฮับพัฒนา Web3 ในเวียดนาม บริษัทแห่งนี้มุ่งมั่นที่จะลงทุนกับผู้ก่อตั้งบริษัทต่าง ๆ ที่มีแนวคิดที่สร้างความเปลี่ยนแปลงและแนวทางเชิงสร้างสรรค์ในทุก ๆ เรื่องเกี่ยวกับสแต็ก Web3 ตั้งแต่โปรโตคอลและโครงสร้างพื้นฐาน Layer-1 ไปจนถึงการใช้งานสำหรับผู้บริโภค

Website | Twitter

บุคคลติดต่อ

Thu Tran (คุณ)
Aura Network
COO
thu@aura.network

แหล่งที่มา: Aura Network

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

The Bangkok Reporter