Innophos เปิดตัวเว็บไซต์ใหม่เตรียมเจาะตลาดอาหารและเครื่องดื่มในเอเชียแปซิฟิก

Logo

เว็บไซต์โฉมใหม่นี้เปรียบดั่งสถานที่จัดแสดงวัตถุดิบที่สร้างขึ้นจากสูตรเฉพาะที่พัฒนาขึ้นเพื่อปรับปรุงคุณภาพของอาหารและเครื่องดื่มโดยเฉพาะ

แครนเบอรี รัฐนิวเจอร์ซีย์–(BUSINESS WIRE)–16 พฤศจิกายน 2022

Innophos ผู้นำด้านสารละลายพิเศษสำหรับวัตถุดิบระดับโลกที่สร้างคุณูปการด้านต่าง ๆ แก่ตลาดอาหาร สุขภาพ และโภชนาการมาแล้วนักต่อนักได้ฤกษ์เปิดตัวเว็บไซต์ innophos.cn ที่สร้างขึ้นสำหรับตลาดเอเชียแปซิฟิกโดยเฉพาะ เว็บไซต์โฉมใหม่นี้สร้างขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ Innophos ได้สัมผัสมาในช่วงไม่กี่ปีให้หลังมานี้ โดยตัวเว็บไซต์มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่รองรับการทำงานแบบสองภาษาเพื่อเข้าถึงลูกค้าที่พูดทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน

Announcing our new APAC website innophos.cn (Graphic: Business Wire)

ประกาศเว็บไซต์ APAC ใหม่ของเรา innophos.cn (กราฟิก: Business Wire)

“ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านสารละลายฟอสเฟตสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม การเปิดตัว innophos.cn ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Innophos” Migue DeJong ผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มระดับโลกของ Innophos กล่าว “การดำเนินการในครั้งนี้ทำให้ผมอยากติดตามการเติบโตต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งของกลุ่มธุรกิจของเราทั้งในเอเชียและทั่วโลกอย่างใจจดใจจ่อ”

Innophos Asia Pacific ได้เปิดโรงงานผลิตในเมืองไท่ชาง มณฑลเจียงซู ประเทศจีนขึ้นเมื่อแปดปีก่อน จากนั้นมา Innophos ได้ใช้โรงงานผลิตแห่งนี้เพื่อให้บริการสารละลายแก่ลูกค้าในหลาย ๆ กลุ่มไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตอาหารข้ามชาติ ผู้ผลิตอาหารประจำภูมิภาค และผู้ผลิตอาหารในท้องถิ่นทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง ทั้งนี้ Innophos Asia Pacific ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ฟอสเฟตสำหรับอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผสมฟอสเฟต และผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารก่อภูมิแพ้อย่างครบครันเพื่อมอบเนื้อสัมผัส รสชาติ คุณค่าทางโภชนาการ และอายุการเก็บรักษาที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย

“การเติบโตทางธุรกิจของเรานั้นขับเคลื่อนจากความเข้าใจที่ครอบคลุมอย่างลึกซึ้งต่อความต้องการของลูกค้ารวมถึงกระบวนการพัฒนาของเราด้วย” Laurent Dubois ผู้จัดการทั่วไปของ Innophos Asia Pacific กล่าวเสริม “เราภูมิใจที่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภูมิภาคนี้เพื่อลูกค้าของเราด้วยห้องปฏิบัติการประยุกต์ที่มีอุปกรณ์ครบครัน สารละลายที่เราสร้างขึ้นจากสูตรเฉพาะ และความใส่ใจต่อคุณภาพและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง”

เว็บไซต์ใหม่ของ Innophos นี้มุ่งเน้นการแสดงให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้ผลิตภัณฑ์ของทางบริษัทกับอาหารและเครื่องดื่มประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเบเกอรี่ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล นม บะหมี่ และกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช โดยสามารถเยี่ยมชมส่วนผสมเฉพาะสำหรับการพัฒนาคุณภาพอาหารและเครื่องดื่มด้วยสารละลายฟอสเฟตสำหรับวัตถุดิบรูปแบบใหม่ได้ที่ innophos.cn เว็บไซต์ใหม่ของ Innophos Asia Pacific

เกี่ยวกับ Innophos

Innophos คือผู้ผลิตสารละลายพิเศษสำหรับวัตถุดิบชั้นนำระดับสากลซึ่งสร้างประโยชน์ต่าง ๆ มากมายให้กับตลาดอาหาร สุขภาพ และโภชนาการ โดยเราใช้ความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการผสมและสร้างสรรค์สูตรวัตถุดิบที่มีส่วนผสมจากฟอสเฟต แร่ธาตุ เอนไซม์ และพืช เพื่อช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการในราคาประหยัดได้ ปัจจุบัน Innophos ดำเนินการผลิตอยู่ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก และจีน

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52969382/en

ข้อมูลติดต่อ

Carrie Livingston
อีเมล: carrie@colinkurtis.com
หมายเลขโทรศัพท์: +1 815-519-8302

แหล่งที่มา: Innophos

Medidata เปิดตัว Rave Companion ซึ่งเป็นโซลูชันที่สามารถปรับขนาดได้โซลูชันแรกสำหรับการป้อนข้อมูล EHR เข้าไปยัง Rave EDC โดยอัตโนมัติ

Logo

Rave Companion มีการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ EDC ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น สามารถลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้นับพันสำหรับการทดลองทางคลินิกและระบบการจัดการข้อมูล 

  • Rave Companion จะช่วยเพิ่มคุณภาพข้อมูลและสามารถลดค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบ โดยรับข้อมูลต้นทางจาก EHRs โดยตรงและส่งไปยัง Rave EDC โดยไม่ต้องมีการพิมพ์ ส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดที่น้อยลง
  • เป็นโซลูชันระหว่างระบบ EHR ของไซต์และโซลูชันข้อมูลด้านการดูแลสุขภาพอื่น ๆ กับ Rave EDC โดยนำบันทึกเวชระเบียนของผู้ป่วยเข้าสู่ Rave EDC โดยตรง

NEW YORK–(BUSINESS WIRE)–15 พฤศจิกายน 2022

Medidata บริษัทในเครือของ Dassault Systèmes ประกาศแผนที่จะเปิดตัว Rave Companion ซึ่งเป็นเทคโนโลยีนวัตกรรมสามารถปรับขนาดได้ และอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร ที่จะช่วยให้การทดลองทางคลินิกสามารถประหยัดเวลาและลดข้อผิดพลาดในการถ่ายโอนข้อมูล EHR (บันทึกข้อมูลสุขภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์) ไปยังระบบ Rave EDC (การบันทึกข้อมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์) Rave Companion จะสามารถรับมือกับความท้าทายในการป้อนข้อมูลซ้ำซ้อนสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีมาอย่างยาวนานได้ โดยมีการใช้งานข้อมูลทั้งแบบมีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้างจากบันทึกข้อมูลสุขภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง Rave EDC สามารถนำไปใช้ได้โดยตรงเพียงไม่กี่คลิก

“จำนวนจุดข้อมูลที่รวบรวมไว้เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองทางคลินิกมีการเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณและสำหรับไซต์ต่าง ๆ ที่มองหาโซลูชันที่สามารถปรับขนาดได้ และใช้งานง่าย เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับระบบ EHR และลดการป้อนข้อมูล” Dan Braga รองประธานฝ่ายโซลูชัน EHR และฝ่ายดูแลสุขภาพที่ Medidata กล่าว “Rave Companion เป็นโซลูชันที่สามารถช่วยในการใช้งานข้อมูลที่มีอยู่จากระบบ EHR ใด ๆ แทนที่จะเป็นการป้อนข้อมูลซ้ำ เพื่อวัตถุประสงค์ในการทดลองทางคลินิก”

Medidata ดำเนินการทดลองมากกว่า 29,000 ครั้ง โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาศาสตร์กว่า 1.5 ล้านคนทั่วโลก โดยใช้แพลตฟอร์มชั้นนำของอุตสาหกรรม Rave Companion ได้รับการออกแบบมาสำหรับฟังก์ชันการทำงานแบบนอกกรอบสำหรับข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง รวมถึงความสามารถในการผสานรวมระบบ EHR แบบขั้นสูงสำหรับไซต์ที่มีการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายของไซต์สำหรับการวิจัยของ Medidata และสามารถขยายได้อย่างรวดเร็ว Rave Companion ทำงานโดยการจำลองแผนผังของ Rave eCRF ในเครื่องมือ “companion” ที่อยู่ด้านบนของหน้าจอ และติดตามผู้ใช้ของไซต์เมื่อมีการเข้าใช้งานผ่านระบบการบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ที่ใช้ในฐานข้อมูลด้านการวิจัย

สำหรับข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง หรือสำหรับไซต์ที่ยังไม่มีการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายของ Medidata Rave Companion จะช่วยให้สามารถหยุดการดำเนินการ “ทำงานพร้อมกันในทั้งสองระบบ” และช่วยให้ Rave EDC สามารถเชื่อมต่อกับผู้ใช้ เมื่อผู้ใช้เข้าใช้งานระบบ EHR หรือระบบทางคลินิกอื่น ๆ ในการค้นหาข้อมูลผู้ป่วยที่เหมาะสม เพียงผู้ใช้คลิกที่ค่า ระบบก็จะกรอกข้อมูลเข้า eCRF ให้ แทนที่จะต้องพิมพ์ข้อมูลอีกครั้ง

ในปีหน้า Rave Companion จะมีการรวมการนำเสนอข้อมูล EHR ภายในโซลูชันโดยตรง หมายความว่าผู้ใช้จะไม่ต้องออกจากระบบ Rave EDC เพื่อกรอกข้อมูล eCRF ให้ครบถ้วน เนื่องจากสามารถดำเนินการได้ภายในระบบเดียว

Medidata จะมีการเปิดตัว Rave Companion ในงานชีววิทยาศาสตร์ชั้นนำ NEXT New York ในวันที่ 15-16 เดือนพฤศจิกายน โดยผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีการที่ Medidata จัดการความท้าทายในการป้อนข้อมูลซ้ำในหัวข้อ “การแก้ไขปัญหาความท้ายทายของการถ่ายโอนข้อมูลจาก EHR ไปยัง EDC: มุมมอง แนวทาง และเทคโนโลยีใหม่” โดยมี Gene Vinson ผู้อำนวยการบริหารของฝ่ายบริหารจัดการ Clinical Vendor Management ที่ Syneos Health และ Dan Braga และ Samir Jain ผู้อำนวยการอาวุโสของ EHR Solutions ของ Medidata เข้าร่วม

Medidata เป็นบริษัทในเครือของ Dassault Systèmes ที่มีแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE เป็นบริษัทชั้นนำในระบบการเปลี่ยนแปลงชีววิทยาศาสตร์ระบบดิจิทัลในยุคของการแพทย์เฉพาะบุคคลที่มีแพลตฟอร์มทางวิทยาศาสตร์และธุรกิจแบบครบวงจรตั้งแต่การวิจัยจนถึงเชิงพาณิชย์ระบบแรก

เกี่ยวกับ Medidata

Medidata เป็นผู้นำทางการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลสำหรับชีววิทยาศาสตร์ การสร้างความหวังให้กับผู้ป่วยหลายล้านคน Medidata จะช่วยสร้างหลักฐานและข้อมูลเชิงลึกเพื่อช่วยบริษัทด้านเภสัชกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และการวินิจฉัย รวมถึงนักวิจัยด้านวิชาการเพื่อเพิ่มมูลค่า ลูกค้าและพันธมิตรกว่า 2,000 รายสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลกสำหรับการพัฒนาทางคลินิก ช้อมูลเชิงพาณิชย์ และข้อมูลจริงได้ Medidata ซึ่งเป็นบริษัท Dassault Systèmes (Euronext Paris: FR0014003TT8, DSY.PA) มีสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์กซิตี้ และมีสำนักงานทั่วโลกเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.medidata.com และติดตามเราได้ที่ @Medidata

เกี่ยวกับ Dassault Systèmes

Dassault Systèmes บริษัทในเครือของบริษัท 3DEXPERIENCE เป็นฝ่ายพัฒนาความก้าวหน้าของมนุษย์ โดยเราได้จัดเตรียมสภาพแวดล้อมเหมือนจริงสำหรับธุรกิจและผู้คนเพื่อจินตนาการถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน ด้วยประสบการณ์เสมือนจริงในโลกแห่งความเป็นจริงในแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันของ 3DEXPERIENCE ลูกค้าของเราสามารถขยายขอบเขตการสร้างนวัตกรรม การเรียนรู้ และการผลิต เพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นสำหรับผู้ป่วย พลเมือง และผู้บริโภค Dassault Systèmes สร้างมูลค่าให้กับลูกค้ากว่า 300,000 รายในทุกขนาด ทุกอุตสาหกรรม ในกว่า 140 ประเทศ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.3ds.com

3DEXPERIENCE, ไอคอนเข็มทิศ, โลโก้ 3DS, CATIA, BIOVIA, GEOVIA, SOLIDWORKS, 3DVIA, ENOVIA, NETVIBES, MEDIDATA, CENTRIC PLM, 3DEXCITE, SIMULIA, DELMIA และ IFWE เป็นเครื่องหมายการค้าเชิงพาณิชย์หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Dassault Systèmes ซึ่งเป็น “société européenne” ในฝรั่งเศส (ทะเบียนพาณิชย์แวร์ซายส์ # B 322 306 440) หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและ/หรือประเทศอื่น ๆ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Tom Paolella
ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจการ
+1-848-203-7596
thomas.paolella@3ds.com

Paul Oestreicher
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารภายนอก
+1-917-522-4692
paul.oestreicher@3ds.com

แหล่งที่มา: Medidata

Contentstack ระดมทุน Series C มูลค่า 80 ล้านดอลลาร์ นำโดย Georgian และ Insight Partners เพื่อเร่งเส้นทางสู่การรวบรวมความสามารถจากโครงสร้างข้อมูลสำหรับองค์กร

Logo

ระบบการจัดการเนื้อหา (CMS) ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดียจะใช้เงินทุนเพื่อช่วยให้แบรนด์ระดับโลกตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคสำหรับประสบการณ์เชื่อมโยงกับร้านค้าทุกช่องทางและประสบการณ์ส่วนบุคคล และเพื่อสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถทั่วอินเดีย

เทศบาลวิราร เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย–(BUSINESS WIRE)–15 พฤศจิกายน 2022

Contentstack ผู้นำประเภท Content Experience Platform (CXP) และผู้บุกเบิกสถาปัตยกรรมเชิงประกอบ ได้ประกาศในวันนี้ว่าการระดมทุน Series C มีมูลค่า 80 ล้านดอลลาร์ Georgian และ Insight Partners ร่วมเป็นผู้นำในรอบนี้โดยมีส่วนร่วมจาก Illuminate Ventures ทั้งสามบริษัทยังคงเพิ่มการลงทุนด้วย Contentstack ซึ่งมีส่วนช่วยให้ระดมทุนได้ทั้งหมด 169 ล้านดอลลาร์จนถึงตอนนี้ บริษัทจะใช้เงินทุนเพื่อสนับสนุนบริษัทองค์กรต่าง ๆ ต่อไปในเส้นทางของพวกเขาเพื่อรวบรวมความสามารถจากโครงสร้างข้อมูล โดยเสริมศักยภาพให้พวกเขาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคสำหรับประสบการณ์เชื่อมโยงกับร้านค้าทุกช่องทางและประสบการณ์ส่วนบุคคล

Emily Walsh หัวหน้านักลงทุนของ Georgian จะเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ Contentstack พร้อมกับ David Overmyer ผู้อำนวยการสายการเงิน (CFO) ของ Contentstack

“เรามองหาบริษัทที่มีการเติบโตสูงพร้อมความเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมและวัฒนธรรมการทำงานที่แข็งแกร่ง เราชอบที่จะช่วยให้ผู้ที่มองเห็นโอกาสและใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงได้ทำในสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีที่สุด” กล่าวโดย Walsh “ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ เราจึงเลือกที่จะเพิ่มการลงทุนของเราเป็นสองเท่า ความสามารถของ Contentstack ในการรับรองว่าลูกค้าจะประสบความสำเร็จในขณะเดียวกันก็สร้างนวัตกรรมด้วยความเร็วที่บันทึกนั้น ทำให้พวกเขาเป็นผู้นำในตลาด CMS เราภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำร่วมกันในรอบนี้และให้การสนับสนุนบริษัทที่จำเป็นสำหรับการเป็นผู้นำที่แท้จริง”

Contentstack เป็น CMS ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดียซึ่งเป็นตัวแทนของแบรนด์ระดับโลก เช่น Chase, Holiday Inn, Levi’s, Mattel, McDonald's, Mitsubishi และ Shell นอกจากนี้ บริษัทยังใช้เงินทุนเพื่อเติบโตและสรรหาบุคลากรอย่างต่อเนื่องในไฮเดอราบัด เบงกาลูรู ปูเน และวิราร-มุมไบ

"เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นหนึ่งในบริษัท SaaS ที่เติบโตเร็วที่สุดในอินเดีย" กล่าวโดย Nishant Patel ผู้ร่วมก่อตั้งและ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) ของ Contentstack "Contentstack ได้รับการบ่มเพาะใน Raw Engineering ในอินเดียก่อนที่จะแยกตัวออกไปสู่ระดับโลกมากขึ้นในปี 2018 ภารกิจของเราคือการช่วยสนับสนุนและผลักดันการเติบโตในระบบนิเวศของธุรกิจสตาร์ทอัพในอินเดีย เมื่อเร็วๆ นี้ การสนับสนุนการประชุมผลิตภัณฑ์ NASSCOM ช่วยกระตุ้นภารกิจดังกล่าว ซึ่งคุณสามารถคาดหวังได้ว่าจะประสบความสำเร็จมากกว่านี้”

ในฐานะที่เป็น CMS แบบไม่มีส่วนหัวเพียงตัวเดียวที่นำเสนอโซลูชัน "การผสานรวม" กับ Automation Hub Contentstack จึงมอบเส้นทางสู่การรวบรวมความสามารถจากโครงสร้างข้อมูลสำหรับองค์กรต่าง ๆ ด้วยการทำให้กิจกรรมหลายร้อยรายการในเทคโนโลยีและผู้ขายเป็นไปอย่างอัตโนมัติและคล่องตัวแบบเรียลไทม์ องค์กรต่างๆ จึงสามารถเลิกใช้งานระบบจัดการเนื้อหา (CMS) แบบเดิมที่มีราคาแพงได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้พวกเขาสามารถปลดล็อกนวัตกรรมประสบการณ์ดิจิทัลในวงกว้างมากขึ้นและตระหนักถึงผลตอบแทนจากการลงทุนที่มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

โปรแกรม Care Without CompromiseTM ที่เป็นเรือธงของบริษัทช่วยให้มั่นใจได้ถึงการสนับสนุนข้ามผู้จัดจำหน่ายในสภาพแวดล้อมที่ผสมผสานกัน ด้วย Automation Hub และ Care Without Compromise ทำให้ Contentstack กลับมาอยู่ในระดับแนวหน้าของการเคลื่อนไหวที่ผสมผสานกันได้อีกครั้ง ซึ่งมุ่งมั่นที่จะสร้างลูกค้าให้พร้อมสำหรับความสำเร็จในแนวธุรกิจและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน

ตั้งแต่ Series B ของ Contentstack ในเดือนมิถุนายน ปี 2021 ความเชี่ยวชาญของ Contentstack ได้นำไปสู่การเติบโตของขนาดและอัตราของกรณีการใช้งาน เนื่องจากมีองค์กรจำนวนมากขึ้นได้นำสถาปัตยกรรมเชิงประกอบมาใช้เป็นศูนย์กลางของกลยุทธ์ดิจิทัลมากขึ้น บริษัทจึง

  • เติบโตจนมีพนักงานมากกว่า 400 คน และเข้าถึงผู้ใช้กว่า 50,000 รายในตลาดโลกกว่า 70 แห่ง
  • เพิ่มจำนวนลูกค้าที่ให้บริการและเพิ่ม ARR เกือบสามเท่า ขณะที่รักษาอัตราการรักษาลูกค้าไว้ 97%
  • ปรับขนาดด้วยแบรนด์ระดับโลกที่ใหญ่ที่สุด โดย 42% มีรายได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ และ 35% มีการซื้อขายต่อสาธารณะ
  • นำเสนอโซลูชันที่ไม่อิงกับคลาวด์ที่รองรับทั้ง AWS และ Microsoft Azure ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป

นอกจากนี้ Contentstack ยังได้รับการรับรองเป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยมในอินเดีย (กันยายน 2021-2023) โดยได้รับรางวัลสถานที่ทำงานยอดเยี่ยมแห่งปี 2022 ถึง 6 รางวัลและได้รับการยกย่องให้เป็นสถานที่ทำงานที่เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดยอดเยี่ยมแห่งปี 2021 Austin Business Journal เสนอชื่อ Neha Sampat ผู้บริหารสูงสุด (CEO) ให้เป็นหนึ่งใน CEO ที่ดีที่สุดของ Austin ในปี 2022

เกี่ยวกับ Contentstack

Contentstack™ เป็นผู้นำประเภท Content Experience Platform (CXP) ที่ช่วยให้นักการตลาดและนักพัฒนานำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลที่รวบรวมได้ด้วยความรวดเร็วดั่งจินตนาการ บริษัทต่าง ๆ เช่น ASICS, Chase, Express, Holiday Inn, Icelandair, Mattel, McDonald's, Mitsubishi, Riot Games และ Shell ไว้วางใจให้ Contentstack ขับเคลื่อนประสบการณ์เนื้อหาที่สำคัญที่สุดด้วยขนาดที่มั่นคงและความน่าเชื่อถือ Contentstack มีชื่อเสียงในด้าน Care without Compromise™ ซึ่งได้รับคะแนนความพึงพอใจสูงสุดจากลูกค้าในอุตสาหกรรม Contentstack ยังเป็นผู้ก่อตั้ง MACH Alliance ที่กำหนดวาระอุตสาหกรรมสำหรับเทคโนโลยีแบบเปิดและปรับแต่งได้ที่ใช้ Microservices, API-first, Cloud-native SaaS และ Headless เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ http://www.contentstack.com

ข้อมูลติดต่อ

Manish Sharma
manish.sharma@contentstack.com
+91 98200 43185

แหล่งที่มา: Contentstack

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ผู้ผลิตสมาร์ทดิสเพลย์ ที่ดีที่สุดของไต้หวัน เฉิดฉายในงาน SDIA Award 2022

Logo

กรุงไทเป ไต้หวัน –(BUSINESS WIRE)–11 พฤศจิกายน 2022

เพื่อเป็นการส่งเสริมผู้ผลิตสมาร์ทดิสเพลย์ของไต้หวันให้ก้าวทันเทคโนโลยีแสดงผลชั้นนำ Smart Display Industry Alliance หรือ SDIA จึงได้จัดงาน SDIA Award ปี 2022 ขึ้นมา โดยจะมอบรางวัลระดับ Gold, Silver, Bronze รวมถึง Prize of Excellence ให้แก่ผู้ชนะที่เข้าเกณฑ์การประเมินรางวัล เกณฑ์ดังกล่าวประกอบด้วยความสามารถทางการตลาด, ความเป็นนวัตกรรม, เทคโนโลยี, งานวิจัย, ขีดความสามารถในการพัฒนา และศักยภาพตัวต้นแบบ เป้าหมายคือการยกย่องผู้ผลิตที่มีส่วนร่วม ซึ่งพวกเขาได้ลงทุนขยายเทคโนโลยีการแสดงผลชั้นนำ และยกระดับการแข่งขันด้านภาพกับการตลาดในอุตสาหกรรมการแสดงผลของไต้หวัน

Taiwan’s top smart display companies selected for 2022 SDIA Award (Photo: Business Wire)

Taiwan’s top smart display companies selected for 2022 SDIA Award (Photo: Business Wire)

คณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรมของกระทรวงเศรษฐการเป็นผู้ก่อตั้ง SDIA ในปี 2021 องค์กรนี้ทำหน้าที่สร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านวิชาการของมหาวิทยาลัยรัฐภาคอุตสาหกรรม รวมถึงกลไกการบูรณาการการดำเนินงาน, เสริมความเข้มแข็งข้ามภาคการผลิต, หน่วยงานสากล, การผนวกรวมหลากหลายสาขาวิชา และขีดความสามารถในการเพิ่มการแข่งขันระดับสากลของไต้หวันในเทคโนโลยีสมาร์ทดิสเพลย์ รวมถึงสนับสนุนความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรมเพื่อเปลี่ยนอุตสาหกรรมแสดงผลจากห่วงโซ่อุตสาหกรรมเดี่ยว เป็นระบบนิเวศอุตสาหกรรม

ในปีนี้ มีการมอบรางวัลให้บริษัทที่ดำเนินโครงการอันยอดเยี่ยมที่เน้นเทคโนโลยีการแสดงผลชั้นนำ ผู้ได้รับรางวัลระดับ Gold ได้แก่ AUO Corporation, Innolux Corporation, และ PlayNitride Display Co., Ltd สำหรับรางวัลระดับ Silver มอบให้กับ E Ink Holdings Inc., Lextar Electronics Corporation, และ Darwin Precisions Corporation ส่วนผู้ได้รับรางวัลระดับ Bronze คือ PanelSemi Corporation, WiseChip Semiconductor Inc., และ InnoCare Optoelectronics Corp. และรางวัล Prize of Excellence มอบให้กับ Taiwan Nanocrystals Inc., General Interface Solution Limited และ GIO Optoelectronics Corp.

AUO Corporation เป็นผู้สร้างหน้าจอแสดงผล Micro LED แบบม้วนได้ขนาด 14.6 นิ้ว ครั้งแรกของโลก ด้วยความคมชัดระดับสูงสุด มีการใช้เทคโนโลยีถ่ายโอนความเร็วระดับสูงให้ได้ความหนาแน่นของพิกเซลสูงระดับอัลตราที่ 202 ppi ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้มีความโดดเด่นทั้งในแง่ขนาดและความคมชัด กระบวนการผลิตยังมีการดำเนินการด้วยพลังงานสะอาดนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยประหยัดและลดการบริโภคพลังงาน จอแสดงผลแบบม้วนได้ยังเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับพื้นที่ภายในยานพาหนะด้วย

Innolux Corporation นำเสนอโซลูชันภาพทางการแพทย์อัจฉริยะ 3 มิติ แบบมองเห็นด้วยตาเปล่า ผสานกับสิทธิบัตรพิเศษเฉพาะของ Innolux – เทคโนโลยีการแสดงผลไลท์ฟีลด์ภาพแบบ Volume N3D และอัลกอริทึม ทำให้ระบบสามารถอ่านข้อมูลภาพรังสีส่วนตัดได้โดยตรง ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถตีความข้อมูลได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น

PlayNitride Display Co., Ltd อาศัยการใช้เมตาเวิร์สอันเป็นที่สนใจทั่วทั้งอุตสาหกรรม ในการเปิดตัวจอแสดงผล
ไมโครแบบมีสีเต็มรูปแบบ ขนาด 0.49 นิ้ว/4,536 ppi เมตาเวิร์ส ซึ่งเป็นเกรดสูงสุดในอุตสาหกรรมปัจจุบัน และสามารถใช้กับแว่นตา AR ได้ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแสดงผลช่วยยกระดับประสบการณ์เมตาเวิร์ส

บริษัทเทคโนโลยีแสดงผลมีความเข้มแข็งในตัวเอง SDIA จะช่วยผู้ผลิตอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมการแสดงผล ให้เปลี่ยนแปลงและอัปเกรดพร้อมเป้าหมายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าที่สูงขึ้น หรือระบบ และบริการบูรณาการแอปพลิเคชัน สิ่งนี้จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาแอปพลิเคชันและโซลูชันในหลากหลายสาขา เพื่อนำทฤษฎีไปปฏิบัติจริงให้เกิดการขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการแสดงผลอัจฉริยะในภาพรวม และการอัปเกรดให้ไปถึงเป้าหมายในการสร้างพอร์ตอุตสาหกรรม

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/52966218/en

ข้อมูลติดต่อ

Smart Display Industrial Alliance, SDIA
อีเมล: IDB.SDIA@itri.org.tw
โทรศัพท์: +886-2-27001910

แหล่งที่มา: Smart Display Industrial Alliance

Mitrade เปิดตัวโปรแกรมบริษัทในเครือทั่วโลก เตรียมปันผลกำไรให้พันธมิตรสูงสุดถึง 50%

Logo

เมลเบิร์น ออสเตรเลีย–(BUSINESS WIRE)–14 พฤศจิกายน 2022

Mitrade ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขาย CFD ชั้นนำได้เปิดตัวโปรแกรมบริษัทในเครือ และขณะนี้เสนอว่าจะให้ผลกำไรมากถึง 50% แก่พันธมิตรที่เป็นบริษัทในเครือ Mitrade เปิดรับทุกคนที่อยากสร้างอาชีพในอุตสาหกรรมการลงทุน ใครๆ ก็สามารถเข้าร่วมโปรแกรมบริษัทในเครือได้ ไม่ว่าจะมีภูมิหลังและอาชีพแบบไหน

Mitrade's office in Singapore (Photo: Business Wire)

สำนักงานของ Mitrade ในสิงคโปร์ (ภาพ: Business Wire)

เป้าหมายของโปรแกรมบริษัทในเครือของ Mitrade คือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระยะยาวระหว่าง Mitrade และบริษัทในเครือ โดยให้ผู้มีส่วนร่วมในโปรแกรมได้พบกับแพลตฟอร์มที่น่าดึงดูดและมีคุณภาพ เพื่อใช้แนะนำลูกค้าให้รู้จักกับแพลตฟอร์มการซื้อขาย CFD ที่ได้รับรางวัลของ Mitrade

โปรแกรมบริษัทในเครือมี 2 รูปแบบให้เลือก คือ โปรแกรมต้นทุนต่อการกระทำ (CPA) และโปรแกรมส่วนแบ่งรายได้ ทั้งสองแบบจะช่วยให้พันธมิตรในเครือเข้าถึงข้อเสนอพิเศษที่สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องสำหรับผู้ใช้ใหม่ทุกรายที่ได้เชิญให้เข้าร่วมแพลตฟอร์มนี้ Mitrade เปิดรับทุกคนเข้าร่วมโปรมแกรมบริษัทในเครือ โดยลงทะเบียนได้ที่ www.mitradeaffiliates.com

เมื่อได้ผ่านการตรวจสอบแล้ว พันธมิตรในเครือจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่อไปนี้ทั้งหมด

รับรายได้ แม้ไม่อยู่หน้าคอม

ถ้ากำลังหางานที่ทำได้โดยไม่ต้องลุกจากเตียง ลองมาร่วมมือกับ Mitrade ดูสิ หลังจากใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงในการทำแคมเปญ เพราะลูกค้าใช้ผลิตภัณฑ์เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะเริ่มแคมเปญได้อย่างราบรื่นด้วยความช่วยเหลือจากผู้จัดการในเครือที่พร้อมดูแลคุณโดยเฉพาะในสัปดาห์ต่อๆ ไป

ใช้ประโยชน์จากการสร้างแบรนด์ที่ได้รับรางวัลของ Mitrade

Mitrade ไม่เพียงแต่ได้รับรางวัลมากมายจากสถาบันการเงินชั้นนำและยอดดาวน์โหลด 1,200,000 ครั้งทั่วโลก แต่บริษัทยังปรากฏตัวในช่องข่าวหลัก เช่น Yahoo Finance, Bloomberg และอีกมากมายอีกด้วย คุณจึงควรใช้โอกาสนี้เพื่อใช้ข้อได้เปรียบจากผู้ชมทั่วโลกของ Mitrade เพื่อให้คุณเป็นที่รู้จักในพื้นที่ซื้อขาย

บอกต่อได้ ไม่จำกัดจำนวน

พันธมิตรในเครือสามารถบอกต่อลูกค้าได้ไม่จำกัดจำนวน ไม่ว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณจะมากหรือน้อย ยิ่งแบ่งปันมาก โอกาสในการจ่ายเงินก็ยิ่งสูง

สื่อการตลาดสุดพิเศษ

เนื่องจากฐานผู้ใช้ของ Mitrade มาจากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก เราจึงมีเอกสารทางการตลาดหลากหลายภาษา เพื่อให้วางแผนแคมเปญเพื่อเริ่มต้นกระบวนการได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย

ผู้เข้าร่วมที่สนใจเข้าร่วมโปรแกรมบริษัทในเครือของ Mitrade สามารถลงทะเบียนได้ที่นี่

Nitish Nautiyal, Head of APAC Affiliates ของ Mitrade กล่าวว่า “ผมตื่นเต้นที่ได้เห็นแรงผลักดันที่เราได้รับภายในเวลาแค่ 1 เดือนที่เปิดตัวโปรแกรมบริษัทในเครือเพื่อต้อนรับพันธมิตรจากหลายประเทศในเอเชียแปซิฟิก โปรแกรมบริษัทในเครือเป็นวิธีการใหม่ในการทำธุรกิจกับ Mitrade โดยส่งเสริมให้บริษัทในเครือมาร่วมมือกันในระยะยาว เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจแนวทางปฏิบัติในการซื้อขายในตลาดทุนที่ยั่งยืนและเป็นไปตามข้อกำหนด เราสนับสนุนให้นักการตลาดบริษัทในเครือที่ทำงานเต็มเวลาในอุตสาหกรรมมาสมัครเป็นพันธมิตรที่คุ้มค่า ซึ่งให้มูลค่าเพิ่มผ่านวิธีการที่มีคุณภาพในการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ”

วิธีเริ่มสร้างรายได้กับโปรแกรมบริษัทในเครือของ Mitrade

  1. ลงทะเบียนและเลือกโปรแกรมที่ต้องการเข้าร่วม
  2. ดูแดชบอร์ดและเครื่องมือส่งเสริมการขายที่มีให้คุณใช้
  3. แชร์ลิงก์บริษัทในเครือให้กลุ่มเป้าหมายของคุณ
  4. รับเงิน หลังการแนะนำของคุณตรวจสอบแล้วว่าถูกต้อง

เกี่ยวกับ Mitrade

Mitrade เป็นโบรกเกอร์ซื้อขาย CFD ออนไลน์ที่ได้รับรางวัลระดับโลก โดยมีภารกิจคือการทำให้การซื้อขาย FX และ CFD ง่ายขึ้น Mitrade ซึ่งมีการติดตั้งแอปมากกว่า 1.2 ล้านครั้งและเทรดเดอร์ที่ใช้งานอยู่ 40,000 ราย มุ่งมั่นที่จะให้บริการแพลตฟอร์มการซื้อขายและตราสารในตลาดเกือบ 100 รายการที่มีสินทรัพย์ต่างๆ รวมถึง FX สินค้าโภคภัณฑ์ และดัชนีที่ตอบสนองความต้องการของนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลกได้ดีที่สุด

Mitrade มุ่งมั่นที่จะทำให้การซื้อขายง่ายขึ้นและมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีที่สุดผ่านแพลตฟอร์มมือถือและเว็บ

โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.mitrade.com/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/52958579/en

ข้อมูลติดต่อ

branding@mitrade.com

แหล่งข้อมูล: Mitrade

Zerobank Design Factory นักพัฒนาระบบหลักสำหรับ Minna Bank เพื่อรองรับระบบการธนาคารบนคลาวด์อย่างเต็มรูปแบบ

Logo

TOKYO–(BUSINESS WIRE)–11 พฤศจิกายน 2022

Zerobank Design Factory Co., Ltd. (ZDF) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Fukuoka Financial Group มีการประกาศว่า จะมีการเริ่มให้บริการระบบธนาคารบนคลาวด์อย่างเต็มรูปแบบ ระบบนี้จะทำงานบนระบบหลักที่ ZDF และ Accenture พัฒนาขึ้นสำหรับ Minna Bank โดย ZDF ให้บริการระบบนี้แก่สถาบันการเงินทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงินที่ต้องการคำแนะนำระบบบริการด้านการธนาคารรูปแบบใหม่ ด้วยการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงระบบเป็นดิจิทัลในอุตสาหกรรมทั่วโลก ZDF ตั้งเป้าที่จะบรรลุภารกิจในการ ‘นำเสนอการเชื่อมโยงอย่างมีคุณค่าแก่ทุกคน’

ZDF to Offer Full-Cloud Banking System (Graphic: Business Wire)

ZDF ให้บริการระบบธนาคารบนคลาวด์อย่างเต็มรูปแบบ  (ภาพกราฟิก: Business Wire)

ภาพรวมของระบบ
ระบบนี้จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถสร้างระบบการธนาคารขึ้นได้อย่างรวดเร็วบนคลาวด์จากรากฐานเริ่มต้น โดยช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถขยายบริการทางเงินได้อย่างรวดเร็วและเหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละราย และสามารถดำเนินบริการทั้งหมดได้จากสมาร์ทโฟนผ่านอินเทอร์เฟสสำหรับผู้ใช้อย่างง่ายดาย ตั้งแต่การเปิดบัญชี การฝากเงิน การโอนเงิน และการสมัครสินเชื่อ นอกเหนือจากนี้ ระบบยังมีเครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์ที่ช่วยให้ผู้ปฏิบัติการสามารถมองเห็นกระบวนการทางบัญชีได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น การฝากและถอนเงิน ดอกเบี้ยคงค้าง และค่าธรรมเนียมต่างๆ เพื่อให้สามารถจัดสรรปรับแต่งข้อเสนอสำหรับลูกค้าแต่ละรายได้ดียิ่งขึ้น บริการดิจิทัลและประสบการณ์ลูกค้าแบบใหม่ที่เป็นนวัตกรรมใหม่เหล่านี้จะช่วยเสริมมูลค่าให้แก่องค์กร

ฟีเจอร์ทางด้านเทคนิค
สถาปัตยกรรมของระบบจะช่วยให้สามารถมั่นใจได้ถึงความสามารถในการปรับขนาด การรับมือกับข้อผิดพลาด และความยืดหยุ่นโดยใช้ระบบคลาวด์สาธารณะ โดยสามารถมีความยืดหยุ่นในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่สร้างขึ้น เนื่องจากการออกแบบที่มีไมโครเซอร์วิสหลายๆ ตัวเชื่อมโยงกันแต่ไม่ยึดติดกัน รวมถึงโครงสร้างสถาปัตยกรรมแบบ API เพื่อให้มีการปรับใช้งานอย่างราบรื่น ยังมีระบบสินทรัพย์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อการพัฒนาและการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงรากฐานและระบบการจัดการสินทรัพย์ นอกเหนือจากนี้ ในแพลตฟอร์ม BaaS ซึ่งเป็นระบบการผสานรวมแบบ API ที่สอดคล้องกับมาตรฐานระบบความปลอดภัยสากลของ FAPI ช่วยให้สามารถผสานรวมเข้ากับผู้ให้บริการระบบ API และธุรกิจที่เป็นพันธมิตรที่มีความสนใจในการสร้างบริการใหม่ได้อย่างง่ายดาย โครงการพัฒนาระบบนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศจาก Japan Financial Innovation Award 2020

Kenichi Nagayoshi ประธานและ CEO ของ ZDF และ Minna Bank แสดงความเห็นว่า
“Minna Bank ซึ่งมีการเปิดตัวในฐานะธนาคารดิจิทัลแห่งแรกของญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคม ปี 2021 ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มลูกค้าดิจิทัลเนทีฟที่เป็นเป้าหมาย โดยมีการดาวน์โหลดแอป 1 ล้านครั้ง และมีการเปิดบัญชีถึง 400,000 บัญชีในปีแรก ในระหว่างช่วงเวลานี้ เรายังคงทำงานร่วมกับ Accenture เพื่อเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับระบบ ฟังก์ชัน และการออกแบบที่ธนาคารดิจิทัลจะต้องมี และอัปเดตเทคโนโลยีของเราให้สอดคล้องกันไปด้วย เรามีความเชื่อมั่นว่า ระบบคลาวด์อย่างเต็มรูปแบบนี้เป็นโซลูชันสำหรับรับมือกับความท้าทายหลากหลายที่บริษัทต่างๆ ที่ต้องการเข้าสู่ธุรกิจการธนาคารต้องประสบ ด้วยการแบ่งปันประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จของเรากับลูกค้าต่างๆ จากหลากหลายอุตสาหกรรม เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะสามารถมีส่วนช่วยในการพัฒนาธนาคารดิจิทัลทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ

เกี่ยวกับ Zerobank Design Factory (ZDF)

ZDF เป็นบริษัทพัฒนาระบบซึ่งเป็นผู้สร้างระบบหลักสำหรับ Minna Bank และเป็นนักพัฒนารายแรกในญี่ปุ่นที่สร้างระบบหลักสำหรับการธนาคารบนคลาวด์สาธารณะ ZDF เป็นบริษัทในเครือของ Fukuoka Financial Group
https://www.zdf.jp/en/

เกี่ยวกับ Minna Bank

Minna Bank, Ltd. เป็นธนาคารดิจิทัลแห่งแรกของญี่ปุ่น โดยมีการเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อวันที่ 28 เดือนพฤษภาคม ปี 2021 Minna Bank หมายถึง “ธนาคารสำหรับทุกคน” ในภาษาญี่ปุ่น โดยมีภารกิจคือ “นำเสนอการเชื่อมโยงอย่างมีคุณค่าแก่ทุกคน” Minna Bank มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน โดยมีการสร้างและเชื่อมโยงระบบนิเวศต่างๆ รวมถึงลูกค้าผู้บริโภคและธุรกิจ และชุมชนต่างๆ Minna Bank เป็นบริษัทในเครือของ Fukuoka Financial Group https://corporate.minna-no-ginko.com/information/corporate/2021/01/14/14/?wovn=en

เกี่ยวกับ Fukuoka Financial Group

Fukuoka Financial Group, Inc. (FFG, TOKYO:8354) ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 โดยเป็นกลุ่มการเงินระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น FFG มีเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาคคิวชู FFG มีการดำเนินการตามกลยุทธ์ Digital Transformation (DX) อย่างจริงจัง และได้ก่อตั้ง Minna Bank ซึ่งเป็นธนาคารดิจิทัลแห่งแรกที่มีการวางโครงสร้างรากฐานอย่างดีในญี่ปุ่น
https://www.fukuoka-fg.com/en/

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52967088/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Zerobank Design Factory / Minna Bank
Yumi Imamura
press@minna-no-ginko.com

แหล่งข้อมูล: Zerobank Design Factory Co., Ltd.


Kirin Holdings และ Kao เริ่มทำการวิจัยร่วมกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไขมันในช่องท้องและภูมิคุ้มกันวิทยา

Logo

Tokyo–(BUSINESS WIRE)–11 พฤศจิกายน 2022

ตั้งแต่เดือนนี้ Kirin Holdings Company, Limited (Kirin Holdings) และ Kao Corporation (Kao) จะเข้าร่วมในการศึกษาตามรุ่นของ "วิจัยส่งเสริมสุขภาพวาคายามะ"*1 ซึ่งนำโดย Wakayama Medical University และเรียบเรียงโดยศูนย์วิจัยส่งเสริมสุขภาพ (HPRC) ที่เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Kirin Holdings และ Kao จะร่วมกันทำการวิจัยเพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างไขมันในช่องท้องกับการทำงานของเซลล์เดนไดรต์ในพลาสมาไซทอยด์*2 (pDCs) ซึ่งเป็นตัวนำสำคัญของระบบภูมิคุ้มกันและอื่น ๆ

*1 วิธีการวิจัยเชิงสังเกตวิธีหนึ่งที่ใช้ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยของโรคและการเกิดโรค โดยจัดกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยโรคเฉพาะและกลุ่มคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับปัจจัยโรคเฉพาะ และสามารถตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยและการเกิดโรคได้โดยการคำนวณอุบัติการณ์ของโรคเป้าหมายในแต่ละกลุ่ม

*2 เซลล์ภูมิคุ้มกันที่มีบทบาทสำคัญในฐานะตัวนำหลักเมื่อแบคทีเรียหรือไวรัสเข้าสู่ร่างกาย การทำงานของ pDC จะกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันต่าง ๆ เช่น เซลล์ NK เซลล์ T และเซลล์ B เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส

โครงร่างการวิจัย

  1. หัวข้อการวิจัย
  2. โครงสร้างการวิจัย
    Kirin Central Research Institute, Kirin Holdings Company, Limited
    R&D-Health & Wellness Products Research, R&D-Biological Science Research , Kao Corporation
    Wakayama Medical University
  3. เป้าหมาย
    ชายและหญิงที่เป็นผู้ใหญ่ 300 คนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดวาคายามะ (ตามแผน)

ความเป็นมา

โรคอ้วนได้รับการกำหนดโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ว่าเป็น "การสะสมไขมันผิดปกติหรือมากเกินไปซึ่งอาจนำไปสู่สุขภาพที่ไม่ดี" ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเรื้อรังเพิ่มขึ้น ทั่วโลกกำลังศึกษาผลกระทบของโรคอ้วนต่อสุขภาพ และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความเชื่อมโยงระหว่างโรคอ้วนกับภูมิคุ้มกันกำลังได้รับความสนใจ เนื่องจากโรคอ้วนมีความเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัสที่รุนแรงมากขึ้น*3

วัตถุประสงค์

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างไขมันในช่องท้องกับกิจกรรมของ pDC โดยผสมผสานความสามารถในด้านการวิจัยมากกว่า 35 ปีของ Kirin Holdings ที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันวิทยาเข้ากับความสามารถในด้านการวิจัยของ Kao ที่เกี่ยวกับการลดการสะสมไขมันในช่องท้อง ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิต งานวิจัยนี้จะดำเนินการเป็นการศึกษาเพิ่มเติมสำหรับ "วิจัยส่งเสริมสุขภาพวาคายามะ" ซึ่งได้ดำเนินการกับผู้อยู่อาศัยในจังหวัดวาคายามะมาตั้งแต่ปี 2011

ในเดือนนี้ จะมีการตรวจสุขภาพเฉพาะในจังหวัดวาคายามะสำหรับผู้อยู่อาศัยที่มีอายุ 40-55 ปี Kao จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตและปริมาณไขมันในช่องท้อง ในขณะที่ Kirin Holdings จะรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมของเซลล์เดนไดรต์ รวมถึง pDCs ในเลือด โดยทั้งคู่จะแบ่งปันข้อมูลเหล่านี้ร่วมกัน และจะมีการศึกษาและวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างไขมันในช่องท้องและกิจกรรมของ pDC

*3 Int J Epidemiol. 2019;48(6):1783-1794. https://doi.org/10.1093/ije/dyz129
Obes Rev. 2020;21(11):e13128. https://doi.org/10.1111/obr.13128

วิจัยส่งเสริมสุขภาพวาคายามะคืออะไร

นี่เป็นการศึกษาตามรุ่นที่นำโดย Wakayama Medical University ตั้งแต่ปี 2011 และขณะนี้ได้ดำเนินการร่วมกับ HPRC โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการเกิดของโรคต่าง ๆ ในหมู่คนท้องถิ่นในจังหวัดวาคายามะ

จนถึงปัจจุบัน มีการวิจัยเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและมวลกล้ามเนื้อ และได้มีการตีพิมพ์เอกสารต้นฉบับเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อกับการเริ่มมีภาวะหลอดเลือดแข็ง ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างประวัติการล้มและปริมาณการออกกำลังกายที่เจตนา

Kirin และ Kao จะส่งเสริมความคิดริเริ่มที่มุ่งลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้บริโภคในอนาคต โดยการชี้แจงความสัมพันธ์ระหว่างมวลไขมันในอวัยวะภายในและกิจกรรม pDC ผ่านวิจัย HPRC

เกี่ยวกับ Kirin Holdings

Kirin Holdings Company, Limited เป็นบริษัทระหว่างประเทศที่ดำเนินการในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม (ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม) ส่วนของยา (ธุรกิจยา) และในด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ (ธุรกิจวิทยาศาสตร์สุขภาพ) ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก

Kirin Holdings สืบทอดมาจาก Japan Brewery ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1885 โดย Japan Brewery ได้กลายเป็น Kirin Brewery ในปี 1907 ตั้งแต่นั้นมา บริษัทก็ได้ขยายธุรกิจด้วยการหมักและเทคโนโลยีชีวภาพเป็นเทคโนโลยีหลัก และเข้าสู่ธุรกิจเภสัชกรรมในปี 1980 ซึ่งทั้งหมดยังคงเป็นศูนย์กลางการเติบโตระดับโลก ในปี 2007 Kirin Holdings ก่อตั้งขึ้นในฐานะบริษัทโฮลดิ้งอย่างแท้จริง และปัจจุบันนี้กำลังมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ

ภายใต้วิสัยทัศน์ Kirin Group Vision 2027 (KV 2027) ซึ่งเป็นแผนการจัดการระยะยาวที่เปิดตัวในปี 2019 ทำให้ Kirin Group มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำระดับโลกในด้าน CSV* ซึ่งสร้างมูลค่าให้กับโลกของอาหารและเครื่องดื่มไปจนถึงยา ในอนาคต Kirin Group จะยังคงใช้จุดแข็งต่าง ๆ เพื่อสร้างมูลค่าทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจผ่านธุรกิจของบริษัท โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรลุการเติบโตอย่างยั่งยืนในค่านิยมขององค์กร

* การสร้างคุณค่าร่วมกัน: รวมมูลค่าเพิ่มสำหรับผู้บริโภคและสังคมโดยรวม

เกี่ยวกับ Kao Corporation

Kao สร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มสูงซึ่งให้การดูแลและเพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตของทุกคนและโลกใบนี้ ด้วยผลงานของแบรนด์ชั้นนำกว่า 20 แบรนด์ เช่น Attack, Bioré, Goldwell, Jergens, John Frieda, Kanebo, Laurier, Merries และ Molton Brown โดย Kao เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนในเอเชีย โอเชียเนีย อเมริกาเหนือ และยุโรป Kao สร้างยอดขายต่อปีได้ประมาณ 1,420 พันล้านเยน เมื่อรวมกับธุรกิจเคมีภัณฑ์ซึ่งมีส่วนช่วยในหลากหลายอุตสาหกรรม Kao มีพนักงานประมาณ 33,500 คนทั่วโลกและมีประวัติยาวนานถึง 135 ปีในด้านนวัตกรรม โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ Kao Group สำหรับข้อมูลล่าสุด https://www.kao.com/global/en/

Kao Group ได้กำหนดกลยุทธ์ ESG ของ Kirei Lifestyle Plan ในเดือนเมษายน ปี 2019 และในปี 2021 Kao ได้เปิดตัวแผนระยะกลางปี ​​2025 (K25) ซึ่งประกาศว่า "การปกป้องชีวิตในอนาคต" และการส่งเสริมให้ "ความยั่งยืนเป็นหนทางเดียว" เป็นวิสัยทัศน์ของบริษัท Kao Group จะยังคงรวมกลยุทธ์ ESG เข้ากับแนวทางการจัดการ นอกจากนี้ยังจะพัฒนาธุรกิจ จัดหาผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีขึ้นสำหรับผู้บริโภคและสังคม และทำงานตามวัตถุประสงค์ "เพื่อให้เกิดโลก Kirei ที่ทุกชีวิตอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนสมานฉันท์"

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Press Contact
Corporate Communication Department Kirin Holdings Company, Limited
Nakano Central Park South, 4-10-2 Nakano, Nakano-ku, Tokyo
https://www.kirinholdings.com/en/
kirin-cc@kirin.co.jp

Corporate PR, Corporate Strategy, Kao Corporation
1-14-10, Nihonbashi Kayabacho, Chuo-ku, Tokyo
https://www.kao.com/global/en/
corporate_pr@kao.com

แหล่งข้อมูล: Kirin Holdings Company, Limited

Behavox แต่งตั้งหุ้นส่วนของ Softbank / หัวหน้าฝ่ายบุคลากรและสำนักงาน CEO เป็นคณะกรรมการบริษัท

Logo

Behavox กระชับความสัมพันธ์กับตลาดญี่ปุ่นโดยการแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน

TOKYO–(BUSINESS WIRE)–11 พฤศจิกายน 2022

Behavox บริษัทซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเฝ้าระวังสำหรับระบบการสื่อสาร ประกาศแต่งตั้ง Mr. Sasaki ผู้ซึ่งเป็นหุ้นส่วน / หัวหน้าฝ่ายบุคลากร และหัวหน้าสำนักงาน CEO ของ SoftBank Investment Advisers

Mr. Sasaki สมาชิกคณะกรรมการคนใหม่ ที่มาเข้าร่วม Behavox พร้อมประสบการณ์สูงจากตลาดการเงินของญี่ปุ่น Mr. Sasaki เป็นหุ้นส่วนและหัวหน้าสำนักงาน CEO ของ SoftBank ตั้งแต่ปี 2017 โดยได้เข้าร่วมองค์กรครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2003 และทำงานก่อนหน้านั้นที่ Bank of Tokyo-Mitsubishi มา 3 ปี

สำหรับ Behavox แล้ว ลูกค้าเป็นส่วนสำคัญที่สุด และการที่มีสมาชิกคณะกรรมการเป็นชาวญี่ปุ่นคนแรกขององค์กรนี้เป็นการตัดสินใจขั้นสำคัญ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อญี่ปุ่น ฐานลูกค้าที่กำลังเติบโต และทีมหุ้นส่วนของเราในญี่ปุ่น

Mr. Sasaki เข้าร่วมคณะกรรมการของเราพร้อมแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่เน้นชัดของ Behavox ความมุ่งมั่นที่จะขยายฐานลูกค้าในญี่ปุ่น และการมุ่งเน้นการขยายตลาดในเอเชีย

Erkin Adylov ผู้ก่อตั้ง Behavox & CEO กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ Mr. Sasaki เข้าเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัทของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นที่น่าตื่นเต้นกับโอกาสในการขยายตลาดในเอเชีย Mr. Sasaki มีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งกับตำแหน่งนี้ด้วยประสบการณ์ที่สูงจากตลาดการเงิน พวกเรารู้สึกตื่นเต้นในก้าวต่อไปของพวกเราทั้งสองสำหรับ Behavox และ Mr. Sasaki ร่วมกัน”

พร้อมกับการประกาศนี้ Behavox ยังเพิ่มความมุ่งเน้นที่จะเสริมกำลังเป็นสองเท่าในการปรับปรุงความสามารถในการรองรับภาษาญี่ปุ่นให้ดียิ่งขึ้นทั้งด้านการแปล ข้อความ และระบบเสียง เพื่อรองรับความแตกต่างทางวัฒนธรรมสำหรับนวัตกรรมใหม่นี้

Mr. Sasaki หุ้นส่วน / หัวหน้าฝ่ายบุคลากรและหัวหน้าสำนักงาน CEO กล่าวว่า “พนักงานที่พูดได้สองภาษาจะใช้ภาษาอื่น เช่น ภาษาญี่ปุ่น ในการดำเนินการที่ผิดกฎหมายหรือมุ่งร้าย การเข้าร่วม Behavox เป็นการตัดสินใจที่สำคัญของผม เพื่อให้แน่ใจได้ว่า เรากำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่ไม่เพียงสามารถรับมือกับความแตกต่างทางวัฒนธรรม แต่ยังมีความมุ่งมั่นที่จะจัดหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการคุกคามจากอาชญากรรมจากบุคคลภายในของญี่ปุ่นด้วย”

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุที่ญี่ปุ่นมีความต้องการการเฝ้าระวังอย่างยิ่งยวดจาก Taro Togo กรรมการผู้จัดการของ Behavox ประเทศญี่ปุ่น โดยจะมีการพูดคุยกันถึงหัวข้อต่างๆ ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงระบบการสื่อสารในองค์กร ไปจนถึงการรั่วไหลของข้อมูลที่เป็นความลับ และประเด็นทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ สามารถเข้าดูเพิ่มเติมได้ที่ เพราะเหตุใดการเฝ้าระวังจึงมีความสำคัญ และ ติดต่อเราหากต้องการอีเว้นท์เฉพาะเป็นการส่วนตัว!

เกี่ยวกับ Behavox Ltd.

Behavox เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเฝ้าระวังสำหรับระบบการสื่อสาร

ในฐานะผู้นำตลาดในแอปพลิเคชันระบบด้านปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้ในการตรวจสอบการสื่อสารโดยใช้ข้อความและเสียง ซอฟต์แวร์ของ Behavox จะช่วยปกป้องบริษัทและพนักงานของบริษัทจากผู้ไม่หวังดีและมีการดำเนินการที่ผิดกฎหมายและมุ่งร้ายต่อบริษัท

ทีมการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ทีมเฝ้าระวัง ทีมกฎหมาย และทีม SOC จะใช้ซอฟต์แวร์ของ Behavox เพื่อลดความผิดพลาดที่ไม่มีผลกระทบและเพิ่มอัตราการตรวจจับท่ามกลางความเสี่ยงที่เกิดขึ้นหลากหลาย โดยมมีวิธีการแก้ไขปัญหามากมายสำหรับการปกป้องบริษัทจากความเสี่ยงภายนอก Behavox ปกป้องบริษัทจากความเสี่ยงภายใน

Founded in 2014, Behavox ได้รับการก่อตั้งขึ้นในปี 2014 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่มอนทรีออล และมีสำนักงานอยู่ที่นิวยอร์กซิตี้ ลอนดอน ซีแอตเทิล สิงคโปร์ และโตเกียว

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทได้ที่ www.behavox.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายสื่อพิมพ์:
media@behavox.com

แหล่งข้อมูล: Behavox

Mary Kay Inc. ได้รับการยอมรับในรายงานผลกระทบแนวปะการังทั่วโลกปี 2022 ของ The Nature Conservancy

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–11 พฤศจิกายน 2022

ตลอดปี 2022 Mary Kay Inc. ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความยั่งยืนและการดูแลองค์กร ได้ทำงานเพื่อยกระดับการตระหนักรู้เกี่ยวกับสภาพอากาศที่มีผลกระทบต่อมหาสมุทรและเพื่อเป็นแนวทางในการจัดการกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

The Nature Conservancy and Mary Kay Inc. announced their partnership in 1990. Mary Kay has continued to generously support TNC’s work with an expanded focus on oceans work around the globe. (Credit: The Nature Conservancy)

แม้ The Nature Conservancy และ Mary Kay Inc. ได้ประกาศความร่วมมือในปี 1990 แต่ Mary Kay ยังคงสนับสนุนงานของ TNC อย่างต่อเนื่องโดยมุ่งเน้นที่การขยายงานด้านมหาสมุทรทั่วโลก (เครดิต: The Nature Conservancy)

ในเดือนนี้ Mary Kay ได้รับการยอมรับในรายงานผลกระทบแนวปะการังทั่วโลกปี 2022 ของ The Nature Conservancy โดยรายงานของ The Nature Conservancy ได้กล่าวเน้นถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นล่าสุด และความสำเร็จในวิธีการที่องค์กรร่วมมือกับภาคเอกชนในการดำเนินการโครงการอนุรักษ์ทางทะเลโดยใช้นวัตกรรมใหม่ที่ปกป้องและรักษาชีวิตในมหาสมุทรของเรา

รายงานมีการกล่าวถึงโครงการที่เพิ่งเปิดตัวไปซึ่งมุ่งเน้นเกี่ยวกับ “แนวปะการัง Super Reefs” แนวปะการัง Super Reefs มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถใช้ชีวิตอยู่ในมหาสมุทรที่ร้อนระอุได้ ภารกิจของโครงการแนวปะการัง Super Reefs คือ การระบุถิ่นฐาน ปกป้อง และขยายเครือข่ายแนวปะการัง Super Reefs ทั่วโลกเพื่อรักษาแนวปะการังไว้ให้คงนาน ทีมงานแนวปะการัง Super Reefs ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านมหาสมุทรศาสตร์ ด้านการอนุรักษ์ และด้านการจัดการ จาก Woods Hole Oceanographic Institution, Stanford University และ The Nature Conservancy พร้อมทั้งการสนับสนุนจากภาคเอกชนจาก Mary Kay เพื่อสนับสนุนรัฐบาลและชุมชนในช่วงเวลาอันวิกฤตนี้เพื่อประวัติศาสตร์ของแนวปะการัง

“ฉันเคยเห็นแนวปะการังที่ถูกทำลาย และแนวปะการังที่ได้รับการฟื้นฟูในช่วงชีวิตของฉัน” Elizabeth McLeod หัวหน้าฝ่าย Global Reefs Systems ที่ The Nature Conservancy กล่าว “เราจะต้องเข้าไปที่แหล่งน้ำ เพื่อระบุแนวปะการังที่สามารถมีชีวิตรอดได้จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเพื่อให้แน่ใจว่า แนวปะการังเหล่านี้ได้รับการปกป้องจากผลกระทบอื่น ๆ”

“เราร่วมมือกับ The Nature Conservancy มายาวนานกว่า 32 ปี แต่เพิ่งมีการเริ่มต้นกันในส่วนนี้” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “ตลอดปี 2022 เรามีการเพิ่มกำลังด้านความยั่งยืนขึ้นเป็นสองเท่า รวมถึงการมุ่งเน้นที่ความสมบูรณ์ของมหาสมุทร ความสมบูรณ์ของมหาสมุทรสะท้อนถึงความสมบูรณ์สำหรับโลกของเรา และจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องทำหน้าที่ของเราในการปกป้องเพื่อคงความสมบูรณ์นี้”

ในปี 2022 Mary Kay ให้การสนับสนุน 11 โครงการที่เกี่ยวข้องกับการริเริ่มในการปกป้องมหาสมุทรทั่วโลก เพื่อปรับปรุงความสมบูรณ์ของมหาสมุทรกลับสู่ธรรมชาติและเพื่อผู้คน ผ่านการปกป้องและการฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยที่สำคัญ เช่น แนวปะการัง แนวปะการังหอยนางรม และแหล่งน้ำชายเลนริมชายฝั่ง โดยโครงการสำคัญเหล่านี้ ได้แก่

  • การฟื้นฟูแนวปะการังหอยชายฝั่งภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกในออสเตรเลีย ฮ่องกง จีน และแถบพื้นที่สามเหลี่ยมปะการัง
  • การสร้างความมั่นใจในการปกป้องและฟื้นฟูปะการังในประเทศแถบพื้นที่สามเหลี่ยมปะการัง ซึ่งครอบคลุมอินโดนีเซีย ปาปัวนิวกินี และหมู่เกาะโซโลมอน ว่าจะได้รับการสนับสนุนในการอนุรักษ์และการริเริ่มที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อทั้งภูมิภาค
  • การสนับสนุนสตรีผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมในแปซิฟิกในปาปัวนิวกินีและหมู่เกาะโซโลมอน
  • การอนุรักษ์และการฟื้นฟูพื้นที่ชายฝั่งในคาบสมุทรกัลฟ์และการประเมินความเป็นไปได้ของตลาดคาร์บอนสีน้ำเงินเพื่อสนับสนุนการจัดการแหล่งน้ำชายเลนริมชายฝั่งในระยะยาว และ
  • การปรับปรุงการประมงในเม็กซิโก เพื่อส่งเสริมชุมชนและสตรีในอุตสาหกรรมการประมง

หากต้องการอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของ Mary Kay ในด้านความยั่งยืน โปรดไปที่ marykayglobal.com/sustainability และดาวน์โหลดกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay เพื่อชีวิตที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นในวันนี้ เพื่อความยั่งยืนในอนาคค

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy (TNC)

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ผืนแผ่นดินและน่านน้ำที่ทุกชีวิตต้องพึ่งพา โดยมีการสร้างนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ วิธีแก้ไขปัญหาเพื่อรับมือกับความท้าทายที่ยากมากสำหรับโลกของเรา เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเติบโตไปพร้อมกัน เรากำลังรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์ผืนแผ่นดิน น่านน้ำ และมหาสมุทรในระดับที่ไม่เคยทำมาก่อน พร้อมทั้งจัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยให้เมืองต่าง ๆ มีความยั่งยืนมากขึ้น โดยการทำงานใน 79 ประเทศและเขตแดน เราใช้แนวทางการทำงานร่วมกันเพื่อให้มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่น ๆ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press ได้ที่ Twitter

เกี่ยวกับ Mary Kay Inc.

หนึ่งในผู้ผลิตฝ้าเพดานกระจกรุ่นบุกเบิก Mary Kay Ash ได้ก่อตั้งบริษัทเกี่ยวกับความสวยความงามตามความฝันของเธอขึ้นในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือ ทำให้ชีวิตของผู้หญิงทุกคนมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยความฝันของเธอได้เติบโตเบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะที่เป็นบริษัทพัฒนาสตาร์ทอัพ Mary Kay มีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มศักยภาพให้กับผู้หญิงผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนทางวิทยาศาสตร์เสริมความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำชีวิตให้ดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยมีการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นและส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการทารุณกรรมในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงามยิ่งขึ้น และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราได้ที่ FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/52963296/en

ติดต่อ

Mary Kay Inc.
Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

The Nature Conservancy
Misty Edgecomb
Communications Director
medgecomb@tnc.org or 484-343-3223

แหล่งข้อมูล: Mary Kay Inc.






เป้าหมายการลดคาร์บอนของ CEMEX ตรวจสอบโดย SBTi เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะโลกร้อน 1.5ºC

Logo

  • CEMEX เป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ทั่วโลกที่ตรวจสอบเป้าหมายการลดคาร์บอนในปี 2030 ผ่าน SBTi เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะโลกร้อน 1.5ºC
  • เป้าหมายของ CEMEX เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ทะเยอทะยานที่สุดในอุตสาหกรรม

มอนเตร์เรย์, เม็กซิโก–(BUSINESS WIRE)–10 พฤศจิกายน 2022

CEMEX, S.A.B. de C.V. (“CEMEX”) ประกาศวันนี้ว่า ตนเป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ทั่วโลกที่ตรวจสอบเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอนในปี 2030 ผ่านโครงการ Science Based Targets (SBTi) เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะโลกร้อน 1.5ºC ซึ่งเป็นเส้นทางที่มีความทะเยอทะยานที่สุดที่กำหนดไว้สำหรับอุตสาหกรรมนี้ การตรวจสอบนี้ประกอบด้วยเป้าหมายขอบเขต 1, 2 และ 3

CEMEX ผู้ผลิตคอนกรีตรายใหญ่ที่สุดของโลกตะวันตกและเป็นผู้นำระดับโลกด้านการผลิตปูนซีเมนต์ เร่งความพยายามในการกำจัดคาร์บอนผ่านโครงการ Future in Action ในปี 2021 โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนและมีการหมุนเวียนมากขึ้น โดยมีเป้าหมายหลักในการเป็นบริษัทที่มี CO2  สุทธิเท่ากับศูนย์ ตั้งแต่นั้นมา บริษัทก็ประสบความสำเร็จในการลด CO2  ซึ่งเป็นการทำลายสถิติ และผลการดำเนินงานจนถึงปัจจุบันทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่เร็วขึ้นสำหรับปี 2030

Fernando A. González ซีอีโอของ CEMEX กล่าวว่า "การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคเรา และอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างต้องเป็นคนแรกๆ ที่เริ่มกำจัดคาร์บอนให้กับสิ่งแวดล้อมที่สร้างขึ้น" “เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำบนเส้นทางสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์โดยอาศัยนวัตกรรมที่พัฒนาอยู่ตลอดและเป้าหมายเชิงรุกที่ได้รับการสนับสนุนจากความก้าวหน้าที่มีความหมายและวัดผลได้ การตรวจสอบความถูกต้องของ SBTi เป็นหลักฐานที่ชัดเจนในเรื่องนี้ เรากำลังลดการปล่อยคาร์บอนในทุกส่วนของห่วงโซ่คุณค่าของเราโดยอาศัยโครงการ Future in Action และจัดหาผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำให้แก่ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นส่วนหนึ่งของวิธีแก้ปัญหานี้”

Luiz Amaral ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโครงการ Science Based Targets กล่าวว่า "วิทยาศาสตร์ภูมิอากาศบอกว่าเราต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างรวดเร็วและมหาศาล หากเราต้องการบรรลุเป้าหมายที่โลกการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์" “ปัจจุบันหลายบริษัทเริ่มลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่าตามหลักวิทยาศาสตร์ และกำลังมีส่วนร่วมในการจำกัดไม่ให้โลกร้อนเกิน 1.5 °C และ CEMEX ก็เป็นหนึ่งในนั้น”

โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป้าหมายของ CEMEX ที่ www.cemex.com/sustainability/future-in-action

โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SBTi ที่www.sciencebasedtargets.org

CEMEX (NYSE: CX) เป็นบริษัทวัสดุก่อสร้างระดับโลกที่กำลังสร้างอนาคตที่ดีกว่าผ่านผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นที่ยั่งยืน CEMEX มุ่งมั่นที่จะทำให้บริษัทบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนผ่านนวัตกรรมที่ไม่หยุดยั้ง รวมถึงการวิจัยและการพัฒนาระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม CEMEX เป็นแนวหน้าของเศรษฐกิจหมุนเวียนในห่วงโซ่มูลค่าการก่อสร้าง และเป็นผู้บุกเบิกวิธีเพิ่มการใช้ของเสียและกากของเสียเป็นวัตถุดิบ และเชื้อเพลิงทางเลือกในดำเนินกิจการด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ CEMEX มีโซลูชั่นด้านปูนซีเมนต์ คอนกรีตผสมเสร็จ วัสดุผสม และการสร้างเมืองในประเทศที่กำลังเติบโตทั่วโลก ขับเคลื่อนโดยแรงงานข้ามชาติที่มุ่งเน้นการมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าแก่ลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่: cemex.com

CEMEX ไม่มีภาระผูกพันในการปรับปรุงหรือแก้ไขข้อมูลในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าตามความหมายของกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกา CEMEX ตั้งใจให้ข้อความที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้อยู่ภายใต้บทบัญญัติด้านความปลอดภัยสำหรับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าในกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกา ข้อความที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้สะท้อนถึงความคาดหวังและการคาดการณ์ในปัจจุบันของ CEMEX เกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคตโดยอิงจากความรู้ของ CEMEX เกี่ยวกับข้อเท็จจริงและสถานการณ์ในปัจจุบัน และสมมติฐานเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคต ตลอดจนแผนปัจจุบันของ CEMEX ตามข้อเท็จจริงและสถานการณ์ดังกล่าว ข้อความเหล่านี้จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างไปอย่างมากจากที่ CEMEX คาดหวัง เนื้อหาของข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรตีความข้อมูลดังกล่าวหรือเนื้อหาอื่นใด เช่น คำแนะนำทางกฎหมาย ภาษี การลงทุน การเงิน หรือคำแนะนำอื่นๆ CEMEX จะไม่รับผิดชอบต่อเนื้อหาของเว็บไซต์หรือหน้าเว็บของบุคคลที่ 3 ที่อ้างอิงหรือเข้าถึงได้ผ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

สื่อประชาสัมพันธ์
Jorge Pérez
+52 (81) 8259-6666
jorgeluis.perez@cemex.com

นักวิเคราะห์และนักลงทุนสัมพันธ์
Alfredo Garza / Fabián Orta
+1 (212) 317-6011
+52 (81) 8888-4327
ir@cemex.com

แหล่งข้อมูล: CEMEX, S.A.B. de C.V.

The Bangkok Reporter