Shohei Ohtani เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนใหม่ของ Beats

Logo

CULVER CITY, Calif.–(BUSINESS WIRE)–05 กันยายน 2024

Beats by Dr. Dre (Beats) ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้แต่งตั้ง Shohei Ohtani ดาวเด่นของทีมเบสบอลเมเจอร์ลีกและทีม Los Angeles Dodgers ให้เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์อย่างเป็นทางการ โดย Ohtani จะปรากฏตัวในแคมเปญการตลาดของ Beats ที่เน้นย้ำถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์อันทรงพลังของแบรนด์

Shohei Ohtani wearing Beats Solo Buds true wireless earphones (Photo: Business Wire)

Shohei Ohtani ใช้หูฟังแบบไร้สาย Beats Solo Buds ที่ยอดเยี่ยม (ภาพถ่าย: Business Wire)

“ในฐานะแอมบาสซาเดอร์ของ Beats ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับนักกีฬาที่ยอดเยี่ยมอย่าง Lebron James และ Lionel Messi” Shohei Ohtani กล่าว “ผมรู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสใหม่ที่ได้รับจากความร่วมมือในครั้งนี้”

เกี่ยวกับ Beats

Beats by Dr. Dre (Beats) เป็นแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2006 โดย Dr. Dre และ Jimmy Iovine โดย Beats มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านความบันเทิงคุณภาพระดับพรีเมียมแก่คนรุ่นใหม่ โดยมีพร้อมทั้งหูฟังครอบหัว หูฟังแบบใส่ในช่องหู และลำโพงระดับพรีเมียม ความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของแบรนด์ช่วยนำพลัง อารมณ์ และความตื่นเต้นในการเล่นเพลงในสตูดิโอบันทึกเสียงกลับคืนสู่ประสบการณ์การฟังเพลงสำหรับคนรักดนตรีทั่วโลก โดย Apple Inc. ได้เข้าซื้อกิจการของ Beats เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2014

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54117087/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

press@beatsbydre.com

แหล่งข้อมูล: Beats by Dr. Dre

TOM FORD ประกาศแต่งตั้ง Haider Ackermann เป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์

Logo

นิว ยอร์ก –(BUSINESS WIRE)– TOM FORD ประกาศแต่งตั้ง Haider Ackermann เป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ โดยมีผลทันที

โดยในบทบาทใหม่นี้ Ackermann จะรับหน้าที่เป็นผู้นำด้านความคิดสร้างสรรค์ในหมวดหมู่แฟชั่นของ TOM FORD ทั้งหมด รวมถึงเสื้อผ้าบุรุษ เสื้อผ้าสตรี เครื่องประดับ และแว่นตา และจะกำหนดวิสัยทัศน์ด้านความคิดสร้างสรรค์สำหรับแบรนด์โดยรวมด้วย โดย TOM FORD นั้นมี The Estée Lauder Companies Inc. (NYSE:EL) เป็นเจ้าของ โดยมี Ermenegildo Zegna Group (NYSE:ZGN) เป็นผู้ถือสิทธิ์ในส่วนของธุรกิจแฟชั่น และ Marcolin SpA เป็นผู้ถือสิทธิ์ในส่วนของธุรกิจแว่นตา

Haider Ackermann appointed Creative Director, TOM FORD. (Photo Credit: Ethan James Green)

Haider Ackermann ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์, TOM FORD. (เครดิตรูปภาพ: Ethan James Green)

โดยผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง Tom Ford ได้กล่าวว่า “ผมเป็นแฟนตัวยงในผลงานของ Haider มาอย่างยาวนาน โดยผมรู้สึกว่าทั้งเสื้อผ้าผู้หญิงและเสื้อผ้าผู้ชายของเขาต่างก็มีเสน่ห์ดึงดูดใจไม่แพ้กันเลย เขาเป็นช่างทำสีที่ยอดเยี่ยม มีการตัดเย็บที่เฉียบคม และเหนือสิ่งอื่นใดคือเขาเป็นคนที่ทันสมัย ซึ่งเราต่างก็มีหลักทางประวัติศาสตร์ที่เหมือนกันหลายอย่าง และผมตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นเขาทำสิ่งต่างๆ กับแบรนด์นี้ และผมคงจะเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นยืนปรบมือให้เขาหลังจากจบโชว์ในเดือนมีนาคม”

Ackermann เป็นชาวฝรั่งเศสที่เกิดที่โบโกตา ประเทศโคลอมเบีย เขาเติบโตมาในเอธิโอเปีย ชาด แอลจีเรีย เนเธอร์แลนด์ และเบลเยียม โดยศึกษาแฟชั่นที่ Royal Academy of Fine Arts ในเมืองอันธ์เวิร์ป โดยเขาสร้างชื่อจากการผสมผสานผ้าหรูหราเข้ากับการตัดเย็บอันไร้ที่ติ และได้รับการยกย่องจากผลงานการออกแบบที่ล้ำสมัยแต่สามารถสวมใส่ได้จริง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าคนดัง

โดย Ackermann กล่าวว่า “ผมภูมิใจอย่างยิ่งที่จะสืบสานตำนานของ Tom Ford เขาเป็นคนที่ผมชื่นชมและเคารพนับถือมานาน และผมตื่นเต้นที่จะได้รู้ว่ามีอะไรรออยู่ข้างหน้า”

คอลเลกชั่นแรกของ Ackermann จะเปิดตัวในงาน Paris Fashion Week ในเดือนมีนาคมปี 2025 โดยเขาจะประจำอยู่ที่ปารีสและรายงานต่อ Guillaume Jesel ประธานและซีอีโอของ TOM FORD และ Luxury Business Development ของ The Estée Lauder Companies และต่อ Lelio Gavazza ซีอีโอของ TOM FORD FASHION ของ Ermenegildo Zegna Group

โดย Jesel กล่าวว่า “Haider โดดเด่นในด้านของการเป็นหนึ่งในผู้มีความสามารถด้านแฟชั่นที่มีวิสัยทัศน์และเป็นแรงบันดาลใจสูงสุดของโลก เขาใช้ความผูกพันอันลึกซึ้งที่มีต่อวัฒนธรรมและศิลปะระดับโลกเพื่อสร้างสรรค์แฟชั่นอันดึงดูดใจและสร้างความผูกพันทางอารมณ์ที่น่าจดจำ เขาคือบุคคลในอุดมคติที่จะนำ TOM FORD ไปสู่อนาคต”

Gavazza กล่าวว่า “ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ Haider เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ TOM FORD ความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่มีใครเทียบได้ของเขานั้นเป็นไปในทางเดียวกันกับ DNA ของแบรนด์ รวมถึงประสบการณ์อันเลื่องชื่อในด้านความหรูหราจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจแฟชั่นให้ก้าวไปข้างหน้าในช่วงการขยายตัวที่สำคัญครั้งต่อไป ด้วยการทำงานร่วมกับทีมงานมากความสามารถของ TOM FORD FASHION วิสัยทัศน์อันทันสมัยของ Haider ในด้านเสื้อผ้าสำหรับผู้ชายและผู้หญิงจะเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในขณะที่เราก้าวไปข้างหน้าและทำโครงการต่างๆ มากมายที่เรากำลังพัฒนาอยู่”

เกี่ยวกับ TOM FORD

TOM FORD คือบ้าน (แบรนด์) แห่งดีไซน์ระดับโลกที่นำเสนอผลิตภัณฑ์หรูหราเหนือระดับทั้งแฟชั่น เครื่องประดับ แว่นตา และผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย ก่อตั้งขึ้นโดย Tom Ford เมื่อปี 2005 และมีจำหน่ายในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นสถาปนิกผู้รังสรรค์ความหรูหรา ในปี 2023 The Estée Lauder Companies กลายเป็นเจ้าของแบรนด์ TOM FORD และทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว โดยในการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ The Estée Lauder Companies ได้จัดทำสิทธิ์การอนุญาตระยะยาวกับ Ermenegildo Zegna Group สำหรับ TOM FORD FASHION และ Marcolin สำหรับ TOM FORD EYEWEAR

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54116918/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

การติดต่อสำหรับสื่อ:
Giuseppe Torrisi
TOM FORD, Global Communications Director
Giuseppe.Torrisi@tomfordfashion.com

แหล่งข้อมูล: TOM FORD

AGC Group ได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ Cradle to Cradle Certified® สำหรับผลิตภัณฑ์กระจกโฟลตและกระจกเคลือบในเอเชีย

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–05 กันยายน 2024

ผลิตภัณฑ์กระจกโฟลตและกระจกเคลือบของ AGC Glass Asia Pacific ได้รับรางวัล Cradle to Cradle Certificated® Bronze*1 โดยการรับรองนี้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์กระจกโฟลตและกระจกเคลือบที่ผลิตโดยบริษัทในกลุ่ม AGC สองแห่งในเอเชีย ได้แก่ PT Asahimas Flat Glass Tbk และ AGC Float Glass (Thailand) Plc และเป็นไปตามการรับรองปัจจุบันของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Mirox MNGE

The AGC Group has successfully obtained Cradle to Cradle Certified® Certification for all of its flat and coated glass products in Asia. (Graphic: Business Wire)

AGC Group ได้รับการรับรอง Cradle to Cradle Certified® สำหรับผลิตภัณฑ์กระจกแบนและกระจกเคลือบทั้งหมดในเอเชีย (รูปภาพ: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์กระจกเคลือบและกระจกโฟลตได้รับการประเมินอย่างละเอียดตามเกณฑ์การประเมินหลัก 5 หมวดหมู่ ได้แก่ ความสมบูรณ์ของวัสดุ การนำวัสดุมาใช้ซ้ำ พลังงานหมุนเวียน การจัดการน้ำ และความเสมอภาคทางสังคม โดยการรับรองนี้ไม่เพียงแต่รับรองในด้านความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ได้รับการรับรองอาคารสีเขียว เช่น LEED, WELL และ Green Star (ออสเตรเลีย) อีกด้วย

กลุ่มบริษัท AGC ได้กำหนด “คุณค่าทางสังคมสามประการ” ที่จะสร้างขึ้นผ่านผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีต่างๆ ในแผนการบริหารจัดการระยะกลาง AGC plus-2026 ในจำนวนนี้ “Blue Planet” มีเป้าหมายที่จะมีส่วนสนับสนุนความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมโลกผ่านการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม เรามีความยินดีที่จะประกาศว่าผลิตภัณฑ์กระจกโฟลตและกระจกเคลือบของเราได้รับการรับรอง Cradle to Cradle Certified®*2 แล้ว หลังจากการตรวจสอบ EPD*3 verification in 2022 โดยกลุ่มบริษัทของเรากำลังเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมก่อสร้าง

[หมายเหตุ]
*1 การรับรองนี้มีพื้นฐานมาจากเวอร์ชัน 3.1
*2 AGC Glass Asia Pacific Sustainable Product Certifications
*3 AGC Glass Asia Pacific Embodied Carbon in Glass & EPD

เกี่ยวกับ AGC

AGC Inc. (สำนักงานใหญ่: โตเกียว, ประธานและ CEO: Yoshinori Hirai) (TOKYO:5201) เป็นบริษัทแม่ของ AGC Group ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำของโลกในด้านผลิตภัณฑ์กระจกและซัพพลายเออร์กระจกแบน กระจกรถยนต์และกระจกหน้าจอ สารเคมี เซรามิก และวัสดุและส่วนประกอบไฮเทคอื่นๆ AGC Group ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยมากมายโดยอาศัยนวัตกรรมทางเทคนิคนานกว่าศตวรรษ กลุ่มบริษัทมีพนักงานทั่วโลกประมาณ 57,000 คนและสร้างยอดขายประจำปีประมาณ 2.0 ล้านล้านเยนญี่ปุ่น (ประมาณ 13,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) จากการดำเนินงานในกว่า 30 ประเทศและภูมิภาค ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ AGC และบน LinkedIn

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54116541/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Irene Cheng, Tel: +65 6273 5656, Email: aap.glass@agc.com

แหล่งข้อมูล: AGC Inc.

Blackstone ประกาศข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการ AirTrunk ด้วยมูลค่า 24 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย

Logo

ซิดนีย์–(BUSINESS WIRE)–04 กันยายน 2024

กองทุนที่บริหารจัดการโดย Blackstone Real Estate Partners, Blackstone Infrastructure Partners, Blackstone Tactical Opportunities และกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นเอกชนของ Blackstone สำหรับนักลงทุนรายบุคคล ร่วมกับ Canada Pension Plan Investment Board (“CPP Investments”) ได้ลงนามในข้อตกลงขั้นสุดท้ายเพื่อเข้าซื้อกิจการ AirTrunk ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มศูนย์ข้อมูลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จาก Macquarie Asset Management และ Public Sector Pension Investment Board ด้วยมูลค่ากิจการโดยนัยกว่า 24,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยนี่ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดของ Blackstone ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยธุรกรรมดังกล่าวต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการตรวจสอบการลงทุนจากต่างประเทศของออสเตรเลีย

AirTrunk เป็นแพลตฟอร์มศูนย์ข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีสำนักงานอยู่ในออสเตรเลีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฮ่องกง และสิงคโปร์ มีกำลังการผลิตที่พร้อมให้บริการลูกค้ามากกว่า 800 เมกะวัตต์ และเป็นเจ้าของที่ดินที่สามารถรองรับการเติบโตในอนาคตมากกว่า 1 กิกะวัตต์ทั่วทั้งภูมิภาค

Jon Gray ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Blackstone กล่าวว่า “นี่คือ Blackstone ที่ดีที่สุด ซึ่งใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มระดับโลกของเราเพื่อต่อยอดประโยชน์จากแนวคิดบนความมุ่งมั่นสูงสุดของเรา โดย AirTrunk ถือเป็นอีกก้าวสำคัญ เนื่องจาก Blackstone มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลชั้นนำของโลกในระบบนิเวศน์ รวมถึงศูนย์ข้อมูล พลังงาน และบริการที่เกี่ยวข้อง”

Sean Klimczak หัวหน้าฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกของ Blackstone และ Nadeem Meghji หัวหน้าร่วมฝ่ายอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกของ Blackstone กล่าวว่า “โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลกำลังเผชิญกับความต้องการที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งเกิดขึ้นโดยการปฏิวัติของ AI เช่นเดียวกับการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลในวงกว้างของเศรษฐกิจ โดยก่อนที่จะเข้าซื้อกิจการ AirTrunk ผลงานเด่นๆ ของ Blackstone นั้นประกอบด้วยศูนย์ข้อมูลมูลค่า 55,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่กำลังก่อสร้างอยู่ พร้อมด้วยโครงการพัฒนาในอนาคตมูลค่ากว่า 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมมือกับทีมผู้บริหารมากความสามารถของ AirTrunk เพื่อเสริมการเติบโตให้มากขึ้น”

Robin Khuda ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ AirTrunk กล่าวว่า “ธุรกรรมนี้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม AirTrunk ในภาคส่วนที่ทำผลงานได้ดี เนื่องจากเราคว้าโอกาสในการเติบโตครั้งต่อไปจากบริการคลาวด์และ AI และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เรามุ่งหวังที่จะร่วมงานกับ Blackstone และ CPP Investments และได้รับประโยชน์จากเงินทุนมหาศาล ความเชี่ยวชาญในภาคส่วน และเครือข่ายอันทรงคุณค่าในตลาดประเทศต่างๆ ซึ่งจะช่วยรองรับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของ AirTrunk”

โดยคาดว่าจะมีการใช้จ่ายในด้านเงินทุนประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในสหรัฐอเมริกาในช่วงห้าปีข้างหน้าเพื่อสร้างและอำนวยความสะดวกให้กับศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่ โดยยังมีค่าใช้จ่ายด้านเงินทุนอีก 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ซึ่ง Blackstone จะใช้ประโยชน์จากการดำเนินการนี้ในฐานะผู้ลงทุนชั้นนำระดับโลกด้านศูนย์ข้อมูล โดยทาง Blackstone ได้ลงทุนทั้งในส่วนของหนี้และเงินทุนของบริษัทศูนย์ข้อมูลอื่นๆ รวมถึงในฐานะเจ้าของ QTS ซึ่งเป็นบริษัทศูนย์ข้อมูลที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกอย่าง Coreweave และ Digital Realty ด้วย นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นไปที่การตอบสนองความต้องการพลังงานของภาคส่วนต่างๆ ในรูปแบบที่แตกต่างกันมากมาย รวมถึงในฐานะผู้ลงทุนในบริษัทพลังงานและสาธารณูปโภค เช่น Invenergy ผู้พัฒนาพลังงานหมุนเวียนอิสระรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

เกี่ยวกับ Blackstone

Blackstone คือบริษัทจัดการสินทรัพย์ทางเลือกที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเรามุ่งมั่นที่จะมอบผลตอบแทนที่คุ้มค่าการลงทุนให้กับนักลงทุนสถาบันและรายบุคคลโดยการเสริมศักยภาพให้กับบริษัทที่เราลงทุนด้วย เรามีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมถึงกลยุทธ์การลงทุนระดับโลกที่เน้นไปที่อสังหาริมทรัพย์ หุ้นเอกชน โครงสร้างพื้นฐาน ชีววิทยาศาสตร์ หุ้นเพื่อการเติบโต สินเชื่อ สินทรัพย์จริง สินทรัพย์รอง และกองทุนป้องกันความเสี่ยง โดยผู้สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.blackstone.com หรือติดตาม @blackstone บน LinkedIn, X (Twitter) และ Instagram

1 รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านเงินทุนสำหรับโครงการที่ให้สัญญาไว้

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Blackstone Media Contacts
Mariko Sanchanta
Blackstone
mariko.sanchanta@blackstone.com | +852 3656 7738

Hayley Morris
MorrisBrown Communications Pty Ltd
hayley@morris-brown.com.au | +61 407 789 018

แหล่งข้อมูล: Blackstone

Toshiba ทำการจัดหาตัวอย่าง IC อินเทอร์เฟซการตอบสนอง CXPI สำหรับยานยนต์ซึ่งจะช่วยลดเวลาพัฒนาซอฟต์แวร์ลงได้

Logo

– IC อินเทอร์เฟซการตอบสนอง CXPI ตัวแรกในอุตสาหกรรม[1]พร้อมลอจิกฮาร์ดแวร์ในตัว

คาวาซากิ, ประเทศญี่ปุ่น –(BUSINESS WIRE)–03 กันยายน 2024

วันนี้บริษัท Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation หรือ Toshiba ได้เริ่มจัดหาตัวอย่าง “TB9033FTG” ซึ่งเป็น IC อินเทอร์เฟซการตอบสนอง Clock Extension Peripheral Interface[2]  (CXPI) สำหรับยานยนต์ตามมาตรฐาน CXPI สำหรับโปรโตคอลการสื่อสารในรถยนต์

Toshiba: TB9033FTG, an automotive Clock Extension Peripheral Interface (CXPI) responder interface IC. (Graphic: Business Wire)

Toshiba: TB9033FTG, ชิปวงจรอินทิเกรตที่เป็นตัวรับสัญญาณสำหรับอินเทอร์เฟซต่อพ่วงส่วนขยายนาฬิกาในระบบยานยนต์ (กราฟิก: Business Wire)

TB9033FTG เป็น IC ประเภทนี้ตัวแรกของอุตสาหกรรม[1] ที่มีลอจิกฮาร์ดแวร์ในตัว[3] ซึ่งควบคุมการรับส่งสัญญาณโดยใช้โปรโตคอล CXPI และอินพุต/เอาต์พุตเอนกประสงค์ (GPIO) ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยลดความการพึ่งพาการพัฒนาซอฟต์แวร์เฉพาะทางและช่วยลดเวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อีกด้วย

IC ใหม่นี้ประกอบไปด้วยพิน GPIO จำนวน 16 พิน โดย 6 พินสามารถสลับเป็นอินพุตตัวแปลง AD และ 4 พินเป็นเอาต์พุตการปรับความกว้างของพัลส์ (PWM) นอกจากนี้ยังผสานรวมฟังก์ชันต่างๆ ที่ช่วยให้ใช้งานได้ในแอพพลิเคชันยานยนต์หลากหลายประเภท เช่น การตรวจสอบอินพุตระหว่างโหมดสลีป อินพุตเมทริกซ์สวิตช์ (สูงสุด 4×4) และเอาต์พุตในกรณีที่การสื่อสารหยุดชะงัก

วงจรตรวจจับความผิดพลาดในกรณีที่ความร้อนสูงเกินไป แรงดันไฟเกิน และแรงดันไฟต่ำจะถูกสร้างไว้ใน IC และยังสามารถตรวจหาสภาวะที่เกิดขึ้นก่อนเกิดความผิดปกติและส่งข้อมูลไปยังโหนดคอมมานเดอร์เพื่อช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการตรวจจับความผิดพลาดในการใช้งานยานยนต์ได้อีกด้วย

ช่วงอุณหภูมิในการทำงานจะอยู่ที่ -40 ถึง 125°C ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในยานยนต์ และ IC จะเป็นไปตามมาตรฐานคุณสมบัติ AEC-Q100 สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในยานยนต์

ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้รองรับการมัลติเพล็กซ์การสื่อสารของยานยนต์และการลดจำนวนสายไฟที่ใช้ในระบบควบคุมตัวถัง ซึ่งจะทำให้รถมีน้ำหนักเบาลง

นอกจากนี้ Toshiba ยังพัฒนา IC ตัวรับไดรเวอร์การสื่อสาร CXPI สำหรับยานยนต์อย่าง “TB9032FNG” ที่สามารถสลับระหว่างโหนดผู้ควบคุมและโหนดตัวตอบสนองได้โดยใช้พินภายนอก

หมายเหตุ:

[1] เป็น IC อินเทอร์เฟซ CXPI สำหรับโหนดผู้ตอบสนอง ณ วันที่ 3 กันยายน 2024 จากการสำรวจของ Toshiba
[2] CXPI (Clock Extension Peripheral Interface) เป็นมาตรฐานการสื่อสารที่พัฒนาขึ้นในญี่ปุ่นสำหรับเครือข่ายย่อยสำหรับยานยนต์ที่ได้มาจาก LIN[4]
[3] วงจรตรรกะที่ใช้ฮาร์ดแวร์กำหนดค่าโดยไม่ใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์
[4] LIN (Local Interconnect Network) เป็นมาตรฐานการสื่อสารสำหรับเครือข่ายย่อยออนบอร์ดที่มีต้นทุนต่ำกว่าและความเร็วต่ำกว่าที่ได้มาจาก CAN[5]
[5] CAN (Controller Area Network) เป็นมาตรฐานการสื่อสารแบบอนุกรม ที่โดยหลักๆ แล้วจะใช้เป็นเครือข่ายการสื่อสารสำหรับยานยนต์

การใช้งาน

ยานยนต์

  • การใช้งานระบบควบคุมตัวถัง (สวิตช์พวงมาลัย สวิตช์ชุดมาตรวัด สวิตช์ไฟ การล็อกประตู กระจกมองข้าง ฯลฯ)

คุณสมบัติต่างๆ

  • IC อินเทอร์เฟซตัวตอบสนองที่เป็นไปตามมาตรฐาน CXPI สำหรับโปรโตคอลการสื่อสารสำหรับยานยนต์
  • การตอบสนองความเร็วสูงเหมาะสำหรับการใช้งานระบบตัวถังรถยนต์ (เมื่อเทียบกับ LIN)
  • พิน GPIO จำนวน 16 พิน (สามารถสลับพิน 4 พินเป็นเอาต์พุต PWM และอีก 6 พินสามารถแปลงเป็นอินพุตตัวแปลง AD ได้)
  • ฟังก์ชันอินพุตเมทริกซ์สวิตช์ (สูงสุด 4×4)
  • ฟังก์ชันการตรวจหาข้อผิดพลาด เช่น ความร้อนสูงเกินไป แรงดันไฟเกิน และแรงดันไฟต่ำ (ผลิตภัณฑ์นี้สามารถตรวจหาสภาวะที่เกิดขึ้นก่อนเกิดความผิดปกติและส่งข้อมูลไปยังโหนดผู้บัญชาการโดยอัตโนมัติได้)
  • การใช้กระแสไฟฟ้าต่ำ (กระแสไฟฟ้าแสตนด์บาย): IVBAT_SLP=10μA (typ.)
  • EMI ต่ำและ EMS สูงทำให้การออกแบบเสียงรบกวนง่ายขึ้น
  • ทนทานต่อไฟฟ้าสถิตย์ได้ดีเนื่องจากมี ESD สูง
  • ได้รับการรับรอง AEC-Q100

ข้อมูลจำเพาะหลัก

 (Ta=-40 to 125°C)

หมายเลขชิ้นส่วน

TB9033FTG

มาตรฐาน

เป็นไปตามมาตรฐาน CXPI (ISO 20794-2 ถึง 4, ISO 14229-8) สำหรับโปรโตคอลการสื่อสารสำหรับยานยนต์

ฟังก์ชันการทำงาน

IC อินเทอร์เฟซ CXPI พร้อมลอจิกฮาร์ดแวร์ในตัว (โหนดผู้ตอบสนองเท่านั้น)

พิน I/O

พิน GPIO จำนวน 16 พิน (4.5 ถึง 5.5V)

(สามารถสลับพินจำนวน 6 พินไปยังวงจรอินพุตตัวแปลง AD 10 บิตได้ 1 วงจร และสามารถสลับพินจำนวน 4 พินไปยังวงจรเอาท์พุต PWM 8 บิตได้ 4 วงจร)

ฟังก์ชันอินพุต

  • การติดตามอินพุตขณะอยุ่ในโหมดสลีป
  • ตั้งค่าฟิลเตอร์การสั่นของอินพุต
  • การตั้งค่าสวิตช์เมทริกซ์ (สูงสุด 4×4)
  • การสุ่มตัวอย่างค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของตัวแปลง AD (สามารถตั้งเวลาและจำนวนครั้งได้)

ฟังก์ชันเอาท์พุต

  • การควบคุมการเปิด/ปิดเอาท์พุต (สามารถตั้งเวลาและจำนวนครั้งได้)
  • การควบคุมเอาท์พุตเมื่อการสื่อสารหยุดชะงัก
  • การตั้งค่าความถี่ PWM

หน่วยความจำในตัว

หน่วยความจำแบบไม่มีการลบ (บันทึกการตั้งค่าพิน I/O, สามารถเขียนซ้ำได้ และกำหนดรหัสผ่านได้)

ฟังก์ชันการตรวจหาความผิดพลาด

ความร้อนสูงเกินไป แรงดันไฟฟ้าเกิน และแรงดันไฟฟ้าต่ำ (ผลิตภัณฑ์นี้สามารถตรวจหาสภาวะที่เกิดขึ้นก่อนที่จะเกิดความผิดปกติและส่งข้อมูลไปยังโหนดผู้ควบคุมได้โดยอัตโนมัติ)

ค่าสงสุดสัมบูรณ์

แรงดันไฟฟ้าของแหล่งจ่ายไฟ

VVBAT (V)

-0.3 ถึง 40

ลักษณะทางไฟฟ้า

ช่วงการทำงานปกติของ VBAT

VVBAT (V)

6 ถึง 18

อัตราการใช้กระแสไฟฟ้า (กระแสไฟสแตนด์บาย)

IVBAT_SLP (μA)

Typ.

10

อุณหภูมิในการทำงาน

Ta (°C)

-40 ถึง 125

ความเร็วในการสื่อสาร (kbps)

สูงสุด

20

แพ็คเกจ

ชื่อ

P-VQFN28-0606-0.65-003

ขนาด (มม.)

6×6

การทดสอบความน่าเชื่อถือ

ต้องผ่านเกณฑ์ AEC-Q100 (Grade 1)

ล็อตการผลิต

ธันวาคม 2025

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภณฑ์ใหม่ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้
TB9033FTG

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เครือข่ายการสื่อสารยานยนต์ของ Toshiba ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้
Automotive Network Communication

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง
* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคา และข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลการติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับToshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation เป็นซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านเซมิคอนดักเตอร์และโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลขั้นสูง มีประสบการณ์และสร้างนวัตกรรมเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์แบบแยกส่วน ระบบ LSI และผลิตภัณฑ์ HDD ที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจมานานกว่าครึ่งศตวรรษ
พนักงาน 19,400 คนทั่วโลกมุ่งมั่นที่จะร่วมกันสร้างผลิตภัณฑ์ให้มีคุณค่าสูงสุด และส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ร่วมกัน โดยบริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างและมีส่วนสนับสนุนอนาคตที่ดีกว่าสำหรับทุกคนทั่วโลก
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54115381/en

ข้อมูลติดต่อ

การสอบถามสำหรับลูกค้า:
แผนกขายและการตลาดสำหรับอุปกรณ์อะนาล็อกและยานยนต์
Tel: +81-44-548-2219
ติดต่อเรา

การสอบถามข้อมูลสื่อ:
Chiaki Nagasawa
แผนกการตลาดดิจิทัล
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

แหล่งข้อมูล: Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

NIPPON KINZOKU จัดแสดงในงาน “STAINLESS STEEL WORLD ASIA 2024”

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–04 กันยายน 2024

NIPPON KINZOKU CO., LTD. (TOKYO: 5491, สำนักงานใหญ่: เขตมินาโตะ โตเกียว) และ Tokyo Stainless Grinding Co., Ltd. (สํานักงานใหญ่: เขตซูมิดะ โตเกียว) จะร่วมเข้าร่วมในงาน STAINLESS STEEL WORLD ASIA 2024 ซึ่งเป็นนิทรรศการที่จะจัดขึ้นที่ Singapore EXPO ในสิงคโปร์ระหว่างวันที่ 11 (พุธ) ถึง 12 กันยายน (พฤหัสบดี) 2024

We will exhibit our carbon neutral products such as high-performance stainless steel, high-precision tubes, profile rolled products (Fine Profile), and rolled magnesium alloy materials, along with examples of their applications. (Graphic: Business Wire)

เราจะจัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่เป็นกลางทางคาร์บอน เช่น สแตนเลสสตีลประสิทธิภาพสูง ท่อความแม่นยําสูง ผลิตภัณฑ์ขึ้นรูปโปรไฟล์ (Fine Profile) และวัสดุโลหะผสมแมกนีเซียมขึ้นรูป พร้อมตัวอย่างการใช้งาน (กราฟิก: Business Wire)

• รายละเอียดการจัดแสดง
1. สแตนเลสสตีล
(1) แผ่นฟอยล์สแตนเลสหน้ากว้าง
โรงงานรีดแผ่นฟอยล์สามารถผลิตแผ่นที่มีความหนา ±1.0 μm ของค่าพิกัดความเผื่อ โดยสามารถผลิตแผ่นที่มีความกว้างสูงสุด 620 มม.

(2) ผิวเคลือบแบบ L•Core
เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความต้านทานการสัมผัสไฟฟ้ากับสแตนเลสสตีลต่ำ

(3) ผิวเคลือบแบบ FI
เป็นความต้านทานฉนวนพื้นผิวสูงและเป็นฟิล์มที่ทนต่อความร้อนสูง

(4) สแตนเลสสตีลทางการแพทย์
เป็นไปตามข้อบังคับเกี่ยวกับโคบอลต์ (Co: 0.1% หรือน้อยกว่า) ในระเบียบอุปกรณ์การแพทย์ของยุโรป (MDR)

2. โลหะผสมแมกนีเซียมใหม่ (ZA10)
 ZA10 ช่วยเพิ่มความสามารถในการขึ้นรูปแบบเย็นสําหรับโลหะผสมแมกนีเซียม ซึ่งโดยทั่วไปต้องผ่านการขึ้นรูปแบบร้อน นอกจากนี้เรายังยืนยันว่าโลหะผสมชนิดนี้มีคุณสมบัติในการนําความร้อนเทียบเท่ากับโลหะผสมอะลูมิเนียม และสามารถปรับปรุงเพื่อเพิ่มผลผลิตโดยการจัดหาวัสดุในรูปแบบคอยล์

3. แผ่นเหล็กไฟฟ้าบางเฉียบ
เราเป็นผู้ผลิตแผ่นเหล็กไฟฟ้าบางเฉียบเพียงรายเดียวที่มีความหนาน้อยกว่า 0.10 มม. ในญี่ปุ่น

4. “Fine Pipe” ที่มีพื้นผิวด้านในที่มีความแม่นยําสูง
ในบรรดาท่อที่มีความแม่นยําสูง (fine pipe) ของเราเป็นท่อที่มีพื้นผิวด้านในที่ได้รับการปรับปรุงสําหรับท่อแคพิลลารีที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็ก โดยสามารถให้ค่า Ra 0.5 μm หรือต่ำกว่า โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน 0.5 มม. ขึ้นไป

5. Fine Profile (ผลิตภัณฑ์ขึ้นรูปโปรไฟล์)
โดยการควบคุมรูปทรงและอุปกรณ์ขึ้นรูปโครงที่มีความแข็งแกร่งสูงของเรา ทำให้ได้ Fine Profile ที่มีความแม่นยำสูง Fine Profile เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสามารถลดต้นทุนการผลิตด้วยการเปลี่ยนรูปแบบการตัด

• ภาพรวมนิทรรศการ

STAINLESS STEEL WORLD ASIA 2024 เป็นนิทรรศการเทคโนโลยีวัสดุล้ำสมัยจากทั่วโลก

วันที่: 11(พุธ) – 12 (พฤหัสบดี) กันยายน 2024

สถานที่: Singapore EXPO, Hall 6 F52-25

ที่อยู่: 1 Expo Drive, #02-01, Singapore 486150

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของนิทรรศการ: stainless-steel-world-asia.com/
เว็บไชต์อย่างเป็นทางการของสถานที่: https://www.singaporeexpo.com.sg

• เว็บไซต์ของเราและกลุ่มบริษัทของเรา

NIPPON KINZOKU CO., LTD.:  https://www.nipponkinzoku.co.jp/en/
NIPPON KINZOKU (THAILAND) CO., LTD.:  https://www.fact-link.com/mem_content.php?pl=th&mem=00003164&page=00013873
NIPPON KINZOKU (MALAYSIA) SDN.BHD.:  https://www.malaysiabrand.com.my/website/kinzoku/

คลิกที่นี่เพื่อดูข้อความฉบับเต็ม
https://www.nipponkinzoku.co.jp/assets/images/2024/09/NIPPON-KINZOKU-Exhibit-at-STAINLESS-STEEL-WORLD-ASIA-2024.pdf

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54115951/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายพัฒนาการขาย
NIPPON KINZOKU CO., LTD.

อีเมล์: nikkin-overseas@nipponkinzoku.co.jp
https://www.nipponkinzoku.co.jp/en/inquiry

ที่มา: NIPPON KINZOKU CO., LTD.

กองทุนเพื่อการพัฒนาซาอุดีอาระเบียเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีรักษ์โลกด้วยเงินสนับสนุนการพัฒนากว่า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

Logo

RIYADH, Saudi Arabia–(BUSINESS WIRE)–03 กันยายน 2024

กองทุนเพื่อการพัฒนาซาอุดีอาระเบีย (SFD) เฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีในกรุงริยาดวันนี้ ภายใต้หัวข้อ “50 ปีรักษ์โลก” งานนี้เป็นการรวบรวมพันธมิตรการพัฒนาที่สำคัญมาร่วมกันสะท้อนถึงการมีส่วนร่วมสนับสนุนของ SFD เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั่วโลก ในช่วงห้าทศวรรษที่ผ่านมา SFD มีการจัดสรรเงินทุนกว่า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นเงินทุนสนับสนุนโครงการและโปรแกรมการพัฒนากว่า 800 โครงการในภาคส่วนต่างๆ ที่สำคัญ รวมถึง โครงสร้างพื้นฐานทางสังคม (การศึกษา การดูแลสุขภาพ น้ำและน้ำเสีย และที่อยู่อาศัยและการพัฒนาเมือง) การสื่อสารและการขนส่ง (ถนน ทางรถไฟ สนามบิน และท่าเรือ) พลังงาน การเกษตร การทำเหมืองแร่และอุตสาหกรรม และอื่นๆ

Saudi Fund for Development Celebrates 50 Years of Global Impact with Over $20 Billion in Development Contributions (Photo: AETOSWire)

กองทุนเพื่อการพัฒนาซาอุดีอาระเบียเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีรักษ์โลกด้วยเงินสนับสนุนการพัฒนากว่า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ภาพถ่าย: AETOSWire)

ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 1974 SFD เป็นหน่วยงานพัฒนาระหว่างประเทศหลักของสหราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และเป็นผู้สนับสนุนหลักที่สำคัญสำหรับประเทศกำลังพัฒนากว่า 100 ประเทศทั่วโลก ด้วยการมุ่งมั่นที่แรงกล้าในการสนับสนุนประเทศต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) SFD มีบทบาทที่สำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในประเทศด้อยพัฒนา (LDCs) และรัฐกำลังพัฒนาที่เป็นเกาะขนาดเล็ก (SIDS)

ในงาน H.E. Ahmed Al-Khateeb ประธานของ SFD เน้นย้ำถึงความสำคัญในการร่วมมือกันขับเคลื่อนการพัฒนาทั่วโลก และมีการเน้นย้ำว่า ความสำเร็จของ SFD มีรากฐานมาจากความร่วมมือ โดยมีโครงการและโปรแกรมการพัฒนา 27 โครงการในประเทศกำลังพัฒนา 23 ประเทศในปี 2023 ที่ร่วมทุนกับผู้สนับสนุนเงินทุนรายอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีการเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างพันธมิตรใหม่ๆ และส่งเสริมความสัมพันธ์ที่มีอยู่ เพื่อสร้างโลกที่ทุกคนมีโอกาสที่จะบรรลุศักยภาพสูงสุดของตนเอง

เมื่อพิจารณาถึงย่างก้าวอันสำคัญนี้ นาย Sultan bin Abdulrahman Al-Marshad CEO  ของ SFD กล่าวว่า: “ในขณะที่เราเฉลิมฉลองการทำงานที่มีก้าวย่างสำคัญมาเป็นเวลาห้าทศวรรษนี้ เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาเพื่อมุ่งเน้นการพึ่งพาตนเอง และมีความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจมากกว่าที่เคยเป็นมา เป้าหมายของเราคือ การสร้างความมั่นใจว่า เด็กทุกคนสามารถไปโรงเรียนได้ การศึกษาไม่ใช่สิทธิพิเศษ แต่เป็นสิ่งที่เด็กทุกคนควรได้รับ และครอบครัวสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพและบริการที่จำเป็นพื้นฐานได้ นอกจากนี้ เรายังมุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น การสร้างถนนและการปรับปรุงสนามบินและท่าเรือ เพื่อให้ประเทศต่างๆ มีความเจริญรุ่งเรือง และมีส่วนร่วมในการดำเนินการทางเศรษฐกิจและการค้า งานนี้ไม่ใช่เพียงการจัดหาเงินทุนเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการปรับปรุงชีวิตอย่างเป็นรูปธรรม การสร้างโอกาส การส่งเสิมศักยภาพชุมชน และการสร้างอนาคตที่รุ่งเรืองยิ่งขึ้น”

ในงานกาลาฉลองครอบรอบ 50 ปี SFD และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ได้ลงนามในข้อตกลงใหม่มูลค่า 25 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อร่วมทุนโครงการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนในหมู่เกาะโซโลมอน ซึ่งถือเป็นโครงการแรกของ SFD ในหมู่เกาะโซโลมอน โดยเป้าหมายหลักของโครงการนี้คือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานหมุนเวียน ลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล และส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาค

ข้อตกลงนี้สร้างขึ้นจากการมุ่งมั่นในการเปลี่ยนแปลงของ SFD ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาผ่านโครงการพัฒนาต่างๆ ที่ครอบคลุมทั้งแอฟริกา เอเชีย และแปซิฟิก ละตินอเมริกาและแคริบเบียน และยุโรปตะวันออก

โดยรวมถึงโครงการสำคัญต่างๆ เช่น Metolong ใน Lesotho ซึ่งได้รับเงินทุนสนับสนุน 25 ล้านเหรียญสหรัญ และปัจจุบันนี้ เป็นแหล่งน้ำดื่มที่สำคัญเพื่อผู้คนถึง 280,000 คน เพิ่มความมั่นคงด้านน้ำ สุขอนามัย และสุขภาพของประชาชนในภูมิภาคนี้ นี่เป็นเพียงหนึ่งใน 433 โครงการทั่วแอฟริกา โดยมีเงินทุนรวม 11,500 ล้านเหรียญสหรัฐ และมุ่งเน้นในภาคส่วนที่สำคัญ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน และความมั่นคงด้านน้ำ

ในเอเชีย SFD ได้ให้เงินทุนสนับสนุนแก่โครงการ 271 โครงการ โดยมีเงินทุนรวม 7,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ตัวอย่างที่โดดเด่นคือ การสนับสนุนโครงการพลังงานน้ำจาก Mohmand Dam  ของ SFD ในประเทศปากีสถาน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายโครงการโดยรวม 240 ล้านเหรียญสหรัฐ โครงการเหล่านี้มีส่วนร่วมสนับสนุนความมั่นคงด้านพลังงานและความสามารถในการต้านทานน้ำท่วมของประเทศ โดยสามารถผลิตพลังงานหมุนเวียน 800 เมกะวัตต์ และกักเก็บน้ำได้ถึง 1.6 ล้านลูกบาศก์เมตร

ในละตินอเมริกาและแคริบเบียน SFD มีการให้เงินทุนสนับสนุนใน 21 โครงการ เป็นเงินทุนรวม 951 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยรวมถึงการฟื้นฟูระบบน้ำและน้ำเสียในกรุงฮาวานา ประเทศคิวบา ซึ่ง SFD ได้มีการจัดสรรเงินทุน 35 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะ ความคิดริเริ่มที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ การสร้างโรงพยาบาล St. Jude ขึ้นใหม่ใน Saint Lucia โดยได้รับเงินทุนสนับสนุน 75 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนได้รับบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพสูง ในสถานพยาบาลที่ทันสมัยและล้ำสมัย และสามารถจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้อย่างเพียงพอเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในโรงพยาบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในยุโรปตะวันออก SFD ได้ร่วมให้เงินทุนสนับสนุน 14 โครงการ รวมมูลค่าการลงทุน 303 ล้านเหรียญสหรัฐ ความคิดริเริ่มที่สำคัญประการหนึ่งคือ การก่อสร้างถนน Tirana-Elbasan-Chokos-Chalf-Ploce โดย SFD มีการจัดสรรเงินทุน 73.8 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสร้างถนนและสะพานที่จำเป็นขึ้นใหม่ เพื่อช่วยกระตุ้นการดำเนินการทางเศรษฐกิจในภูมิภาค

ในงานเฉลิมฉลอง วิทยากรผู้ทรงเกียรติได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับบทบาทสำคัญของ SFD ในการพัฒนาระดับโลก และการสนับสนุนความร่วมมือที่สำคัญ ตลอดจนการดำเนินการและการตอบสนองร่วมกัน วิทยากรหลักได้แก่:

  • HRH Prince Turki bin Faisal Al Saud ผู้ก่อตั้งและผู้ดูแลมูลนิธิ King Faisal
  • H.E. Ahmed bin Aqeel Al-Khateeb ประธานคณะกรรมการบริหารของ SFD
  • H.E. Akinwumi Adesina ประธานกลุ่มธนาคารเพื่อการพัฒนาแอฟริกา (African Development Bank Group)
  • H.E. Muhammad Al Jasser ประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาอิสลาม (Islamic Development Bank)

ผู้นำด้านการพัฒนาระดับโลกเหล่านี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ SFD ในการส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศและชุมชนที่มีความต้องการด้านการพัฒนาที่เร่งด่วนที่สุด

งานกาลานี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 500 คน รวมถึงรัฐมนตรี หัวหน้าองค์กรระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ เอกอัครราชทูต ตัวแทนขององค์กร และแขกผู้มีเกียรติท่านอื่นๆ

ขณะเดียวกันกับที่ SFD มองไปยังอนาคต ก็มีการยืนยันถึงพันธกิจและคำมั่นสัญญาที่จะขับเคลื่อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาระดับนานาชาติ ในนามของสหราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และสนับสนุนเสถียรภาพระดับโลก ความก้าวหน้าทางสังคม และความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจเพื่อคนรุ่นต่อไป

หมายเหตุถึงบรรณาธิการ

  • สามารถติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ media@sfd.gov.sa
  • สามารถเข้าถึงชุดสื่อ รวมถึงเอกสารประกอบสำหรับงานเฉลิมฉลองวันครบรอบได้จากลิงก์ต่อไปนี้: ชุดสื่อ

*แหล่งข้อมูลAETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/54116297/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Abeer Alqahtani
อีเมล: aalqahtani@apcoworldwide.com
โทรศัพท์มือถือ: +966580089661

แหล่งข้อมูล: Saudi Fund for Development

8×8 CPaaS ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้นำในตลาดวิดีโอแบบตั้งโปรแกรมได้ โดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม

Logo

รายงานฉบับใหม่โดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและการสื่อสารแบบครบวงจร Tsahi Levent-Levi โดยจัดอันดับ 8×8 Jitsi as a Service เป็นคู่แข่งอันดับต้นๆ ในอุตสาหกรรม

CAMPBELL, Calif.–(BUSINESS WIRE)–02 กันยายน 2024

8×8, Inc. (NASDAQ: EGHT) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการสื่อสารทางธุรกิจชั้นนนำ CX และ CPaaS ประกาศในวันนี้ว่า รายงานฉบับใหม่จากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม Tsahi Levent-Levi และ BlogGeek.me ได้มีการจัดอันดับ 8×8 Jitsi as a Service (JaaS) ให้เป็นผู้นำในตลาดวิดีโอแบบตั้งโปรแกรมได้ 8×8 JaaS เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ 8×8 CPaaS ซึ่งช่วยองค์กรในการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ โดยบูรณาการช่องทางการสื่อสารต่างๆ รวมถึง SMS เสียง แชทแอป และวิดีโอ เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า

โดยได้รับการยอมรับว่า เป็นหนึ่งในหกคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมจากทั้งหมด 19 ราย โดยเน้นย้ำถึงตัวเลือกการรวมวิดีโอแบบตั้งโปรแกรมได้ต่างๆ ของ 8×8 CPaaS รวมถึงโอเพ่นซอร์ส โฮสต์ และไฮบริด ซึ่งรับประกันได้ว่า โซลูชันเหมาะสมกับกรณีการใช้งานทางธุรกิจใดๆ นอกจากนี้ 8×8 ยังได้รับคะแนนสูงสุดในด้านความสามารถและประสิทธิภาพของโซลูชัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ 8×8 ต่อผลิตภัณฑ์ของตนเองและยืนยันถึงความยั่งยืนในระยะยาว

“8×8 เป็นตัวอย่างที่ดีอย่างแท้จริงถึงสิ่งที่บริษัทต่างๆ พยายามทำให้สำเร็จในตลาดวิดีโอแบบตั้งโปรแกรมได้” Tsahi Levent-Levi ผู้ก่อตั้ง Founder of BlogGeek.me กล่าว “ความมุ่งมั่นของ 8×8 ที่มีต่อลูกค้าและการจัดหาโซลูชันที่เชื่อถือได้นั้น แสดงให้เห็นได้จากความสามารถในการจัดหาตัวเลือกการผสานรวมและการใช้งานที่จำเป็นสำหรับทุกองค์กร เพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจ”

“8×8 Jitsi เป็นเซิร์ฟเวอร์สื่อโอเพ่นซอร์สที่ได้รับความนิยมอย่างสูง” Tsahi Levent-Levi ผู้ก่อตั้ง Founder of BlogGeek.me กล่าว “ข้อเสนอของ 8×8 JaaS เป็นโซลูชันที่บริหารจัดการได้ ช่วยให้เป็นทางเลือกที่ง่ายและปลอดภัยสำหรับลูกค้าที่มองหาความสามารถในการปรับขนาดและประสิทธิภาพโดยไม่ต้องปวดหัวกับการดำเนินงาน ความยืดหยุ่นในการสลับไปมาระหว่างโอเพ่นซอร์สและโซลูชันเชิงพาณิชย์ที่บริหารจัดการได้นั้น เป็นความสามารถอันทรงพลังที่โซลูชันวิดีโอแบบตั้งโปรแกรมได้ต่างๆ ในตลาดไม่มีอยู่”

เพื่อแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของ 8×8 JaaS ลูกค้าของ 8×8 อย่าง Berst ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดการทำงานร่วมกันผ่านวิดีโอ สามารถลดต้นทุนการดำเนินงานลงได้ถึง 50% ด้วย 8×8 Berst สามารถมอบความสามารถด้านการประชุมทางวิดีโอคุณภาพสูงอย่างสม่ำเสมอ โดยที่ทีมไอทีไม่ต้องเสียเวลาจัดการโครงสร้างพื้นฐานภายในองค์กรเป็นจำนวนมาก

“ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง 8×8 มุ่งมั่นที่จะช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถผสานรวมวิดีโอได้ง่ายที่สุด โดยมีเป้าหมายช่วยใหสามารถผสานรวมได้ภายในไม่กี่วินาที เราทำงานอย่างหนักเพื่อให้มั่นใจในความสะดวก โดยไม่กระทบความยืดหยุ่น และช่วยให้ลูกค้าของเราได้รับประสบการณ์ตามที่ต้องการอย่างแท้จริง” Emil Ivov รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์สำหรับแพลตฟอร์มและบริการวิดีโอของ 8×8, Inc. กล่าว “เรามีความภูมิใจและมีความสุขที่รายงานนี้ไม่เพียงเฉพาะยืนยันแนวทางของเราเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นอีกด้วยว่า 8×8 JaaS เป็นโซลูชันวิดีโอแบบตั้งโปรแกรมได้ชั้นนำในอุตสาหกรรม”

แพลตฟอร์มศูนย์ติดต่อลูกค้าและการสื่อสารแบบครบวงจรบนคลาวด์ของ 8×8 ประกอบด้วย ศูนย์ติดต่อลูกค้าแบบบูรณาการ โทรศัพท์ธุรกิจ ทีมแชท การประชุมทางวิดีโอ และความสามารถ CPaaS แพลตฟอร์มนี้เป็นแพลตฟอร์มคลาวด์ที่มีความยืดหยุ่น ปลอดภัย และเป็นไปตามข้อกำหนด ซึ่งให้ความน่าเชื่อถือในระดับสูงสุดพร้อม SLA ตามเวลาทำงาน 99.999 เปอร์เซนต์ ที่ครอบคลุมทั้งแพลตฟอร์ม และได้รับการสนับสนุนทางการเงินในโซลูชัน UCaaS และ CCaaS บนคลาวด์แบบบูรณาการ

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน CPaaS และวิดีโอของ 8×8 โปรดเข้าไปที่ https://www.8×8.com/products/apis/video

เกี่ยวกับ 8×8 Inc.

8×8, Inc. (NASDAQ: EGHT) เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านศูนย์ติดต่อลูกค้าแบบบูรณาการ การสื่อสารด้วยเสียง วิดีโอ แชท และโซลูชัน SMS ที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มคลาวด์ระดับโลกเพียงแห่งเดียว 8×8 ลดความซ้ำซ้อนในองค์กรได้อย่างไม่มีใครเหมือน เพื่อขับเคลื่อนความต้องการด้านการสื่อสารและการมีส่วนร่วมของลูกค้าสำหรับพนักงานทั่วโลก ในขณะที่ทำงานร่วมกันเพื่อมอบประสบการณ์ที่แตกต่างกันสำหรับลูกค้า สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.8×8.com หรือติดตาม 8×8 ได้ที่ LinkedInX และ Facebook

8×8® เป็นเครื่องหมายการค้าของ 8×8, Inc.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

8×8, Inc. Contacts:

สื่อ:
PR@8×8.com

นักลงทุนสัมพันธ์:
Investor.Relations@8×8.com

แหล่งข้อมูล: 8×8, Inc.

แผ่นฟอยล์สแตนเลสหน้ากว้างของ NIPPON KINZOKU (ผิวเคลือบ BS/WS)

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–29 สิงหาคม 2024

บริษัท NIPPON KINZOKU CO., LTD. (โตเกียว: 5491) (สำนักงานใหญ่: เขตมินาโตะ โตเกียว) ผลิตแผ่นสแตนเลสให้กับตลาดยานยนต์ ตลาดแบตเตอรี่ ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ และตลาดอื่นๆ โดยใช้เทคโนโลยีเฉพาะของบริษัท แผ่นสแตนเลสของเรามีคุณสมบัติด้านความแม่นยำสูง ขนาดความกว้างที่เต็มที่ และน้ำหนักต่อหน่วยที่มาก จึงช่วยให้ลูกค้าปรับปรุงประสิทธิภาพทางการผลิต เพิ่มผลผลิต และลดขั้นตอนในการผลิตได้ นอกจากนี้ เรายังมีพื้นผิวให้เลือกสองประเภท ได้แก่ “BS: ผิวเคลือบแบบมันวาว” และ “WS: ผิวเคลือบแบบสีขาว” เพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านการออกแบบและการใช้งานพื้นผิว

แผ่นฟอยล์สแตนเลสของ NIPPON KINZOKU มีคุณสมบัติด้านความแม่นยำสูง ขนาดความกว้างที่เต็มที่ และน้ำหนักต่อหน่วยที่มาก นอกจากนี้ เรายังมีพื้นผิวให้เลือกสองประเภท ได้แก่ “BS: ผิวเคลือบแบบมันวาว” และ “WS: ผิวเคลือบแบบสีขาว” เพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านการออกแบบและการใช้งานพื้นผิว (ภาพกราฟิก: Business Wire)

แผ่นฟอยล์สแตนเลสหน้ากว้างของ NIPPON KINZOKU

เกรดเหล็ก:

เกรดเหล็กทั้งหมด (SUS304, SUS301, SUS430 เป็นต้น)

พื้นผิว:

พื้นผิวแบบ Spring, พื้นผิวแบบ TA (การอบอ่อนคลายความเค้น), พื้นผิวแบบ BA (การอบอ่อนแบบสว่าง)

คุณสมบัติ:

1. ความกว้าง: สูงสุด 600 มม.

2. ความแม่นยำสูง: แปรผันตามความยาวขั้นต่ำของความหนา ±1μm

3. ผิวเคลือบ: ผิวเคลือบแบบมันวาว (BS), ผิวเคลือบแบบสีขาว (WS)

4. น้ำหนักต่อหน่วย: สูงสุด 0.5 กก./มม.

5. ความหนาขั้นต่ำ: 0.02 มม.

การใช้งาน

คุณสมบัติประการหนึ่งของแผ่นสแตนเลสที่เราผลิตคือเป็นแผ่นฟอยล์ที่มีขนาดความกว้างสูง
การใช้งานรวมถึงการใช้เป็นองค์ประกอบให้ความร้อนบนพื้นผิวในยานยนต์, แผ่นเสริมแรง FPC และหน้ากากโลหะที่ใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงใช้เป็นวัสดุคอมโพสิตสำหรับติดฟิล์มหรือวัสดุอื่นๆ นอกจากนี้ มีผู้ผลิตวัสดุเพียงไม่กี่รายที่ผลิตวัสดุที่มีความหนาน้อยกว่า 30 μm และมีความกว้างเกือบ 600 มม. ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลผลิตแปรรูปและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น

พื้นผิวสัมผัส

เราปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ อันเกี่ยวข้องกับพื้นผิวสัมผัส โดยขึ้นอยู่กับการใช้งาน
มีข้อกังวลเกี่ยวกับการใช้งานในสวิตช์แบบสัมผัสว่าอาจเกิดรอยแตกร้าวได้ เนื่องจากการใช้งานซ้ำๆ อาจส่งผลให้พื้นผิวเกิดความไม่สม่ำเสมอเล็กๆ น้อยๆ ในกรณีดังกล่าว เราขอแนะนำพื้นผิวมันวาว (ผิวเคลือบแบบ BS) ที่เป็นพื้นผิวแบบเรียบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความทนทานได้
ในทางกลับกัน เราแนะนำพื้นผิวสีขาวที่หยาบกว่า (ผิวเคลือบแบบ WS) สำหรับภายนอกของแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้และขั้วต่อ เนื่องจากพื้นผิวดังกล่าวช่วยให้ (ภายนอกของแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้) ยึดเกาะกับกาวได้ดีขึ้น และช่วยให้เห็นการสลักด้วยเลเซอร์บนพื้นผิวผลิตภัณฑ์ (ขั้วต่อ)

เกี่ยวกับกลุ่มบริษัท NIPPON KINZOKU

ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับการใช้งานในหลากหลายด้าน ตั้งแต่ภาคส่วนความแม่นยำ ไปจนถึงอุตสาหกรรมก่อสร้าง https://www.nipponkinzoku.co.jp/en/

คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทความเต็ม
https://www.nipponkinzoku.co.jp/assets/images/2024/08/NIPPON-KINZOKUs-Stainless-Steel-Wide-Width-Foil-BSWS-Finish.pdf

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54114420/en

ข้อมูลติดต่อ

ฝ่ายพัฒนาการขาย
NIPPON KINZOKU CO., LTD.
อีเมล: nikkin-overseas@nipponkinzoku.co.jp
https://www.nipponkinzoku.co.jp/en/inquiry

ที่มา: NIPPON KINZOKU CO., LTD.

Toshiba เปิดตัวโฟโตรีเลย์รถยนต์ที่มีเอาต์พุตที่ทนต่อแรงดันไฟฟ้า 900V

Logo

– อุปกรณ์ใหม่เหมาะสําหรับระบบแบตเตอรี่รถยนต์ 400V –

คาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–29 สิงหาคม 2024

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้เปิดตัว “TLX9152M” โฟโตรีเลย์สําหรับยานยนต์[1] ที่มีเอาต์พุตที่ทนต่อแรงดันไฟฟ้า 900V(นาที) ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสําหรับการใช้งานในแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแรงสูง โฟโตรีเลย์ใหม่บรรจุอยู่ในแพ็คเกจ SO16L-T โดยเริ่มจัดส่งในปริมาณมากได้แล้ววันนี้

Toshiba: TLX9152M, an automotive photorelay for 400V automotive battery systems. (Graphic: Business Wire)

Toshiba: TLX9152M โฟโตรีเลย์ยานยนต์สําหรับระบบแบตเตอรี่รถยนต์ 400V (กราฟิก: Business Wire)

เวลาในการชาร์จที่ดีขึ้นและระยะการเดินทางที่ยาวนานขึ้น ถือเป็นสิ่งจําเป็นสําหรับการนํารถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในวงกว้างขึ้น และทั้งสองอย่างนี้ต้องอาศัยการทํางานของระบบแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยการตรวจสอบสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ รวมถึงฉนวนระหว่างแบตเตอรี่และตัวถังรถซึ่งจําเป็นสําหรับการใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงอย่างปลอดภัย ใน BMS ที่ต้องจัดการกับไฟฟ้าแรงสูง จะใช้โฟโตรีเลย์ที่มีฉนวนไฟฟ้า

โฟโตรีเลย์ที่ใช้กันทั่วไปในระบบแบตเตอรี่ต้องมีความทนต่อแรงดันไฟฟ้าประมาณสองเท่าของแรงดันไฟฟ้าของระบบ ด้วยเหตุนี้ เอาต์พุตที่ทนต่อแรงดันไฟฟ้าที่มากกว่า 800V จึงเป็นสิ่งจําเป็นสําหรับระบบ 400V ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Toshiba เหมาะสําหรับระบบ 400V เนื่องจากมีเอาต์พุตที่ทนต่อแรงดันไฟฟ้า / แรงดันไฟจ่าย 900V

TLX9152M อยู่ในแพ็คเกจ SO16L-T ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายสําหรับโฟโตรีเลย์ไฟฟ้าแรงสูง รวมถึง TLX9160T ของ Toshiba ซึ่งมีเอาต์พุตที่ทนต่อแรงดันไฟฟ้า 1500V การใช้แพ็คเกจนี้ช่วยให้ออกแบบรูปแบบแผงวงจรทั่วไปได้ง่ายขึ้น

หมายเหตุ

[1] ในโฟโตรีเลย์ ด้านหลัก (ควบคุม) และด้านรอง (สวิตช์) จะถูกแยกจากกันทางไฟฟ้า สวิตช์ที่เชื่อมต่อโดยตรงกับสายไฟ AC และสวิตช์ระหว่างอุปกรณ์ที่มีศักย์ไฟฟ้าที่พื้นดินต่างกันสามารถควบคุมได้โดยใช้แผงกั้นฉนวน

การใช้งาน 
อุปกรณ์ยานยนต์

  • ระบบจัดการแบตเตอรี่: การตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่ การตรวจจับการติดรีเลย์ทางกล การตรวจจับการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า ฯลฯ
  • การเปลี่ยนรีเลย์ทางกล

คุณสมบัติ
・เอาต์พุตที่ทนต่อแรงดันไฟฟ้า: VOFF=900V (นาที)
・อุปกรณ์แบบปกติเปิด (1-Form-A)
・พิกัดกระแสการพังทลาย: IAV=0.6mA
・แรงดันไฟแยกสูง: 5000Vrms (นาที)
・ผ่านการรับรอง AEC-Q101
・สอดคล้องตามมาตรฐานสากล IEC 60664-1

ข้อมูลจําเพาะหลัก

(เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น Ta=25°C)

หมายเลขชิ้นส่วน

TLX9152M

ติดต่อ

1a

ค่าสูงสุดสัมบูรณ์

กระแสตกคร่อม IF (mA)

30

สภาวะนำกระแส ION (mA)

50

อุณหภูมิในการทํางาน Topr (°C)

-40 ถึง 125

กระแสการพังทลาย IAV (mA)

0.6

ค่าทางไฟฟ้า

สภาวะหยุดนำกระแส

IOFF (nA)

VOFF=900V

สูงสุด

100

เอาต์พุตที่ทนต่อแรงดันไฟฟ้า VOFF (V)

IOFF=10μA

นาที

900

เงื่อนไขการใช้งานที่แนะนํา

แรงดันไฟฟ้า VDD (V)

สูงสุด

900

ค่าทางไฟฟ้าคู่

ทริกเกอร์ LED กระแส IFT (mA)

ION=50mA

สูงสุด

3

ส่งคืน LED กระแส IFC (mA)

Ta=-40 ถึง 125°C

นาที

0.05

ความต้านทานในสถานะเปิด RON (Ω)

ION=50mA,
IF=10mA, t<1s

สูงสุด

250

ค่าการสลับ

เวลาเปิดเครื่อง tON (ms)

สูงสุด

1

เวลาปิดเครื่อง tOFF (ms)

สูงสุด

1

ค่าการแยกจากกัน

แรงดันไฟฟ้าแยก BVS (Vrms)

นาที

5000

ระยะคืบคลานของฉนวน (มม.)

นาที

8

ระยะกวาดล้างของฉนวน (มม.)

นาที

8

แพ็คเกจ

ชื่อ

SO16L-T

ขนาด (มม.)

ประเภท

10.3×10.0× 2.45

ตรวจสอบสต็อกและจัดซื้อ

ซื้อออนไลน์

ไปที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
TLX9152M

ไปที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวแยกและโซลิดสเตตรีเลย์ของ Toshiba
ตัวแยก/โซลิดสเตตรีเลย์

ไปที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุปกรณ์ยานยนต์ของ Toshiba
อุปกรณ์ยานยนต์

หากต้องการตรวจสอบความพร้อมจำหน่ายของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตัวแทนจําหน่ายออนไลน์ โปรดไปที่: TLX9152M
ซื้อออนไลน์

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง

* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจําเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลการติดต่อ เป็นข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนําด้านเซมิคอนดักเตอร์และโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลขั้นสูง โดยใช้ประสบการณ์และนวัตกรรมกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนําเสนอเซมิคอนดักเตอร์แบบแยกชิ้น ระบบ LSI  และผลิตภัณฑ์ HDD ที่โดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ

พนักงาน 19,400 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุด และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการสร้างคุณค่าและตลาดใหม่ร่วมกัน บริษัทมุ่งหวังที่จะสร้างและมีส่วนสนับสนุนอนาคตที่ดีกว่าสําหรับผู้คนทั่วโลก

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ TDSC ได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54113922/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สอบถามข้อมูลลูกค้า
ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์ออปโตอิเล็กทรอนิกส์

Tel: +81-44-548-2218
ติดต่อเรา

สอบถามข้อมูลสื่อ:
Chiaki Nagasawa

ฝ่ายการตลาดดิจิทัล

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

ที่มา: Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

The Bangkok Reporter