Xsolla และ IT Park Uzbekistan ลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเกมในอุซเบกิสถาน

Logo

ความร่วมมือมุ่งเปิดตัวสถาบันพัฒนาเกมและสร้างงานใหม่ในอุตสาหกรรมภายในปี 2030

ลอสแอนเจลิส–(BUSINESS WIRE)–15 ตุลาคม 2024

บริษัท Xsolla ซึ่งเป็นบริษัทพาณิชย์วิดีโอเกมระดับโลก และ IT Park Uzbekistan ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมเกมในอุซเบกิสถาน บันทึกความเข้าใจนี้เป็นการประสานความร่วมมืออย่างเป็นทางการระหว่างสององค์กร และวางแนวทางสู่การเปิดตัว Xsolla IT Park Academy ในปี 2025 โดยมีเป้าหมายเพื่อฝึกอบรมบุคลากรในท้องถิ่นและสร้างโอกาสใหม่ ๆ สำหรับการผลิตและพัฒนาเกมในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตของอุซเบกิสถาน

(Graphic: Xsolla)

(กราฟิก: Xsolla)

พิธีลงนามจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของ Xsolla ในลอสแอนเจลิส โดยมี Abdulakhad Kuchkarov ผู้อำนวยการบริหารของ IT Park Uzbekistan, Jahongir Kagirov หัวหน้าฝ่ายการส่งออก IT และบริการของ IT Park และ Dmitri Burkovskiy ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Xsolla เข้าร่วม

ความร่วมมือนี้ต่อยอดกลยุทธ์ของ Xsolla ในการนำการศึกษาด้านการพัฒนาเกมสู่ภูมิภาคเอเชียกลางและตะวันออกกลาง ต่อเนื่องจากการเปิดตัว Xsolla Curine Academy ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา Xsolla มุ่งมั่นที่จะสร้าง Xsolla Global Academy พร้อมศูนย์การศึกษาในท้องถิ่นสำหรับนักศึกษา นักพัฒนาเกม และดาวรุ่งในวงการ เพื่อเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และพัฒนาแนวคิดด้านเกมของตนโดยตรงในภูมิภาค

บันทึกความเข้าใจนี้ระบุวัตถุประสงค์และแผนงานสำคัญหลายประการเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเกมในอุซเบกิสถาน รวมถึงการจัดตั้งโครงการบ่มเพาะและเร่งการเติบโตเพื่อส่งเสริมนวัตกรรม ภายในปี 2030 ความร่วมมือนี้มุ่งสร้างงานในภาคเกม และผลักดันให้อุซเบกิสถานเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเกม นอกจากนี้ ยังจะสำรวจโอกาสในการสนับสนุนสตูดิโอทั้งในประเทศและต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มของ Xsolla โดยเน้นการเติบโตในภูมิภาคและความร่วมมือระดับนานาชาติ

Chris Hewish ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Xsolla กล่าวถึงความร่วมมือนี้ว่า “เราเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมเกมในอุซเบกิสถาน Xsolla IT Park Academy จะเป็นรากฐานในการบ่มเพาะนักพัฒนาและนวัตกรรุ่นใหม่ เรารอคอยที่จะเห็นว่าโครงการนี้จะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของภูมิภาคนี้อย่างไร”

Abdulakhad Kuchkarov ผู้อำนวยการบริหารของ IT Park Uzbekistan กล่าวเสริมว่า “บันทึกความเข้าใจฉบับนี้เป็นก้าวสำคัญในความพยายามของเราที่จะสนับสนุนอุตสาหกรรมเกมในอุซเบกิสถาน ด้วยความเชี่ยวชาญของ Xsolla และความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาศักยภาพ เรามั่นใจว่าความร่วมมือนี้จะเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับชุมชนเกมทั้งในประเทศและต่างประเทศ”

ความร่วมมือระหว่าง Xsolla และ IT Park Uzbekistan ถือเป็นบทใหม่ที่น่าตื่นเต้นในการพัฒนาอุตสาหกรรมเกมของภูมิภาค IT Park และ Xsolla จะร่วมกันขับเคลื่อนนวัตกรรม สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และผลักดันให้อุซเบกิสถานก้าวสู่การเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดเกมระดับโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความร่วมมือนี้ กรุณาเยี่ยมชม: xsolla.blog/uzbekistan

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทพาณิชย์วิดีโอเกมระดับโลกที่มีเครื่องมือและบริการอันทรงพลัง ออกแบบมาเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมเกม นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2005 Xsolla ได้ช่วยเหลือนักพัฒนาและผู้จัดจำหน่ายเกมนับพันรายในทุกระดับ ทั้งด้านการระดมทุน การตลาด การเปิดตัว และการสร้างรายได้จากเกมทั่วโลกบนหลากหลายแพลตฟอร์ม ในฐานะผู้นำนวัตกรรมด้านการพาณิชย์วิดีโอเกม ภารกิจของ Xsolla คือการแก้ไขความซับซ้อนในการจัดจำหน่าย การตลาด และการสร้างรายได้ในระดับโลก เพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราขยายการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มรายได้ และสร้างความสัมพันธ์กับผู้เล่นทั่วโลก สำนักงานใหญ่ของ Xsolla ตั้งอยู่ที่ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย พร้อมสำนักงานในลอนดอน เบอร์ลิน โซล ปักกิ่ง กัวลาลัมเปอร์ ราลีห์ โตเกียว มอนทรีออล และเมืองอื่น ๆ ทั่วโลก Xsolla ให้การสนับสนุนเกมชั้นนำจากพันธมิตรอย่าง Valve, Twitch, Epic Games, Take-Two, KRAFTON, Nexters, NetEase, Playstudios, Playrix, miHoYo และอื่น ๆ อีกมากมาย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม xsolla.com

เกี่ยวกับ IT Park Uzbekistan

IT Park Uzbekistan เป็นศูนย์นวัตกรรมชั้นนำของอุซเบกิสถาน สนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรม IT ของประเทศผ่านการศึกษา โครงสร้างพื้นฐาน และการบ่มเพาะธุรกิจ ก่อตั้งขึ้นเพื่อสร้างระบบนิเวศเทคโนโลยีที่เข้มแข็ง IT Park มุ่งเน้นด้านการศึกษา IT การเร่งการเติบโต และการสนับสนุนสตาร์ทอัพ โดยให้บริการครอบคลุมตั้งแต่การฝึกอบรมไปจนถึงการระดมทุน องค์กรนี้ยังร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อเพิ่มการส่งออก สร้างงาน และพัฒนาทักษะดิจิทัล IT Park มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้อุซเบกิสถานเป็นศูนย์กลาง IT ของภูมิภาค โดยมีเป้าหมายเพิ่มการส่งออกบริการ IT และสร้างงานกว่า 300,000 ตำแหน่งภายในปี 2030

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม IT Park Uzbekistan

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54136158/en

ข้อมูลติดต่อ
ช่องทางการติดต่อสำหรับสื่อ
Derrick Stembridge
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

แหล่งที่มา: Xsolla

Lenovo ได้รับแต่งตั้งเป็นพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีของ FIFA อย่างเป็นทางการ

Logo

  • ข้อตกลงครอบคลุมทั้ง FIFA World Cup 2026™ และ FIFA Women’s World Cup 2027™ โดยได้รับการประกาศในงานแสดงนวัตกรรม Tech World ที่ Lenovo จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
  • Lenovo จะเป็นผู้จัดหาเทคโนโลยีให้กับ FIFA ตั้งแต่นวัตกรรม AI (ปัญญาประดิษฐ์) ไปจนถึงอุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อมอบประสบการณ์ชั้นยอดให้กับแฟนบอลและรองรับการถ่ายทอดทั่วโลก
  • Lenovo และ FIFA จะใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาเกมการแข่งขันในระดับสากล

ซีแอตเทิล–(BUSINESS WIRE)–16 ตุลาคม 2024

ในงานแสดงนวัตกรรม Tech World ที่ Lenovo จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ทาง Lenovo และ FIFA ได้ประกาศชื่อบริษัทข้ามชาติที่ได้รับเลือกเป็นพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีของ FIFA อย่างเป็นทางการ (ประเภทสปอนเซอร์ระดับสูงของ FIFA) โดยข้อตกลงครอบคลุมถึง FIFA World Cup 2026™ ที่มีแคนาดา เม็กซิโก และสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพและ FIFA Women’s World Cup 2027™ ที่มีบราซิลเป็นเจ้าภาพ

Lenovo named Official FIFA Technology Partner to enhance fan experiences and global broadcasts. (Graphic: Business Wire)

Lenovo ได้รับแต่งตั้งเป็นพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีของ FIFA อย่างเป็นทางการ เพื่อมอบประสบการณ์ชั้นยอดให้กับแฟนบอลและรองรับการถ่ายทอดทั่วโลก (กราฟิก: Business Wire)

การแข่งขันทั้งสองทัวร์นาเมนต์นี้เป็นโอกาสอย่างดีให้ Lenovo ได้ยกระดับแบรนด์ในระดับสากลสู่บรรดาแฟน ๆ ของกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก และที่สำคัญกว่านั้นคือการได้จัดหาเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและครบวงจรที่จะช่วยให้ฟุตบอลกลายเป็นกีฬาที่ไม่ว่าใครก็เข้าถึงได้และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยขยายฐานแฟนบอลทั่วโลก

ผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชันต่าง ๆ จาก Lenovo รวมถึงชุดนวัตกรรมแบบใหม่ที่ใช้ประโยชน์และยกระดับ AI (ปัญญาประดิษฐ์), แล็ปท็อป ThinkPad สุดไอคอนิก, แท็บเล็ต, โทรศัพท์มือถือ Motorola และเซิร์ฟเวอร์ จะถูกนำมาใช้กับทัวร์นาเมนต์ประจำปี 2026 และ 2027 ดังกล่าว เทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยให้แฟนบอลได้ดื่มด่ำไปกับการแข่งขัน ไม่ว่าจะรับชมในสนามการแข่งขันหรือรับชมผ่านการถ่ายทอดทั่วโลก ยกระดับการวิเคราะห์ให้ดียิ่งขึ้น และช่วยให้ทุกประเทศทั่วโลกที่มีการแข่งขันฟุตบอลสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างเท่าเทียม

คุณ Yuanqing Yang ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานบริษัทและซีอีโอของ Lenovo กล่าวว่า “ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำรายหนึ่งของโลก เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการแข่งขันกีฬาที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลกนี้ โดย Lenovo จะเข้ามาช่วยส่งเสริมงานแข่งขันกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาตินี้ เพื่อทำให้งานนี้มีผู้รับชมมากขึ้น มีประเทศที่เข้าร่วมมากขึ้น และทำให้การประมวลผลข้อมูลและเทคโนโลยีกลายเป็นที่ต้องการทั่วโลกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

“Lenovo ภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนวิสัยทัศน์ของ FIFA ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับเกมการแข่งขัน มอบประสบการณ์ชั้นยอดให้กับแฟนบอลทั่วโลก และส่งเสริมนวัตกรรมที่ช่วยสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขัน เราตื่นเต้นที่เทคโนโลยีอันล้ำสมัยและนวัตกรรม AI ของเราจะได้ปรากฏสู่สายตาของผู้คนทั่วโลกในการแข่งขันที่กำลังจะมาถึง ช่วยให้คนทั่วโลกได้เห็นถึงประสิทธิภาพในการสร้างความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่อัจฉริยะกว่าที่เคย”

คุณ Gianni Infantino ซึ่งดำรงตำแหน่งประธาน FIFA กล่าวเสริมว่า “สำหรับ FIFA เรามุ่งมั่นที่จะยกระดับเกมการแข่งขันในระดับสากลและช่วยให้ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ไม่ว่าใครก็เข้าถึงได้ และเราตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ได้ Lenovo มาร่วมเส้นทางไปกับเรา และได้ร่วมงานกันเพื่อนำเทคโนโลยี นวัตกรรม และโปรแกรมต่าง ๆ มาใช้เพื่อให้ฟุตบอลเข้าถึงผู้คนในวงกว้างยิ่งขึ้น เมื่อนำข้อมูลมาใช้ร่วมกับเทคโนโลยี ก็จะช่วยให้เรารู้จักแฟนบอลได้ดีขึ้น และเราจะใช้สิ่งนี้เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับและตราตรึงใจให้กับแฟนบอลในการแข่งขัน FIFA World Cup 2026 และ FIFA Women’s World Cup 2027

“เมื่อพูดถึง Lenovo นับว่าเราได้พาร์ทเนอร์ที่จะมาช่วยสนับสนุนเราในช่วงเวลาที่เราต้องการยกระดับเกมการแข่งขันและคิดค้นนวัตกรรมต่าง ๆ โดยลงทุนไปกับเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์เพื่อคนรุ่นหลัง”

การร่วมงานครั้งสำคัญนี้นับเป็นการเข้าทำข้อตกลงครั้งแรกระหว่าง Lenovo กับ FIFA และเป็นการต่อยอดผลงานที่ผ่าน ๆ มาของ Lenovo ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยส่งเสริมงานกีฬาชั้นนำระดับสากลต่าง ๆ มากมายทั้งในอดีตและอนาคต

เกี่ยวกับ FIFA World Cup 2026™ และ FIFA Women’s World Cup 2027™

FIFA World Cup™ จะมีทีมที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 48 ทีม และจัดขึ้นในปี 2026 โดยมีเจ้าภาพรวมสามประเทศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ทัวร์นาเมนต์นี้จะกลับมาจัดที่สหรัฐอเมริกาอีกครั้งนับตั้งแต่ปี 1994 ซึ่งในครั้งนั้นมีทีมเข้าร่วม 24 ปี โดยปี 2026 นับเป็นครั้งที่สามแล้วที่เม็กซิโกได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพการแข่งขันระดับโลกนี้ ส่วนแคนาดาเองนั้นเคยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ในฝั่งของผู้หญิงและเยาวชนให้กับ FIFA มาแล้ว โดยรวมถึง FIFA Women’s World Cup 2015™ แต่ 2026 จะเป็นครั้งแรกที่แคนาดาได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชายรุ่นทั่วไปให้กับ FIFA

FIFA Women’s World Cup 2027 จะเป็นการแข่งขันครั้งที่ 10 และมีทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 32 ทีมเหมือนกับครั้งที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2023 โดยบราซิลที่เข้าร่วมการแข่งขันนี้มาทุกครั้งจะได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ FIFA Women’s World Cup™ จัดขึ้นในอเมริกาใต้

เกี่ยวกับ Lenovo

Lenovo คือบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีระดับสากล ซึ่งมีรายได้กว่า 57,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้รับอันดับที่ 248 ใน Fortune Global 500 และให้บริการแก่ลูกค้าหลายล้านรายในแต่ละวันใน 180 ประเทศ Lenovo ต่อยอดความสำเร็จมาจากการเป็นบริษัทจำหน่ายคอมพิวเตอร์พีซีรายใหญ่ที่สุดในโลก มาพร้อมผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์แบบเปิดใช้งาน AI (AI-enabled) มี AI พร้อมใช้ (AI-ready) และได้รับการยกระดับด้วย AI (AI-optimized) (พีซี เวิร์กสเตชัน สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต), โครงสร้างพื้นฐาน (เซิร์ฟเวอร์ พื้นที่เก็บข้อมูล จุดเชื่อมโยง การคำนวณประสิทธิภาพสูง และโครงสร้างพื้นฐานที่กำหนดด้วย), ซอฟต์แวร์, โซลูชัน และบริการต่าง ๆ ภายใต้วิสัยทัศน์อันแน่วแน่ที่จะมอบเทคโนโลยีที่อัจฉริยะยิ่งขึ้นให้กับทุกคน Lenovo ลงทุนไปกับนวัตกรรมที่พลิกโฉมโลกใบนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างอนาคตที่เท่าเทียม เชื่อถือได้ และอัจฉริยะยิ่งขึ้นสำหรับทุกคนทั่วทุกมุมโลก ทั้งนี้ Lenovo อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของฮ่องกงภายใต้ชื่อ Lenovo Group Limited (HKSE: 992) (ADR: LNVGY) โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://lenovo.com และอ่านข่าวสารล่าสุดที่ StoryHub ของเรา

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

บุคคลติดต่อ

คุณ Charlotte West – cwest@lenovo.com, +44 7825 605720
คุณ Stuart Gill – sgill@lenovo.com, +44 7917 437 532
Zeno Group – lenovowwcorp@zenogroup.com

แหล่งที่มา: Lenovo

.

Kioxia สาธิต SSD ที่รองรับ Flexible Data Placement พร้อมฐานข้อมูล RocksDB ในงาน OCP Global Summit 2024

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–15 ตุลาคม 2024

บริษัท Kioxia Corporation ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ เตรียมจัดแสดงและสาธิตประสิทธิภาพของ SSD รุ่น KIOXIA XD Series ที่มาพร้อมฟังก์ชัน Flexible Data Placement (FDP) ซึ่งรองรับฐานข้อมูล RocksDB ในงาน OCP Global Summit 2024 ระหว่างวันที่ 15-17 ตุลาคม 2024 ณ เมืองซานโฮเซ่ สหรัฐอเมริกา ฐานข้อมูล RocksDB โดดเด่นด้วยความสามารถในการค้นหาข้อมูลปริมาณมหาศาลได้อย่างรวดเร็วและจัดการข้อมูลประวัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในแอปพลิเคชัน AI ช่วยสร้าง (generative AI) และแอปพลิเคชันบนคลาวด์ ฟังก์ชัน FDP ซึ่งถูกกำหนดในข้อกำหนดพื้นฐานของ NVM Express™ (TP4161) ช่วยให้สามารถควบคุมการจัดวางข้อมูลภายใน SSD ได้อย่างยืดหยุ่น การจัดการตำแหน่งข้อมูลใน SSD อย่างเหมาะสม โดยปรับเปลี่ยนซอฟต์แวร์โฮสต์และไดรเวอร์อุปกรณ์เพียงเล็กน้อย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของ SSD ได้อย่างมีนัยสำคัญ

SSD ทำงานตามคำสั่งจากซอฟต์แวร์โฮสต์และไดรเวอร์อุปกรณ์ในการจัดเก็บและลบข้อมูล เมื่อกระบวนการนี้เกิดซ้ำ ๆ อาจเกิดการจัดสรรข้อมูลใหม่ภายใน SSD ซึ่งอาจส่งผลให้ความเร็วในการเข้าถึงลดลงและสิ้นเปลืองรอบการเขียนข้อมูลของหน่วยความจำแฟลชโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะเมื่อการจัดสรรข้อมูลเกิดขึ้นบ่อยครั้ง การใช้ FDP ช่วยลดปัญหาการจัดสรรข้อมูลใหม่ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของ SSD ได้อย่างเต็มที่

การสาธิตในงาน OCP Global Summit จะแสดงให้เห็นถึงการทำงานของฟังก์ชัน FDP ใน SSD สำหรับศูนย์ข้อมูล KIOXIA XD Series NVMe™ พร้อมปลั๊กอินที่พัฒนาโดย Kioxia เพื่อรองรับความสามารถของ FDP ซึ่งได้รับการทดสอบร่วมกับ RocksDB ผลการทดสอบและประเมินอย่างละเอียดพบว่า ระบบที่ใช้ FDP ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของแอปพลิเคชัน RocksDB ได้ประมาณสามเท่า และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ประมาณ 1.8 เท่า เมื่อเทียบกับระบบแบบดั้งเดิมที่ใช้ SSD ทั่วไปและระบบไฟล์มาตรฐาน1

ผลลัพธ์เหล่านี้จะถูกนำเสนอผ่านการสาธิตแบบสดที่บูธของ Kioxia (A7) ในงาน OCP Global Summit นอกจากนี้ Kioxia ยังมีแผนที่จะเผยแพร่ปลั๊กอินที่รองรับ RocksDB FDP ในรูปแบบโอเพนซอร์ส Kioxia ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาและแบ่งปันเทคโนโลยีเพื่อการใช้งาน SSD และหน่วยความจำแฟลชอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลขั้นสูงและศูนย์ข้อมูลในอนาคต

หมายเหตุ :

1 อ้างอิงจากผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการของ Kioxia ณ วันที่ 14 ตุลาคม 2024

NVM Express และ NVMe เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียนของ NVM Express, Inc. ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ

เครื่องหมาย OCP และ Open Compute Project เป็นกรรมสิทธิ์ของมูลนิธิ Open Compute Project และใช้โดยได้รับอนุญาต

ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทอื่น ๆ

เกี่ยวกับ Kioxia

Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ มุ่งเน้นการพัฒนา ผลิต และจำหน่ายหน่วยความจำแฟลชและโซลิดสเตตไดรฟ์ (SSD) ในเดือนเมษายน 2017 Toshiba Memory ซึ่งเป็นบริษัทต้นกำเนิดของ Kioxia ได้แยกตัวออกจาก Toshiba Corporation ผู้คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND ในปี 1987 Kioxia มุ่งมั่นที่จะยกระดับโลกด้วย “หน่วยความจำ” โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบที่ให้ทางเลือกแก่ลูกค้าและสร้างคุณค่าจากหน่วยความจำให้แก่สังคม เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3D อันเป็นนวัตกรรมของ Kioxia อย่าง BiCS FLASH™ กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าการจัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันที่ต้องการความจุสูง เช่น สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล SSD ยานยนต์ และศูนย์ข้อมูล

*ข้อมูลในเอกสารนี้ ซึ่งรวมถึงราคาผลิตภัณฑ์และข้อมูลจำเพาะ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลการติดต่อ ถูกต้อง ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

สำหรับคำถามจากสื่อ :

บริษัท Kioxia Corporation

แผนกวางแผนกลยุทธ์การขาย

Satoshi Shindo

โทร : +81-3-6478-2404

แหล่งที่มา : บริษัท Kioxia Corporation

Abu Dhabi เตรียมพร้อมสำหรับฤดูกาลที่ 2 ของการแข่งขัน Autonomous Racing League: โดยกลับมาพร้อมทีมใหม่ โมเดล Autonomous Super Formula ที่ได้รับการอัปเกรด และเงินรางวัลมูลค่า 2.25 ล้านเหรียญสหรัฐ

Logo

  • A2RL ฤดูกาลที่ 2 ได้รับการประกาศยืนยันวันแข่งขันแล้วในวันที่ 26 เดือนเมษายน ปี 2025 ที่สนามแข่ง Yas Marina อันโด่งดังของ Abu Dhabi
  • ขยายการเข้าถึงทั่วโลกด้วยทีมใหม่จากสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
  • โปรแกรมเมอร์และวิศวกรแข่งขันกันบนแพลตฟอร์ม AI เพื่อขยายขอบเขตจำกัดของเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ

DUBAI, United Arab Emirates–(BUSINESS WIRE)–14 ตุลาคม 2024

ASPIRE หน่วยงานเร่งพัฒนานวัตกรรมของสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (ATRC) ของ Abu Dhabi ประกาศเปิดตัวฤดูกาลที่สองของ Abu Dhabi Autonomous Racing League (A2RL) อย่างเป็นทางการ โดยยืนยันวันแข่งขันในวันที่ 26 เดือนเมษายน ปี 2025 ที่ สนามแข่ง Yas Marina A2RL กลับมาอีกครั้งพร้อมดึงดูดฐานลูกค้าทั่วโลกด้วยการเพิ่มทีมนานาชาติใหม่สี่ทีม และเปิดตัว Super Formula Emirates Autonomous Vehicle (EAV24) ที่อัปเกรดโดย Dallara ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อขยายขอบเขตจำกัดของ AI ในมอเตอร์สปอร์ต ผู้เข้าแข่งขันจะชิงส่วนแบ่งจากเงินรางวัลมูลค่า 2.25 ล้านเหรียญสหรัฐ

A2RL Season 2 Race Day confirmed for 26 April 2025, at Abu Dhabi’s iconic Yas Marina Circuit (Photo: AETOSWire)

A2RL ฤดูกาลที่ 2 ได้รับการประกาศยืนยันวันแข่งขันแล้วในวันที่ 26 เดือนเมษายน ปี 2025 ที่สนามแข่ง Yas Marina อันโด่งดังของ Abu Dhabi (ภาพถ่าย: AETOSWire)

หลังจากการแข่งขันครั้งแรกที่ประสบความเร็จเมื่อเดือนเมษายน ปี 2024 ซึ่งมีทีมเข้าร่วมจาก สหรัฐอเมริกา เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ ฮังการี อิตาลี สิงคโปร์ จีน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ A2RL กำลังขยายรายชื่อทีมจากทั่วโลกด้วยการเพิ่มทีมใหม่สี่ทีม: AiPEX Racing จากสหรัฐอเมริกา Aladin Innovation จากฝรั่งเศส SEVRUS Japan (TGM Grand Prix) จากญี่ปุ่น และทีมจาก Technology Innovation Institute (TII) ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ผู้เข้าร่วมแข่งขันใหม่เหล่านี้จเข้าร่วมทีมดั้งเดิมจากฤดูกาลที่ 1 ในการเข้าสู่เฟสการจำลองสถานการณ์อันเข้มงวดในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งพวกเขาจะต้องเผชิญกับสภาพของสนามแข่ง เพื่อสรุปรายชื่อทีมทั้งหมด จะมีการเปิดเผยรูปแบบการแข่งขันสำหรับฤดูกาลที่จะมาถึงนี้หลังผ่านความท้าทายในสถานการณ์จำลอง

ในเฟสการจำลองสถานการณ์ ทีมจะต้องพิสูจน์ความสามารถในการควบคุมรถแข่งภายใต้เงื่อนไขที่ท้าทาย เช่น ความผิดพลาดของ GPS เซ็นเซอร์ไม่ทำงาน และจะต้องผ่านเกณฑ์คุณภาพเพื่อแสดงทักษะในการแซง ทีมยังต้องแสดงกลยุทธ์ในการอุ่นยางและเบรก รันรอบสนามอย่างสวยงาม และแม้กระทั่งแข่งขันกับคู่ต่อสู้เสมือนจริง มีเพียงผู้ที่ผ่านมาตรฐานอันสูงเหล่านี้เท่านั้นที่จะผ่านเข้ารอบการแข่งขันรอบสุดท้าย

การแข่งขันในครั้งนี้จะเป็นการแสดงฝีมือของเหล่าวิศวกรและโปรแกรมเมอร์ที่เก่งกาจที่สุดในโลก โดยทีมจะใช้พลังของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการเขียนโปรแกรมสำหรับรถแข่งไร้คนขับ ซึ่งลีกการแข่งขันคราวนี้จะเป็นการพัฒนาเข้าสู่ กีฬา AI ระดับโลก ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างนวัตกรรมและการแข่งขันความเร็วสูงเป็นศูนย์กลาง

H.E. Faisal Al Bannai ที่ปรึกษาประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเลขาธิการของ Advanced Technology Research Council เน้นย้ำถึงผลกระทบระดับโลกของ A2RL โดยกล่าวว่า: “A2RL เป็นมากกว่าการแข่งขัน แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญสำหรับการแสดงให้เห็นถึงพลังโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI และศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมทั้งหมด การขยายขอบเขตที่เป็นไปได้ด้วยเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ ช่วยให้เราสามารถเร่งสร้างนวัตกรรมในทุกภาคส่วน และทำให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นผู้นำระดับโลกในด้าน AI”

Stephane Timpano CEO ของ ASPIRE กล่าวเสริมว่า “ฤดูกาลที่สองของ A2RL จะมีความน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นไปอีก โดยทีมใหม่จะช่วยผลักดันขีดจำกัดของการผสมผสาน AI เข้ากับกีฬามอเตอร์สปอร์ต รถแข่งรุ่นอัปเกรดของเราซึ่งได้รับการออกแบบโดยเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติรุ่นใหม่ จะเป็นท้าทายในการพัฒนาการเขียนโปรแกรมและวิศวกรรมของทีมไปสู่ยุคใหม่ ลีกการแข่งขันในครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงอนาคตของกีฬาที่ขับเคลื่อนด้วย AI อีกด้วย”

ในงาน GITEX Global ซึ่งเป็นงานเทคโนโลยีชั้นนำของ Dubai ผู้เข้าร่วมงานจะได้เยี่ยมชม EAV24 รถแข่งระบบอัตโนมัติรุ่นอัปเกรดรุ่นใหม่ของ A2RL เป็นครั้งแรก โดยรุ่นนี้จะมีตัวถังที่ประดิษฐ์จากวัสดุไบโอคอมโพสิตแบบยั่งยืน พร้อมดีไซน์อันทันสมัย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากอัลกอริทึมดิจิทัลและรูปแบบข้อมูลที่ขับเคลื่อนโดย AI โดยเน้นย้ำถึงจุดประสงค์หลักของงานด้านนวัตกรรม AI นี้ EAV24 จะเป็นศูนย์กลางแห่งการแข่งขัน โดยทีมต่างๆ จะต้องต่อสู้กันเพื่อพัฒนาระบบ AI ที่สามารถเอาชนะคู่แข่งและทำผลงานได้ดีเยี่ยมในสนามแข่ง

ฤดูกาลแรกของลีกการแข่งขันนี้มีผู้เข้าชมจำนวนมาก โดยมีผู้ชมมากกว่า 10,000 คน รับชมการแข่งขันสดที่สนามแข่ง Yas Marina และมากกว่า 1 ล้านคนทั่วโลก ที่รับชมการแข่งขันทางออนไลน์ ฤดูกาลที่สองนี้ก็มุ่งหวังที่จะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน เพื่อตอกย้ำจุดยืนของ A2RL ในฐานะผู้บุกเบิกทั้งมอเตอร์สปอร์ตและการพัฒนา AI ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป

ภารกิจของ A2RL ขยายออกไปกว้างไกลเกินกว่าเพียงการแข่งรถ แต่ยังรวมถึงการเร่งพัฒนาระบบอัตโนมัติในแพลตฟอร์มต่างๆ และสร้างความไว้วางใจในด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของเทคโนโลยีใหม่นี้ต่อสาธารณชน นอกเหนือจากการแข่งรถแล้ว ลีกการแข่งขันยังครอบคลุมการแข่งขันที่ล้ำสมัยอื่นๆ เช่น การแข่งขันโดรนอัตโนมัติ และรถบักกี้อัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้สามารถทดสอบและปรับปรุงเทคโนโลยีในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย การแข่งขันนี้ยังนำเสนอสภาพแวดล้อมที่ปราศจากความเสี่ยงให้แก่ OEMs (Original Equipment Manufacturers) และผู้ผลิตยานยนต์เพื่อให้สามารถสำรวจและพัฒนานวัตกรรมระบบอัตโนมัติ ซึ่งขับเคลื่อนความก้าวล้ำที่วันหนึ่งจะมีผลต่อภาคส่วนยานยนต์ให้ขยายกว้างขึ้นไปในภายภาคหน้า

สามารถเข้าดูตัวอย่างพิเศษเกี่ยวกับ EAV24 และข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับอนาคตของการแข่งรถที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้ที่ บูธของ ATRC ที่ Hall 17-B10 ในงาน GITEX Global

แหล่งข้อมูลAETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54135516/en

ติดต่อ

Dalia Awdi
+971501945368
Dalia.Awdi@edelman.com

แหล่งข้อมูล: Abu Dhabi Autonomous Racing League

Gradiant ประกาศเปิดตัว ProtiumSource โซลูชันน้ำที่พร้อมเข้ากระบวนการ อิเล็กโทรไลต์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก ซึ่งปรับให้เหมาะกับความต้องการของผู้ผลิตไฮโดรเจนสีเขียว

Logo

ProtiumSource ไม่ต้องใช้น้ำป้อนเข้าระบบ การปล่อยของเหลวเป็นศูนย์ และทํางานด้วยพลังงานหมุนเวียนที่มีประสิทธิภาพในระดับชั้นนําของอุตสาหกรรมเพื่อผลิตไฮโดรเจนสีเขียว

บอสตัน

BlueScope เปิดตัวโครงการรางวัลสำหรับภูมิภาคอาเซียนเพื่อเฉลิมฉลองความเป็นเลิศด้านสถาปัตยกรรมเหล็กระดับภูมิภาค

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–14 ตุลาคม 2024

ขณะนี้ BlueScope Steel Architectural Awards 2024 ประจำภูมิภาคอาเซียนเปิดรับโปรเจ็กต์ที่ใช้เหล็ก BlueScope ในอินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนามแล้ว โดยรับสมัครโปรเจ็กต์เข้าชิงจากภาคส่วนอาคารที่อยู่อาศัย เชิงพาณิชย์ อุตสาหกรรม และสถาบัน หมวดหมู่ที่เพิ่มเข้ามาคือ “Long Lasting Beauty of COLORBOND®” ซึ่งเป็นรางวัลให้แก่โปรเจ็กต์ที่แม้ผ่านสภาพอากาศมาทุกรูปแบบแล้วก็ยังคงความสวยงามและความแข็งแกร่งไว้ได้ด้วยเหล็ก COLORBOND® ของ BlueScope

คุณ Connell Zhang (Chief Executive of NS BlueScope) ได้กล่าวว่า “ที่ BlueScope เรามุ่งมั่นสร้างสรรค์และสร้างแรงบันดาลใจให้กับโซลูชันเหล็กอัจฉริยะ และโครงการรางวัลใหม่ของเราก็เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมในการนำเสนอตัวอย่างโปรเจ็กต์สถาปัตยกรรมที่ดีที่สุดของภูมิภาคนี้ อีกทั้งยังเป็นการกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมและส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดอีกด้วย รางวัลเหล่านี้จะเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการส่งเสริมการแบ่งปันความรู้และสนับสนุนชุมชนสถาปนิกอาเซียนอันสดใสของเรา”

รางวัล BlueScope Steel Architectural Awards 2024 ประจำภูมิภาคอาเซียนได้รับการสนับสนุนจากหลากหลายองค์กรที่น่าเชื่อถือ รวมถึงสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์, Ikatan Arsitek Indonesia, University of Architecture Ho Chi Minh City, Australian Chamber of Commerce Singapore และ ACG Media Group ของมาเลเซีย คณะกรรมการตัดสินรางวัลประจำภูมิภาคอาเซียนประกอบไปด้วยผู้นำด้านแนวคิดสถาปัตยกรรมที่ได้รับการยกย่องมากมาย ได้แก่ คุณอเส สุขยางค์ นายกสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์, Dr. Ar. Tan Loke Mun ผู้อำนวยการ Archicentre Sdn Bhd ในมาเลเซีย, Ar. Achmad D. Tardiyana ผู้อำนวยการ MUUD, IAI ที่ PT. Urbane ในอินโดนีเซีย, Dr. Ar. Truong Thanh Hai รองอธิการบดี University of Architecture Ho Chi Minh City และ Ar. Richard Coulson ผู้อำนวยการ COX Architecture เกณฑ์การตัดสินจะพิจารณาจากความเป็นเลิศด้านการออกแบบ นวัตกรรม และความยั่งยืน คณะกรรมการจะประเมินด้านต่างๆ ของการออกแบบอาคาร ตั้งแต่คุณค่าทางสุนทรียภาพไปจนถึงการใช้งาน ประสิทธิภาพ และด้านอื่นๆ

คุณ Connell Zhang ได้กล่าวปิดท้ายว่า “ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมเหล็กเคลือบและทาสีระดับพรีเมียม BlueScope อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมในการสนับสนุนให้ชุมชนสถาปัตยกรรมเดินหน้าทำตามความฝันด้านการออกแบบให้กลายเป็นจริง เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้นำเสนอนวัตกรรม ความแข็งแกร่ง และความงดงามของโปรเจ็กต์ที่เรามีส่วนช่วยส่งเสริมสถาปนิก งานประกาศรางวัลจะต้องยอดเยี่ยมแน่นอนและเรารอคอยที่จะเฉลิมฉลองความสำเร็จของผู้ชนะและผู้เข้าชิงทุกคน”

การตัดสินผู้ชนะรางวัลประจำภูมิภาคอาเซียนจะจัดขึ้นในเดือนตุลาคมและประกาศรายชื่อผู้ชนะในเดือนพฤศจิกายน หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรางวัล โปรดคลิกที่นี่ https://www.nsbluescope.com/asean/bluescope-steel-architectural-asean-awards-2024-colorbond/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ผู้ติดต่อ

James Li | Vice President, Business Transformation, NS BlueScope Pte.
E: james.li@bluescope.com

ที่มา: NS BLUESCOPE

CAI เผยอัตลักษณ์แบรนด์ใหม่ ณ งานประชุมและนิทรรศการประจำปีของ ISPE

Logo

ออร์แลนโด รัฐฟลอริดา –(BUSINESS WIRE)–14 ตุลาคม 2024

CAI ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกด้านความพร้อมและความเป็นเลิศในการปฏิบัติการ ได้เปิดตัวโครงการเพื่อการปรับปรุงแบรนด์ใหม่อย่างครอบคลุมในวันนี้ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของบริษัทในการพัฒนาตนเองอย่างมีจุดมุ่งหมายและบทบาทในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ชีวภาพ รวมถึงการขึ้นเป็นบริษัทที่มีผลสำคัญต่อภารกิจ โดยจะเฉลิมฉลองเหตุการณ์สำคัญครั้งนี้ในงานประชุมและนิทรรศการประจำปีของ ISPE ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-16 ตุลาคม ณ เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ผู้เข้าร่วมงานสามารถดูตัวอย่างการรีแบรนด์ใหม่ของ CAI และพบปะกับทีมงานได้ที่บูธหมายเลข 1104

ในยุคที่เกิดความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมแบบก้าวกระโดดในอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย ทาง CAI ก็มุ่งมั่นที่จะมอบเครื่องมืออันจำเป็นแก่ลูกค้า เพื่อให้ได้มาซึ่งความพร้อมทางการปฏิบัติงานที่เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

รูปลักษณ์และองค์ประกอบทางภาพใหม่ของ CAI ซึ่งดำเนินการควบคู่ไปกับความพยายามนี้ สะท้อนให้เห็นถึงพันธกิจที่มุ่งเน้นไปยังอนาคต รวมถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อลูกค้าและผู้ถือผลประโยชน์อย่างชัดเจน โลโก้และโทนสีใหม่ผสมผสานเฉดสีน้ำเงิน ม่วง และเขียวอันสดใส ซึ่งเน้นย้ำถึงการผสมผสานกันระหว่างเทคโนโลยี ความน่าเชื่อถือ และความแม่นยำที่ CAI นำมาสู่ตลาด การออกแบบเน้นที่รูปทรงหกเหลี่ยมเพื่อสื่อถึงเทคโนโลยี จึงสร้างเอกลักษณ์ที่เชื่อมโยงสู่กันแต่ก็ยังดูโดดเด่นอันล้ำหน้าและไม่ซ้ำใคร

Richard Tree ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ CAI อธิบายว่า “อัตลักษณ์แบรนด์ใหม่ของเรานั้นไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงทางรูปลักษณ์ แต่ยังสะท้อนถึงวิธีที่เราปรับตัวและโอบรับความก้าวหน้าในอุตสาหกรรม เมื่อเรานำเทคโนโลยีและวิธีการใหม่ๆ มาใช้ เราก็จะยังคงเป็นผู้กำหนดมาตรฐานทางความพร้อมในการปฏิบัติงานและการดำเนินโครงการต่อไป แบรนด์ใหม่ของเราบอกเล่าเรื่องราวของนวัตกรรมและประสิทธิภาพที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ของเรา”

ความพร้อมในการปฏิบัติงานและความเป็นเลิศในการปฏิบัติงานมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมชีววิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมที่สำคัญต่อภารกิจต่างๆ เนื่องจากอุตสาหกรรมเหล่านี้อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเคร่งครัด และต้องมีมาตรฐานทางการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เข้มงวด สำหรับบริษัทในแวดวงเหล่านี้ บริการทางความพร้อมในการปฏิบัติงานของ CAI จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าสิ่งอำนวยความสะดวก บุคลากร และกระบวนการต่างๆ จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงทำงานได้อย่างสอดคล้องกันก่อนที่จะเปิดตัวโครงการ เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันความล่าช้าอันมีค่าใช้จ่ายสูง ในทางกลับกัน บริการทางความเป็นเลิศในการปฏิบัติงานของบริษัทจะเน้นไปที่การคงรักษาและปรับปรุงมาตรฐานด้านประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุประสิทธิภาพการทำงาน คุณภาพ และความคุ้มทุนในระดับสูงสุด

Tree เน้นย้ำอีกว่าเมื่อ CAI ให้ความสำคัญกับ “แนวทางที่เข้มงวดและความเอาใจใส่ต่อมาตรฐานสูงสุดอย่างไม่ลดละ” บริษัทสามารถรักษาชื่อเสียงอันโดดเด่นและฐานลูกค้าที่ภักดีตลอดเกือบ 30 ปีที่ดำเนินธุรกิจไว้ได้ เขากล่าวต่อไปว่า “สิ่งที่เราต้องการในทุกวันคือความไว้วางใจจากลูกค้า เราจึงทำโครงการให้เสร็จตรงเวลาและไม่เกินงบประมาณ เพื่อสื่อสารให้ลูกค้าเห็นอย่างชัดเจนว่าเราทำตามสัญญา เราไม่ได้ตั้งเป้าไว้ที่แค่ ‘ดีพอแล้ว’ แต่เราทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยให้ลูกค้ามีความได้เปรียบทางการแข่งขันมากขึ้น”

Jennifer Lauria Clark รองประธานฝ่ายขายและฝ่ายจัดการลูกค้าของ CAI กล่าวว่า “เราแทบรอไม่ไหวที่จะนำเสนอแบรนด์ใหม่ที่งานประชุมและนิทรรศการประจำปีของ ISPE ทีมงานของเราทำงานกันอย่างหนักเพื่อให้แบรนด์สอดคล้องกับวัฒนธรรม ค่านิยม และวิธีที่เรามอบความสนับสนุนแก่อุตสาหกรรมที่เราให้บริการ เราต้องการทำสิ่งที่ตรงจุด ไม่ใช่แค่เพื่อธุรกิจของเราเท่านั้น แต่เพื่อลูกค้าของเราด้วย งานของเรามีความสำคัญก็เพราะงานของลูกค้ามีความสำคัญ”

นอกจากนี้ คุณสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ใหม่ของ CAIReady.com เพื่อดูประสบการณ์ผู้ใช้ที่ปรับปรุงใหม่แล้ว และข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับบริการของบริษัท

เกี่ยวกับ CAI

ที่ CAI เราเป็นบริษัทผู้ให้บริการเฉพาะด้านอันประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม ด้านคุณภาพ และด้านการปฏิบัติงาน ซึ่งจะเข้ามาช่วยเร่งให้เกิดความพร้อมในการปฏิบัติงานและความเป็นเลิศในสภาพแวดล้อมซึ่งส่งผลต่อกิจการ ความเชี่ยวชาญในระดับสูงของเรามาจากการรวมบุคลากรผู้มีความสามารถเข้ากับเทคโนโลยีล่าสุด อีกทั้งแนวทาง กระบวนการ และความเอาใจใส่ในรายละเอียดของเราทำให้เราสามารถส่งมอบโครงการได้อย่างตรงเวลาและไม่เกินงบประมาณ สำหรับเรา ความพร้อมในการปฏิบัติงานเป็นมากกว่าแค่เป้าหมายในระยะสั้น เราต้องการขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม สร้างอนาคตผ่านการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ความสัมพันธ์ที่แท้จริง และมาตรฐานสูงสุด แล้วคุณล่ะ พร้อมแล้วหรือยัง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ผู้ติดต่อ

Maggie Whitney, mwhitney@cglife.com

ที่มา: CAI

SambaNova และ Canvass ร่วมมือกันเพื่อนำเสนอโซลูชัน AI แบบบูรณาการในแนวดิ่ง การอนุมาน และการฝึกอบรม AI ไปยังเอเชียใต้และ EMEA

Logo

ปาโลอัลโต แคลิฟอร์เนีย –(BUSINESS WIRE)–10 ตุลาคม 2024

SambaNova บริษัท Generative AI ที่มีโมเดลที่เร็วที่สุดและชิปที่ล้ำหน้าที่สุด ประกาศความร่วมมือกับ Canvass AI (“Canvass”) ผู้นําด้านโซลูชัน Generative AI ระดับองค์กร เพื่อขับเคลื่อนการนําโซลูชัน AI แบบบูรณาการในแนวดิ่ง การอนุมาน และการฝึกอบรมมาใช้อย่างรวดเร็วในเอเชียใต้และ EMEA

SambaNova and Canvass will deliver a complete AI platform, combining SambaNova's AI hardware and software capabilities with Canvass’ AI solution to verticalize AI deployments (Graphic: Business Wire)

SambaNova และ Canvass จะส่งมอบแพลตฟอร์ม AI ที่สมบูรณ์ โดยผสมผสานความสามารถของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ AI ของ SambaNova เข้ากับโซลูชัน AI ของ Canvass เพื่อปรับใช้ AI ในแนวดิ่ง (กราฟิก: Business Wire)

“เมื่อตลาด AI พัฒนาขึ้น องค์กรต่างๆ ต้องเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในการริเริ่มด้าน AI อย่างรวดเร็ว” Su Le ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเติบโตของ SambaNova กล่าว “เป้าหมายของเราคือการส่งมอบโซลูชันการอนุมานและการฝึกอบรม AI แบบบูรณาการในแนวดิ่งที่เร็วที่สุดและล้ำหน้าที่สุดให้กับลูกค้า การร่วมมือกับ Canvass AI ในเอเชียใต้และ EMEA จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้”

SambaNova และ Canvass จะส่งมอบแพลตฟอร์ม AI ที่สมบูรณ์ โดยผสมผสานความสามารถของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ AI ของ SambaNova เข้ากับโซลูชัน AI ของ Canvass เพื่อปรับใช้ AI ในแนวดิ่ง รวมถึงตัวแทน AI  โซลูชัน AI แบบบูรณาการในแนวดิ่ง เวิร์กโฟลว์ AI ที่สร้างไว้ล่วงหน้า และเครื่องมือสําหรับลูกค้า

“เรากําลังนําเสนอโซลูชันและบริการ Generative AI ที่ล้ำสมัยควบคู่ไปกับ SambaNova เพื่อขับเคลื่อนการนํา AI มาใช้มากขึ้นในฐานลูกค้าที่หลากหลาย” Humera Malik ซีอีโอของ Canvass กล่าว “โซลูชันแบบบูรณาการอันล้ำสมัยของเราช่วยให้เข้าถึงโอกาสในการสร้างรายได้ใหม่ๆ ประสิทธิภาพการดําเนินงาน และผลลัพธ์ด้านความยั่งยืนที่วัดผลได้อย่างรวดเร็วผ่าน AI”

เกี่ยวกับ Canvass AI

Canvass AI ทําให้องค์กรต่างๆ สามารถควบคุมข้อมูลของตนเพื่อให้บรรลุความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน และได้รับการออกแบบมาให้เข้าถึงได้ง่ายและปรับใช้ได้อย่างรวดเร็ว โดยองค์กรต่างๆ ใช้โซลูชัน AI ขั้นสูงของบริษัทเพื่อการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อรองรับการดําเนินงานในอนาคต และขับเคลื่อนเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์ โดยได้รับการสนับสนุนจาก Yamaha Manufacturing และ Gradient Ventures ของ Alphabet และรัฐบาลแคนาดา Canvass ได้รับการยอมรับจากรางวัลและนักวิเคราะห์อุตสาหกรรมในฐานะผู้ริเริ่ม AI ระบบนิเวศพันธมิตรของบริษัท ได้แก่ SambaNova, Microsoft, Snowflake และ OpenAI Lab เยี่ยมชมเราได้ที่ canvass.io หรือติดต่อเราที่ info@canvass.io ติดตาม Canvass AI บน LinkedIn และ X

เกี่ยวกับ SambaNova Systems

ลูกค้าหันมาใช้ SambaNova เพื่อปรับใช้ความสามารถ Generative AI ที่ล้ำสมัยภายในองค์กรได้อย่างรวดเร็ว แพลตฟอร์ม AI ระดับองค์กรที่สร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์ของเรา เป็นแกนหลักของเทคโนโลยีสําหรับการประมวลผล AI รุ่นต่อไป

SambaNova Systems มีสํานักงานใหญ่อยู่ที่เมืองปาโลอัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดยผู้มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรม ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จาก Sun/Oracle และมหาวิทยาลัย Stanford  นักลงทุน ได้แก่ SoftBank Vision Fund 2 กองทุนและบัญชีที่จัดการโดย BlackRock, Intel Capital, GV, Walden International, Temasek, GIC, Redline Capital, Atlantic Bridge Ventures, Celesta และอื่นๆ อีกมากมาย เยี่ยมชมเราได้ที่ sambanova.ai หรือติดต่อเราที่ info@sambanova.ai ติดตาม SambaNova Systems บน Linkedin หรือ X

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54134160/en

ติดต่อ

Shelly Sofer, Canvass AI
shelly.sofer@canvass.io

Virginia Jamieson, SambaNova Systems
virginia.jamieson@sambanova.ai
650-279-8619

ที่มา: SambaNova Systems

.

ผู้นำอุตสาหกรรมสีเขียวระดับโลกรวมตัวกันในงาน Eco Expo Asia 2024

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–9 ตุลาคม 2024

Eco Expo Asia 2024 ซึ่งจัดขึ้นร่วมกันโดยองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกงและ Messe Frankfurt (HK) Ltd และร่วมจัดโดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยาของรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง จะเปิดงานตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคมถึง 2 พฤศจิกายน ณ AsiaWorld-Expo ในฮ่องกง พร้อมเปิดให้บริการจับคู่ทางออนไลน์ “Click2Match” ระหว่างวันที่ 23 ตุลาคม – 9 พฤศจิกายน

Global Green Industry Leaders Unite at Eco Expo Asia 2024 (Photo: Business Wire)

ผู้นำอุตสาหกรรมสีเขียวระดับโลกรวมตัวกันในงาน Eco Expo Asia 2024 (ภาพ: Business Wire)

Eco Expo Asia มุ่งมั่นว่าจะเป็นโอกาสสุดพิเศษสำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่รัฐ นักวิชาการ และประชาชนทั่วไปที่จะมีส่วนร่วมกับความก้าวหน้าล่าสุดในด้านความยั่งยืนและเทคโนโลยีสีเขียว งาน Eco Expo Asia จะจัดขึ้นอีกครั้งภายใต้แนวคิด “การส่งเสริมนวัตกรรมสีเขียวเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอน” โดยรวบรวมผู้ประกอบการชั้นนำจากอุตสาหกรรมสีเขียวต่าง ๆ มากมาย เพื่อช่วยสร้างอนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น

กิจกรรมในปีนี้จะประกอบด้วยหลากหลายผู้จัดแสดงจากจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยุโรป และอเมริกา ซึ่งจะนำเสนอเทคโนโลยีและโซลูชันล้ำสมัยในด้านพลังงานรูปแบบใหม่, การขนส่งสีเขียว, การเงินสีเขียวและบริการที่เกี่ยวข้องกับ ESG, การจัดการขยะและเศรษฐกิจหมุนเวียน, การบำบัดน้ำ และอื่น ๆ อีกมากมาย โซลูชันเหล่านี้ถือเป็นหลักชัยสำคัญในการส่งเสริมการเผยแพร่เทคโนโลยีพลังงานเชิงนวัตกรรมและโซลูชันการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกำหนดภูมิทัศน์ด้านพลังงานมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืนและปล่อยคาร์บอนต่ำมากยิ่งขึ้น

มณฑลและเมืองหลายแห่ง รวมถึงกวางตุ้ง กวางโจว เซินเจิ้น กวางสี หูหนาน เซี่ยงไฮ้ มองโกเลียใน และมณฑลอานฮุยที่เพิ่งเข้าร่วม จะนำเสนอพร้อมโซนจัดแสดงในงานปีนี้ ภูมิภาคเหล่านี้จะนำเสนอเทคโนโลยีนวัตกรรมซึ่งมุ่งเป้าไปที่การรับมือกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ การเข้าร่วมของกลุ่มนานาชาติก็มีความคึกคักไม่แพ้กัน นอกเหนือจากแคนาดา ฟินแลนด์ และเนเธอร์แลนด์ที่กลับมาเข้าร่วมอีกครั้งแล้ว นอร์เวย์ที่เพิ่งเข้าร่วมงานในครั้งนี้ยังทำให้เวทีเสวนาระดับโลกเกี่ยวกับความยั่งยืนมีความเข้มข้นมากขึ้นอีกด้วย

การประชุม Eco Asia อันทรงเกียรติและฟอรัมเศรษฐกิจไฮโดรเจนครั้งที่ 5 จะประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้นำในอุตสาหกรรม และผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศมาร่วมแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับหัวข้อสำคัญต่าง ๆ รวมถึงความยั่งยืนและเทคโนโลยีสีเขียว เจ้าหน้าที่ของรัฐจากประเทศในกลุ่มอาเซียนและประเทศตามเส้นทางสายไหม เช่น ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ศรีลังกา และเวียดนาม จะเข้าร่วมและแสดงการสนับสนุนต่อการประชุมครั้งนี้เช่นกัน

งานนิทรรศการจะเปิดโอกาสให้สาธารณชนเข้าชมในวันสุดท้ายเพื่อส่งเสริมการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผู้เข้าชมสามารถเข้าร่วมเวิร์กช็อปด้านสิ่งแวดล้อม สัมมนา ตลาดสีเขียว และแหล่งรวมงาน ESG

ลงทะเบียนตอนนี้เพื่อรับตรารับรองอิเล็กทรอนิกส์ฟรีของคุณ- :https://tinyurl.com/dxdynbn7

เว็บไซต์: https://tinyurl.com/yc3f3cmh

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54133617/en

ติดต่อ

สอบถามสื่อมวลชน:
กรุณาติดต่อฝ่ายนิทรรศการ HKTDC:
Ken Tsang / Kitty Wang
โทรศัพท์: (852) 22404136 / 22404874
อีเมล: ken.mc.tsang@hktdc.org / kitty.yc.wang@hktdc.org

ที่มา: องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง.

Black & Veatch จัดการกับความซับซ้อนของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในงาน Enlit Asia 2024

Logo

กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย

The Bangkok Reporter