การประชุม Erhai Forum on Global Ecological Civilization Construction ประจำปี 2023: มุ่งสู่การพัฒนาระบบนิเวศทั่วโลกร่วมกัน

Logo

ต้าหลี่ ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–31 พฤษภาคม 2023

การประชุม Erhai Forum on Global Ecological Civilization Construction ประจำปี 2023 ได้ปิดฉากลงเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ณ เมืองต้าหลี่ ประเทศจีน ด้วยหัวข้อ "มนุษย์และธรรมชาติกลมกลืน สู่เส้นทางความทันสมัย" งานนี้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และแขกชาวจีนและต่างชาติเกือบ 400 คนจากหน่วยงานรัฐบาล องค์กรระหว่างประเทศ สถานทูตและสถานกงสุลในประเทศจีน สถาบันการศึกษา บริษัท และองค์กรที่เกี่ยวข้อง

Launching ceremony of Erhai Initiative, photographed on May 28. (Graphic: Secretariat of Erhai Forum)

ภาพพิธีเปิด Erhai Initiative ที่ถ่ายเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม (กราฟิก: Secretariat of Erhai Forum)

ผู้เข้าร่วมการประชุมรับทราบถึงความสำคัญสูงสุดและบทบาทพื้นฐานของความกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติสำหรับความทันสมัยแบบจีน เป็นการแสดงถึงภูมิปัญญาของอารยธรรมจีนในการหล่อเลี้ยงความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม ตามหลักการของการพัฒนาที่ยั่งยืน จีนกำลังส่งเสริมการพัฒนาของจีนที่สวยงามและอารยธรรมทางนิเวศวิทยาอย่างแข็งขันผ่านการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างประเทศที่กว้างขวาง จีนมีความกระตือรือร้นที่จะร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกในการสร้างชุมชนที่ใช้ร่วมกัน โดยมีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะบรรลุ "ความปรองดองระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ" ภายในปี 2050

ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ แขกผู้มีเกียรติทั้งในและต่างประเทศได้กล่าวสุนทรพจน์ที่น่าประทับใจ Sergio Cabrera เอกอัครราชทูตโคลอมเบียประจำประเทศจีน ได้เน้นย้ำถึงความหลากหลายทางชีวภาพอันอุดมสมบูรณ์ที่โคลอมเบียและจีนมีร่วมกัน และแสดงเจตจำนงที่จะส่งเสริมการสำรวจและความร่วมมือในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ นอกจากนี้ เอกอัครราชทูต Cabrera ยังเชิญทุกประเทศให้เข้าร่วม Like-Minded Megadiverse Countries (LMMC) ซึ่งส่งเสริมโดยรัฐบาลโคลอมเบียอีกด้วย

ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการพัฒนาการก่อสร้างอารยธรรมเชิงนิเวศทั่วโลกและสร้างโลกที่สะอาดและสวยงาม Erhai Forum ได้เปิดตัว Erhai Initiative โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความปรองดองระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ โดยเน้นย้ำว่า “น้ำใสและภูเขาเขียวขจีเป็นทรัพย์สินอันประเมินค่าไม่ได้” จึงเรียกร้องให้มีการจัดการภูเขา แม่น้ำ ป่าไม้ ทุ่งนา ทะเลสาบ หญ้า และทรายอย่างเป็นระบบระเบียบ นอกจากนี้ Erhai Initiative พยายามส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงวิธีการพัฒนาและวิถีชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเชิญชวนให้ร่วมมือกันทั่วโลกในการแสวงหาเส้นทางที่ยั่งยืนสู่การพัฒนาอารยธรรมเชิงนิเวศทั่วโลก

ในฐานะที่เป็นกิจกรรมที่เป็นกลางทางคาร์บอน การประชุมยังจัดพิธีเปิดตัว "การปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์" เช่นกัน

การประชุมครั้งแรกจัดขึ้นที่เมืองต้าหลี่ ประเทศจีน ในเดือนตุลาคม 2021 ก่อนการประชุม COP15 และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งใน "มรดกที่สำคัญและความสำเร็จที่สำคัญของ COP15" โดยสำนักงานคณะกรรมการบริหาร COP15 กระทรวงนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อม

ติดต่อ

Shelly Wang
info@xinhuaneteurope.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53409352/en

แหล่งที่มา: Erhai Forum on Global Ecological Civilization Construction

Huawei ICT Competition 2022-2023 Global Final จัดขึ้นที่เมืองเซินเจิ้น มี 146 ทีมจาก 36 ประเทศและภูมิภาคคว้ารางวัล

Logo

เซินเจิ้น ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–30 พฤษภาคม 2023

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2023 การแข่งขัน Huawei ICT Competition 2022-2023 Global Final ได้ปิดฉากลงที่เมืองเซินเจิ้น นับเป็นการปิดฉากครั้งที่ 7 ของการแข่งขันนี้ ครั้งแรกที่จัดขึ้นด้วยตนเองตั้งแต่ปี 2019 จุดสูงสุดของงานคือการแข่งขันระหว่างผู้เข้ารอบสุดท้ายใน 146 ทีมจาก 36 ประเทศ ก่อนรอบชิงชนะเลิศ นักศึกษากว่า 120,000 คนจากมหาวิทยาลัยมากกว่า 2,000 แห่งใน 74 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลกเข้าร่วมการแข่งขัน ICT

Huawei ICT Competition 2022–2023 Global Final Closing and Awarding Ceremony (Photo: Huawei)

พิธีปิดและมอบรางวัลการแข่งขัน Huawei ICT Competition 2022–2023 Global Final (ภาพ: Huawei)

ทีมจาก Shenzhen Polytechnic, Guilin University of Electronic Technology, Guangzhou College of Commerce, Yangtze Normal University และ Hunan Industry Polytechnic คว้ารางวัล Network Track Grand Prize ทีมจาก Guilin University of Electronic Technology, Shenzhen Polytechnic และ Nanning College for Vocational Technology คว้ารางวัล Cloud Track Grand Prize ทีมของ Shenzhen Polytechnic คว้ารางวัล Computing Track Grand Prize ทีมของ Jilin University และ Ahmadu Bello University คว้ารางวัลชนะเลิศการแข่งขันนวัตกรรม ทีม imin จาก Tsinghua University คว้ารางวัล Smart Road Grand Prize และ Jsgroup จาก Xi'an Jiaotong University คว้ารางวัล Electric Power Digitalization Grand Prize

Xiao Haijun ประธานฝ่ายพัฒนาพันธมิตรทั่วโลกและฝ่ายขาย กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของ Huawei กล่าวว่า "ความสามารถด้านดิจิทัลและทักษะด้านดิจิทัลจะเป็นรากฐานสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ในอนาคต Huawei จะนำทรัพยากรด้านการศึกษา ICT ไปสู่โรงเรียนอื่น ๆ ทั่วโลก เราคาดว่าจะสร้าง Huawei ICT Academies ทั้งหมด 7,000 แห่งภายในปี 2026 ฝึกอบรมนักเรียนมากกว่า 1 ล้านคนทุกปี โดยพัฒนาความรู้และทักษะด้านดิจิทัลของนักเรียนอย่างมากสำหรับโลกดิจิทัลที่มีพลวัตและครอบคลุมมากขึ้น”

Stefania Giannini ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ด้านการศึกษาของ UNESCO ได้ส่งความปรารถนาของเธอสำหรับการแข่งขัน Huawei ICT ผ่านทางวิดีโอ เธอกล่าวว่าการแข่งขัน Huawei ICT ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลของนักเรียนเท่านั้น แต่ยังสำรวจวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้สำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วย เธอระบุว่า UNESCO สนับสนุนความพยายามของ Huawei ในอุตสาหกรรมการศึกษาอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาการเชื่อมต่อทั่วโลกและทักษะด้านดิจิทัล

Xiao Ran รองประธานของ Huawei Strategic Research Institute กล่าวว่า Huawei กำลังสร้างระบบนิเวศผู้มีความสามารถด้าน ICT ที่แข็งแกร่ง และเร่งความก้าวหน้าของการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัลของโลกด้วยการเปิดตัว Huawei ICT Academies เพิ่มขึ้น โดยเผยแพร่เอกสารไวท์เปเปอร์และจัดการแข่งขัน Huawei ICT

ศาสตราจารย์ Mohan Munasinghe ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 2007 ผู้ได้รับรางวัล Blue Planet ในปี 2021 และอดีตรองประธานคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ได้กล่าวสุนทรพจน์ผ่านวิดีโอ เขากล่าวว่า ICT นั้นมีบทบาทสำคัญในการประสานสามเหลี่ยมการพัฒนาที่ยั่งยืนของเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม ในขณะที่เทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยเพิ่มผลผลิตและการเติบโต อำนวยความสะดวกในการผลิตและการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเสริมสร้างความครอบคลุมและความร่วมมือ การแข่งขัน Huawei ICT สนับสนุนให้นักเรียนคิดค้นและสร้างความก้าวหน้าที่สำคัญซึ่งช่วยให้บรรลุการเติบโตที่สมดุล ครอบคลุม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลก

Vicky Zhang รองประธานฝ่ายสื่อสารองค์กรของ Huawei กล่าวว่า "Huawei ได้จัดรางวัล Women in Tech Award เพื่อส่งเสริมผู้เข้าประกวดหญิง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศในอุตสาหกรรม ICT และการมีส่วนร่วมทางสังคม ในปีนี้ สัดส่วนของผู้เข้าแข่งขันหญิงในรอบชิงชนะเลิศระดับโลกเกิน 21% เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับ 3 ปีที่แล้ว"

ในฐานะที่เป็นโครงการหลักของโครงการริเริ่ม Seed for the Future 2.0 ของ Huawei การแข่งขัน Huawei ICT มีเป้าหมายเพื่อให้เป็นเวทีสำหรับนักศึกษาวิทยาลัยทั่วโลกเพื่อแข่งขันและสื่อสารกันในสาขา ICT ณ สิ้นปี 2022 Huawei ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย 2,200 แห่งเพื่อสร้าง Huawei ICT Academies ที่ซึ่งช่วยฝึกอบรมนักศึกษามากกว่า 200,000 คนในแต่ละปี นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 มีนักเรียนมากกว่า 580,000 คนจาก 85 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลกได้เข้าร่วมการแข่งขัน

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/53408594/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

corporate.comms@huawei.com

แหล่งที่มา: Huawei

เซิร์ฟเวอร์ AI ของ GIGABYTE ร่วมมือ Superchips Shine ที่ COMPUTEX เพื่อกำหนดนิยามใหม่แห่งการประมวลผลคอมพิวเตอร์

Logo

ไทเป–(BUSINESS WIRE)–31 พฤษภาคม 2023

GIGABYTE กำลังจัดแสดงเทคโนโลยีและโซลูชันล้ำสมัยที่งาน COMPUTEX 2023 โดยนำเสนอธีม "อนาคตของคอมพิวเตอร์" ตั้งแต่วันที่ 30  พฤษภาคม ถึง 2 มิถุนายน GIGABYTE จัดแสดงผลิตภัณฑ์มากกว่า 110 รายการที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมในอนาคต ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่ของเทคโนโลยี AI และความยั่งยืนในที่ชั้น 1 ณ ศูนย์นิทรรศการไทเปหนานกัง อาคาร 1

(Photo: Business Wire)

(Photo: Business Wire)

รับรางวัลใหญ่ด้วย AI ผ่านเซิร์ฟเวอร์ GPU/HPC รุ่นบุกเบิกของ GIGABYTE

GIGABYTE และบริษัทในเครืออย่าง Giga Computing ขอแนะนำ เซิร์ฟเวอร์ AI/HPCรุ่นต่างๆ ซึ่งเป็นผู้นำยุคของซูเปอร์คอมพิวติ้งระดับเอกซะ หนึ่งในดาวเด่นคือเซิร์ฟเวอร์ HGX H100 8-GPU SXM5 รุ่นแรกในอุตสาหกรรมที่ได้รับการรับรองจาก NVIDIA หรือ G593-SD0 G593-SD0 ที่มาพร้อมกับ Intel Xeon หน่วยประมวลผลที่ขยายสเกลได้รุ่นที่ 4  และ GIGABYTE ผู้นำด้านการออกแบบระบบระบายความร้อน สามารถดำเนินการกับภาระงานที่หนักหน่วงยิ่งจาก AI แบบรู้สร้าง (Generative) และการเรียนรู้เชิงลึกจากการเทรนโมเดลภายในตัวเครื่องเซิร์ฟเวอร์ขนาด 5U ที่ปรับความหนาแน่นให้เหมาะสม ทำให้เซิร์ฟเวอร์นี้เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับศูนย์ข้อมูลเพื่อความก้าวหน้าของ AI

นอกจากนี้ GIGABYTE ยังเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ประมวลผล AI ที่รองรับ NVIDIA Grace CPU และ Grace Hopper Superchips เซิร์ฟเวอร์ความหนาแน่นสูงได้รับการเร่งความเร็วด้วยเทคโนโลยี NVLink-C2C ภายใต้แพลตฟอร์ม ARM Neoverse V2 ซึ่งเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับประสิทธิภาพการประมวลผล AI/HPC และแบนด์วิดท์

โอบรับความยั่งยืนด้วยโซลูชันการประมวลผลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่โลกยกย่องได้จาก GIGABYTE

โซลูชันการประมวลผลสีเขียวของ GIGABYTE กำลังยกระดับมาตรฐานของประสิทธิภาพการใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูลไปสู่อีกระดับ เป็นครั้งแรกที่ GIGABYTE จัดแสดง  immersion cooling ทั้งสามรุ่นที่งาน COMPUTEX เพื่อแสดงให้เห็นว่าการประมวลผลสีเขียวสามารถขจัดความจำเป็นในการใช้พัดลมที่กินไฟสูงและเครื่องปรับอากาศได้อย่างไร โซลูชันดังกล่าวช่วยให้ลูกค้าสามารถบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนของตนได้ ในขณะที่ต้องรับมือกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับนวัตกรรมที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์จำนวนมาก

นอกเหนือจากโซลูชันการประมวลผลสีเขียวแล้ว GIGABYTE ยังนำเสนอความพยายามอันยาวนานในการบรรลุ "ผลผลิตที่ยั่งยืน" GIGABYTE ได้เพิ่มประสิทธิภาพสายการผลิตเพื่อลดการใช้พลังงานและการปล่อยคาร์บอน เช่นเดียวกับการซ่อมแซม รีไซเคิล และปรับปรุงขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้การใช้แหล่งพลังงานขององค์กรลดลง 34% และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 43% ในปี 2021 และ 2022 GIGABYTE ได้รับการจัดอันดับให้เป็น "ระดับผู้นำ" โดยการประเมินสภาพอากาศ CDP สำหรับการดำเนินการและความสำเร็จที่ยั่งยืนที่โดดเด่น

ศูนย์ข้อมูลขั้นสูงพร้อมเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ที่เลือกสรรร

การพัฒนาเทคโนโลยีและบริการดิจิทัลพึ่งพาศูนย์ ศูนย์ข้อมูลขั้นสูง GIGABYTE จัดแสดงเซิร์ฟเวอร์และมาเธอร์บอร์ดที่หลากหลายซึ่งเหมาะสำหรับการประมวลผลแบบคลาวด์ การจัดเก็บข้อมูล และ การประมวลผลแบบเอดจ์ เช่นเดียวกับเซิร์ฟเวอร์ที่แสดงในชั้นวางมาตรฐาน EIA และ OCP (Open Compute Project)  ผลิตภัณฑ์ระดับองค์กรล่าสุดของ GIGABYTE รองรับชิปล่าสุดจาก AMD, Ampere, Intel และ NVIDIA ซึ่งช่วยให้ศูนย์ข้อมูลได้รับประโยชน์จากประสิทธิภาพที่เหมาะสมที่สุด ความยืดหยุ่น ความสามารถในการปรับขนาด และประสิทธิภาพ

เปิดใช้งานอุตสาหกรรมอัจฉริยะด้วยการปรับใช้ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่เหนือกว่าของ GIGABYTE

การพัฒนาเครือข่ายการสื่อสารได้กระตุ้นให้เกิด Internet of Things (IoT) ที่งาน COMPUTEX GIGABYTE กำลังมีการจัดแสดงให้เห็นว่า IoT สามารถใช้เทคโนโลยี AI เพื่อปรับปรุงการผลิต การค้าปลีก ยานพาหนะอัตโนมัติ การดูแลสุขภาพ และภาคส่วนอื่นๆ ให้ทันสมัยได้อย่างไร เทคโนโลยีหลักบนจอแสดงผล ได้แก่ มาเธอร์บอร์ดอุตสาหกรรม, ระบบฝังตัว, ไมโครคอมพิวเตอร์, ระบบจดจำภาพ, AI และ อินเทอร์เน็ตของยานยนต์โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีชิปรุ่นต่อไปเพื่อ ปลดล็อกโอกาสอันไร้ขอบเขตผ่านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล

พลิกโฉมเกมด้วยคอมพิวเตอร์ AORUS และ AERO ที่ได้รับรางวัล

GIGABYTE ยึดมั่นในปรัชญาการออกแบบที่มอบประสบการณ์ผู้บริโภคที่โดดเด่นมาโดยตลอด AORUS Gaming และ AERO Creator Series  ได้รับรางวัล 15 Red Dot Design Awards ในปี 2023 สำหรับเมนบอร์ด กราฟิกการ์ด แล็ปท็อป จอภาพ 4K ขนาดใหญ่ และอุปกรณ์ต่อพ่วงสำหรับเล่นเกม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมเฉพาะของ GIGABYTE และความเป็นเลิศด้านสุนทรียศาสตร์ นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ AORUS และ AERO ที่ได้รับรางวัลแล้ว GIGABYTE ยังจัดแสดงเมนบอร์ด, ไดร์ฟ SSD และชุดอุปกรณ์ DIY ที่หลากหลาย ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีด้วยตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมมากมาย

เยี่ยมชมหน้ากิจกรรม COMPUTEX ของ GIGABYTE

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

สื่อ: Michael Pao brand@gigabyte.com

ที่มา: GIGABYTE







บริษัทวิศวกรรมระดับโลก JGC Holdings เลือกให้ Boomi ปรับปรุงระบบธุรกิจให้ทันสมัย

Logo

แพลตฟอร์มการผสานรวมที่ได้รับรางวัลของ Boomi ในฐานะบริการ (iPaaS) ได้รับเลือกจากประวัติการใช้งานทั่วโลกและความสามารถในการเชื่อมต่อแพลตฟอร์มต่าง ๆ

TOKYO & CHESTERBROOK, Pa.–(BUSINESS WIRE)–31 พฤษภาคม 2023

Boomi™ ผู้นำด้านการเชื่อมต่ออัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ได้ประกาศในวันนี้ว่า JGC Holdings Corporation (“JGC”) ซึ่งเป็นบริษัทด้านวิศวกรรมระดับโลก ได้เลือกแพลตฟอร์ม Boomi เพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีให้ทันสมัยและสนับสนุนเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของบริษัท

Global Engineering Company JGC Holdings Selects Boomi To Modernize Its Business Systems (Graphic: Business Wire)

บริษัทวิศวกรรมระดับโลก JGC Holdings เลือกให้ Boomi ปรับปรุงระบบธุรกิจให้ทันสมัย (กราฟิก: Business Wire)

JGC ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น ดำเนินธุรกิจในหลายภูมิภาคทั่วโลก โดยต้องการสถาปัตยกรรมไอทีแบบ hub-and-spoke เพื่อเชื่อมต่อแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น เมื่อพิจารณาถึงความซับซ้อนของการพัฒนาระบบใหม่ JGC จึงใช้แนวทางแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อรวมแพลตฟอร์ม software as a service (SaaS) เช่น Coupa และ ServiceNow ขนาดของโครงการที่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เฟซ ระบบ และแพลตฟอร์มจำนวนมากนั้น ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น JGC ติดต่อ Nomura Research Institute (NRI) เพื่อแนะนำผู้จำหน่ายที่มีชื่อเสียงซึ่งมีประวัติการทำงานที่แข็งแกร่งและมีประสบการณ์ในการเชื่อมต่อแพลตฟอร์มที่หลากหลายและทำให้โครงการที่ซับซ้อนง่ายขึ้น

“Boomi เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการสี่รายในกระบวนการคัดเลือกและมีประสบการณ์มากมายในการแก้ปัญหาความท้าทายของลูกค้าตลอดเส้นทางการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล” กล่าวโดย Mr. Atsuo Honiden ผู้จัดการกลุ่ม Procurement DX Group แผนกจัดส่งโครงการดิจิทัลของ JGC “Boomi เหมาะสมที่สุดทั้งในแง่ของเทคโนโลยีและความคุ้มค่า นอกจากนี้ โซลูชันของ Boomi ยังตรงกับวิสัยทัศน์ของเราในการค่อย ๆ รวมระบบต่าง ๆ เข้าด้วยกันเพื่อให้ได้สถาปัตยกรรมแบบ hub-and-spoke”

“Boomi มีผลงานที่พิสูจน์แล้วในการใช้งานทั่วโลกและจัดหาโซลูชันที่คุ้มค่าสำหรับโครงการจัดซื้อจัดจ้างของ JGC Corporation” กล่าวโดย Mr. Akira Matsumoto กรรมการผู้จัดการองค์กรอาวุโส ผู้จัดการแผนก DX Platform Division ของ Nomura Research Institute, Ltd. “ตัวเชื่อมต่อต่าง ๆ ของ Boomi ช่วยให้เราสามารถใช้สถาปัตยกรรมแบบ hub-and-spoke ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเชื่อมต่อระบบหลายระบบในเฟส”

Kazunori Hori ผู้อำนวยการที่ญี่ปุ่นของ Boomi กล่าวว่า “Boomi เป็นบริษัทผสานรวมอิสระบนคลาวด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มการผสานรวม เราเชื่อมโยงทุกคนเข้ากับทุกสิ่ง และภูมิใจในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ปลายทางที่ไม่ซ้ำกันมากกว่า 200,000 รายการ ช่วยให้ลูกค้าของเรา เช่น JGC สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ”

Boomi นำเสนอชุมชนที่กำลังเติบโตซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 100,000 คน และเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้รวมระบบระดับโลก (GSI) ที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ iPaaS บริษัทมีเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกประมาณ 800 ราย ซึ่งรวมถึง Accenture, Deloitte, SAP และ Snowflake และทำงานร่วมกับผู้ให้บริการคลาวด์ไฮเปอร์สเกลเลอร์รายใหญ่ที่สุด ที่มี Amazon Web Services, Google และ Microsoft เป็นต้น

นับรวมอยู่ใน Deloitte Technology Fast 500™ และ Inc. 5000 ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดในอเมริกา Boomi ได้รับรางวัล International Stevie® Awards สามรางวัลสำหรับบริษัทแห่งปี (สองปีติดต่อกัน) และนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ ได้แก่ รางวัล Gold Globee® Award ในหมวด Platform as a Service (PaaS), รางวัล Merit Award for Technology ในหมวด Cloud Services และรางวัล Stratus Award ในฐานะ Global Leader in Cloud Computing 2022 และได้รับการจัดอันดับอันทรงเกียรติระดับ 5 ดาว ใน CRN Partner Program Guide เป็นเวลาสองปีติดต่อกัน

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi ตั้งเป้าหมายที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นโดยเชื่อมโยงทุกคนเข้ากับทุกสิ่ง ทุกที่ ผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มการผสานรวมบนคลาวด์ในรูปแบบบริการ (iPaaS) และปัจจุบันเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลกด้านบริการ (SaaS) Boomi นำเสนอฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มการผสานรวมและเครือข่ายทั่วโลกที่มีพันธมิตรประมาณ  800 ราย รวมถึง Accenture, Capgemini, Deloitte, SAP และ Snowflake องค์กรระดับโลกหันมาใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลของ Boomi เพื่อค้นหา จัดการ และจัดการข้อมูล ขณะที่เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน กระบวนการ และผู้คนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและรวดเร็วขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ http://www.boomi.com

© 2022 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ 'B', Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทย่อยหรือบริษัทในเครือ สงวนลิขสิทธิ์ ชื่อหรือเครื่องหมายอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53408276/en

ติดต่อ

มีเดีย:
Jasmine Ee
หัวหน้าฝ่ายสื่อและนักวิเคราะห์สัมพันธ์ของ APJ
jasmine.ee@boomi.com

แหล่งที่มา: Boomi

KRAFTON เผยผลการทดสอบ Early Access Test ของเกม ‘Defense Derby’

Logo

  • ทำสถิติ Playtime รวม 81,500 ชั่วโมง สูงกว่าการทดสอบในปีที่แล้วเกือบสามเท่า
  • ส่งแรงกระตุ้นทิ้งท้ายก่อนเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการพร้อมกันทั่วโลกในไตรมาสที่สามของปีนี้

กรุงโซล, ประเทศเกาหลีใต้ –(BUSINESS WIRE)–31 พฤษภาคม 2023

RisingWings ซึ่งเป็นสตูดิโออิสระของ KRAFTON, Inc. เผยตัวเลขหลังการทดสอบ Early Access Test ของ “Defense Derby” เกมป้องกันปราสาทแบบเรียลไทม์

KRAFTON Revealed the Early Access Test Records of ‘Defense Derby’ (Photo: Business Wire)

KRAFTON เผยผลการทดสอบ Early Access Test ของเกม 'Defense Derby' (ภาพ: Business Wire)

การเปิดทดสอบ Early Access Test เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 เมษายนถึงวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 ในประเทศเกาหลีใต้ ไทย จีนไทเป และอินเดีย พร้อมชูระบบและโหมดใหม่ล่าสุดอย่าง "การเดินทางของผู้พิทักษ์", "เลเวลเจ้าเมือง" และ "โหมดบรอล – แมตช์มิเรอร์" ซึ่งไม่มีในการทดสอบทั่วโลกเมื่อปีที่ผ่านมา การทดสอบครั้งล่าสุดนี้ได้มีการพัฒนาคอนเทนท์โดยรวมและปรับปรุงประสบการณ์การเล่นเกมเพื่อให้ได้รับการตอบสนองที่ดีเยี่ยมจากผู้เล่นทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ผู้เล่นกว่า 19,600 คนได้เข้าร่วมการทดสอบ Early Access Test และใช้เวลาในการเล่นรวมกันถึง 81,500 ชั่วโมงในเวลาเพียงสองสัปดาห์ สูงกว่าการทดสอบทั่วโลกเมื่อปีที่แล้วเกือบสามเท่า จำนวนแมตช์ใน "โหมดเดอร์บี้ (PvP)" ซึ่งเป็นโหมดหลักของเกมก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน มีการเล่นโหมดเดอร์บี้มากถึง 381,000 ครั้งในช่วงทดสอบ หรือราว 21 แมตช์ต่อคน แสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจอย่างมากต่อโหมดนี้

ผู้เล่นที่เข้าร่วมทดสอบ Early Access Test ยังแสดงถึงความพึงพอใจเกี่ยวกับเกมผ่านแบบสำรวจ โดยแสดงคะแนนความพึงพอใจของเกมอยู่ที่ 4.6 จาก 5 คะแนนและให้การรีวิวในเชิงบวก พร้อมกับเลือก "การเก็บสะสมและอัปเกรด/เพิ่มเลเวลฮีโร่และยูนิต" เป็นระบบที่ชอบมากที่สุดในเกม รองลงมาคือ "โหมดเดอร์บี้"  "โหมดบลิตซ์" และ "การเดินทางของผู้พิทักษ์" นอกเหนือจากนี้ผู้เล่นยังเลือกให้ "ระบบประมูลยูนิต" ซึ่งเป็นระบบที่ทำให้ผู้เล่นต้องคาดเดาการเดินเกมของคู่ต่อสู้และวัดใจในการเดิมพัน เป็นองค์ประกอบความสนุกที่เป็นเอกลักษณ์ของเกม Defense Derby

"Defense Derby" อยู่ในระหว่างการพัฒนาเพื่อที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในไตรมาสที่สามของปีนี้ ติดตามข่าวสารและการอัปเดตเกี่ยวกับเกม Defense Derby ได้ทาง Facebook Official และช่อง YouTube

Defense Derby Facebook (เพจไทย) https://www.facebook.com/DefenseDerby.THAILAND
Defense Derby YouTube https://www.youtube.com/@defensederby

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่
https://www.businesswire.com/news/home/53408054/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

KRAFTON

Jihyun Park

jihyun.park@krafton.com

ที่มา: KRAFTON, Inc.

EGGDROP ร้านค้าในสนามบินอินชอนมีลูกค้าทะลุ 100,000 รายในช่วงสี่เดือนแรกนับตั้งแต่เปิดตัว

Logo

การเติบโตที่มั่นคงได้รับแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นและรับรู้ถึงแบรนด์ที่แข็งแกร่งในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ

โซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–30 พฤษภาคม 2023

EGGDROP แบรนด์แซนด์วิชระดับพรีเมียมชื่อดังของ Golden Hind (CEO Noh Young-woo) ประสบความสำเร็จอย่างน่าประทับใจโดยมีลูกค้ามากกว่า 100,000 รายในสี่เดือนนับตั้งแต่ EGGDROP เปิดสนามบินอินชอน

American Ham Cheese sandwich, the signature menu of EGGDROP, combines scrambled eggs, light ham, and cheese between thick bread, all enhanced by EGGDROP’s special sauce. (Photo: Golden Hind)

แซนวิชแฮมชีสอเมริกัน เมนูซิกเนเจอร์ของ EGGDROP ผสมผสานระหว่างไข่คน แฮมไขมันต่ำ และชีสระหว่างขนมปังแผ่นหนา เติมด้วยซอสสูตรพิเศษของ EGGDROP (ภาพ: Golden Hind)

เพื่อรำลึกถึงความสำเร็จนี้ EGGDROP ได้เปิดตัววิดีโอสั้นที่น่าสนใจซึ่งแสดงประสบการณ์การรับประทานอาหารที่อร่อย และมีประโยชน์ที่สาขาสนามบินอินชอน โดยเน้นที่ความอร่อย และอาหารเพื่อสุขภาพก่อนออกเดินทาง

EGGDROP สนามบินอินชอนตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ของพื้นที่ปลอดภาษีทางฝั่งตะวันตกของอาคารผู้โดยสาร 1 ที่สนามบินนานาชาติอินชอน จำนวนลูกค้าสูงสุดรายวันเพิ่มขึ้นกว่า 70% จาก 700 รายในเดือนมกราคม 2023 ซึ่งเป็นเดือนแรกหลังจากเปิดตัว เป็นมากกว่า 1,200 รายในเดือนพฤษภาคม 2023 และจำนวนลูกค้าสะสมทะลุ 100,000 รายในวันที่ 13 พฤษภาคม 2023 นอกจากนี้ยอดขายก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่ยั่งยืนของแซนวิชระดับพรีเมียมชั้นนำของเกาหลี และบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเทรนด์อาหารเค

แซนวิช 'อเมริกันแฮมชีส' โดดเด่นในฐานะรายการที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในหมู่ผู้เข้าชม การสร้างสรรค์ที่เย้ายวนใจนี้ดึงดูดใจทั้งชาวเกาหลีและชาวต่างชาติ ได้รับความนิยมจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์

"สำหรับผู้โดยสารที่กำลังจะขึ้นเครื่อง แซนวิช EGGDROP นำเสนออาหารที่ 'เรียบง่ายแต่น่าพึงพอใจ'" Lee Ah-rim สมาชิกทีมการตลาดของ Golden Hind กล่าว

ก่อนเปิดร้านในสนามบินอินชอนในเดือนธันวาคม 2022 EGGDROP ได้เปิดตัวในระดับสากลด้วยการเปิดสาขาระดับโลกแห่งแรกในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ขณะนี้บริษัทกำลังเตรียมเปิดสาขาที่ 2 และ 3 ในกรุงเทพฯ

Noh Young-woo ซีอีโอของ โกลเด้นฮินด์กล่าวว่า "การเปิดร้านในสนามบินอินชอนเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ของ EGGDROP ในการเสริมสร้างอิทธิพลของแบรนด์ผ่านการร่วมมือกับเนื้อหา K ต่างๆ อีกทั้งเพิ่มการรับรู้และขยายฐานลูกค้าทั่วโลก"

ภาพรวม EGGDROP

เป็นมากกว่าไข่, EGGDROP
EGGDROP เป็นแบรนด์แซนด์วิชไข่ระดับพรีเมียมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไข่ "อาหารสมบูรณ์" ซึ่งปรุงอาหารเพื่อสุขภาพด้วยไข่คนที่ทำจากไข่เกรด A+ และวัตถุดิบสดใหม่

ภาพรวมของ Golden Hind

Golden Hind เป็นบริษัทใหม่และสร้างสรรค์ที่สนับสนุน "ธุรกิจอาหาร" ในฐานะบริษัทแฟรนไชส์ร้านอาหารที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 ในกรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ปัจจุบัน EGGDROP เป็นธุรกิจชั้นนำและบ่มเพาะแบรนด์อื่นๆ มากมาย

สอบถามแฟรนไชส์ EGGDROP: https://eggdrop.co.kr/th/franchise/inquiry.php

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53407908/en

รายชื่อติดต่อ

Golden Hind
Ahrim Lee
+82-1670-4809
ahrim.lee@goldenhind.co.kr

ที่มา: Golden Hind

ผลสำรวจของ FICO: คนไทยครึ่งหนึ่งเชื่อว่าเป็นเรื่องปกติที่จะแสดงรายได้เกินจริงในการขอสินเชื่อและการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน

Logo

การเงินที่ยืดเยื้อเนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นทำให้หลายคนพิจารณาที่จะให้ข้อมูลเท็จ

กรุงเทพมหานคร– 30 พฤษภาคม 2566 (NYSE: FICO)

บริษัท FICO ซึ่งเป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ด้านการวิเคราะห์ชั้นนำระดับโลก ได้ประกาศการค้นพบเพิ่มเติมจากแบบสำรวจการฉ้อโกงของผู้บริโภค ที่ได้สำรวจทัศนคติและความพึงพอใจต่อการตรวจสอบการฉ้อโกงในวันนี้ การศึกษาวิจัยดังกล่าวเปิดเผยว่าชาวไทยกว่าครึ่งเต็มใจทำการทุจริตเพื่อขอสินเชื่อหรือยื่นเรื่องการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน แต่อย่างไรก็ตาม FICO ได้เน้นย้ำว่าสถาบันการเงินยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นและผลักดันยอดขายผ่านฟังก์ชันการป้องกันการฉ้อโกงให้ประสบความสำเร็จได้

FICO Survey: Half of Thais Believe It Is OK to Exaggerate Income on Loan Applications and Insurance Claims (Graphic: FICO)

คนไทยครึ่งหนึ่งเชื่อว่าเป็นเรื่องปกติที่จะแสดงรายได้เกินจริงในการขอสินเชื่อและการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (กราฟิก: FICO)

ข้อมูลเพิ่มเติม:

https://www.fico.com/es/latest-thinking/ebook/consumer-survey-2022-fraud-identity-and-digital-banking-thailand

การให้ข้อมูลเท็จถือว่าเป็นที่ยอมรับได้สำหรับหลายๆ คน

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับทัศนคติของพวกเขาต่อการให้ข้อมูลเท็จเพื่อผลประโยชน์ทางการเงินหรือให้มูลค่าทรัพย์สินที่มากเกินความเป็นจริง ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงการธนาคารว่าเป็นการฉ้อโกงโดยบุคคลที่หนึ่ง คนไทยครึ่งหนึ่งสนับสนุนพฤติกรรมเหล่านี้ มีประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่ามีบางสถานการณ์ที่เป็นเรื่องปกติที่จะแสดงรายได้เกินจริงในการขอสินเชื่อทั่วไปหรือสินเชื่อบ้าน ในขณะที่อีก 25 เปอร์เซ็นต์คิดว่าเป็นเรื่องปกติที่จะทำเช่นนั้น การสำรวจพบว่าผู้บริโภคในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันจะเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเกินจริงหรือมีเพิ่มรายการในการเรียกร้องด้วย

“ความเต็มใจที่จะทำการฉ้อโกงเพื่อผลประโยชน์ทางการเงินเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ถือเป็นสัญญาณว่าธนาคารไทยจำเป็นจะต้องหนุนโมเดลป้องกันการฉ้อโกงเป็นอย่างยิ่ง” C.K. Leo หัวหน้าด้านการฉ้อโกง ความปลอดภัย และอาชญากรรมทางการเงินในเอเชียแปซิฟิก บริษัท FICO กล่าว “กลยุทธ์การป้องกันการฉ้อโกงที่รัดกุมไม่เพียงแต่จะปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับผลกำไรของธุรกิจด้วย”

ความเชื่อมั่นนี้สอดคล้องกับประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิเช่น อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ ทั้งยังเป็นที่สนใจมากขึ้นในมาเลเซีย  ที่ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 60 เปอร์เซ็นกล่าวว่าพฤติกรรมเช่นนั้นเป็นเรื่องปกต

ผลการวิจัยบ่งชี้ว่าธนาคารในประเทศไทยอาจทำการประเมินความเสี่ยงได้อย่างไม่ถูกต้อง อันเป็นผลมาจากข้อมูลที่เป็นเท็จในใบสมัคร ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียทางการเงินจากการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนที่สูงเกินจริง นอกจากนี้ลูกค้าอาจไม่ทราบว่าการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องในเอกสารยื่นสมัครหรือในการเรียกร้องนั้นผิดกฎหมาย

“สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ซบเซา ยังทำให้ส่งผลร้ายต่อค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้คนไทยบางส่วนหมดหวังในการเข้าถึงสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นการฉ้อโกง” Leo กล่าว “ด้วยการปรับปรุงความสามารถในการตรวจจับข้อมูลที่บิดเบือน สถาบันการเงินสามารถป้องกันตนเองจากการขาดทุนจากหนี้สูญ ในขณะเดียวกันก็นำลูกค้าออกจากเส้นทางที่น่าเศร้านั้นได้”

ใช้ประโยชน์จากข้อมูลและการวิเคราะห์อย่างเต็มที่เพื่อผลักดันการป้องกันการฉ้อโกง

บ่อยครั้งที่สถาบันการเงินมีหลักฐานที่จำเป็นในการแยกแยะระหว่างการสมัครที่เป็นการฉ้อโกงและข้อมูลการสมัครที่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามทีมป้องกันการทุจริตมักไม่สามารถใช้ข้อมูลนี้ได้เนื่องจากข้อมูลถูกแยกไว้ ความไม่มีประสิทธิภาพเหล่านี้ส่งผลให้ทำการป้องกันการฉ้อโกงได้อย่างไม่เพียงพอและกระทบต่อประสบการณ์ของลูกค้า ธนาคารสามารถช่วยเหลือตรวจสอบลูกค้ามีความยุ่งยากและใช้เวลานาน ส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นและเกิดความซ้ำซ้อนซึ่งทำให้ลูกค้ารู้สึกหงุดหงิด

“ด้วยสภาพการธนาคารที่มีการแข่งขันสูงของภูมิภาคนี้ การใช้กลยุทธ์ป้องกันการฉ้อโกงที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เสียค่าใช้จ่ายสูง” Leo กล่าว “เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ ทีมป้องกันทุจริตต้องสร้างสมดุลระหว่างการป้องกันการฉ้อโกงที่เข้มแข็งและการตอบสนองความต้องการอย่างถูกต้องตามกฎหมายของลูกค้า สิ่งนี้สามารถทำได้ด้วยวิธีการแบบองค์รวมในการเข้าถึงข้อมูลผู้สมัคร ซึ่งช่วยให้สามารถแยกแยะได้อย่างมีประสิทธิภาพระหว่างใบสมัครที่ฉ้อฉลและใบสมัครที่ถูกต้องตามกฎหมาย การใช้โมเดลการวิเคราะห์และแมชชีนเลิร์นนิงจะช่วยเสริมการป้องกันการฉ้อโกงของธนาคาร ซึ่งนำไปสู่ความพึงพอใจของลูกค้าที่ดีขึ้นได้”

รายงานนี้จัดทำขึ้นในช่วงปลายปี 2022 โดยสำรวจ 1,000 คน จากแต่ละประเทศใน 14 ประเทศดังนี้ ประเทศไทย สหรัฐอเมริกา แคนาดา บราซิล เม็กซิโก โคลอมเบีย เปรู มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย แอฟริกาใต้ เยอรมนี สหราชอาณาจักร และสวีเดน

เกี่ยวกับ FICO

FICO (NYSE: FICO) มุ่งมั่นในการตัดสินใจที่จะช่วยให้ผู้คนและธุรกิจทั่วโลกให้ประสบความสำเร็จ บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1956 เป็นผู้บุกเบิกการใช้การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ AI และวิทยาศาสตร์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงการตัดสินใจในการปฏิบัติงาน FICO ถือครองสิทธิบัตรมากกว่า 200 ฉบับในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มผลกำไร ความพึงพอใจของลูกค้า และการเติบโตของธุรกิจในบริการทางการเงิน การผลิต โทรคมนาคม การดูแลสุขภาพ การค้าปลีก และอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย เมื่อใช้โซลูชัน FICO ธุรกิจในเกือบ 120 ประเทศจะสามารถทำได้ทุกอย่างตั้งแต่การปกป้องบัตรชำระเงิน 2.6 พันล้านใบจากการฉ้อโกง การปรับปรุงการรวมทางการเงิน ไปจนถึงการเพิ่มความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน 90% ของผู้ให้กู้ชั้นนำของสหรัฐใช้ The FICO® Score เป็นการวัดมาตรฐานของความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ ซึ่งช่วยปรับปรุงการจัดการความเสี่ยง การเข้าถึงสินเชื่อ และความโปร่งใส

เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ http://www.fico.com.

เข้าร่วมการสนทนาได้ที่ https://twitter.com/fico & http://www.fico.com/en/blogs/

ข่าวสารและแหล่งข้อมูลสื่อของ FICO โปรดไปที่ www.fico.com/news.

FICO เป็นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของ Fair Isaac Corporation ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53399915/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Neil Mirano
RICE for FICO
+65 3157 5680
neil.mirano@ricecomms.com

Saxon Shirley
FICO
+65 9171 0965
saxonshirley@fico.com

แหล่งที่มา: FICO

Falcon 40B ของ UAE ครองกระดานผู้นำ: อันดับ #1 ของโลกในการตรวจสอบ Hugging Face แบบอิสระล่าสุดของโมเดล AI แบบโอเพนซอร์ส

Logo

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–29 พฤษภาคม 2023

Falcon 40B ซึ่งเป็นโมเดล AI แบบโอเพนซอร์สขนาดใหญ่รุ่นแรกของ UAE ที่มีพารามิเตอร์ 4 หมื่นล้านพารามิเตอร์ที่เปิดตัวโดยสถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งอาบูดาบี (TII) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดบนกระดานผู้นำ Open Large Language Model (LLM) ล่าสุดของ Hugging Face โดย Hugging Face ที่เป็นบริษัทอเมริกันที่ต้องการทำให้ปัญญาประดิษฐ์เป็นประชาธิปไตยผ่านโอเพนซอร์สและวิทยาศาสตร์แบบเปิด ถือเป็นผู้ตรวจสอบแบบจำลอง AI อิสระขั้นสุดท้ายของโลก

Falcon 40B ranks 1st globally in Hugging Face Open LLM Leaderboard. (Graphic: AETOSWire)

Falcon 40B ครองอันดับ 1 ของโลกในกระดานผู้นำ Hugging Face Open LLM (กราฟิก: AETOSWire)

Falcon 40B สามารถเอาชนะโมเดลที่เป็นที่ยอมรับ เช่น LLaMA จาก Meta (รวมถึงรุ่น 65B), StableLM จาก Stability AI และ RedPajama จาก Together เพื่อให้ได้อันดับที่ต้องการ ดัชนีนี้ใช้เกณฑ์มาตรฐานหลักสี่ข้อจาก Eleuther AI Language Model Evaluation Harness ซึ่งเป็นกรอบการทำงานแบบรวมที่ประเมินโมเดลภาษาเชิงสร้างสรรค์ใน: AI2 Reasoning Challenge (25-shot) ชุดคำถามวิทยาศาสตร์ระดับชั้นประถมศึกษา HellaSwag (10-shot) การทดสอบการอนุมานด้วยสามัญสำนึก ซึ่งเป็นเรื่องง่ายสำหรับมนุษย์ แต่ท้าทายสำหรับโมเดล SOTA MMLU (5-shot) การทดสอบเพื่อวัดความแม่นยำของมัลติทาสก์ของโมเดลข้อความ และ TruthfulQA (0-shot) แบบทดสอบเพื่อวัดว่าโมเดลทางภาษาเป็นความจริงในการสร้างคำตอบสำหรับคำถามหรือไม่

กระดานผู้นำ Open LLM ของ Hugging Face เป็นเครื่องมือประเมินวัตถุประสงค์ที่เปิดให้ชุมชน AI ติดตาม จัดอันดับ และประเมิน LLM และแชทบอทเมื่อเปิดตัว

Falcon 40B ได้รับการฝึกฝนบนโทเค็นหนึ่งล้านล้านโทเค็น ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญสำหรับ UAE ในการเดินทางสู่ความเป็นผู้นำด้าน AI ทำให้สามารถเข้าถึงน้ำหนักของโมเดลได้อย่างกว้างขวางทั้งสำหรับการวิจัยและการใช้งานเชิงพาณิชย์ การจัดอันดับใหม่เป็นการยืนยันความสามารถของโมเดลในการทำให้ AI มีความโปร่งใส ครอบคลุม และเข้าถึงได้มากขึ้นเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ

ด้วยการพัฒนาล่าสุดนี้ TII สามารถรักษาที่นั่งให้กับ UAE ได้เมื่อพูดถึงโมเดล AI เจนเนอเรทีฟ ทำให้สามารถเข้าร่วมรายชื่อประเทศพิเศษที่กำลังทำงานเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรม AI และการทำงานร่วมกัน

TII ได้เริ่มดำเนินการกับรุ่นถัดไปของ Falcon ซึ่งเป็นรุ่น 180B AI หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโมเดล Falcon 40B AI แบบโอเพนซอร์สปัจจุบัน โปรดไปที่: FalconLLM.TII.ae อีกทั้งสามารถดูประกาศเบื้องต้นเกี่ยวกับ Falcon 40B ได้ที่นี่: สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีของ UAE เปิดตัวโมเดลภาษาขนาดใหญ่ "Falcon 40B" แบบโอเพนซอร์สสำหรับการวิจัยและการใช้งานเชิงพาณิชย์

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม www.tii.ae

*แหล่งที่มาAETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/53408574/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Jennifer Dewan
ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสาร
jennifer.dewan@tii.ae

แหล่งที่มา: Technology Innovation Institute

World Fishing Championship เกมตกปลาเกมแรกบน WEMIX PLAY เปิดตัวใน 170 ประเทศ

Logo

  • ผู้ใช้กลายเป็นนักตกปลาเพื่อรวบรวมปลากว่า 500 สายพันธุ์ทั่วโลก
  • นำเสนอเนื้อหาที่หลากหลายรวมถึง PvP, การแข่งขันชิงแชมป์, ห่วงโซ่อาหาร และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
  • ผู้ใช้สามารถรับโทเค็นเกม "CORAL" โดยการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์หรือรับรางวัล codex

โซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–26 พฤษภาคม 2023

Wemade เปิดตัว World Fishing Championship เกมตกปลาที่พัฒนาโดย Wemade Plus อย่างเป็นทางการในวันที่ 25 พฤษภาคมใน 170 ประเทศ

World Fishing Championship, the First Fishing Game on WEMIX PLAY, Launches in 170 Countries (Graphic: Wemade)

World Fishing Championship เกมตกปลาเกมแรกบน WEMIX PLAY เปิดตัวใน 170 ประเทศ (ภาพ: Wemade)

World Fishing Championship เป็นเกมตกปลาเกมแรกบน WEMIX PLAY ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเกมบล็อกเชนระดับโลกโดย Wemade

ผู้ใช้กลายเป็นนักตกปลาและเดินทางไปทั่วโลกเพื่อรวบรวมปลากว่า 500 สายพันธุ์ นอกจากนี้ยังสามารถใช้กล้องใต้น้ำแบบเรียลไทม์เพื่อจับปลาที่พวกเขาต้องการและมีส่วนร่วมในการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นกับปลาด้วยการพัฒนาตัวละครหรือเสริมทักษะและอุปกรณ์

มีเนื้อหาที่หลากหลายให้ผู้ใช้เพลิดเพลิน เช่น การแข่งขัน PvP การแข่งขันชิงแชมป์ และห่วงโซ่อาหารที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถดูปลาที่รวบรวมได้ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีความจริงเสมือน (VR) และความเป็นจริงเสริม (AR) รวมทั้งกล้อง 360 องศา

ผู้ใช้สามารถรับ "PEARL" ได้จากการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์และเป็นรางวัลจาก Codex เมื่อเดิมพัน "PEARL" และ "TORNADO" ซึ่งเป็นโทเค็นเกมที่แสดงรายการบน WEMIX PLAY ผู้ใช้สามารถรับ CORAL ที่สามารถแลกเปลี่ยนกับ WEMIX

World Fishing Championship กำลังจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวเกม ผู้ใช้ที่ถึงระดับที่กำหนดหรือใช้ "CORAL" ในช่วงระยะเวลากิจกรรมสามารถรับ WEMIX ผ่านการจับฉลากได้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ World Fishing Championship ได้ที่เว็บไซต์ WEMIX PLAY

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:

https://www.businesswire.com/news/home/53407928/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Wemade Co., Ltd. (112040: KOSDAQ)

Jennifer Jung, ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์

jennifer@wemade.com

ที่มา: Wemade Co., Ltd.

Kioxia เตรียมจัดแสดง SSD ระดับ Consumer ใหม่ที่มอบประสิทธิภาพ PCIe® 4.0 ที่งาน COMPUTEX

Logo

การจัดแสดงข้อมูลอ้างอิงเพื่อนำเสนอความเร็วในการอ่านตามลำดับประมาณ 5,000 MB/s สำหรับพีซีเกมประสิทธิภาพสูง เดสก์ท็อป และโน้ตบุ๊ก

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–25 พฤษภาคม 2023

Kioxia Corporation ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ ประกาศเปิดตัว SSD ระดับ consumer รุ่นใหม่ที่มีกำหนดวางจำหน่ายในไตรมาสที่สามของปี 2023 โดย EXCERIA PLUS G3 Series จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี PCIe® 4.0 และให้ความจุสูงถึง 2 เทราไบต์ (TB) ซีรีส์ใหม่นี้เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ใช้พีซีสำหรับเล่นเกมประสิทธิภาพสูง เดสก์ท็อป และโน้ตบุ๊ก โดยนำเสนอความเร็วและราคาที่ย่อมเยาที่พวกเขาต้องการ EXCERIA PLUS G3 Series ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จะจัดแสดงอ้างอิงที่งาน COMPUTEX TAIPEI ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม ถึง 2 มิถุนายน ที่ศูนย์นิทรรศการ Taipei Nangang

Kioxia’s EXCERIA PLUS G3 Series Consumer SSDs Deliver PCIe® 4.0 Performance (Photo: Business Wire)

SSD ระดับ Consumer รุ่น EXCERIA PLUS G3 Series ของ Kioxia มอบประสิทธิภาพ PCIe® 4.0 (ภาพ: Business Wire)

นำเสนอหน่วยความจำแฟลช BiCS FLASH™ 3D TLC (เซลล์สามระดับ) ของ Kioxia โดย EXCERIA PLUS G3 Series ใช้ฟอร์มแฟคเตอร์ด้านเดียวประเภท M.2 2280 ที่เหมาะสำหรับทั้งเดสก์ท็อปและระบบมือถือ ไดรฟ์ใหม่จะรองรับซอฟต์แวร์ SSD Utility Management ของ Kioxia ซึ่งช่วยผู้ใช้ในการตรวจสอบและบำรุงรักษา SSD

จุดเด่นของ EXCERIA PLUS G3 Series ได้แก่

  • ใช้เทคโนโลยี PCIe® 4.0 และ NVMe™ 1.4
  • มอบความเร็วในการอ่านต่อเนื่องสูงสุดประมาณ 5,000 เมกะไบต์ต่อวินาที (MB/s) [1] (เบื้องต้น)
  • ฟอร์มแฟคเตอร์ M.2 2280 ด้านเดียว
  • มอบประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นสูงสุดประมาณ 70% ที่ความเร็วการอ่านตามลำดับสูงสุดเมื่อเทียบกับ EXCERIA PLUS G2 Series รุ่นก่อนหน้า[2] (เบื้องต้น)

หมายเหตุ

[1] ความเร็วในการอ่านและเขียนอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์โฮสต์ ซอฟต์แวร์ (ไดรเวอร์ ระบบปฏิบัติการ ฯลฯ) และเงื่อนไขการอ่าน/เขียน

[2] จากการวิจัย Kioxia (ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2023) ค่าเหล่านี้คือความเร็วในการอ่านที่ดีที่สุดต่อการใช้พลังงานที่ได้รับในสภาพแวดล้อมการทดสอบเฉพาะที่ Kioxia Corporation

*คำจำกัดความของความจุ: Kioxia กำหนดเมกะไบต์ (MB) เป็น 1,000,000 ไบต์ กิกะไบต์ (GB) เป็น 1,000,000,000 ไบต์ และเทราไบต์ (TB) เป็น 1,000,000,000,000 ไบต์ อย่างไรก็ตาม ระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์รายงานความจุของหน่วยเก็บข้อมูลโดยใช้ยกกำลัง 2 สำหรับคำจำกัดความของ 1GB = 230 = 1,073,741,824 ไบต์ ดังนั้นจึงแสดงความจุน้อยกว่า ความจุที่มีอยู่ (รวมถึงตัวอย่างไฟล์มีเดียต่าง ๆ) จะแตกต่างกันไปตามขนาดไฟล์ การจัดรูปแบบ การตั้งค่า ซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการ เช่น ระบบปฏิบัติการ Microsoft และ/หรือแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งล่วงหน้า หรือเนื้อหาสื่อ ความจุที่จัดรูปแบบจริงอาจแตกต่างกันไป

*กลุ่มผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคลจะแตกต่างกันไปตามประเทศและภูมิภาค

*ภาพสินค้าอาจแตกต่างจากสินค้าจริง

*PCIe เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ PCI-SIG

*NVMe เป็นเครื่องหมายจดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียนของ NVM Express, Inc. ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ

*ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทบุคคลที่สาม

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลการติดต่อ ถูกต้อง ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Kioxia

Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกในด้านโซลูชันหน่วยความจำ ซึ่งอุทิศให้กับการพัฒนา การผลิต และการขายหน่วยความจำแฟลชและโซลิดสเตตไดร์ฟ (SSD) ในเดือนเมษายน 2017 นั้น Toshiba Memory รุ่นก่อนหน้าได้แยกตัวออกจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND ในปี 1987 โดย Kioxia มุ่งมั่นที่จะยกระดับโลกด้วย “หน่วยความจำ” โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบที่สร้างทางเลือกให้กับลูกค้าและคุณค่าของหน่วยความจำที่มีต่อสังคม BiCS FLASH™ เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3 มิติที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ Kioxia กำลังกำหนดอนาคตของพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันที่มีความหนาแน่นสูง รวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง, พีซี, SSD, ยานยนต์ และศูนย์ข้อมูล

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53406125/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ช่องทางสอบถามสำหรับสื่อ:
Kioxia Corporation
ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การขาย
Satoshi Shindo
โทร: +81-3-6478-2404

แหล่งที่มา: Kioxia Corporation

The Bangkok Reporter