MLB ตกลงเป็นพันธมิตรระหว่างประเทศกับ JTB Corp. ซึ่งเป็นตัวแทนการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

Logo

JTB เตรียมเป็นผู้สนับสนุน WORLD TOUR ของ MLB เสนอแพ็คเกจการต้อนรับสุดพิเศษสำหรับ Seoul Series

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–29 มกราคม 2024

JTB ประกาศความร่วมมือระหว่างประเทศครั้งใหม่กับเมเจอร์ลีกเบสบอล (MLB) เป็นเวลาหลายปี ในฐานะส่วนหนึ่งของข้อตกลงทางธุรกิจข้ามชาติครั้งใหม่ JTB เป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของ WORLD TOUR ของ MLB และจะนําเสนอแพ็คเกจการต้อนรับระหว่างประเทศสุดพิเศษสำหรับ Seoul Series ที่เปิดฤดูกาลระหว่าง Los Angeles Dodgers และ San Diego Padres ซีรีส์สองเกมที่ Gocheok SkyDomeในกรุงโซลในวันที่ 20-21 มีนาคม ถือเป็นการเปิดตัวฤดูกาลปกติของ Dodgers ของ Shohei Ohtani และ Yoshinobu Yamamoto

Eijiro Yamakita, JTB President & CEO (left) at MLB headquarters in New York City with Noah Garden, Deputy Commissioner, Business & Media, Major League Baseball (right). (Photo: Business Wire)

Eijiro Yamakita ประธานและซีอีโอของ JTB (ซ้าย) ที่สํานักงานใหญ่ MLB ในนิวยอร์กซิตี้ กับ Noah Garden รองกรรมาธิการธุรกิจและสื่อ Major League Baseball (ขวา) (ภาพ: Business Wire)

ในฐานะพันธมิตรอย่างเป็นทางการของ Major League Baseball WORLD TOUR JTB จะเปิดให้แฟน ๆ ทั่วโลก -นอกสหรัฐอเมริกา – ได้เลือกตั๋ววีไอพีและแพ็คเกจการต้อนรับสำหรับกิจกรรม WORLD TOUR รวมถึง Seoul Series และ London Series นอกจากนี้ JTB ยังมีความสามารถในการจัดหาตั๋วเข้าชมเกมฤดูกาลปกติของ MLB ให้กับแฟน ๆ ในเอเชีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจการต้อนรับ ที่รวมถึงการเดินทางและที่พักในสหรัฐอเมริกาด้วย

"ปีที่แล้ว เราประสบกับความต้องการการเดินทางและกิจกรรมต่างๆ ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และในที่สุดเราก็ก้าวข้ามความท้าทายส่วนใหญ่ที่เกิดจากการระบาดใหญ่ และตอนนี้เราเห็นอย่างชัดเจนว่าความต้องการของตลาดสําหรับประสบการณ์จริงและน่าตื่นเต้นนั้นแข็งแกร่งมาก" Eijiro Yamakita ประธานและซีอีโอของ JTB กล่าว "ในสถานการณ์เช่นนี้ เรารู้สึกประทับใจอย่างยิ่งกับความมุ่งมั่นของ MLB ในการนําประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมของเกมเบสบอลมาสู่ผู้คนทั่วโลก เนื่องจากสอดคล้องกับสโลแกนของแบรนด์ของเรา: 'ช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบเสมอ' เราพร้อมที่จะสร้างโอกาสให้ผู้คนได้เพลิดเพลินกับกีฬาเบสบอล ด้วยเครือข่าย ความรู้ และการต้อนรับที่แข็งแกร่งระดับโลกของเรา"

ด้วยความนิยมในระดับนานาชาติที่เพิ่มขึ้นของ MLB ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เราจึงมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาและการเติบโตของเกมในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง" Noah Garden รองกรรมาธิการฝ่ายธุรกิจและสื่อ เมเจอร์ลีกเบสบอลกล่าว "ในขณะที่เราเริ่มดำเนินการในตารางการแข่งขันระดับโลกที่มีความทะเยอทะยานมากขึ้นเรื่อย ๆ เราต้องการพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญที่สามารถตรงกับความทะเยอทะยานของเรา และทำงานอย่างใกล้ชิดกับเราเพื่อให้แฟนเบสบอลเติบโตทั่วโลก เราเชื่อว่า JTB สามารถให้การสนับสนุนที่สำคัญดังกล่าวได้ และเราหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดใน WORLD TOUR"

JTB ซึ่งเป็นหน่วยงานระหว่างประเทศในโตเกียว ได้เปิดสำนักงานในนิวยอร์กเมื่อ 60 ปีที่แล้ว และได้จัดการการเดินทางต่างประเทศจำนวนมาก ควบคู่ไปกับการเปิดเสรีการท่องเที่ยวในต่างประเทศในญี่ปุ่นโดยยังคงรักษาตำแหน่งในฐานะตัวแทนการท่องเที่ยวชั้นนําในเอเชียอย่างมั่นคง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา JTB ได้ช่วยแฟนเบสบอลชาวญี่ปุ่นหลายพันคนมาเยือนสหรัฐอเมริกาและแคนาดา เพื่อดูผู้เล่นชาวญี่ปุ่นเล่นใน MLB ในขณะเดียวกันก็สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับหลายสโมสรในเมเจอร์ลีกเบสบอลเกี่ยวกับ JTB

JTB มีสํานักงาน 159 แห่งใน 35 ประเทศ/ภูมิภาค และจัดการการเดินทางระหว่างประเทศไม่เพียงแต่จากญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังมาจากประเทศและภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา JTB ได้มุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจการบริการด้านกีฬา โดยให้บริการที่เอาใจใส่แก่ลูกค้าที่หลากหลาย โดยเฉพาะลูกค้าองค์กร โดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งในการต้อนรับแบบญี่ปุ่น และความร่วมมือที่แข็งแกร่งในเครือข่ายสํานักงานในต่างประเทศ ด้วยความร่วมมือกับ MLB นี้ JTB จะพยายามอย่างเต็มที่ทั่วทั้งกลุ่ม เพื่อทําให้แพ็คเกจการเดินทางชมการแข่งขันเบสบอลเมเจอร์ลีก เป็นประสบการณ์อันล้ำค่าสําหรับลูกค้า https://www.jtbcorp.jp/en/

เกี่ยวกับเมเจอร์ลีกเบสบอล

เมเจอร์ลีกเบสบอล (MLB) เป็นลีกกีฬาอาชีพที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา และประกอบด้วยสโมสรสมาชิก 30 สโมสรในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งเป็นตัวแทนของทีมเบสบอลอาชีพระดับสูงสุด นําโดยกรรมาธิการ Robert D. Manfred, Jr. MLB ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างผลกระทบในชุมชนของสหรัฐอเมริกา แคนาดา และทั่วโลก ทําให้กีฬามีบทบาทมากขึ้นในสังคม และแทรกซึมทุกแง่มุมของธุรกิจเบสบอล การตลาด ความสัมพันธ์กับชุมชน และความรับผิดชอบต่อสังคม ปัจจุบัน MLB มีความสมดุลในการแข่งขันในระดับสูงสุด ยังคงขยายการเข้าถึงทั่วโลกผ่านรายการและเนื้อหาให้กับแฟน ๆ ทั่วโลก และบันทึกการแข่งขันในเกมและนาทีที่รับชมในฤดูกาลนี้บน MLB.TV ด้วยความสําเร็จอย่างต่อเนื่องของ MLB Network และแพลตฟอร์มดิจิทัลของ MLB MLB ยังคงค้นหาวิธีใหม่ ๆ เพื่อให้แฟน ๆ ได้เพลิดเพลินกับงานอดิเรกประจําชาติของอเมริกาและเกมระดับโลกอย่างแท้จริง สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเมเจอร์ลีกเบสบอล โปรดไปที่ www.MLB.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53888222/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ติดต่อสอบถามข้อมูลข่าวสาร:

JTB Corp.: Hiroko Nakamura, Branding and Communication team, h_nakamura190@jtb.com
MLB: David Hochman, MLB Communications, David.Hochman@mlb.com, mlbpressbox.com, @MLB_PR

ที่มา: JTB Corp

Xsolla Curine Academy เตรียมจัดงาน Global Game Jam 2024 อันทรงเกียรติในกัวลาลัมเปอร์

Logo

กัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย–(BUSINESS WIRE)–24 มกราคม 2024

Xsolla Curine Academy ตื่นเต้นที่จะประกาศถึงการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Global Game Jam 2024 ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มที่น่าตื่นเต้นโดย MDEC ในกัวลาลัมเปอร์ โดยจะจัดตั้งแต่วันที่ 26 ถึง 28 มกราคม สํานักงาน Xsolla ใน Bangsar South จะกลายเป็นศูนย์กลางความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมที่มีชีวิตชีวา งานนี้จะรวบรวมนักพัฒนาเกมจากภูมิหลังที่หลากหลาย มาร่วมงานสร้างสรรค์เกมแบบมาราธอนตลอด 48 ชั่วโมงที่เข้มข้นและสนุกสนาน

ในฐานะบริษัทร่วมทุนด้านการศึกษา Xsolla และ Curine ได้ก่อตั้ง Xsolla Curine Academy โดยมีความมุ่งมั่นที่จะเชื่อมโยงการเรียนรู้ทางวิชาการ และความต้องการแบบไดนามิกของภาคการพัฒนาเกม ด้วยโปรแกรมการฝึกอบรมเชิงปฎิบัติ สถาบันการศึกษายึดมั่นในภารกิจในการดูแลมืออาชีพให้พร้อมสําหรับอนาคต เพิ่มศักยภาพให้กับนักพัฒนาเกมอิสระ และสนับสนุนการเติบโตของทรัพย์สินทางปัญญาในท้องถิ่นในอุตสาหกรรมเกมของมาเลเซีย

Global Game Jam ถือเป็นงานสร้างเกมที่สําคัญที่สุดทั่วโลก โดยดึงดูดผู้เข้าร่วมหลายพันคนที่เรียกว่า "jammers" ให้มาแข่งขันกันอย่างสนุกสนานตลอด 48 ชั่วโมง Global Game Jam ครอบคลุมกว่า 100 ประเทศ งานนี้จะต้อนรับผู้เข้าร่วมที่มีทักษะและภูมิหลังที่หลากหลาย รวมถึงโปรแกรมเมอร์ ศิลปิน นักออกแบบ นักดนตรี และนักเขียน พวกเขาจะรวมตัวกันทั้งในสถานที่จริงและเสมือนจริง เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้ การทํางานเป็นทีม และการสํารวจเชิงนวัตกรรม งานนี้ไม่ใช่แค่การสร้างเกมเท่านั้น แต่เป็นการเฉลิมฉลองการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ โดยเป็นเวทีสําหรับการทดลองและแบ่งปันความคิด ผลลัพธ์มีหลากหลายตั้งแต่เกมที่ได้รับการยอมรับในเชิงพาณิชย์ ไปจนถึงการพัฒนาทักษะอันล้ำค่า ผลักดันให้เกิดความแข็งแกร่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และโอกาสในการสร้างเครือข่ายภายในสมาคมเกมระดับโลก

Xsolla มีความภาคภูมิใจในความร่วมมือกับ Global Game Jam โดยให้พื้นที่สํานักงานเป็นสถานที่จัดงานและจัดเลี้ยงในฐานะผู้สนับสนุนด้านอาหารและเครื่องดื่ม นอกจากนี้ Megamod ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเทคนิค จะสร้างพื้นที่เฉพาะสําหรับการสตรีมสดบน YouTube โดยนําเสนอภาพรวมของกระบวนการพัฒนาเกม และรวบรวมสาระสำคัญของความคิดสร้างสรรค์ในการดําเนินการ

งานนี้นําเสนอโอกาสพิเศษสําหรับผู้เข้าร่วมในการทํางานและอาศัยอยู่ภายในสํานักงาน Xsolla KL ตลอดระยะเวลาที่จัดงาน การจัดสรรพื้นที่ที่เหมาะสมในการทำงานร่วมกัน ข้อกำหนดที่เอื้อเฟื้อนี้ ช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถมุ่งเน้นไปที่โครงการของตนได้อย่างเต็มที่ และสามารถเข้าถึงสถานที่ดังกล่าวได้ตลอดสุดสัปดาห์

มีความคาดหวังสูงสําหรับความร่วมมือของ Xsolla KL กับ Global Game Jam โดยคาดหวังถึงผลตอบรับเชิงบวกของผู้เข้าร่วม เกี่ยวกับสถานที่จัดงานและองค์กรของงาน Xsolla KL ใช้ประโยชน์จากความสำเร็จของงานในปีนี้ โดยมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าดึงดูดและสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ การเรียนรู้ และการพัฒนาเกมที่ก้าวล้ำ

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Xsolla Curine Academy โปรดไปที่: www.xcdev.com

โซเชียลมีเดีย:
Instagram
Facebook
Discord
Linkedin

เกี่ยวกับ Xsolla Curine Academy

Xsolla Curine Academy ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Xsolla มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมในอุตสาหกรรมเกมผ่านกิจกรรม ความร่วมมือ และการสร้างชุมชน

Megamod

Megamod เป็นแพลตฟอร์มเกมที่มีเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น (UGC) ซึ่งช่วยให้ผู้สร้างสามารถพัฒนา แก้ไข และเผยแพร่เกมได้อย่างง่ายดาย แพลตฟอร์มนี้มีเครื่องมือที่หลากหลาย รวมถึง MegaCode, MegaCore, MegaSkin, MegaStore และ MegaBuilder ซึ่งแต่ละเครื่องมือได้รับการปรับแต่งเพื่อลดความซับซ้อนของกระบวนการสร้างเกม สําหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการเขียนโค้ดอย่างกว้างขวาง

ด้วยการใช้เทคโนโลยี voxel MegaMod ช่วยให้มั่นใจได้ว่าโมเดลและโลกที่สร้างโดยผู้ใช้นั้นมีน้ำหนักเบาและมีประสิทธิภาพในแง่ของการดำเนินการและการจัดเก็บข้อมูล ตัวเลือกเทคโนโลยีนี้เป็นกุญแจสำคัญในการทำให้การพัฒนาเกมเข้าถึงและจัดการได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้อายุน้อยและผู้สร้างที่มีความมุ่งมั่น

ด้วยการจัดเตรียมสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับผู้ใช้สําหรับการพัฒนาเกม MegaMod สร้างความแตกต่างในพื้นที่ UGC โดยเสนอทางเลือกที่เป็นไปได้แทนแพลตฟอร์มที่เป็นที่ยอมรับมากขึ้น เช่น Roblox การเน้นที่ความสะดวกในการใช้งาน และการเพิ่มขีดความสามารถของผู้สร้างทําให้เกมนี้เป็นองค์ประกอบที่สําคัญในการทําให้การพัฒนาเกมเป็นประชาธิปไตย และปรับภูมิทัศน์ของเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทการค้าวิดีโอเกมระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือและบริการที่แข็งแกร่งและทรงพลังซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสําหรับอุตสาหกรรมวิดีโอเกม นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2005 Xsolla ได้ช่วยนักพัฒนาเกมและผู้เผยแพร่ทุกขนาดหลายพันราย ให้ทุน ทําการตลาด เปิดตัวและสร้างรายได้จากเกมของพวกเขาทั่วโลกและในหลายแพลตฟอร์ม ในฐานะผู้นําด้านนวัตกรรมการค้าเกม ภารกิจของ Xsolla คือการแก้ปัญหาความซับซ้อนโดยธรรมชาติของการจัดจําหน่าย การตลาด และการสร้างรายได้ทั่วโลก เพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราเข้าถึงภูมิภาคได้มากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับนักเล่นเกมทั่วโลก Xsolla มีสํานักงานใหญ่และจัดตั้งขึ้นในลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย โดยมีสํานักงานในเบอร์ลิน โซล ปักกิ่ง กัวลาลัมเปอร์ โตเกียว และเมืองต่างๆ ทั่วโลก Xsolla สนับสนุนเกมหลักๆ เช่น Valve, Twitch, Roblox, Epic Games, Take-Two, KRAFTON, Nexters, NetEase, Playstudios, Playrix, miHoYo และอีกมากมาย

เกี่ยวกับ Global Game Jam

Global Game Jam เป็นงานประจําปีที่รวบรวมนักพัฒนาเกม นักออกแบบ และผู้ที่ชื่นชอบจากทั่วโลก เพื่อทํางานร่วมกันและสร้างเกมในการแข่งขันสไตล์แฮกกาธอน 48 ชั่วโมง งานนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ การทํางานร่วมกัน และการทดลองในชุมชนการพัฒนาเกม

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมและเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่: xsolla.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Derrick Stembridge ผู้อํานวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับโลกของ Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

ที่มา: Xsolla

PowerSchool นำเสนอระบบนิเวศ AI ที่ครอบคลุมมากที่สุดสำหรับการศึกษาเฉพาะบุคคล โดยการเปิดตัว PowerSchool PowerBuddy™ ซึ่งเป็นผู้ช่วย AI สำหรับทุกคนในการศึกษา

Logo

PowerSchool นำศักยภาพในการปรับแปลง AI มาสู่การศึกษาระดับอนุบาลจนถึงระดับมัธยมศึกษา (K-12) ผ่านโมเดล AI แบบบูรณาการทั่วทั้งผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มข้อมูลด้วยการเปิดตัว PowerBuddy ซึ่งเป็นผู้ช่วย AI เจนเนอเรชั่นใหม่

FOLSOM, Calif.–(BUSINESS WIRE)–23 มกราคม 2024

PowerSchool (NYSE: PWSC) ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ระบบคลาวด์ชั้นนำสำหรับการศึกษา K-12 ในอเมริกาเหนือ มีการประกาศในวันนี้เกี่ยวกับวิวัฒนาการขั้นต่อไปของแพลตฟอร์ม AI ด้วยการเปิดตัว PowerSchool PowerBuddy™ ซึ่งเป็นผู้ช่วย AI สำหรับทุกคนในการศึกษา

ระบบนิเวศ AI ของ PowerSchool ก่อตั้งขึ้นตามหลักการ Responsible AI ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ดำเนินการทั้งหมด ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเส้นทางด้านการศึกษาของนักเรียนโดยเฉพาะ ด้วย PowerBuddy ที่ปรับแต่งเฉพาะ นักเรียน ผู้ปกครอง ผู้นำการศึกษา ผู้ให้คำปรึกษา และผู้ดูแลระบบแต่ละคน จะสามารถเข้าถึงคำแนะนำ ข้อมูล และทรัพยากรส่วนบุคคลได้อย่างปลอดภัยเพียงปลายนิ้วสัมผัส ช่วยให้นักเรียนสามารถได้รับการสนับสนุนทางสังคม อารมณ์ และการศึกษาที่ปรับแต่งให้เหมาะสมสำหรับแต่ละคนในแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

ซึ่งเป็นการนำเสนอ AI ที่แตกต่างจากการนำเสนออื่นๆ ระบบนิเวศ AI ที่ครอบคลุมของ PowerSchool ได้รับการออกมาเพื่อวัตถุประสงค์ “นำเสนอระบบ AI เชื่อมโยงเข้าข้อมูล” แนวทางที่โดดเด่นนี้จะช่วยรักษามาตรฐานที่เข้มงวดด้านความเป็นส่วนตัว จริยธรรม และความปลอดภัย และเสริมสร้างวิธีการที่ทันสมัยสำหรับการนำ AI ไปใช้อย่างมีความรับผิดชอบและเป็นนวัตกรรมด้านการศึกษา

PowerBuddy เป็นผู้ช่วย AI ที่สามารถสนทนาตามบทบาทที่อยู่ระหว่างการทดลองใช้อยู่ในขณะนี้ และจะพร้อมใช้งานในปีการศึกษา 2024-2025 เพื่อสนับสนุนความก้าวหน้าของนักเรียนทั้งในและนอกห้องเรียน

ในขั้นต้น จะมีการรวม PowerBuddy เข้ากับ Schoology Learning โดยนำเสนอความช่วยเหลือตามความต้องการของนักเรียนแบบตัวต่อตัว สำหรับงานที่ได้รับมอบหมายและปรับแต่งการเรียนรู้แบบดั้งเดิมให้เป็นประสบการณ์แบบมีส่วนร่วม ผู้สอยจะสามารถใช้ PowerBuddy เพื่อสร้างแผนการสอน สร้างแบบทดสอบและการประเมินสำหรับผลการเรียนโดยอัตโนมัติ และปรับแต่งการบ้านในแบบเฉพาะตัวของนักเรียน ช่วยประหยัดเวลาให้สามารถมุ่งเน้นด้านที่สำคัญที่สุด – นั่นคือ การปฏิสัมพันธ์กับนักเรียน นอกเหนือจากนี้ ยังนำเสนอคำแนะแนวทางวิทยาลัยและอาชีพเฉพาะรายบุคคลผ่าน Naviance CCLR สำหรับทั้งผู้ให้คำปรึกษาและนักเรียน ผู้ปกครองสามารถใช้ประโยชน์ PowerBuddy ใน My PowerSchool ในการสอบถามเกี่ยวกับผลการเรียนของบุตรหลานและข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ผู้ปกครองจะได้ข้อมูลแจ้งเตือนเชิงรุกหากบุตรหลานเริ่มมีปัญหาและตามไม่ทัน มีความโปร่งใส และส่งเสริมให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการศึกษาของบุตรหลาน นอกเหนือจากนี้ PowerBuddy จะนำเสนอทรัพยากรการเรียนรู้ด้านวิชาการและอารมณ์ทางสังคมที่ได้รับการอนุมัติเฉพาะบุคคลจาก ContentNav เพื่อช่วยในการสนับสนุนการเรียนรู้ของบุตรหลานอย่างจริงจัง นอกจากนี้ ผู้ดูแลระบบยังสามารถถามคำถามเป็นภาษาธรรมชาติทั่วไปเกี่ยวกับข้อมูลภายใน Analytics & Insights และ PowerSchool SIS เพื่อช่วยให้ระบบสามารถแสดงข้อมูลที่ถูกต้องอย่างยิ่งสำหรับการตัดสินใจ จะมีการขยายการใช้งาน PowerBuddy ไปทั่วระบบนิเวศของ PowerSchool โดยจะไม่ขึ้นกับระบบและจะได้รับการผสานรวมเข้ากับเครื่องมือเทคโนโลยีด้านการศึกษาส่วนใหญ่ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ของ PowerSchool ด้วยเช่นกัน

วันนี้เป็นการเปิดตัวอีกขั้นที่น่าตื่นเต้นในการทำให้การปรับแปลงการศึกษาเฉพาะตัวเป็นจริงได้ ซึ่งเป็นกระบวนการก่อนหน้าที่อยู่ไกลเกินเอื้อม จนกระทั่งวันนี้” Shivani Stumpf ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมของ PowerSchool กล่าว “นอกเหนือจากการสนับสนุนผู้ปกครอง ผู้สอน และผู้ให้การศึกษา PowerBuddy ยังช่วยสร้างเสริมความชอบในการเรียนรู้ให้นักเรียนอย่างแท้จริง โดยได้รับการสนับสนุนจากการออกแบบเฉพาะตัว เพื่อความปลอดภัย ให้การสนับสนุน สร้างแรงบันดาลใจ และปรับแต่งเฉพาะตัวโดยใช้ AI”

ความสามารถด้าน AI ที่ไม่มีใครเปรียบของ PowerSchool สำหรับระบบนิเวศการศึกษา:

  • เน้นการออกแบบ: เช่นเดียวกับ AI ทั้งหมดที่มีการใช้ในแพลตฟอร์มของ PowerSchool มีการพัฒนา PowerBuddy โดยใช้หลักการ AI ที่มีความรับผิดชอบและได้รับการปรับแต่งโดยเฉพาะสำหรับการศึกษาระดับ K-12 โดยมีความแตกต่างจากบริษัทอื่นๆ ที่มีการระบุขอบเขตในการแบ่งปันข้อมูล PowerSchool มีการผสานรวม AI เข้ากับข้อมูล เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากโซลูชันอื่นๆ ซึ่งต้องมีการถ่ายโอนข้อมูลไปยังแอปพลิเคชัน AI ซึ่งเป็นการรักษาความปลอดภัยในระดับที่ไม่มีใครเทียบได้ สำหรับการปกป้องข้อมูลของนักเรียน
  • การบูรณาการอย่างง่ายดาย: ต่างจากแอปพลิเคชันแบบสแตนด์อโลนอื่นๆ มีการผสานรวม PowerSchool AI เข้ากับผลิตภัณฑ์ที่ผู้ให้การศึกษา นักเรียน และผู้ปกครองใช้ในแต่ละวัน จึงไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ระบบใหม่ เนื่องจากผู้ให้การศึกษาก็มีงานล้นมืออยู่แล้ว
  • การปรับเปลี่ยนในแบบเฉพาะตัว: มีการผสานรวม AI เข้ากับผลิตภัณฑ์ PowerSchool ซึ่งมีนักเรียนและผู้ให้การศึกษานับล้านใช้งานอย่างแพร่หลายในแต่ละวัน การบูรณาการนี้จะช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่า จะได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนส่วนบุคคลที่ขับเคลื่อนโดยมุมมองข้อมูลของนักเรียนและผู้ให้การศึกษาแบบองค์รวม 360 องศาที่ได้จากชุดผลิตภัณฑ์แบบบูรณาการของ PowerSchool ซึ่งแตกต่างจากโซลูชัน AI แบบสแตนด์อโลนอื่นๆ นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถใช้ประโยชนจากแพลตฟอร์มข้อมูล K-12 โดยตระหนักว่า ประสิทธิภาพของ AI ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่สมบูรณ์ แพลตฟอร์มดังกล่าวมีบทบาทสำคัญในการแยกฐานข้อมูล โดยมีความสามารถในการสร้างตามวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาโดยเฉพาะ เพื่อปรับเสริมฟังก์ชันการทำงานโดยรวมของระบบ AI
  • การใช้งานตามขนาดแตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในตลาด PowerSchool มีความสามารถได้รับการพิสูจน์แล้วเพื่อสนับสนุนเขตพื้นที่ทุกขนาดด้วยความรู้เชิงลึกด้านระบบนิเวศการศึกษา รวมถึงข้อกำหนดระดับรัฐ จังหวัด และเขต โดยทั้งหมดนี้ได้รับการป้องกันความปลอดภัยชั้นนำในอุตสาหกรรมและโปรโตคอลความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
  • ไม่ขึ้นกับระบบ: เขตสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลทั้งหมดจากเครื่องมือเทคโนโลยีที่มีการใช้อยู่แล้ว เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกและการสนับสนุนเฉพาะบุคคลที่แม่นยำและครอบคลุมที่สุด

“ด้วยวิสัยทัศน์ของ PowerSchool ที่ใช้ประโยชน์จากความสามารถของ AI เพื่อแปลงข้อมูลให้เป็นเป้าหมายที่สามารถนำไปใช้งานได้ ซึ่งช่วยให้สามารถบรรลุผลสำหรับนักเรียนให้ได้ดียิ่งขึ้น เรารู้สึกมั่นใจในก้าวต่อไปของเรา” Dr. Joseph Nettikaden ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลของ Esol Education ใน UAE กล่าว

“PowerSchool กำลังดำเนินการปฏิวัติการศึกษาในระดับโลกโดยใช้ประโยชน์จาก AI ที่มีการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการศึกษาระดับ K-12 เพื่อเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้สอนและเจ้าหน้าที่ของเรา เพื่อช่วยในการเปลี่ยนแปลงชีวิตโดยการช่วยเยาวชนในการออกแบบอนาคตของพวกเขา” Fr. Jose Alarico Carvalho ผู้อำนวยการของ Father Agnel School ในอินเดีย กล่าว “ผู้ช่วย AI นี้จะช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน และเพิ่มประสิทธิภาพในแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน โรงเรียนของเราเป็นผู้บุกเบิกในการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด และผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับ PowerSchool ในการปรับแปลงนี้”

การสัมมนาผ่านเว็บฟรีเกี่ยวกับ PowerBuddy และ AI ในการศึกษาระดับ K-12 จะมีขึ้นในวันที่ 28 เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2024 สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ https://www.powerschool.com/webinar/ai-chat-bots หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PowerBuddy โปรดไปที่ www.powerschool.com

เกี่ยวกับ PowerSchool

PowerSchool (NYSE: PWSC) เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านซอฟต์แวร์ระบบคลาวด์สำหรับการศึกษาระดับ K-12 ในอเมริกาเหนือ ภารกิจของบริษัทคือ การส่งเสริมศักยภาพสำหรับผู้ให้การศึกษา ผู้ดูแลระบบ และครอบครัว เพื่อรับประกันการศึกษาแบบเฉพาะตัวสำหรับนักเรียนทุกคน PowerSchool นำเสนอผลิตภัณฑ์ระบบคลาวด์แบบครบวงจรที่เชื่อมต่อสำนักงานกลางเข้ากับห้องเรียนไปยังบ้านของนักเรียนด้วยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัล รวมถึง Schoology Learning และ Naviance CCLR ดังนั้น เขตการศึกษาจะสามารถจัดการข้อมูลของนักเรียน การลงทะเบียน การเข้าเรียน เกรด คำแนะนำด้านการสอน การประเมินผล ทรัพยากรบุคคล ความสามารถพิเศษ การพัฒนาด้านวิชาชีพ การศึกษาพิเศษ การวิเคราะห์ข้อมูล และข้อมูลเชิงลึก การสื่อสาร และความพร้อมด้านวิทยาลัยและวิชาชีพได้อย่างปลอดภัย PowerSchool ให้การสนับสนุนนักเรียนกว่า 50 ล้านคนในกว่า 90 ประเทศ และลูกค้ามากกว่า 16,000 ราย รวมถึงเขตการศึกษาชั้นนำมากกว่า 90 แห่งาจาก 100 อันดับแรกตามการลงทะเบียนของนักเรียนในสหรัฐอเมริกา สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.powerschool.com

© PowerSchool PowerSchool และเครื่องหมายอื่นๆ ของ PowerSchool เป็นเครื่องหมายการค้าของ PowerSchool Holdings, Inc. หรือบริษัทในเครือ ชื่อและแบรนด์อื่นๆ อาจเป็นทรัพย์สินของผู้อื่น

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

WE Communications for PowerSchool
WE-PowerSchool@we-worldwide.com
(503) 443-7155

แหล่งข้อมูล: PowerSchool Holdings, Inc.

teamLab Planets TOKYO ในโตโยสุติด 5 อันดับแรกของ ‘พิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก’ ในการจัดอันดับการค้นหาประจำปีของ Google โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป งานศิลปะที่มีดอกซากุระบานสะพรั่งอยู่ทั่วทั้งพื้นที่จะถูกนำมาจัดแสดงให้ชม

Logo

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังติดอันดับหนึ่งใน "การจัดอันดับจุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวขาเข้ายอดนิยม" ของ Honichi Lab อีกด้วย

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–23 มกราคม 2024

teamLab Planets TOKYO DMM ในโตโยสุ (teamLab Planets) ติด 5 อันดับแรกของ 'พิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก' (*1) ในการจัดอันดับการค้นหาประจำปี 'Year in Search 2023' ของ Google การจัดอันดับนี้จะแสดงรายการพิพิธภัณฑ์ที่มีการค้นหามากที่สุดบน Google Maps ทั่วโลกในปี 2023 โดย teamLab Planets นั้นเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งเดียวในประเทศญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์อันมีชื่อเสียงซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าร้อยปี

Flowers grow, bud, bloom, and in time, the petals fall, and the flowers wither and die. At teamLab Planets, a body immersive museum in Toyosu, Tokyo. (teamLab, Floating in the Falling Universe of Flowers / Photo: teamLab)

ดอกไม้เติบโต แตกยอด ผลิบาน และเมื่อเวลาผ่านไป กลีบดอกไม้ก็ร่วงหล่น และดอกไม้นั้นก็เหี่ยวเฉาและตายไป ณ teamLab Planets ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แบบให้ร่างกายของผู้ชมเข้าไปมีส่วนร่วมกับชิ้นงานในโทโยสุ โตเกียว (teamLab Floating in the Falling Universe of Flowers:ลอยละล่องลู่ลมไปกับพายุดอกไม้ / วิดีโอ: teamLab)

Google Maps: พิพิธภัณฑ์ยอดนิยม

  1. พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum) ปารีส ประเทศฝรั่งเศส
  2. พิพิธภัณฑ์อังกฤษ (The British Museum) ลอนดอน สหราชอาณาจักร
  3. พิพิธภัณฑ์ออร์แซ ปารีส (Musée d'Orsay) ประเทศฝรั่งเศส
  4. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ (Natural History Museum) ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
  5. teamLab Planets โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
  6. Rijksmuseum  อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
  7. พิพิธภัณฑ์แห่งชาติปราโด (Prado National Museum) มาดริด ประเทศสเปน
  8. พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ (Van Gogh Museum) อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
  9. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติอเมริกัน (American Museum of Natural History) นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
  10. บ้านแอนน์ แฟรงค์ (Anne Frank House) อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังติดอันดับที่ 1 ในการจัดอันดับ "สถานที่ท่องเที่ยวขาเข้ายอดนิยม" ของ Honichi Lab

teamLab Planets ได้รับการจัดอันดับเป็นที่หนึ่งใน "การจัดอันดับจุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวขาเข้ายอดนิยม" ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2023 โดย Honichi Lab (Visit Japan Lab) สื่อข้อมูลการท่องเที่ยวขาเข้าชั้นนำของญี่ปุ่น (*2) การจัดอันดับนี้ประเมินและรวบรวมรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว 4,700 แห่งใน 47 จังหวัดของญี่ปุ่นใน Google Map โดยนำเสนอมุมมองที่ไม่เหมือนใครโดย Honichi Lab

10 อันดับแรกในการจัดอันดับมีดังนี้ :

  1. teamLab Planets TOKYO DMM
  2. วัดคิโยมิซึ (Kiyomizu-dera)
  3. พิพิธภัณฑ์ซามูไรและนินจาเกียวโต (Kyoto Samurai Ninja Museum)
  4. ศาลเจ้าเทพอินาริ (Fushimi Inari Taisha)
  5. หอโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree)
  6. ย่านโดทนโบริ (Dōtonbori)
  7. วัดเซนโซจิ (Sensō-ji)
  8. สวนกวางนารา (Nara Park)
  9. ตลาดนิชิกิ เกียวโต (Kyoto Nishiki Market)
  10. หอโตเกียวทาว์เวอร์ (Tokyo Tower)

“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวมากมายในญี่ปุ่น นับจากนี้ไป เราจะรับฟังเสียงที่มีชีวิตของผู้เข้าชมของเราที่แสดงออกมาผ่านการวิจารณ์และคำติชมของพวกเขาต่อไป ด้วยความมุ่งมั่นในแนวคิด 'ให้ร่างกายทั้งหมดของผู้ชมเข้าไปมีส่วนร่วมกับชิ้นงาน' เราได้ทุ่มเทเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นที่จะช่วยให้ผู้คนจากทั่วโลกได้เพลิดเพลินไปกับโลกแห่งศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของพิพิธภัณฑ์ของเราได้อย่างเต็มที่” —— teamLab Planets

เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป งานศิลปะที่มีดอกซากุระบานสะพรั่งอยู่ทั่วทั้งพื้นที่จะถูกนำมาจัดแสดงให้ชม

ฤดูใบไม้ผลินี้ ผู้เยี่ยมชม teamLab Planets จะได้สัมผัสประสบการณ์อันดอกซากุระจะปกคลุมในพื้นที่ของงานศิลปะขนาดใหญ่สองแห่ง "Floating in the Falling Universe of Flowers : ลอยละล่องลู่ลมไปกับพายุดอกไม้ " ซึ่งมีดอกไม้บานและกระจัดกระจายอยู่ตลอดทั้งปีนั้น จะมีดอกซากุระเต็มพื้นที่ในช่วงเวลาที่จำกัดนี้เท่านั้น

ในงานศิลปะอีกชิ้นหนึ่งที่ชื่อว่า 'Drawing on the Water Surface Created by the Dance of Koi and People – Infinity : การวาดภาพบนผิวน้ำที่เกิดจากการเต้นรำของปลาคาร์ปและผู้คน –  อนันตภาพ ' ซึ่งผู้เข้าชมจะต้องเดินเท้าเปล่าผ่านน้ำ ปลาคาร์ปที่ว่ายอยู่บนผิวน้ำนั้นจะกระจายออกเป็นรูปดอกซากุระเมื่อปะทะกับผู้คน ซึ่งงานศิลปะเหล่านี้ที่มีดอกซากุระนี้จะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2024 (วันศุกร์) ถึงวันที่ 30 เมษายน 2024 (วันอังคาร)

วิดีโองานศิลปะ : Floating in the Falling Universe of Flowers
วิดีโองานศิลปะ : Drawing on the Water Surface Created by the Dance of Koi and People – Infinity

พิพิธภัณฑ์มีผู้เยี่ยมชมเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติจาก 198 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลกประมาณหนึ่งในสิบของผู้ที่ได้เดินทางมายังประเทศญี่ปุ่น

ตลอดทั้งปีตั้งแต่เดือนมกราคมถึงธันวาคม 2023 ผู้คนประมาณ 2.5 ล้านคนจาก 198 ประเทศและภูมิภาค ไม่รวมประเทศญี่ปุ่น ได้ไปเยี่ยมชม teamLab Planets ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็นประมาณ 70% ของผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ทั้งหมด (*3) มีรายงานด้วยว่าประมาณ 1 ใน 10 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาญี่ปุ่นนั้นได้ไปเยี่ยมชม teamLab Planets (*4) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รับการยกย่องอย่างสูงในระดับนานาชาติ โดยได้รับรางวัล "สถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชีย" ในงาน World Travel Awards ประจำปี 2023 ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นรางวัล Oscars แห่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่จุดหมายปลายทางในญี่ปุ่นได้รับรางวัล

แนวคิดของ teamLab Planets

เชื่อมโยงกับผู้อื่น  พาร่างกายทั้งหมดเข้าไป รับรู้ด้วยร่างกายของคุณ และหลอมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันกับโลก

teamLab Planets เป็นพิพิธภัณฑ์ที่คุณจะได้เดินผ่านน้ำ และสวนซ฿งทำให้คุณเป็นหนึ่งเดียวกับดอกไม้ ที่นั่นประกอบด้วยพื้นที่แสดงผลงานศิลปะขนาดใหญ่ 4 แห่ง และสวน 2 แห่งซึ่งสร้างโดยกลุ่มงานศิลปะ teamLab

ผู้คนจะเดินเท้าเปล่าและดื่มด่ำกับงานศิลปะอันกว้างใหญ่ร่วมกับคนอื่นๆ โดยงานศิลปะนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปตามการปรากฏตัวของผู้คน ทำให้การรับรู้ขอบเขตระหว่างตนเองกับผลงานพร่ามัว เมื่อบุคคลอื่นๆ ก็มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงของงานศิลปะ ทำให้ขอบเขตระหว่างตนเองกับผลงานนั้นไม่ชัดเจน และสร้างความต่อเนื่องกันระหว่างตนเอง ศิลปะ และผู้อื่น

*1 “พิพิธภัณฑ์เหล่านี้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกตาม Google’s‘Year in Search’” artnet. 20 ธันวาคม 2023.
*2 “สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ! อันดับ 2 คือ “คิโยมิสึเดระ” แล้วอันดับ 1 คืออะไร? ประกาศรายชื่อ TOP 30 ที่ได้รับการคัดเลือกจากสถานที่ท่องเที่ยว 4,700 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น [2023 1 | Honichi Lab (Visit Japan Lab). 15 ธันวาคม 2020

*3 จากข้อมูลการซื้อตั๋วอย่างเป็นทางการของเว็บไซต์ "teamLab Planets" จำแนกตามประเทศ (1 มีนาคม 2023 – 31 สิงหาคม 2023)
*4 “พิพิธภัณฑ์ศิลปะนิปปอน/ดิจิทัลอันน่าทึ่งในโตเกียวได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ – The Japan News” The Japan News by the Yomiuri Shimbun 5 สิงหาคม 2023

teamLab Planets TOKYO DMM
6-1-16 Toyosu, Koto-ku, Tokyo
https://maps.app.goo.gl/QVs4a34HD9qnvjUo8

เวลาทำการ
ทุกวัน: 09:00 – 22:00
*เข้าชมรอบสุดท้ายก่อนเวลาปิด 1 ชั่วโมง
*เวลาที่เปิดทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบข้อมูลล่าสุดที่หน้าเว็บไซต์ทางการ
วันที่ปิด: วันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์; วันพุธที่ 6 มีนาคม; วันพุธที่ 10 เมษายน

ค่าเข้าชม

จนถึงเดือนกุมภาพันธ์

[บัตรเข้าชมแบบตลอดทั้งวัน]

ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป)

3,800 JPY

นักเรียนมัธยมต้น/มัธยมปลาย

2,300 JPY

เด็ก (อายุตั้งแต่ 4 ถึง 12 ปี)

1,300 JPY

ต่ำกว่า 3 ขวบ

ไม่มีค่าใช้จ่าย

ส่วนลดสำหรับบุคคลทุพพลภาพ

1,900 JPY

เดือนมีนาคมเป็นต้นไป

[จ.-ศ.]

ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป)

3,800 JPY

นักเรียนมัธยมต้น/มัธยมปลาย

2,800 JPY

เด็ก (อายุตั้งแต่ 4 ถึง 12 ปี)

1,500 JPY

ต่ำกว่า 3 ขวบ

ไม่มีค่าใช้จ่าย

ส่วนลดสำหรับบุคคลทุพพลภาพ

1,900 JPY

[วันเสาร์ วันอาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และช่วงพิเศษ]

*ช่วงเวลาพิเศษ: 21 มีนาคม (พฤหัสบดี) – 5 เมษายน (วันศุกร์), 30 เมษายน (วันอังคาร)

ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป)

4,200 JPY

นักเรียนมัธยมต้น/มัธยมปลาย

2,800 JPY

เด็ก (อายุตั้งแต่ 4 ถึง 12 ปี)

1,500 JPY

ต่ำกว่า 3 ขวบ

ไม่มีค่าใช้จ่าย

ส่วนลดสำหรับบุคคลทุพพลภาพ

2,100 JPY

ร้านจำหน่ายตั๋วอย่างเป็นทางการ
https://teamlabplanets.dmm.com

เว็บไซต์และสื่อสังคม (SNS)
planets.teamlab.artInstagramFacebookX (Twitter)
#teamLabPlanets

อาหารและร้านค้า
Vegan Ramen UZU Tokyo teamLab Flower Shop

สำหรับสื่อมวลชน
Press Kit
Highlight Video

เกี่ยวกับบริษัท PLANETS Co., Ltd.
ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 ทำหน้าที่ดำเนินงานและบริหารจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกของ teamLab Planets TOKYO
ที่อยู่: Tokyo Nihonbashi Tower 10F, 2-7-1 Nihonbashi, Chuo-ku, Tokyo
ตัวแทน: Takumi Nomoto

เกี่ยวกับ teamLab
teamLab (f. 2001) คือกลุ่มศิลปะระดับนานาชาติ แนวทางปฏิบัติร่วมกันของพวกเขาคือการมุ่งหวังที่จะนำทางการบรรจบกันของศิลปะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และโลกธรรมชาติ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญแบบสหวิทยาการ รวมถึงศิลปิน โปรแกรมเมอร์ วิศวกร นักสร้างแอนิเมชันCG นักคณิตศาสตร์ และสถาปนิกเหล่านี้มีเป้าหมายที่จะสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับโลก ตลอดจนการรับรู้รูปแบบใหม่ผ่านงานศิลปะ

เพื่อทำความเข้าใจโลกรอบตัวพวกเขา ผู้คนจึงแบ่งโลกออกเป็นอัตลักษณ์อิสระโดยมีขอบเขตการรับรู้ระหว่างพวกเขา teamLab พยายามที่จะก้าวข้ามขอบเขตเหล่านี้ในการรับรู้โลกของเรา ความสัมพันธ์ระหว่างตัวตนกับโลก และความต่อเนื่องของเวลา ทุกสิ่งดำรงอยู่ในความต่อเนื่องที่ยาวนาน เปราะบาง แต่อัศจรรย์ และไร้ขอบเขต

นิทรรศการ teamLab จัดขึ้นในเมืองต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงนิวยอร์ก ลอนดอน ปารีส สิงคโปร์ ซิลิคอนแวลลีย์ ปักกิ่ง และเมลเบิร์น และอื่นๆ อีกมากมาย พิพิธภัณฑ์ teamLab และนิทรรศการถาวรขนาดใหญ่ ได้แก่ teamLab Borderless และ teamLab Planets ในโตเกียว, teamLab Borderless Shanghai, teamLab SuperNature Macao และ teamLab Massless Beijing และอื่นๆ อีกมากมายที่จะเปิดตัวในเมืองต่างๆ เช่น อาบูดาบี ฮัมบูร์ก เจดดาห์ และอูเทรคต์

ผลงานของ teamLab อยู่ในคอลเลกชันถาวรของพิพิธภัณฑ์Museum of Contemporary Art ที่ลอสแอนเจลิส หอศิลป์แห่งนิวเซาธ์เวลส์ ซิดนีย์; หอศิลป์แห่งเซาท์ออสเตรเลีย แอดิเลด; พิพิธภัณฑ์ศิลปะAsian Art Museum ซานฟรานซิสโก; พิพิธภัณฑ์สมาคมเอเชีย นิวยอร์ก; Borusan Contemporary Art Collection ในอิสตันบูล; หอศิลป์แห่งชาติวิกตอเรีย เมลเบิร์น; และเอมอส เร็กซ์, เฮลซิงกิ และอื่นๆ อีกมากมาย

teamLab นำเสนอโดย Pace Gallery, Martin Browne Contemporary และ Ikkan Art.
teamlab.artInstagramFacebookX (Twitter)YouTube

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53885086/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

PLANETS Co., Ltd.
Public Relations Department
E-mail: pr-info@planets.art
การสัมภาษณ์: https://forms.gle/fAtnDKLpQKFME6XR9

ที่มา: PLANETS Co., Ltd..


Xsolla Curine Academy และ Unreal Engine เริ่มการประชุมประจำเดือน

Logo

ความร่วมมือด้านนวัตกรรมและการสร้างชุมชนเริ่มขึ้นแล้วที่สำนักงาน Xsolla ในกัวลา ลัมเปอร์

กัวลา ลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย–(BUSINESS WIRE)–20 มกราคม 2024

Xsolla Curine Academy และ Unreal Engine มีการสรุปการประชุมของ Unreal Engine KL ที่จัดขึ้นเร็ว ๆ นี้ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นการประชุมประจำเดือน ในงานนี้ได้มีการเผยพื้นที่ทำงานอันเป็นนวัตกรรมของ Xsolla ที่มีการจัดตั้งสำหรับความร่วมมือ การแลกเปลี่ยนความรู้ และการสร้างชุมชน

การประชุมของ Unreal Engine KL บรรลุเป้าหมายในความร่วมมือระหว่างผู้คนที่มีความมุ่งมั่นร่วมกันในเทคโนโลยี Unreal Engine การโอบรับความหลากหลายของงานนี้ได้ต้อนรับผู้พัฒนาทุกระดับ การสร้างสภาพแวดล้อมที่มีชีวิตชีวาซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้ที่เป็นมือใหม่และผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์

ผู้เข้าร่วมมีความกระตือรือร้นในการมีส่วนร่วมกับข้อถกเถียงที่เปิดกว้าง มีการแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเครื่องมือ เทคนิคการพัฒนา และความก้าวหน้าล่าสุดของ Unreal Engine งานนี้ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับสมาชิกชุมชนในการนำเสนอการค้นพบใหม่ ๆ การถกเถียงคุณลักษณะจากการอัปเดตล่าสุด และการหาคำปรึกษาในการเริ่มต้น นอกเหนือจากการแลกเปลี่ยนความรู้แล้ว การประชุมยังประสบความสำเร็จในการอำนวยความสะดวกสำหรับการสร้างโอกาสทางเครือข่ายมากมาย การเชื่อมโยงกับผู้ที่อยากมีส่วนร่วมในท้องถิ่น รวมถึงการสร้างความเป็นพวกพ้องร่วมกัน

ไฮไลต์ของงานนี้คือการนำเสนอของวิทยากร Dean Reinhard (Epic GamesSteven Fong (Circle Studio) และ Fong Jian Ping (Ammobox Studio) ที่ฉายภาพให้เราเห็นแง่มุมสำคัญของ Unreal Engine และการพัฒนาเกม นอกจากนี้ ผู้มีส่วนร่วมยังมีโอกาสในการได้ถามคำถามและการแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับโครงการต่าง ๆ กับวิทยากรด้วย

การประชุม Unreal Engine ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เป็นค่ำคืนอันเต็มไปด้วยการแลกเปลี่ยนความรู้ ความร่วมมือ และการสร้างชุมชน โดย Xsolla Curine Academy และ Unreal Engine ได้แสดงความซาบซึ้งต่อผู้มีส่วนร่วมทั้งหมด โดยเฉพาะผู้ให้ข้อมูลที่มีค่าอันเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตของชุมชน Unreal ในกัวลา ลัมเปอร์

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Xsolla Curine Academy โปรดไปที่: www.xcdev.com

โซเชียลมีเดีย:

https://www.instagram.com/xsollacurineacademy 
https://www.facebook.com/profile.php?id=100093294957900
https://discord.com/invite/HyhhthpcEV 
https://www.linkedin.com/company/97435857/admin/feed/posts/

เกี่ยวกับ Xsolla Curine Academy

Xsolla Curine Academy ซึ่งได้รับทุนจาก Xsolla คอยอุทิศในการบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมในอุตสาหกรรมเกมผ่านกิจกรรม ความร่วมมือ และการสร้างชุมชน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและต้องการข้อมูลเพิ่ม โปรดไปที่: xsolla.com

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทค้าวิดีโอเกมระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือมากมายและทรงพลัง รวมถึงบริการที่ออกแบบมาสำหรับอุตสาหกรรมเกมโดยเฉพาะ นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2005 Xsolla ได้ช่วยผู้พัฒนาเกมและผู้จัดจำหน่ายนับพันในการลงทุน การตลาดทุกขนาด การปล่อยเกมและการหารายได้จากเกมทั่วโลกและหลากหลายแพลตฟอร์ม ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมในการค้าเกม ภารกิจของ Xsolla คือการแก้ไขความซับซ้อนที่มีแต่เดิมของการจัดจำหน่าย การทำการตลาด และการหารายได้ระดับโลก เพื่อช่วยพันธมิตรของเราในการเข้าถึงพื้นที่มากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับเกมเมอร์ทั่วโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ที่ปฏิบัติการในลอส แอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย รวมถึงสำนักงานต่าง ๆ ในเบอร์ลิน โซล ปักกิ่ง กัวลา ลัมเปอร์ โตเกียว และเมืองทั่วโลก Xsolla สนับสนุนบริษัทเกมใหญ่หลายแห่ง เช่น Valve Twitch, Roblox Ubisoft Epic Games Take-Two KRAFTON Nexters NetEase Playstudios Playrix miHoYo และอีกมากมาย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและต้องการข้อมูลเพิ่ม โปรดไปที่: xsolla.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อ
Derrick Stembridge
ผู้กำกับระดับโลกฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

แหล่งข้อมูล: Xsolla

Exicom ขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเข้าร่วมมือกับ INNOPOWER Co. Ltd. เพื่อเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

Logo

  • INNOPOWER Co. Ltd เป็นผู้ดำเนินการหลักในการขยายธุรกิจของ Exicom ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย
  • การเปิดตัวเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าขนาด 30kW จำนวนหกเครื่องในการเริ่มต้นความร่วมมือกัน
  • Exicom ดำเนินกิจการในอินเดีย มาเลเซีย ตะวันออกกลาง และตอนนี้ กำลังขยายการดำเนินงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

BANGKOK–(BUSINESS WIRE)–18 มกราคม 2024

Exicom เป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องชาร์จ EV ของอินเดีย เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกภาคส่วนการผลิตเครื่องชาร์จ EV ในอินเดีย และเป็นพันธมิตรกับผู้ผลิตยานยนต์ระดับโลก มีการประกาศในวันนี้เกี่ยวกับข้อตกลงการจัดจำหน่ายกับ INNOPOWER Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทนวัตกรรมด้านพลังงานในประเทศไทย ความร่วมมือในครั้งนี้มีผลต่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดย Innopower จะเป็นผู้ดูแลการจัดจำหน่ายเครื่องชาร์จระบบ AC/DC ของ Exicom การเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้จะช่วยเสริมฐานตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Exicom ให้เสถียรยิ่งขึ้น โดยมีการจัดตั้งเครือข่ายการขายและการจัดจำหน่ายในท้องถิ่น

Exicom Expands in Southeast Asia, Partners with INNOPOWER Co. Ltd. for Exclusive Distribution in Thailand (Graphic: Business Wire)

Exicom ขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเข้าร่วมมือกับ INNOPOWER Co. Ltd. เพื่อเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย (กราฟิก: Business Wire)

การดำเนินธุรกิจของ Exicom ในประเทศไทยถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมโซลูชันระบบชาร์จ EV ให้มีความคล่องตัวสูงยิ่งขึ้น โดยมุ่งมั่นในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานสำหรับระบบเพื่อรองรับ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทยในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลโดยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อโครงการริเริ่มด้านยานยนต์ในการพัฒนาระบบ EV และโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับเป้าหมายดังกล่าว

การประกาศความร่วมมือระหว่าง Exicom และ INNOPOWER ในระหว่างพิธีลงนาม ถือเป็นการเริ่มต้นสำหรับพันธมิตรในครั้งนี้ด้วยการติดตั้งเครื่องชาร์จขนาด 30kW จำนวนหกเครื่อง บทบาทหน้าที่ของ INNOPOWER นอกเหนือจากการจัดจำหน่ายแล้ว ยังครอบคลุมการส่งเสริมการขาย การตลาด และการขายผลิตภัณฑ์ของ Exicom ทั่วประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในต่างประเทศ Exicom ยังมีการจัดตั้งเครือข่ายการขายและการจัดหน่ายในท้องถิ่น ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกทั่วอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Exicom กำลังขยายขอบเขตการดำเนินงานทั่วโลก โดยการกระจายกลุ่มผลิตภัณฑ์ เพื่อให้มีความก้าวหน้าในภูมิภาคใหม่ๆ รวมถึงการเปลี่ยนกระบวนการภายในให้เป็นระบบดิจิทัล

Anant Nahata กรรมการผู้จัดการของ Exicom กล่าวว่า “การตระหนักถึงศักยภาพมหาศาลในการเติบโตของ EV ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และด้วยประสบการณ์ของเราในฐานะผู้ผลิตเครื่องชาร์จ EV ชั้นนำของอินเดีย ทำให้เราสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มพูนขึ้นในภูมิภาคได้ การเป็นพันธมิตรกับ INNOPOWER ซึ่งมีรากฐานเป้าหมายร่วมกันเพื่อการคมนาคมที่ยั่งยืน จะช่วยกระตุ้นการเติบโตของทั้งสองบริษัทได้อย่างมีนัยสำคัญ ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของประเทศ เครื่องชาร์จ EV ขั้นสูงของเราจะเป็นตัวอย่างของนวัตกรรมคุณภาพระดับสูง โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีผลที่สำคัญระดับโลก เมื่อเราขยายผลการดำเนินงานออกในวงกว้าง เป้าหมายของเราก็ยังคงความชัดเจน นั่นคือ การถือบรรทัดฐานในการกำหนดอนาคตการคมนาคมอย่างยั่งยืน ไม่ใช่เพียงเฉพาะประเทศไทย แต่ยังก้าวไกลไปทั่วโลก”

INNOPOWER เป็นบริษัทร่วมทุนขององค์กรพลังงานชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย Ratch Group Public Company Limited และ Electricity Generating Public Company Limited หรือ EGCO Group ที่มีความเชี่ยวชาญในนวัตกรรมโซลูชันด้านพลังงาน ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมายาวนานกว่า 50 ปี บริษัทพร้อมลงทุนในโครงการริเริ่มด้านพลังงานอย่างยั่งยืนทั่วโลก และการร่วมมือกับ Exicom เมื่อเร็วๆ นี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการดำเนินงานอย่างมีวิสัยทัศน์นี้

"เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เป็นพันธมิตรร่วมมือกับ Exicom เพราะมีความโดดเด่นในความน่าเชื่อถือและศักยภาพความสามารถ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับลูกค้าของเราในประเทศไทย ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งด้านการตลาดเครื่องชาร์จ EV ในประเทศ เราจึงมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับ Exicom เพื่อช่วยในการขยายเครือข่าย เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นในวงกว้าง รวมถึง เจ้าของยานพาหนะและรถยนต์ส่วนตัว ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในความมุ่งมั่นของเรา เพื่อส่งเสริมโซลูชันการคมนาคมที่สะอาด และสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของระบบนิเวศ EV ในประเทศไทย" Athip Tantivorawong ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของ INNOPOWER กล่าว

ความได้เปรียบจากการบุกเบิกในอินเดียและเรียนรู้ของ Exicom ควบคู่ไปกับการดำเนินงานแบบบูรณาการแนวดิ่ง ความสามารถในการวิจัยและพัฒนา และพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายของเครื่องชาร์จ EV ช่วยเสริมให้ Exicom ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องชาร์จ EV ในอินเดียและทั่วโลก ด้วยเครื่องชาร์จที่มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมและสภาวะไฟฟ้าที่รุนแรง Exicom นำเสนอเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุม นอกเหนือจากนี้ SPIN Control ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันบนมือถือของบริษัทยังช่วยให้ผู้ใช้ในที่พักอาศัยที่มีอินเทอร์เฟสที่ใช้งานง่าย พร้อมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การทำงานของเครื่องชาร์จแบบระยะไกล ระบบการวิเคราะห์ ความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ และการกำหนดตารางเวลาในการชาร์จโดยอัตโนมัติ

ความร่วมมือกันระหว่าง Exicom และ INNOPOWER เป็นความพยายามในการพัฒนาโซลูชันระบบการชาร์จ EV  ที่ใช้งานง่าย น่าเชื่อถือ และสะดวกสบายในประเทศไทย

เกี่ยวกับ Exicom:

Exicom เป็นผู้นำระดับโลกในการจัดหาโซลูชันพลังงานที่สำคัญ และโซลูชันระบบการชาร์จ EV ในกว่า 10 ประเทศ Exicom เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกในภาคส่วนการผลิตเครื่องชาร์จ EV ในอินเดีย และปัจจุบันนี้ กำลังขยายผลการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญเข้าในยุโรป สหราชอาณาจักร มาเลเซีย สิงคโปร์ และตะวันออกกลาง กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Exicom ครอบคลุมตั้งแต่ขนาด 3.3kW จนถึง 360kW โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยการผลิตถึงสามหน่วย ฝ่ายการวิจัยและพัฒนาภายในสองแห่ง และเครือข่ายบริการที่สนับสนุน

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับนวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคตได้ที่ https://www.exicom-ps.com/

เกี่ยวกับ INNOPOWER:

INNOPOWER ก่อตั้งขึ้นในปี 2022 และกำลังสร้างกระแสด้านภูมิทัศน์ความยั่งยืนของประเทศไทย เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT), RATCH Group และ The Electricity Generating Public Company Limited (EGCO) โดย INNOPOWER เป็นผู้นำด้านการลดคาร์บอน นวัตกรรมพลังงาน และเทคโนโลยีโลกสีเขียว พร้อมพันธกิจในการเร่งปรับเปลี่ยนประเทศไทยเข้าสู่พลังงานสะอาด และขับเคลื่อนนวัตกรรมในภาคส่วนพลังงานและเทคโนโลยี

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับนวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคตได้ที่ www.innopower.co.th

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:

https://www.businesswire.com/news/home/53884492/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Media Contacts
Anuj Bakshi
+91 9711306879
anuj.bakshi@adfactorspr.com

Shristy Sonal
+91 8340542348
shristy.sonal@adfactorspr.com

แหล่งข้อมูล: Exicom

Google Pay ในอินเดียลงนามข้อตกลงร่วมกัน (MoU) กับ NPCI International เพื่อการขยายของ UPI สู่ทั่วโลก

Logo

นิวเดลี–(BUSINESS WIRE)–18 มกราคม 2024

บริษัท Google India Digital Service (P) Limited และ NPCI International Payment Ltd (NIPL) ในเครือของบรรษัทการชำระเงินแห่งชาติของอินเดีย (NPCI) ได้ทำการลงนามเซ็นสัญญาข้อตกลงร่วมกัน (MoU) เพื่อขยายผลของระบบรับชำระและส่งเงินแบบ UPI ซึ่งจะนำความเปลี่ยนแปลงไปสู่ประเทศต่างๆ นอกเหนือจากประเทศอินเดีย

โดยข้อตกลงร่วมกัน (MoU) นี้มีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ ได้แก่ หนึ่งคือทำการขยายการใช้ระบบการชำระและส่งเงินแบบ UPI สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยู่นอกประเทศอินเดีย เพื่อให้พวกเขาสามารถทำธุรกรรมในต่างประเทศได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น สองคือช่วยในการสร้างระบบการชำระเงินดิจิทัลที่คล้ายกับ UPI ในประเทศอื่น ๆ เพื่อให้เป็นรูปแบบสำหรับการทำธุรกรรมทางการงานที่ราบรื่น และข้อสุดท้ายคือข้อตกลงร่วมกันนี้มีการให้ความสำคัญในการทำให้กระบวนการโอนเงินระหว่างประเทศเป็นเรื่องง่ายด้วยการใช้โครงสร้างของ UPI ซึ่งจะทำให้การแลกเปลี่ยนทางการเงินระหว่างประเทศเป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากขึ้น

วัตถุประสงค์ดังกล่าวนี้จะช่วยในการเร่งรัดให้ระบบรับชำระและส่งเงินแบบ UPI ได้รับการยอมรับในทั่วโลกมากขึ้น โดยการให้ผู้ประกอบการต่างประเทศได้มีโอกาสเข้าถึงลูกค้าจากอินเดียโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาเฉพาะสกุลเงินต่างประเทศ บัตรเครดิต หรือบัตร Forex เพื่อทำการชำระเงินดิจิทัล และจะทำให้มีตัวเลิกในการใช้แอปพลิเคชันที่รองรับระบบ UPI จากอินเดีย รวมไปถึง Google Pay ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับความมุ่งมั่นของบรรษัทการชำระเงินแห่งชาติของอินเดีย (NPCI) ในการเสริมสร้างบทบาทของอินเดียในเวทีการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก นอกจากนี้แล้ว ข้อตกลงร่วมกัน (MoU) นี้ยังจะมีส่วนสำคัญในการทำให้กระบวนการโอนเงินระหว่างประเทศเป็นเรื่องง่ายขึ้นโดยการลดความผูกขาดของช่องทางการโอนเงินอย่างที่เคยเป็นมา

ดีคชา เคาชาล, ผู้อำนวยการ, หุ้นส่วน, Google Pay ในอินเดีย กล่าวว่า "เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุน NPCI International Payment Ltd (NIPL) ในการขยายขอบเขตการใช้งานระบบ UPI ไปสู่ตลาดระดับสากล และ Google Pay เองเต็มใจและรู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้ร่วมมือกับบรรษัทการชำระเงินแห่งชาติของอินเดีย (NPCI) และระบบการเงินภายใต้การควบคุมของหน่วยงาน โดยการร่วมมือนี้นั้นก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่จะช่วยยืนยันถึงการทำให้การชำระเงินเป็นเรื่องที่ง่าย ปลอดภัย และสะดวกสบาย ระบบรับชำระและส่งเงินแบบ UPI ได้แสดงให้โลกเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจเมื่อมีการใช้โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในระดับที่ประชากรสามารถทำงานร่วมกันได้ และทุกระบบเศรษฐกิจที่เข้าร่วมในเครือข่ายดังกล่าวจะสร้างแรงกระเพื่อมเกินกว่าผลรวมของบทบาทที่มันเป็น เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความร่วมมือระดับนี้"

ริเตช ชูกลา, ประธานบริหาร NPCI International Payment Ltd (NIPL) ในเครือของบรรษัทการชำระเงินแห่งชาติของอินเดีย (NPCI) กล่าวว่า "เรายินดีที่ได้ทำงานร่วมกับ Google Pay เพื่อผลักดันระบบ UPI ให้เข้าสู่เวทีโลก การวางกลยุทธ์ทางพันธมิตรนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้การทำธุรกรรมต่างประเทศสะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเท่านั้น แต่ยังจะช่วยให้เราสามารถขยายความรู้และความเชี่ยวชาญในการดำเนินการเกี่ยวกับระบบการชำระเงินดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จนี้ไปยังประเทศอื่น ๆ นอกจากนี้เรายังรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เปิดใช้งานเครือข่ายการโอนเงินระหว่างประเทศที่จะมีความราบรื่นและเชื่อมต่อกันมากขึ้นด้วยการขยายความสามารถในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศของระบบ UPI และด้วยความสำเร็จของระบบรับชำระและส่งเงินแบบ UPI ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นประจักษ์ในอินเดียนี้ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สานต่อวิสัยทัศน์ของเราในการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของการชำระเงินดิจิทัลทั่วโลก"

การขยายตัวไปยังทั่วโลกของระบบ UPI แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งจะสร้างประสบการณ์การชำระเงินที่ราบรื่น ปลอดภัย และมีความคุ้มครองทางการเงินที่มีประสิทธิภาพสูงให้แก่ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อทั่วโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NPCI International คลิกที่นี่

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ช่องทางติดต่อ

สำหรับสื่อ: corporate.communications@npci.org.in

แหล่งที่มา: NPCI International Payments Ltd

Timeline เป็นเทคโนโลยีชีวภาพที่มีอายุยืนยาวของสวิส ได้รับการสนับสนุนทางการเงินที่สําคัญ จากผู้นําอุตสาหกรรมระดับโลกเชิงกลยุทธ์ รวมถึง L’Oréal และ Nestlé

Logo

โลซาน, สวิตเซอร์แลนด์–(BUSINESS WIRE)–17 มกราคม 2024

Timeline เป็นบริษัท เทคโนโลยีชีวภาพด้านสุขภาพของผู้บริโภคในระดับแนวหน้า ในการพัฒนาโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อการสูงวัยอย่างมีสุขภาพดีและอายุยืนยาว ได้ประกาศในวันนี้ว่าบริษัทสามารถระดมทุนได้ 56 ล้านฟรังก์สวิส(66 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในการระดมทุน Series D ที่มีสมาชิกมากเกินไป นับเป็นก้าวสําคัญสําหรับบริษัท และรวมถึงการลงทุนเชิงกลยุทธ์จากสองผู้นําอุตสาหกรรมระดับโลก ได้แก่ L’Oréal และ Nestlé

Timeline Longevity Products (Photo: Timeline)

ผลิคภัณฑ์ที่มีอายุยืนยาวของ Timeline (ภาพ: Timeline)

การระดมทุนรอบนี้นําโดย BOLD (Business Opportunities for L'Oréal Development) ซึ่งเป็นกองทุนร่วมลงทุนด้านนวัตกรรมเชิงกลยุทธ์ของ L'Oréal Groupe ซึ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทอย่าง Mitopure® เพื่อช่วยให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดีและยืนยาวขึ้น Mitopure® ได้รับการสนับสนุนในการวิจัยกว่า 15 ปี และได้ผ่านการทดสอบทางคลินิกแล้วว่า สามารถกําหนดเป้าหมายเส้นทางอายุยืนของเซลล์ที่สําคัญ โดยการรีไซเคิลและฟื้นฟูโรงไฟฟ้าของเซลล์ไมโตคอนเดรีย การทํางานของไมโตคอนเดรียอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งจําเป็นสําหรับการรักษาพลังงานของเซลล์ ซึ่งสนับสนุนความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การรับรู้ ความยืดหยุ่นของภูมิคุ้มกัน พลังผิว และประโยชน์ที่สําคัญอื่น ๆ โดยนำเสนอแนวทางที่ครอบคลุมในการส่งเสริมสุขภาพที่ดี

การสนับสนุนจากผู้นําในอุตสาหกรรมเหล่านี้ และเงินทุนที่ระดมทุนได้จะถูกนํามาใช้ เพื่อสร้าง Timeline ให้เป็นแบรนด์สุขภาพผู้บริโภคที่มีอายุยืนยาวชั้นนํา โดยการขยายด้านวิทยาศาสตร์ หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ และตลาดในภาคอาหาร ความงาม และสุขภาพ

"ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางหลายมิติที่ก้าวหน้า ซึ่งเราเชื่อมาโดยตลอดว่า จําเป็นต่อความก้าวหน้าที่มีความหมายสําหรับการมีอายุยืนยาวและสุขภาพที่ดี" Patrick Aebischer ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานของ Timeline กล่าว "ผมอยากจะขอบคุณ L’Oréal  Nestlé และนักลงทุนที่มีมายาวนานของเรา สําหรับความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาการมีอายุยืนที่มีรากฐานมาจากวิทยาศาสตร์ระดับสูงสุด"

"การมีอายุยืนยาวเป็นเรื่องของการมีสุขภาพที่ดีให้ยืนยาวขึ้น และ L’Oréal ได้ทํางานมาเป็นเวลาสิบปี เพื่อทําความเข้าใจและคาดการณ์ว่า สิ่งนี้อาจมีความหมายต่อความงามอย่างไร" Barbara Lavernos รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ดูแลฝ่ายวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยี ของ L’Oréal กล่าว "การมีอายุยืนยาวเป็นคําจํากัดความใหม่ของความงาม โดยเป็นการผสมผสานระหว่างสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่การถอดรหัสเครื่องหมายทางชีวภาพ ไปจนถึงการวิเคราะห์การสัมผัสภายนอก การลงทุนของเราใน Timeline เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสําหรับศักยภาพในการเปลี่ยนลักษณะสําคัญของการมีอายุยืนยาวมาสู่สุขภาพผิวและความงาม"

"เราเป็นผู้ลงทุนใน Timeline มาตั้งแต่ปี 2019 และยังคงประทับใจทีมงานเป็นอย่างมาก และยืนหยัดอยู่เบื้องหลังศักยภาพที่เทคโนโลยี Mitopure ยึดมั่นในโภชนาการเพื่อช่วยให้ผู้คนมีอายุยืนและสุขภาพดีขึ้น" Anna Mohl ซีอีโอของ Nestlé Health Science กล่าว "เรารู้สึกตื่นเต้นที่ L’Oréal เข้าร่วมในฐานะนักลงทุนและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ เพื่อนําเทคโนโลยีนี้ไปสู่จุดสูงสุดใหม่และขยายการใช้งาน"

เกี่ยวกับ Timeline

Timeline (บริษัทแม่ Amazentis) เป็นบริษัทผู้บุกเบิกด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพของสวิส ซึ่งมุ่งมั่นที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมการมีอายุยืนยาวด้วยส่วนผสม Mitopure® ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะที่ได้ผ่านการทดสอบทางคลินิกแล้ว Timeline นําเสนอแนวทางที่ครอบคลุมเพื่อสุขภาพของเซลล์ โดยผสมผสานคุณประโยชน์ของ Mitopure ไว้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารรุ่นต่อไป และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพผิวเฉพาะที่ ด้วยความเชี่ยวชาญกว่าทศวรรษในการวิจัยวิทยาศาสตร์การสูงวัย Timeline มุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดด้านสุขภาพของมนุษย์ โดยมีส่วนช่วยให้ทุกคนมีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพที่ดีขึ้น บริษัทได้รับการสนับสนุนในการวิจัยกว่า 15 ปี โดยนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียง การศึกษาทางคลินิกหลายครั้ง สิทธิบัตรมากกว่า 50 รายการ และ Nestlé Health Science เป็นนักลงทุนตั้งแต่ปี 2019 ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ www.timelinenutrition.com

ติดต่อ

โปรดติอต่อ:

Chris Rinsch ประธานและผู้ร่วมก่อตั้ง Timeline

Federico Luna ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Timeline
press@timelinenutrition.com

ที่มา: Timeline

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53883838/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


NielsenIQ และ TransUnion ร่วมมือกันเพื่อสรรสร้างงานการโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมายด้วยข้อมูลการซื้อปลีกของลูกค้า

Logo

CHICAGO–(BUSINESS WIRE)–17 มกราคม 2024

NielsenIQ ผู้นำด้านการวัดผลและการวิเคราะห์ข้อมูลระดับโลก มีการประกาศสัญญาข้อตกลงที่มีกับ TruAudience® ซึ่งเป็นธุรกิจโซลูชันด้านการตลาดของ TransUnion (NYSE: TRU) เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลผู้บริโภคของ NielsenIQ เข้ากับพื้นที่แบบระบุตัวตนของพันธมิตรสำหรับการจำลองกลุ่มเป้าหมาย ความพยายามในการร่วมมือนี้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลของลูกค้าจาก NielsenIQ ด้านการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว (FMCG) และโซลูชันการระบุตัวตนของ TransUnion สำหรับการเชื่อมต่อข้อมูล เพื่อช่วยบริษัทด้านสื่อและ AdTech ให้สามารถสร้างแคมเปญที่มีผลตอบรับสูงสำหรับกลุ่มเป้าหมายจากการซื้อของผู้บริโภค

พันธมิตรความร่วมมือสามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคที่ผ่านมาในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลด้านพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคแบบออฟไลน์สำหรับ FMCG ลูกค้าสามารถใช้ข้อมูลของ NielsenIQ เป็น "Seed Audience" เพื่อใช้ในการสร้างกลุ่มที่คล้ายกันตามข้อมูลประชากรและพฤติกรรมการซื้อ FMCG ไฮไลท์สำตัญของความร่วมมือในครั้งนี้ ได้แก่:

  • การกำหนดเป้าหมายอย่างแม่นยำเทียบได้กับเครือข่ายสื่อค้าปลีกการใช้ประโยชน์จากข้อมูลการซื้อช่วยให้บริษัทด้านสื่อและ AdTech สำหรับการสร้างโซลูชันสำหรับโอเพ่นเว็บ
  • ความเสถียรจากข้อมูลที่ล้าสมัย: ข้อมูลธุรกรรมยังคงไม่ได้รับผลกระทบจากข้อมูลที่ล้าสมัย และเมื่อวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูลระบุตัวตนแบบออฟไลน์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งแสดงโดยกราฟข้อมูลระบุตัวตนของ TransUnion ซึ่งมีช่องทางสำหรับการกำหนดเป้าหมาย โดยคุกกี้และ ID โฆษณาบนมือถือจะหายไป
  • สเกลและความสามารถในการเข้าถึงระดับโลก: NielsenIQ เป็นผู้ให้บริการระดับโลกเพียงรายเดียวที่ให้ข้อมูลในสเกลนี้ ด้วย Full View™ ช่วยให้บริษัทด้านสื่อและ AdTech สามารถเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าได้อย่างไม่มีปัญหา และปรับแปลงความสามารถในการกำหนดเป้าหมายลูกค้า

"NielsenIQ สามารถเสริมศักยภาพให้บริษัทด้านสื่อและ adtech ให้สามารถบริการแก่แบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว FMCG ได้ดียิ่งขึ้น ด้วยข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุมและนำไปปฏิบัติได้จริง" Brett Jones รองประธานอาวุโส หัวหน้าฝ่ายความร่วมมือระดับโลกแบบแนวดิ่งของ NielsenIQ กล่าว "โดยการร่วมมือกับ TransUnion ในการเชื่อมโยงข้อมูลของเราเข้ากับแพลตฟอร์มสื่อ ช่วยให้เราอยู่ในตำแหน่งแนวหน้าในกำหนดอนาคตของการกำหนดเป้าหมายลูกค้า นำเสนอโซลูชันที่เน้นความเป็นส่วนตัว และปูทางสำหรับแคมเปญที่สร้างผลตอบรับที่ดีและประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น”

ในการใช้การระบุตัวตนของ TransUnion บริษัทด้านสื่อจะสามารถแก้ไขข้อมูลของ NielsenIQ ให้เหมาะสมกับมุมมองการระบุตัวตนของตัวเอง และเริ่มต้นสร้างฐานลูกค้าเป้าหมายได้ ในตลาดที่เปลี่ยนไปเป็นเครือข่ายสื่อค้าปลีก การทำงานร่วมกันนี้จะช่วยให้บริษัทสื่อและ AdTech สามารถกำหนดเป้าหมายประสิทธิภาพที่สูงยิ่งขึ้นสำหรับโอเพ่นเว็บได้

“ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของเรากับ NielsenIQ นี้ จะช่วยให้นักการตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงเร็วและบริษัทสื่อสามารถนำเสนอประสบการณ์เฉพาะบุคคลได้ ราวกับว่าพวกเขามีข้อมูลของลูกค้าจากเครือข่ายสื่อค้าปลีก" Julie Clark รองประธานอาวุโส ฝ่ายสื่อและสันทนาการแนวดิ่งของ TransUnion กล่าว "เมื่อทำงานร่วมกัน เราจะสามารถสร้างภูมิทัศน์การโฆษณาที่มีแนวคิดก้าวหน้า ซึ่งให้ความสำคัญกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกัน ประสิทธิผล และความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภค"

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของ NielsenIQ ในด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และการเข้าถึงขุมทรัพย์ข้อมูลของลูกค้าได้ที่ https://nielseniq.com/global/en/landing-page/media-adtech-hub/ สามารถทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับโซลูชันด้านการตลาดสำหรับ TruAudience ของ TransUnion ได้ที่ https://www.transunion.com/solution/truaudience

เกี่ยวกับ NIQ

NIQ เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านข่าวกรองของผู้บริโภค ซึ่งนำเสนอความเข้าใจที่ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค และเผยให้เห็นเส้นทางใหม่ในการเติบโต ในปี 2023 NIQ ได้รวมตัวกับ GfK เพื่อรวบรวมผู้นำอุตสาหกรรมทั้งสองระดับโลกที่ไม่มีใครเทียบได้ ด้วยข้อมูลการค้าปลีกแบบองค์รวมและข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคที่ครอบคลุมที่สุด—ช่วยให้สามารถส่งมอบผลการวิเคราะห์ขั้นสูงผ่านแพลตฟอร์มที่ล้ำสมัย—NIQ นำเสนอ Full View

NIQ เป็นบริษัทในเครือของ Advent International ที่มีการดำเนินงานในตลาดมากกว่า 100 แห่ง ครอบคลุมมากกว่า 90% ของประชากรโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ NIQ.com

เกี่ยวกับ TransUnion (NYSE:TRU)

TransUnion เป็นบริษัทด้านข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกระดับโลก โดยมีพนักงานมากกว่า 12,000 คน และดำเนินงานในกว่า 30 ประเทศ เราสร้างความไว้วางใจได้โดยสร้างความน่าเชื่อถือในตัวแทนที่อยู่ในแต่ละตลาด โดยเรามีการสร้างภาพ Tru™ ในตัวแทนแต่ละคน ซึ่งประกอบด้วย มุมมองที่สามารถนำไปปฏิบัติได้สำหรับผู้บริโภค และมีการดูแลด้วยความเอาใจใส่ จากการเข้าซื้อกิจการและการลงทุนด้านเทคโนโลยี เราจึงมีการพัฒนาโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมซึ่งมีการขยายวงกว้างครอบคลุมรากฐานฝ่ายปฏิบัติการหลักที่แข็งแกร่งของเราไปสู่ด้านต่างๆ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด การฉ้อโกง ความเสี่ยง และข้อมูลขั้นสูง เป็นผลให้ผู้บริโภคและธุรกิจสามารถทำธุรกรรมด้วยความมั่นใจที่สูงขึ้น และบรรลุผลสำเร็จ เราเรียกสิ่งนี้ว่า Information for Good® — และนำไปสู่โอกาสทางเศรษฐกิจ ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม และการเสริมสร้างศักยภาพส่วนบุคคลสำหรับผู้คนนับล้านทั่วโลก http://www.transunion.com/business

ติดต่อ

Media
Gillian Mosher, NIQ – Gillian.Mosher@NielsenIQ.com
David Blumberg, TransUnion – david.blumberg@transunion.com

แหล่งข้อมูล: NIQ

Xenco Medical เปิดตัว TrabeculeX Continuum ซึ่งเป็นการผสานรวมอย่างมีนัยสำคัญระหว่างสุขภาพดิจิทัลและวัสดุชีวภาพ ในงาน CES 2024 ที่ลาสเวกัส ซึ่งเป็นการประชุมเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Logo

SAN DIEGO–(BUSINESS WIRE)–16 มกราคม 2024

วันที่ 11 เดือนมกราคม Xenco Medical บริษัทเทคโนโลยีการแพทย์บุกเบิกได้เปิดตัวเทคโนโลยีที่ผสานรวมระหว่างสุขภาพดิจิทัลและวัสดุชีวภาพ โดยมีการจัดแสดง TrabeculeX Continuum™ ในงาน 2024 Consumer Electronics Show ที่ลาสเวกัส รัฐเนวาดา TrabeculeX Continuum เป็นสะพานเทคโนโลยีเชื่อมระหว่างออร์โธไบโอโลจิกส์และสุขภาพดิจิทัลแห่งแรก โดยเป็นการผสมผสานการปลูกถ่ายวัสดุชีวภาพและการฟื้นฟูหลังการผ่าตัดสำหรับผู้ป่วย ประกอบด้วย TrabeculeX Bioactive Matrix™ และ TrabeculeX Recovery App™ ที่ผ่านการรับรองจาก FDA เพื่อเพิ่มศักยภาพสำหรับศัลยแพทย์ในการปลูกถ่าย TrabeculeX Bioactive Matrix ที่ผ่านการรับรองจาก FDA ของ Xenco Medical เพื่อลงทะเบียนผู้ป่วยใน TrabeculeX Recovery App และสามารถใช้ในการตรวจสอบเพื่อการรักษาจากระยะไกล ตลอดจนวิดีโอและการส่งข้อความแบบอะซิงโครนัส TrabeculeX Continuum เป็นการผสานรวมเวชศาสตร์ฟื้นฟูและสุขภาพดิจิทัลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

On January 11th, trailblazing medical technology company Xenco Medical unveiled its convergent technology bridging Digital Health and Biomaterials by showcasing its TrabeculeX Continuum™ at the 2024 Consumer Electronics Show in Las Vegas, Nevada. Comprising the TrabeculeX Bioactive Matrix™ and the TrabeculeX Recovery App™, the TrabeculeX Continuum is the first technology-enabled bridge between orthobiologics and digital health, unifying a patient’s biomaterial implantation and postoperative journey. (Graphic: Business Wire)

เมื่อวันที่ 11 เดือนมกราคม Xenco Medical บริษัทเทคโนโลยีการแพทย์บุกเบิก ได้เปิดตัวเทคโนโลยีที่ผสานรวมระหว่างสุขภาพดิจิทัลและวัสดุขีวภาพ โดยมีการจัดแสดง TrabeculeX Continuum™ ในงาน 2024 Consumer Electronics Show ที่ลาสเวกัส รัฐเนวาดา TrabeculeX Continuum เป็นสะพานเทคโนโลยีเชื่อมระหว่างออร์โธไบโอโลจิกส์และสุขภาพดิจิทัลแห่งแรก โดยเป็นการผสมผสานการปลูกถ่ายวัสดุชีวภาพและการฟื้นฟูหลังการผ่าตัดสำหรับผู้ป่วย ประกอบด้วย TrabeculeX Bioactive Matrix™ และ TrabeculeX Recovery App™ (กราฟิก: Business Wire)

โดยมีการออกแบบมาเพื่อเพิ่มพูนความสามารถในการขึ้นรูปแบบไฮดรอกซีคาร์บอเนตอะพาไทต์ใน TrabeculeX Bioactive Matrix วัสดุชีวภาพที่สร้างขึ้นใหม่ใน TrabeculeX Continuum ได้รับการออกแบบมาอย่างประณีตโดย Xenco Medical เพื่อช่วยในการสร้างรูปกระดูกแบบสามมิติ โดยสถาปัตกรรมใหม่ของ TrabeculeX Bioactive Matrix เป็นการใช้ประโยชน์จากพื้นผิวที่ซับซ้อน เริ่มต้นที่ขนาดต่ำกว่าไมครอน และขยายไปยังโครงสร้างเนื้อเยื่อทั้งหมด TrabeculeX Recovery App เป็นการผสานรวมวิธีการปลูกถ่ายวัสดุชีวภาพเข้ากับการฟื้นฟูกายภาพอย่างเต็มรูปแบบ โดยเอื้อให้ศัลยแพทย์ที่ใช้ TrabeculeX Bioactive Matrix ในผู้ป่วยสามารถสั่งจ่ายยาและติดตามแผนการฟื้นฟูกายภาพเฉพาะด้านจากระยะไกล พร้อมความสามารถในการวิดีโอ และส่งข้อความแบบอะซิงโครนัส

“ในฐานะที่เป็นบริษัทเทคโนโลยีการผ่าตัดที่ไม่เพียงทุ่มเทให้กับการดูแลระหว่างการผ่าตัดของผู้ป่วยเท่านั้น แต่เรายังมุ่งเน้นการฟื้นตัวในระยะยาวด้วยเช่นกัน เรามุ่งมั่นที่จะขจัดอุปสรรคต่างๆ ที่เรามีอยู่ในปัจจุบันตั้งแต่การผ่าตัดไปจนถึงการฟื้นฟูกายภาพ ด้วย TrabeculeX Continuum เราขอแนะนำเทคโนโลยีการผสานรวมที่สามารถบันทึกทุกขั้นตอนในการรักษาผู้ป่วย แทนที่จะเป็นเพียงเฉพาะการดูแล” Jason Haider ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Xenco Medical กล่าว

ผู้บุกเบิกการประยุกต์ใช้งานวิทยาศาสตร์การผลิตวัสดุขั้นสูงและเครื่องมือสำหรับการผ่าตัด รวมถึงการออกแบบการปลูกถ่าย นวัตกรรมวิทยาศาสตร์การผลิตวัสดุของ Xenco Medical รวมถึงระบบการผ่าตัดคอมโพสิตโพลีเมอร์และการปลูกถ่ายไขสันหลังแบบโฟมไทเทเนียมไบโอมิเมติกได้รับการรับรองจากสถานพยาบาลทั่วประเทศ Xenco Medical ได้รับการยอมรับและเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำมากที่สุดในโลกจาก Fast Company Magazine ในปี 2023

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53882026/en

ติดต่อ

Melissa Russell
858-202-1505
info@xencomedical.com

แหล่งข้อมูล: Xenco Medical

The Bangkok Reporter