Kioxia ร่วมมือกับเซิร์ฟเวอร์จาก Hewlett Packard Enterprise สำหรับจรวดอวกาศที่มุ่งสู่สถานีอวกาศนานาชาติ

Logo

HPE Spaceborne Computer-2 มาพร้อม Value SAS จาก KIOXIA, SSD แบบ SAS และ NVMe ระดับองค์กร ช่วยให้สามารถทดลองทางวิทยาศาสตร์ได้โดยมีความจุในการเก็บข้อมูลกว่า 130 TB

เคปคานาเวอรัล ฟลอริดา–(BUSINESS WIRE)–2 กุมภาพันธ์ 2024

วันนี้ SSD จาก KIOXIA ได้ออกเดินทางไปกับจรวดสำหรับทำภารกิจ NG-20 ซึ่งเป็นการส่ง HPE Spaceborne Computer-2 เวอร์ชันปรับปรุงโดยอาศัยเซิร์ฟเวอร์ HPE EdgeLine และ ProLiant จาก Hewlett Packard Enterprise (HPE) ออกสู่สถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station หรือ ISS) ทั้งนี้ SSD จาก KIOXIA ช่วยให้ HPE Spaceborne Computer-2 มีพื้นที่เก็บข้อมูลแบบแฟลชที่ทนทานสำหรับดำเนินการทดลองทางวิทยาศาสตร์บนสถานีอวกาศ

KIOXIA SSDs on Space Launch Destined for the International Space Station (Graphic: Business Wire)

SSD จาก KIOXIA บนจรวดอวกาศที่มุ่งสู่สถานีอวกาศนานาชาติ (รูปภาพ: Business Wire)

HPE Spaceborne Computer-2 ซึ่งใช้เทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ที่หาซื้อได้ทั่วไปนี้มาพร้อมเทคโนโลยี Edge Computing และความสามารถจาก AI ในตัวเพื่อรองรับการวิจัยในที่ห่างไกล โดยเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจที่ยิ่งใหญ่ขึ้นในการยกระดับขีดความสามารถในการประมวลผลบนอวกาศให้พัฒนาอย่างมีนัยสำคัญและลดการพึ่งพาการสื่อสารในเวลาเช่นนี้ที่การสำรวจอวกาศขยายขอบเขตออกไปอย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งนี้ HPE Spaceborne Computer-2 ออกแบบมาให้รองรับการทำงานแบบการประมวลผลสมรรถนะสูง (High-performance Computing หรือ HPC) หลากหลายแบบในอวกาศ ซึ่งรวมถึงการประมวลผลรูปภาพแบบเรียลไทม์ การเรียนรู้เชิงลึก และการจำลองทางวิทยาศาสตร์ จึงสามารถใช้เทคโนโลยีนี้ในการประมวลผลการทดลองได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการดูแลสุขภาพ, การฟื้นฟูจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ, การพิมพ์แบบสามมิติ, 5G, AI และอีกมากมาย

Kioxia ซึ่งเป็นผู้ให้บริการพื้นที่เก็บข้อมูลสำหรับ HPE Spaceborne Computer-2 ได้มอบ SSD ที่ใช้หน่วยความจำแบบแฟลช ซึ่งรวมถึง KIOXIA RM Series value SAS, PM Series enterprise SAS และ XG Series NVMeTM SSD เพื่อช่วยให้ความก้าวหน้าเหล่านี้เกิดขึ้นได้จริง ทั้งนี้ นอกจาก SSD แบบ NVMe ขนาด 1,024 กิกะไบต์ (GB) จำนวนแปดตัวและ SSD แบบ value SAS ขนาด 960 GB จำนวนสี่ตัวแล้ว SSD แบบ SAS ระดับองค์กรแต่ละตัวในสี่ตัวจาก Kioxia ยังมีความจุอยู่ที่ 30.72 เทระไบต์ (TB) อีกด้วย รวมกันเป็นพื้นที่กว่า 130 TB นับเป็นพื้นที่เก็บข้อมูลที่มากที่สุดที่ได้ออกเดินทางสู่สถานีอวกาศในครั้งเดียว [1]

SSD ที่ใช้หน่วยความจำแบบแฟลชนั้นเหมาะกับการใช้งานมากกว่าพื้นที่เก็บข้อมูลแบบฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์แบบเดิม เพราะสามารถรองรับข้อกำหนดด้านพลังงาน ประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือได้เมื่ออยู่นอกอวกาศเนื่องจากไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนที่ได้และให้ประสิทธิภาพที่รวดเร็วกว่า สภาวะการทำงานของ SSD จะได้รับการตรวจสอบทุกวันตลอดระยะเวลาในการทำภารกิจจากไฟล์บันทึกรายวันที่ส่งมาจาก ISS ทั้งนี้ Kioxia จะติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลสภาวะการทำงานนี้เพื่อให้เข้าใจได้ดีขึ้นว่าพื้นที่เก็บข้อมูลที่ใช้หน่วยความจำแบบแฟลชมีการทำงานเช่นไรเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่หนักหน่วงบนอวกาศ

Kioxia ร่วมมือกับ HPE ในการรังสรรค์โซลูชันพื้นที่เก็บข้อมูลชั้นยอดมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้ก็ช่วยให้เกิดโซลูชันและบริการต่าง ๆ มากมายของ HPE ตั้งแต่อุปกรณ์เคลื่อนที่ไปจนถึงระบบคลาวด์ ตลอดจนระดับองค์กร

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง:
รายการ SSD จาก KIOXIA สำหรับลูกค้าที่เป็นธุรกิจ
https://www.kioxia.com/en-jp/business/ssd.html

หมายเหตุ
[1] ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2024 โดยการสำรวจจาก Kioxia Corporation

*คำจำกัดความของความจุ: Kioxia Corporation กำหนดให้เมกะไบต์ (MB) คือ 1,000,000 ไบต์, กิกะไบต์ (GB) คือ 1,000,000,000 ไบต์ และเทระไบต์ (TB) คือ 1,000,000,000,000 ไบต์ แต่ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์จะรายงานความจุโดยใช้เลขยกกำลังของ 2 โดยคำจำกัดความของ 1 GB = 2^30 ไบต์ = 1,073,741,824 ไบต์และ 1 TB = 2^40 ไบต์ = 1,099,511,627,776 ไบต์ ด้วยเหตุนี้จึงแสดงความจุของพื้นที่เก็บข้อมูลที่น้อยกว่า ทั้งนี้ ความจุของพื้นที่เก็บข้อมูลที่ใช้งานได้ (ซึ่งรวมถึงตัวอย่างไฟล์สื่อต่าง ๆ) จะแตกต่างกันไปตามขนาดไฟล์, การจัดรูปแบบ, การตั้งค่า, ซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการ และ/หรือแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า หรือเนื้อหาสื่อ โดยความจุที่ใช้งานได้จริงอาจแตกต่างกันออกไป

*NVMe เป็นเครื่องหมายที่จดทะเบียนหรือไม่ได้จดทะเบียนของ NVM Express, Inc. ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ

*ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทภายนอก

เกี่ยวกับ Kioxia

Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกในด้านโซลูชันหน่วยความจำ ซึ่งมุ่งมั่นทุ่มเทในการพัฒนา การผลิต และการจำหน่ายหน่วยความจำแบบแฟลชและโซลิดสเตตไดรฟ์ (SSDs) ในเดือนเมษายนปี 2017 บริษัท Toshiba Memory ที่เป็นชื่อเดิมของ Kioxia ได้แยกตัวออกมาจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจำแบบแฟลช NAND ในปี 1987 Kioxia มุ่งมั่นที่จะยกระดับโลกใบนี้ด้วย “หน่วยความจำ” โดยมอบผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบที่สร้างทางเลือกให้กับลูกค้าและสร้างประโยชน์จากหน่วยความจำให้กับสังคม เทคโนโลยีหน่วยความจำแบบแฟลชสามมิติอันล้ำสมัยจาก Kioxia ที่เรียกว่า BiCS FLASH™ ช่วยขับเคลื่อนอนาคตสำหรับพื้นที่เก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันที่มีความหนาแน่นสูง ซึ่งรวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง, พีซี, SSD, ยานยนต์ และศูนย์ข้อมูล

*ข้อมูลในเอกสารนี้ (ซึ่งรวมถึงราคาผลิตภัณฑ์และข้อมูลจำเพาะ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลติดต่อ) เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53889435/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

คำถามจากสื่อ:
Kioxia Corporation
แผนกวางแผนเชิงกลยุทธ์สำหรับการขาย
คุณ Koji Takahata
โทรศัพท์: +81-3-6478-2404

แหล่งที่มา: Kioxia Corporation

ข้อตกลงระหว่างจีนและ Global Cement ว่าด้วยคาร์บอนต่ำในอนาคต

Logo

เปิดตัวความร่วมมือครั้งสำคัญในการเสริมสร้างความยั่งยืนเพื่อวัสดุที่จำเป็นของโลก

BEIJING–(BUSINESS WIRE)–1 กุมภาพันธ์ 2024

องค์กรชั้นนำสองแห่งที่เป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมซีเมนต์ทั่วโลกได้ลงนามในข้อตกลงครั้งสำคัญในการช่วยเร่งการลดคาร์บอนของภาคส่วนต่างๆ ทั่วโลก China Cement Association (CCA) ซึ่งมีการผลิตซีเมนต์ทั่วโลกกว่า 50% และ Global Cement and Concrete Association ซึ่งมีสมาชิกถึง 80% ของกำลังการผลิตซีเมนต์นอกประเทศจีน ได้ลงนามในคำมั่นสัญญาความร่วมมือครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์

Global Cement and Concrete Association and China Cement Association sign decarbonisation agreement in Beijing (Photo: Business Wire)

Global Cement and Concrete Association และ China Cement Association ลงนามข้อตกลงร่วมกันในการลดการปล่อยคาร์บอนที่กรุงปักกิ่ง (ภาพถ่าย: Business Wire)

คำมั่นสัญญานี้รวมถึงข้อตกลงในการทำงานร่วมกันด้านความยั่งยืน และการพัฒนาคาร์บอนต่ำสำหรับอุตสาหกรรมซีเมนต์และคอนกรีต คอนกรีตเป็นวัสดุที่มีการใช้งานมากที่สุดในดลก รองจากน้ำ และซีเมนต์เป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตคอนกรีต และคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 7% ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลก

ข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์นี้จะครอบคลุมการพัฒนาแผนงาน China Cement Carbon Neutrality Roadmap ของห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมด และจะมีการเปิดตัวในปลายปีนี้ ซึ่งจะเป็นการกำหนดแนวทางและความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมซีเมนต์ในจีนอย่างสมบูรณ์ GCCA ซึ่งมีการเปิดตัวแผนงานคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์เมื่อปี 2021 จะช่วยในการพัฒนาควบคู่ไปกับ Sinoma International Engineering Co Ltd (Sinoma) ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีและอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมซีเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ European Cement Research Academy (ECRA) ซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนข้อมูลทางเทคนิคทั้งหมด

Kong Xiangzhong, ประธานฝ่ายบริหารของ CCA กล่าวในระหว่างการเปิดตัวข้อตกลงในพิธีลงนามที่กรุงปักกิ่งว่า “ข้อตกลงอันสำคัญนี้ถือได้ว่าเป็นความร่วมมือแบบได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย และแสดงให้เห็นว่า เราสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึก องค์ความรู้ทางเทคนิค และมีการมุ่งเน้นที่กว้างขึ้น เพื่อภารกิจการลดการปล่อยคาร์บอนร่วมกันของเรา ผมมั่นใจว่า จะสามารถสร้างความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันและเป็นความร่วมมือกันในระยะยาว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการโลกที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น”

Thomas Guillo, GCCA CEO กล่าวว่า “โลกต้องการความเป็นผู้นำและความร่วมมือกันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหาที่สำคัญในยุคสมัยของเรา นั่นคือ ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ข้อตกลงระหว่างอุตสาหกรรมในประเทศจีนและอุตสาหกรรมระดับโลกนี้เป็นสัญญาณแสดงให้โลกรู้ว่า เราพร้อมที่จะส่งเสริมวัสดุก่อสร้างสำคัญที่ลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งเป็นสิ่งที่โลกของเราต้องการในขณะนี้ ซีเมนต์และคอนกรีตสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ชุมชนที่เจริญรุ่งเรืองและฟื้นตัวได้ น้ำสะอาด บ้านที่ปลอดภัย และการเปลี่ยนแปลงไปสู่พลังงานที่สะอาด ซึ่งจำเป็นสำหรับโลกที่ยั่งยืนในอนาคต”

ข้อตกลงนี้ครอบคลุมความร่วมมืออย่างเป็นทางการในช่วงสามปีข้างหน้า และเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการสื่อสารและการแลกเปลี่ยนที่กว้างยิ่งขึ้น

Thomas Guillot กล่าวเสริมว่า “การทำงานร่วมกันกับพันธมิตรใหม่ของเราในประเทศจีน หมายถึง การมุ่งมั่นเพื่อคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ และการดำเนินการในแต่ละวันของเราถือเป็นภารกิจระดับโลกอย่างแท้จริง”

เกี่ยวกับ China Cement Association – CCA
China Cement Association ได้ก่อตั้งขึ้นที่กรุงปักกิ่งในปี 1987 ในฐานะหนึ่งในองค์กรทางสังคมที่จดทะเบียนโดย Ministry of Civil Affairs ซึ่งเป็นองค์กรอิสระทางกฎหมาย CCA เป็นองค์กรอุตสาหกรรมทางสังคมระดับชาติที่ไม่แสวงหาผลกำไร โดยมีการก่อตั้งขึ้นโดยความสมัครใจของกลุ่มผู้ผลิตซีเมนต์ สถาบันวิจัย วิทยาลัยและมหาวิทยาลัย องค์กรทางสังคม และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมซีเมนต์ทั่วประเทศ CCA มุ่งมั่นที่จะให้บริการแก่อุตสาหกรรม ปกป้องสิทธิที่ชอบด้วยกฎหมายและผลประโยชน์ของสมาชิก ช่วยเหลือรัฐบาลโดยร่วมกันรักษาฐานตลาดการแข่งขันที่ยุติธรรม เพื่อเป็นสะพานเชื่อมระหว่างรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ และส่งเสริมการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คาร์บอนต่ำ และมีคุณภาพสูงของอุตสาหกรรมซีเมนต์ในประเทศจีน ซึ่งมีบทบาทในการนำ ประสานงาน และให้บริการ

เกี่ยวกับ Global Cement and Concrete Association – GCCA
GCCA เป็นโครงการริเริ่มในอุตสาหกรรมที่นำโดย CEO ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2018 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ ได้รับการยอมรับ และเป็นกระบอกเสียงสำหรับภาคส่วนอุตสาหกรรมซีเมนต์และคอนกรีตทั่วโลก

GCCA และสมาชิก คิดเป็นสัดส่วน 80% ของกำลังการผลิตซีเมนต์ทั่วโลกนอกประเทศจีน เช่นเดียวกับจำนวนผู้ผลิตในประเทศจีนก็มีการเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน บริษัทสมาชิกมีความมุ่งมั่นในการลดและกำจัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอุตสาหกรรมคอนกรีต ซึ่งปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนถึง 7% ทั่วโลก โดยผ่านการดำเนินแผนงาน Concrete Future 2050 Net Zero Roadmap ของ GCCA – ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหนักแห่งแรกที่มีการจัดทำแผนงานโดยละเอียดดังกล่าว

GCCA มุ่งมั่นในการสร้างอนาคตร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมที่มีความสดใส ยืดหยุ่น และยั่งยืน ทั้งสำหรับอุตสาหกรรมและเพื่อโลก

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53890723/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม หรือขอเข้าสัมภาษณ์ โปรดติดต่อ:
Simon Thomson, Head of Media, GCCA
simon.thomson@gccassociation.org
+44 7380 972282

แหล่งข้อมูล: Global Cement and Concrete Association

Kioxia เปิดตัวอุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชแบบฝัง UFS Ver.4.0 ตัวแรกของอุตสาหกรรมสำหรับการใช้งานในยานยนต์

Logo

การปรับปรุงประสิทธิภาพวิวัฒนาการเชื้อเพลิงของการใช้งานด้านยานยนต์ ยกระดับประสบการณ์ของผู้ขับขี่

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–1 กุมภาพันธ์ 2024

Kioxia Corporation ผู้นําระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจํา ประกาศในวันนี้ถึงการสุ่มตัวอย่าง[1] ของอุปกรณ์หน่วยความจําแฟลชแบบฝัง[2]   Universal Flash Storage[3] (UFS) Ver. 4.0 ตัวแรกของอุตสาหกรรมที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานในยานยนต์ อุปกรณ์ใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเหล่านี้ มอบความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลแบบฝังที่รวดเร็วในขนาดบรรจุภัณฑ์ที่เล็ก  และมุ่งเป้าไปยังแอปพลิเคชันอุตสาหกรมยานยนต์สมัยใหม่ที่หลากหลาย รวมถึงเทเลเมติกส์ ระบบอินโฟเทนเมนต์ และ ADAS[4] ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น[5] ของผลิตภัณฑ์ UFS จาก Kioxia ซึ่งรวมถึงความเร็วในการอ่านตามลำดับประมาณ +100% และความเร็วในการเขียนตามลำดับประมาณ +40% ช่วยให้แอปพลิเคชันเหล่านี้สามารถใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อของ 5G ส่งผลให้เวลาเริ่มต้นระบบเร็วขึ้น และประสบการณ์ของผู้ใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

Kioxia: Automotive UFS Ver. 4.0 Embedded Flash Memory Device (Photo: Business Wire)

Kioxia: อุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชแบบฝังในยานยนต์ UFS Ver.4.0 (รูปภาพ: Business Wire)

เป็นบริษัทแรกที่แนะนําเทคโนโลยี UFS[6] Kioxia ยังคงขับเคลื่อนเทคโนโลยีไปข้างหน้า อุปกรณ์ UFS Ver. 4.0 ใหม่ ผสานรวมหน่วยความจําแฟลช BiCS FLASH™ 3D ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของบริษัท และคอนโทรลเลอร์ในแพ็คเกจมาตรฐาน JEDEC UFS 4.0 ประกอบด้วย MIPI M-PHY 5.0 และ UniPro 2.0 และรองรับความเร็วอินเทอรร์เฟซตามทฤษฎีสูงสุด 23.2 กิกะบิตต่อวินาที (Gbp/s) ต่อเลน หรือ 46.4 Gbp/s ต่ออุปกรณ์ UFS 4.0 สามารถใช้งานร่วมกับ UFS 3.1 รุ่นเก่าได้

อุปกรณ์ Kioxia ใหม่รองรับฟีเจอร์ High Speed Link Startup Sequence (HS-LSS) ทำให้สามารถเริ่มต้นการเชื่อมโยง (ลำดับการเริ่มต้น M-PHY และ UniPro) ระหว่างอุปกรณ์และโฮสต์ได้ใน HS-G1 Rate A (1248 เมกะบิตต่อวินาที) ที่เร็วกว่า UFS ทั่วไป ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดเวลาในการเริ่มต้นการเชื่อมโยงได้ประมาณ 70% เมื่อเทียบกับวิธีการทั่วไป

ฟีเจอร์และฟังก์ชันการทำงานขั้นสูง ได้รับการรองรับฃในอุปกรณ์ UFS Ver. 4.0 ใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการการใช้งานด้านยานยนต์ที่มีความต้องการสูง ได้แก่

  • คุณสมบัติการรีเฟรช: ปรับปรุงความน่าเชื่อถือของข้อมูล โดยการรีเฟรชข้อมูลที่เสื่อมคุณภาพ เพื่อป้องกันข้อมูลเสียหาย แม้ในสภาพแวดล้อมภายในรถที่มีความต้องการใช้งานสูง
  • คุณสมบัติการวินิจฉัยเพิ่มเติม: ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลสําคัญจากอุปกรณ์ UFS ซึ่งช่วยให้สามารถดําเนินการป้องกันได้

อุปกรณ์ Kioxia ใหม่มีจำหน่ายในความจุ 128, 256 และ 512 กิกะไบต์ (GB) รองรับช่วงอุณหภูมิที่กว้าง ตรงตามข้อกำหนด AEC[7]-Q100 Grade2 และนำเสนอความสามารถด้านความน่าเชื่อถือที่เพิ่มขึ้น ซึ่งการใช้งานด้านยานยนต์ที่ซับซ้อนต้องการ

ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง:
UFS & e-MMC for Automotive | KIOXIA – Japan (English)

หมายเหตุ:

[1] ข้อมูลจำเพาะของตัวอย่างอาจแตกต่างจากผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์

[2] ณ วันที่ 30 มกราคม 2024 การสำรวจ Kioxia

[3] Universal Flash Storage (UFS) เป็นหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์สำหรับประเภทผลิตภัณฑ์หน่วยความจำแบบฝัง ที่สร้างขึ้นตามข้อกำหนดมาตรฐาน JEDEC UFS เนื่องจากอินเทอร์เฟซแบบอนุกรม UFS จึงรองรับการสื่อสารรับ-ส่งข้อมูลสองทางแบบสมบูรณ์ ซึ่งช่วยให้สามารถอ่านและเขียนพร้อมกันระหว่างหน่วยประมวลผลโฮสต์และอุปกรณ์ UFS

[4] ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง

[5] เปรียบเทียบกับอุปกรณ์ 512GB รุ่นก่อนหน้าของ Kioxia Corporation หมายเลข “THGJFGT2T85BAB5”

[6] การจัดส่งตัวอย่างครั้งแรกของ Kioxia Corporation ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2013 https://www.kioxia.com/en-jp/business/news/2013/20130208-1.html
[7] ข้อกำหนดคุณสมบัติอุปกรณ์ไฟฟ้าที่กำหนดโดย AEC (Automotive Electronics Council)

MB/s คํานวณเป็น 1,000,000 ไบต์/วินาที ความเร็วในการอ่านและเขียนเป็นค่าที่ดีที่สุดที่ได้รับในสภาพแวดล้อมการทดสอบเฉพาะที่ Kioxia  และ Kioxia ไม่รับประกันความเร็วในการอ่านหรือเขียนในแต่ละอุปกรณ์ ความเร็วในการอ่านและเขียนอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้และขนาดไฟล์ที่อ่านหรือเขียน

นการกล่าวถึงผลิตภัณฑ์ Kioxia ทุกครั้ง: ความหนาแน่นของผลิตภัณฑ์จะถูกระบุ โดยอิงตามความหนาแน่นของชิปหน่วยความจำภายในผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่จำนวนความจุหน่วยความจำที่ผู้ใช้ปลายทางสามารถจัดเก็บข้อมูลได้ ความจุที่ผู้บริโภคใช้งานได้จะลดลงเนื่องจากพื้นที่ข้อมูลค่าใช้จ่าย การจัดรูปแบบบล็อกที่ไม่ดี และข้อจำกัดอื่น ๆ  และอาจแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์โฮสต์และแอปพลิเคชัน สําหรับรายละเอียด โปรดดูข้อมูลจําเพาะของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง คําจํากัดความของ 1KB = 2^10 ไบต์ = 1,024 ไบต์ คําจํากัดความของ 1Gb = 2^30 บิต = 1,073,741,824 บิต คําจํากัดความของ 1GB = 2^30 ไบต์ = 1,073,741,824 ไบต์ 1Tb = 2^40 บิต = 1,099,511,627,776 บิต

ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทบุคคลที่สาม

เกี่ยวกับ Kioxia

Kioxia เป็นผู้นําระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจํา ซึ่งทุ่มเทให้กับการพัฒนา การผลิต และการขายหน่วยความจําแฟลชและโซลิดสเทตไดรฟ์ (SSD) ในเดือนเมษายนปี 2017 Toshiba Memory รุ่นก่อนได้แยกตัวออกจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจําแฟลช NAND ในปี 1987 Kioxia มุ่งมั่นที่จะยกระดับโลกด้วย "หน่วยความจํา" โดยนําเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบที่สร้างทางเลือกให้กับลูกค้าและคุณค่าตามความทรงจําเพื่อสังคม BiCS FLASH™ เทคโนโลยีหน่วยความจําแฟลช 3 มิติที่เป็นนวัตกรรมของ Kioxia กําลังกําหนดอนาคตของการจัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันที่มีความหนาแน่นสูง รวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง พีซี SSD ยานยนต์ และศูนย์ข้อมูล

สอบถามข้อมูลลูกค้า:
Kioxia Group
สำนักงานขายทั่วโลก
https://business.kioxia.com/en-jp/buy/global-sales.html

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจําเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลการติดต่อ ถูกต้อง ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: www.businesswire.com/news/home/53888729/en

ติดต่อ

สอบถามข้อมูลสื่อ:
Kioxia Corporation
ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การขาย
Satoshi Shindo
Tel: +81-3-6478-2404

ที่มา: Kioxia Corporation

Tsuno Group ประสบความสำเร็จในการพัฒนาและยื่นขอรับสิทธิบัตรสำหรับสูตรเสถียรที่มี FERULIC ACID ในปริมาณสูง โดยมีส่วผสมจากพืชธรรมชาติที่หายากและมีหน้าที่ในการดูดซับรังสียูวี

Logo

WAKAYAMA, Japan–(BUSINESS WIRE)–31 มกราคม 2024

Tsuno Group Co., Ltd. ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Katsuragi-cho, Ito-gun, Wakayama และนำโดยประธาน Fumi Tsuno และ Matsumoto Trading Co., Ltd. ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Chuo-ku, Tokyo โดยมี Shunsuke Matsumoto เป็น CEO ได้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาสูตรครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของ Ferulic Acid โดย Ferulic Acid เป็นตัวดูดซับรังสียูวีที่เป็นพืชธรรมชาติหายาก และมีความคงตัวพร้อมการละลายได้ยากใน ferulic acid ที่มีความเข้มข้นสูง

สำหรับ ferulic acid

Tsuno Group เป็นรายแรกในโลกที่ประสบความสำเร็จในการผลิต ferulic acid ปริมาณมาก ซึ่งเป็นโพลีฟีนอลจากรำข้าว Ferulic acid มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ยอดเยี่ยม และได้รับการยอมรับว่า มีศักยภาพในการป้องกันโรคอัลไซเมอร์ เบาหวาน และคอเลสเตอรอลสูง นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตวานิลลินธรรมชาติ ซึ่งเป็นส่วนผสมในเครื่องปรุงวานิลลา ในเครื่องสำอาง ก็เป็นสารช่วยยับยั้งการผลิตเมลานิน โดยปิดกั้นการทำงานของไทโรซิเนส และมีคุณบัติด้านการอักเสบ ต้านจุลชีพ และต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้น จึงมีการนำมาใช้เป็นสารออกฤทธิ์ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอสงหลากหลายชนิด

“ในฐานะบริษัทชั้นนำด้านเคมีภัณฑ์จากข้าวและรำข้าวของโลก เราได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงฟังก์ชันจำนวนหนึ่งด้วยความพยายามเป็นอย่างมาก โดยใช้เทคโนโลยีในการผสานรวม รวมทั้งยังมีการวิจัยระดับความปลอดภัยและผลกระทบ เพื่อให้ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีในอุตสาหกรรมยา อาหาร อาหารสัตว์ และเครื่องสำอาง ปัจจุบัน เรามีการเปิดตัวเทคโนโลยีในการใช้ ferulic acid จากรำข้าง เพื่อใช้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ และเป็นตัวดูดซับรังสียูวี ซึ่งเป็นนวัตกรรมแรกของโลก เรามั่นใจว่า คุณจะพบว่า ผลิตภัณฑ์นี้มีเอกลักษณ์และสร้างผลดีไม่เฉพาะเพียงต่อสุขภาพและความงามของมนุษย์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนของโลกอีกด้วย” —— Fumi Tsuno ประธานของ Tsuno Group Co., Ltd.

ผลการดูดซับรังสียูวีของ ferulic acid

Ethylhexyl methoxycinnamate (EHMC) ซึ่งเป็นตัวกรองรังสียูวีจากปิโตรเคมี มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในครีมกันแดด อย่างไรก็ตาม มีผลการศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า มีผลกระทบด้านลบต่อสภาวะแวดล้อมทางน้ำ รวมถึงการฟอกขาวของปะการัง Ferulic acid ซึ่งเป็นส่วนผสมของสารพันแดดจากธรรมชาติจากข้าว จะช่วยดูดซับรังสียูวีในช่วงสเปกตรัมที่ใกล้เคียงกันกับ octyl methoxycinnamate (OMC) คุณลักษณะดังกล่าวเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแทน EHMC ท่ามกลางความกังวลทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ศักยภาพของ ferulic acid เนื่องจากเป็นส่วนผสมของครีมกันแดดที่เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพดี มีแนวโน้มที่จะได้รับการยอมรับเพิ่มขึ้น มีศักยภาพที่สำคัญเมื่อนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหลากหลายประเภทของญี่ปุ่น

การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลรังสียูวีที่มีความเสถียรสูง โดยมีส่วนประกอบ Ferulic Acid ที่มีความเข้มข้นสูง

การได้รับการยอมรับด้านคุณสมบัติดูดซับรังสียูวี สำหรับ ferulic acid ที่เป็นส่วนผสมจากพืชธรรมชาติ ทำให้มีการนำเสนอความท้าทายในด้านความสามารถในการละลาย และความคงตัวที่ความเข้มข้นสูงสำหรับสูตรครีมกันแดด เพื่อเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้  Matsumoto Trading จึงทุ่มเทในการวิจัยและการพัฒนา โดยบุกเบิกเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ โดยใช้ ferulic acid ที่มีความเข้มข้นสูงในสูตรที่เป็นแท่งสติ๊ก สูตรใหม่นี้ได้รับการพัฒนาให้มี SPF50+ และ PA++ (in vitro) โดยมีเพียงส่วนผสมของ ferulic acid ซึ่งเป็นสารดูดซับรังสียูวีธรรมชาติที่สกัดได้จากรำข้าวเท่านั้น สูตรเฉพาะนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ส่วนผสมป้องกันรังสียูวีอื่นๆ ที่มีการใช้กันโดยทั่วไป ในขณะที่ยังสามารถคงประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดในระดับสูง และอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร

เกี่ยวกับ Tsuno Rice Fine Chemicals Co., Ltd.

Tsuno Rice Fine Chemicals ผลิตส่วนผสมต่างๆ จากผลพลอยได้ที่เกิดขึ้นในกระบวนการกลั่นน้ำมันรำข้าว และสามารถนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเพื่อสุขภาพ วัตถุเจือปนอาหาร อาหารสัตว์ และสารเคมีทางอุตสาหกรรม นอกจากนี้ เรายังมีส่วนร่วมในการผลิตเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ของเราเองโดยใช้ส่วนผสมเหล่านี้ด้วยเช่นกัน

โปรไฟล์ธุรกิจของ Tsuno Group Co., Ltd.

เรามีการส่งเสริมการใช้รำข้าวขั้นสูงและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสุขภาพและความงามที่ได้รับความนิยมตั้งแต่สมัยโบราณ เรากำลังพัฒนาธุรกิจสามประเภท ได้แก่ ธุรกิจการผลิตน้ำมันรำข้าว ธุรกิจเคมีภัณฑ์ละเอียด และธุรกิจเคมีภัณฑ์ Oleo

ก่อตั้งเมื่อ: วันที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ ปี 1947
กรรมการฝ่ายตัวแทนและประธานของ Fumi Tsuno
URL : https://www.tsuno.co.jp/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Fine Chemical dept
Tsuno Group Co., Ltd.
Mayu Aizawa
+81-739-22-8000
boeki@tsuno.co.jp

แหล่งข้อมูล: TSUNO GROUP CO., LTD.

Cargill กลายเป็นซัพพลายเออร์น้ำมันบริโภคระดับโลกรายแรก ที่ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดขององค์การอนามัยโลก ในการกําจัดกรดไขมันทรานส์ที่ผลิตในอุตสาหกรรม

Logo

ตรงตามคํามั่นสัญญาปี 2021; กําจัด iTFA ออกจากไขมันและน้ำมัน แม้ในประเทศที่ไม่มีข้อบังคับทางกฎหมาย

มินนีแอโพลิส–(BUSINESS WIRE)–01 กุมภาพันธ์ 2024

ณ วันที่ 1 มกราคม 2024 ลูกค้าผลิตภัณฑ์อาหารของ Cargill ทุกรายไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก สามารถมั่นใจได้ว่าไขมันและน้ำมันของบริษัท เป็นไปตามระดับความทนทานสูงสุดที่แนะนําขององค์การอนามัยโลก (WHO) สําหรับกรดไขมันทรานส์ (iTFA) ที่ผลิตในอุตสาหกรรมในไขมันและน้ำมัน Cargill บรรลุเป้าหมายนี้ด้วยการเป็นซัพพลายเออร์ระดับโลกรายแรก ที่มีกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันบริโภคทั่วโลก ตรงตามมาตรฐานแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของ WHO เกี่ยวกับ iTFA โดยจํากัดปริมาณ iTFA ไว้ไม่เกิน 2กรัมต่อไขมัน/น้ำมัน 100 กรัม รวมถึงในประเทศที่ปัจจุบันไม่มีข้อบังคับทางกฎหมาย

Cargill has helped hundreds of customers reformulate and innovate nutritious and tasty products that meet WHO standards on iTFA (Photo: Business Wire)

Cargill ได้ช่วยลูกค้าหลายร้อยราย ในการปรับสูตรและคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการและอร่อย ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานของ WHO ใน iTFA (ภาพ: Business Wire)

ในขณะที่ Cargill ประกาศความมุ่งมั่นในการกําจัด iTFA ออกจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ไขมันและน้ำมันในเดือนธันวาคม 2021 ความสําเร็จดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการทํางานที่ยาวนานหลายทศวรรษ การเดินทางของ iTFA ของบริษัทครอบคลุมมานานกว่าหนึ่งในสี่ศตวรรษ รวมถึงนวัตกรรมในช่วงต้น การลงทุนหลายล้านดอลลาร์ในค่าใช้จ่ายด้านทุนและทรัพยากร และชั่วโมงการวิจัยและพัฒนาหลายพันชั่วโมง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Cargill ได้ช่วยเหลือลูกค้ามากกว่า 400 ราย ในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการและอร่อย ซึ่งช่วยให้ชีวิตมีความสุขและมีสุขภาพดีขึ้น โดยกําจัดผลิตภัณฑ์ที่มี iTFA มากกว่า 1.5 พันล้านปอนด์ออกจากแหล่งอาหารทั่วโลก

"เรายินดีที่ได้เห็นความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ Cargill ในการลดไขมันทรานส์ ที่ผลิตในอุตสาหกรรมในน้ำมันทั้งหมดของพวกเขา และไม่นานนี้ก็ได้บรรลุเป้าหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานที่แนะนําขององค์การอนามัยโลก" René Lammers หัวหน้าเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์ของ PepsiCo กล่าว "ความเคลื่อนไหวครั้งนี้สอดคล้องกับความสําเร็จของ PepsiCo ในการลด iTFA ในอาหารของเรา เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันนี้ และเราสนับสนุนให้พันธมิตรในอุตสาหกรรมของเรา เข้าร่วมในโครงการริเริ่มที่สําคัญนี้ เพื่อพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มของเราให้ดียิ่งขึ้นสําหรับโลกและผู้คน"

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา Cargill ได้ลงทุนเพิ่มอีก 8.5 ล้านดอลลาร์ เพื่ออัพเกรดสิ่งอํานวยความสะดวก เพื่อลดปริมาณไขมันทรานส์ที่ผลิตในระหว่างการแปรรูปน้ำมัน ขณะเดียวกันก็ทํางานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพิ่มมากกว่า 100 รายใน 24 ประเทศ เพื่อปรับรูปแบบโซลูชันผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตรงกับความต้องการของพวกเขา

iTFA ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นจากการเติมไฮโดรเจนบางส่วนของน้ำมันพืช (PHOs) แต่ก็สามารถสร้างขึ้นได้โดยการบำบัดด้วยความร้อนสูง ในระหว่างการกลั่นน้ำมันบริโภค ในปี 2018 WHO เรียกร้องให้กําจัด iTFA ทั่วโลกภายในปี 2023 โดยสังเกตว่าการบริโภคไขมันทรานส์มากกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ของการบริโภคพลังงานทั้งหมด สัมพันธ์กับเหตุการณ์โรคหลอดเลือดหัวใจและการเสียชีวิต

"เราภูมิใจอย่างยิ่งที่เราได้ปฏิบัติตามคํามั่นสัญญาของเรา และช่วยบรรลุวัตถุประสงค์ของเรา – ในการหล่อเลี้ยงโลกด้วยวิธีที่ปลอดภัย มีความรับผิดชอบ และยั่งยืน" Natasha Orlova รองประธานฝ่ายน้ำมันบริโภคของ Cargill และกรรมการผู้จัดการประจําอเมริกาเหนือกล่าว "การก้าวเป็นผู้นำอุตสาหกรรมนี้ แม้ในประเทศที่ไม่มีกฎหมาย iTFA ในปัจจุบัน ช่วยให้มั่นใจถึงความสม่ำเสมอในห่วงโซ่อุปทาน สําหรับผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ ในขณะเดียวกันก็นําเสนอนวัตกรรมและประสบการณ์ที่หลากหลายของ Cargill ให้กับผู้ผลิตรายย่อย"

เพื่อให้มั่นใจถึงการปฏิบัติตามกฎระเบียบ Cargill ได้เพิ่ม iTFA เข้าไปในโปรแกรมความปลอดภัย และการประกันคุณภาพอาหารที่ใหญ่ขึ้น แนวทางที่ใช้ระบบนี้ประกอบด้วยการตรวจสอบ การปฏิบัติตามข้อกําหนด และการตรวจสอบหลายชั้น

ในรายงานความคืบหน้าล่าสุด WHO ตั้งข้อสังเกตว่านโยบายจํากัดการใช้ iTFA ได้ถูกนํามาใช้ใน 60 ประเทศทั่วโลกเท่านั้น ซึ่งครอบคลุมประมาณ 43% ของประชากรโลก ส่งผลให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ของโลกมีความเสี่ยงต่อการบริโภค iTFA อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวเรียกร้องให้ซัพพลายเออร์รายใหญ่ของน้ำมันและไขมัน "ปฏิบัติตามความพยายามบุกเบิกของ Cargill ในการนำ TFA ที่ผลิตในอุตสาหกรรมออกจากผลิตภัณฑ์ที่ขายให้กับผู้ผลิตอาหารทั่วโลก"1

"เราเป็นซัพพลายเออร์น้ำมันบริโภคระดับโลกรายแรกและรายเดียว ที่มุ่งมั่นและปฏิบัติตามมาตรฐานของ WHO อย่างต่อเนื่องและทั่วถึงสำหรับผลงานทั่วโลกทั้งหมดของเรา และแม้ว่าเราจะภูมิใจกับความสำเร็จครั้งสําคัญนี้ แต่รายงานของ WHO ก็เน้นย้ำว่ายังมีงานอีกมากที่ต้องทำ" Orlova กล่าว "เราได้พิสูจน์แล้วว่าไม่เพียงแต่เป็นไปได้ที่จะปฏิบัติตามคําแนะนําของ iTFA โดยคํานึงถึงระดับไขมันอิ่มตัวเท่านั้น แต่ยังสามารถทําได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนรสชาติ หรือเนื้อสัมผัสของอาหารโปรดของผู้บริโภคอีกด้วย เราเรียกร้องให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ปฏิบัติตามผู้นําของเรา และกำจัด iTFA ออกจากผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของพวกเขาด้วย"

Cargill ยังได้ดําเนินการตามขั้นตอน เพื่อช่วยให้การปฏิรูปทั่วทั้งอุตสาหกรรม ก้าวหน้าในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่ไม่มีกฎระเบียบ iTFA ณ เวลาที่บริษัทให้คำมั่นสัญญา ในบรรดาการดําเนินการต่างๆ ในปากีสถาน Cargill ร่วมมือกับสถาบันนโยบายการพัฒนาที่ยั่งยืน ในการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้แก่สาธารณะ ในมาเลเซียและเม็กซิโก บริษัท มีปฏิสัมพันธ์กับภาคอุตสาหกรรม นักวิชาการ และหน่วยงานภาครัฐ เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของ WHO ขณะเดียวกันก็แบ่งปันประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการปฏิรูป iTFA

1 "นับถอยหลังสู่ปี 2023: รายงานของ WHO เกี่ยวกับการกําจัดไขมันทรานส์ทั่วโลก" องค์การอนามัยโลก, 2022 ดาวน์โหลดได้ที่: https://www.who.int/publications/i/item/9789240067233

เกี่ยวกับ Cargill

Cargill มุ่งมั่นที่จะจัดหาอาหาร ส่วนผสม โซลูชั่นทางการเกษตร และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเพื่อหล่อเลี้ยงโลกด้วยวิธีที่ปลอดภัย มีความรับผิดชอบ และยั่งยืน ในฐานะหัวใจสำคัญของห่วงโซ่อุปทาน เราร่วมมือกับเกษตรกรและลูกค้าในการจัดหา ผลิต และส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีความสําคัญต่อการดํารงชีวิต

สมาชิกทีมงาน 160,000 คนของเราสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างมีเป้าหมาย โดยมอบสิ่งจําเป็นในชีวิตให้กับลูกค้า เพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโต ชุมชนเจริญรุ่งเรือง และผู้บริโภคมีชีวิตที่ดี ด้วยประสบการณ์ 159 ปีในฐานะบริษัทครอบครัว เรามองไปข้างหน้าโดยยังคงยึดมั่นในค่านิยมของเรา เราให้ความสําคัญกับผู้คนเป็นอันดับแรก เราตั้งเป้าหมายให้สูงขึ้น เราทําในสิ่งที่ถูกต้อง—วันนี้และสําหรับคนรุ่นต่อๆ ไป สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ Cargill.com และ News Center ของเรา

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53887225/en

ติดต่อ

Kelly Sheehan, media@cargill.com           

ที่มา: Cargill

มัลติมีเดีย

HYPERLINK "https://connect.businesswire.com/bwapps/mediaserver/PublicViewMedia?mgid=2007912&vid=4"

พบกับยูนิตใหม่ “ฟลอเรีย” และกิจกรรมแจกไอเทมแบบฉ่ำๆ ในอัปเดตเดือนกุมภาพันธ์ของ Defense Derby

Logo

กรุงโซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–01 กุุมภาพันธ์ 2024

เตรียมตัวรับความฟิน! RisingWings ครีเอทีฟสตูดิโอของ KRAFTON, Inc. ปล่อยอัปเดตใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์พร้อมกิจกรรมแจกไอเทมแบบฉ่ำๆใน Defense Derby เกมมือถือแนวกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ PvP ยอดนิยม

Defense Derby reveals new unit and events through its February update (Graphic: KRAFTON)

Defense Derby ปล่อยยูนิตใหม่และกิจกรรมสุดฟินในอัปเดตเดือนกุมภาพันธ์ (กราฟิก: KRAFTON)

เปิดตัวยูนิตใหม “ฟลอเรีย” พร้อมซีซั่นใหม่ “คำประสาทพรศักดิ์สิทธิ์”

พบกับ “ฟอลเรีย” ยูนิตใหม่สายเวทย์จากเผ่าภูตที่ไม่เพียงแต่โจมตีมอนสเตอร์แบบเป้าหมายเดี่ยวเท่านั้น แต่ยังสามารถฟื้นฟู HP ปราสาททุกครั้งที่คิลได้อีกด้วย พร้อมสกิลเฉพาะตัวอย่าง “พลีชีพ” ที่จะช่วยฟื้น HP ของปราสาทอย่างมากเมื่อถูกขาย โดยผู้เล่นสามารถรับ “ฟลอเรีย” ยูนิตใหม่ได้ฟรีผ่านร้านค้ากิจกรรมอย่างพรนำโชค วงล้อลุ้นโชค หรือซื้อผ่านแพ็คขั้นบันไดและสุ่มตู้การ์ดไฮไลท์ประจำซีซั่น พร้อมเปิดให้ทดลองเล่นผ่านโหมดบรอล แมตช์มิเรอร์ที่มีการปรับสมดุลให้ผู้เล่นทุกคนใช้เด็คแบบเดียวกันและได้รับไอเทมสุดพิเศษเป็นของรางวัล สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้จนถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เวลา 7.00 น.

ยูนิตใหม่ “ผู้ประสาทพร”

กาปฏิทินรอไว้ได้เลย เพราะวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้จะมีการปล่อยยูนิตใหม่ “ผู้ประสาทพร” สายเวทย์จากเผ่ามนุษย์ เธอสามารถเพิ่มบัฟให้กับผู้พิทักษ์ที่อยู่ใกล้เคียงและเป็นกุญแจสําคัญในการวางตําแหน่งเชิงกลยุทธ์ พร้อมสกิล “ประสาทพร” ช่วยเพิ่มบัฟสายต่อสู้ให้กับยูนิตที่อยู่ติดกัน สัมผัสความแข็งแกร่งของเธอได้ในโหมดบรอล แมตช์มิเรอร์ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถึง 28 กุมภาพันธ์ เวลา 7.00 น.

กิจกรรมพิเศษ! แจกเพชรและคริสตัลฉ่ำๆฉลองเทศกาลวันวาเลนไทน์

  • กิจกรรม Hot Time: สะสมเพชรและคริสตัลจากการเล่นโหมดเดอร์บี้ รับสูงสุด 500 เพชรในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ และ 300 คริสตัลในวันที่ 9 กุมภาพันธ์และ 12 กุมภาพันธ์
  • กิจกรรมวาเลนไทน์ (14-28 กุมภาพันธ์ เวลา 7.00 น.): ทําภารกิจให้สําเร็จ สะสมช็อคโกแล็ตรูปหัวใจ นำมาแลกเป็นตั๋วสุ่มยูนิตระดับตำนาน สกินปราสาทในธีมร้านขนม Dolce Amore หรือจะแลกรับเพชร คริสตัล น้ำอมฤต และทองคำก็ได้

ติดตามอัปเดตล่าสุดของ Defense Derby ได้ที่ https://www.facebook.com/DefenseDerby.THAILAND

และบนโซเชียลมีเดีย (YouTube | Discord)

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53887808/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

KRAFTON
Jihyun Park
jihyun.park@krafton.com

ที่มา: KRAFTON, Inc.

Xsolla ประกาศเปิดตัว Story3 แพลตฟอร์มใหม่สําหรับครีเอเตอร์: ค่าตอบแทนที่ยุติธรรม การทำธุรกรรมโดยตรงกับผู้บริโภค และความคิดสร้างสรรค์ที่เพิ่มขึ้น

Logo

ลอสแอนเจลิส–(BUSINESS WIRE)–31 มกราคม 2024

Xsolla บริษัทการค้าวิดีโอเกมระดับโลก เปิดตัว Story3 ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่โดดเด่นที่ช่วยให้ครีเอเตอร์สามารถสํารวจการเล่าเรื่องที่ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ Story3 รวบรวมยุคใหม่ของอิสรภาพในการเล่าเรื่อง และความมุ่งมั่นของ Xsolla ในการส่งเสริมระบบนิเวศที่สร้างสรรค์ แพลตฟอร์มนี้เป็นช่องทางที่ไม่เหมือนใครสําหรับครีเอเตอร์ ในการโต้ตอบโดยตรงกับผู้ชม และรับส่วนแบ่งรายได้ที่สมเหตุสมผลสําหรับงานของพวกเขา

(Graphic: Xsolla)

(กราฟฟิก: Xsolla)

"ทุกวันนี้ครีเอเตอร์กําลังดิ้นรนกับค่าตอบแทนที่ไม่เพียงพอ ซึ่งนําไปสู่ความท้าทายต่างๆ เช่น การมีรายได้ที่ไม่แน่นอน และความไม่แน่นอนในอาชีพ" Shurick Agapitov ผู้ก่อตั้ง Xsolla และผู้เขียน Once Upon Tomorrow กล่าว "Story3 คือการตอบสนองที่กล้าหาญของเราต่อปัญหาเหล่านี้ โดยเสนอแพลตฟอร์มสำหรับครีเอเตอร์ในการเจรจาเงื่อนไขที่ดีขึ้น และสร้างรายได้ที่มั่นคงและคาดการณ์ได้มากขึ้นจากงานของพวกเขา"

ในยุคที่เต็มไปด้วยเนื้อหาดิจิทัลมากมาย ความเหลื่อมล้ำในการจ่ายค่าตอบแทนของครีเอเตอร์ก็ยิ่งเด่นชัดมากขึ้น เพื่อจัดการปัญหาที่สําคัญนี้ Xsolla ได้นําเสนอ Story3 ขึ้นมาในฐานะ แพลตฟอร์มที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับนักเล่าเรื่อง นักข่าว และนักเขียน อํานวยความสะดวกในการสร้างรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็กระชับความสัมพันธ์กับผู้ชมให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

คุณสมบัติ Story3:

  • การโต้ตอบของผู้ชมโดยตรงและปรับปรุงให้ดีขึ้น: Story3 ช่วยให้ครีเอเตอร์มีส่วนร่วมกับผู้ชมโดยตรง โดยกําจัดตัวกลางการจัดจําหน่ายแบบเดิมๆ
  •  กระบวนการสร้างรายได้ที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับผู้ใช้:  ผสมผสานความเชี่ยวชาญของ Xsolla ในระบบเติมเงิน Story3 ทําให้กระบวนการสร้างรายได้สําหรับครีเอเตอร์ง่ายขึ้นผ่านการพลิกผัน ตัวเลือกของผู้ใช้แต่ละคน ‘การพลิกผัน’ นําไปสู่เส้นทางที่แตกแขนงออกไป สร้างเรื่องราวที่เป็นส่วนตัวและไม่เหมือนใคร
  • การจ่ายเงินที่คล่องตัว: Story3 นําเสนอระบบการจ่ายเงินที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่า ครีเอเตอร์จะได้รับค่าตอบแทนที่ตรงเวลาและเป็นธรรม โดยให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรายได้ที่โปร่งใส แบบเรียลไทม์

"ภูมิทัศน์การเล่าเรื่องดิจิทัลในปัจจุบัน มักมองข้ามคุณค่าของครีเอเตอร์ Xsolla กําลังเปลี่ยนการเล่าเรื่องนี้ด้วย Story3" Chris Hewish ซีอีโอชั่วคราวของ Xsolla กล่าว "เรากําลังจัดเตรียมแพลตฟอร์มที่ครีเอเตอร์สามารถมีส่วนร่วมกับผู้ชมได้โดยตรง และได้รับรางวัลอย่างยุติธรรมสําหรับการมีส่วนร่วมของพวกเขา ส่งเสริมอนาคตที่ดีต่อสุขภาพและมีชีวิตชีวามากขึ้นสําหรับการเล่าเรื่องดิจิทัล"

ในหนังสือที่มีวิสัยทัศน์เรื่อง "Once Upon Tomorrow" ผู้เขียน Shurick Agapitov สํารวจพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของการเล่าเรื่อง และบทบาทของครีเอเตอร์ในการกําหนดอนาคตของการโต้ตอบทางดิจิทัล

ค้นพบอนาคตของการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ด้วย Story3 หากต้องการเริ่มสร้างเรื่องราวของคุณ โปรดไปที่: story3.com

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมและการซื้อ "Once Upon Tomorrow" โปรดไปที่: onceupontomorrow.com.

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla Xsolla เป็นบริษัทค้าวิดีโอเกมระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือและบริการที่แข็งแกร่งและทรงพลัง ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมวิดีโอเกม นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2005 Xsolla ได้ช่วยนักพัฒนาเกมและผู้เผยแพร่ทุกขนาดหลายพันรายในการระดมทุน ทําการตลาด เปิดตัว และสร้างรายได้จากเกมของพวกเขาทั่วโลกและบนหลายแพลตฟอร์ม ในฐานะผู้นําด้านนวัตกรรมการค้าเกม ภารกิจของ Xsolla คือการแก้ปัญหาความซับซ้อนโดยธรรมชาติของการจัดจําหน่าย การตลาด และการสร้างรายได้ทั่วโลก เพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราเข้าถึงภูมิภาคได้มากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับนักเล่นเกมทั่วโลก Xsolla มีสำนักงานใหญ่และจัดตั้งขึ้นในลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย โดยมีสำนักงานในลอนดอน เบอร์ลิน โซล ปักกิ่ง กัวลาลัมเปอร์ โตเกียว และเมืองต่างๆ ทั่วโลก Xsolla รองรับเกมหลักๆ เช่น Valve, Twitch, Roblox, Epic Games, Take-Two, KRAFTON, Nexters, NetEase, Playstudios, Playrix, miHoYo และอีกมากมาย

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมและเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่: xsolla.com.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: www.businesswire.com/news/home/53889630/en

ติดต่อ

Derrick Stembridge
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ทั่วโลกของ Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

ที่มา: Xsolla

.

Shurick Agapitov ผู้ก่อตั้ง Xsolla เปิดตัวหนังสือเล่มใหม่: Once Upon Tomorrow ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์เกี่ยวกับ Metaverse และผลกระทบต่อความคิดสร้างสรรค์ทั่วโลก

Logo

ลอสแอนเจลิส–(BUSINESS WIRE)–30 มกราคม 2024

Shurick Agapitov นักเขียนที่มีวิสัยทัศน์และผู้ก่อตั้ง Xsolla เปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ที่สุดล้ำของเขา "Once Upon Tomorrow" ในวันนี้ งานบุกเบิกนี้นําเสนอวิสัยทัศน์ที่เปลี่ยนแปลง และสร้างแรงบันดาลใจของ Metaverse ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนกับเรื่องเล่ากระแสหลัก หนังสือของ Agapitov เป็นการเดินทางที่กระตุ้นความคิดไปสู่ความเป็นไปได้ และศักยภาพของ Metaverse โดยให้มุมมองที่ไม่เหมือนใครซึ่งแตกต่างจากมุมมองที่มักนําเสนอในการประชุมอุตสาหกรรม และโดยซีอีโอด้านเทคโนโลยี

(Graphic: Business Wire)

(กราฟิก: Business Wire)

"ใน 'Once Upon Tomorrow' ผมนําเสนอวิสัยทัศน์ของ Metaverse ว่าเป็นพื้นที่ที่กว้างใหญ่ ครอบคลุม และเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ใช่แค่พรมแดนดิจิทัล แต่เป็นอาณาจักรที่ความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และการเสริมศักยภาพมาบรรจบกัน หนังสือเล่มนี้เป็นคําเชิญของผมถึงผู้สร้าง นักคิด และนักฝันทั่วโลก เพื่อร่วมกันกำหนดอนาคตที่เทคโนโลยีขยายศักยภาพของมนุษย์ และส่งเสริมโลกแห่งความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจํากัด ตามที่ผมเห็น Metaverse ไม่ได้เกี่ยวกับการควบคุมหรือการจำกัดขอบเขต แต่เกี่ยวกับการปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์โดยรวม และจิตวิญญาณของผู้ประกอบการที่มีอยู่ในตัวเราทุกคน" Shurick Agapitov ผู้ก่อตั้ง Xsolla และผู้เขียนหนังสือ "Once Upon Tomorrow" กล่าว

"Once Upon Tomorrow" เจาะลึกถึงศักยภาพที่ยังไม่ได้ใช้ของ Metaverse โดยเน้นย้ำถึงความสามารถในการรวมแบรนด์เกิดใหม่และแบรนด์เดิมเข้าด้วยกัน สร้างประสบการณ์ผู้บริโภคที่ยากจะลืมเลือน และเสริมสร้างวัฒนธรรมทั่วโลก Agapitov เน้นย้ำถึงบทบาทของ Metaverse ในการสร้างโอกาสที่เป็นประชาธิปไตย และการเข้าถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างเท่าเทียม วิสัยทัศน์ของเขาขยายไปไกลกว่านวัตกรรมทางเทคโนโลยี โดยเน้นย้ำถึงศักยภาพของ Metaverse ในการเพิ่มขีดความสามารถ และให้รางวัลแก่ผู้สร้างเนื้อหาทั่วโลก หนังสือเล่มนี้ยังเน้นย้ำถึงผลกระทบที่สำคัญของ Metaverse ที่มีต่อการศึกษา โดยมอบความหวังและโอกาสให้กับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ทั่วโลก Agapitov สนับสนุน Metaverse ที่มีการกระจายอำนาจ โดยหลุดพ้นจากการครอบงำของ Silicon Valley โดยให้การควบคุม ศักยภาพในการทำกำไร และเสรีภาพอยู่ในมือของชุมชนสร้างสรรค์

"Once Upon Tomorrow" เป็นมากกว่าหนังสือเกี่ยวกับ Metaverse แต่เป็นแผนงานสู่อนาคตที่เทคโนโลยีรับใช้มนุษยชาติในทุกความหลากหลาย ส่งเสริมการรวมกลุ่มทางการเงิน สังคม และความคิดสร้างสรรค์ Agapitov มองเห็นถึงอนาคตที่ทุกอุตสาหกรรมต้องพบปะกับผู้บริโภคตั้งแต่แฟชั่นไปจนถึงการดูแลสุขภาพ และความบันเทิงจะมีการเปลี่ยนแปลง หนังสือเล่มนี้ยังสํารวจผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก Metaverse ที่มีต่อภาคธุรกิจกับธุรกิจ การศึกษา การวางผังเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาล และความพยายามที่ไม่แสวงหาผลกําไร

ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของ Agapitov เกี่ยวกับวิวัฒนาการของเทคโนโลยี ตั้งแต่ยุคแรกๆ ของ Instagram และ Snapchat ไปจนถึงอนาคตของแอปพลิเคชันที่สมจริง ถือเป็นไฮไลท์สำคัญของหนังสือเล่มนี้ เขากล่าวถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงผู้ให้บริการโฮสติ้งอินเทอร์เน็ต นักพัฒนาเว็บไซต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการประมวลผลแบบคลาวด์ วิศวกรโครงสร้างพื้นฐาน และความต้องการอย่างต่อเนื่องสำหรับเครือข่ายและฮาร์ดแวร์ขั้นสูง "Once Upon Tomorrow" เป็นผลงานที่มีวิสัยทัศน์ที่เชิญชวนให้ผู้อ่านคิดใหม่เกี่ยวกับ Metaverse และศักยภาพอันไร้ขีดจํากัดของมัน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและการซื้อโปรดไปที่: onceupontomorrow.com

เกี่ยวกับ Shurick Agapitov

ในฐานะผู้ก่อตั้ง Xsolla, Inc. Shurick Agapitov เป็นนวัตกรและที่ปรึกษาที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงในด้านเกม Web3, Metaverse และฟินเทค บริษัทวิดีโอเกมผู้บุกเบิกของเขาผสานรวมเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อมอบเครื่องมือและบริการขั้นสูงแก่นักพัฒนา เพื่อการดำเนินการและการขายเกมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการมีอยู่ทั่วโลก รวมถึงสำนักงานในลอสแอนเจลิส เบอร์ลิน และโซล Xsolla ภายใต้การนําของ Shurick กําลังกำหนดอนาคตของเกมและ Metaverse โดยส่งเสริมอุตสาหกรรมที่มีการกระจายอำนาจและครอบคลุมมากขึ้น

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Shurick Agapitov โปรดไปที่: themarque.com หรือ LinkedIn.com

เกี่ยวกับ Xsolla

Xsolla เป็นบริษัทค้าวิดีโอเกมระดับโลกที่มีชุดเครื่องมือและบริการที่แข็งแกร่งและทรงพลัง ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมวิดีโอเกม นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2005 Xsolla ได้ช่วยนักพัฒนาเกมและผู้เผยแพร่ทุกขนาดหลายพันรายในการระดมทุน ทําการตลาด เปิดตัว และสร้างรายได้จากเกมของพวกเขาทั่วโลกและบนหลายแพลตฟอร์ม ในฐานะผู้นําด้านนวัตกรรมการค้าเกม ภารกิจของ Xsolla คือการแก้ปัญหาความซับซ้อนโดยธรรมชาติของการจัดจําหน่าย การตลาด และการสร้างรายได้ทั่วโลก เพื่อช่วยให้พันธมิตรของเราเข้าถึงภูมิภาคได้มากขึ้น สร้างรายได้มากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับนักเล่นเกมทั่วโลก Xsolla มีสำนักงานใหญ่และจัดตั้งขึ้นในลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย โดยมีสำนักงานในลอนดอน เบอร์ลิน โซล ปักกิ่ง กัวลาลัมเปอร์ โตเกียว และเมืองต่างๆ ทั่วโลก Xsolla รองรับเกมหลักๆ เช่น Valve, Twitch, Roblox, Epic Games, Take-Two, KRAFTON, Nexters, NetEase, Playstudios, Playrix, miHoYo และอีกมากมาย

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมและเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่: xsolla.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53889100/en

ติดต่อ

ติดต่อสื่อ
Derrick Stembridge
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ทั่วโลกของ Xsolla
d.stembridge@xsolla.com

ที่มา: Xsolla

มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมรดกอันวิจิตรงดงาม: ร่วมเฉลิมฉลองวันครบรอบแห่งความรุ่งโรจน์ที่ Twin Jewellery Shows

Logo

HONG KONG–(BUSINESS WIRE)–30 มกราคม 2024

งานแสดง HKTDC Hong Kong International Jewellery Show และ HKTDC Hong Kong International Diamond, Gem & Pearl Show มีการเปิดแสดงมาเป็นครั้งที่ 40 และครั้งที่ 10 แล้วตามลำดับในปี 2024 ธีมของงานในปีนี้คือ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมรดกอันวิจิตรงดงาม นอกเหนือจากการแสดงความขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนมาอย่างยาวนานแล้ว เรายังหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจให้มีผู้เข้าร่วมในงานประจำนี้มากยิ่งขึ้น และร่วมกันสร้างก้าวต่อไปด้วยกัน

Be Part of the Splendid Legacy Celebrating the Anniversary of Brilliance at the Twin Jewellery Shows The HKTDC Hong Kong International Jewellery Show and HKTDC Hong Kong International Diamond, Gem & Pearl Show will reach their 40th and 10th milestones respectively in 2024. The theme of this year’s event is Be Part of the Splendid Legacy. Apart from thanking all parties for their long-standing support, we hope to encourage more industry players to join this annual event and build the next milestone together. HKTDC Marketplace App launches a new feature, allowing buyers to register, upload photo and travel document for a verified eBadge. No more waiting in line nor verification required at the registration counter. Website for Marketplace App: <a href=tinyurl.com/mpj32df9 Websites for the twin jewellery shows Hong Kong International Jewellery Show: hkjewelleryshow.hktdc.com Hong Kong International Diamond, Gem & Pearl Show: hkdgp.hktdc.com (Photo: Business Wire)” src=”https://mms.businesswire.com/media/20240117430908/en/2001216/4/2352352351616.jpg” />

มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมรดกอันวิจิตรงดงามในงาน Twin Jewellery Shows งานแสดง HKTDC Hong Kong International Jewellery Show และ HKTDC Hong Kong International Diamond, Gem & Pearl Show มีการเปิดแสดงมาเป็นครั้งที่ 40 และครั้งที่ 10 แล้วตามลำดับในปี 2024 ธีมของงานในปีนี้คือ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมรดกอันวิจิตรงดงาม นอกเหนือจากการแสดงความขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนมาอย่างยาวนานแล้ว เรายังหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจให้มีผู้เข้าร่วมในงานประจำปีนี้มากยิ่งขึ้น และร่วมกันสร้างก้าวต่อไปด้วยกัน แอป Marketplace ของ HKTDC เปิดตัวคุณสมบัติใหม่ ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อสามารถลงทะเบียน อัปโหลดภาพถ่าย และเอกสารการเดินทาง เพื่อเข้ารับ eBadge ที่ผ่านการยืนยัน ไม่จำเป็นต้องรอต่อแถวหรือตรวจสอบยืนยันที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียนอีกต่อไป เว็บไซต์สำหรับแอป Marketplace: tinyurl.com/mpj32df9 เว็บไซต์สำหรับ twin jewellery shows Hong Kong International Jewellery Show: hkjewelleryshow.hktdc.com Hong Kong International Diamond, Gem & Pearl Show: hkdgp.hktdc.com (ภาพถ่าย: Business Wire)

งานแสดง

Click2Match

(แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ดำเนินการโดย AI)

The 2024 HKTDC Hong Kong International Jewellery Show (IJS)

29 ก.พ. – 4 มี.ค. ที่ Hong Kong Convention and Exhibition Centre

20 ก.พ. ถึง 11 มี.ค.

The 2024 HKTDC Hong Kong International Diamond, Gem & Pearl Show (IDGPS)

27 ก.พ. – 2 มี.ค. ที่ AsiaWorld-Expo

20 ก.พ. ถึง 11 มี.ค.

ในปีนี้ IJS จะมีการจัดธีมโซนต่างๆ มากมาย รวมถึง Hall of Extraordinary, Hall of Fame, และ Designer Galleria สำหรับ Hall of Extraordinary นั้น จะมีการจัดแสดงคอลเลคชันระดับไฮเอ็นด์ โดยประกอบด้วยเพชร อัญมณี หยก และไข่มุก ที่สวยงามน่าทึ่ง จากผู้จัดแสดงที่เป็นตัวแทนจากออสเตรเลีย จีนแผ่นดินใหญ่ เยอรมนี ฮ่องกง อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ ไทย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

Designer Galleria จะมีการจัดแสดงคอลเลคชันที่น่าดึงดูดใจจากนักออกแบบแฟชั่นแนวหน้าจากออสเตรเลีย จีนแผ่นดินใหญ่ ฝรั่งเศส ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน ไทย และสหรัฐอเมริกา

อัญมณีที่สวยงามจากหลายประเทศ เช่น เม็กซิโก และมาเลเซีย จะเข้าร่วมงานแสดง twin jewellery นี้อีกครั้ง The Hall of Fame จะมีการจัดแสดงแบรนด์ต่างประเทศที่น่าประทับใจมากมาย รวมถึง Giorgio Visconti จากอิตาลี Chete จากฮ่องกง Carrera Y Carrera จากสเปน และ Lao Feng Xiang จากจีนแผ่นดินใหญ่

IDGPS จะมีการจัดแสดงเพชรและไข่มุกน้ำดีเยี่ยม ตลอดจนอัญมณีและวัตถุดิบคุณภาพสูงสำหรับเครื่องประดับจากแหล่งต่างๆ ใน Hall of Fine Diamond, Treasures of Nature และ Treasures of Ocean

นอกจากนี้ งานแสดงยังมีโปรแกรมอื่นๆ อีกมากมาย อาทิเช่น ขบวนพาเหรดเครื่องประดับ การสัมมนา ฟอรั่มสำหรับผู้ซื้อ และกิจกรรมสร้างเครือข่าย ที่นำเสนอข้อมูลข่าวกรองทางการตลาดที่กำลังมาแรงแก่ผู้เข้าร่วมงานด้วยเช่นกัน

คุณสมบัติใหม่จากแอป Marketplace ของ HKTDC

แอป Marketplace ของ HKTDC เปิดตัวคุณสมบัติใหม่ ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อสามารถลงทะเบียน อัปโหลดภาพถ่าย และเอกสารการเดินทาง เพื่อเข้ารับ eBadge ที่ผ่านการยืนยัน ไม่จำเป็นต้องรอต่อแถวหรือตรวจสอบยืนยันที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียนอีกต่อไป

เว็บไซต์สำหรับแอป Marketplace:
http://tinyurl.com/kwkkpmmc

เว็บไซต์สำหรับ Twin Jewellery Show
IJS: hkjewelleryshow.hktdc.com
IDGPS: hkdgp.hktdc.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53883830/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สอบถามข้อมูลสื่อ:
โปรดติดต่อฝ่ายแสดงนิทรรศการของ HKTDC:
Ken Tsang
โทร: (852) 2240 4136
อีเมล: ken.mc.tsang@hktdc.org

แหล่งข้อมูล: HKTDC

2024 Japan Prize: นักวิทยาศาสตร์สามคนจากสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรได้รับรางวัลนี้

Logo

พิธีมอบรางวัลจะจัดขึ้นที่โตเกียวในวันที่ 16 เดือนเมษายน

TOKYO–(BUSINESS WIRE)–30 มกราคม 2024

Japan Prize Foundation ประกาศรายชื่อผู้ชนะได้รับรางวัล 2024 Japan prize ในวันที่ 23 เดือนมกราคม ปี 2024 เวลา 13:00 น. Prof. Sir Brian J. Hoskins (สหราชอาณาจักร) และ Prof. John Michael Wallace (สหรัฐอเมริกา) เป็นผู้ชนะได้รับรางวัล Japan Prize ร่วมกันในสาขา ทรัพยากร พลังงาน สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม และ Prof. Ronald M. Evans (สหรัฐอเมริกา) ได้รับรางวัล Japan Prize ในสาขา วิทยาศาสตร์การแพทย์และเภสัชศาสตร์

สำหรับ Japan Prize ประจำปีนี้ Prof. Hoskins และ Prof. Wallace ได้รับการยกย่องจากผลงานที่โดดเด่นใน การจัดตั้งพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สำหรับความเข้าใจและการคาดการณ์เหตุการณ์ด้านสภาพอากาศที่รุนแรงสุดขั้ว และ Prof. Evans ได้รับการยกย่องจาก การค้นพบตระกูลตัวรับฮอร์โมนนิวเคลียร์ และการประยุกต์ใช้ในการพัฒนายา

สำหรับ 2024 Japan Prize ทางมูลนิธิได้ขอให้นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรที่มีชื่อเสียงประมาณ 15,500 คนจากทั่วโลกนำเสนอชื่อนักวิจัยที่ทำงานในสาขาของปีนี้ เราได้รับการนำเสนอชื่อเข้าชิง 130 คนในสาขาทรัพยากร พลังงาน สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม และ 198 ชื่อในสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์และเภสัชศาสตร์ และมีการเลือกผู้ชนะได้รับรางวัลในปีนี้จากท่ามกลางผู้สมัครทั้งหมด 328 คน

พิธีมอบรางวัลจะจัดขึ้นที่โตเกียวในวันที่ 16 เดือนเมษายน

เกี่ยวกับ Japan Prize
การจัดตั้ง Japan Prize ในปี 1981 ได้รับแรงบันดาลใจจากความปรารถนาของรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อสร้างรางวัลที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั่วโลก ด้วยการสนับสนุนการบริจาคจำนวนมาก Japan Prize Foundation ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะรัฐมนตรีในปี 1983

Japan Prize เป็นรางวัลที่มอบให้กับนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรจากทั่วโลกที่ประสบความสำเร็จอย่างสร้างสรรค์และน่าทึ่ง ซึ่งช่วยในการพัฒนาสาขาของตัวเอง และมีส่วนสำคัญในการตระหนักถึงสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองสำหรับมวลมนุษยชาติ นักวิจัยในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทุกแขนงมีสิทธิ์ได้รับรางวัล โดยจะมีการคัดเลือกสองสาขาในแต่ละปี โดยคำนึงถึงแนวโน้มปัจจุบันในการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยหลักการแล้ว จะมีการคัดเลือกนักวิจัยหนึ่งคนจากแต่ละสาขา และได้รับใบรับรอง เหรียญรางวัล และรางวัลเงินสด พิธีมอบรางวัลแต่ละครั้งจะมีจักรพรรดิและจักรพรรดินีองค์ปัจจุบัน หัวหน้าหน่วยงานรัฐบาลทั้งสามสาขา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ และตัวแทนจากองค์กรอื่นๆ ทางสังคมเข้าร่วม

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

The Japan Prize Public Relations Office
japanprize@ml.prap.co.jp

แหล่งข้อมูล: The Japan Prize Foundation

The Bangkok Reporter