teamLab Planets TOKYO: ตั๋วที่ซื้อจากต่างประเทศมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 136% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันในปี 2019 (ก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19) โดยหนึ่งในสามของผู้เข้าชมมาจากต่างประเทศ

Logo

มีการเปิดตัวพื้นที่แห่งใหม่ในระหว่างการแพร่ระบาด รวมถึงชิ้นงานศิลปะใน Garden Area ซึ่งมีสวนกล้วยไม้ลอยน้ำกว่า 13,000 ต้น และร้านราเมนมังสวิรัติ ที่คุณสามารถดื่มด่ำได้พร้อมเสพงานศิลปะภายในพื้นที่งานศิลปะของ teamLab

TOKYO–(BUSINESS WIRE)–19 พฤศจิกายน 2022

teamLab Planets เป็นพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สายน้ำ และหมู่สวน ซึ่งผู้คนสามารถผสานรวมเป็นหนึ่งกับดงดอกไม้ พิพิธภัณฑ์เชิงประสบการณ์แห่งนี้ได้เปิดต้อนรับผู้เข้าชมโดยรวมแล้วกว่า 3 ล้านคน นับตั้งแต่เปิดทำการในเดือนกรกฎาคม ปี 2018

teamLab, Floating Flower Garden; Flowers and I are of the Same Root, the Garden and I are One © teamLab

teamLab, สวนดอกไม้ลอยน้ำ ดอกไม้และผู้คนจากรากฐานเดียวกัน ตัวฉันและส่วนร่วมเป็นหนึ่งเดียว © teamLab

[เปิดพื้นที่ใหม่หลายแห่งในระหว่างการแพร่ระบาด]

แม้จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าในปี 2020 มีการเปิดพื้นที่ใหม่ภายในพิพิธภัณฑ์ตามที่มีการแสดงบนสื่อต่างๆ เช่น CNN ในช่วงที่มีการแพร่ระบาด รวมถึงชิ้นงานศิลปะขนาดใหญ่สองชิ้นใน Garden Area และร้านราเมนมังสวิรัติที่อยู่ภายในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งมีต้นกำเนิดจาก Kyoto

[การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากการเปิดประเทศสำหรับการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นส่วนบุคคล และการขยายพื้นที่ใหม่]

ในวันที่ 11 เดือนตุลาคม ปี 2022 รัฐบาลญี่ปุ่นมีการผ่อนปรนมาตรการควบคุม COVID-19 อย่างมีนัยสำคัญ เปิดประเทศสำหรับการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นส่วนบุคคล มีการยกเว้นวีซ่าเหมือนเดิม และยกเลิกการจำกัดจำนวนคนเข้าประเทศญี่ปุ่นในแต่ละวัน และการท่องเที่ยวญี่ปุ่นกลับมาดำเนินการเป็นปกติครั้งแรกในรอบสองปีครึ่ง

หนึ่งเดือนโดยประมาณนับตั้งแต่การเปิดประเทศสำหรับการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นส่วนบุคคลในวันที่ 11 เดือนตุลาคม ปี 2022 แสดงข้อมูลตั๋วที่นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศซื้อมีปริมาณเพิ่มขึ้น 136% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันในปี 2019 (ก่อนเกิด COVID-19) โดยหนึ่งในสามของผู้เข้าชมมาจากต่างประเทศ (*1)
ผู้เข้าชมมากกว่าครึ่งจากต่างประเทศมีการซื้อตั๋วก่อนเดินทางมาญี่ปุ่น และมีแนวโน้มว่า พิพิธภัณฑ์เป็นหนึ่งในจุดประสงค์ของผู้เดินทางมาญี่ปุ่น (*2)
ในแบบสอบถามสำหรับผู้เข้าชม ได้รับความคิดเห็นเชิงบวกจากผู้เข้าชมจากต่างประเทศ เช่น "ฉันอยากไปพิพิธภัณฑ์ตั้งแต่ได้รับการต่ออายุ"

(*1) ตามข้อมูลการสั่งซื้อตั๋วเข้าชมจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ teamLab Planets: ช่วงระยะเวลาสำรวจ – วันที่ 11 เดือนตุลาคม (อ.) ถึงวันที่ 6 เดือนพฤศจิกายน (อา.) ปี 2022 และวันที่ 11 เดือนตุลาคม (อ.) ถึงวันที่ 6 เดือนพฤศจิกายน (พ.) ปี 2019
(*2) ตามข้อมูลการสั่งซื้อตั๋วเข้าชมจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ teamLab Planets: ช่วงระยะเวลาสำรวจ – วันที่ 11 เดือนตุลาคม (อ.) และวันที่ 6 เดือนพฤศจิกายน (อา.) ปี 2022

[การตอบรับอย่างดีจากนิตยสารท่องเที่ยว]

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการตีพิมพ์เกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ในสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีชื่อเสียง เช่น Lonely Planet หนังสือนำเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งมีการแนะนำพิพิธภัณฑ์เป็นหนึ่งใน “พิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุด 7 แห่งในโตเกียวที่แม้แต่ชาวโตเกียวก็ตั้งตารอ” รวมถึงเป็นหนึ่งใน “กิจกรรมที่ไม่ควรพลาด 26 รายการในโตเกียว” โดย Condé Nast Traveler

เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวในโตเกียวเข้าสัมผัสพิพิธภัณฑ์ซึ่งได้รับการพัฒนาผ่านพื้นที่งานศิลปะใหม่ๆ

พิพิธภัณฑ์จะยังคงมอบประสบการณ์ให้กับผู้คนจากทั่วโลกตามแนวคิดของ teamLab Planets “ดื่มด่ำผสมผสานร่างกายของคุณ เข้ากับผู้คนอื่นๆ ร่วมเป็นหนึ่งเดียวในโลก”

Garden Area

Garden Area มีการเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม ปี 2021 โดยมีชิ้นงานศิลปะขนาดใหญ่สองชิ้นงาน รวมถึงสวนกล้วยไม้สดกว่า 13,000 ต้น และพื้นที่ศิลปะธรรมชาติเหนือจริงรูปทรงไข่ ซึ่งกระจายอยู่ทั่วพื้นปูปกคลุมด้วยตะไคร่น้ำจริง สามารถเข้าสัมผัสพื้นที่งานศิลปะใหม่เหล่านี้ได้ที่นี่เท่านั้น และสำรวจความสัมพันธ์ของผู้คนกับธรรมชาติและโลกผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล ด้วยการผสมผสานแสงธรรมชาติจากอวกาศ ชิ้นงานแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างวันและหลังพระอาทิตย์ตกดิน

สวนดอกไม้ลอยน้ำ ดอกไม้และผู้คนจากรากฐานเดียวกัน ตัวฉันและสวนร่วมเป็นหนึ่งเดียว
ชิ้นงานศิลปะ: https://planets.teamlab.art/tokyo/ew/ffgarden_planets/

สวนตะไคร่น้ำแห่งพิภพสะท้อนแสงขนาดเล็ก แสงสีสะท้อน พระอาทิตย์ขึ้น และยามอัสดง
ชิ้นงานศิลปะ: https://planets.teamlab.art/tokyo/ew/resonating_microcosms_mossgarden_planets/

อาหารและศิลปะ: เพลิดเพลินกับราเมนมังสวิรัตในพื้นที่แสดงงานศิลปะ

Vegan Ramen UZU Tokyo เป็นร้านราเมนมังสวิรัติที่มีต้นกำเนิดจาก Kyoto ซึ่งมีการเปิดให้บริการในเดือนตุลาคม ปี 2021 ในสถานที่เดียวกันกับ teamLab Planets ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับราเมนในพื้นที่แสดงงานศิลปะ Reversible Rotation – Non-Objective Space ของ teamLab เช่นเดียวกับ Table of Sky and Fire และ One Stroke Bench ด้านนอกร้านอาหาร Vegan Ramen UZU Tokyo ยังมีบริการไอศกรีมมังสวิรัติและชาต่างๆ ที่มีเฉพาะในโตเกียวเท่านั้น สามารถเข้าทานอาหารในร้านโดยไม่ต้องเข้า teamLab Planets

Vegan Ramen UZU Tokyo: https://vegan-uzu.com/pages/uzu-tokyo

ชิ้นงานศิลปะสาธารณะที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมชมได้

จักรวาลดาวอัคคีหล่นจากท้องฟ้า เป็นชิ้นงานศิลปะสาธารณะที่สื่อถึงเปลวไฟ โดยมีการจัดแสดงตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2021 เปลวไฟซึ่งเป็นปรากฎการณ์ของแสงและความร้อนที่เกิดจากการเผาไหม้ โดยเป็นชุดลายเส้นที่วาดขึ้นสัมพันธ์กับการไหลของแก๊สเผาไหม้ จะมีการจัดแสดงชิ้นงานนี้ในพื้นที่กลางแจ้ง และทุกคนสามารถเข้าชมได้ โดยไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วเข้าพิพิธภัณฑ์

จักรวาลดาวอัคคีหล่นจากท้องฟ้า
ชิ้นงานศิลปะ: https://planets.teamlab.art/tokyo/ew/universe_fireparticles_falling/

[ teamLab Planets TOKYO DMM ]

teamLab Planets เป็นพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สายน้ำ และดงดอกไม้ โดยจะมีพื้นที่จัดนิทรรศการขนาดใหญ่อยู่สี่แห่งและสวนสองแห่ง

คุณสามารถดื่มด่ำงานศิลปะมากมายหลากหลาย ผสานรวมร่างกายของคุณเข้ากับธรรมชาติ ละลายตัวคุณเอง ผู้คน และโลกเข้าเป็นหนึ่ง และมุ่งเน้นการสำรวจความสัมพันธ์ใหม่โดยไม่มีขอบเขตระหว่างตัวเราเองกับโลก

เข้าร่วมชมเท้าเปล่า ผสานรวมตัวคุณเองกับทุกคนในพื้นที่งานศิลปะ และร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับโลกใบนี้

[รายละเอียดนิทรรศการ]

teamLab Planets TOKYO DMM
ที่ตั้ง: teamLab Planets TOKYO, 6-1-16 Toyosu, Koto-ku, Tokyo

[เวลาเปิดทำการ]

(เดือนพฤศจิกายน – มกราคม)
จ. – ศ. 10:00 – 20:00
วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 9:00 – 21:00
* วันที่ 26 เดือนธันวาคม (จ.) – วันที่ 30 เดือนธันวาคม (ศ.), วันที่ 2 เดือนมกราคม (จ.) – วันที่ 6 เดือนมกราคม (ศ.) 9:00 – 21:00
* วันที่ 31 เดือนธันวาคม (ส.), วันที่ 1 เดือนมกราคม (อา.) 9:00 – 20:00
* เคาน์เตอร์จะปิด 1 ชั่วโมงก่อนปิดทำการ

ปิดทำการ:
วันที่ 8 เดือนธันวาคม (พฤ.), วันที่ 11 เดือนมกราคม (พ.)

*เวลาเปิดทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดดูอัปเดตล่าสุดจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://planets.teamlab.art/tokyo/jp/
ไฮไลท์วิดีโอของ teamLab Planets: https://youtu.be/oiQoe9Ow9o0

*teamLab Planets จะเปิดใน Toyosu, Tokyo ปลายปี 2023

[ตั๋วเข้าชม]

ผู้ใหญ่: 3,200 เยน
นักเรียนชั้นมัธยมต้นและมัธยมปลาย: 2,000 JPY
เด็ก (อายุ 4 ถึง 12 ปี): 1,000 JPY
เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี: Free
ส่วนลดสำหรับผู้ทุพพลภาพ: 1,600 JPY

เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วของ teamLab Planets TOKYO DMM: https://teamlabplanets.dmm.com

[มาตรการป้องกันการแพร่กระจายของ COVID-19]

โปรดเข้าดูรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการติดเชื้อใน teamLab Planets ที่ลิงก์ด้านล่าง:
https://teamlabplanets.dmm.com/covid-19

[HP/โซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการ]

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://planets.teamlab.art/tokyo/
Instagram: https://www.instagram.com/teamlab.planets/
Facebook: https://www.facebook.com/TL.Planets/
Twitter: https://twitter.com/teamLab_net
#teamLabPlanets

[อาหาร & ร้านค้า]

Vegan Ramen UZU Tokyo: https://vegan-uzu.com/pages/uzu-tokyo
teamLab Flower Shop & Art
*โปรดเข้าดูเวลาเปิดทำการจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
*ปิดทำการในวันเดียวกันกับ teamLab Planets

[มาตรการควบคุมโคโรน่าไวรัสใหม่ (กำหนดใช้กับอาหาร & ร้านค้า)]

  • ดำเนินการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อเป็นประจำ
  • ฆ่าเชื้อที่นั่งหลังจากลูกค้าแต่ละรายใช้งาน
  • มีน้ำยาฆ่าเชื้อที่มือที่ทางเข้า
  • จำกัดจำนวนคนในพื้นที่
  • มีการจัดสรรระยะห่างระหว่างที่นั่งอย่างถูกต้อง
  • พนักงานทุกคนสวมหน้ากากอนามัย
  • ไม่มีสินค้าวางบนโต๊ะ
  • มีการควบคุมและวัดค่าอุณหภูมิ

[เอกสารสื่อ]

https://goo.gl/tQXMLm

[PLANETS Co., Ltd.]

ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 ดำเนินการและบริหาร teamLab Planets TOKYO
ที่ตั้ง: Tokyo Nihonbashi Tower 10F, 2-7-1 Nihonbashi, Chuo-ku, Tokyo
ตัวแทน: Takumi Nomoto

[teamLab]

teamLab (f. 2001) เป็นกลุ่มศิลปะนานาชาติ โดยมีการทำงานร่วมกันเพื่อผสานรวมศิลปะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และโลกธรรมชาติ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญสหวิทยาการ รวมถึงศิลปิน โปรแกรมเมอร์ วิศวกร แอนิเมเตอร์ CG นักคณิตศาสตร์ และสถาปนิก มุ่งสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองและโลก รวมถึงการรับรู้รูปแบบใหม่ผ่านศิลปะ

เพื่อทำความเข้าใจในโลกรอบตัว ผู้คนมีการแยกโลกออกเป็นหน่วยอิสระ โดยมีขอบเขตการรับรู้ระหว่างผู้คนและโลก teamLab มุ่งเน้นที่จะก้าวข้ามขอบเขตการรับรู้เกี่ยวกับโลก ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองและโลก และความต่อเนื่องของเวลา ทุกสิ่งดำรงอย่างยาวนาน เปราะบาง ทว่าน่าอัศจรรย์ไร้พรมแดน

teamLab มีการจัดนิทรรศการขึ้นในเมืองต่างๆ ทั่วโลก รวมถึง นิวยอร์ก ลอนดอน ปารีส สิงคโปร์ ซิลิคอนแวลเล่ย์ ปักกิ่ง และเมลเบิร์น พิพิธภัณฑ์ของ teamLab และนิทรรศการขนาดใหญ่อย่างถาวร รวมถึง teamLab Borderless และ teamLab Planets ในโตเกียว, teamLab Borderless Shanghai, และ teamLab SuperNature Macao และยังมีเปิดตัวในเมืองต่างๆ อีกมากมาย ทั้งที่อาบูดาบี ปักกิ่ง ฮัมบูร์ก เจดดาห์ และอูเทร็คท์

ผลงานของ teamLab อยู่ในคอลเลคชันแบบถาวรในพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยที่ลอสแองเจลิส หอศิลป์แห่งนิวเซาธ์เวลส์ที่ซิดนีย์ หอศิลป์แห่งเซาท์ออสเตรเลียที่แอดิแลด พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชียที่ซานฟรานซิสโก พิพิธภัณฑ์สังคมเอเชียที่นิวยอร์ก คอลเลคชันศิลปะร่วมสมัยที่ Borusan จากอิสตันบูล หอศิลป์แห่งชาติวิกตอเรียที่เมลเบิร์น และ Amos Rex ที่ Helsinki

teamLab: https://www.teamlab.art/
Instagram: https://instagram.com/teamlab/
Facebook: https://www.facebook.com/teamLab.inc
Twitter: https://twitter.com/teamLab_net
YouTube: https://www.youtube.com/c/teamLabART

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52971993/en

ติดต่อ

[Inquiries regarding releases and interviews]
PLANETS Co., Ltd. Public Relations Department
E-mail: pr-info@planets.art
Interview: https://forms.gle/fAtnDKLpQKFME6XR9

แหล่งข้อมูล: PLANETS Co., Ltd.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย




บริษัท Wipro ประกาศตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (APMEA) ในเมืองดูไบ

Logo

เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และบังกาลอร์ อินเดีย–(BUSINESS WIRE)–18 พฤศจิกายน 2022

บริษัท Wipro Limited (NYSE: WIT, BSE: 507685, NSE: WIPRO) เป็นบริษัทชั้นนำผู้ให้บริการและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี ได้ประกาศเปิดสำนักงานใหญ่ด้านกลยุทธ์ทางการตลาดประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (APMEA) ในเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

Sheikh Hamdan bin Mohammed bin Rashid Al Maktoum มกุฎราชกุมารแห่งเมืองดูไบและประธานสภาบริหารเมืองดูไบ และ Sheikh Maktoum bin Mohammed bin Rashid Al Maktoum รองเจ้าผู้ครองนครดูไบ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่คนสำคัญของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เข้าเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ที่เพิ่งเปิดใหม่ในวันเปิดทำการวันแรก

เจ้าชาย Sheikh Hamdan bin Mohammed กล่าวว่า  “การก่อตั้งหน่วยงานแห่งใหม่ของ Wipro ในเมืองดูไบนี้ สะท้อนให้เห็นถึงสถานะการเติบโตของเอมิเรตในฐานะที่เป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำของโลก วิสัยทัศน์ของการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมของ Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum ผู้ซึ่งเป็นรองประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเจ้าผู้ครองนครดูไบ ทำให้เมืองดูไบกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนจากผู้เล่นระดับแนวหน้าของโลก ในอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนอนาคตของเศรษฐกิจโลก เมืองดูไบได้สร้างโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศแบบพลวัตรสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมกับกรอบการกำกับดูแลที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนนวัตกรรม ผู้ประกอบการ และการขยายธุรกิจ เมืองนี้ยังเป็นฐานที่ตั้งในอุดมคติสำหรับการเข้าถึงผู้มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของโลก ซึ่งดึงดูดให้เมืองดูไบได้รับประโยชน์อย่างต่อเนื่องจากโอกาสในการเติบโตมากมายและมาตรฐานการครองชีพที่สูง ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เมืองดูไบได้ร่วมเป็นพยานในความสำเร็จด้านเทคโนโลยีระดับโลกที่สำคัญหลายอย่าง ซึ่งช่วยเสริมภาพลักษณ์ของเมืองในฐานะจุดศูนย์กลางระดับโลกสำหรับการเติบโตและองค์กรในภาคส่วนนี้”

สำนักงานใหญ่ที่เพิ่งเปิดใหม่ซึ่งตั้งอยู่ ณ ใจกลางของสถานประกอบการธุรกิจอันพลุกพล่านของ One Central ที่ Dubai World Trade Centre จะเป็นผู้นำในการขยายตัวและการลงทุนของ Wipro ทั่วสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และ APMEA โดยจะช่วยจัดการธุรกิจ เทคโนโลยี และวาระการเปลี่ยนแปลงของลูกค้าในภาคส่วนสำคัญ เช่น บริการทางการเงิน การค้าปลีก โทรคมนาคม พลังงานและสาธารณูปโภค รวมไปถึงภาครัฐด้วย Wipro เริ่มดำเนินกิจการดังกล่าวในตะวันออกกลาง ณ ปี 2001 และปัจจุบันได้แพร่กระจายไปในหลายประเทศในแต่ละภูมิภาค หน่วยการตลาดเชิงกลยุทธ์ของ APMEA สร้างรายได้ประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์ให้กับ Wipro และมีพนักงานมากกว่า 30,000 คน

Rishad Premji ประธานกรรมการบริหารบริษัท Wipro Limited กล่าวว่า “เรายินดีที่ได้เปิดตัวสำนักงานใหญ่ APMEA ของเราในเมืองดูไบ ซึ่งถือเป็นการเปิดบทใหม่สำหรับ Wipro ในตลาดที่ขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็วและเน้นการใช้เทคโนโลยีเป็นอันดับแรก เมืองดูไบเป็นประตูสู่โลก และมีรัฐบาลที่ก้าวหน้า พนักงานที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และนโยบายที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ ทำให้เมืองดูไบเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับเราในขณะที่เราขยายธุรกิจไปทั่วภูมิภาค APMEA”

ความร่วมมือในระบบนิเวศเป็นหนึ่งในแกนหลักของกลยุทธ์ทางธุรกิจของ Wipro สำนักงานใหญ่ APMEA จะมีพื้นที่สำหรับนวัตกรรมร่วม ซึ่งพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ อันได้แก่ AWS, Microsoft, HPE, Informatica, Palo Alto Networks, SAS และ Snowflake จะร่วมมือกับ Wipro เพื่อสร้างโซลูชันร่วมกันที่จะตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของภาคส่วนและเทคโนโลยีที่สำคัญ

ที่นี่จะเป็นที่รวมพลังของกลุ่ม Wipro สำนักงานใหญ่แห่งนี้จะเป็นที่ตั้งของทีมงานที่เชี่ยวชาญในท้องถิ่นจาก Capco ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีและการจัดการระดับโลกที่มุ่งเน้นบริการทางการเงิน และจาก Designit ซึ่งเป็นบริษัทด้านการออกแบบเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม เป็นการนำเสนอความสามารถที่แตกต่างที่สุดของ Wipro ในพื้นที่ นอกจากนี้ Wipro ยังได้เปิดตัว Lab45 ในภูมิภาค ซึ่งเป็นพื้นที่นวัตกรรมอันมีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาโซลูชันที่ล้ำสมัยเพื่อส่งเสริมและเร่งสร้างไอเดียให้กับลูกค้า

Thierry Delaporte ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการของ Wipro Limited กล่าวว่า "การก่อตั้งสำนักงานใหญ่ของเราที่นี่เปิดโอกาสในการเติบโตอย่างมากมาย และเป็นโอกาสในการทำงานร่วมกันทั่วทั้งภูมิภาค สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เข้าใจถึงคุณค่าเชิงกลยุทธ์ของเทคโนโลยี และพลังของการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ดี Wipro เองก็ได้แบ่งปันวิสัยทัศน์นั้น เราจะใช้ประโยชน์จากความสามารถระดับโลก ความเชี่ยวชาญในท้องถิ่น ตลอดจนระบบนิเวศของพันธมิตรระดับโลกเพื่อร่วมกันสร้างโซลูชันสำหรับลูกค้าในภูมิภาคนี้”

Anis Chenchah ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Wipro Limited ประจำ APMEA กล่าวว่า “ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีที่มี Wipro เป็นบริษัทระดับโลกแห่งแรกในอุตสาหกรรมของเราที่รวม 3 ทวีปอันกว้างใหญ่อย่างแอฟริกา เอเชีย และโอเชียเนียเอาไว้ภายใต้การนำที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองดูไบ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของข้าพเจ้า การแลกเปลี่ยนทางธุรกิจระหว่างแอฟริกาและเอเชียนั้นเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก สร้างโอกาสยิ่งใหญ่ให้กับ Wipro ด้วยที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ โครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย และแนวคิดระดับโลก เมืองดูไบจึงเป็นสถานที่ในอุดมคติสำหรับการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในส่วนที่มีแนวโน้มที่ดีของโลกนี้”

เกี่ยวกับ Wipro Limited

Wipro Limited (NYSE: WIT, BSE: 507685, NSE: WIPRO) เป็นบริษัทชั้นนำผู้ให้บริการและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นการสร้างโซลูชันนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอันซับซ้อนที่สุดของลูกค้า ดึงคุณประโยชน์จากความสามารถแบบองค์รวมของเราในการให้คำปรึกษา การออกแบบ วิศวกรรม และการดำเนินงาน เราช่วยให้ลูกค้าได้ตระหนักถึงความทะเยอทะยานที่กล้าหาญที่สุดของพวกเขา และสร้างธุรกิจที่พร้อมสำหรับอนาคตและมีความยั่งยืน ด้วยพนักงานและพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 250,000 คนใน 66 ประเทศ เราทำตามคำมั่นสัญญาในการช่วยเหลือลูกค้า เพื่อนร่วมงาน และชุมชนของเราเพื่อให้สามารถเติบโตในโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เยี่ยมชมเราได้ที่ www.wipro.com

บทความคาดการณ์ในอนาคต

บทความคาดการณ์ในอนาคตในที่นี้แสดงถึงความเชื่อของ Wipro เกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคต ซึ่งหลายอย่างเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่แน่นอนโดยเนื้อแท้ และอยู่นอกเหนือการควบคุมของ Wipro ข้อความดังกล่าวรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อความเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของ Wipro ผลการดำเนินงานทางการเงินในอนาคต แผน ความคาดหวัง และความตั้งใจ เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต Wipro จึงขอเตือนให้ผู้อ่านทราบว่าบทความคาดการณ์ในอนาคตนี้มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากผลลัพธ์ที่คาดการณ์ไว้ในข้อความดังกล่าว ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนดังกล่าวรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความผันผวนของรายรับ รายได้ และผลกำไรของเรา, ความสามารถของเราในการสร้างและจัดการการเติบโต, การดำเนินการขององค์กรที่เสนอโดยสมบูรณ์, การแข่งขันที่รุนแรงในบริการด้านไอที, ความสามารถของเราในการรักษาความได้เปรียบด้านต้นทุน, การเพิ่มอัตราค่าจ้างในอินเดีย, ความสามารถของเราในการดึงดูดและรักษาผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะสูง, เวลาและต้นทุนที่มากเกินไปสำหรับสัญญาราคาคงที่, กรอบเวลาคงที่, การกระจุกตัวของลูกค้า, ข้อจำกัดในการอพยพ, ความสามารถของเราในการจัดการการดำเนินงานระหว่างประเทศ, ความต้องการที่ลดลงสำหรับเทคโนโลยีในพื้นที่โฟกัสหลักของเรา, การหยุดชะงักของเครือข่ายโทรคมนาคม, ความสามารถของเราในการดำเนินการและบูรณาการการเข้าซื้อกิจการที่อาจเกิดขึ้นให้สำเร็จ, ความรับผิดต่อความเสียหายในสัญญาบริการของเรา, ความสำเร็จของบริษัทที่เราลงทุนเชิงกลยุทธ์, การถอนแรงจูงใจทางการคลัง, ความไม่แน่นอนทางการเมือง, สงคราม, ข้อจำกัดทางกฎหมายในการเพิ่มทุนหรือการซื้อบริษัทนอกอินเดีย, การใช้ทรัพย์สินทางปัญญาของเราโดยไม่ได้รับอนุญาต และสภาวะเศรษฐกิจทั่วไปที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและอุตสาหกรรมของเรา

ความเสี่ยงเพิ่มเติมที่อาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในอนาคตของเราได้อธิบายไว้อย่างครบถ้วนในเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะรายงานประจำปีในแบบฟอร์ม 20-F เอกสารที่ยื่นเสนอเหล่านี้มีอยู่ที่ www.sec.gov ในบางกรณี เราอาจจัดทำแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าที่เป็นลายลักษณ์อักษรและปากเปล่าเพิ่มเติม รวมถึงข้อความที่อยู่ในเอกสารที่บริษัทยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และรายงานของเราต่อผู้ถือหุ้น เราไม่ดำเนินการอัปเดตบทความคาดการณ์ล่วงหน้าที่อาจจัดทำขึ้นเป็นครั้งคราวโดยเราหรือในนามของเรา

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

ติดต่อ Wipro Media:
Purnima Burman
purnima.burman@wipro.com

ติดต่อ H+K Strategies Media:
Mark Sutton & Ghinwa Al Ahmad
Mark-r.sutton@hkstrategies.com
Ghinwa.AlAhmad@hkstrategies.com

แหล่งที่มา: Wipro Limited

Tusk Innovation ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับ Black Friday

Logo

KUALA LUMPUR, Malaysia–(BUSINESS WIRE)–17 พฤศจิกายน 2022

Tusk Inc. Limited (www.tusklimited.com) บริษัทที่เริ่มต้นในปี 2012 ในฐานะบริษัทจัดการเงินทุนในกรุงกัวลาลัมเปอร์ซึ่งมีสำนักงานอยู่ทั่วโลก และปัจจุบันเป็นหนึ่งในบริษัทโซลูชันไฟฟ้าชั้นนำที่มุ่งเน้นการผลิตสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์การทำเหมือง พลังงานแสงอาทิตย์ และอะแดปเตอร์ กำลังประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับ Black Friday สายผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับไฟฟ้า ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://tusklimited.com/products

This product is sold with a 7in 1 Solar Panel, so you don’t have to pay for the panel. (Photo: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์นี้ขายพร้อมแผงโซลาร์เซลล์ 7in 1 คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าแผง (ภาพ: Business Wire)

ในฐานะหนึ่งในบริษัทโซลูชันไฟฟ้าชั้นนำ Tusk ประกาศให้ส่วนลด 30% สำหรับนวัตกรรมของ Tusk ในวัน Black Friday สำหรับอุปกรณ์การทำเหมืองแบบคอมโบ ซึ่งรวมเอาแผงโซลาร์เซลล์เข้ากับเครื่องขุดบิตคอยน์ เพื่อให้การทำเหมืองเป็นไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญใดๆ เนื่องจากไฟฟ้าเป็นปัญหาหลักในอุตสาหกรรมการทำเหมือง

โดยการปรับล่าสุดจากวัสดุโพลีคริสตัลไลน์เป็นวัสดุเซลล์แสงอาทิตย์ นวัตกรรมของ Tusk มีการทดสอบประสิทธิภาพของการรวมผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์เข้ากับเครื่องขุดคริปโตเคอเรนซี และได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุด นักลงทุนด้านนวัตกรรมของ Tusk สามารถทำเหมืองคอยน์ของตนได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีการหยุดชะงักแล้วในขณะนี้ ทั้งยังมีความเสี่ยงน้อยลง และได้ผลกำไรสูงสุด

นี่เป็นความพยายามในการลดปริมาณไฟฟ้าที่ใช้เมื่อลูกค้าทำการขุดคริปโตเคอเรนซี และได้รับการเปิดเผยโดย John Walls ประธานฝ่ายปฏิบัติการ (COO) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของ Walls "รายงานต่างๆ แสดงให้เห็นว่าปริมาณไฟฟ้าที่คนงานเหมืองต้องการอาจมากเกินกว่าที่จะจัดการได้ ดังนั้น เราจึงได้ตัวเลือกที่สมเหตุสมผล"

กำไรจากการขุด

แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่ายินดีและให้ผลกำไรสูงสำหรับใครหลายๆ คนในการสร้างฟาร์มเหมืองคริปโตเคอเรนซี แต่ก็มีการคาดเดามากมายว่าพวกเขาอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการใช้ไฟฟ้า Tusk Inc ได้สร้างโซลูชันที่ใช้งานได้ยาวนานด้วยการมอบแผงโซลาร์เซลล์ที่ไม่สัมพันธ์กับค่าไฟฟ้าของคุณและอุปกรณ์การขุดบิตคอยน์ที่สามารถทำการขุดแบบคู่ได้ คุณสามารถขุดคอยน์ของคุณโดยไม่ต้องคอยกังวลกับความผันผวนของตลาด

Tusk Inc ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย และสหราชอาณาจักร มีความโดดเด่นที่แตกต่างจากที่อื่น โดยลูกค้าสามารถรับบริการพัฒนากระเป๋าเงินดิจิทัล (crypto wallet) รวมถึงหน่วยประมวลผลกราฟิกจากบริษัทที่มีสำนักงานอยู่ในสามทวีป นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ในการพัฒนาบล็อกเชน และโซลูชันการขุดบิตคอยน์ รวมถึงด้านอื่นๆ อีกมากมาย

เกี่ยวกับ Tusk

ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการ และต่อมาทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีก็ได้เข้ามามีส่วนร่วม ปัจจุบัน Tusk Inc เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโซลูชันไฟฟ้าชั้นนำ พวกเขาภูมิใจในความสามารถในการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากพวกเขาอยู่ในธุรกิจการบริหารความเสี่ยงมานานกว่าทศวรรษ และด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีหลายประการ พวกเขาได้รวมกิจการที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าไว้ในระบบการจัดการความเสี่ยง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการขุดคริปโตเคอเรนซี โดยใช้วัสดุเซลล์แสงอาทิตย์

ข้อมูลติดต่อ

John Walls
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
john@tusklimited.com
(+60)1117000943

แหล่งที่มา: Tusk Inc. Limited

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. ประกาศให้ Forest of Hope เป็นภาพยนตร์คัดสรรสำหรับเทศกาลภาพยนตร์ และพูดถึงผลจากการปลูกต้นไม้

Logo

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–16 พฤศจิกายน 2022 

Mary Kay Inc. องค์กรผู้อุทิศตัวระดับโลกเพื่อความยั่งยืน ยินดีประกาศว่า Forest of Hope สารคดีที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทซึ่งเน้นประเด็นของการต่อสู้ปกป้องผืนป่า และบอกเล่าเรื่องราวการอนุรักษ์ รวมถึงการสนับสนุนบทบาทของสตรี ได้รับคัดเลือกอย่างเป็นทางการให้เป็นส่วนหนึ่งของสี่เทศกาลภาพยนตร์

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีสื่อมัลติมีเดีย ดูข่าวฉบับเต็มได้ที่นี่ https://www.businesswire.com/news/home/20221115006123/en/

(Credit: Mary Kay Inc.)

(Credit: Mary Kay Inc.)

ทีมผู้หญิงล้วนเป็นผู้เขียนบท กำกับ และผลิต Forest of Hope รวมถึงจัดฉายที่เทศกาลภาพยนตร์ La Femme International ซึ่งเป็นงานเทศกาลภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ที่เฉลิมฉลอง สนับสนุน และผลักดันการสร้างเนื้อหาโดยโปรดิวเซอร์ นักเขียน และผู้กำกับหญิงจากทั่วโลก ภาพยนตร์นี้ยังได้รับเลือกให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์ North Dakota Environmental Rights เทศกาลภาพยนตร์ Hot Springs International Women และเทศกาลภาพยนตร์ Green Film ด้วย

Mary Kay ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์สั้นร่วมกับ The Nature Conservancy ในการขับเน้นเรื่องราวของ Angelica ผู้นำของ Mujeres Unidas Para La Conservacion de Laguna de Sanchez และกลุ่มของนักธุรกิจหญิงที่ต่อสู้กับความท้าทายทางสิ่งแวดล้อมในพื้นที่โดยรอบของเมืองมอนเตอเรย์

Forest of Hope พาผู้ชมไปยังเมืองในหุบเขาเล็กใกล้เมืองมอนเตอเรย์ที่แวดล้อมไปด้วยอุทยานแห่งชาติ Cumbres สถานที่อนุรักษ์ธรรมชาติที่รู้จักกันในชื่อ “ปอดของภูมิภาค” เป็นสถานที่ที่ไฟและการตัดไม้ทำลายผืนป่าไป 30% รวมถึงความท้าทายด้านนิเวศอื่น ๆ เช่น เฮอร์ริเคน น้ำท่วม และปัญหาการขาดแคลนน้ำ

ปัญหาอื่นทั่วไปที่เจอในพื้นที่นี้คือ การไหลของน้ำฝนที่ส่งผลกระทบกับโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ปศุสัตว์ท้องถิ่น และพลเมืองในชุมชน การเสื่อมสภาพของธรรมชาติเหล่านี้ทำให้ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งอุทิศตนในการฟื้นฟูพันธุ์ไม้และผลิตพันธุ์ต้นไม้พื้นเมืองในสถานอนุบาล เพื่อรักษาความยืดหยุนทางธรรมชาติของพื้นที่ไว้

การปลูกต้นไม้และฟื้นฟูป่าเป็นทางออกที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยต่อสู้กับปัญหาสภาพอากาศ คุณภาพและปริมาณน้ำ สุขภาพความหลากหลายทางชีวภาพ และสุขภาพของมนุษย์เอง จนถึงปัจจุบัน Mary Kay ปลูกต้นไม้มากกว่า 1.2 ล้านต้นทั่วโลก งานอนุรักษ์ของ Mary Kay ต่อต้นไม้เป็นสิ่งที่วัดได้และสร้างผลลัพธ์ที่ยืนยาว

รายงานสถานการณ์ต้นไม้ล่าสุดของ Mary Kay เน้นให้เห็นประโยชน์ที่สั่งสมสามอย่างในการปลูกต้นไม้ผ่านงานที่ทำสำเร็จไปแล้ว ด้วยความร่วมมือกับ Arbor Day Foundation

  • คาร์บอน: การปลูก การปกป้องรักษา และการจัดการต้นไม้ให้ดูดซับคาร์บอน เมื่อต้นไม้โตขึ้น คาร์บอนจะถูกดูดซับออกจากชั้นบรรยากาศเข้าไปในลำต้น ราก และกิ่งก้าน
    • การวัดปริมาณ CO2 แบบตันที่แยกออกมาเดี่ยว ๆ จนถึงปัจจุบัน: 1,115,522
  • น้ำ: ต้นไม้และผืนป่ามีบทบาทสำคัญต่อคุณภาพและปริมาณน้ำ ต้นไม้ที่มีสุขภาพดีและผืนป่าช่วยลดการกัดกร่อนดิน กรองน้ำฝน และการทดน้ำเพื่อการเกษตร ยกระดับการซึมของฝน และลดการไหลของน้ำบนผิวดิน
    • ปริมาณแกลลอนที่เลี่ยงการไหลของน้ำ: 138,014,028 (เทียบเท่ากับ 1,568,341 คนที่มีน้ำสะอาด)
  • อากาศ: ต้นไม้ผลิตออกซิเจนที่เราหายใจ นอกจากนี้ ต้นไม้ยังลดอากาศเป็นพิษด้วยการลดอุณหภูมิอากาศ ทั้งการปล่อยน้ำเข้าสู่บรรยากาศ และการกรองอนุภาค
    • ปริมาณตันของมลพิษทางอากาศที่ถูกกำจัด: 6,123

หากต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมของคำมั่นสัญญาต่อความยั่งยืนของ Mary Kay โปรดดูที่ marykayglobal.com/sustainability และดาวน์โหลดกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay: เพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำอันจำเป็นต่อชีวิตต่าง ๆ เราสร้างโซลูชันที่ใช้ได้จริงและเป็นนวัตกรรมตามแนวทางวิทยาศาสตร์ เพื่อรับมือความท้าทายที่ยากที่สุดของโลกเรา เพื่อให้ธรรมชาติและคนสามารถเติบโตไปด้วยกัน เรากำลังจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพอากาศ การอนุรักษ์ดิน น้ำ และมหาสมุทรในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ช่วยมอบอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน รวมถึงช่วยทำให้เมืองต่าง ๆ มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น เราปฏิบัติงานใน 79 ประเทศ และเขตต่าง ๆ โดยใช้วิธีร่วมมือซึ่งทำให้เราเข้าไปมีส่วนร่วมกับชุมชน รัฐบาล ภาคเอกชน และพาร์ทเนอร์ท้องถิ่น หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ริเริ่มนำร่อง เธอก่อตั้งบริษัทความงามในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือ ช่วยให้ชีวิตผู้หญิงดียิ่งขึ้น ความฝันนั้นผลิดอกออกผลกลายเป็นบริษัทหลายพันล้านดอลลาร์ มีสมาชิกฝ่ายการขายอิสระในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทที่พัฒนาความเป็นนักธุรกิจ Mary Kay ตั้งมั่นที่จะสนับสนุนเส้นทางผู้หญิงผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรม

Mary Kay อุทิศตัวในการลงทุนกับวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงาม และการผลิตสกินแคร์ เครื่องสำอางสี ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเครื่องหอมอันล้ำสมัย Mary Kay เชื่อในการยกระดับชีวิตวันนี้เพื่อความยั่งยืนในวันข้างหน้า จับมือร่วมกับองค์กรอื่น ๆ ทั่วโลกโดยเน้นที่การสนับสนุนความเป็นเลิศด้านธุรกิจ การสนับสนุนงานวิจัยด้านมะเร็ง เพิ่มความเท่าเทียมทางเพศสภาพ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในบ้าน ช่วยให้ชุมชนของเราสวยงามยิ่งขึ้น พร้อมสนับสนุนเด็ก ๆ ให้เดินตามความฝัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com หรือค้นหาเราได้บน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราได้บน Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ดูข้อมูลต้นฉบับได้บน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221115006123/en/

ข้อมูลติดต่อ

Mary Kay Inc.
ฝ่ายสื่อสารบริษัท
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งที่มา: Mary Kay Inc.




จุดประกายความหลงใหลในกีฬา! เข้าร่วมการแข่งขัน VOOPOO Infinity Contest ในวันที่ 23 พฤศจิกายน และรับเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์!

Logo

เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–17 พฤศจิกายน 2022

ในฤดูกาลที่เต็มไปด้วยความหลงใหลในกีฬา ผู้คนทั่วโลกต่างตื่นเต้นกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว บริษัท VOOPOO แบรนด์ยักษ์ใหญ่ด้านบุหรี่ไฟฟ้าที่มุ่งมั่นในการให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางและสนับสนุนวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีและนวัตกรรม ได้ริเริ่มกิจกรรมที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า VOOPOO Infinity Go Go Go บนเว็บไซต์ของบริษัทเพื่อจุดประกายจิตวิญญาณแห่งกีฬาของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า (vaper)

(Photo: Business Wire)

(Photo: Business Wire)

ก่อนหน้านี้ บริษัท VOOPOO ได้ให้รูปลักษณ์เฉพาะตัวแก่ผลิตภัณฑ์รุ่นเรือธงด้วยการเปิดตัวสินค้ารุ่นพิเศษอย่าง ARGUS Series Limited Edition, ARGUS MT, ARGUS XT, ARGUS GT II, ARGUS POD และ ARGUS PRO แคมเปญ VOOPOO Infinity Go Go Go ที่เปิดตัวในช่วงเวลาเดียวกันนั้นก็ได้รับความสนใจจากแฟน ๆ และผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่เปิดตัว

DIY ผลงานศิลปะของคุณเอง พร้อมกับสนับสนุนทีมโปรดของคุณ และชิงเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์!

ในวันที่ 23 พฤศจิกายน VOOPOO จะเปิดตัวขั้นตอนที่สองอย่างเป็นทางการของ VOOPOO Infinity Go Go Go บนเว็บไซต์ของบริษัท

ในหน้ากิจกรรมที่ได้เผยแพร่นั้น เรารู้สึกประหลาดใจที่พบว่า VOOPOO ได้ซ่อนสิทธิประโยชน์มหาศาลเอาไว้อันได้แก่ เงินรางวัลมูลค่า 5,000 ดอลลาร์ ตามข้อมูลที่ประกาศอย่างเป็นทางการ เราพบว่านี่จะเป็นการแข่งขัน DIY ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์ DIY ผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาชื่นชอบนั่นเอง มาที่หน้ากิจกรรม VOOPOO Infinity Go Go Go แล้วตั้งตาคอยการประกาศข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมนี้ ใครกันที่จะเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลใหญ่มูลค่า 5,000 ดอลลาร์นี้ไป

VOOPOO รวมเอาความชื่นชอบด้านกีฬาอย่าง “นวัตกรรม” “ความเพียร” และ “การผสมผสาน” ซึ่งตรงกับค่านิยมของ VOOPOO เอาไว้ในกิจกรรมนี้ ส่งมอบให้กับผู้ใช้และผู้ที่ชื่นชอบ แม้กระทั่งอุตสาหกรรมแนวคิดที่ว่า วิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีเป็นพื้นฐานหนึ่งของการพัฒนา และนวัตกรรมที่ไม่สิ้นสุดจะเปลี่ยนอนาคตได้ ในส่วนของรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎระเบียบของการแข่งขันและเงื่อนไขการให้รางวัล โปรดดูที่หน้ากิจกรรมของ VOOPOO Infinity Go Go Go ในวันที่ 23 พฤศจิกายน

เกี่ยวกับ VOOPOO

VOOPOO  ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2017 และได้เติบโตอย่างรวดเร็วผ่านผลิตภัณฑ์ DRAG ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลกในระยะเวลาอันสั้น ในฐานะองค์กรไฮเทคที่มีทั้งการวิจัยและพัฒนา การออกแบบ การผลิต รวมถึงการสร้างแบรนด์ด้วย VOOPOO มีชุดผลิตภัณฑ์หลักสี่ชุด ได้แก่ ARGUS, DRAG, VINCI และ V ปัจจุบัน VOOPOO มีการดำเนินงานในกว่า 70 ประเทศในอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย

เว็บไซต์: https://www.voopoo.com/

Instagram: https://www.instagram.com/voopootech_official/

Facebook: https://www.facebook.com/voopooglobal

Youtube: https://www.youtube.com/c/VOOPOO

Tiktok: https://www.tiktok.com/@voopoofans

ร้านค้า: https://shop.voopoo.com/

ข้อมูลติดต่อ

Nical Zhang
ผู้จัดการฝ่าย PR
Nical.zhang@voopootech.com

แหล่งที่มา: VOOPOO

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Midea VRF เข้าสู่ระดับโลก เปิดตัวรถไฟความเร็วสูงจาการ์ตา-บันดุง

Logo

JAKARTA, Indonesia–(BUSINESS WIRE)–15 พฤศจิกายน 2022

การประชุมสุดยอด G20 ที่บาหลีนำเสนอผลการก่อสร้างล่าสุดของรถไฟความเร็วสูง (HSR) สายจาการ์ตา-บันดุง ซึ่งเป็นรถไฟความเร็วสูงสายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยระยะทางยาวทั้งหมด 142 กิโลเมตร และความเร็วสูงสุดตามการออกแบบอยู่ที่ 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้อินโดนีเซียเข้าสู่ "ยุครถไฟความเร็วสูง " Midea นำเสนอโซลูชัน HVAC ระดับมืออาชีพ และการบริการที่เข้าถึงผู้ใช้มากที่สุด พร้อมนำเสนอ "Midea Coolness" สำหรับ HSR สายจาการ์ตา-บันดุง ด้วย 126 ODU และ 705 IDU จาก Midea VC Pro

Midea VC Pro VRFs have been used in Jakarta-Bandung High-Speed Railway (HSR), Dubai Expo and many other overseas projects. (Graphic: Business Wire)

มีการนำ Midea VC Pro VRFs มาใช้ในโครงการรถไฟความเร็วสูง (HSR) จาการ์ตา-บันดุงในงาน Dubai Expo และโครงการในต่างประเทศอีกหลายโครงการ (กราฟิก: Business Wire)

โครงการ HVAC เป็นการสนับสนุนอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับ HSR สายจาการ์ตา-บันดุง โดยรถไฟจากจาการ์ตา-บันดุงตั้งอยู่ในเขตภูมิอากาศแบบป่าฝนเขตร้อนของหมู่เกาะชวา และได้รับอิทธิพลจากภูมิอากาศแถบเส้นศูนย์สูตร ผู้ปฏิบัติงานของ HSR จึงต้องการระบบเครื่องปรับอากาศส่วนกลางที่เชื่อถือได้และมีความเสถียรภาพ เพื่อให้สามารถปรับให้เข้ากับอุณหภูมิที่สูงและสภาพการทำงานที่มีความชื้นสูงโดยไม่มีการหยุดทำงาน และสามารถคงระดับอุณหภูมิของพื้นที่อาคาร HSR ให้คงที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในฐานะที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม HVAC ระดับโลก Midea Building Technologies นำเสนอโซลูชันระบบเครื่องปรับอากาศมืออาชีพสำหรับ HSR สายจาการ์ตา-บันดุง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระบบระบายความร้อนด้วยชิปของเหลวแบบหลายตัว โดยสามารถช่วยระบายความร้อนของชิ้นส่วนควบคุมระบบไฟฟ้าให้เย็นลงได้ทันเวลา และสามารถลดอุณหภูมิของชิ้นส่วนควบคุมระบบไฟฟ้าได้ประมาณ 8 องศา ซึ่งสามารถรักษาความเย็นในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงได้เป็นอย่างดี ในกรณีของความทนทานต่อการกัดกร่อน ODU ของ VC Pro VRFs ยังคงสามารถทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการกัดกร่อนของเกลืออย่างรุนแรงได้ โดยผ่านการจำลองการทดสอบเชิงทดลอง

นอกจากประสบกับปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ก่อสร้างขนาดใหญ่และการเข้าออกของประชากรจำนวนมากในสถานี HSR ไซต์ 4 ที่ Midea MBT ชนะการประมูลแล้ว ยังมีอาคารอยู่หกประเภท เช่น อาคารสถานี อาคารอพาร์ทเมนท์ เป็นต้น เป็นไซต์ที่มีความซับซ้อนมากที่สุดสำหรับการติดตั้งเครื่องปรับอากาศสำหรับ HSR สายจาการ์ตา-บันดุง นอกเหนือจากนั้น ที่ประเทศอินโดนีเซีย การจัดหาวัสดุการติดตั้งสำหรับโครงการก็มีข้อจำกัดในหลาย ๆ ด้าน จึงต้องมีการประเมินทุกปัจจัยในกระบวนการคัดเลือก แผนการออกแบบเครื่องปรับอากาศยังมีการปรับปรุงครั้งแล้วครั้งเล่า จนในที่สุด ระบบที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพที่ปรับจนเหมาะสมสำหรับโครงการติดตั้ง HVAC ก็บรรลุผลสำเร็จโดยมีการผสมผสานระหว่างดีไซน์หลากหลายรูปแบบและโครงร่างแบบผสมผสาน

ยังมีการใช้งาน Midea VC Pro VRFs ใน Dubai Expo และโครงการในต่างประเทศอีกหลายโครงการด้วยเช่นกัน ในปัจจุบัน Midea Building Technologies ได้ปรับเครือข่ายการขายและบริการในตลาดต่างประเทศ โดยมีการสร้างโครงร่างที่ครอบคลุมตั้งแต่เทคโนโลยีหลักและผลิตภัณฑ์ดั้งเดิม ไปจนถึงโซลูชันที่แตกต่างกันไปตามการปรับแต่งให้เหมาะสม

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52969740/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Lori Luo
+86 13512784739
luory17@midea.com

แหล่งที่มา: Midea

upGrad เซ็นสัญญาขยายพื้นที่ 335,000 ตารางฟุตใน 4 เมือง

Logo

~เพื่อจ้างสมาชิกในทีม 1,400 คนภายในเดือนมีนาคม ปี 2023~

MUMBAI, India–(BUSINESS WIRE)–16 พฤศจิกายน 2022

upGrad ผู้เล่นด้าน Edtech ระดับอุดมศึกษารายใหญ่ที่สุดในเอเชียยังคงเดินหน้าแผนการเติบโตและการขยายตัวเพื่อส่งผลต่อผู้เรียนในอินเดียและทั่วโลก รวมถึงทำให้พวกเขาพร้อมรับงาน จนถึงปัจจุบัน 'One upGrad' ได้ส่งผลต่อผู้เรียน 8.2 ล้านคนในทักษะด้านอารมณ์ การเตรียมตัวสอบ โปรแกรมที่เชื่อมโยงกับวิทยาลัย โปรแกรมที่เชื่อมโยงกับข้อมูลรับรอง ตำแหน่งงาน การเปลี่ยนงาน และการพัฒนาอาชีพ

ด้วยเส้นทางการเติบโตที่สูงอย่างต่อเนื่อง upGrad ได้ลงนามในสัญญาเช่าใหม่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาสำหรับพื้นที่ 335,000 ตารางฟุตเพื่อใช้สำหรับพื้นที่สำนักงาน วิทยาเขตแบบออฟไลน์ ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้เรียน สตูดิโอ และห้องฝึกอบรมสำหรับรายชื่ออาจารย์และคณาจารย์ที่เพิ่มขึ้น บริษัทได้เสนอจ้างสมาชิกในทีมกว่า 1,400 คนระหว่างเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 ถึงมีนาคม ปี 2023 ทั่วอินเดียและสำนักงานทั่วโลก

upGrad ปิดพื้นที่ 200,000 ตารางฟุตในมุมไบสำหรับโครงการที่พักสำหรับผู้เรียน ที่ซึ่งนักศึกษายังได้ผันตัวเป็นสถาปนิกเพื่อออกแบบที่พักของพวกเขา พื้นที่ 20,000 ตารางฟุตในเบงกาลูรูสำหรับการขยาย KnowledgeHut ไปสู่ ​​Bootcamps และอีกมากมาย พื้นที่ 25,000 ตารางฟุตในปูเน่สำหรับการขยายที่ Talentedge พื้นที่อีก 40,000 ตารางฟุตใน Sector 125 ในนอยดา สำหรับแผนกศึกษาต่อต่างประเทศ – upGrad Abroad และพื้นที่ 50,000 ตารางฟุตใน Sector 58 ในนอยดา เพื่อใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานในการเตรียมสอบของรัฐบาลซึ่งมีสตูดิโอมากกว่า 45 ห้องพร้อมครูฝึกมากกว่า 150 คน ที่รองรับช่อง YouTube 27 ช่องที่มียอดวิวมากกว่า 25L ต่อวัน และจะฝึกอบรมผู้สมัครมากกว่า 5L ในปีนี้เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงานของรัฐบาล

upGrad มีทีมงานประจำและมีสำนักงานอยู่ทั่วโลก ทั้งในสิงคโปร์ ซานฟรานซิสโก อินโดนีเซีย นิวยอร์ก ตะวันออกกลาง ลอนดอน เวียดนาม วอชิงตัน และทั่วทั้งออสเตรเลีย จากสมาชิก 1,400 คน ส่วนใหญ่จะเป็นคณาจารย์ ผู้ฝึกอบรม และผู้เชี่ยวชาญในด้านการขายและการตลาด เนื้อหา การจัดส่ง และประสบการณ์การเรียนรู้ จุดเน้นของการจ้างงานอยู่ที่พื้นที่ที่มีการเติบโตสูงซึ่งรวมถึง (ก) การศึกษาในต่างประเทศ (ข) วิทยาเขตทั่วโลก 10 แห่ง (ค) โปรแกรมที่เน้นการทำงานและพร้อมทำงานซึ่ง upGrad เปิดตัวในอินเดียและสหรัฐอเมริกาในช่วง 90 วันที่ผ่านมา และ (ง) ที่ ATLAS SkillTech University ในมุมไบ

"การขยายธุรกิจในประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเรา แม้ว่าโมเดลธุรกิจของเราจะได้รับผลตอบแทน 100%+ ในทุกไตรมาส แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องลงทุนใหม่เพื่อขยายผลลัพธ์ที่เราตั้งเป้าไว้ เรากำลังขยายธุรกิจเพื่อรองรับทีมที่ใหญ่ขึ้นซึ่งเรากำลังรับเข้ามา นอกจากนี้ ในขณะที่เรามุ่งเน้นที่รูปแบบการจัดส่งออนไลน์ที่แข็งแกร่ง เรายังสนับสนุนให้ผู้เรียนในปัจจุบันและในอนาคตมาพบเราแบบตัวต่อตัวในขณะที่ตัดสินใจเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมสำหรับตนเอง ดังนั้น การแสดงตนแบบเห็นหน้ากันทำให้เราใกล้ชิดกับผู้เรียนมากขึ้นในเส้นทางการเรียนรู้ตลอดชีวิต" กล่าวโดย Mayank Kumar ผู้ร่วมก่อตั้งและ MD ของ upGrad

ด้วย upGrad นี้ยังคงดำเนินงานจากสำนักงาน 30 แห่งในอินเดียใน 10 เมือง นอกเหนือจากนี้ สำนักงานทั่วโลกตั้งอยู่ทั่วซานฟรานซิสโก นิวยอร์ก วอชิงตัน ลอนดอน สิงคโปร์ ดูไบ จาการ์ตา เวียดนาม ซิดนีย์ เมลเบิร์น และไนโรบี ความสามารถในการจับจ่ายและการเข้าถึงเป็นกุญแจสำคัญสำหรับภารกิจของ upGrad ในการทำให้หลายล้านคนพร้อมทำงานและสร้างงานสำหรับอาชีพในอนาคต ดังนั้นการขยายตัวทางภูมิศาสตร์จะยังคงสนับสนุนการเติบโตตามแผนและตามจังหวะต่อไป

เกี่ยวกับ upGrad: upGrad เริ่มต้นในปี 2015 เป็นผู้บุกเบิกการปฏิวัติการศึกษาออนไลน์ โดยมุ่งเน้นที่การส่งเสริมความสำเร็จในอาชีพสำหรับคนทำงานทั่วโลกกว่า 1.3 พันล้านคน เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีการเรียนรู้ตลอดชีวิตแบบบูรณาการไม่กี่แห่งในโลก ที่ครอบคลุมผู้เรียนระดับวิทยาลัยไปจนถึงผู้เชี่ยวชาญที่ทำงาน ตั้งแต่กลุ่มอายุ 18-50 ปี และในหลักสูตรระดับปริญญาตรี โปรแกรมที่เชื่อมโยงกับวิทยาเขตและงาน การศึกษาในต่างประเทศ หลักสูตรระยะสั้นสำหรับผู้บริหารจนถึงระดับปริญญาอย่างปริญญาโทและปริญญาเอก พร้อมกับฐานผู้เรียน 8.2 ล้านคนใน 100+ ประเทศ และพันธมิตรของมหาวิทยาลัยกว่า 300 แห่ง และธุรกิจระดับองค์กรที่แข็งแกร่งพร้อมฐานลูกค้ากว่า 1,000 บริษัททั่วโลก

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221116005522/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Media Contact: upGrad | Neha Prasad | Asst. Manager – PR | neha.prasad@upgrad.com

แหล่งที่มา: upGrad

Hytera, Kazakhstan Temir Zholy, BT Signal ร่วมกันพัฒนาระบบสื่อสารทางรถไฟ

Logo

ASTANA, Kazakhstan–(BUSINESS WIRE)–16 พฤศจิกายน 2022

Hytera Communications (SZSE: 002583) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชันการสื่อสารระดับมืออาชีพชั้นนำระดับโลก ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ลงนามข้อตกลงกับ Temir Zholy (KTZ) ซึ่งเป็นบริษัทรถไฟแห่งชาติของคาซัคสถาน และ BT Signal LLP (BT Signal) ในการจัดตั้งศูนย์เชี่ยวชาญเพื่อร่วมพัฒนาระบบสื่อสารทางรถไฟความเร็วสูงไปสู่ ​​5G และอื่น ๆ

Left to right: Ivan Wang, Country Manager of Hytera Kazakhstan; Batyr Kotyrev, Chief Engineer of KTZ; Bayzakov B.M., Director of BT Signal (Photo: Business Wire)

Left to right: Ivan Wang, Country Manager of Hytera Kazakhstan; Batyr Kotyrev, Chief Engineer of KTZ; Bayzakov B.M., Director of BT Signal (Photo: Business Wire)

วัตถุประสงค์ของศูนย์เชี่ยวชาญคือการเร่งการพัฒนาของระบบสื่อสารทางรถไฟที่รองรับการใช้งานในอนาคตสำหรับ KTZ ศูนย์เชี่ยวชาญจะเป็นเวทีสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารทางรถไฟจาก Hytera, KTZ และ BT Signal เพื่อแลกเปลี่ยนความชำนาญและประสบการณ์ด้านเทคนิค อนุมัติแผนงานสำหรับการดำเนินโครงการ พัฒนาเอกสารด้านกฎระเบียบและทางเทคนิคที่จำเป็น และนำโปรแกรมโมดูลาร์ใหม่ไปใช้ให้เกิดประโยชน์

ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการลงนามระหว่างการสัมมนาออนไลน์ Future Railway Telecommunication in the Asia-Pacific Region (โทรคมนาคมทางรถไฟในอนาคตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) ร่วมจัดโดยสหภาพรถไฟระหว่างประเทศ (UIC) และ KTZ งานสัมมนานี้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านรถไฟกว่า 200 คนจาก 23 ประเทศ

Batyr Kotyrev หัวหน้าวิศวกรของ KTZ กล่าวในงานสัมมนาว่า KTZ วางแผนที่จะเริ่มโครงการวิจัย Prospects for Introduction New Standards of Railway Radio Communication for Railways of the Asia-Pacific region (โอกาสในการแนะนำมาตรฐานใหม่ของวิทยุสื่อสารทางรถไฟสำหรับรถไฟในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก) ในปี 2023

Song Xiaolei ผู้อำนวยการฝ่ายโซลูชันในต่างประเทศของ Hytera ได้แบ่งปันวิสัยทัศน์ของบริษัทเกี่ยวกับวิวัฒนาการบริการ FRMCS ในอนาคตของการรถไฟคาซัคสถาน ซึ่งเครือข่าย 4G/5G ของผู้ให้บริการเครือข่ายและระบบ TETRA ที่มีอยู่ของ KTZ จะถูกสร้างขึ้นภายใต้กรอบการทำงานใหม่ของข้อตกลงที่ลงนาม โซลูชันแบบบรรจบกันคือการให้บริการส่งข่าวและการสื่อสารทางรถไฟที่เป็นเอกภาพและรองรับการใช้งานในอนาคต การสำรองที่ปลอดภัย การส่งสัญญาณและควบคุมข้อมูล ตลอดจนสำรวจ และเป็นผู้นำวิวัฒนาการการสื่อสารทางรถไฟรุ่นต่อไป

Ivan Wang ผู้จัดการประจำประเทศคาซัคสถานของ Hytera แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือนี้ว่า "ศูนย์เชี่ยวชาญจะทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการเร่งการแปลง KTZ ให้เป็นดิจิทัล และเราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือนี้"

เกี่ยวกับ Hytera

Hytera Communications Corporation Limited (SZSE: 002583) เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชันการสื่อสารระดับมืออาชีพชั้นนำระดับโลก ด้วยความสามารถด้านเสียง วิดีโอ และข้อมูล เรามอบการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว ปลอดภัย และหลากหลายมากขึ้นสำหรับธุรกิจและผู้ใช้ที่มีความสำคัญต่อภารกิจ ช่วยทำให้โลกมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้นโดยเอื้อให้ลูกค้าของเราประสบความสำเร็จมากขึ้นทั้งในด้านการปฏิบัติงานประจำวันและการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ https://www.hytera.com/en/home.html

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52970667/en

ข้อมูลติดต่อ

Jia Liu
Hytera Communications Corporation Limited
jia.liu@hytera.com

แหล่งที่มา: Hytera Communications Corporation Limited

Innophos เปิดตัวเว็บไซต์ใหม่เตรียมเจาะตลาดอาหารและเครื่องดื่มในเอเชียแปซิฟิก

Logo

เว็บไซต์โฉมใหม่นี้เปรียบดั่งสถานที่จัดแสดงวัตถุดิบที่สร้างขึ้นจากสูตรเฉพาะที่พัฒนาขึ้นเพื่อปรับปรุงคุณภาพของอาหารและเครื่องดื่มโดยเฉพาะ

แครนเบอรี รัฐนิวเจอร์ซีย์–(BUSINESS WIRE)–16 พฤศจิกายน 2022

Innophos ผู้นำด้านสารละลายพิเศษสำหรับวัตถุดิบระดับโลกที่สร้างคุณูปการด้านต่าง ๆ แก่ตลาดอาหาร สุขภาพ และโภชนาการมาแล้วนักต่อนักได้ฤกษ์เปิดตัวเว็บไซต์ innophos.cn ที่สร้างขึ้นสำหรับตลาดเอเชียแปซิฟิกโดยเฉพาะ เว็บไซต์โฉมใหม่นี้สร้างขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ Innophos ได้สัมผัสมาในช่วงไม่กี่ปีให้หลังมานี้ โดยตัวเว็บไซต์มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่รองรับการทำงานแบบสองภาษาเพื่อเข้าถึงลูกค้าที่พูดทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน

Announcing our new APAC website innophos.cn (Graphic: Business Wire)

ประกาศเว็บไซต์ APAC ใหม่ของเรา innophos.cn (กราฟิก: Business Wire)

“ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านสารละลายฟอสเฟตสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม การเปิดตัว innophos.cn ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Innophos” Migue DeJong ผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มระดับโลกของ Innophos กล่าว “การดำเนินการในครั้งนี้ทำให้ผมอยากติดตามการเติบโตต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งของกลุ่มธุรกิจของเราทั้งในเอเชียและทั่วโลกอย่างใจจดใจจ่อ”

Innophos Asia Pacific ได้เปิดโรงงานผลิตในเมืองไท่ชาง มณฑลเจียงซู ประเทศจีนขึ้นเมื่อแปดปีก่อน จากนั้นมา Innophos ได้ใช้โรงงานผลิตแห่งนี้เพื่อให้บริการสารละลายแก่ลูกค้าในหลาย ๆ กลุ่มไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตอาหารข้ามชาติ ผู้ผลิตอาหารประจำภูมิภาค และผู้ผลิตอาหารในท้องถิ่นทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง ทั้งนี้ Innophos Asia Pacific ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ฟอสเฟตสำหรับอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผสมฟอสเฟต และผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารก่อภูมิแพ้อย่างครบครันเพื่อมอบเนื้อสัมผัส รสชาติ คุณค่าทางโภชนาการ และอายุการเก็บรักษาที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย

“การเติบโตทางธุรกิจของเรานั้นขับเคลื่อนจากความเข้าใจที่ครอบคลุมอย่างลึกซึ้งต่อความต้องการของลูกค้ารวมถึงกระบวนการพัฒนาของเราด้วย” Laurent Dubois ผู้จัดการทั่วไปของ Innophos Asia Pacific กล่าวเสริม “เราภูมิใจที่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภูมิภาคนี้เพื่อลูกค้าของเราด้วยห้องปฏิบัติการประยุกต์ที่มีอุปกรณ์ครบครัน สารละลายที่เราสร้างขึ้นจากสูตรเฉพาะ และความใส่ใจต่อคุณภาพและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง”

เว็บไซต์ใหม่ของ Innophos นี้มุ่งเน้นการแสดงให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้ผลิตภัณฑ์ของทางบริษัทกับอาหารและเครื่องดื่มประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเบเกอรี่ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล นม บะหมี่ และกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารจากพืช โดยสามารถเยี่ยมชมส่วนผสมเฉพาะสำหรับการพัฒนาคุณภาพอาหารและเครื่องดื่มด้วยสารละลายฟอสเฟตสำหรับวัตถุดิบรูปแบบใหม่ได้ที่ innophos.cn เว็บไซต์ใหม่ของ Innophos Asia Pacific

เกี่ยวกับ Innophos

Innophos คือผู้ผลิตสารละลายพิเศษสำหรับวัตถุดิบชั้นนำระดับสากลซึ่งสร้างประโยชน์ต่าง ๆ มากมายให้กับตลาดอาหาร สุขภาพ และโภชนาการ โดยเราใช้ความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการผสมและสร้างสรรค์สูตรวัตถุดิบที่มีส่วนผสมจากฟอสเฟต แร่ธาตุ เอนไซม์ และพืช เพื่อช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการในราคาประหยัดได้ ปัจจุบัน Innophos ดำเนินการผลิตอยู่ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา เม็กซิโก และจีน

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52969382/en

ข้อมูลติดต่อ

Carrie Livingston
อีเมล: carrie@colinkurtis.com
หมายเลขโทรศัพท์: +1 815-519-8302

แหล่งที่มา: Innophos

Medidata เปิดตัว Rave Companion ซึ่งเป็นโซลูชันที่สามารถปรับขนาดได้โซลูชันแรกสำหรับการป้อนข้อมูล EHR เข้าไปยัง Rave EDC โดยอัตโนมัติ

Logo

Rave Companion มีการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ EDC ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น สามารถลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้นับพันสำหรับการทดลองทางคลินิกและระบบการจัดการข้อมูล 

  • Rave Companion จะช่วยเพิ่มคุณภาพข้อมูลและสามารถลดค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบ โดยรับข้อมูลต้นทางจาก EHRs โดยตรงและส่งไปยัง Rave EDC โดยไม่ต้องมีการพิมพ์ ส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดที่น้อยลง
  • เป็นโซลูชันระหว่างระบบ EHR ของไซต์และโซลูชันข้อมูลด้านการดูแลสุขภาพอื่น ๆ กับ Rave EDC โดยนำบันทึกเวชระเบียนของผู้ป่วยเข้าสู่ Rave EDC โดยตรง

NEW YORK–(BUSINESS WIRE)–15 พฤศจิกายน 2022

Medidata บริษัทในเครือของ Dassault Systèmes ประกาศแผนที่จะเปิดตัว Rave Companion ซึ่งเป็นเทคโนโลยีนวัตกรรมสามารถปรับขนาดได้ และอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร ที่จะช่วยให้การทดลองทางคลินิกสามารถประหยัดเวลาและลดข้อผิดพลาดในการถ่ายโอนข้อมูล EHR (บันทึกข้อมูลสุขภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์) ไปยังระบบ Rave EDC (การบันทึกข้อมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์) Rave Companion จะสามารถรับมือกับความท้าทายในการป้อนข้อมูลซ้ำซ้อนสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีมาอย่างยาวนานได้ โดยมีการใช้งานข้อมูลทั้งแบบมีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้างจากบันทึกข้อมูลสุขภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง Rave EDC สามารถนำไปใช้ได้โดยตรงเพียงไม่กี่คลิก

“จำนวนจุดข้อมูลที่รวบรวมไว้เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองทางคลินิกมีการเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณและสำหรับไซต์ต่าง ๆ ที่มองหาโซลูชันที่สามารถปรับขนาดได้ และใช้งานง่าย เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับระบบ EHR และลดการป้อนข้อมูล” Dan Braga รองประธานฝ่ายโซลูชัน EHR และฝ่ายดูแลสุขภาพที่ Medidata กล่าว “Rave Companion เป็นโซลูชันที่สามารถช่วยในการใช้งานข้อมูลที่มีอยู่จากระบบ EHR ใด ๆ แทนที่จะเป็นการป้อนข้อมูลซ้ำ เพื่อวัตถุประสงค์ในการทดลองทางคลินิก”

Medidata ดำเนินการทดลองมากกว่า 29,000 ครั้ง โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาศาสตร์กว่า 1.5 ล้านคนทั่วโลก โดยใช้แพลตฟอร์มชั้นนำของอุตสาหกรรม Rave Companion ได้รับการออกแบบมาสำหรับฟังก์ชันการทำงานแบบนอกกรอบสำหรับข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง รวมถึงความสามารถในการผสานรวมระบบ EHR แบบขั้นสูงสำหรับไซต์ที่มีการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายของไซต์สำหรับการวิจัยของ Medidata และสามารถขยายได้อย่างรวดเร็ว Rave Companion ทำงานโดยการจำลองแผนผังของ Rave eCRF ในเครื่องมือ “companion” ที่อยู่ด้านบนของหน้าจอ และติดตามผู้ใช้ของไซต์เมื่อมีการเข้าใช้งานผ่านระบบการบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ที่ใช้ในฐานข้อมูลด้านการวิจัย

สำหรับข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง หรือสำหรับไซต์ที่ยังไม่มีการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายของ Medidata Rave Companion จะช่วยให้สามารถหยุดการดำเนินการ “ทำงานพร้อมกันในทั้งสองระบบ” และช่วยให้ Rave EDC สามารถเชื่อมต่อกับผู้ใช้ เมื่อผู้ใช้เข้าใช้งานระบบ EHR หรือระบบทางคลินิกอื่น ๆ ในการค้นหาข้อมูลผู้ป่วยที่เหมาะสม เพียงผู้ใช้คลิกที่ค่า ระบบก็จะกรอกข้อมูลเข้า eCRF ให้ แทนที่จะต้องพิมพ์ข้อมูลอีกครั้ง

ในปีหน้า Rave Companion จะมีการรวมการนำเสนอข้อมูล EHR ภายในโซลูชันโดยตรง หมายความว่าผู้ใช้จะไม่ต้องออกจากระบบ Rave EDC เพื่อกรอกข้อมูล eCRF ให้ครบถ้วน เนื่องจากสามารถดำเนินการได้ภายในระบบเดียว

Medidata จะมีการเปิดตัว Rave Companion ในงานชีววิทยาศาสตร์ชั้นนำ NEXT New York ในวันที่ 15-16 เดือนพฤศจิกายน โดยผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีการที่ Medidata จัดการความท้าทายในการป้อนข้อมูลซ้ำในหัวข้อ “การแก้ไขปัญหาความท้ายทายของการถ่ายโอนข้อมูลจาก EHR ไปยัง EDC: มุมมอง แนวทาง และเทคโนโลยีใหม่” โดยมี Gene Vinson ผู้อำนวยการบริหารของฝ่ายบริหารจัดการ Clinical Vendor Management ที่ Syneos Health และ Dan Braga และ Samir Jain ผู้อำนวยการอาวุโสของ EHR Solutions ของ Medidata เข้าร่วม

Medidata เป็นบริษัทในเครือของ Dassault Systèmes ที่มีแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE เป็นบริษัทชั้นนำในระบบการเปลี่ยนแปลงชีววิทยาศาสตร์ระบบดิจิทัลในยุคของการแพทย์เฉพาะบุคคลที่มีแพลตฟอร์มทางวิทยาศาสตร์และธุรกิจแบบครบวงจรตั้งแต่การวิจัยจนถึงเชิงพาณิชย์ระบบแรก

เกี่ยวกับ Medidata

Medidata เป็นผู้นำทางการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลสำหรับชีววิทยาศาสตร์ การสร้างความหวังให้กับผู้ป่วยหลายล้านคน Medidata จะช่วยสร้างหลักฐานและข้อมูลเชิงลึกเพื่อช่วยบริษัทด้านเภสัชกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และการวินิจฉัย รวมถึงนักวิจัยด้านวิชาการเพื่อเพิ่มมูลค่า ลูกค้าและพันธมิตรกว่า 2,000 รายสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลกสำหรับการพัฒนาทางคลินิก ช้อมูลเชิงพาณิชย์ และข้อมูลจริงได้ Medidata ซึ่งเป็นบริษัท Dassault Systèmes (Euronext Paris: FR0014003TT8, DSY.PA) มีสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์กซิตี้ และมีสำนักงานทั่วโลกเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.medidata.com และติดตามเราได้ที่ @Medidata

เกี่ยวกับ Dassault Systèmes

Dassault Systèmes บริษัทในเครือของบริษัท 3DEXPERIENCE เป็นฝ่ายพัฒนาความก้าวหน้าของมนุษย์ โดยเราได้จัดเตรียมสภาพแวดล้อมเหมือนจริงสำหรับธุรกิจและผู้คนเพื่อจินตนาการถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน ด้วยประสบการณ์เสมือนจริงในโลกแห่งความเป็นจริงในแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันของ 3DEXPERIENCE ลูกค้าของเราสามารถขยายขอบเขตการสร้างนวัตกรรม การเรียนรู้ และการผลิต เพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นสำหรับผู้ป่วย พลเมือง และผู้บริโภค Dassault Systèmes สร้างมูลค่าให้กับลูกค้ากว่า 300,000 รายในทุกขนาด ทุกอุตสาหกรรม ในกว่า 140 ประเทศ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.3ds.com

3DEXPERIENCE, ไอคอนเข็มทิศ, โลโก้ 3DS, CATIA, BIOVIA, GEOVIA, SOLIDWORKS, 3DVIA, ENOVIA, NETVIBES, MEDIDATA, CENTRIC PLM, 3DEXCITE, SIMULIA, DELMIA และ IFWE เป็นเครื่องหมายการค้าเชิงพาณิชย์หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Dassault Systèmes ซึ่งเป็น “société européenne” ในฝรั่งเศส (ทะเบียนพาณิชย์แวร์ซายส์ # B 322 306 440) หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและ/หรือประเทศอื่น ๆ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Tom Paolella
ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจการ
+1-848-203-7596
thomas.paolella@3ds.com

Paul Oestreicher
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารภายนอก
+1-917-522-4692
paul.oestreicher@3ds.com

แหล่งที่มา: Medidata

The Bangkok Reporter