GIGABYTE จัดแสดงพอร์ตโฟลิโอการประมวลผล AI ที่ครอบคลุมที่ MWC 2025 โดยเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมจากการพัฒนาไปสู่การใช้งาน

Logo

ไทเป–(BUSINESS WIRE)–02 มีนาคม 2025

GIGABYTE ผู้นำระดับโลกในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีการประมวลผล จะจัดแสดงโซลูชันการประมวลผล AI แบบเต็มสเปกตรัมที่เชื่อมโยงจากการพัฒนาไปสู่การใช้งานที่ MWC 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-6 มีนาคมนี้

GIGABYTE Showcases Comprehensive AI Computing Portfolio at MWC 2025, Leading Industry Transformation from Development to Deployment (Photo: Business Wire)

GIGABYTE จัดแสดงพอร์ตโฟลิโอการประมวลผล AI ที่ครอบคลุมที่ MWC 2025 โดยเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมจากการพัฒนาไปสู่การใช้งาน (Photo: Business Wire)

“AI+” และ “Enterprise-Reinvented” เป็นสองธีมสำหรับงานที่ MWC ในขณะที่องค์กรต่างๆ นั้นเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและการอัพเกรดอัจฉริยะ แต่การเปลี่ยนแปลงแอปพลิเคชัน AI จากการพัฒนาเชิงทดลองไปสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ของทุกคนจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในอุตสาหกรรม โดยทาง GIGABYTE ได้ดำเนินการในโครงการริเริ่ม “ACCEVOLUTION” อย่างต่อเนื่อง โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นโครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุม ซึ่งได้ครอบคลุมตั้งแต่ศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์บนคลาวด์ไปจนถึงเทอร์มินัลการประมวลผลแบบ Edge โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งการพัฒนาครั้งต่อไปและเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมในการปรับขนาดแอปพลิเคชัน AI อย่างมีประสิทธิภาพ

การพัฒนา: การประมวลผลคู่ขนานที่ปรับขนาดได้มีประสิทธิภาพสูงวางรากฐานสำหรับโมเดล AI ต่างๆ

ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของ GIGABYTE กับผู้นำในอุตสาหกรรมต่างๆ ทำให้มั่นใจได้ว่าจะเป็นแบรนด์แรกในตลาดที่นำเสนอเซิร์ฟเวอร์ AIที่หลากหลายที่สุด เพื่อตอบสนองต่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของชิป AI ทาง GIGABYTE ได้ใช้การออกแบบเซิร์ฟเวอร์ HGX เรือธง และเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ G893 AI รุ่นต่อไปเพื่อรองรับ GPU ที่ล้ำสมัย เช่น NVIDIA B200, AMD MI325X และ Intel Gaudi-3 ด้วยความจุสำหรับการ์ดเร่งความเร็วเต็มความสูง 12 ใบ และแหล่งจ่ายไฟสำรองเต็มรูปแบบ โดยเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับทั้งการทำงานของคลัสเตอร์ในศูนย์ข้อมูล และการใช้งานแบบสแตนด์อโลนขององค์กร ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอันชาญฉลาด

GIGABYTE ยังได้เปิดตัว GIGAPOD ที่เป็นโซลูชันการประมวลผลแบบคลัสเตอร์สำหรับศูนย์ข้อมูล AI บนคลาวด์ โดยนำเสนอโซลูชันที่ปรับขนาดได้แบบครบวงจรในที่เดียวสำหรับการเทรนโมเดล AI ขนาดใหญ่ โดย GIGAPOD สามารถรองรับเซิร์ฟเวอร์ G893 AI ได้ในขณะที่รวมการประมวลผลและฮาร์ดแวร์เครือข่ายไว้ในโซลูชันระดับแร็คที่สมบูรณ์ พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์เสริม โดยโซลูชันนี้ครอบคลุมบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบ การใช้งาน ไปจนถึงการตรวจสอบ เพื่อให้มั่นใจว่าการปฏิบัติงานของศูนย์ข้อมูล AI นั้นมีประสิทธิภาพ ซึ่งโมเดลที่จัดแสดงในงาน MWC สามารถรองรับ NVIDIA B200 และมีแร็คเซิร์ฟเวอร์ G4L3 พร้อมเทคโนโลยีระบายความร้อนด้วยของเหลว DLCที่แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของ GIGABYTE ในการขยายการพัฒนา AI เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

การปรับใช้งาน: เวลาแฝงต่ำ ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และโซลูชันการประมวลผล Edge ที่ยืดหยุ่นซึ่งเชื่อมต่อกับจุดหมายปลายทางสุดท้ายของ AI

เมื่อโมเดลขนาดใหญ่เติบโตขึ้น AI ก็จะพัฒนาจากการพัฒนาระบบคลาวด์ไปสู่การใช้งานและแอปพลิเคชัน Edge โดยต้องการเซิร์ฟเวอร์และโซลูชันการประมวลผลที่เน้นการใช้งานที่ยืดหยุ่นและ ROI ที่เป็นวัตถุประสงค์ทั่วไปของ GIGABYTE โดยเซิร์ฟเวอร์ซีรีย์ R จะใช้เทคโนโลยี CXL ซึ่งใช้ประโยชน์จากเลน PCIe เพื่ออยู่ร่วมกับหน่วยความจำ DDR5 ทำให้สามารถแชร์หน่วยความจำและทรัพยากร ปรับปรุงการรองรับแบนด์วิดท์ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมด้วยความต้องการพื้นที่และต้นทุนการใช้งานที่ลดลง เซิร์ฟเวอร์ซีรีส์ X นำเสนอการออกแบบโมดูลาร์ NVIDIA MGX™ ที่ช่วยให้สามารถอัพเกรดแพลตฟอร์ม GPU รุ่นถัดไปของ NVIDIA ได้อย่างราบรื่นเพียงแค่เปลี่ยนบอร์ดหลัก โดยรับประกันมูลค่าในระยะยาวสำหรับการลงทุนด้านเทคโนโลยีระดับองค์กร และอำนวยความสะดวกในการใช้งานที่ยืดหยุ่นในสถานการณ์ต่างๆ ที่ต้องใช้ AI ที่ล้ำหน้า อาทิ เมืองอัจฉริยะ และ IoT สำหรับอุตสาหกรรม

ที่งาน MWC GIGABYTE ยังจัดแสดงเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการปรับแต่ง Edge หลายตัว รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ประมวลผล Edge มาตรฐาน EIA ด้วยซีพียู AMD และ Intel และการเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์เบลด 3U ใหม่ โดยเซิร์ฟเวอร์เหล่านี้จะนำเสนอตัวเลือกการประมวลผลที่มีความหนาแน่นและสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกัน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของแอปพลิเคชัน Edge ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถลดต้นทุนการปรับใช้ AI และการใช้พลังงานได้ ในขณะเดียวกันก็ปรับปรุงประสิทธิภาพการประมวลผลให้ดียิ่งขึ้น

ด้วยความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่งและความร่วมมือในอุตสาหกรรมที่ใกล้ชิดต่างๆ ทาง GIGABYTE ได้สร้างระบบนิเวศการประมวลผล AI ที่สมบูรณ์ตั้งแต่คลาวด์ไปจนถึง Edge ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมตั้งแต่โซลูชันการประมวลผลแบบคลัสเตอร์ศูนย์ข้อมูลไปจนถึงตัวเลือกการใช้งานการประมวลผลแบบ Edge ทาง GIGABYTE จึงเป็น “ผู้เปลี่ยนเกม” ที่ช่วยให้เกิดนวัตกรรม AI ในองค์กรและสถาบันการวิจัยทุกขนาด ในขณะที่แอปพลิเคชัน AI ยังคงขยายตัว กลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ GIGABYTE ซึ่งสนับสนุนชิปคอมพิวเตอร์รุ่นล่าสุด พร้อมด้วยการพัฒนาการออกแบบฮาร์ดแวร์ การรวมซอฟต์แวร์ การจัดการระบบ และบริการการใช้งานต่างๆ ยังคงสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับอนาคตที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถปรับขนาดได้

ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.gigabyte.com/Events/MWC

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/54212481/en

Contacts

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ: Michael Pao brand@GIGABYTE.com

ที่มา: GIGABYTE



The Bangkok Reporter