Nabat บริษัทร่วมทุนด้านเทคโนโลยีสภาพอากาศแห่งใหม่ในอาบูดาบีจะใช้ AI และหุ่นยนต์เพื่อฟื้นฟูป่าชายเลนและเพิ่มความสามารถในการปรับตัวต่อสภาพอากาศ

Logo

สตาร์ทอัพใหม่จาก VentureOne ของสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (Advanced Technology Research Council/ATRC) จะใช้ AI และหุ่นยนต์อัตโนมัติเพื่ออนุรักษ์ระบบนิเวศธรรมชาติ โดยเริ่มจากป่าชายเลนและขยายไปยังแหล่งที่อยู่อาศัยอื่น ๆ

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–11 ธันวาคม 2024

VentureOne ของสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (Advanced Technology Research Council/ATRC) เปิดตัว Nabat ในงานประชุมการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนนานาชาติที่จัดขึ้นในอาบูดาบี ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนด้านเทคโนโลยีสภาพอากาศแห่งใหม่ที่จะอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนและระบบนิเวศอื่น ๆ ทั่วภูมิภาคโดยใช้ AI และหุ่นยนต์

Nabat, New Abu Dhabi Climate Tech Venture, to use AI and Robotics to Restore Mangroves and Boost Climate Resilience (Photo: AETOSWire)

Nabat บริษัทร่วมทุนด้านเทคโนโลยีสภาพอากาศแห่งใหม่ในอาบูดาบีจะใช้ AI และหุ่นยนต์เพื่อฟื้นฟูป่าชายเลนและเพิ่มความสามารถในการปรับตัวต่อสภาพอากาศ (รูปภาพ: AETOSWire)

Nabat ได้จัดแสดงเทคโนโลยีขั้นสูงของบริษัท ซึ่งรวมถึงโดรนที่ขับเคลื่อนด้วยซอร์ฟแวร์ AI และมาพร้อมกับกลไกเพาะปลูกแบบยืดหยุ่น ซึ่งจะนำไปใช้ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนหลายพันเฮกตาร์ทั่วสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในอีกเจ็ดปีข้างหน้า ป่าชายเลนนั้นจะกักเก็บคาร์บอนมากกว่าต้นไม้ในป่าฝนถึงห้าเท่า ทั้งยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบนิเวศของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเป็นส่วนสำคัญในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกอีกด้วย

“Nabat ได้แสดงให้เห็นว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติได้อย่างไร” ฯพณฯ Faisal Al Bannai เลขาธิการสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (ATRC) กล่าว “เราสามารถขับเคลื่อนความพยายามในการฟื้นฟูระบบนิเวศ เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ และเสริมสร้างความสามารถในการรับมือสภาพอากาศเพื่อเร่งเส้นทางสู่เป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซในประเทศของเราให้เป็นศูนย์ได้ด้วยการผสานนวัตกรรมเข้ากับวิทยาศาสตร์”

“ผู้คนมักมองว่าเทคโนโลยีกับธรรมชาติเป็นสองสิ่งที่ไม่ลงรอยกัน แต่เมื่อเราผสานเทคโนโลยีเข้ากับการวิจัยตามหลักวิทยาศาสตร์เพื่อแก้ปัญหาสำคัญ ๆ เทคโนโลยีก็สามารถกลายเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ทรงพลังของธรรมชาติได้” ดร. Najwa Aaraj ซีอีโอของ Technology Innovation Institute ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยประยุกต์ของ ATRC และผู้พัฒนาเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง Nabat กล่าว “ระบบของเราช่วยแก้ไขปัญหาในการอนุรักษ์ได้หลายประการ และหนึ่งในประการสำคัญก็คือการเก็บรวบรวมข้อมูล ไม่มีระบบนิเวศใดที่เหมือนกัน ดังนั้น แต่ละระบบนิเวศจึงจำเป็นต้องใช้แนวทางที่ออกแบบให้เหมาะสมกับระบบนิเวศโดยใช้ข้อมูลสนับสนุน

ระบบ AI และหุ่นยนตร์ของ Nabat ช่วยจัดทำแผนที่ หว่านเมล็ดพันธุ์ และช่วยตรวจสอบได้อย่างแม่นยำ จึงช่วยให้มั่นใจได้ว่าการอนุรักษ์และฟื้นฟูจะได้รับการออกแบบตามความต้องการเฉพาะและความซับซ้อนของระบบนิเวศแต่ละแห่ง โดยระบบของ Nabat จะแตะต้องแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งจะต่างจากการปลูกป่าชายเลนแบบดั้งเดิมที่ต้องใช้แรงงานมากและอาจทำอันตรายต่อระบบนิเวศโดยรอบได้

เทคโนโลยีของ Nabat จะช่วยมอบข้อมูลด้านดิน รวมถึงความหนาแน่น ระดับความสูง และอุทกวิทยาของแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติได้เป็นจำนวนมากในระหว่างขั้นตอนการจัดทำแผนที่ โดยกลไกหว่านเมล็ดพันธุ์ของโดรนจะใช้การวางแผนวิถีที่เหมาะสมที่สุดและรูปแบบการหว่านเมล็ดที่ยืดหยุ่นเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถหว่านเพาะเมล็ดพันธุ์ได้อย่างแม่นยำและหว่านเพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น นอกจากนี้ ระบบยังมาพร้อมความสามารถในการช่วยให้แน่ใจว่าต้นไม้ที่ปลูกจะเติบโตอย่างปลอดภัยด้วย

เทคโนโลยีของ Nabat ทำงานได้แม้ในพื้นที่ห่างไกลที่เข้าถึงได้ยาก ช่วยให้ความพยายามในการอนุรักษ์และฟื้นฟูสามารถไล่ระดับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ช่วยลดต้นทุนให้เหลือน้อยที่สุด

Reda Nidhakou รักษาการ CEO ของ VentureOne บริษัทแม่ของ Nabat กล่าวว่า “จิตวิญญาณของ VentureOne คือการเปิดตัวสตาร์ทอัพที่นำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาสู่โลก เพราะเทคโนโลยีที่มีคุณค่าที่สุดไม่เพียงแต่เป็นนวัตกรรม มีประสิทธิภาพ หรือสร้างกำไรเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องสร้างผลกระทบเชิงบวกที่สามารถวัดผลได้ด้วย ถือเป็นอภิสิทธิ์อย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับทีมงานและระบบนิเวศน์ที่กว้างขึ้นของเราในการมีส่วนสนับสนุนเส้นทางสู่ความยั่งยืนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ลักษณะพื้นฐานเช่นนี้”

แม้ว่าในช่วงแรกบริษัทจะเน้นที่ป่าชายเลนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่บริษัทก็มีแผนที่จะขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในภูมิภาคและให้บริการระบบนิเวศอื่น ๆ เพิ่มเติม รวมถึงพื้นที่ทะเลทราย พื้นที่เกษตรกรรม ป่าไม้ และแนวปะการังอีกด้วย

*แหล่งข้อมูล: AETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54165310/en

ข้อมูลติดต่อ

Audrey Fernandes
Audrey.fernandes@edelman.com

แหล่งข้อมูล: Nabat

โมดูลเข้ารหัส NVMe SSD ของ KIOXIA ผ่านการตรวจสอบ FIPS 140-3 ระดับ 2

Logo

โมดูลเข้ารหัสคอนโทรลเลอร์ SSD สำหรับองค์กรซีรีส์ KIOXIA CM7 ตรงตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยล่าสุดของโปรแกรมตรวจสอบโมดูลเข้ารหัสของ NIST

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–11 ธันวาคม 2024

Kioxia Corporation ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ ประกาศในวันนี้ว่าโมดูลเข้ารหัสที่ใช้ใน SSD สำหรับองค์กร PCIe® 5.0 NVMe™ ซีรีส์ KIOXIA CM7 ได้รับการรับรองว่าเป็นไปตามมาตรฐานการประมวลผลข้อมูลของรัฐบาลกลาง (FIPS) 140-3 ระดับ 2 สำหรับโมดูลเข้ารหัส

KIOXIA CM7 Series PCIe 5.0 NVMe Enterprise SSD (Photo: Business Wire)

KIOXIA CM7 Series PCIe 5.0 NVMe Enterprise SSD (รูปภาพ: Business Wire)

มาตรฐาน FIPS 140-3 กำหนดชุดข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของโปรแกรมตรวจสอบโมดูลเข้ารหัสที่บริหารโดยสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ (NIST) ซึ่งใช้เป็นมาตรวัดความปลอดภัยสำหรับหน่วยงานของรัฐบาลกลางในการจัดหาอุปกรณ์ไอทีที่ผ่านการตรวจสอบ บริษัทและหน่วยงานของรัฐบาลกลางอาจต้องการหรืออาจจำเป็นต้องปรับใช้มาตรฐานของรัฐบาลที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่ง SSD ที่ได้รับการรับรองตามข้อกำหนด FIPS 140-3 จะต้องเป็นไปตามนั้น เมื่อเทียบกับข้อกำหนด FIPS 140-2 ก่อนหน้านี้ ข้อกำหนด 140-3 จะให้มาตรฐานที่สูงกว่าสำหรับ SSD รวมถึงวิธีการตรวจสอบที่เข้มงวดยิ่งขึ้นและแนวทางการใช้งานที่อัปเดต

Kioxia นำเทคโนโลยี PCIe 5.0 มาสู่แอปพลิเคชันเซิร์ฟเวอร์และที่เก็บข้อมูลด้วย SSD NVMe ซีรีส์ KIOXIA CM7 ซึ่งมุ่งเป้าไปที่แอปพลิเคชันและกรณีการใช้งานขององค์กร รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ การประมวลผลประสิทธิภาพสูง ฐานข้อมูลการประมวลผลธุรกรรมออนไลน์ และคลังข้อมูล ไดรฟ์ซีรีส์ KIOXIA CM7 นำประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และความปลอดภัยระดับองค์กรมาสู่เซิร์ฟเวอร์และที่เก็บข้อมูลของศูนย์ข้อมูล คุณสมบัติหลักของ SSD ซีรีส์ KIOXIA CM7 ประกอบด้วย:

• SSD NVMe ที่เข้ากันได้กับ PCIe 5.0 ในรูปแบบ 2.5 นิ้ว(1) และ E3.S

• รองรับพอร์ตคู่และพอร์ตเดี่ยว

• ความทนทานต่อการอ่านข้อมูลจำนวนมากและการใช้งานแบบผสมผสาน

• ความจุตั้งแต่ 1.6 เทราไบต์ (TB) ถึง 30.72 TB (15.36 TB ในรูปแบบ E3.S)

• ตัวเลือกด้านความปลอดภัย ได้แก่: การลบข้อมูลทันที (SIE) (2), ไดรฟ์เข้ารหัสด้วยตนเอง TCG Opal (SED) (3) และ SED ที่ใช้โมดูล FIPS 140-3 ระดับ 2

หมายเหตุ:

(1) “2.5 นิ้ว” หมายถึงรูปแบบของ SSD ไม่ได้ระบุถึงขนาดทางกายภาพของไดรฟ์

(2) รุ่นเสริม SIE ที่รองรับ Crypto Erase ซึ่งเป็นคุณสมบัติมาตรฐานที่กำหนดโดยคณะกรรมการเทคนิค (SCSI) ของ INCITS (คณะกรรมการมาตรฐานเทคโนโลยีสารสนเทศระหว่างประเทศ)

(3) โมเดลเสริม SED รองรับ TCG Opal และ Ruby SSC แต่ไม่รองรับฟีเจอร์บางอย่างของ TCG Opal SSC

* คำจำกัดความของความจุ: Kioxia Corporation กำหนดให้เมกะไบต์ (MB) เท่ากับ 1,000,000 ไบต์ กิกะไบต์ (GB) เท่ากับ 1,000,000,000 ไบต์ และเทราไบต์ (TB) เท่ากับ 1,000,000,000,000 ไบต์ อย่างไรก็ตาม ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์จะรายงานความจุของหน่วยเก็บข้อมูลโดยใช้เลขยกกำลัง 2 สำหรับคำจำกัดความของ 1GB = 2^30 ไบต์ = 1,073,741,824 ไบต์ และ 1TB = 2^40 ไบต์ = 1,099,511,627,776 ไบต์ ดังนั้นจึงแสดงความจุของหน่วยเก็บข้อมูลที่น้อยกว่า ความจุที่จัดเก็บได้ (รวมถึงตัวอย่างไฟล์สื่อต่างๆ) จะแตกต่างกันไปตามขนาดไฟล์ การจัดรูปแบบ การตั้งค่า ซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการ และ/หรือแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า หรือเนื้อหาสื่อ ความจุที่จัดรูปแบบจริงอาจแตกต่างกันไป

* รุ่นเสริมด้านความปลอดภัยไม่มีจำหน่ายในทุกประเทศเนื่องจากข้อบังคับด้านการส่งออกและท้องถิ่น

* PCIe เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ PCI-SIG

* NVMe เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนหรือไม่ได้จดทะเบียนของ NVM Express, Inc. ในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่นๆ ทั้งหมดอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทบุคคลที่สาม

เกี่ยวกับ Kioxia

Kioxia เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ ซึ่งมุ่งมั่นในการพัฒนา ผลิต และจำหน่ายหน่วยความจำแฟลชและไดรฟ์โซลิดสเตต (SSD) ในเดือนเมษายน 2017 บริษัท Toshiba Memory ซึ่งเป็นบริษัทก่อนหน้าที่ได้แยกตัวออกมาจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND ในปี 1987 โดย Kioxia มุ่งมั่นที่จะยกระดับโลกด้วย “หน่วยความจำ” โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบที่สร้างทางเลือกให้กับลูกค้าและสร้างคุณค่าจากหน่วยความจำให้กับสังคม เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3D ที่เป็นนวัตกรรมของ Kioxia ที่เรียกว่า BiCS FLASH™ ที่กำลังกำหนดอนาคตของการจัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันที่มีความหนาแน่นสูง รวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง พีซี SSD ยานยนต์และศูนย์ข้อมูลต่างๆ

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลการติดต่อ เป็นข้อมูลที่ถูกต้องในวันที่ประกาศ แต่สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54164556/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อผู้ติดต่อ

การสอบถามข้อมูลลูกค้า:

Kioxia Group

สำนักงานขายทั่วโลก

https://www.kioxia.com/en-jp/business/buy/global-sales.html

การสอบถามข้อมูลด้าน  สื่อ:

Kioxia Corporation

ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์การขาย

Satoshi Shindo

โทรศัพท์: +81-3-6478-2404

ที่มา: Kioxia Corporation

Material ได้รับรางวัล Splash Award สําหรับผลงานดีเด่นใน Drupal Website

Logo

 ผลงานที่ยอดเยี่ยมร่วมกับ INSEAD แสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมและมีอิทธิพลอันโดดเด่นต่อโซลูชันการมีส่วนร่วมแบบดิจิทัล –

ลอสแองเจลิส–(BUSINESS WIRE)–10 ธันวาคม 2024

Material คือ บริษัทข้อมูลเชิงลึก การตลาด และเทคโนโลยีชั้นนํา มีความยินดีที่จะประกาศว่าบริษัทได้รับรางวัล Splash Award ในหมวด “การศึกษา” จากการทํางานร่วมกับ INSEAD – The Business School for the World® และรางวัลรองชนะเลิศในหมวด “องค์กร” จากการทํางานร่วมกับ Stuff Limited โดยรางวัล Splash Awards ครั้งแรกนี้ของ DrupalCon Singapore จัดขึ้นเพื่อยกย่องเว็บไซต์และประสบการณ์ดิจิทัลที่โดดเด่นที่จัดขึ้นด้วย Drupal โดยเน้นที่ความคิดสร้างสรรค์ ความเป็นเลิศทางเทคนิค และโซลูชันนวัตกรรมที่เอเจนซี่และนักพัฒนานํามาสู่อุตสาหกรรมรวมถึงความท้าทายที่หลากหลาย

สําหรับรางวัลในหมวด “การศึกษา” นั้น Material ได้ร่วมมือกับ INSEAD เพื่อยกระดับสถานะดิจิทัลโดยรวมของโรงเรียน ปรับปรุงการมีส่วนร่วมและเสริมสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ โดยปรับเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและความสําเร็จด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Drupal ล่าสุด Material ช่วยให้ INSEAD เพิ่มอัตราการแปลงและการรักษาลูกค้า ปรับปรุงการทำงานของผู้ใช้งานและการใช้งานไซต์

“การได้รับรางวัล Splash Awards แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Material ในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีล้ําสมัยและนําเสนอแนวทางแบบบูรณาการด้วยโซลูชันที่ปรับขนาดได้และสร้างผลกระทบ” Anutosh Yadav รองประธานอาวุโสและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีด้านบริการการตลาดและเทคโนโลยีกล่าว “เราภูมิใจกับการยอมรับนี้และความร่วมมือที่ยอดเยี่ยมในการร่วมกันสร้างกับลูกค้า ในขณะที่เรายังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ดิจิทัลส่วนบุคคลที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจสำหรับลูกค้าของเรา”

“เรายินดีที่ได้เห็นความร่วมมือของเรากับ Material ที่ได้รับการยอมรับ” Dov Campbell ผู้อํานวยการฝ่ายสื่อสารดิจิทัลของ INSEAD กล่าว “ที่ INSEAD เรามุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ดิจิทัลที่ราบรื่นและมีส่วนร่วมสําหรับชุมชนคณาจารย์ นักศึกษา ศิษย์เก่า และพันธมิตรต่างๆ ทั่วโลกของเรา ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูง เรายังคงกําหนดมาตรฐานใหม่ในการส่งมอบข้อเสนอด้านการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ”  

นี่เป็นปีที่สองติดต่อกันที่ Material ได้รับรางวัลจากการทํางานร่วมกับ INSEAD ในปี 2023 Material ได้รับรางวัล Acquia Engage Award ในหมวด “การบูรณาการสแต็กทางด้านเทคที่ส่งอิทธิพลมากที่สุด (Most Impactful Tech Stack Integration)” สําหรับประสบการณ์ดิจิทัลของ INSEAD ในปี 2024 Material ยังได้รับการเสนอชื่อให้เข้ารอบสุดท้ายใน CX Asia Excellence Awards จากงานด้านเทคโนโลยีประสบการณ์ลูกค้าร่วมกับ INSEAD

Material ได้รับรางวัลรองชนะเลิศในหมวด “องค์กร” ของ Splash Award โดยร่วมมือกับ Stuff Limited เพื่อส่งมอบระบบมัลติเทแนนท์ที่ทันสมัยซึ่งสามารถรองรับคำขอได้มากถึง 200 ล้านคำขอต่อวัน ช่วยปรับปรุงกระบวนการทำงานและลดต้นทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการปรับขนาด ด้วยการใช้งาน Drupal Material ได้ช่วยให้ Stuff Limited ลดต้นทุนในด้านคลาวด์และการดำเนินงานได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์

เกี่ยวกับ Material

Material เป็นพันธมิตรด้านกลยุทธ์ระดับโลกที่ผสมผสานข้อมูลเชิงลึกของมนุษย์เข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ช่วยเร่งการมีส่วนร่วมและการเติบโตให้กับแบรนด์และบริษัทนวัตกรรมให้ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก เราออกแบบ + สร้างโมเดลธุรกิจและประสบการณ์ที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและผู้คนที่พวกเขาให้บริการ เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.materialplus.io

เกี่ยวกับ DrupalCon

DrupalCon เป็นกิจกรรมชั้นนําสําหรับชุมชน Drupal ที่รวมนักพัฒนา นักออกแบบ ผู้จัดการโครงการ และผู้นําธุรกิจจากทั่วโลก การประชุมนี้จัดโดย Drupal Association เปิดโอกาสให้ทํางานร่วมกัน คิดค้น และสํารวจความก้าวหน้าล่าสุดในการพัฒนาเว็บและประสบการณ์ดิจิทัล โดยมีวิทยากรหลัก เซสชันภาคปฏิบัติ พิธีมอบรางวัล Splash Awards และกิจกรรมเครือข่าย DrupalCon ทําหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการแบ่งปันความรู้และสร้างการเชื่อมต่อที่ขับเคลื่อนแพลตฟอร์ม Drupal ไปข้างหน้า

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ผู้ติดต่อ

ผู้ติดต่อสื่อ

Casey Colesworthy, Material
casey.colesworthy@materialplus.io
208.720.0862

ที่มา: Material

เชื่อมต่อกับสิ่งที่เป็นไปได้: Belden เปิดตัวแพลตฟอร์มแบรนด์องค์กรใหม่

Logo

เอกลักษณ์ของแบรนด์องค์กรที่ได้รับการปรับปรุงใหม่นั้นสอดคล้องกับมรดกของบริษัท ในการเชื่อมโยงผู้คน ข้อมูล และแนวคิดเพื่อปลดล็อกความเป็นไปได้ที่ไม่เคยมีมาก่อน

เซนต์หลุยส์–(BUSINESS WIRE)–05 ธันวาคม 2024

Belden Inc. (NYSE: BDC) เปิดเผยเอกลักษณ์ของแบรนด์องค์กรใหม่ที่เน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงของบริษัทไปสู่ผู้ให้บริการโซลูชันเครือข่ายและโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลที่ครอบคลุม โซลูชันเหล่านี้มีบทบาทสําคัญในการจัดการกับความท้าทายด้านระบบอัตโนมัติและโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะในอุตสาหกรรมต่างๆ และช่วยให้ลูกค้าหลีกเลี่ยงการพลาดการเชื่อมต่อในเครือข่ายและข้อมูลของตน การวางตําแหน่งแบรนด์ใหม่เน้นย้ำถึงวิวัฒนาการของ Belden ผ่านการส่งข้อความใหม่ โลโก้และเอกลักษณ์ทางภาพที่ได้รับการอัปเดต และเว็บไซต์ที่ออกแบบใหม่

“การสร้างการเชื่อมต่อเป็นจุดประสงค์ของเราตั้งแต่เริ่มต้นในปี 1902” Ashish Chand ประธานและซีอีโอของ Belden กล่าว “การรีแบรนด์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการนำเสนอโซลูชันการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์ และเป็นก้าวสําคัญที่น่าตื่นเต้นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเรา”

ในโลกที่ต้องพึ่งพาข้อมูลมากขึ้น การเชื่อมต่อที่ Belden สร้างขึ้นจึงมีความสําคัญอย่างยิ่ง พวกเขาอนุญาตให้ระบบและเครือข่ายที่แตกต่างกันพูดคุยกันและผู้คนและเทคโนโลยีทํางานร่วมกันอย่างกลมกลืน การเชื่อมต่อเหล่านี้ช่วยให้ระบบและเครือข่ายที่แตกต่างกันสามารถสื่อสารถึงกันได้ และช่วยให้ผู้คนและเทคโนโลยีทำงานร่วมกันได้อย่างกลมกลืน นอกจากนี้การเชื่อมต่อยังเชื่อมโยงสิ่งที่เป็นอยู่และสิ่งที่สามารถเป็นได้ ช่วยปลดล็อกความเป็นไปได้ใหม่ ๆ และทำให้เกิดนวัตกรรมทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก

“องค์กรต่างๆ ในปัจจุบันต้องการการไหลเวียนของข้อมูลที่เชื่อถือได้และปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อให้อุปกรณ์การผลิตทำงานต่อไป การรักษาผู้ป่วย หรือการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ” Chand กล่าว “แต่ความเสี่ยงจากการสูญเสียสัญญาณไปจนถึงภัยคุกคามด้านความปลอดภัยสามารถขัดขวางการไหลเวียนนี้ได้ และการเชื่อมต่อที่ขาดหายไปอาจทําให้องค์กรเสียเงิน เวลา ผลิตภาพ และโอกาส ที่ Belden เราสร้างการเชื่อมต่อที่ช่วยขับเคลื่อนข้อมูล เพื่อให้มีอนาคตที่ปลอดภัย ชาญฉลาดกว่า และเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น”

การอัปเดตแพลตฟอร์มแบรนด์องค์กรของ Belden ถือเป็นกระบวนการที่ครอบคลุม ผู้เข้าร่วมเกือบ 500 คนจากทั่วโลก ซึ่งเป็นทั้งพนักงาน พันธมิตร และลูกค้าของ Belden ให้ข้อมูลที่จําเป็นต่อการกําหนดวัตถุประสงค์และวิสัยทัศน์ที่ทันสมัยของ Belden สัมผัสเอกลักษณ์ของแบรนด์องค์กรใหม่ของ Belden ผ่าน  วิดีโอ นี้  และเข้าไปที่ belden.com

เกี่ยวกับ Belden

Belden Inc. นําเสนอโซลูชันการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์แบบซึ่งปลดล็อกความเป็นไปได้ที่ไม่เคยมีมาก่อนสําหรับลูกค้าของเรา ลูกค้าของพวกเขาและโลก เราพัฒนาแนวคิดและเทคโนโลยีที่ช่วยให้มีอนาคตปลอดภัย ชาญฉลาด และเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น ตลอดประวัติศาสตร์กว่า 120 ปีของเรา เราได้พัฒนาในฐานะบริษัท แต่เป้าหมายของเรายังคงอยู่ นั่นคือการสร้างการเชื่อมต่อ เราทำให้สิ่งนี้เป็นไปได้ด้วยการเชื่อมต่อผู้คน ข้อมูล และแนวคิดเข้าด้วยกัน เรามีสํานักงานใหญ่ในเซนต์หลุยส์ และมีศักยภาพในการผลิตในอเมริกาเหนือ ยุโรป เอเชีย และแอฟริกา สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมเราได้ที่ www.belden.com ติดตามเราได้ที่ Facebook, LinkedIn และ X/Twitter

Belden และโลโก้ Belden เป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Belden Inc. หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและเขตอํานาจศาลอื่นๆ Belden และบุคคลอื่น ๆ อาจมีสิทธิ์ในเครื่องหมายการค้าในข้อกําหนดอื่นที่ใช้ในที่นี้

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:

Holly Keller

ผู้อํานวยการฝ่ายสื่อสารการตลาดองค์กร

+1.317.764.4042
holly.keller@belden.com

ที่มา: Belden Inc.

Kalyra ยกระดับประสบการณ์ด้านการดูแลผู้สูงอายุด้วยการผสานการทำงานกับ Boomi

Logo

Boomi ช่วยให้ผู้ให้บริการสำหรับผู้สูงอายุปรับปรุงบริการดิจิทัล ยกระดับการดูแลผู้ป่วย และทำให้ผู้ปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ

 ซิดนีย์–(BUSINESS WIRE)–04 ธันวาคม 2024

Boomi™ ซึ่งเป็นผู้นำด้านการผสานการทำงานและระบบอัตโนมัติแบบอัจฉริยะได้ประกาศ ณ วันนี้ว่า Kalyra มีการใช้ Boomi Enterprise Platform เพื่อปรับปรุงการดูแลลูกค้าด้วยข้อมูล เปิดตัวบริการดิจิทัลใหม่ๆ และเร่งการเตรียมความพร้อมของพนักงานและขับเคลื่อนประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้าในวงกว้าง

(Graphic: Business Wire)

(กราฟิก: Business Wire)

การดำเนินงานมานานกว่า 130 ปีของ Kalyra ได้สั่งสมชื่อเสียงในการส่งมอบคุณค่าให้กับชุมชนในออสเตรเลียใต้ด้วยบริการดูแลผู้สูงอายุที่ครบถ้วน ตั้งแต่การดูแลในบ้านพักคนชรา การดูแลที่บ้าน การใช้ชีวิตหลังเกษียณ และการใช้ชีวิตที่ประหยัด โดยเมื่อไม่นานนี้ Kalyra ได้เริ่มต้นเส้นทางสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่ยากยิ่งเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและเร่งทรัพยากรบุคคลโดยเชื่อมโยงระบบที่แยกส่วนและรวมศูนย์ข้อมูลสำหรับลูกค้าและพนักงาน “ความถูกต้องแม่นยำเป็นสิ่งที่ต้องมีความสมบูรณ์แบบสำหรับการดูแลผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาส และสิ่งนี้เริ่มต้นด้วยระบบดิจิทัลที่รองรับพนักงานฝ่ายดูแลของเรา” Nicole Fishers ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายข้อมูลและบริการดิจิทัลของ Kalyra กล่าวว่า “แต่เห็นได้ชัดว่าประวัติศาสตร์อันยาวนานของเรา นอกเหนือจากการขยายธุรกิจเมื่อไม่นานนี้

ได้สร้างความยากลำบากต่อระบบนิเวศดิจิทัลของเราด้วยข้อมูลลูกค้าที่ซ้ำซ้อนและความไม่สอดคล้องกันที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป ทำให้ลูกค้าของเราได้รับการดูแลช้าลง เราได้หันมาใช้ Boomi เพื่อไม่ให้ข้อมูลกระจุกอยู่ที่เดียว และปูทางไปสู่บริการสนับสนุนดิจิทัลยุคใหม่ของเรา”

Kalyra นำแพลตฟอร์มการรวมระบบในรูปแบบบริการ (iPaaS) ของ Boomi มาใช้เพื่อเชื่อมต่อระบบธุรกิจหลักผ่านรูปแบบฮับแอนด์สโป๊ก รวมถึง Elmo (ทรัพยากรบุคคล), AlayaCare (ระบบดูแลที่บ้าน), iCare (ระบบดูแลที่พักอาศัย), CarePage (ระบบประสบการณ์ลูกค้า) และ My Kalyra (แอปมือถือ)

ด้วยระบบข้อมูลการปฏิบัติงานที่ป้อนเข้าสู่แอป My Kalyra ทำให้องค์กรได้เปิดตัวบริการสนับสนุนดิจิทัลตามความต้องการสำหรับครอบครัว ซึ่งขณะนี้สามารถเข้าถึงการอัปเดตบริการแบบเรียลไทม์ได้ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ความสามารถในการปรับตารางการดูแลแบบทันที และมีความโปร่งใสเกี่ยวกับข้อมูลทางการเงิน

Fishers กล่าวว่า “เราได้สร้างบันทึกข้อมูลอันล้ำค่าที่รับรองว่าทุกอย่างในแอปที่ติดต่อกับลูกค้าและระบบภายในของเรานั้นถูกต้องและเป็นแบบเรียลไทม์” พร้อมเสริมว่า “เจ้าหน้าที่ดูแลของเราไม่ต้องเสียเวลาไปกับการตามหาข้อมูลที่หายไปหรือล้าสมัยอีกแล้ว เพราะคุณสามารถเข้าถึงทุกอย่างที่ต้องการได้ทันที นับเป็นก้าวย่างที่สำคัญทั้งในด้านประสิทธิภาพและความพึงพอใจของลูกค้า”

Kalyra ได้ใช้ Boomi DataHub เพื่อนำเสนอบันทึกข้อมูลอันล้ำค่าพร้อมประโยชน์ต่างๆ ที่จะขยายไปสู่การบริหารจัดการกำลังคนขององค์กรอีกด้วย

Fishers กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ การฝึกอบรมพนักงานใหม่มักประสบปัญหาจากกระบวนการที่ต้องทำด้วยตนเองที่ไม่ต่อเนื่อง ทำให้ยากต่อการติดตามพนักงานใหม่และคุณสมบัติของบุคลากรที่ผ่านการฝึกอบรม โดยการรวมศูนย์ข้อมูลทรัพยากรจะช่วยลดความซ้ำซ้อนและข้อผิดพลาดในการป้อนข้อมูล ส่งผลให้การฝึกอบรมพนักงานใหม่เร็วขึ้นและช่วยเหลือพนักงานได้ดีขึ้น ซึ่งช่วยสนับสนุนความสามารถของ Kalyra ในการดูแลพนักงานอย่างสม่ำเสมอและมีคุณภาพสูง”

ตามที่ Fishers กล่าว สภาพแวดล้อมที่เชื่อมต่อกับ Boomi ยังทำให้ความพยายามในการรายงานและการกำกับดูแลของ Kalyra มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยกรอบข้อมูลที่สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติตามข้อกำหนดและข้อบังคับได้อย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำยิ่งขึ้น

เมื่อมองไปในอนาคต Kalyra กำลังเตรียมพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากความสามารถของแพลตฟอร์ม Boomi Enterprise มากยิ่งขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์จากศักยภาพที่เพิ่มมากขึ้นของ AI และหุ่นยนต์ในการปรับปรุงบริการด้านสุขภาพ

Fishers กล่าวต่อว่า “นวัตกรรมประเภทนี้มีความสามารถในการทำให้กระบวนการดูแลผู้ป่วยในสถานดูแลผู้ป่วยสามารถทำงานได้ด้วยระบบอัตโนมัติ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถมุ่งเน้นไปที่การโต้ตอบกับผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น โดยในขณะที่เรายังคงคิดค้นและพัฒนาบริการของเราต่อไป ซึ่ง Boomi ก็เป็นศูนย์กลางของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ โดยช่วยให้เราสร้างสภาพแวดล้อมข้อมูลที่สอดคล้องประสานงานกันและทำงานด้วยระบบอัตโนมัติเพื่อประสบการณ์การดูแลที่เป็นส่วนตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

David Irecki ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี APJ ของ Boomi กล่าวว่า “ตั้งแต่แรกเริ่ม งานของเรากับ Kalyra เน้นไปที่การขับเคลื่อนประสิทธิภาพโดยไม่สูญเสียความรู้สึกของการสัมผัสแบบมนุษย์ การทำให้กระบวนการหลักของ Kalyra เป็นอัตโนมัติและผสานเข้าด้วยกัน ทำให้พนักงานขององค์กรสามารถมุ่งเน้นไปที่การให้การดูแลเอาใจใส่ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าไว้วางใจได้มากขึ้น”

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi ผู้นำด้านการผสานการทำงานและการทำงานอัตโนมัติอัจฉริยะ ช่วยให้องค์กรต่างๆ ทั่วโลกสามารถทำงานอัตโนมัติและปรับกระบวนการที่สำคัญให้เหมาะสมเพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ทางธุรกิจได้เร็วขึ้น แพลตฟอร์ม Boomi Enterprise ใช้ประโยชน์จากความสามารถของ AI ระดับสูง จึงสามารถเชื่อมต่อระบบและจัดการการเข้า-ออกของข้อมูลได้อย่างราบรื่นด้วยการจัดการ API, การบูรณาการ, การจัดการข้อมูล, และการประสานงาน AI ในโซลูชันที่ครอบคลุมเพียงหนึ่งเดียว ด้วยฐานลูกค้ามากกว่า 20,000 บริษัททั่วโลกและเครือข่ายพันธมิตรมากกว่า 800 รายที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว Boomi กำลังปฏิวัติวิธีที่องค์กรทุกขนาดจะประสบความสำเร็จในการเพิ่มความคล่องตัวทางธุรกิจและความเป็นเลิศในการดำเนินงาน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ boomi.com.

© 2024 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ “B” และ Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทจัดเก็บข้อมูลหรือบริษัทลิขสิทธิ์ ลิขสิทธิ์ชื่อหรือเครื่องหมายอื่นๆ เครื่องหมายการค้าของเจ้าของเครื่องหมายการค้า

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54157508/en

ข้อมูลติดต่อ

สื่อ:
Jasmine Ee
Head of Influencer Relations, APJ
jasmine.ee@boomi.com

แหล่งข้อมูล: Boomi

อุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชแบบในตัว UFS เวอร์ชัน 4.0 สำหรับแอปพลิเคชันในรถยนต์จาก KIOXIA ได้รับการรับรอง Automotive SPICE CL2

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–04 ธันวาคม 2024

Kioxia Corporation คือบริษัทผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำ ได้มีประกาศแถลงการณ์ในวันนี้ว่าอุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชแบบในตัว Universal Flash Storage1 (UFS) เวอร์ชัน 4.0 ที่ออกแบบมาสำหรับแอปพลิเคชันในรถยนต์นั้นได้รับการรับรองความสามารถระดับ 2 (CL2) จาก Automotive SPICE® (ASPICE) โดย Kioxia เป็นบริษัทแรก2 ที่ได้รับรางวัลนี้สำหรับการรับรอง UFS เวอร์ชัน 4.0 สำหรับเกรดยานยนต์

Kioxia: Automotive UFS Ver. 4.0 Embedded Flash Memory Device (Photo: Business Wire)

Kioxia: อุปกรณ์หน่วยความจำแฟลชแบบในตัว Automotive UFS เวอร์ชัน 4.0 (รูปภาพ: Business Wire)

Automotive SPICE (Software Process Improvement and Capability dEtermination) ซึ่งอิงตามมาตรฐานซีรีส์ ISO/IEC 33000 นั้นเป็นกรอบการทำงานที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติในแง่ของการประเมินและปรับปรุงกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ การได้รับการรับรอง ASPICE CL2 นั้นแสดงให้เห็นว่า Kioxia มีการนำกระบวนการที่มีโครงสร้างสำหรับการจัดการโครงการและการพัฒนาซอฟต์แวร์มาใช้ ซึ่งเชื่อมั่นได้ถึงคุณภาพและความสามารถในการติดตามตรวจสอบที่สม่ำเสมอ การรับรองนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถของ Kioxia ในการปฏิบัติตามมาตรฐานการพัฒนาซอฟต์แวร์และคุณภาพที่เข้มงวดซึ่งผู้ผลิตยานยนต์และซัพพลายเออร์ระดับ 1 ต้องการในอุปกรณ์ UFS เวอร์ชัน 4.0 เกรดยานยนต์ ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพให้กับความเป็นผู้นำในตลาดหน่วยความจำแบบในตัวสำหรับแอปพลิเคชันในรถยนต์

UFS Ver. 4.0 ได้เพิ่มคุณสมบัติและฟังก์ชันการทำงานระดับสูงใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของแอปพลิเคชันในยานยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยอุปกรณ์ UFS ประสิทธิภาพสูงของ Kioxia นั้นมีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลแบบฝังตัวที่รวดเร็วในขนาดที่เล็ก และมุ่งเป้าไปที่แอปพลิเคชันในรถยนต์ยุคใหม่ที่หลากหลาย เช่น อินโฟเทนเมนต์, ระบบห้องโดยสารแบบบูรณาการ, ADAS3 และการขับขี่ด้วยระบบอัตโนมัติ โดยประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ UFS ที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุง4 จาก Kioxia ทำให้แอปพลิเคชันเหล่านี้สามารถใช้ประโยชน์จากข้อดีของการเชื่อมต่อ 5G ได้ ทำให้ระบบเริ่มทำงานได้เร็วขึ้นและผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น

หมุดหมายเหตุการณ์สำคัญเหล่านี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Kioxia ในการบรรลุผลด้านการรับรองที่เป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรม ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทในการรักษาคุณภาพ มาตรฐานความปลอดภัย และนวัตกรรมมาตรฐานสูงสุดตลอดการดำเนินงาน

หมายเหตุ:
(1) Universal Flash Storage (UFS) เป็นหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์สำหรับผลิตภัณฑ์หน่วยความจำฝังตัวประเภทหนึ่งที่สร้างขึ้นตามมาตรฐาน JEDEC UFS เนื่องจากมีอินเทอร์เฟซแบบอนุกรม UFS จึงรองรับการทำงานแบบดูเพล็กซ์เต็มรูปแบบ ซึ่งช่วยให้สามารถอ่านและเขียนข้อมูลพร้อมกันระหว่างโปรเซสเซอร์โฮสต์และอุปกรณ์ UFS ได้
(2) ผลการสำรวจ ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2024
(3) ระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง
(4) เมื่อเมื่อเทียบกับอุปกรณ์รุ่นก่อนหน้า

* Automotive SPICE® เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Verband der Automobilindustrie e.V. (VDA)
ชื่อบริษัทอื่น ๆ ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทบุคคลที่สาม

เกี่ยวกับ Kioxia
Kioxia คือผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันหน่วยความจำที่มุ่งมั่นในการพัฒนา ผลิต และจำหน่ายหน่วยความจำแฟลชและโซลิดสเตตไดรฟ์ (SSD) ในเดือนเมษายน 2017 บริษัท Toshiba Memory ซึ่งเป็นบริษัทก่อนหน้าได้แยกตัวออกมาจาก Toshiba Corporation ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นหน่วยความจำแฟลช NAND ในปี 1987 Kioxia มุ่งมั่นที่จะยกระดับโลกด้วย “หน่วยความจำ” โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และระบบที่สร้างทางเลือกให้กับลูกค้าและสร้างคุณค่าจากหน่วยความจำสำหรับสังคม เทคโนโลยีหน่วยความจำแฟลช 3D ที่เป็นนวัตกรรมของ Kioxia ที่เรียกว่า BiCS FLASH™ กำลังกำหนดอนาคตของการจัดเก็บข้อมูลในแอปพลิเคชันความหนาแน่นสูง รวมถึงสมาร์ทโฟนขั้นสูง พีซี SSD ยานยนต์และศูนย์ข้อมูล

*ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาของบริการ และข้อมูลการติดต่อ เป็นข้อมูลที่ถูกต้องในวันที่ประกาศ แต่สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/54160725/en

ข้อมูลติดต่อ

การสอบถามข้อมูลสำหรับลูกค้า:
Kioxia Corporation
Global Sales Offices
https://www.kioxia.com/en-jp/business/buy/global-sales.html

การสอบถามข้อมูลสื่อ:
Kioxia Corporation
Sales Strategic Planning Division
Satoshi Shindo
Tel: +81-3-6478-2404

แหล่งข้อมูล: Kioxia Corporation

.

น้ำมันเครื่องสูตรเพื่อการแข่งขันที่สกัดจากพืช พร้อมประสิทธิภาพที่ได้รับการพิสูจน์ในการแข่งขัน “IDEMITSU IFG Plantech Racing” เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคมเป็นต้นไปผ่านร้านจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นออนไลน์อย่างเป็นทางการของเรา

Logo

โตเกียว –(BUSINESS WIRE)–03 ธันวาคม 2024

บริษัท อิเดมิตสึ โคซัน จำกัด (สำนักงานใหญ่อยู่ที่เขตโยชิดะ โตเกียว กรรมการผู้จัดการใหญ่คือคุณชุนอิจิ คิโตะ โดยต่อจากกนี้จะเรียกว่า “บริษัท”) จะเริ่มวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องสำหรับรถยนต์ “IDEMITSU IFG Plantech Racing” (ค่าความหนืด: 0W-20, 4Litter/1Litter) ผ่านร้านจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นออนไลน์อย่างเป็นทางการของบริษัท (https://global.idemitsu-nano-tailored-oil.com) ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคมเป็นต้นไปสำหรับลูกค้าในประเทศไทย ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย*1

”IDEMITSU IFG Plantech Racing” (Photo: Business Wire)

”IDEMITSU IFG Plantech Racing” (รูปภาพ: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์นี้เป็นน้ำมันเครื่องสำหรับการแข่งขันรุ่นแรกของโลก*2 ที่ใช้พืชเป็นวัตถุดิบมากกว่า 80% ของน้ำมันพื้นฐาน และมีคุณสมบัติทั้งในด้านประสิทธิภาพเพื่อการแข่งขันและได้รับการรับรองมาตรฐานน้ำมันเครื่องจาก API SP

“IDEMITSU IFG Plantech Racing” แสดงให้เห็นถึงตัวตนของแบรนด์ผ่านถ้อยแถลงที่ว่า “The Heart of Technology (หัวใจแห่งเทคโนโลยี)”*3 และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโลโลยีของเราจนถึงขีดสุดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมาก โดยเทคโนโลยีการผสมสูตรเฉพาะของเรานั้นผสานโมลิบดีนัม ซึ่งช่วยลดการสูญเสียพลังงานที่เกิดจากความต้านทานแรงเสียดทาน เข้ากับเอสเทอร์จากพืชที่มีความหนืดสูงที่ทำให้ชั้นฟิล์มน้ำมันหนาขึ้นและทำให้ประสิทธิภาพในการปกป้องสูงขึ้น ในน้ำมันพื้นฐานจากพืชที่ยากต่อการผสม โดยเทคโนโลยี “Molybdenum Ester” ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเรานั้นทำให้เราประสบความสำเร็จในการบรรลุถึงประสิทธิภาพที่เหมาะกับการใช้งานในสภาวะของการแข่งขัน ซึ่งมีการนำมาใช้ใน “MAZDA SPIRIT RACING ROADSTER CNF ” ซึ่งเข้าร่วมการแข่งขันใน SUZUKA Super Taikyu Endurance Race ที่จัดขึ้นเมื่อปลายเดือนกันยายนของปีนี้ด้วย *4

สำหรับรถที่คุณรักแล้ว เราอยากแนะนำให้คุณลองใช้น้ำมันประสิทธิภาพสูงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมาพร้อมกับคุณภาพระดับสูงนี้ *5

ตั้งแต่ที่เราก่อตั้งบริษัทขึ้นมาในปี 1911 เรามุ่งมั่นในการผลิตน้ำมันหล่อลื่นสูตรที่เหมาะกับการใช้งานทุกรูปแบบและมีประสิทธิภาพสูง พร้อมทั้งได้ปรับปรุงความสามารถทางเทคโนโลยีให้ดีขึ้น โดยเราจะยังคงใช้จุดแข็งด้านเทคโนโลยีที่ไม่เหมือนใครของเราเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีแต่เราเท่านั้นที่สามารถทำได้ เพื่อมอบสุนทรียภาพให้กับผู้รักการขับขี่

*1 การวางจำหน่ายในประเทศจีน อินเดีย อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา บราซิล เม็กซิโก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประเทศอื่นๆ จะประกาศให้ทราบทันทีเมื่อมีการวางจำหน่ายในแต่ละประเทศ โดยสามารถซื้อได้จากญี่ปุ่นผ่านเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซในต่างประเทศ
*2 ผลการสำรวจตลาด “น้ำมันเครื่อง” ซึ่งดำเนินการสำรวจตั้งแต่เดือนธันวาคม 2023 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2024 พบว่านี่คือน้ำมันเครื่องสำหรับยานยนต์สี่ล้อรุ่นแรกของโลกที่มีการรับรองจาก API รวมถึงน้ำมันจากพืช และประสิทธิภาพในการแข่งขัน โดยผลการสำรวจนั้นจัดทำโดย Trending Future Research Institute Inc. โปรดดูรายละเอียดได้ที่ข่าวประชาสัมพันธ์ด้านล่างนี้
Development of “IDEMITSU IFG Plantech Racing,” the world’s first API-certified engine oil with racing performance made from more than 80% plant-based raw materials (August 7, 2024).
*3 ถ้อยแถลงของแบรนด์น้ำมันหล่อลื่นของเราที่ว่า “The Heart of Technology (หัวใจแห่งเทคโนโลยี)” นั้นเป็นการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นของเราในการทำให้โลกเป็นพื้นที่แห่งความสะดวกสบายที่มากขึ้นอย่างแท้จริงผ่านเทคโนโลยี
วิดีโอแสดงถ้อยแถลงของแบรนด์: https://www.idemitsu.com/en/business/lube/brandstory/index.html
*4 กรุณาดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ข่าวประชาสัมพันธ์ด้านล่างนี้
“IDEMITSU IFG Plantech Racing,” the world's first engine oil with racing performance and API certification using plant derived raw materials, was adopted for use in the “MAZDA SPIRIT RACING ROADSTER CNF concept” racing car that competed in the “SUZUKA S Endurance Race” and completed the course. (October 16, 2024).
*5 เหมาะสำหรับรถยนต์ที่สามารถใช้ SP 0W-20 ได้ ตามที่มีการแนะนำในคู่มือเจ้าของรถ

[ข้อมูลเพื่อการอ้างอิง]
เกี่ยวกับ “IDEMITSU IFG/IRG Series”

“IDEMITSU IFG/IRG Series” เป็นชุดผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ โดยมีสูตรที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์
กรุณาดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
https://www.idemitsu-nano-tailored-oil.com/

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54159720/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

ติดต่อสอบถามข้อมูลในหัวข้อนี้
ติดต่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ IDEMITSU IFG Plantech Racing
idemitsu-plantech-racing@idemitsu.com

หากต้องการสอบถามข้อมูลสื่อ กรุณาติดต่อ
ส่วนงานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Idemitsu Kosan Co., Ltd.
https://www.idemitsu.com/en/contact/flow/index.html

แหล่งที่มา: Idemitsu Kosan Co., Ltd.

.


NIQ เผยรายงาน CMO OUTLOOK ประจำปี 2025

Logo

รายงานเผยว่า GenAI  ที่เป็นเครื่องมือวัดผลทางการตลาดขั้นสูงและความร่วมมือที่ทำงานได้ราบรื่นขึ้นระหว่างฝ่ายไอที วิทยาศาสตร์ข้อมูลและการตลาด ซึ่งกำลังขับเคลื่อนการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงในปี 2025

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–03 ธันวาคม 2024

NIQ บริษัทชั้นนำด้านข้อมูลเชิงลึกผู้บริโภคระดับโลก ได้เปิดตัวรายงาน CMO Outlook ฉบับล่าสุด เน้นย้ำถึงลำดับความสำคัญและความกังวลที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้นำด้านการตลาดทั่วโลก รายงานในปีนี้สำรวจวิธีที่นักการตลาดปรับตัวรับทั้งความท้าทายและตัวช่วยในแผนกลยุทธ์สำหรับปี 2025 รวมถึงยุคใหม่ของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการตลาด

ผู้บริโภคยังคงเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในด้านอาหารและค่าสาธารณูปโภค ประกอบกับความเสี่ยงของเศรษฐกิจที่อาจถดถอย ส่งผลให้เกิดรูปแบบการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้นในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (CPG) และการค้าปลีก ในขณะเดียวกัน AI มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อกลยุทธ์การตลาดระยะยาว เช่น กิจกรรมส่งเสริมการขายและการสร้างแบรนด์ เนื่องจากผู้บริโภคยังคงมองหาความคุ้มค่าและการประหยัดอยู่ แม้จะมีความท้าทายทางเศรษฐกิจเหล่านี้ แต่โอกาสสำหรับการเติบโตทางการตลาดยังคงมีอยู่

รายงานระบุว่าผู้นำด้านการตลาดยังคงมองในแง่ดีในอนาคต โดย 78% คาดว่าจะอยู่ในสถานะที่ดีขึ้นในอีกสามปีข้างหน้า ท่ามกลางสภาพแวดล้อมปัจจุบัน กว่า 56% ยังคงมองว่าการตลาดเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายยอดขายในทันที (ลดลงจาก 64% ในปี 2023) ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่การสร้างแบรนด์ในระยะยาว แม้ว่าผู้นำการตลาด 60% จะมองว่าการชี้แจงความจำเป็นในการลงทุนด้านการตลาดเป็นเรื่องง่าย (ลดลงจาก 65% ในปี 2023) แต่ความเชื่อมั่นของ CEO และ CFO ต่อคุณค่าระยะยาวของการลงทุนในแบรนด์กลับเพิ่มขึ้น (44% ในปี 2024 เทียบกับ 41% ในปี 2023) นักการตลาดยังหันมาใช้ AI เป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาหลัก ซึ่งบ่งชี้ว่า AI กำลังจะเข้ามาปรับเปลี่ยนวิธีการรับมือกับภูมิทัศน์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในอนาคต

Marta Cyhan-Bowles ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารและหัวหน้าฝ่ายการตลาดระดับโลกของ NIQ กล่าวถึงผลการศึกษาว่า “อนาคตของการตลาดจะขับเคลื่อนด้วย AI แม้กลยุทธ์อื่นๆ ของ CMO จะยังคงเสถียรในปี 2024 แต่ Generative AI (GenAI) กำลังสร้างการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ และกำลังกลายเป็นองค์ประกอบหลักในกลยุทธ์การตลาดเพื่อเร่งการเติบโต AI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในทุกด้านที่เราดูแล ตั้งแต่การสื่อสารกับลูกค้า การสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการเจาะลึกข้อมูลเชิงลึกในโปรเจคต่างๆ และการเปิดโอกาสใหม่ๆ

แนวโน้มสำคัญที่ขับเคลื่อนการตัดสินใจด้านการตลาดในปี 2025:

  • ฟังก์ชันการตลาดใช้ AI มากขึ้นเรื่อยๆ: นักการตลาดระดับสูงกำลังทำให้ GenAI เป็นศูนย์กลางของกลยุทธ์ โดย 72% ใช้สำหรับการสร้างเนื้อหาและความคิดสร้างสรรค์ 67% ใช้ในการวัดสุขภาพของแบรนด์ 65% ใช้สำหรับการวางแผนและปรับปรุงสื่อ และ 30% ใช้สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ GenAI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกฟังก์ชันการตลาด รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ลูกค้าอีกด้วย
  • AI จะกระตุ้นความมั่นใจในการใช้ข้อมูล: ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลกำลังกลายเป็นความได้เปรียบทางการแข่งขันสำหรับนักการตลาด โดยการใช้งาน AI เป็นแรงขับเคลื่อนความมั่นใจนี้ นักการตลาดส่วนใหญ่ (81%) พึ่งพาข้อมูลเพื่อติดตามผลการดำเนินงาน และมากกว่าครึ่ง (60%) ขององค์กรที่ใช้ข้อมูลเป็นหลักมีความมั่นใจอย่างมากในความสามารถด้านการวิเคราะห์ข้อมูลของตน แม้จะมีแนวโน้มเชิงบวกนี้ แต่ 31% ของนักการตลาดระดับสูงยังคงประสบปัญหาในการเชื่อมโยงข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นของเครื่องมือ AI ขั้นสูง AI ยังคงมีบทบาทสำคัญในการสร้างข้อมูลเชิงลึกที่นำไปปฏิบัติได้ พร้อมนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาเพื่อทำให้การวัดผลการตลาดมีความแม่นยำและคุ้มค่ามากขึ้น
  • การปรับปรุงในสุขภาพของฟังก์ชันการตลาด: ดัชนี CMO Outlook ซึ่งติดตามมิติหลักขององค์กรที่มุ่งเน้นการตลาด ได้ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยในปี 2024 ความ 'สุขภาพ' โดยรวมของการตลาดก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะในยุโรป ซึ่งมีการเพิ่มขึ้นสี่คะแนนในความรู้สึกที่เกิดจากการปรับปรุงการประสานงานกับผู้บริหารระดับสูง AI กำลังก้าวไปข้างหน้าในการเปลี่ยนแปลงนี้ และกำลังถูกใช้ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมการตลาดและกลยุทธ์ทางธุรกิจ
  • AI จะกำจัดช่องว่างระหว่างลูกค้ากับธุรกิจโดยการเพิ่มความเข้าใจในความชอบของผู้บริโภค: AI ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นผู้บริโภคในระยะยาว BASES Ad Explorer ของ NIQ ช่วยนักการตลาดในการปรับปรุงมูลค่าของแบรนด์และให้ข้อมูลเชิงลึกที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความชอบของผู้บริโภค โดยการใช้ AI นักการตลาดสามารถให้ความสำคัญกับข้อมูลเชิงลึกด้านความคิดสร้างสรรค์ ทดสอบโฆษณาหลายเวอร์ชัน และทำงานให้เสร็จตามกำหนดโดยไม่ลดทอนคุณภาพ
  • นักการตลาดจะให้ความสำคัญกับความร่วมมือข้ามแผนก: นักการตลาดกำลังใช้ภาษาของ CFO เพื่อดึงดูดการลงทุนและร่วมงานกับ CTO เพื่อใช้ศักยภาพของ AI ให้สูงสุด ในปีใหม่จะเห็นความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างการตลาด นักวิเคราะห์ข้อมูล และผู้นำธุรกิจ เพื่อทำลายข้อจำกัดของข้อมูลและรวมแหล่งข้อมูลที่หลากหลายเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปปฏิบัติได้มากขึ้น

ทำไมแนวโน้มเหล่านี้จึงสำคัญในปี 2025

รายงาน CMO Outlook เน้นย้ำถึงอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของ AI ในด้านการตลาด เพื่อช่วย CMO ในการวางแผนปี 2025 รายงานเผยให้เห็นถึงลำดับความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของนักการตลาดอาวุโส และวิธีที่พวกเขาสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ AI และเครื่องมือข้อมูลเพื่อนำทางภูมิทัศน์ที่ซับซ้อนข้างหน้า หัวข้อต่างๆ ได้แก่:

  • ความสำคัญและโอกาสด้านการตลาดในปี 2025
  • ศักยภาพและผลกระทบของ AI ต่อการตลาด
  • การสร้างความไว้วางใจใน AI สำหรับกลยุทธ์การตลาดในอนาคต

ดาวน์โหลดสำเนารายงาน CMO Outlook: วิธีที่ผู้นำการตลาดควรคิดเกี่ยวกับ AI และการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลในปี 2025 ได้ ที่นี่

เกี่ยวกับรายงานนี้:

รายงาน CMO Outlook ของ NIQ: How marketing leaders should be thinking about AI and data-driven decisioning heading into 2025 รายงานนี้อ้างอิงจากการสำรวจผู้นำการตลาดระดับสูงเกือบ 600 คนจากบริษัทที่มีรายได้ประจำปีมากกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือมีพนักงานมากกว่า 250 คน การสำรวจครอบคลุม 18 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยุโรป ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง/แอฟริกา และอเมริกาเหนือ ผู้นำการตลาดถูกกำหนดว่าเป็น CMO หรือหัวหน้าแบรนด์ ผู้อำนวยการหรือรองประธานฝ่ายการตลาด แบรนด์ การดำเนินงานการตลาด หรือประสบการณ์ลูกค้า

เกี่ยวกับ NIQ:

NIQ เป็นบริษัทด้านข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภคระดับสากลชั้นนำ ที่มอบความเข้าใจที่ครบถ้วนที่สุดเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคและเผยเส้นทางในการเติบโตใหม่ ๆ ในปี 2023 NIQ ได้ควบรวมกิจการกับ GfK เป็นการรวมสองผู้นำในอุตสาหกรรมที่มีเครือข่ายระดับสากล ซึ่งไม่มีใครเทียบได้ ปัจจุบัน NIQ ดำเนินงานในกว่า 95 ประเทศ ครอบคลุม 97% ของ GDP โลก NIQ ใช้ข้อมูลค้าปลีกแบบองค์รวมและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภคที่ครอบคลุมที่สุด ผสานเข้ากับการวิเคราะห์ขั้นสูงผ่านแพลตฟอร์มที่ทันสมัย เพื่อนำเสนอมุมมองแบบรอบด้าน Full View™

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ www.niq.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Sweta Patra
Sweta.patra@nielseniq.com

ที่มา: NielsenIQ

alkaLi ของ Gradiant สร้างมาตรฐานใหม่ในการสกัดลิเธียมโดยตรง

Logo

ตีพิมพ์ ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567

เทคโนโลยี EC2 ได้รับการรับรองว่าสามารถกู้คืนลิเธียมได้มากกว่า 95% เพื่อแปลงเป็นเกรดแบตเตอรี

บอสตัน แมสซาชูเซตส์ — วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 — alkaLi ซึ่งเป็นบริษัทที่แยกตัวออกของ Gradiant เป็นผู้นำตลาดการผลิตและการสกัดลิเธียมโดยตรง (DLE) ด้วยเทคโนโลยี EC2 ซึ่งมีอัตราการกู้คืนลิเธียมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากน้ำเกลือทะเลสูงถึง 97% ในอเมริกาเหนือ เทคโนโลยีใหม่นี้ได้รับการรับประกันโดย Gradiant ว่าจะกู้คืนลิเธียมได้อย่างน้อย 95% ที่ไซต์ของลูกค้า ซึ่งช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถผลิตลิเธียมคาร์บอเนตเกรดแบตเตอรีได้เร็วขึ้น ถูกลง และยั่งยืนมากกว่าที่เคย

alkaLi’s EC2 modular three-stage containerized system for Extract, Concentrate, and Convert (Graphic: Business Wire)

ระบบคอนเทนเนอร์สามขั้นตอนแบบแยกส่วน EC2 ของ alkaLi สำหรับการสกัด เพิ่มความเข้มข้น และแปลง (ภาพ: Business Wire)

โซลูชันลิเธียมที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในโลก เทคโนโลยี EC2 ของ alkaLi เป็นโซลูชันแบบครบวงจรตัวแรกและตัวเดียวที่ออกแบบมาเพื่อสกัด เพิ่มความเข้มข้น และแปลงลิเธียมเกรดแบตเตอรี เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากรถยนต์ไฟฟ้า การจัดเก็บพลังงาน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ปัจจุบันผู้ผลิตได้รับประโยชน์จาก:

  • ต้นทุนที่ลดลงด้วยต้นทุน OPEX และ CAPEX ที่ลดลง 50%
  • ความยั่งยืนที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้วยปริมาณคาร์บอนและน้ำที่ลดลง
  • การผลิตที่รวดเร็วขึ้นซึ่งตอนนี้จะวัดเป็นชั่วโมง ไม่ใช่เป็นเดือน
  • ขนาดที่กะทัดรัดในรูปแบบของตู้คอนเทนเนอร์เคลื่อนที่ขนาด 20 หรือ 40 ฟุตที่ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
  • การอนุญาตแบบเร่งด่วนโดยให้น้ำในผลิตภัณฑ์เป็นไปตามข้อกำหนดและพร้อมสำหรับการฉีดกลับเข้าไปใหม่

alkaLi ได้พิสูจน์กระบวนการเพิ่มความเข้มข้นของ EC2 ให้กับบริษัทพลังงานชั้นนำของสหรัฐอเมริกาแล้วที่ไซต์เชิงพาณิชย์ในหุบเขาเคลย์ตัน รัฐเนวาดา เพื่อแสดงประสิทธิภาพของเทคโนโลยี CFRO พื้นฐานในการเพิ่มความเข้มข้นของลิเธียมให้มีคุณภาพในเกรดแบตเตอรี

ประสิทธิภาพสุดล้ำ การสาธิตสามขั้นตอนของ EC2 โดยใช้น้ำเกลือทะเลดิบช่วยยืนยันว่าสามารถ:

  • สกัด: ประสิทธิภาพ DLE มากกว่า 95% แม้จะมีปริมาณ COD สูง
  • เพิ่มความเข้มข้น: เทคโนโลยี CFRO เพิ่มความเข้มข้นของลิเธียมให้มีคุณภาพระดับเกรดแบตเตอรีที่สูงกว่า 200,000 มก./ลิตร
  • แปลง: ทำให้ลิเธียมที่มีความเข้มข้นสูงตกตะกอนเป็นของแข็งเพื่อผลิตลิเธียมคาร์บอเนตหรือลิเธียมไฮดรอกไซด์เกรดแบตเตอรี

นอกเหนือจากลิเธียม แนวทางการใช้เทคโนโลยีธาตุของ alkaLi ยังช่วยปรับชุดเทคโนโลยี EC2 ให้สามารถกู้คืนแร่ธาตุสำคัญอื่นๆ ได้มากมาย ซึ่งรวมถึงทองแดง นิกเกิล โคบอลต์ แมงกานีส แมกนีเซียม และเหล็ก

ในปลายเดือนนี้ alkaLi จะเริ่มใช้งานโซลูชันที่พัฒนาเองร่วมกับผู้นำด้านการทำเหมืองระดับโลกในออสเตรเลียตะวันตก โดยมุ่งเน้นการกู้คืนนิกเกิลและโคบอลต์จากน้ำเสียของเหมือง โซลูชันนี้ได้รับการเสริมประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีการสกัดสารเคมีที่ได้รับการคัดสรรโดย Gradiant โดยจะบำบัดน้ำดิบให้พร้อมใช้งานสำหรับ CFRO ซึ่งระบบที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยนี้มีประสิทธิภาพเหนือกว่ากระบวนการ RO ที่มีจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ทั้งหมด และสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นได้ 300,000 มก./ล. โดยใช้พลังงานน้อยที่สุด

เมื่อนำไปใช้งานแล้ว alkaLi จะเปลี่ยนบ่อกักเก็บตะกอนที่เป็นภาระทางสิ่งแวดล้อมให้กลายเป็นแหล่งแร่ธาตุที่มีคุณค่า ซึ่งเป็นแนวทางที่ยั่งยืนในการตอบสนองความต้องการแร่ธาตุทั่วโลก ณ สถานที่แห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เทคโนโลยี EC2 กำลังแปลงน้ำเสียจากเหมืองให้เป็นแมกนีเซียมซัลเฟตเกรดอุตสาหกรรมที่มีคุณค่าสูง

“แนวทางการทำงานแบบแยกส่วนของ alkaLi ในการออกแบบชุดเทคโนโลยี EC2 เป็นการสานต่อปรัชญาของ Gradiant ที่ต้องการเพิ่มผลลัพธ์ของนวัตกรรมล้ำสมัยของเราให้มีประโยชน์ที่สุดในอุตสาหกรรมและภูมิภาคต่างๆ” Prakash Govindan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Gradiant กล่าวว่า “แร่ธาตุที่เราต้องการนั้นจำเป็นต่อการเร่งให้เกิดการใช้ระบบไฟฟ้าในสังคม และผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ alkaLi จะมีบทบาทสำคัญในการนำวัตถุดิบเหล่านี้ไปใช้กับผู้บุกเบิกทั่วโลก”

สนใจนำ EC2 ไปใช้ในสถานที่ปฏิบัติงานของคุณหรือไม่ ขณะนี้ Gradiant มีโปรแกรมทดลองใช้งานฟรีเพื่อแสดงความสามารถในการสกัด เพิ่มความเข้มข้น และแปลงของ alkaLi ในน้ำดิบต่าง ๆ ติดต่อ Gradiant เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.gradiant.com/contact

เกี่ยวกับ Gradiant

Gradiant เป็นบริษัทน้ำที่ไม่เหมือนใคร ชุดโซลูชันครบวงจรที่แตกต่างและเป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะสำหรับการบำบัดน้ำและน้ำเสียขั้นสูงที่พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำระดับสูง จะช่วยให้บริษัทให้บริการการดำเนินงานที่สำคัญยิ่งต่อภารกิจของลูกค้าในอุตสาหกรรมที่สำคัญทั่วโลก รวมถึงเซมิคอนดักเตอร์ ยา อาหารและเครื่องดื่ม ลิเธียมและแร่ธาตุที่สำคัญและพลังงานหมุนเวียน โซลูชันที่เป็นนวัตกรรมของ Gradiant จะช่วยลดการใช้น้ำและปล่อยน้ำเสีย กู้คืนทรัพยากรที่มีค่าและบำบัดน้ำเสียให้เป็นน้ำจืด บริษัทซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองบอสตันก่อตั้งขึ้นที่ MIT และมีพนักงานมากกว่า 1,000 คนทั่วโลก รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ gradiant.com

เกี่ยวกับ alkaLi

alkaLi มุ่งมั่นที่จะเร่งการขยายขนาดการผลิตลิเธียมและแร่ธาตุที่สำคัญอื่น ๆ บริษัทขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี EC2 ซึ่งเป็นโซลูชันแบบครบวงจรเพียงหนึ่งเดียวในโลกที่ออกแบบมาเพื่อสกัด เพิ่มความเข้มข้นและแปลงลิเธียมในเกรดแบตเตอรี alkaLi นำเสนอวิธีการใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนแก่ผู้ผลิตแร่ธาตุเพื่อการขยายขนาดการผลิตอย่างรวดเร็ว พร้อมประโยชน์ที่สำคัญในด้านความสามารถในการผลิต ความเร็ว ต้นทุนและความยั่งยืน โดยมีโซลูชันที่ปรับให้เข้ากับแหล่งวัตถุดิบที่หลากหลายที่สุดในอุตสาหกรรม ซึ่งประกอบด้วยน้ำเกลือ การระเหยและการรีไซเคิล บริษัทซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองบอสตันเป็นบริษัทที่แยกตัวออกจาก Gradiant รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ alkaLi3.com

*เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลจากต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อองค์กร
Felix Wang
หัวหน้าฝ่ายแบรนด์และประชาสัมพันธ์ทั่วโลกของ Gradiant
fwang@gradiant.com

แหล่งข้อมูล: Gradiant

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54151011/en

สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีของอาบูดาบีเปิดการประชุมสุดยอด AI แบบโอเพ่นซอร์ส พร้อมการอภิปรายที่สําคัญเกี่ยวกับอนาคตของ AI

Logo

ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI นานาชาติกว่า 300 รายจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี รวมถึง Meta และ Google DeepMind สํารวจหัวข้อต่างๆ เช่น การพิจารณาด้านจริยธรรมในการเป็นเจ้าของ AI นวัตกรรมในการประมวลผล AI ที่ยั่งยืน และพลังการประมวลผล

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–26 พฤศจิกายน 2024

การประชุมสุดยอด AI แบบโอเพ่นซอร์ส ที่อาบูดาบี ซึ่งจัดโดย Technology Innovative Institute (TII) ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ระดับโลก ได้เริ่มต้นด้วยการสนทนาที่สําคัญที่จะกําหนดวาระการประชุม AI ระดับโลก การประชุมสุดยอดดังกล่าวจะจัดขึ้นที่เกาะ St. Regis Saadiyat ในวันนี้และพรุ่งนี้ โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 300 คน โดยการประชุมครั้งนี้จะมุ่งเน้นในระดับนานาชาติที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการดึงและผลักดันระหว่าง AI แบบโอเพ่นซอร์สและแบบปิด

Abu Dhabi’s Technology Innovation Institute Inaugurates Open-Source AI Summit with Critical Discussions on the Future of AI (Photo: AETOSWire)

สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีของอาบูดาบีเปิดการประชุมสุดยอด AI แบบโอเพ่นซอร์ส พร้อมการอภิปรายที่สําคัญเกี่ยวกับอนาคตของ AI (ภาพ: AETOSWire)

“เมื่อพูดถึง AI มีสองทางเลือกที่สําคัญ ” H.E. Faisal Al Bannai เลขาธิการสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูงและที่ปรึกษาของประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กล่าว “คุณสามารถใช้ประโยชน์จากโมเดล AI แบบปิดที่เป็นของบริษัทได้ พวกเขาควบคุมมัน รวมถึงข้อมูลที่คุณให้ไว้ด้วย นวัตกรรมเริ่มต้นและจบลงด้วยพวกเขา

“อีกทางหนึ่ง คุณสามารถใช้ประโยชน์จากโมเดลโอเพ่นซอร์สที่เติบโตภายในชุมชนได้ เราสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ร่วมกัน และทุกคนสามารถเข้าถึงและต่อยอดจากมันได้ทุกที่ หาก AI จะเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างของสังคมของเรา และมันจะเป็นอย่างนั้น ประเทศ บริษัท และบุคคลต่างๆ จําเป็นต้องตัดสินใจว่าใครเป็นผู้ควบคุมมัน การเปิดตัวโมเดล Falcon AI ถือเป็นการมีส่วนสนับสนุนของ TII ต่อโลก”

Dr. Najwa Aaraj ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ TII ผู้เปิดการประชุมกล่าวว่า “การประชุมสุดยอด AI แบบโอเพ่นซอร์สที่อาบูดาบีถือเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับการอภิปรายเกี่ยวกับ AI ระดับโลก เช่นเดียวกับโมเดลโอเพ่นซอร์สอื่น ๆ Falcon ได้รวมนักวิทยาศาสตร์ นักพัฒนา และนวัตกรเข้าด้วยกัน เพื่อเร่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เพื่อเป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั่วโลก เราหวังว่าจะได้เห็นผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรายังคงทํางานร่วมกับ Falcon Foundation ต่อไป”

วาระการประชุมสุดยอดยังคงดําเนินต่อไปด้วยการอภิปรายจากวิทยากรที่มีชื่อเสียง รวมถึง Dr. Belgacem Haba รองประธานของ Adeia Corporation ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งพูดถึงความท้าทายที่ AI สร้างขึ้นในอุตสาหกรรมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์

Prof. Philip Torr ศาสตราจารย์และหัวหน้าที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดในสหราชอาณาจักร พูดถึงผู้ที่ควรเป็นเจ้าของ AI โดยกล่าวถึงข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนถึงกฎระเบียบ และโต้แย้งว่าในระยะยาว ประโยชน์ของ AI แบบโอเพ่นซอร์สมีมากกว่าความเสี่ยง

Dr. Hakim Hacid หัวหน้านักวิจัยของศูนย์วิจัย AI ของ TII กล่าวว่า “เราเชื่อว่า AI แบบโอเพ่นซอร์สเป็นหนทางข้างหน้า แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะยังมีความท้าทายและคําถามเกี่ยวกับการควบคุม นโยบาย พลังการประมวลผล และฮาร์ดแวร์ที่เราต้องแก้ไข นั่นคือเหตุผลที่เรารวบรวมผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจํานวนมากในการประชุมสุดยอดนี้ และจะยังคงทําเช่นนี้ต่อไปในปีต่อๆ ไปโดยร่วมมือกับ Falcon Foundation การสนทนาเหล่านี้มีความสําคัญมาก”

วิทยากรที่จะมาอภิปรายในภายหลัง ได้แก่ Dr. Natalia Vassilieva รองประธานและ CTO ภาคสนามของ Cerebras Systems ในสหรัฐอเมริกา Dr. June Paik ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ FuriosaAI ในสหรัฐอเมริกา Dr. Armand Joulin ผู้อํานวยการฝ่ายวิจัยของ Google DeepMind ในฝรั่งเศส และ Dr. Michal Valko หัวหน้าวิศวกร Llama ที่ Meta Paris ในฝรั่งเศส พวกเขาจะพูดคุยเกี่ยวกับระดับของการเปิดกว้างของ AI การประมวลผล AI ที่ยั่งยืน การสร้าง LLM ที่มีขนาดกะทัดรัดมากขึ้น, การใช้ประโยชน์จากโมเดลพื้นฐานสําหรับอัลกอริทึมที่น่าเชื่อถือและอื่น ๆ

Dr. Jingwei Zuo จาก TII จะพูดเกี่ยวกับ Falcon Mamba ซึ่งเป็นโมเดล State Space Language รุ่นแรกที่สร้างขึ้นโดยใช้สถาปัตยกรรมใหม่ทั้งหมดและเปิดตัวเมื่อต้นปีนี้

การประชุมสุดยอดจะจบลงด้วยการเสวนาที่นําโดย TII เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของพวกเขาสําหรับ AI แบบโอเพ่นซอร์ส

ซีรีส์ Falcon AI LLM ของ TII ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ซีรีส์นี้เริ่มต้นด้วยการเปิดตัว Falcon 40B ซึ่งเป็น LLM โอเพ่นซอร์สตัวแรกของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในเดือนพฤษภาคม 2023 นับตั้งแต่นั้นมา โมเดล Falcon รุ่นต่อๆ มาก็ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สชั้นนําของโลกอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการรับรองจาก Hugging Face  ซึ่งเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอิสระ คาดว่าจะมี Falcon รุ่นใหม่ภายในสิ้นปี 2024

*ที่มา: AETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/54158361/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Victoria Meven
victoria.meven@edelman.com

ที่มา: สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยี

The Bangkok Reporter