Aprecomm สตาร์ตอัปด้านเครือข่ายอัจฉริยะที่เปิดใช้งาน AI ท้องถิ่นของอินเดียลงนามข้อตกลงสู่ระดับโลก

Logo

บังกะลอร์ อินเดีย–(BUSINESS WIRE)–22 กันยายน 2565

Aprecomm บริษัทเครือข่ายอัจฉริยะชั้นนำของอินเดีย ประกาศความร่วมมือกับ Technology Distribution Specialists (TDS) ในสิงคโปร์ เพื่อจัดจำหน่ายเทคโนโลยี Network Intelligence ในฐานะส่วนหนึ่งของข้อตกลงนี้ TDS จะเข้าเป็นหนึ่งในพันธมิตรผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Aprecomm ขณะนี้ TDS จะได้รับอนุญาตให้เผยแพร่โซลูชันเครือข่ายอัจฉริยะของ Aprecomm สำหรับอุตสาหกรรมการสื่อสารทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220921005704/en/

Pramod Gummaraj, CEO, Aprecomm (Photo: Business Wire)

Pramod Gummaraj ซีอีโอของ Aprecomm (ภาพ: Business Wire)

ด้วยการมีส่วนร่วมนี้ Aprecomm จะเข้าถึงฐานผู้ใช้ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ผลิตภัณฑ์ที่เปิดใช้งาน AI ของ Aprecomm จะปฏิวัติการจัดส่งเครือข่ายโดยผู้ให้บริการเครือข่ายรวมถึงเครือข่ายไฟเบอร์ WiFi ภายในบ้านและเครือข่าย WiFi ขององค์กร

Mr. Pramod Babu ซีอีโอของ Aprecomm กล่าวว่า “เรากำลังมองหาการขยายธุรกิจไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วและช่วยเหลือผู้ให้บริการในการให้บริการอินเทอร์เน็ตที่มีคุณภาพแก่ลูกค้าปลายทาง เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เป็นพันธมิตรกับ TDS เพื่อขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคออสเตรเลียนิวซีแลนด์ (ANZ) อย่างจริงจัง”

“เรายินดีที่จะนำ Aprecomm เข้าสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์ TDS” Sergio Ferreira กรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดจำหน่ายเทคโนโลยี (TDS) กล่าว โดยเขาเสริมว่าการบริการเครือข่ายอัจฉริยะของ Aprecomm จะเสนอโซลูชันที่เป็นประโยชน์แก่ลูกค้าของเราในพื้นที่ Wi-Fi, ISP และ TSP Aprecomm รวบรวมปรัชญาของ TDS ในการผลิตและสนับสนุนผลิตภัณฑ์ไฮเทคที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะของลูกค้าของเราในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียแปซิฟิกอย่างเต็มที่

ด้วยข้อตกลงนี้ Aprecomm จะสามารถเจาะตลาดได้กว้างขึ้นทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทั้งนี้ TDS จะจัดจำหน่าย Aprecomm Virtual Wireless Expert ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่สร้างประสบการณ์ที่มีคุณภาพระหว่างเครือข่าย ISP และพันธมิตรในช่องทางต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้จากภูมิภาคที่หลายหลายทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้รับประสบการณ์อินเทอร์เน็ตที่ดียิ่งขึ้น

Mr. Guharajan Sivakumar ซีทีโอของ Aprecomm กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นการรองรับที่โซลูชันจากปัญญาประดิษฐ์ของเราได้รับทั่วภูมิภาค และต้องการมอบประสบการณ์อินเทอร์เน็ตที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าทั่วโลกด้วย TDS ในฐานะพันธมิตรด้านการจัดจำหน่ายของเรา”

เกี่ยวกับ Aprecomm

Aprecomm เป็นผู้พลิกสถานการณ์ด้านอุตสาหกรรมด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเปิดใช้งาน Software Stack เพื่อทำความเข้าใจประสบการณ์ Wi-Fi ของลูกค้า เทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรของ Aprecomm ช่วยในการแก้ไขปัญหา Wi-Fi โดยอัตโนมัติและพร้อมรับมือ ด้วยวิธีนี้ ISP และ Enterprises จะสามารถแก้ไขได้ทันทีและลดการหยุดทำงานให้น้อยลง  โซลูชัน Aprecomm ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) และผู้ให้บริการเทคโนโลยี (TSP) ปรับปรุงมาตรฐานธุรกิจของตนผ่านความน่าเชื่อถือที่สูงขึ้น ค่าใช้จ่ายที่ลดลง และ ROI ที่รวดเร็ว

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220921005704/en/

ติดต่อ:

Broadnection
Prashant
Email: prashant@broadnection.com
Contact: +91- 9582602429

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Trilliant ใช้โซลูชันการสูบจ่ายน้ำอัจฉริยะในแคนาดา

Logo

โซลูชันไร้สายแก้ปัญหาการเชื่อมต่อและมาตรวัดที่ท้าทายสำหรับทาวน์โฮมในโตรอนโต

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–21 ก.ย. 2022

Enlit Asia 20222 – Trilliant ผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านโซลูชันสำหรับโครงสร้างพื้นฐานมิเตอร์ขั้นสูง (advanced metering infrastructure – AMI) สมาร์ทกริด เมืองอัจฉริยะ และ IIOT ประกาศความสำเร็จในการนำโซลูชันการวัดปริมาณน้ำแบบไร้สายไปใช้ในแคนาดา ซึ่งยืนยันจุดยืนในการสนับสนุนโครงการสูบจ่ายที่ท้าทายที่ต้องมีการเชื่อมต่อที่แข็งแกร่งและเชื่อถือได้  Provident บริษัทให้บริการด้านพลังงานและการวัดมิเตอร์ในเขตมหานครโตรอนโต ซึ่งเชี่ยวชาญด้านตลาดที่อยู่อาศัยหลายแห่ง ได้เลือกโซลูชัน Smart Water ของ Trilliant สำหรับโครงการในเมืองโตรอนโต รัฐออนแทรีโอ ซึ่งต้องการโซลูชันการวัดมิเตอร์ชั้นใต้ดินสำหรับทาวน์โฮมจำนวนหนึ่ง

การติดตั้งมิเตอร์สาธารณูปโภคมักจะเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนโดยมีข้อพิจารณาหลายประการ รวมถึงความท้าทายในห่วงโซ่อุปทาน การเดินสายไฟของอุปกรณ์ และปัจจัยอื่นๆ

โครงการ Provident ใช้เทคโนโลยี Trilliant เพื่อเปิดใช้งานการเชื่อมต่อมิเตอร์น้ำกับหน่วยเชื่อมต่อมิเตอร์น้ำ (meter interface unit – MIU) ซึ่งสามารถตั้งโปรแกรมให้เชื่อมต่อกับมิเตอร์ใดก็ได้ในหลากหลายแบรนด์  จุดเชื่อมต่อจะอ่าน MIU แบบไร้สาย ทำให้ไม่จำเป็นต้องเดินสายไฟผ่านพื้นและผนัง

“Provident มุ่งมั่นที่จะให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าของเรา” Ralph Simone ประธานของ Provident Energy Management Inc. กล่าว “ในการทำเช่นนั้น เราพึ่งพาเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่ทันสมัย ​​เช่น แพลตฟอร์ม Smart Water ของ Trilliant สำหรับการดำเนินงานธุรกิจของเรา ”

โซลูชันสำหรับ Provident ถูกปรับใช้บนแพลตฟอร์ม AMI ของ Trilliant ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับอุปกรณ์ที่เข้าถึงยากและต้องใช้แบตเตอรี่  โซลูชัน Smart Water ของ Trilliant เป็นส่วนสำคัญของโครงการริเริ่มสร้างอัจฉริยะของ Trilliant และกำลังปฏิวัติการเชื่อมต่อในอาคาร ขณะเดียวกันก็ช่วยให้เจ้าของอาคารสามารถจัดการโครงสร้างพื้นฐานได้ดีขึ้นโดยไม่ต้องมีการติดตั้งแบบมีสายรบกวนซึ่งต่างจากโซลูชันอื่นๆ  MIU แต่ละรายการไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้กัน เพียงแค่เข้าถึงจุดเชื่อมต่อเท่านั้น

ชั้นใต้ดินมีความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานแบบมีสายและไร้สายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพยายามติดตั้งโซลูชันในภายหลังในกระบวนการก่อสร้าง โดยทั่วไปจะมีระยะการมองเห็นที่ไม่ดี ซึ่งอาจต้องใช้โหนดจำนวนมากขึ้นและจะมีสัญญาณโดยรวมที่อ่อน  โซลูชันของ Trilliant มอบความครอบคลุมและความจุสูงสุด ในขณะที่ให้ความปลอดภัยที่เข้มงวดแก่ลูกค้าตามที่ต้องการและคาดหวัง

“ในการใช้เทคโนโลยีของ Trilliant ในอาคาร ลูกค้าสามารถวางใจในการเชื่อมต่อที่เชื่อถือได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องค่าใช้จ่ายและการใช้พลังงานตามปกติของอุปกรณ์ RF อื่นๆ อุปกรณ์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ทำให้การติดตั้งง่ายขึ้นและรองรับตัวเลือกมิเตอร์ที่หลากหลาย ทำให้ลูกค้าเช่น Provident สามารถควบคุมทรัพย์สินของตนได้อย่างเต็มที่” Steven Lupo กรรมการผู้จัดการของแคนาดาของ Trilliant กล่าว “โซลูชันของ Trilliant นั้นง่ายต่อการปรับใช้ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ และสามารถให้การเชื่อมต่อไม่เพียงแต่การวัดน้ำเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้งานด้านไฟฟ้าและความร้อน ทั้งหมดนี้ช่วยลดหรือขจัดต้นทุน ความเสี่ยง และการบำรุงรักษาที่มาพร้อมกับการติดตั้งแบบมีสาย ”

การปรับใช้ในโตรอนโตแสดงให้เห็นถึงความง่ายและความรวดเร็วในการติดตั้ง ประสิทธิภาพ และความสามารถในการปรับขนาดของเทคโนโลยี และได้รับการออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับระบบแทบทุกระบบเพื่อจัดหาแหล่งข้อมูลที่ปลอดภัยและทรงพลัง Trilliant ประสบความสำเร็จในการติดตั้งโซลูชันที่คล้ายกันในชิลี สาธารณรัฐโดมินิกัน เปรู ญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร

เกี่ยวกับ Trilliant

Trilliant® ให้อำนาจแก่อุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลกด้วยแพลตฟอร์มการสื่อสารที่ใช้งานได้กับทุกระบบเพียงอุปกรณ์เดียวที่ช่วยให้สาธารณูปโภคและเมืองต่างๆ สามารถปรับใช้แอปพลิเคชันใดๆ ได้อย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้บนเครือข่ายที่ทรงพลังเพียงเครือข่ายเดียว  พอร์ตโฟลิโอที่สร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์ของเราได้รับการออกแบบมาเพื่อให้มีตัวเลือก โดยไม่ต้องเสี่ยงที่ลูกค้าจะถูก "ล็อค" กับผู้ให้บริการเทคโนโลยีรายเดียว เราภูมิใจเสนอโซลูชันที่มีความสำคัญต่อภารกิจซึ่งสนับสนุน AMI, Data & Analytics, Smart Grids และ Smart Cities  ลูกค้าทั่วโลกได้รับประโยชน์จากการผสมผสานระหว่างความยืดหยุ่น ความยั่งยืน และความสามารถในการปรับขนาดที่เป็นเอกลักษณ์ของ Trilliant ซึ่งเชื่อมโยงสาธารณูปโภคและเมืองต่างๆ เข้ากับ IIOT และเส้นทางเชิงกลยุทธ์ที่มากขึ้นในการเปลี่ยนผ่านพลังงาน เยี่ยมชมเราได้ที่ www.trilliant.com.

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220920006155/en/

ติดต่อ:

Tracey Mitchell
tracey.mitchell@trilliant.com 

Cindy Watson/Anita Wong
StrategicAmpersand Inc.
TrilliantPR@stratamp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Trilliant ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าให้ทันสมัยและระบบมิเตอร์ขั้นสูง ในฐานะผู้สนับสนุนระดับไดมอนด์ของงานประชุม Enlit Asia ในกรุงเทพมหานคร

Logo

บริษัทจะนำการอภิปรายแบบคณะในหัวข้อการสร้างโครงข่ายไฟฟ้าที่ฉลาด มีประสิทธิภาพ และยั่งยืนยิ่งขึ้น

กรุงเทพมหานคร–(BUSINESS WIRE)–19 กันยายน 2565

Enlit Asia 2022 — Trilliant ผู้ให้บริการระดับสากลชั้นนำทางด้านโซลูชันสำหรับระบบมิเตอร์อัจฉริยะ (AMI) ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ เมืองอัจฉริยะ และ IoT ระดับอุตสาหกรรม (IIoT) จะร่วมเป็นผู้สนับสนุนระดับไดมอนด์ของงานประชุม Enlit Asia ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างต่อเนื่อง การประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 ถึง 22 กันยายน 2565 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค)

การประชุมสุดยอด Enlit Asia (เดิมชื่อ Asian Utility Week) เป็นการรวมตัวครั้งสำคัญของบรรดาผู้บริหารระดับสูงจากภาคส่วนพลังงานและไฟฟ้าของอาเซียน เพื่อพูดคุยถึงปัญหาพลังงานเร่งด่วน รวมถึงหัวข้อต่าง ๆ ที่มีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์และพาณิชย์ ขณะที่ภูมิภาคนี้กำลังเดินหน้าสู่การเปลี่ยนผ่านทางพลังงานอย่างสำเร็จ

Andrew C. White ประธานและซีอีโอของ Trilliant จะเข้าร่วมงาน Enlit Asia ในฐานะผู้กล่าวสุนทรพจน์หลักระหว่างพิธีเปิด โดยมี Dato' Indera Ir. Baharin Bin Din ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tenaga Nasional Berhad (TNB) Malaysia ร่วมบรรยาย

นอกจากนี้ Azeem Sulaiman รองประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Trilliant จะทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมการอภิปรายแบบคณะระหว่างการประชุมด้านพลังงานสำหรับซีอีโอในวันแรกของการจัดงาน ในหัวข้อ การพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าให้ทันสมัย: ลำดับความสำคัญและยุทธศาสตร์สำหรับการสร้างโครงข่ายที่อัจฉริยะ มีประสิทธิภาพ และมีความยั่งยืนยิ่งขึ้น ร่วมด้วยเหล่าผู้บริหารจาก G&W Electric, TNB, PT PLN (Persero) และอื่น ๆ โดยคณะอภิปรายจะมุ่งความสนใจไปที่เรื่องลำดับความสำคัญของสาธารณูปโภคในอาเซียน วิวัฒนาการของการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ โครงข่ายไฟฟ้าแบบดิจิทัลช่วยเจ้าของในภูมิภาคได้อย่างไร ความต้องการระบบที่ยืดหยุ่นมากขึ้น และบทบาทของการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าให้ทันสมัยและระบบไฟฟ้าแบบดิจิทัลในการสนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืนและความเป็นกลางทางคาร์บอน

Sulaiman กล่าวว่า “เรากำลังเดินหน้าสร้างสรรค์ต่อยอดจากนวัตกรรมและยุทธศาสตร์ด้านการเติบโตของเราเพื่อให้บริการด้านสาธารณูปโภคในเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก และตื่นเต้นที่ได้ร่วมกับผู้นำอุตสาหกรรมพลังงาน ธุรกิจ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในภูมิภาคที่งาน Enlit Asia เพื่อพูดคุยถึงกลยุทธ์และร่วมกันสำรวจหนทางที่จะทำให้การเปลี่ยนเป็นไปอย่างผ่านราบรื่นเพื่อนำไปสู่การจัดหาพลังงานที่ทำให้เกิดคาร์บอนในปริมาณต่ำ อุตสาหกรรมพลังงานกำลังเผชิญอุปสรรคที่มีความท้าทายอย่างมาก ณ ปัจจุบัน และเราหวังที่จะได้สานต่อการทำงานด้านสาธารณูปโภคต่อไปเพื่อรับมือกับความต้องการและพัฒนาเส้นทางสู่การเปลี่ยนผ่านทางพลังงานอย่างมีกลยุทธ์มากขึ้น”

ผู้เข้าร่วมงาน Enlit ยังจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีใช้ประโยชน์จากระบบมิเตอร์อัจฉริยะ (AMI) ในช่วงการอภิปรายด้านระบบมิเตอร์สำหรับผู้บริหารซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 2 ของการจัดงานภายใต้หัวข้อการเพิ่มมูลค่าจากระบบมิเตอร์อัจฉริยะ ซึ่งรวมอภิปรายโดย Dan Lambert ประธานเจ้าหน้าที่ด้านโซลูชันของ Trilliant, Anthony Rajamanickam ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ AR Utility Consulting, Dr. Zainal Arifin รองประธานกรรมการบริหารด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีของ PT PLN (Persero) และ Ismail Bin Lam Din ผู้อำนวยการโครงการระบบมิเตอร์ขั้นสูง – Distribution Network/SEL ของ TNB

เมื่อไม่นานมานี้ Trilliant ได้เผยถึงความพยายามด้านการผลิตในมาเลเซีย และได้ประกาศความเป็นพันธมิตรครั้งใหม่กับ SAMART เพื่อติดตั้งระบบมิเตอร์อัจฉริยะให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ของไทย บริษัทบรรลุความสำเร็จครั้งใหญ่ในการนำระบบมิเตอร์อัจฉริยะมาใช้ในเอเชียแปซิฟิก โดยปัจจุบันมีการติดตั้งและใช้งานมิเตอร์อัจฉริยะมากกว่า 3.8 ล้านชุด และยังมีอีกหลายล้านชุดที่อยู่ในแผนการติดตั้ง

Trilliant จะร่วมแสดงนิทรรศการที่บูธ 501 และ 507 ซึ่งตั้งอยู่ใน Exhibit Hall เยี่ยมชมและสัมผัสการสาธิตโซลูชันสุดล้ำ รวมถึงพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเกี่ยวกับวิธีเลือกโซลูชันที่ยืดหยุ่นและสามารถนำไปประกอบกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องยึดติดกับผู้จำหน่ายรายใดรายหนึ่ง การเสริมแกร่งกลยุทธ์ AMI และการวิเคราะห์ข้อมูล การลงทุนในอนาคตของระบบมิเตอร์อัจฉริยะ การก่อสร้าง และ IoT สำหรับอุตสาหกรรม รวมถึงการบรรลุเป้าหมายด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานและความยั่งยืน

หากต้องการจองการสาธิตแบบส่วนตัวและการประชุม โปรดติดต่อที่ info@trilliant.com

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Enlit Asia โปรดดูที่: https://www.enlit-asia.com/live-event/

เกี่ยวกับ Trilliant

Trilliant® ติดอาวุธให้กับอุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลกโดยด้วยแพลตฟอร์มการสื่อสารที่ไม่ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่ง ซึ่งทำให้ระบบสาธารณูปโภคและเมืองต่าง ๆ สามารถติดตั้งและใช้แอปพลิเคชันใด ๆ บนเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพเพียงเครือข่ายเดียวได้อย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้ พอร์ตโฟลิโอที่สร้างขึ้นตามจุดประสงค์ของเราได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้ามีอำนาจในการเลือกโดยปราศจากความเสี่ยงในการต้อง “ยึดติด” กับผู้ให้บริการเทคโนโลยีเพียงรายเดียว เราภูมิใจนำเสนอโซลูชันที่สำคัญต่อระบบซึ่งรองรับระบบมิเตอร์อัจฉริยะ ข้อมูลและการวิเคราะห์ โครงข่ายอัจฉริยะ และเมืองอัจฉริยะ ลูกค้าทั่วโลกต่างได้ประโยชน์จากการผสมผสานระหว่างความยืดหยุ่น ความยั่งยืน และความสามารถในการขยายขนาดที่มีความแตกต่างของ Trilliant ซึ่งเชื่อมระบบสาธารณูปโภคและเมืองเข้ากับระบบ IoT ระดับอุตสาหกรรม และเส้นทางเชิงยุทธศาสตร์อื่น ๆ ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน เยี่ยมชมเราได้ที่ www.trilliant.com

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220918005042/en/

ติดต่อ:

Tracey Mitchell 
tracey.mitchell@trilliant.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ทีมวิจัยสหวิทยาการแห่ง NTHU ค้นพบความลับสู่ความสำเร็จ

Logo

ซินจู๋, ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–16 กันยายน 2565

กุญแจสู่ความสำเร็จก็คือการไม่ยอมแพ้! การวิจัยข้ามสายพันธุ์โดยทีมวิจัยสหวิทยาการจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา (NTHU) ซึ่งนำโดยศาสตราจารย์ Yu-Ju Chou จากภาควิชาการศึกษาปฐมวัย และ Tsung-Han Kuo จากสถาบันประสาทวิทยาศาสตร์เชิงระบบ พบว่าลำดับชั้นทางสังคมของเด็กและหนูถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นคล้าย ๆ กัน ทั้งสองค้นพบพร้อมกับความประหลาดใจที่ว่าการจัดลำดับชั้นเหล่านี้ไม่ได้พิจารณาจากความแข็งแรงเท่าไรนัก แต่จะดูว่าใครที่จะยอมจำนนมากกว่า

เอกสารประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูอย่างเต็มรูปแบบที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220913005090/en/

Chou Yu-Ju (left) and Kuo Tsung-Han have found that social dominance is not so much determined by who is stronger, but rather by who is willing to yield. (Photo: National Tsing Hua University)

Chou Yu-Ju (ซ้าย) และ Kuo Tsung-Han พบว่าการครอบงำทางสังคมไม่ได้กำหนดจากการที่ใครแข็งแรงกว่า แต่ดูจากว่าใครจะยอมจำนนมากกว่ากัน (ภาพ: มหาวิทยาลัยแห่งชาติชินหวา)

รายงานดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ในวารสาร iScience ซึ่งเป็นวารสารฉบับย่อด้านเซลล์ โดยทั้งคู่ได้แนะนำว่าผู้ปกครองและครูควรให้ความใส่ใจในเรื่องการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมในเด็กอย่างใกล้ชิด และให้คำแนะนำและการสนับสนุนเป็นพิเศษกับเด็กที่ไม่ค่อยมีความกล้าหรือเด็กที่มักโอนอ่อนผ่อนตาม

การทดลองที่นำมาใช้เพื่อระบุลำดับชั้นของหนูเรียกว่า “tube test” ซึ่งหนูจะถูกคู่ต่อสู้บังคับให้ล่าถอยเข้าไปในท่อแคบ ๆ ซึ่งเป็นที่น่าประหลาดใจเมื่อผลลัพธ์นั้นไม่ได้ถูกกำหนดโดยพฤติกรรมของหนูตัวที่มีพลังมากกว่า แต่เป็นแนวโน้มที่จะยอมแพ้ในบรรดาหนูที่ยอมจำนน ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นลักษณะของ “การตัดสินใจของผู้แพ้”

ทีมวิจัยยังได้ทำการทดลองด้านพฤติกรรมในกลุ่มเด็กก่อนเข้าเรียนและได้ผลลัพธ์ออกมาคล้ายกัน โดย Chou กล่าวว่าเด็ก ๆ ที่ชนะการแข่งขันไม่ต้องใช้ความพยายามมากเลย ส่วนกลุ่มผู้แพ้ก็ยอมอยู่แล้วตั้งแต่แรกหรือไม่ก็โดนคู่แข่งกล่อมให้ยอมแบบง่าย ๆ ขณะที่เด็กบางคนสามารถคุมเกมได้โดยเป็นผู้ออกคำสั่งให้ผู้อื่นทำตาม ส่วนเด็ก ๆ ที่มีความโอนอ่อนผ่อนตามก็มีความยืนหยัดน้อยกว่าและมีแนวโน้มที่จะเป็นฝ่ายถอย

Kuo กล่าวว่าผลที่ออกมาแสดงให้เห็นว่าบางครั้งกุญแจที่จะนำไปสู่ความสำเร็จก็เป็นแค่ความมุ่งมั่นไม่ลดละและการยึดมั่นในเป้าหมายแรกเริ่ม ขณะที่ Chou ชี้ให้เห็นว่าผู้ปกครองและครูควรให้ความใส่ใจต่อเด็กที่มีความโอนอ่อนผ่อนตามและขาดความกล้าอย่างใกล้ชิด การเพิ่มความมั่นใจในตัวเองให้พวกเขาด้วยการมอบประสบการณ์ด้านความสำเร็จในด้านบวกจะเป็นประโยชน์ต่อเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลของเด็กกลุ่มนี้อย่างมาก

การศึกษานี้ได้รับการสนับสนุนจากสำนักวิจัยและพัฒนา การควบรวมระหว่างมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวาและมหาวิทยาลัยการศึกษาแห่งชาติซินจู๋เมื่อ 6 ปีที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดความร่วมมือในวงกว้าง รวมถึงการวิจัยที่เป็นตัวอย่างน่ายกย่องนี้

Chou และ Kuo เห็นพ้องต้องกันว่าความร่วมมือแบบข้ามสาขาวิชาสร้างมุมมองใหม่ ๆ ให้กับงานวิจัยของตน โดย Chou กล่าวว่าในการศึกษาด้านมนุษย์นั้นมีข้อจำกัดทางจริยธรรมอยู่หลายอย่าง ในทางตรงกันข้าม ข้อจำกัดที่น้อยกว่าในการทดลองในสัตว์ช่วยให้นักวิจัยสามารถทำการทดลองที่อาจเป็นการล่วงล้ำความเป็นส่วนตัวในหนูได้ Kuo กล่าวว่า เนื่องจากหนูไม่สามารถพูดได้ เราจึงทำได้เพียงสังเกตพฤติกรรมของตัวอย่างเพื่อตีความลำดับชั้นทางสังคมของพวกมัน ในทางกลับกัน เด็ก ๆ นั้นมีช่วงพฤติกรรมที่มีความซับซ้อนกว่ามากและมีความน่าสนใจ

ในโปรเจกต์หลังจากนั้น Chou และ Kuo ได้ร่วมกับ Dr. Shi-Bing Yang จาก Academia Sinica และพบความเชื่อมโยงในเชิงบวกระหว่างลำดับชั้นและความจำ การศึกษาดังกล่าวแสดงให้เห็นว่ายาที่ช่วยเพิ่มความจำไม่เพียงสามารถเพิ่มความจำในหนูได้แต่ยังรวมถึงการครอบงำทางสังคมด้วย นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่าเด็กที่มีความจำดีกว่าจะรับเอายุทธศาสตร์ทางสังคมมาใช้และรู้จำการแสดงออกทางใบหน้าที่แสดงถึงอำนาจได้ดี ซึ่งสิ่งนี้นำไปสู่ความเป็นผู้นำ การวิจัยนี้เพิ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Communications Biology เมื่อไม่นานมานี้

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220913005090/en/

ติดต่อ:

Holly Hsueh 
NTHU 
(886)3-5162006 
hoyu@mx.nthu.edu.tw

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Canva เปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์สำหรับที่ทำงานยุคใหม่ที่งานเปิดตัว Canva Create Event

Logo

องค์กรทุกขนาดสามารถสร้างสรรค์แนวทางการออกแบบงานใหม่ที่ขับเคลื่อนการเติบโต ปรับปรุงระบบ และกระตุ้นความต้องการด้านการสื่อสารด้วยภาพ

ซิดนีย์–(BUSINESS WIRE)–14 ก.ย. 2022

Canva แพลตฟอร์มการสื่อสารด้วยภาพระดับโลก ประกาศเปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์สำหรับสถานที่ทำงานใหม่ ที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถสื่อสารด้วยภาพ บนอุปกรณ์ใดก็ได้ จากทุกที่ในโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220913006312/en/

Canva introduces suite of new workplace products for the modern era at inaugural Canva Create event (Graphic: Business Wire)

Canva เปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์สำหรับที่ทำงานยุคใหม่ที่งาน Canva Create ครั้งแรก (กราฟิก: Business Wire)

"การสื่อสารด้วยภาพกลายเป็นทักษะที่สำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับทีมทุกขนาดในเกือบทุกอุตสาหกรรม" Melanie Perkins ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Canva กล่าว "เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ได้เห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ Canva ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้คนจำนวนมากเปิดรับพลังของการสื่อสารด้วยภาพเพื่อปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์และบรรลุเป้าหมาย  ด้วยการเปิดตัว Visual Worksuite ใหม่ของเรา เราได้นำผลิตภัณฑ์การออกแบบที่เรียบง่ายมาสู่สถานที่ทำงานเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับพนักงานทุกคน ในทุกองค์กร และในทุกอุปกรณ์”

Visual Worksuite ใหม่ของ Canva เกิดขึ้นในขณะที่บริษัทบรรลุเป้าหมายสำเร็จครั้งสำคัญด้วยการมีผู้ใช้ทั่วโลกมากกว่า 85 ล้านคน ซึ่งปัจจุบันผลิตงานออกแบบมากกว่า 180 แบบทุกวินาที ขณะที่การใช้งานในองค์กรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหลากหลายอาชีพและอุตสาหกรรม Canva กำลังกลายเป็นแพลตฟอร์มการออกแบบที่เป็นตัวเลือกอันดับแรกอย่างรวดเร็วในที่ทำงาน ความต้องการนี้พิสูจน์ได้จากงานปัจจุบันมากกว่า 10,000 ตำแหน่งบน LinkedIn ที่ระบุว่า Canva เป็นทักษะที่ต้องการในหลายบริษัท รวมถึง American Express, Amazon, TikTok, LEGO และ Google

ตั้งแต่องค์กรขนาดใหญ่ไปจนถึงธุรกิจขนาดเล็กกว่า 4 ล้านคน ลูกค้าที่สมัครสมาชิกกำลังใช้งาน Canva for Teams ซึ่งเป็นโซลูชันการออกแบบแบบรวมทุกอย่างในหนึ่งเดียวของบริษัท เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับพนักงานที่มีความต้องการในการสื่อสารด้วยภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าสามเท่าในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมาในช่วงบริษัทต่างๆ เช่น Zoom, Salesforce, PayPal , Reddit, Sony Music และ OrangeTheory กำลังแทนที่เครื่องมือการออกแบบรุ่นเก่าด้วยการใช้แพลตฟอร์มแบบครบวงจรของ Canva

“Canva เป็นเครื่องมือที่ทรงคุณค่าสำหรับธุรกิจของเรา โดยเปลี่ยนวิธีที่ทีมสร้างสรรค์และทำงานร่วมกันโดยทำให้พนักงานสร้างการออกแบบใหม่ได้ง่ายขึ้นในลักษณะที่รักษาความสอดคล้องของแบรนด์” Marissa Kraines รองประธานฝ่ายการตลาดโซเชียลและเนื้อหาที่ Salesforce กล่าว “นอกจากนี้ยังช่วยให้ทีมของเราสามารถขยายแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการสื่อสารด้วยภาพทั่วทั้งบริษัทเพื่อให้มั่นใจว่าเราจะสามารถสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจในช่องทางโซเชียลและช่องทางที่เราเป็นเจ้าของทั้งหมด”

ชุดทำงานใหม่: เอกสาร กระดานไวท์บอร์ด เว็บไซต์ วิดีโอ การแสดงข้อมูล และอีกมากมาย

เปิดตัวที่งาน Canva Create ครั้งแรกในซิดนีย์ ชุด Visual Worksuite ของ Canva ประกอบด้วย:

  • Canva Docs: Canva Docs สร้างขึ้นโดยคำนึงถึงสถานที่ทำงานสมัยใหม่ ทำให้เอกสารข้อความแบบดั้งเดิมดึงดูดสายตามากขึ้น ในขณะที่มีคุณลักษณะการทำงานร่วมกันที่สำคัญ เช่น การแสดงความคิดเห็นและการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ ผู้ใช้ยังสามารถเข้าถึงทรัพยากรการออกแบบกว่า 100 ล้านไลบรารีของ Canva เพื่อใส่ลงในงานของพวกเขาในการสร้างเอกสาร  นอกจากนี้ ในโลกที่การนำเสนองานมักจะไม่ใช้ตัวหนังสือเป็นหลัก Canva Docs สามารถเปลี่ยนเป็นการนำเสนอ Canva ที่ครบครันด้วยการคลิกปุ่มง่ายๆ
  • Canva Websites: วิธีใหม่ในการสร้างเว็บไซต์ง่ายๆ สำหรับทุกโอกาส สร้างเว็บไซต์ที่ดึงดูดสายตาและโต้ตอบได้จากอุปกรณ์ใดๆ โดยไม่ต้องใช้ทักษะทางเทคนิคที่จำเป็นในการทำเช่นนั้น ด้วยเทมเพลตเว็บไซต์ระดับมืออาชีพที่ตอบสนองได้หลายร้อยแบบ โดเมนที่ปรับแต่งได้ และความสูงของเพจที่ปรับได้ ทำให้สามารถสร้างและเผยแพร่เว็บไซต์ที่มีความปลอดภัยสูงและป้องกันด้วยรหัสผ่านได้ภายในไม่กี่นาที สร้างขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการมีส่วนร่วม และยังมาพร้อมกับฟีเจอร์การวิเคราะห์ Design Insights ใหม่ของ Canva ซึ่งให้ความกระจ่างเกี่ยวกับการเยี่ยมชมไซต์และช่วยให้ผู้สร้างได้รับข้อมูลของผู้ชมและความสนใจ
  • Canva Whiteboards: นำเสนอแนวทางที่รวดเร็วและสดใหม่ในการกำหนดรูปร่างและสำรวจแนวคิดร่วมกันของทีม  Canva Whiteboards ผสมผสานความเรียบง่ายของ Canva เข้ากับกระดานที่ไร้ขอบเขต โดยมาพร้อมคุณสมบัติมากมายที่ออกแบบมาเพื่อการระดมสมองและการทำงานร่วมกันเป็นทีม ตั้งแต่บันทึกย่อไปจนถึงรูปภาพและไดอะแกรม ตัวจับเวลาที่ซิงค์เพื่อให้การระดมความคิดเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และอีกมากมาย ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้รวบรวมโลกแห่งการทำงานแบบผสมผสานเพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกันและประสิทธิภาพการทำงานในทีมแบบกระจาย
  • Video Background Remover: หนึ่งในคุณสมบัติยอดนิยมของ Canva พร้อมใช้งานแล้วโดยเป็นส่วนหนึ่งของ Canva Video Suite ยกระดับการสร้างวิดีโอไปอีกขั้น ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว ผู้ใช้สามารถลบพื้นหลังออกจากวิดีโอใดๆ ก็ได้ ทำให้สร้างเนื้อหาที่ดูเป็นมืออาชีพได้เร็วและง่ายกว่าที่เคยโดยไม่ต้องใช้งบประมาณที่ใหญ่โตหรือซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อน
  • ขยาย Canva Print: แม้ว่าการสื่อสารด้วยภาพส่วนใหญ่จะเป็นแบบดิจิทัล แต่เมื่อมีความจำเป็นสำหรับผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ Canva Print จะทำให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้นและเข้าถึงได้อย่างยั่งยืน  ณ วันนี้ ทุกคนสามารถพิมพ์ผลิตภัณฑ์มากกว่า 35 รายการผ่าน Canva Print และส่งให้ถึงหน้าประตูบ้านได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงทุกอย่างตั้งแต่บัตรเชิญไปจนถึงใบปลิว สมุดภาพและเสื้อมีฮู้ด โปสเตอร์ แก้วน้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย

    ด้วยความมุ่งมั่นเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน Canva จะปลูกต้นไม้สำหรับการสั่งซื้อการพิมพ์ทุกรายการผ่านโครงการพันธมิตร One Print, One Tree reforestation  ณ วันนี้ มีการปลูกต้นไม้มากกว่า 2.4 ล้านต้น และจะปลูกอีก 5 ล้านต้นภายในสิ้นปีนี้

  • Data Visualization: ทุกคนสามารถยกระดับการเล่าเรื่องด้วยข้อมูลด้วย Flourish ทำให้สามารถเปลี่ยนข้อมูลและสถิติที่หนาแน่นเป็นการแสดงข้อมูลเชิงโต้ตอบที่เรียบง่าย ชัดเจน และเข้าใจง่าย ด้วยเทมเพลตที่ตอบสนองทุกความต้องการ ตั้งแต่การแข่งขันบาร์แบบเคลื่อนไหว ไปจนถึงภาพซันเบิร์สต์แบบเจาะลึก การทำให้ข้อมูลที่ซับซ้อนเข้าถึงได้และมีความหมายสำหรับทุกคนในทุกองค์กร ทำให้การทำงานนั้นง่ายกว่าที่เคย
  • การควบคุมระยะไกลสำหรับการนำเสนอ: Canva เพิ่มการควบคุมการนำเสนอระยะไกลให้กับผลิตภัณฑ์การนำเสนอ ทำให้ผู้นำเสนอหลายคนสามารถควบคุมการไหลของงานนำเสนอจากอุปกรณ์ใดก็ได้โดยใช้ตัวคลิกเสมือน

การแนะนำชุดทำงาน Canva ในวันนี้เป็นการพลิกโฉมผลิตภัณฑ์สำนักงานแบบดั้งเดิมเพื่อยุคสมัยใหม่ให้กับมืออาชีพทั่วโลก เมื่อการสื่อสารแบบมืออาชีพกลายเป็นภาพมากขึ้น และสถานที่ทำงานก็กลายเป็นสากลมากขึ้น การสื่อสารด้วยภาพอย่างราบรื่นจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญทางธุรกิจ  Canva ลงทุนมากขึ้นเพื่อขับเคลื่อนวิธีการทำงานแบบใหม่ของโลก และขจัดความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์การสื่อสารด้วยภาพ เพื่อให้พนักงานทุกคนสามารถเติบโตได้อย่างง่ายดาย

เกี่ยวกับ Canva Canva

เปิดตัวในปี 2013 Canva เป็นแพลตฟอร์มการสื่อสารด้วยภาพและการทำงานร่วมกันแบบออนไลน์ฟรี โดยมีพันธกิจในการมอบอำนาจให้ทุกคนในโลกออกแบบ มีการใช้งานแบบลากและวางที่เรียบง่ายและเทมเพลตหลากหลายตั้งแต่การนำเสนอ เอกสาร เว็บไซต์ กราฟิกโซเชียลมีเดีย โปสเตอร์ เสื้อผ้า ไปจนถึงวิดีโอ รวมถึงคลังแบบอักษรขนาดใหญ่ การถ่ายภาพสต็อก ภาพประกอบ ฟุตเทจวิดีโอ และ คลิปเสียง ทำให้ใครๆ ก็สามารถนำไอเดียมาสร้างสรรค์สิ่งสวยงามได้

ดาวน์โหลดเนื้อหาได้ ที่นี่

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220913006312/en/

ติดต่อ:

Lachlan Andrews
press@canva.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย



eCloudvalley ได้รับรางวัล “AWS Partner Awards ASEAN ประจำปี 2565”

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–09 กันยายน 2565

eCloudvalley Digital Technology (ECV) พันธมิตรด้านการบริการระดับพรีเมียร์ของ AWS ชนะรางวัลทั้ง 4 ประเภทที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในงาน AWS ASEAN Partner Awards ประจำปี 2565 ซึ่งได้แก่ Specialized Partner of the Year หรือ พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางแห่งปี (อาเซียน) Services Partner of the Year หรือ พันธมิตรผู้ให้บริการแห่งปี (อาเซียน) Partner of the Year หรือ พันธมิตรแห่งปี (มาเลเซีย) และ Partner of the Year หรือ พันธมิตรแห่งปี (ฟิลิปปินส์)

eCloudvalley Digital Technology (ECV), AWS Premier Tier Services Partner, wins all four categories they were nominated for at the AWS ASEAN Partner Awards 2022, including Specialized Partner of the Year (ASEAN), Services Partner of the Year (ASEAN), Partner of the Year (Malaysia), Partner of the Year (Philippines). (Photo: Business Wire)

eCloudvalley Digital Technology (ECV) พันธมิตรด้านการบริการระดับพรีเมียร์ของ AWS ชนะรางวัลทั้ง 4 ประเภทที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในงาน AWS ASEAN Partner Awards ประจำปี 2565 ซึ่งได้แก่ Specialized Partner of the Year หรือ พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางแห่งปี (อาเซียน) Services Partner of the Year หรือ พันธมิตรผู้ให้บริการแห่งปี (อาเซียน) Partner of the Year หรือ พันธมิตรแห่งปี (มาเลเซีย) และ Partner of the Year หรือ พันธมิตรแห่งปี (ฟิลิปปินส์) (ภาพ: Business Wire)

ปี 2565 เป็นปีที่โดดเด่นสำหรับ ECV เนื่องจากบริษัทได้รับรางวัลพันธมิตรผู้ให้บริการแห่งปีในฮ่องกงเมื่อเดือนเมษายน และผู้ให้บริการโซลูชันแห่งปีที่ AWS Summit ในไต้หวันเมื่อต้นปีนี้ สิ่งนี้ได้พิสูจน์แล้วว่า ECV อยู่ในฐานะหนึ่งในพันธมิตรชั้นนำและเป็นพันธมิตรกับพันธมิตรอื่น ๆ ของ AWS ในภูมิภาคด้วย

รางวัลพันธมิตรประจำปีได้ยกย่องผลงานอันเป็นแบบอย่างของ ECV บริษัทได้ช่วยลูกค้าเร่งการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ดิจิทัลด้วยโซลูชันใหม่ๆ ด้านข้อมูลและการเรียนรู้ของโปรแกรมด้วยตัวเอง บริษัทได้รับรางวัลพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางแห่งปีจากจำนวนลูกค้าหลากหลายในช่วงเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2557 บริษัทได้ให้การสนับสนุนลูกค้ากว่า 1,800 ราย ด้วยเส้นทางการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระบบคลาวด์และดิจิทัลที่โดดเด่น ECV ยังคงลงทุนเพื่อสร้างประสิทธิภาพของ AWS ด้วย AWS Competencies จำนวน 12 รายการ ได้แก่ โปรแกรมสมาชิก APN จำนวน 6 รายการ และการเป็นสมาชิกด้านบริการ APN จำนวน 3 รายการ โดยได้รับรางวัลพันธมิตรผู้ให้บริการแห่งปี (อาเซียน)

นอกจากนี้ บริษัทยังแสดงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าต่อตลาดในประเทศมาเลเซียและฟิลิปปินส์ โดยให้ความช่วยเหลือลูกค้าองค์กรในการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ดิจิทัล ได้แก่ บริษัทชั้นนำของฟิลิปปินส์อย่าง Union Bank และ Jollibee Foods ตลอดจนลูกค้ามาเลเซียอย่าง QR Retail Automation ทำให้บริษัทได้รับรางวัลพันธมิตรแห่งปี (มาเลเซีย) และ พันธมิตรแห่งปี (ฟิลิปปินส์)

Jonathan Que ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคของ eCloudvalley Digital Technology กล่าวว่า "ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ eCloudvalley ได้รับรางวัลเชิงกลยุทธ์เหล่านี้จาก AWS! รางวัลเหล่านี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้เรายกระดับไปอีกขั้นเพื่อช่วยเหลือลูกค้าในเส้นทางการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ดิจิทัลที่ไม่เหมือนใครและแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง"

เกี่ยวกับ eCloudvalley

eCloudvalley (ECV) เป็นพันธมิตรการบริการระดับพรีเมียร์ที่เริ่มต้นพัฒนาโดยใช้คลาวด์ (born-in-the-cloud) ของ AWS โดยให้ความสำคัญในการจัดหาบริการด้านคลาวด์แบบครบวงจรให้แก่ลูกค้า บริษัทเชี่ยวชาญการบริการระบบคลาวด์ในด้านต่าง ๆ ได้แก่ Next Generation Managed Services, Cloud Migrations, Big Data & Analytics, Cloud Native Development, CDN และ DevOps ECV ได้เติบโตขึ้นโดยมีพนักงานกว่า 600 คน มีสถานที่ดำเนินงาน 10 แห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้รับใบรับรองด้านไอทีมากกว่า 1,000 รายการ ใบรับรอง AWS มากกว่า 600 รายการ และให้บริการลูกค้ามากกว่า 1,800 ราย

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220831005900/en/

ติดต่อ:

สื่อ
Siaoyu Chien siaoyu.chien@ecloudvalley.com
Cathy Ye cathy.ye@ecloudvalley.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

LESSENGERS สาธิตเครื่องรับส่งสัญญาณออปติคอล 800G QSFP-DD และ 400G QSFP112

Logo

บาเซิล สวิตเซอร์แลนด์–(BUSINESS WIRE)–12 กันยายน 2565

LESSENGERS Inc. (“LESSENGERS”) ผู้ให้บริการโซลูชันการเชื่อมต่อออปติคอลที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ประกาศในวันนี้ว่า การสาธิตไลฟ์สดของเครื่องรับส่งสัญญาณออปติคอล 800G QSFP-DD และ 400G QSFP112 แบบมีสายโพลิเมอร์โดยไม่ต้องใช้เลนส์ออปติกใด ๆ ให้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมและคุ้มค่า ระหว่างงาน ECOC 2022 (Stand 511 และ MR31) นิทรรศการการสื่อสารออปติคอลที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ในวันที่ 19-21 กันยายน ที่เมสเซ่ บาเซิล (Messe Basel) ประเทศสวิสเซอร์แลนด์

ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีการเดินสายออปติคอลโดยตรง (DOW) ที่ได้รับสิทธิบัตรของ LESSENGERS เครื่องรับส่งสัญญาณออปติคอล LESSENGERS 800G QSFP-DD และ 400G QSFP112 ให้สัญญาณออปติคอลที่ยอดเยี่ยมและคุ้มค่าที่สุด เทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์นี้ช่วยให้การวางตำแหน่งแบบแพสซิพสมบูรณ์แบบด้วยการคู่ควบออปติคอลที่มีความแม่นยำสูงและความหนาแน่นโดยไม่ต้องใช้เลนส์ออปติก ซึ่งเป็นโซลูชันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแอปพลิเคชันศูนย์ข้อมูลความเร็วสูง อย่างเช่น โมดูลออปติคอล 800G/1.6T ออนบอร์ด เนียร์แพ็คเกจหรือโค-แพ็คเกจออปติก (near packaged or co-packaged optics)

“LESSENGERS จะสาธิตชุดผลิตภัณฑ์ที่ใช้สัญญาณ 112G และ 56G ในระหว่างการแสดงที่งาน ECOC 2022 ในวันที่ 19-21 กันยายน เพื่อสนับสนุนลูกค้าของเราในความต้องการอย่างเร่งด่วน และจะเพิ่มผลิตภัณฑ์ในไตรมาสต่อ ๆ ไปเพื่อให้กลุ่มผลิตภัณฑ์สมบูรณ์” Taeyong Kim ซีเอ็มโอที่ LESSENGERS กล่าว

“ธุรกิจปัจจุบันของ LESSENGERS มุ่งเน้นไปที่โซลูชันการเชื่อมต่อออปติคอลแบบมัลติโหมด ควบคู่ไปกับบริการออปติคอลแพ็คเกจจิ้งที่ปรับแต่งได้ อย่างไรก็ตาม เราจะยังคงเดินหน้าผลักดันการใช้งานแบบโหมดเดียว อย่างเช่น ซิลิคอนโฟโตนิกส์” Chongcook Kim ซีอีโอของ LESSENGERS กล่าว “การสาธิตโซลูชั่นเครื่องรับส่งสัญญาณออปติคอลที่ใช้เทคโนโลยี DOW ที่ประสบความสำเร็จนี้จะนำมาสู่ยุคใหม่ของการเชื่อมต่อออปติคอลกับศูนย์ข้อมูล และการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้จะรองรับความต้องการในอนาคตสำหรับโซลูชันการประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) และปัญญาประดิษฐ์ (AI)

การสาธิตของ LESSENGERS จะใช้กับ:

  • เครื่องรับส่งสัญญาณออปติคอล 800G QSFP-DD SR8
  • เครื่องรับส่งสัญญาณออปติคอล 400G QSFP112 SR4
  • เครื่องรับส่งสัญญาณออปติคอล 200G QSFP56 SR4
  • โมดูลออปติคอลขนาดเล็กพิเศษ 200G

เกี่ยวกับ LESSENGERS

LESSENGERS Inc. เป็นผู้ให้บริการโซลูชันการเชื่อมต่อออปติคอลที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เทคโนโลยีการเดินสายออปติคอลโดยตรง (DOW) ที่ได้รับสิทธิบัตรช่วยให้สามารถคู่ควบออปติคอลในขนาดซับไมโครมิเตอร์ที่มีความแม่นยำสูงและมีความหนาแน่นสูงระหว่างอุปกรณ์โฟโตนิกความเร็วสูงและท่อนำคลื่นออปติคอลต่าง ๆ ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด เครื่องรับส่งสัญญาณออปติคอล 800G/400G/200G ของ LESSENGERS/โซลูชันเคเบิลออปติคอลแบบแอ็คทีฟที่ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี DOW ที่มุ่งเน้นการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมได้ที่ www.lessengers.com 

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220912005022/en/

ติดต่อ:

LESSENGERS Inc.
Taeyong Kim, Ph.D
Chief Marketing Officer
+82-10-6549-7654
taeyong.kim@lessengers.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

EIG เตรียมเข้าถือครองหุ้น 25% ของธุรกิจต้นน้ำระดับโลกทั้งหมดของ Repsol ในการจับมือเป็นพันธมิตรครั้งใหม่

Logo

พอร์ตโฟลิโอธุรกิจต้นน้ำเกรดสูงขนาดใหญ่ที่ให้พลังงานที่ไว้ใจได้เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น

วอชิงตัน–(BUSINESS WIRE)–07 กันยายน 2565

วันนี้ EIG ผู้ลงทุนสถาบันชั้นนำในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ประกาศว่าได้บรรลุข้อตกลงในสัญญาหลัก (definitive agreement) กับ Repsol S.A. (“Repsol”) เพื่อเข้าถือหุ้น 25% ใน Repsol Upstream บริษัทด้านการสำรวจและผลิต (“E&P”) ระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจต้นน้ำด้านน้ำมันและก๊าซระดับโลกทั้งหมดของ Repsol ความเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ทำให้ Repsol มีเงินทุนเพิ่มขึ้นสำหรับเพิ่มการลงทุนในด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงาน โดยเฉพาะเพื่อสนับสนุนการเติบโตกลุ่มการผลิตพลังงานหมุนเวียน เชื้อเพลิงหมุนเวียน และผลิตภัณฑ์หมุนเวียนของ Repsol

ภายใต้ข้อกำหนดในข้อตกลงดังกล่าว Breakwater Energy บริษัทลูกที่ตั้งขึ้นมาใหม่โดย EIG เป็นเจ้าของทั้งหมด จะได้รับผลประโยชน์ 25% ใน Repsol Upstream โดยคิดเป็นมูลค่ารวมราว 4.8 พันล้านดอลลาร์รวมหนี้ โดย Repsol จะถือในส่วนที่เหลือ 75% ซึ่งชี้ให้เห็นถึงมูลค่าสุทธิของบริษัทที่ราว 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับ Repsol Upstream บริษัทจะอยู่ภายใต้การควบคุมของ Repsol เป็นหลัก และจะถูกรวมในบัญชีของ Repsol

Repsol Upstream เป็นบริษัทด้านการสำรวจและผลิตระดับโลกชั้นนำ ซึ่งจะเป็นเจ้าของและบริหารพอร์ตโฟลิโอธุรกิจต้นน้ำที่มีความหลากหลายทั่วโลกของ Repsol ที่จะสร้างการดำเนินงานที่ทำให้เกิดเงินสดและมีความยืดหยุ่นรอบ ๆ ศูนย์กลางประจำภูมิภาคหลัก ๆ โดยให้ความสำคัญกับสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก มีการคาดการณ์ว่า Repsol Upstream จะผลิตน้ำมันได้ราว 590,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 รวมถึงได้พิสูจน์และมีน้ำมันสำรองราว 2.3 พันล้านบาร์เรลเที่ยบเท่าสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 โดยประมาณ 70% เป็นก๊าซ นอกจากนั้น Repsol Upstream ยังถือครองทรัพยากรคอนทิงเจนท์มูลค่า 3.8 พันล้านบาร์เรลเทียบเท่าในวันเดียวกัน

บริษัทมุ่งมั่นกับการเป็นผู้นำในการลดการปล่อยก๊าซเรือยกระจก (GHG) โดยได้นำเป้าในปัจจุบันของ Repsol มาใช้ในช่วงเริ่มแรก ซึ่งได้แก่การลดความเข้มข้นของคาร์บอนให้ได้ 75% ภายในปี 2568 เริ่มนับจากปี 2559 และการนำแผนลดการสร้างคาร์บอนไดออกไซด์มาใช้ รวมถึงการกำหนดเป้าในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง บริษัทยังมีธุรกิจการสำรวจสีเขียวที่มุ่งไปทางการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (CCS) รวมถึงโครงการด้านพลังงานความร้อนใต้พิภพและการเก็บรักษาไฮโดรเจน

Repsol Upstream จะยังคงแรงงานปัจจุบันและทีมผู้บริหารชุดเดิมของธุรกิจไว้ โดยบริษัทคาดว่าจะได้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของ Repsol ซึ่งเป็นผู้ดำเนินกิจการต้นน้ำที่เป็นมาตรฐาน รวมถึงความรู้จาก EIG ทางด้านตลาดตราสารหนี้และตราสารทุนทั่วโลก และประสบการณ์ต้นน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา ทะเลเหนือ บราซิล และเอเชียแปซิฟิก Repsol Upstream ยังจะได้ประโยชน์จาก EIG ในด้านความเชี่ยวชาญใหม่ล่าสุดจากการก่อตั้ง การพลิกโฉม และการขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปของ Harbor Energy ได้สำเร็จ EIG เชื่อว่าธุรกรรมครั้งนี้จะพา Repsol Upstream เดินบนเส้นทางที่สู่สภาพคล่องของตลาดในอนาคต ทั้ง Repsol และ EIG ยังมองเห็นศักยภาพในการพาธุรกิจเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ นับตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยของตลาด

R. Blair Thomas ประธานและซีอีโอของ EIG กล่าวว่า “การเปลี่ยนผ่านพลังงานมีส่วนในทุกการตัดสินใจของเรา และพวกเราตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับผู้นำระดับโลกที่เป็นความสำเร็จของ Repsol ในโอกาสอันน่าสนใจนี้เพื่อเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่อุตสาหกรรมของเรา การประเมินผลกระทบของ ESG ถูกผนวกรวมในการลงทุนหลักของ EIG และการทำงานด้านบริหารจัดการของพอร์ตโฟลิโอ และเราตั้งตารอที่จะได้ทำงานกับ Repsol ธุรกิจระดับโลกและผู้นำด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงาน เพื่อเดินหน้าสร้างหลักปฏิบัติที่ดีของธุรกิจของ ESG ต่อไป ขณะที่โลกต้องการทำตามเป้าหมายในการกำจัดคาร์บอนควบคู่ไปกับการสร้างความน่าเชื่อถือ เราเชื่อว่าความร่วมมือกันครั้งนี้อยู่ในจุดที่เหมาะสมในการช่วยให้เราตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกต่อพลังงานที่สามารถเข้าถึงได้ มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย”

Josu Jon Imaz ซีอีโอของ Repsol กล่าวว่า “เรามีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงาน และข้อตกลงที่เป็นการบุกเบิกนี้จะทำให้เราสามารถคงทิศทางเชิงกลยุทธ์ของธุรกิจต้นน้ำเอาไว้ได้ ขณะเดียวกันก็ช่วยกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงของบริษัทและธุรกิจพลังงานแบบต่าง ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ให้ได้ภายในปี 2593”

EIG ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธุรกรรมครั้งนี้ จะได้รับสิทธิ์ในการเสนอสมาชิก 2 คนให้นั่งในคณะกรรมการบริหารของ Repsol Upstream จากทั้งหมด 8 คน โดย Repsol จะเสนอชื่อ 4 คน ส่วนที่เหลืออีก 2 คนจะเป็นคณะกรรมการอิสระ นอกจากนี้ EIG จะได้รับสิทธิ์ในการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงสองคนในทีมผู้บริหารของ Repsol Upstream โดย 1 คนจะรับตำแหน่งผู้อำนวนการของ ESG และอีก 1 คนจะเป็นหัวหน้าโครงการพิเศษต่าง ๆ รวมถึงการเตรียมขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO)

คาดว่าการทำธุรกรรมครั้งนี้จะปิดได้ภายใน 6 เดือน โดยเป็นไปตามเงื่อนไขการปิดตามธรรมเนียม

Goldman Sachs & Co LLC และ J.P. Morgan ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมนี้ให้กับ EIG โดย Goldman Sachs & Co LLC, J.P. Morgan และ Lazard ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาตลาดทุนที่เกี่ยวข้องการเงินของธุรกรรมนี้ และ Latham & Watkins ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมายให้กับ EIG

เกี่ยวกับ EIG 
EIG เป็นผู้ลงทุนสถาบันชั้นนำในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกด้วยเงิน 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ภายใต้การบริหาร ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 โดย EIG เชี่ยวชาญด้านการลงทุนภาคเอกชนในด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทั่วโลก ในช่วงประวัติศาสตร์ 40 ปี EIG ได้ให้คำมั่นสัญญามูลค่า 4.15 หมื่นล้านดอลลาร์แก่ภาคพลังงานผ่าน 387 โครงการหรือบริษัทใน 38 ประเทศใน 6 ทวีป ลูกค้าของ EIG ประกอบด้วยแผนบำเหน็จบำนาญ บริษัทประกันภัย เงินบริจาค มูลนิธิ และกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติในสหรัฐอเมริกา เอเชีย และยุโรปชั้นนำหลายแห่ง  EIG มีสำนักงานใหญ่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และมีสำนักงานในฮูสตัน ลอนดอน ซิดนีย์ รีโอเดจาเนโร ฮ่องกง และโซล สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปยังเว็บไซต์ของ EIG ที่ www.eigpartners.com.

เกี่ยวกับ Repsol 
Repsol เป็นบริษัทด้านพลังงานที่หลากหลายระดับโลก ซึ่งเป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานด้วยความมุ่งมั่นที่บรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 บริษัทมีการจ้างงานพนังงาน 24,000 คนทั่วโลกผ่านทุกห่วงโซ่คุณค่าทางด้านพลังงาน และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าราว 24 ล้านคนในเกือบ 100 ประเทศ

Repsol ได้นำโมเดลเทคโนโลยีลดคาร์บอนแบบบูรณาการมาใช้เพื่อบรรลุเป้าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ โดยอิงจากประสิทธิภาพที่ได้รับการยกระดับ กำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้น การผลิตเชื้อเพลิงคาร์บอนต่ำ การพัฒนาโซลูชันใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า เศรษฐกิจแบบหมุนเวียน และการขับเคลื่อนให้เกิดโครงการใหม่ ๆ เพื่อลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์ในอุตสาหกรรม

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220906006122/en/

ติดต่อ:

สื่อ 
EIG 

FGS Global 
Kelly Kimberly / Brandon Messina 
+1 212-687-8080 
EIG-SVC@sardverb.com

Repsol 
+34 91 753 8787 
prensa@repsol.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Kirin Holdings: ช้อนและชามที่ช่วยเพิ่มรสเค็มของอาหารที่มีโซเดียมต่ำได้ประมาณ 1.5 เท่า*1 ผ่านการกระตุ้น

Logo

  • พัฒนารูปแบบของคลื่นกระแสไฟฟ้าที่มีลักษณะเฉพาะซึ่งช่วยเพิ่มความเค็มของอาหารที่มีโซเดียมต่ำได้ประมาณ 1.5 เท่า
  • อุปกรณ์ "เกลืออิเล็กทริก" รูปทรงช้อนและชามที่มีรูปแบบของคลื่นกระแสไฟฟ้านี้ได้รับการพัฒนาขึ้น
  • การทดลองสาธิตร่วมกับสองบริษัทที่เสนอการรับประทานเพื่อสุขภาพเริ่มขึ้นในเดือนกันยายน
  • ตั้งเป้าเปิดตัวอุปกรณ์ที่ประเทศญี่ปุ่นในปี 2566

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–07 กันยายน 2565

Kirin Holdings Company, Limited (Kirin) และ Dr. Homei Miyashita แห่งมหาวิทยาลัย Meiji University Laboratory of Department of Frontier Media Science, School of Interdisciplinary Mathematical Sciences (Miyashita Laboratory) ได้พัฒนาเครื่องกระตุ้นอิเล็กทริกที่ลักษณะเฉพาะในการช่วยเพิ่มการรับรสเค็มเมื่อรับประทานอาหารที่มีโซเดียมต่ำได้ประมาณ 1.5 เท่า และพัฒนาอุปกรณ์ "เกลืออิเล็กทริก" รูปทรงช้อนและชามที่รวมเทคโนโลยีนี้เข้าด้วยกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220906005747/en/

Electric Salt Spoon (Photo: Business Wire)

ช้อนเพิ่มความเค็มอิเล็กทริก (ภาพ: Business Wire)

Kirin ร่วมกับ Noruto Company, Limited (Noruto) และ The Orangepage Inc. (Orangepage) จะเริ่มการทดลองสาธิตในเดือนกันยายนเพื่อประเมินความพึงพอใจในมื้ออาหารโดยการจัดให้อุปกรณ์นี้พร้อมอาหารที่มีโซเดียมต่ำเป็นชุด

เราตั้งเป้าที่จะเปิดตัวอุปกรณ์ "เกลืออิเล็กทริก" ในปี 2566 ด้วยอุปกรณ์นี้ เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมที่ผู้คนสามารถปรับปรุงวิถีชีวิตของพวกเขาได้อย่างเอร็ดอร่อย

ปัญหาสังคม “เกลือมากเกินไป”

ปริมาณเกลือที่คนญี่ปุ่นบริโภคในแต่ละวันคือ 10.9 กรัมสำหรับผู้ชาย และ 9.3 กรัมสำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป*2 ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าสูงมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานการบริโภคเกลือขององค์การอนามัยโลก (WHO)*3 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดญี่ปุ่นสำหรับอาหารที่มีโซเดียมต่ำและปราศจากเกลือได้ขยายตัวอย่างต่อเนื่องเพราะความใส่ใจในสุขภาพที่เพิ่มขึ้น โดยเติบโตขึ้นประมาณ 26% ในช่วงห้าปีระหว่างปี 2558 ถึง 2563 โดยประมาณการยอดขายอยู่ที่ 141.3 พันล้านเยน ในปี 2563*4 จากการสำรวจที่จัดทำโดยบริษัทของเรา*5 ของผู้อยู่อาศัยในเขตมหานครโตเกียว เราพบว่าประมาณ 63% ของผู้ที่รับประทานอาหารที่มีโซเดียมต่ำตั้งใจที่จะทำเช่นนั้นเพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ท้าทาย และในจำนวนนี้ประมาณ 80% ไม่พอใจกับรสชาติของอาหารที่มีโซเดียมต่ำ หากผู้คนยังคงสนุกกับการรับประทานอาหารที่มีโซเดียมต่ำต่อไป ก็จะช่วยปรับปรุงความท้าทายด้านสุขภาพและอาจขยายตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีโซเดียมต่ำและปราศจากเกลือได้

การวิจัยร่วมกันโดย Kirin และ Dr. Homei Miyashita Laboratory ของ Meiji University เพื่อแก้ปัญหาทางสังคม

ในการตอบสนองต่อปัญหาสังคมนี้ ตั้งแต่ปี 2562 เราได้ทำการวิจัยร่วมกับ Dr. Homei Miyashita Laboratory ในการใช้เทคโนโลยี "การรับรสด้วยอิเล็กทริก" ซึ่งใช้กระแสไฟฟ้าที่อ่อนมากซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์เพื่อการเปลี่ยนแปลงรสชาติของอาหารในการรับรู้ทางประสาทสัมผัสเทียม จากผลการวิจัยนี้ เราได้พัฒนารูปแบบของคลื่นกระแสไฟฟ้าที่มีลักษณะเฉพาะในการช่วยเพิ่มรสชาติของอาหารที่มีโซเดียมต่ำ และได้รับการยืนยันเป็นครั้งแรกในโลกว่าการรับรู้รสเค็มเมื่อรับประทานอาหารโซเดียมต่ำเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 เท่าในการทดสอบทางคลินิกกับผู้ที่เคยหรือกำลังลดเกลือ

วิวัฒนาการของอุปกรณ์โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้า

ในการสำรวจของเรา*6 บะหมี่ราเมนและซุปมิโซะได้รับการจัดอันดับที่หนึ่งและสองในแง่ของ "อาหารของผู้ที่พยายามลดการบริโภคเกลือต้องการกินที่มีรสชาติเข้มข้นแทนที่จะเป็นรสบางเบา" เราพบว่ามีความต้องการสูงสำหรับ "อาหารที่เป็นรางวัล" อย่างเช่น บะหมี่ราเมนซึ่งพวกเขาชอบแต่ละเว้นจากการรับประทานเนื่องจากการลดเกลือ รสจัด และความต้องการน้ำซุปที่รสอร่อยสูงซึ่งมีนิสัยชอบรับประทานเป็นประจำทุกวันแต่ไม่พอใจกับรสชาติ

เพื่อขจัดความอดทนที่ลูกค้ามีในการลดเกลือเหล่านี้และทำให้มื้ออาหารของพวกเขาน่ารับประทานยิ่งขึ้น เราจึงได้พัฒนา "ช้อนเพิ่มความเค็มอิเล็กทริก" และ "ชามเพิ่มความเค็มอิเล็กทริก" ซึ่งเหมาะสำหรับการรับประทานบะหมี่ราเมนและน้ำซุป

"ช้อนเพิ่มความเค็มอิเล็กทริก" และ "ชามเพิ่มความเค็มอิเล็กทริก" ที่พัฒนาขึ้นใหม่นั้นล้ำหน้ากว่าและติดตั้งเทคโนโลยีรูปแบบคลื่นกระตุ้นไฟฟ้า*7 ซึ่งพัฒนาโดย Kirin และ ห้องปฏิบัติการของ Dr. Homei Miyashita และนำเสนอเป็นอุปกรณ์ประเภทตะเกียบเพื่อการดำเนินการทางสังคม

ช้อนเพิ่มความเค็มอิเล็กทริก

คุณสมบัติ:
เปิดสวิตช์ไฟที่ด้ามจับของช้อนและตั้งค่าความเข้ม (4 ระดับ) ตามที่คุณต้องการ
หลังจากเลือกแล้ว ให้ใช้ช้อนในลักษณะเดียวกับช้อนปกติ
กระแสไฟฟ้าอ่อนจะถูกส่งผ่านอาหารเพื่อสร้างผลกระทบจากปลายช้อน

การใช้งานที่เป็นไปได้:
แทนช้อนบะหมี่ราเมน
สำหรับน้ำซุปและแกงที่มีส่วนผสมมากมาย
อาหารมื้ออื่น ๆ โดยทั่วไป

ชามเพิ่มความเค็มอิเล็กทริก

คุณสมบัติ:
เปิดสวิตช์ไฟที่ด้านข้างของชามและตั้งค่าความเข้ม (4 ระดับ) ตามที่คุณชอบ
หลังจากเลือกแล้ว ให้ใช้ชามเหมือนชามทั่วไป
วางมือที่ด้านล่างของชาม
เมื่อถือไว้ กระแสไฟฟ้าอ่อนจะไหลเข้าไปในชามเพื่อสร้างผลลัพธ์

การใช้งานที่เป็นไปได้:
เมื่อรับประทานซุปมิโซะหรือน้ำซุป
ใช้เป็นชามเสิร์ฟสำหรับบะหมี่ราเมนและบะหมี่อุด้ง

การทดลองความร่วมมือกับสองบริษัท เพื่อเสนอประสบการณ์การรับประทานเพื่อสุขภาพโดยใช้อุปกรณ์

เพื่อให้ชีวิตประจำวันมีการรับประทานเกลือที่เข้มข้นน้อยลง เรายังนำเสนออาหารเพื่อสุขภาพที่น่ารับประทานด้วย "ช้อนเพิ่มความเค็มอิเล็กทริก" และ "ชามเพิ่มความเค็มอิเล็กทริก" โดยใช้ความรู้ของเราที่ปลูกฝังในฐานะบริษัทด้านอาหาร ในเดือนกันยายนของปีนี้ การทดลองสาธิตโดยใช้อุปกรณ์ "เกลืออิเล็กทริก" จะดำเนินการร่วมกับ Noruto ซึ่งดำเนินการร้านค้าปลีกที่จำหน่ายเฉพาะผลิตภัณฑ์โซเดียมต่ำ "Muen.com" ซึ่งซื้อขายผลิตภัณฑ์เป็นจำนวนมากที่สุด*8 ในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาโดยบริษัทและ Orangepage การทดลองสาธิตจะเริ่มในเดือนกันยายน โดยสมาชิกของแต่ละบริษัทจะได้รับเชิญให้เข้าร่วม อาหารโซเดียมต่ำแสนอร่อยที่พัฒนาโดยทั้งสองบริษัทจะนำเสนอเป็นชุดพร้อมอุปกรณ์ "เกลืออิเล็กทริก" และจะมีการประเมินระดับความพึงพอใจของพวกเขา

โครงร่างของการทดลองสาธิต

  1. ระยะเวลาดำเนินการ: เดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน 2565
  2. เรื่อง: สมาชิกของ Noruto และ Orangepage
  3. รายละเอียดการใช้งาน: สำรวจการชิมที่หน้างาน การทดสอบการใช้งานในบ้านเพื่อใช้ที่บ้าน

การพัฒนาในอนาคต

ประโยชน์ของอุปกรณ์ "เกลืออิเล็กทริก" จะได้รับการยืนยันผ่านการทดลองสาธิตในปีนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะวางจำหน่ายอุปกรณ์ที่ประเทศญี่ปุ่นในปี 2566 เรากำลังพัฒนาอุปกรณ์ "เกลืออิเล็กทริก" เพื่อส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้าที่กังวลเรื่องการลดเกลือ ในอนาคตเราจะส่งเสริมความร่วมมือกับบริษัทหลายแห่งในการส่งมอบอาหารเพื่อสุขภาพให้กับลูกค้า และมุ่งมั่นที่จะให้บริการที่ช่วยให้ลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติ และบรรลุนิสัยการกินเพื่อสุขภาพโดยไม่ต้องอดทนหรือหงุดหงิดอีกต่อไป

เกี่ยวกับ Kirin Holdings

Kirin Holdings Company, Limited เป็นบริษัทระหว่างประเทศที่ดำเนินการในโดเมนอาหารและเครื่องดื่ม (ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม) โดเมนเภสัชกรรม (ธุรกิจเภสัชกรรม) และโดเมนวิทยาศาสตร์สุขภาพ (ธุรกิจวิทยาศาสตร์สุขภาพ) ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก

Kirin Holdings แกะรอยรากเหง้ามาจาก Japan Brewery ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2428 Japan Brewery ได้กลายเป็น Kirin Brewery ในปี 2450 ตั้งแต่นั้นมาบริษัทก็ได้ขยายธุรกิจด้วยการหมักและเทคโนโลยีชีวภาพเป็นเทคโนโลยีหลัก และเข้าสู่ธุรกิจเภสัชกรรมในช่วงปี 2523 ซึ่งธุรกิจทั้งหมดยังคงเป็นศูนย์กลางการเติบโตทั่วโลก ในปี 2550 Kirin Holdings ก่อตั้งขึ้นในฐานะบริษัทโฮลดิ้งอย่างแท้จริง และขณะนี้กำลังมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมโดเมนวิทยาศาสตร์สุขภาพ

ภายใต้วิสัยทัศน์ Kirin Group Vision 2027 (KV 2027) ซึ่งเป็นแผนการจัดการระยะยาวที่เปิดตัวในปี 2562 โดย Kirin Group มีเป้าหมายที่จะเป็น “ผู้นำระดับโลกในด้าน CSV* ซึ่งสร้างมูลค่าให้กับโลกของอาหารและเครื่องดื่มสู่เภสัชกรรม” ในอนาคต Kirin Group จะยังคงใช้จุดแข็งเพื่อสร้างมูลค่าทั้งทางด้านสังคมและเศรษฐกิจผ่านธุรกิจของบริษัท โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรลุการเติบโตอย่างยั่งยืนในมูลค่าองค์กร

  1. เปลี่ยนค่าการประเมินความเข้มข้นของความเค็มในตัวอย่างที่เลียนแบบอาหารธรรมดาและตัวอย่างที่มีเกลือน้อยกว่า 30% ทดสอบโดยใช้ตะเกียบที่ติดตั้งเทคโนโลยีเกลืออิเล็กทริก (กระแสไฟ 0.1~0.5 mA) ชายและหญิงอายุระหว่าง 40-65 ปี จำนวน 31 คน ที่เคยหรือกำลังลดเกลือถูกถามถึงระดับความเค็มที่พวกเขารับรู้เมื่อรับประทานอาหารทดลอง และผู้ตอบแบบสอบถาม 29 ใน 31 คนตอบว่า ความเค็มเพิ่มขึ้น
  2. การสำรวจสุขภาพและโภชนาการแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการปี 2565
  3. น้อยกว่า 5.0 กรัม/วัน (ปี 2555 แนวทางของ WHO)
  4. Fuji Keizai "แนวโน้มตลาดอาหารเพื่อสุขภาพปี 2562" ขนาดตลาดปี 2563เป็นการคาดการณ์
  5. การวิจัย Kirin ระยะเวลาสำรวจ: มิถุนายน 2564 เป้าหมาย: ชายและหญิงอายุ 40-79 ปี อาศัยอยู่ในเขตมหานครโตเกียว (N=4,411) รูปแบบ: การสำรวจทางเว็บ ประมาณ 47% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมดรับประทานอาหารที่โซเดียมต่ำ/เต็มใจที่จะทำเช่นนั้น
  6. การวิจัย Kirin ระยะเวลาสำรวจ: มกราคม 2565 เป้าหมาย: ชายและหญิงอายุ 30-69 ปี จำนวน 120 คนที่กำลังฝึกลดเกลือ รูปแบบ: แบบสำรวจ CLT อนุญาตให้ตอบได้หลายแบบ
  7. ข่าวประชาสัมพันธ์ของผลการวิจัย (วันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2565) https://www.kirinholdings.com/jp/newsroom/release/2022/0411_01.html
  8. ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีโซเดียมต่ำจำนวนมากที่สุดที่ซื้อขายในประเทศญี่ปุ่น/ วิจัยโดย Nord (อ้างอิงจากข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ณ วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2565)

*: การสร้างมูลค่าร่วมกัน รวมมูลค่าเพิ่มสำหรับผู้บริโภคตลอดจนสังคมโดยทั่วไป

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220906005747/en/

ติดต่อสื่อ
Corporate Communication Department
Kirin Holdings Company, Limited
Nakano Central Park South, 4-10-2 Nakano, Nakano-ku, Tokyo
+81-3-6837-7028
https://www.kirinholdings.com/en/
kirin-cc@kirin.co.jp

Public Relations Office, Meiji University
1-1 Kanda-Surugadai, Chiyoda-ku, Tokyo
https://www.meiji.ac.jp/cip/english/
Email: koho@mics.meiji.ac.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


Smiths Detection จัดหาระบบตรวจสอบสินค้าให้กับศุลกากรโยโกฮาม่า

Logo

โดยจะถูกนำไปใช้เพื่อสแกนสินค้าที่ไซต์ Honmoku และ Sendai

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–05 ก.ย. 2022

Smiths Detection ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีการตรวจจับภัยคุกคามและการตรวจสอบความปลอดภัยประกาศว่าได้ทำสัญญาเพื่อจัดหาระบบตรวจสอบสินค้า (Cargo Inspection Systems – CIS) ให้กับหน่วยงานศุลกากรของโยโกฮาม่า

ระบบ CIS ของ Smiths Detection จะถูกนำไปใช้ที่ศูนย์ตรวจสอบ Honmoku และ Sendai สำหรับคัดกรองรถบรรทุกเพื่อตรวจหาสารเสพติดและสิ่งของต้องห้ามอื่นๆ พร้อมกับซอฟต์แวร์ที่ทันสมัย ​​ ระบบ CIS จะแยกแยะระหว่างวัสดุและลดการเคลื่อนที่ของสารและสินค้าที่ผิดกฎหมาย ในขณะที่ช่วยรักษากระแสการค้าอย่างต่อเนื่อง

ระบบ CIS จะต้องติดตั้งเทคโนโลยีสายพานลำเลียง ซึ่งจะให้ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นและปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ระบบที่โรงงานทั้งสองแห่งจะได้รับการติดตั้งในเดือนพฤษภาคม 2566

Aurelien Guilbert กรรมการผู้จัดการของภูมิภาคเอเชียเหนือและเอเชียใต้ Smiths Detection กล่าวว่า "เราภูมิใจที่หน่วยงานศุลกากรของเมืองใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่นได้เลือกเทคโนโลยีของ Smiths Detection เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับพอร์ต  ระบบตรวจสอบสินค้าของเราได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบความปลอดภัย เพื่อรักษาความคล่องตัวของยานพาหนะและสินค้า ด้วยระบบสายพานลำเลียงที่เพิ่มประสิทธิภาพเพิ่มเติม เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมมือกับหน่วยงานศุลกากรทั่วประเทศญี่ปุ่นต่อไป”

###

เกี่ยวกับ Smiths Detection

Smiths Detection แผนกหนึ่งของ Smiths Group เป็นผู้นำระดับโลกในด้านเทคโนโลยีการตรวจสอบและตรวจจับสำหรับการขนส่งทางอากาศ ท่าเรือและชายแดน กองกำลังติดอาวุธ และการรักษาความปลอดภัยในเมือง ด้วยประสบการณ์มากกว่า 70 ปีในสาขานี้ เรานำเสนอโซลูชั่นที่จำเป็นในการปกป้องสังคมจากภัยคุกคามจากวัตถุระเบิด อาวุธต้องห้าม ของเถื่อน สารเคมีที่เป็นพิษ และยาเสพติด

ภารกิจของเรานั้นเรียบง่าย: เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัย ความสบายใจ และเสรีภาพในการเคลื่อนไหวที่โลกต้องพึ่งพา

กรุณาเยี่ยมชม http://www.smithsdetection.com/ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220830005768/en/

ติดต่อ:

FTI Consulting:
Tom Hufton/Georgina Reeves/Zoe Williams
sc.smithsdetection@fticonsulting.com
+44 (0)20 3727 1000

Smiths Detection:
Sophie Mills หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กร
sophie.mills@smithsdetection.com
+44 (0)73 8423 6474

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

The Bangkok Reporter