Medidata เปิดตัวแอพ myMedidata ตัวใหม่ของตัวเอง เพื่อย่นเวลาในการทำวิจัยในระยะเริ่มต้นและพัฒนาประสบการณ์ของผู้ป่วย

Logo

ออกแบบโดยการนำเสียงสะท้อนจากลูกค้าและผู้ป่วยมาปรับใช้เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับกิจกรรม eCOA และกิจกรรมการศึกษาทดลองเชิงคลินิกแบบกระจายจากศูนย์กลาง (DCTs) อื่นๆ

  • ด้วยพลังจาก Medidata Designer ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยสร้างตัวใหม่ ทำให้แอพ myMedidata สามารถย่นระยะเวลาในการศึกษาวิจัยในระยะเริ่มต้นได้อย่างมีนัยยะสำคัญ
  • ผสานการทำงานอย่างเต็มรูปแบบร่วมกับแพลตฟอร์มของ Medidata ซึ่งรวมถึง Rave EDC
  • ผู้ป่วยสามารถใช้บัญชี myMedidata ของตนเองสลับไปมาระหว่างกันในแอพ บนเว็บไซต์ได้ หรือสามารถนำบัญชีมาใช้ร่วมกับอุปกรณ์ของตนเองหรืออุปกรณ์ที่จัดหาไว้ให้ชั่วคราว ทำให้ผู้ป่วยมีทางเลือกและการเข้าถึงที่มากขึ้น
  • โซลูชัน DCT แบบเบ็ดเสร็จหนึ่งเดียวของวงการได้รับการสนับสนุนจากทีมผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับความไว้วางใจของ Medidata รวมถึงข้อมูลจากการเก็บตัวอย่าง และเป็นไปตามมาตรฐานความเป็นส่วนตัว

นิวยอร์ก –(BUSINESS WIRE)–6 ธันวาคม 2022

Medidata ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Dassault Systèmes ได้เปิดตัวแอพใหม่ของทางบริษัท ชื่อว่า myMedidata app ที่มุ่งเน้นไปที่ตัวผู้ป่วยเป็นสำคัญ โดยมีการออกแบบให้ผู้เข้าร่วมงานวิจัยมีทางเลือกเพิ่มเติมเพื่อประสบการณ์ในการใช้แพลตฟอร์มแบบไร้ขีดจำกัด และเข้าถึงได้ด้วยการล็อกอินเพียงครั้งเดียวสำหรับการเข้าร่วมการทดสอบทางไกลของผู้เข้าร่วมงานวิจัยทุกคน แอพจะชูจุดเด่นโซลูชันที่มุ่งเน้นไปที่ตัวผู้ป่วยเป็นสำคัญของ myMedidata ทั้งหมด โดยให้ความสนใจเริ่มต้นที่ eCOA (การประเมินผลลัพธ์เชิงคลินิกทางอิเล็กทรอนิกส์) แอพ myMedidata พร้อมให้บริการใน iOS และ Android รวมถึงสามารถใช้ได้ทั้งในอุปกรณ์ของผู้ป่วยเอง (BYOD) หรือผ่านอุปกรณ์ที่จัดหาไว้ให้ชั่วคราว

“สิ่งที่เราใส่เข้าไปในแอพ myMedidata ล่าสุดทำให้แอพดังกล่าวกลายเป็นแอพที่มีความทันสมัยสำหรับผู้ป่วย โดยมีการออกแบบร่วมกันกับทีมจัดเก็บข้อมูลเชิงลึกของผู้ป่วยของเรา รวมถึงการนำเอาผลตอบรับจากผู้บริโภค และประสบการณ์ที่ได้จากการศึกษาทดลองเชิงคลินิกแบบกระจายจากศูนย์กลาง (DCTs) ที่ใหญ่ที่สุดของโลกมาปรับใช้ตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา” Matt Noble รองประธานอาวุโสของ Medidata Patient Cloud กล่าว “Medidata กำลังนำความรู้เชิงลึกที่ได้จากสปอนเซอร์ ผู้รับวิจัยทางคลินิก (CRO) รวมถึงการเก็บข้อมูลในพื้นที่จริง และข้อมูลจากผู้ป่วย มาใช้เพื่อสร้างความแตกต่างที่แท้จริงในด้านประสบการณ์การทดลองเชิงคลินิก”

แอพ myMedidata ซึ่งเป็นแอพที่ไม่เหมือนใครในวงการ ได้ผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกับแพลตฟอร์ม Medidata รวมถึงการทำงานร่วมกับ Rave EDC (การจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์) ทำให้เกิดเป็นอีโคซิสเต็มที่สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างสมบูรณ์ โดยข้อมูลของผู้ป่วย กิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดในพื้นที่จริง และการบริการจัดการข้อมูลหลังบ้าน จะสามารถดำเนินไปพร้อม ๆ กันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

แอพดังกล่าวได้รับการออกแบบโดยใช้ Medidata Designer ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการติดตั้งแพลตฟอร์มตัวใหม่ ทำให้แอป myMedidata ได้ตัวสร้างเวิร์กโฟลว์ที่มุ่งเน้นไปที่ตัวผู้ป่วยเป็นสำคัญโดยเน้นใช้ในหน้าจอมือถือก่อน ซึ่งจากการใช้ Designer  ทำให้สปอนเซอร์และผู้รับวิจัยทางคลินิก (CRO) สามารถสร้างประสบการณ์ของผู้ป่วยที่หลากหลายผ่านเทมเพลตหน้าจอแบบลากแล้ววางที่ใช้งานง่าย รวมถึงผ่านเครื่องมือเวิร์กโฟลว์ภาพ ซึ่งจะสร้างฐานข้อมูลทางคลินิกในเบื้องหลังไปพร้อมกันโดยไม่ต้องใช้รหัสแบบกำหนดเองใดๆ นอกจากนี้ Designer ยังช่วยย่นระยะเวลาในการศึกษาวิจัยได้อย่างมาก โดยการใช้ประโยชน์จาก Medidata และฐานข้อมูลของลูกค้า ซึ่งรวมไปถึงอุปกรณ์ eCOA ที่สร้างไว้ก่อนล่วงหน้า การแปลข้อมูล และการคัดกรองข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการวิจัย

Medidata เป็นบริษัทในเครือของ Dassault Systèmes โดยเป็นบริษัทลูกที่บริษัทแม่ลงทุนด้วยตนเองทั้งหมด ด้วยแพลตฟอร์ม  3DEXPERIENCE ที่ถูกกำหนดให้เป็นผู้นำในการปฏิรูปทางดิจิทัลในด้านชีววิทยาศาสตร์ในยุคของการแพทย์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยในระดับปัจเจกบุคคล พร้อมด้วยแพลตฟอร์มทางด้านวิทยาศาสตร์และธุรกิจที่ครบครันแพลตฟอร์มแรก ตั้งแต่การวิจัยไปจนถึงการบริหารจัดการทางธุรกิจ

เกี่ยวกับ Medidata            
Medidata กำลังเป็นผู้นำในการปฏิรูปทางดิจิทัลในด้านชีววิทยาศาสตร์ สร้างความหวังให้กับผู้ป่วยหลายล้านคน Medidata ช่วยสร้างหลักฐานและความรู้เชิงลึกเพื่อช่วยบริษัทที่ทำธุรกิจด้านยา เทคโนโลยีชีวภาพ อุปกรณ์การแพทย์และการวินิจฉัย ตลอดจนนักวิจัยทางวิชาการเพิ่มมูลค่า ผู้บริโภคมากกว่า 2,000 คน และหุ้นส่วนทางธุรกิจสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในโลกเพื่อการพัฒนาทางคลินิก รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลทางการค้าและข้อมูลในโลกแห่งความเป็นจริง Medidata ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Dassault Systèmes (Euronext Paris: FR0014003TT8, DSY.PA) มีสำนักงานใหญ่อยู่ในมหานครนิวยอร์ก และมีสำนักงานกระจายอยู่ทั่วโลกเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.medidata.com และติดตามเราได้ทาง @Medidata

เกี่ยวกับ Dassault Systèmes

Dassault Systèmes ซึ่งเป็นบริษัท 3DEXPERIENCE คือผู้ที่คอยขับเคลื่อนให้มนุษยชาติก้าวไปข้างหน้า เราได้นำเสนอเทคโนโลยีเสมือนจริงสามมิติให้กับวงการธุรกิจและประชาชนทั่วไปเพื่อให้ทุกคนสามารถมองเห็นถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน จากการสร้างสรรค์ประสบการณ์โลกเสมือนจริงแบบคู่ขนานไปกับโลกแห่งความเป็นจริงด้วยแพลตฟอร์มและแอพพลิเคชัน 3DEXPERIENCE ทำให้ลูกค้าของเราสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดในการสรรสร้างนวัตกรรม การเรียนรู้ และการผลิต เพื่อโลกที่มีความยั่งยืนขึ้นสำหรับผู้ป่วย ประชาชนทั่วไป และลูกค้า นอกจากนี้ Dassault Systèmes ได้สร้างสิ่งสำคัญอย่างยิ่งให้กับลูกค้าทุกขนาด ทุกวงการ นับ 300,000 ราย ในประเทศต่างๆ มากกว่า 140 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.3ds.com

3DEXPERIENCE, ไอคอน Compass, โลโก้ 3DS, CATIA, BIOVIA, GEOVIA, SOLIDWORKS, 3DVIA, ENOVIA, NETVIBES, MEDIDATA, CENTRIC PLM, 3DEXCITE, SIMULIA, DELMIA และ IFWE เป็นเครื่องหมายทางการค้าในเชิงพาณิชย์ หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Dassault Systèmes เป็น สัญชาติฝรั่งเศส “ในสหภาพยุโรป” (ทะเบียนการค้าแห่งแวร์ซาย # B 322 306 440) หรือเป็นของบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกา และ/หรือ ประเทศอื่น ๆ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Tom Paolella
ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการสื่อสารและกิจการองค์กร
+1-848-203-7596 
thomas.paolella@3ds.com

Paul Oestreicher
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารภายนอก
+1-917-522-4692 
paul.oestreicher@3ds.com

ที่มา: Medidata

SMART Modular Technologies เปิดตัว SSD ศูนย์ข้อมูลตระกูลใหม่

Logo

SSD ศูนย์ข้อมูลตระกูล DC4800 ที่เต็มไปด้วยฟีเจอร์เป็นศูนย์ข้อมูลที่เป็นไปตามหลัก OCP และออกแบบมาเพื่อตอบสนองตลาดที่ต้องการศูนย์ข้อมูลยุคใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงแต่ประหยัดพลังงาน

นครไทเปใหม่ ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–7 ธันวาคม 2022

SMART Modular Technologies, Inc. (“SMART”) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ SGH (Nasdaq: SGH) และผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีหน่วยความจำ SSD และผลิตภัณฑ์เก็บข้อมูลแบบไฮบริด ได้ประกาศว่าตอนนี้บริษัทจะวางจำหน่ายโซลิดสเตตไดรฟ์หรือ SSD สำหรับศูนย์ข้อมูลรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงาน โดยจะเริ่มจากผลิตภัณฑ์ตระกูล DC4800 PCIe Gen 4

SMART’s DC4800 PCIe Gen4 NVMe drives are designed to meet the increasing demands placed on storage systems in hyperscale, hyper converged, enterprise and edge data centers. (Photo: Business Wire)

ไดรฟ์ DC4800 PCIe Gen4 NVMe ของ SMART ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในระบบจัดเก็บข้อมูลในศูนย์ข้อมูลระดับไฮเปอร์สเกล ไฮเปอร์คอนเวอร์จ องค์กร และเครือข่ายเอดจ์ (ภาพ: Business Wire)

อุปกรณ์ DC4800 จาก SMART ออกแบบโดยใช้ตัวควบคุม SSD ที่เพิ่มความเร็วให้กับฮาร์ดแวร์เป็นพิเศษ ซึ่งจะใช้พลังงานน้อยลง โดยที่ประสิทธิภาพอินพุต/เอาต์พุต (I/O) ในการเก็บข้อมูลเอาไม่ลดลง การควบคุมปริมาณที่ไร้การเหนี่ยวนำทำให้ SSD รุ่นใหม่นี้ทำงานได้ดีขึ้นในภาวะที่ต้องทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะถูกใช้งานจนถึงขีดสุดความสามารถก็ตาม นี่แปลว่าแต่ละเซิร์ฟเวอร์จะใช้พลังงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างมาก รวมถึงประสิทธิภาพเวลาแฝงที่สม่ำเสมอสูงถึง 7-nine หรือ 99.99999% ของเวลาทั้งหมด

Andy Mills สถาปนิกศูนย์ข้อมูลจาก SMART กล่าวว่า “ปัจจุบันเซิร์ฟเวอร์ระดับแนวหน้าไม่เพียงแต่ต้องรับมือกับการรับส่งข้อมูลจำนวนมากเพื่อให้กระบวนการต่างๆ ทำงานได้ เช่น แมชชีนเลิร์นนิง ปัญญาประดิษฐ์ และ IoT เท่านั้น แต่ยังต้องใช้พลังงานให้ประหยัดขึ้นด้วย” “เราต่างก็คาดหวังให้ศูนย์ข้อมูลทำงานให้มีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีเวิร์กโหลดแบบใหม่ๆ ให้ศูนย์ข้อมูลต้องจัดการ ซึ่งจำเป็นต้องมีการประมวลผลข้อมูลจากอุปกรณ์ยุคใหม่มากมายที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา"

ไดรฟ์สำหรับศูนย์ข้อมูลอย่าง PCIe Gen 4 ตระกูล DC4800 นั้นเป็นไปตามมาตรฐานพื้นที่จัดเก็บข้อมูล Open Compute Project หรือ OCP 1.0 NVMe และมีความจุสูงสุด 7.68TB โดยมีให้เลือกทั้งแบบ U.2 และ E1.S ปัจจุบันได้เริ่มทดลองการใช้งานกับ OEM และผู้สร้างระบบหลายรายแล้ว

หากต้องการข้อมูลทั่วไปและข้อมูลเทคนิคเพิ่มเติม โปรดอ่านหน้าผลิตภัณฑ์ DC4800 ที่ smartm.com

เกี่ยวกับ SMART Modular Technologies

SMART Modular Technologies ได้ช่วยเหลือลูกค้าทั่วโลกเกี่ยวกับการใช้การประมวลผลประสิทธิภาพสูงโดยมอบการออกแบบ การพัฒนา และบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงของโซลูชันหน่วยความจำพิเศษมาแล้วกว่า 30 ปี  บริษัทมีตัวเลือกผลิตภัณฑ์ชั้นยอดมากมาย ตั้งแต่เทคโนโลยีชั้นนำยุคใหม่ไปจนถึงพื้นที่จัดเก็บความจำ DRAM และ Flash ยุคเก่า บริษัทให้บริการหน่วยความจำและโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลแบบมาตรฐานที่ทนทานและกำหนดเองได้ ซึ่งตอบสนองความต้องการของแอปพลิเคชันที่หลากหลายในตลาดที่มีการเติบโตสูง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53015439/en

ข้อมูลติดต่อ

ข้อมูลติดต่อฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์
Andy Mills
SMART Modular Technologies
Business Development
39870 Eureka Dr., Newark, CA 94583
info@smartm.com

ข้อมูลติดต่อสำหรับสื่อ
APAC
Morris Yang
Marketing Manager
+886 (2) 7705 2770
apac@smartm.com

แหล่งข้อมูล: SMART Modular Technologies, Inc.

Huawei เผยแพร่เอกสารนำเสนอข้อมูลฉบับแรกเกี่ยวกับแนวทางสู่ความเป็นธรรม ความเสมอภาค และโอกาส

Logo

การเรียกร้องให้สร้างการแข่งขันอย่างเป็นธรรมสำหรับทุกคน

VIENNA–(BUSINESS WIRE)–2 ธันวาคม 2022

Huawei เรียกร้องให้ผู้มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรม ICT สร้างการแข่งขันที่เสมอภาคสำหรับทุกคน ไม่ใช่เพียงพนักงานของพวกเขาเอง ในเอกสารนำเสนอข้อมูลฉบับแรกที่เกี่ยวกับแนวทางสู่ความเป็นธรรม ความเสมอภาค และโอกาส ที่งาน Women in Tech ซึ่งจัดขึ้นที่ Peter Drucker Forum

(Graphic: Business Wire)

(กราฟิก: Business Wire)

เอกสารนำเสนอข้อมูลนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญต่อเนื่องของ Huawei ที่มุ่งไปที่การเพิ่มการศึกษาและการเข้าถึงทักษะดิจิทัลสำหรับผู้หญิงทั่วโลก เช่นเดียวกับบริษัทอื่น ๆ ในอุตสาหกรรม ICT Huawei สนับสนุนความยุติธรรม โอกาส และความเสมอภาคในการดำเนินงานของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทได้ดำเนินขั้นตอนที่สามารถวัดผลได้เพื่อเพิ่มความหลากหลายในพนักงานและเพิ่มการเป็นตัวแทนภายในของกลุ่มคนชายขอบ

เป็นที่เข้าใจกันอย่างกว้างขวางว่า ผลลัพธ์ที่มีนัยสำคัญและจับต้องได้จากโปรแกรมดังกล่าวมักจะเป็นรูปเป็นร่างได้ช้า ด้วยเหตุนี้ Huawei จึงมุ่งความสนใจไปที่การดำเนินการที่เกินขอบเขตของกลุ่มผู้มีความสามารถเป็นของตนเอง และสร้างโครงการเฉพาะที่มุ่งสร้างประโยชน์ให้กับแวดวงเทคโนโลยีโดยรวม

ด้วยการใช้ ICT ในการเชื่อมต่อผู้ที่ไม่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรม Huawei หวังว่าจะสามารถทำให้ทุกคนมีเส้นทางเป็นของตัวเองและมีโอกาสที่เหมาะสมในการทำตามความฝัน เอกสารนำเสนอข้อมูลนี้ประกอบด้วยบทสัมภาษณ์พนักงานของ Huawei ทั่วโลกเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากำลังทำเพื่อบรรลุเป้าหมายเหล่านี้

งาน "Women in Tech Carnival" นำผู้นำหญิงที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกมารวมตัวกัน รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้หญิงสาวที่มีความสามารถที่จะเติบโตและมีบทบาทเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

ผู้ได้รับรางวัลโนเบล Ada Yonath กล่าวเปิดงานว่า "วิทยาศาสตร์ไม่เกี่ยวกับเพศ และสาขาอื่น ๆ ก็เช่นกัน"

Huawei เปิดตัวโครงการ Women in Tech อย่างเป็นทางการในปี 2020 ตามปรัชญา "Tech for Her, Tech by Her, Tech with Her" ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมา Huawei ได้พัฒนาและใช้เทคโนโลยีที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้หญิงโดยเฉพาะ สร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อผู้หญิงมากขึ้นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และสนับสนุนให้ผู้หญิงมีบทบาทเป็นผู้นำมากขึ้น

หลังจากผ่านไปเกือบสามปี โครงการริเริ่ม Women in Tech ได้เริ่มใช้ในหลายประเทศทั่วโลก โดยในเดือนกรกฎาคม ปี 2022 นั้น European Leadership Academy's School for Women Leadership In The Digital Age รอบที่สามได้จัดขึ้นที่กรุงปราก ประเทศเช็ก โปรแกรมนี้รวบรวมผู้นำหญิงในอนาคตเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เพื่อเข้าร่วมมาสเตอร์คลาส โครงการทีม เซสชันการเรียนรู้เชิงรุก กิจกรรมกลุ่ม อาหารค่ำตามธีม และประสบการณ์ทางวัฒนธรรม นอกจากนี้ Huawei Ghana ยังเปิดหลักสูตรสำหรับนักเรียนหญิงและผู้ค้า 50,000 คนเกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์และทักษะดิจิทัลอื่น ๆ

อีกทั้ง Huawei ยังได้ปล่อยวิดีโอ 2 รายการที่เน้นการเป็นแบบอย่างของผู้นำสตรี

คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดเอกสารนำเสนอข้อมูล: A White Paper on Huawei's Approach to Fairness, Equity & Opportunity – Huawei

คลิกที่นี่เพื่อดู Tech by her interviews

บันทึกฉบับเต็ม: https://www.huawei.com/en/events/women-in-tech

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ancky.zhou@huawei.com

แหล่งที่มา: Huawei

Trilliant ได้รับเลือกจาก ESB Networks ให้จัดหามิเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะเพื่อสนับสนุนโครงการ National Smart Metering ของไอร์แลนด์

Logo

เทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญของ Trilliant ช่วยให้ ESB Networks ดำเนินงานได้ต่อไป โดยทำการอัปเกรดมิเตอร์ไฟฟ้าในบ้าน ฟาร์ม และธุรกิจในสาธารณรัฐไอร์แลนด์

FRANKFURT, Germany–(BUSINESS WIRE)–1 ธันวาคม 2022 

Enlit Europe 2022 – Trilliant ผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านโซลูชันสำหรับโครงสร้างพื้นฐานการวัดแสงขั้นสูง (AMI) ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (smart grid) เมืองอัจฉริยะ (smart cities) และ IIoT ได้ประกาศว่า Trilliant Networks Operations (UK) Ltd. สำนักงานในสหราชอาณาจักร ได้รับเลือกจาก ESB Networks ให้เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ที่จัดหามิเตอร์อัจฉริยะเพื่อสนับสนุนการเปิดตัว National Smart Metering Program (NSMP) ของไอร์แลนด์ โปรแกรมนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ลูกค้าบริหารจัดการการใช้พลังงานได้ง่ายขึ้น ประหยัดเงิน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงนี้ Trilliant และหุ้นส่วน Holley Technology Ltd. จะรับผิดชอบในการจัดหา ESB Networks ที่มีมิเตอร์แบบสามเฟส ซึ่งรวมถึงการนำไปใช้งาน การทดสอบ การบำรุงรักษา และการสนับสนุนสำหรับมิเตอร์ ด้วยความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีของ Trilliant and Holley บ้าน ฟาร์ม และธุรกิจจะได้รับประโยชน์จากการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การเรียกเก็บเงินที่แม่นยำยิ่งขึ้น การจัดการเครือข่ายที่ได้รับการปรับปรุง และอื่น ๆ อีกมากมาย

ในฐานะส่วนหนึ่งของแผนปฏิบัติการด้านสภาพอากาศแห่งชาติ ESB Networks ได้รับมอบหมายให้อัปเกรดมิเตอร์ไฟฟ้าทั้งหมดในสาธารณรัฐไอร์แลนด์ให้เป็นมิเตอร์อัจฉริยะ Trilliant เป็นซัพพลายเออร์ ESB Networks ที่ได้รับการอนุมัติสำหรับมิเตอร์อัจฉริยะและบริการที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ปี 2021 เมื่อมีการลงนามกรอบความตกลงสำหรับระบบเฮดเอนด์ ระบบการจัดการข้อมูลมิเตอร์ และสถาปัตยกรรมระบบความปลอดภัย

“เราตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ ESB Networks รวมถึงจัดหาเทคโนโลยีที่ดีที่สุดและสนับสนุนโครงการที่เปลี่ยนแปลงนี้ในไอร์แลนด์” กล่าวโดย Tom Tipple กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกาของ Trilliant “ด้วยความร่วมมือนี้ การทำงานร่วมกันของเราจะส่งผลให้เกิดโซลูชันที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ ซึ่งสามารถเปลี่ยนระบบสาธารณูปโภคของ ESB Networks ได้”

“โปรแกรมการเปลี่ยนมิเตอร์ของเราช่วยให้ไอร์แลนด์มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นและยั่งยืนมากขึ้น” กล่าวโดย Carmel O’Connor ผู้จัดการโครงการ Smart Metering Project ของ ESB Networks “เรามีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ Trilliant ในขั้นตอนต่อไปของแผนการปรับใช้ของเรา ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะช่วยให้เจ้าของบ้านและธุรกิจมีทางเลือกมากขึ้น รวมถึงข้อมูลที่ดีขึ้นและเข้าถึงได้มากขึ้นเกี่ยวกับการใช้พลังงานของพวกเขา”

Trilliant และ Holley จะทำงานอย่างใกล้ชิดกับ ESB Networks ในการออกแบบขั้นสุดท้ายเพื่อให้แน่ใจว่ามิเตอร์เป็นไปตามความต้องการและข้อกำหนดของ ESB Networks อย่างครบถ้วนตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ผ่านเฟส 3 ของโปรแกรมการติดตั้งระดับประเทศของ ESB Networks

เกี่ยวกับ Trilliant

Trilliant® ให้อำนาจแก่อุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลกด้วยแพลตฟอร์มการสื่อสารที่ใช้งานง่ายในอุปกรณ์เดียวที่ช่วยให้ระบบสาธารณูปโภคและเมืองต่าง ๆ สามารถปรับใช้แอปพลิเคชันนั้น ๆ ได้อย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้บนเครือข่ายอันทรงพลังเพียงเครือข่ายเดียว พอร์ตโฟลิโอที่สร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์ของเราได้รับการออกแบบมาเพื่อนำเสนอทางเลือกที่ทรงพลัง โดยไม่ต้องเสี่ยงกับการที่ลูกค้าจะต้อง “ผูกมัด” กับผู้ให้บริการเทคโนโลยีรายเดียวหรือผู้ผลิตมิเตอร์ เราภูมิใจที่จะนำเสนอโซลูชันที่มีความสำคัญต่อภารกิจซึ่งสนับสนุน AMI ข้อมูลและการวิเคราะห์ มิเตอร์อัจฉริยะ ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ และเมืองอัจฉริยะ ลูกค้าทั่วโลกได้รับประโยชน์จากการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของ Trilliant ในด้านความยืดหยุ่น ความยั่งยืน และความสามารถในการปรับขนาด ซึ่งเชื่อมต่อสาธารณูปโภคและเมืองต่าง ๆ เข้ากับ II0T และเส้นทางเชิงกลยุทธ์ที่มากขึ้นเพื่อไปสู่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน สามารถเยี่ยมชมเราได้ที่ www.trilliant.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Tracey Mitchell
tracey.mitchell@trilliant.com

Cindy Watson/Anita Wong
StrategicAmpersand Inc.
TrilliantPR@stratamp.com

แหล่งที่มา: Trilliant

Arm ประกาศแต่งตั้ง Paul E. Jacobs และ Rosemary Schooler ขึ้นรับตำแหน่งคณะกรรมการบริหาร

Logo

CAMBRIDGE, อังกฤษ–(BUSINESS WIRE)–30 พฤศจิกายน 2022

ในวันนี้ Arm ได้ประกาศแต่งตั้งสมาชิกใหม่สองรายขึ้นดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหาร โดยสมาชิกดังกล่าวได้แก่ Dr. Paul E. Jacobs ประธานและ CEO ของ XCOM Labs และอดีตซีอีโอและประธานกรรมการบริหารของ Qualcomm Inc. ส่วนด้าน Rosemary Schooler นั้นเป็นอดีตรองประธานบริษัทและผู้จัดการทั่วไปของฝ่ายขาย AI และศูนย์ข้อมูลของ Intel สมาชิกใหม่ทั้งสองรายนี้จะนำประสบการณ์อันกว้างขวางจากการทำงานในบริษัทมหาชนทั้งในด้านการพัฒนาเทคโนโลยี กลยุทธ์ทางธุรกิจ และการกำกับดูแลกิจการมาช่วยส่งเสริม Arm ให้พร้อมสำหรับการนำหุ้นเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์

“ประสบการณ์สุดลึกล้ำหาใดเปรียบของทั้ง Paul และ Rosemary จะช่วยขยายขอบเขตความรู้และสร้างความหลากหลายให้กับบอร์ดของเราได้มากขึ้น ทั้งยังช่วยสร้างคุณค่าอย่างมหาศาลให้กับ Arm ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการเดินทางของบริษัทเรา” Rene Haas ซีอีโอของ Arm กล่าว

ทั้งนี้ Haas ยังเสริมอีกว่า “Paul มีผลงานการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยในระดับสุดยอดและนำพา Qualcomm เติบโตอย่างน่าทึ่ง ส่วน Rosemary นั้นได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำอันโดดเด่นเหนือใคร ทั้งยังเก่งในด้านการจัดลำดับงานและดำเนินการทางกลยุทธ์ตามลำดับความสำคัญ ขับเคลื่อนนวัตกรรม และเพาะบ่มความสัมพันธ์กับลูกค้าในธุรกิจต่างๆ ของ Intel ตลอดช่วงหลายปีที่เธอทำงานอยู่ที่นั่น ฉันตั้งตารอที่จะร่วมงานกับทั้ง Paul และ Rosemary ไปพร้อมกับการเสริมตำแหน่งความเป็นผู้นำในระบบนิเวศของเซมิคอนดักเตอร์ได้แข็งแกร่งขึ้น และพร้อมสำหรับการก้าวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์”

“ผมทำงานร่วมกับ Arm มาตั้งแต่ยุคที่สมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ตไร้สายกำลังริเริ่ม” Paul E. Jacobs กล่าวเพิ่มเติม “พอคอมพิวเตอร์เริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ก็ได้สร้างโอกาสใหม่ที่ทำให้ Arm ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาด ผมจึงตื่นเต้นมากที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในบอร์ดบริหารของ Arm และทำงานร่วมกับทีมระดับโลกเพื่อสร้างการปฏิวัติทางเทคโนโลยียุคใหม่”

“Arm พร้อมแล้วที่จะเป็นผู้นำในวงการคอมพิวเตอร์และเซมิคอนดักเตอร์” Rosemary Schooler กล่าว “การทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อแก้ไขปัญหาความท้าทายทางเทคโนโลยีที่ยากที่สุดสำหรับลูกค้า ถือเป็นโฟกัสในการทำงานของฉัน ฉันจึงตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับ Arm และตั้งตารอที่จะช่วยบริษัทขยายขอบเขตการใช้คอมพิวเตอร์ให้ครอบคลุมไปทั่วทั้งโลก”

เกี่ยวกับ Paul E. Jacobs

Paul E. Jacobs, Ph.D. เป็นประธานและซีอีโอของ XCOM Labs ที่เขาก่อตั้งขึ้นในปี 2018 เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันและเทคโนโลยีไร้สายประสิทธิภาพสูง โดยก่อนจะก่อตั้ง XCOM นั้น Dr. Jacobs เคยดำรงตำแหน่งซีอีโอและประธานกรรมการบริหารของ Qualcomm Inc.มาก่อน ซึ่งที่นี่เองเป็นที่ที่เขาสร้างชื่อในฐานะหัวเรือใหญ่ผู้นำพาบริษัทให้สามารถพัฒนาและจัดจำหน่ายเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือขั้นพื้นฐานได้สำเร็จ จนกลายเป็นเชื้อเพลิงขับเคลื่อนให้เข้าสู่ยุคปฏิวัติสมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ตไร้สายได้ในที่สุด โดยในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งซีอีโอนั้น รายได้ของ Qualcomm โตขึ้นถึงสี่เท่าและสร้างมูลค่าในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัทได้เป็นสองเท่า ทั้งนี้ตัว Dr. Jacobs เองก็ถือเป็นนักประดิษฐ์มากฝีมือที่มีสิทธิบัตรด้านอุปกรณ์และเทคโนโลยีไร้สายที่จดทะเบียนกับประเทศสหรัฐอเมริกาและสิทธิบัตรที่รอการจดทะเบียนมากกว่า 80 รายการ

ปัจจุบัน Dr. Jacobs ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการของ Dropbox, Inc และ FIRST เขาจบปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าและวิทยาการคอมพิวเตอร์ ปริญญาโทสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า และปริญญาเอกสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าและวิทยาการคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้งสถาบัน Jacobs Institute for Design Innovation ที่เบิร์กลีย์ และ Dr. Jacobs ยังเป็นสมาชิกของ National Academy of Engineering และเป็นสมาชิกของ American Academy of Arts and Sciences อีกด้วย

เกี่ยวกับ Rosemary Schooler

Rosemary Schooler คือสุดยอดผู้นำที่ทุกคนให้การยอมรับจากประสบการณ์ในวงการเทคโนโลยีระดับโลกที่สั่งสมมานานมากกว่า 30 ปี โดยตำแหน่งล่าสุดของเธอคือรองประธานบริษัทและผู้จัดการทั่วไปของฝ่ายขาย AI และศูนย์ข้อมูลให้กับ Intel Corporation ตลอดระยะเวลา 33 ปีที่ Intel คุณ Schooler ได้รับหน้าที่จัดการและดูแลยอดขายและกลยุทธ์องค์กรให้กับธุรกิจ IoT ของบริษัท ทั้งยังได้นั่งเก้าอี้รองประธานและผู้จัดการทั่วไปให้กับบริษัทสตาร์ทอัปรายต่างๆ ของ Intel ที่ดำเนินธุรกิจมากมายหลากหลายไม่ว่าจะเป็นธุรกิจระบบแบบฝัง/IoT ธุรกิจระบบเครือข่ายและพื้นที่จัดเก็บ รวมถึง PnL สถาปัตยกรรม การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการสร้างความสำเร็จให้กับลูกค้าอีกด้วย และในบทบาทด้านระบบเครือข่ายนี่เองที่ทำให้คุณ Schooler ได้แสดงความสามารถในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางอุตสาหกรรมทั้งจากการสร้าง Network Function Virtualization (NFV) และเทคโนโลยีต่างๆ เช่น Data Plane Development Kit (DPDK) เป็นต้น

ทั้งนี้คุณ Schooler ยังให้การสนับสนุนการพัฒนาต่างๆ ในวงการ ไม่ว่าจะเป็น ATIS และ TIA รวมถึงองค์กรไม่แสวงหากำไรอย่าง National Center for Women in Technology (NCWIT) ด้วย โดยก่อนหน้านี้เธอได้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการอิสระของ Cloudera และตอนนี้ก็นั่งเก้าอี้บอร์ดให้กับ Zurn Water Solutions ส่วนด้านการศึกษานั้นคุณ Schooler จบปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเซรามิกจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียสเตต

เกี่ยวกับ Arm

Arm technology คือผู้กำหนดอนาคตของวงการคอมพิวเตอร์ การออกแบบโปรเซสเซอร์และแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ประหยัดพลังงานของเราทำให้เกิดการประมวลผลขั้นสูงในชิปมากกว่า 2 แสน 4 หมื่นล้านชิ้น และเทคโนโลยีของเรายังช่วยขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์จากเซ็นเซอร์ไปยังสมาร์ทโฟนและซูเปอร์คอมพิวเตอร์ได้อย่างปลอดภัย ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีมากกว่า 1,000 ราย เราจึงสามารถทำให้ปัญญาประดิษฐ์ทำงานได้ทุกที่ ส่วนในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์นั้นทางเรากำลังสร้างรากฐานแห่งความเชื่อมั่นในโลกดิจิทัลจากชิปไปสู่ระบบคลาวด์ต่อไป และจากนี้อนาคตจะเริ่มต้นขึ้นที่ Arm

ข้อมูลทั้งหมดที่จัดหาให้นี้เป็นไปในรูปแบบ "ตามที่เป็น" โดยไม่มีการรับประกันหรือการรับรองใดๆ เอกสารฉบับนี้อาจใช้ร่วมกันได้อย่างอิสระ มีที่มาและไม่มีการแก้ไข Arm เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Arm Limited (หรือบริษัทในเครือ) แบรนด์หรือชื่อผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง © 1995-2022 Arm Group

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

ฝ่ายมีเดีย
การสื่อสารภายนอกองค์กรของ Arm
Kristen Ray
kristen.ray@arm.com

ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์
Arm IR
Ian Thornton
ian.thornton@arm.com

แหล่งที่มา: Arm

ANANDA Scientific ประกาศการอนุมัติจาก FDA สำหรับคำขอ IND การทดลองทางคลินิกสำหรับการประเมินวิธีการรักษา Social Anxiety Disorder (SAD)

Logo

NEW YORK & GREENWOOD VILLAGE, Colo.–(BUSINESS WIRE)–30 พฤศจิกายน 2022 

ANANDA Scientific Inc. บริษัทชีวเวชภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการวิจัย ประกาศการอนุมัติจากสำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) สำหรับคำขออนุมัติ IND การทดลองทางคลินิกเพื่อการประเมินใช้ Nantheia™ A1002N5S ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในการวิจัยโดยใช้แคนนาบิดิออล (CBD) ในเทคโนโลยีการสกัด Liquid Structure™ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ANANDA โดยเป็นแนวโน้มการรักษาสำหรับโรคกลัวการเข้าสังคม (Social Anxiety Disorder) องค์กร National Center for Complimentary and Integrative Health (HCCIH ที่เป็นแผนกหนึ่งของ NIH) กำลังจัดหาเงินทุนสำหรับการทดลองนี้ ซึ่งจะมีการดำเนินการที่ NYU Grossman School of Medicine (ตัวบ่งชี้ Clinical Trials.gov: NCT05571592)

(Photo: Business Wire)

(รูปภาพ: Business Wire)

ผู้ตรวจสอบหลักสำหรับการทดลองนี้คือ Naomi Simon, MD, MSc. ศาสตราจารย์ด้านจิตเวชศาสตร์และผู้อำนวยการโครงการ Anxiety, Stress and Prolonged Grief Program ที่ NYU Grossman School of Medicine และ Esther Blessing, MD, PhD ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านจิตเวชศาสตร์ที่ NYU Grossman School of Medicine การทดลองแบบสองทางโดยควบคุมเปรียบเทียบกับยาหลอก จะเป็นการศึกษาเปรียบเทียบระหว่าง Nantheia™ A1002N5S และยาหลอกในช่วงระยะเวลาการรักษา 21 วัน โดยมีการวัดผลลัพธ์หลักคือ การเปลี่ยนแปลงใน Trier Social Stress Test (TSST) เพื่อตรวจสอบระดับความกังวลและผลกระทบต่อการสร้างภาพทางประสาท

“เรามีความยินดีในความก้าวหน้าในการศึกษาที่สำคัญนี้ สำหรับพัฒนาการวิธีการรักษาโรคกลัวการเข้าสังคม (Social Anxiety Disorder) แบบใหม่ ซึ่งเป็นอาการที่น่าวิตกกังวลและยังไม่สามารถรักษาได้ในปัจจุบัน” กล่าวโดย Dr. Simon

Dr. Blessing กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับความก้าวหน้าในการทดลองทางคลินิกที่ได้จากผลลัพธ์พรีคลินิกที่มีแนวโน้มในการใช้ CBD เพื่อรักษาโรควิตกกังวล”

“เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมมือกันกับ Dr. Simon และ Dr. Blessing อีกครั้งในการทดลองที่สำคัญนี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อชีวิตของผู้คนจำนวนมาก” กล่าวโดย Sohail R. Zaidi ซีอีโอของ ANANDA “เราคาดหวังที่จะได้เห็นความก้าวหน้าในการประยุกต์ใช้ยา Nantheia A1002N5S ที่กำลังอยู่ระหว่างการศึกษา พร้อมตัวบ่งชี้ข้อกำหนดทางการแพทย์ที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองอย่างมีนัยสำคัญ”

เกี่ยวกับ ANANDA SCIENTIFIC

ANANDA เป็นบริษัทชั้นนำด้านชีวเวชภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการวิจัย โดยเป็นผู้บุกเบิกการศึกษาทางคลินิกที่มีคุณภาพสูงเพื่อประเมินข้อบ่งชี้ในการรักษา เช่น PTSDRadiculopathic Pain, Anxiety และ Opioid Use Disorder (Mt. Sinai และ UCLA) บริษัทมีการใช้เทคโนโลยีการสกัดที่ได้รับการจดสิทธิบัตร (ได้รับอนุญาตจาก Lyotropic Delivery Systems (LDS) Ltd ในเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล) เพื่อสกัดสารแคนนาบินอยด์และสารประกอบที่ได้จากต้นในประโยชน์ทางชีวภาพ ละลายน้ำได้ และมีอายุการเก็บรักษาที่เสถียร รวมถึงมุ่งเน้นในการผลิตเภสัชภัณฑ์ระดับพรีเมียมที่มีประสิทธิภาพสูง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52981086/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ANANDA Scientific Media Relations | Christopher Moore | 813 326 4265 | media@anandascientific.com

แหล่งข้อมูล: ANANDA Scientific Inc.

NielsenIQ เปิดตัวรายงานใหม่ที่มุ่งเน้นผลกระทบด้านความยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค

Logo

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้บริษัทต่าง จะต้องริเริ่มความคิดในการสร้างโมเดลธุรกิจ และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในอีกห้าปีข้างหน้า

CHICAGO–(BUSINESS WIRE)–30 พฤศจิกายน 2022

วันนี้ NielsenIQ มีการเปิดตัวรายงานใหม่ "การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีผลต่อความยั่งยืน " ที่มุ่งเน้นผลกระทบในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่ออุตสาหกรรมสินค้าบรรจุภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค ในอีกห้าปีข้างหน้า มีการคาดการณ์ว่า การกำกับดูแลและต้นทุนจะกำหนดให้ผู้ผลิต แบรนด์ และผู้ค้าปลีกจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงและมุ่งมั่นที่จะสร้างโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืน และลดความเสี่ยงทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

"เราได้มุ่งเน้นความยั่งยืนในวาระขององค์กรมาระยะหนึ่งแล้ว โดยเป็นลำดับที่มีความสำคัญ ซึ่งธุรกิจบางแห่งอาจตัดสินใจดำเนินการเชิงรุกเพื่อความก้าวหน้า และบางธุรกิจอาจยังคงเฝ้ารอดูผลก่อนตัดสินใจ" Regan Leggett, Foresight Leader, NielsenIQ กล่าว "ต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก บวกกับความล้มเหลวของการเพาะปลูก และการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทต่าง ๆ จำต้องสร้างโมเดลธุรกิจเพื่ออนาคต มิฉะนั้น อาจมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนและผลกระทบด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้"

ท่ามกลางความท้าทายในห่วงโซ่อุปทาน แรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ และการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังของผู้บริโภค มีรายงานระบุว่า ผู้บริโภคได้รับข้อมูลมากขึ้นเกี่ยวกับความยั่งยืนและความคาดหวังในการดำเนินการและความรับผิดชอบขององค์กร รายงานฉบับใหม่มีการกล่าวถึงประเด็นสำคัญ ดังนี้

  1. ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมีผลในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจที่มีอยู่ เนื่องด้วยผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างไร
  2. ธรรมาภิบาลและกฎระเบียบใหม่มีผลต่อการขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนอย่างไร
  3. พื้นฐานใหม่ในการตัดสินใจเปลี่ยนไปสำหรับผู้บริโภคอย่างไร
  4. ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีบทบาทอย่างไรในการผลักดันวาระด้านความยั่งยืนให้ก้าวหน้า ผู้บริโภคมีความเชื่อถือในผู้ใด และวิธีการที่บริษัทสามารถช่วยให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกด้านความยั่งยืนมากขึ้นอย่างไร
  5. อนาคตของความยั่งยืนสำหรับผู้ค้าปลีก แบรนด์ ผู้บริโภค และรัฐบาลเป็นอย่างไร
  6. บริษัทจะต้องมีการดำเนินการอย่างไร เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในอนาคตและคำมั่นจากทางรัฐบาล

"ผู้บริโภคต้องการความช่วยเหลือในการดำรงชีวิตและบริโภคอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกองค์กรที่จะมีแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน" Nicole Corbett รองประธานจาก Thought Leadership ของ NielsenIQ กล่าว "ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผู้บริโภคมักมองหาการปฏิบัติที่ไม่มุ่งเน้นวัตถุ และการไม่ยึดติดแบรนด์และผู้ค้าปลีก ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถไว้วางใจได้ในทุกระดับ"

จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อยู่ในขั้นวิกฤต และอาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในอีกห้าปีข้างหน้า เมื่อบริษัทต่าง ๆ มีการปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองความต้องการ แนวทาง และการดำเนินธุรกิจต่าง  ๆ การดำเนินธุรกิจเชิงรุกจะช่วยให้บริษัทได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ ในขณะที่อุตสาหกรรมอื่น ๆ มีการแย่งชิงกันเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการและคงความยั่งยืน

สำหรับข้อมูลรายงานเชิงลึกล่าสุด สามารถเข้าดูได้ที่: https://nielseniq.com/global/en/insights/analysis/2022/the-changing-climate-of-sustainability-has-reached-a-critical-moment/

เกี่ยวกับ NielsenIQ

NielsenIQ เป็นบริษัทที่ให้บริการด้านข้อมูลระดับโลก โดยมีการนำเสนอมาตรฐานสูงในการวัดดัชนีผู้บริโภคและค้าปลีกด้วยประสบการณ์ที่มีความเข้าใจธุรกิจเป็นอย่างดี และสามารถเชื่อมโยง นำไปปฎิบัติได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดสำหรับผู้บริโภคที่ผ่านการพัฒนาในทุกช่องทางทั่วโลก NielsenIQ เป็นแหล่งข้อมูลที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เราให้บริการ และเป็นผู้บุกเบิกดัชนีชี้วัดผู้บริโภคและค้าปลีกในศตวรรษหน้า ข้อมูลเชิงลึกของเรา และการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ CPG และบริษัทค้าปลีกให้สามารถเข้าถึงชุมชนที่ให้บริการ และช่วยส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจด้วยเช่นกัน

NielsenIQ เป็นบริษัทในเครือของ Advent International โดยมีสำนักงานอยู่ในกว่า 90 ประเทศ โดยครอบคลุมมากกว่า 90% ของประชากรโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ NielsenIQ.com

ติดต่อ

เอเชียแปซิฟิก: Tarini Mathur Kaul (tarini.mathurkaul@nielseniq.com)
ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา: Sebastien Monard (sebastien.monard@nielseniq.com)
อเมริกาใต้: Ari Rodriguez (ari.rodriguez@nielseniq.com)
อเมริกาเหนือ: Gillian Mosher (gillian.mosher@nielseniq.com)

แหล่งข้อมูล: NielsenIQ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

NTT DATA เข้าร่วม Global Alliance Program ของ EOI Space

Logo

ข้อตกลงนี้จะเอื้อให้ลูกค้าของ NTT DATA สามารถวางแผนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและการป้องกันประเทศด้วยความสามารถการถ่ายภาพทางดาวเทียมของ EOI Space

LOUISVILLE, Colo.–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2022

 EOI Space คือบริษัทที่ปรับใช้กลุ่มดาวเทียมซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตำแหน่งแก่ลูกค้าภาครัฐและเชิงพาณิชย์ วันนี้ได้ประกาศเกี่ยวกับข้อตกลงด้านการจัดจำหน่ายเชิงกลยุทธ์กับ NTT DATA Corporation ซึ่งเป็นผู้นำด้านธุรกิจดิจิทัลและบริการทางไอทีระดับโลก เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีภาพถ่ายโลกที่มีความละเอียดสูงเป็นพิเศษของ EOI Space แก่ลูกค้าในตลาดประเทศญี่ปุ่น

Christopher Thein, CEO of EOI Space (left) and Hidenori Chihara, Executive Vice President of NTT DATA. (Photo: Business Wire)

Christopher Thein, CEO จาก EOI Space (ซ้าย) และ Hidenori Chihara, รองกรรมการผู้จัดการจาก NTT DATA. (ภาพ: Business Wire)

NTT DATA เป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการเจ้าแรกใน Global Alliance Program ของ EOI Space ซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรจำกัดระดับโลกที่มีสิทธิ์เข้าถึงเนื้อหาและบริการดาวเทียมของ EOI Space ก่อนใคร ด้วยความร่วมมือครั้งนี้ NTT DATA จะใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยใหม่ล่าสุดของ EOI Space นั่นคือ ดาวเทียม Stingray ซึ่งมีวงโคจรโลกที่ต่ำมาก (Very Low Earth Orbit (VLEO)) ช่วยให้สามารถมอบข้อมูลความจุสูงที่ลูกค้าต้องการ เพื่อตรวจสอบและรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนการคุกคามความปลอดภัยสาธารณะ ซึ่ง EOI Space วางแผนที่จะเปิดตัวดาวเทียมดวงแรกในไตรมาส 1 ปี 2024 โดยมีดาวเทียมอีกห้าดวงที่คาดว่าจะเปิดตัวภายใน 12 เดือน ขณะเดียวกัน NTT DATA ก็จะสร้าง Secure Access Facility ในญี่ปุ่น เพื่อเสริมความสามารถในการดาวน์ลิงก์โดยตรงจากกลุ่มดาวเทียม Stingray

“EOI Space และ NTT DATA ร่วมมือกันสร้าง Secure Access Facility สำหรับ NTT DATA แบบระยะยาว ซึ่งจะช่วยให้สามารถส่งข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์แก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วกว่าที่เคย” Christopher Thein ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง EOI Space กล่าว “นี่คืออุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นการถ่ายภาพคุณภาพสูงอย่างทันเวลา เราขอขอบคุณพันธมิตรที่ทุ่มเทร่วมใจให้กับภารกิจและตลาดนี้สำหรับ NTT DATA”

“โดยการใช้ดาวเทียม Stingray ของ EOI Space เราจะสามารถรวบรวมภาพความละเอียดสูงจำนวนมากในศูนย์ข้อมูลของเรา เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ภายใน การใช้อัลกอริธึม AI ล่าสุดของเราจะช่วยให้เราสามารถให้บริการผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มแก่ลูกค้าของเรา โดยการแยกความแตกต่างในข้อมูลที่รวบรวมไว้ก่อนหน้านี้และข้อมูลที่รวบรวมใหม่ เพื่อตรวจสอบความผิดปกติ” Hideyuki Nakamura ผู้จัดการฝ่ายบริหารจาก NTT DATA กล่าว “นอกเหนือจากนี้ เรายังสามารถขยายการใช้งานภาพของ EOI Space สำหรับระบบป้องกันภัยพิบัติต่างๆ และโครงการบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะมีการพัฒนาขึ้นในอนาคต และสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เสริมระดับความยืดหยุ่น”

อนาคตของดาวเทียม: ขนาดเล็ก แต่ให้ผลสูง

ดาวเทียมกลายมามีความสำคัญมากขึ้นในชีวิตประจำวันและในด้านความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนทั่วโลก ดาวเทียม Stingray ของ EOI Space สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบขับเคลื่อนพลาสมาที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท โดยทำงานในวงโคจรที่ใกล้โลกมากกว่าเดิมเมื่อเทียบกับดาวเทียมอื่นๆ ในตลาด ช่วยให้ดาวเทียมสามารถจับภาพความละเอียดสูงเกือบ 15 ซม. ได้แบบเรียลไทม์ ระบบขับเคลื่อนแบบไอออนไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นอย่างเป็นอิสระของ EOI Space ซึ่งอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร ช่วยให้สามารถมั่นใจได้ว่า ดาวเทียมจะสามารถทำงานได้อย่างเสถียรในวงโคจรโลกต่ำ นอกจากนี้ ดาวเทียม Stingray ของ EOI Space ที่มีขนาดเล็กจะช่วยให้ NTT DATA และลูกค้าสามารถเข้าถึงภาพความละเอียดสูงและความจุข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับดาวเทียมขนาดใหญ่ที่มีราคาแพงกว่าในการพัฒนาและเปิดตัว

NTT DATA คาดว่า ยอดขายข้อมูลของ EOI Space และผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม เช่น การวิเคราะห์ AI มีมูลค่าสูงกว่า 70 ล้านดอลลาร์ในปี 2028 โดยคาดการณ์ว่า ยอดขายส่วนใหญ่จะมาจากการนำไปใช้ในการป้องกัน ความปลอดภัยสาธารณะ และการจัดการภัยพิบัติ บริษัทยังได้เข้าร่วมกับนักลงทุนรายย่อยอื่นๆ ในกลุ่ม Series A ของ EOI Space พร้อมการลงทุนในตราสารทุน แสดงถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อ EOI Space และตลาดการสังเกตการณ์โลก

เกี่ยวกับ EOI Space

EOI Space ตั้งอยู่ใน Louisville, Colorado กำลังพัฒนาดาวเทียมขนาดเล็กที่สามารถบินต่ำอย่างไม่เหมือนใคร เพื่อรวบรวมภาพถ่ายความละเอียดสูงเป็นพิเศษ รองรับการใช้งานด้านสังเกตการณ์ในโลกที่หลากหลายในวงโคจรโลกที่ต่ำมาก (Very Low Earth Orbit (VLEO)) โดยใช้สิทธิบัตรเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ผ่านการรับรองและกำลังอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร การปฏิบัติการใกล้โลกมากขึ้นกว่าเดิมจะทำให้ EOI บันทึกมุมมองของโลกจากอวกาศ เพื่อให้ได้ข้อมูลข่าวกรองแบบเรียลไทม์ที่มีมูลค่าสูงเชิงพาณิชย์ การติดตามทรัพย์สิน และการตรวจสอบสถานการณ์ ขณะนี้ EOI Space กำลังระดมทุนเพื่อลงทุนในการขยายกลุ่มดาวเทียม ติดตามเราได้ที่ https://eoi.space เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับภารกิจและโอกาสในการลงทุนของเรา

เกี่ยวกับ NTT DATA

NTT DATA เป็นส่วนหนึ่งของ NTT Group  และเป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมด้านไอทีและบริการธุรกิจระดับโลกที่เชื่อถือได้ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่โตเกียว เราให้บริการช่วยลูกค้าในการเปลี่ยนแปลงผ่านการให้คำปรึกษา โซลูชันอุตสาหกรรรม บริการกระบวนการทางธุรกิจ การปรับปรุงไอทีให้ทันสมัย และบริการบริหารจัดการ โดย NTT DATA ช่วยให้ลูกค้าและสังคมสามารถก้าวไปสู่อนาคตแห่งดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ เรามุ่งมั่นในการช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในระยะยาวและวางแผนที่จะขยายบริการไปให้ถึงทั่วโลกมากกว่า 50 ประเทศ พร้อมดูแลใส่ใจลูกค้าในท้องถิ่น ติดตามเราได้ที่ https://www.nttdata.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52979658/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ผู้ติดต่อฝ่ายสื่อ:
Paul Smith
EOI Space
+1 650.200.3360
media@eoi.space

แหล่งข้อมูล: EOI Space

FPT Software เปิดสำนักงานใหม่ในประเทศไทย ตั้งเป้าเป็นบริษัทไอที 30 อันดับแรกของประเทศ

Logo

BANGKOK–(BUSINESS WIRE)–1 ธันวาคม 2022

เมื่อเร็วๆ นี้ FPT Software ผู้ให้บริการโซลูชันไอทีชั้นนำของเวียดนาม ได้ประกาศเปิดสำนักงานแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย สาขานี้มีเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทไอทีชั้นนำ 30 อันดับแรกในประเทศไทย โดยช่วยเหลือการปรับเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์ของ FPT Software เพื่อขยายการดำเนินงานไปทั่วโลก

FPT Software’s representatives and distinguished guests at the Appreciation Dinner to celebrate the office opening on November 22 (Photo: Business Wire)

ตัวแทนของ FPT Software และแขกผู้มีเกียรติในงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเฉลิมฉลองการเปิดสำนักงานในวันที่ 22 พฤศจิกายน (ภาพ: Business Wire)

ฯพณฯ Phan Chi Thanh เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย, วรนุช เดชะไกศยะ ประธาน KBTG, จรุง เกียรติสุภาพงศ์ รองประธาน KBTG, CHRO Nguyen Tuan Minh ของ FPT Software, Nguyen Hoang Trung รองประธานของ FPT Software, FPT Greater Bay Indochina (FPT GBI – บริษัทในเครือของ FPT Software ) CEO Levi Nguyen และแขกผู้มีเกียรติท่านอื่น ๆ ได้เข้าร่วมพิธีเปิด

ในงาน ฯพณฯ Phan Chi Thanh เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย ได้เน้นย้ำถึงความร่วมมืออย่างรอบด้านระหว่างไทยและเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล เอกอัครราชทูตยังเชื่อว่าด้วยความสามารถด้านไอทีของ FPT Software บริษัทสามารถมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความสัมพันธ์นี้และเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลได้

โดยมีการคาดว่าสาขากรุงเทพฯ จะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในประเทศไทยได้ Levi Nguyen CEO ของ FPT GBI กล่าวว่า "เราตั้งเป้าที่จะขยายกำลังแรงงานในท้องถิ่นของเราให้เป็นวิศวกรไอทีคุณภาพสูง 500 คนในอีก 3 ปีข้างหน้า และร่วมงานกับบริษัทไทยจากหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงการค้าปลีก, BFSI, การผลิต และอื่น ๆ อีกมากมาย"

ตามที่ CEO ของ FPT GBI กล่าวว่า สำนักงานใหม่จะช่วยให้ FPT Software ทำงานอย่างใกล้ชิดกับองค์กรชั้นนำในประเทศไทยในโครงการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล “ปรัชญาของบริษัทของเราคือการอยู่ใกล้ชิดกับลูกค้า ดังนั้นสำนักงานนี้จะช่วยให้เราสามารถให้บริการได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น” กล่าวโดย Levi

CEO ของ FPT GBI กล่าวเสริมว่า “นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่แข็งแกร่งและทรัพยากรของบริษัทในแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น Make ของธนาคารกสิกรไทย Alive & Vitality ของ AIA ตลอดจนเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น Cloud, Data, Artificial Intelligence และ Cyber ​​Security”

วรนุช เดชะไกศยะ ประธาน KBTG กล่าวในงานว่า “ดิฉันเคยไปเยี่ยมชมวิทยาเขตของ FPT Software ในเวียดนามมาก่อน และไม่เห็นความแตกต่างจาก Silicon Valley ในสหรัฐอเมริกามากนัก ดิฉันดีใจที่ได้สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริษัทไอทีชั้นนำอย่าง FPT Software พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญกว่า 100 คนที่อุทิศตัวเพื่อสนับสนุนแพลตฟอร์มดิจิทัลและระบบหลักของเรา และเราวางแผนที่จะเพิ่มเป็นสองเท่าในปี 2023"

เวียดนามและไทยกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล โดยรัฐบาลทั้งสองได้แนะนำกรอบการทำงานและโครงการต่าง ๆ ในการปลดล็อกศักยภาพการทำงานร่วมกันระหว่างบริษัทของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในภาคส่วนไอซีที ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศจะคิดเป็น 20% ถึง 30% ของ GDP ภายในปี 20301 ในฐานะบริษัทไอทีชั้นนำของเวียดนาม FPT Software มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือระยะยาวในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลระหว่างเวียดนามและไทย

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา FPT Software ดำรงอยู่อย่างแข็งแกร่งใน 7 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย เวียดนาม ไทย อินโดนีเซีย และจีน (รวมถึงฮ่องกง) ทำให้สามารถให้บริการด้านไอทีแบบครบวงจรแก่ธุรกิจทุกภาคส่วน บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งใน 50 อันดับแรกของผู้ให้บริการการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลระดับโลกภายในปี 2030

สำนักงานใหม่ของ FPT Software ตั้งอยู่ที่อาคารธนภูมิ ชั้น 10 โซน C ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร

เกี่ยวกับ FPT Software

FPT Software เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีและไอทีระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่ในเวียดนาม โดยมีรายได้มากกว่า 632.5 ล้านดอลลาร์และพนักงาน 25,500 คนใน 28 ประเทศ ในฐานะผู้บุกเบิกการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล บริษัทได้ให้บริการระดับโลกในโรงงานอัจฉริยะ แพลตฟอร์มดิจิทัล RPA, AI, IoT, คลาวด์, AR/VR, BPO และอื่น ๆ ซึ่งให้บริการลูกค้ามากกว่า 1,000 รายทั่วโลก โดยหลายร้อยรายเป็นบริษัทที่ติดอันดับ Fortune Global 500 ในด้านยานยนต์ การธนาคารและการเงิน โลจิสติกส์และการขนส่ง สาธารณูปโภค และอื่น ๆ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมที่ http://www.fpt-software.com

_________________________
1 เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยมีแนวโน้มคิดเป็น 30% ของ GDP ภายในปี 2030: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(https://www.nationthailand.com/blogs/in-focus/40008944)

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ
Mai Duong (Ms.)
FPT Software
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
อีเมล: MCP.PR@fsoft.com.vn
เว็บไซต์: https://www.fpt-software.com/newsroom/

แหล่งที่มา: FPT Software

Eco Expo Asia 2022 กลับมาอีกครั้งในเดือนธันวาคมด้วยธีม “นวัตกรรมเพื่อความเป็นกลางของระดับคาร์บอน”

Logo

แนวโน้มที่ดีขึ้นเมื่อฮ่องกงยุติการกักบริเวณในโรงแรม

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–28 พฤศจิกายน 2022

งาน Eco Expo Asia 2022 ซึ่งจัดร่วมกันโดยองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกงและ Messe Frankfurt (HK) Ltd และร่วมจัดโดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยาภาครัฐของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 ถึง 17 ธันวาคม ที่ศูนย์การประชุมและนิทรรศการฮ่องกง งานแสดงสินค้าจัดขึ้นภายใต้รูปแบบไฮบริด EXHIBITION+ รูปแบบใหม่ล่าสุด โดยนอกจากจะให้ผู้แสดงสินค้าและผู้ซื้อติดต่อกันแบบเจอตัวกันจริงๆ แล้ว ก็ยังมีช่องทางให้พูดคุยกันผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ “Click2Match” อีกด้วย โดยงานนี้จะจัดถึงวันที่ 24 ธันวาคม โดยเปิดโอกาสให้องค์กรต่างๆ พบกับ “หนทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ในเชิงรุก

Eco Expo Asia 2022 returns in December (Photo: Business Wire)

Eco Expo Asia 2022 กลับมาอีกครั้งในเดือนธันวาคมนี้ (ภาพ: Business Wire)

ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน รัฐบาลเขตปกครองพิเศษฮ่องกงจะขอยุติการกักตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศด้วยนโยบายใหม่ “0+3” ผู้เดินทางเข้าประเทศไม่ต้องทดสอบ PCR ก่อนบินและไม่ต้องกักตัวในโรงแรมที่กำหนดอีกต่อไป ผู้เดินทางเข้าประเทศที่มีรหัสสีเหลืองในช่วงสามวันของการเฝ้าระวังทางการแพทย์จะได้รับอนุญาตให้เข้างานแสดงที่เกี่ยวข้องทางธุรกิจได้

ธีมของ Eco Expo Asia 2022 คือ “นวัตกรรมสะอาดเพื่อความเป็นกลางของระดับคาร์บอน” โดยมุ่งเน้นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่สามารถช่วยลดคาร์บอนในโลก ในฐานะงานสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อม งานแสดงสินค้าในปีนี้จะประกอบด้วยผู้จัดแสดงสินค้ากว่า 200 รายจากเก้าประเทศและภูมิภาคโดยแบ่งออกเป็นเก้าโซนพิเศษ ซึ่งมีตั้งแต่หมวดการขนส่งจนถึงการเงินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และอีกมากมาย เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้เกิดการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมต่างๆ โดยที่รักษาความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โซนพิเศษสำหรับสามประเทศและภูมิภาคจะกลับมาอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งประกอบด้วยแคนาคา ฮ่องกง และญี่ปุ่น โซนญี่ปุ่นจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาก โดยมีผู้แสดงสินค้าประมาณ 30 รายที่มาพร้อมผลิตภัณฑ์ โซลูชันและเทคโนโลยีล่าสุดด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การอัปไซเคิลทรัพยากร รวมถึงการเงินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและ ESG ซึ่งเป็นการนำเสนอนวัตกรรมของญี่ปุ่นที่ดีที่สุด

งานประชุม Eco Asia ปีนี้เป็นงานที่พลาดไม่ได้ เพราะในงานจะมีวิทยากรรุ่นใหญ่มาแบ่งปันมุมมองในหัวข้อต่างๆ เช่น รูปแบบธุรกิจหมุนเวียน” “เศรษฐกิจไฮโดรเจน” “การดัดแปลงให้อาคารใช้พลังงานได้มีประสิทธิภาพและการเงินที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

งานนี้จะเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมในวันสุดท้ายเพื่อส่งเสริมการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผู้เข้าชมสามารถเข้าร่วมเวิร์กช็อปด้านสิ่งแวดล้อม ตลาดสีเขียว และงานสัมมนาต่างๆ ได้

นักธุรกิจ: ลงทะเบียนเลยตอนนี้เพื่อรับบัตรฟรี https://bit.ly/3OKv9Wo

คนทั่วไป: ลงทะเบียนเลยตอนนี้เพื่อสัมผัสชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม https://bit.ly/3FacHDn

เว็บไซต์ : www.ecoexpoasia.com

ดูเวอร์ชันของแหล่งข้อมูลใน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221128005301/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

โปรดติดต่อฝ่ายจัดนิทรรศการของ HKTDC:
Jojo Li
โทร: (852) 22404136
อีเมล: jojo.ty.li@hktdc.org

แหล่งข้อมูล: Hong Kong Trade Development Council

The Bangkok Reporter