MetricStream คว้ารางวัล ‘Operational Risk Management Solution’ of the Year จากงาน Asia Risk Awards 2022

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–10 ต.ค. 2022

MetricStream ผู้นำตลาดระดับโลกในด้านการจัดการความเสี่ยงแบบบูรณาการ (IRM) และการกำกับดูแล การบริหารความเสี่ยงและการปฏิบัติตามข้อกำหนด (GRC) ประกาศว่าบริษัทได้รับรางวัล Operational Risk Management Solution แห่งปีจากรางวัล AsiaRisk Technology Awards 2022อัน  รางวัล AsiaRisk Technology จัดขึ้นโดย Risk.net และเป็นครั้งที่สองติดต่อกันที่ MetricStream โดยได้รับรางวัลนี้ในหมวด Operational Risk Management

ภาวะความเสี่ยงที่มีความเชื่อมโยงและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ประกอบกับการหยุดชะงักทางดิจิทัลและการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้มีความจำเป็นสำหรับธุรกิจในการดำเนินการเชิงรุกและเปลี่ยนความเสี่ยงให้เป็นข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ รางวัลนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถเฉพาะตัวของเราในการส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้าด้วยการช่วยให้พวกเขาตรวจสอบความไม่แน่นอนและเสริมสร้างความต่อเนื่องทางธุรกิจ” Michel Feijen กรรมการผู้จัดการ APAC กล่าว

การจัดการความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ (ORM) ของ MetricStream พร้อมชุดความสามารถที่ครอบคลุมเพื่อจัดการความเสี่ยงด้านปฏิบัติการและความสูญเสียที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างวินัยในการบริหารความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กร ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความเสี่ยงสร้างการรับรู้ถึงความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กร ปกป้องธุรกิจจากความไม่แน่นอน ส่งเสริมการตัดสินใจทางธุรกิจที่คำนึงถึงความเสี่ยง ในขณะที่เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการปฏิบัติงาน

โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้า ผลิตภัณฑ์นี้จึงมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาความไม่สอดคล้องกันในกระบวนการจัดการความเสี่ยง ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการกำกับดูแลข้อมูลอย่างเข้มงวด ให้การมองเห็นที่ครบถ้วนพร้อมข้อมูลเชิงลึกที่นำไปดำเนินการจัดการความเสี่ยงด้านปฏิบัติการระดับสูง การวิเคราะห์ขั้นสูงช่วยให้องค์กรสามารถวัดปริมาณความเสี่ยงในรูปของเงินและลดความสูญเสียในการดำเนินงานโดยการลดความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กรในเชิงรุก

เกี่ยวกับ Inc.,

MetricStream เป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่น SaaS (Software as a Service) ด้านการจัดการความเสี่ยงแบบบูรณาการและโซลูชัน GRC ที่ช่วยให้องค์กรเติบโตจากความเสี่ยงด้วยการเร่งการเติบโตผ่านการตัดสินใจที่คำนึงถึงความเสี่ยง เราเชื่อมโยงการกำกับดูแล การจัดการความเสี่ยง และการปฏิบัติตามข้อกำหนดทั่วทั้งองค์กรที่ขยายออกไป ConnectedGRC ของเราและสายผลิตภัณฑ์สามสาย ได้แก่ BusinessGRC, CyberGRC และ ESGRC อิงจากแพลตฟอร์มเดียวที่ปรับขนาดได้ ซึ่งสนับสนุนคุณทุกที่ที่คุณอยู่บนเส้นทาง GRC

MetricStream มีสำนักงานใหญ่ในเมืองซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีศูนย์ปฏิบัติการและ R&D ในบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย พร้อมการสนับสนุนด้านการขายและการดำเนินงานทั่วโลก ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ www.metricstream.com, LinkedIn, เฟสบุ๊ค และ ทวิตเตอร์.

เข้าร่วมกับเราในวันที่ 8 และ 9 พฤศจิกายนในลอนดอนสำหรับงาน 10th GRC Summit – Experience the Power of Connection.

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221009005013/en/

ติดต่อ:

Preeti Goswami
preeti.goswami@metricstream.com 
+91-9654394164

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

MidOcean Energy ของ EIG เตรียมเข้าซื้อหุ้นของ Tokyo Gas ในพอร์ตโฟลิโอของสี่โครงการ LNG แบบบูรณาการของออสเตรเลียมูลค่า 2.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

Logo

พอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายของโครงการก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) คุณภาพสูงที่หมุนเวียนด้วยเงินสดสร้างรากฐานสำหรับ MidOcean Energy

วอชิงตัน–(BUSINESS WIRE)–07 ตุลาคม 2565

MidOcean Energy (“MidOcean”) บริษัท LNG ที่ก่อตั้งและบริหารจัดการโดย EIG นักลงทุนสถาบันชั้นนำในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้บรรลุสัญญาหลักที่เกี่ยวข้องกับ Tokyo Gas Co., Ltd (“Tokyo Gas”) เพื่อเข้าซื้อหุ้นของ Tokyo Gas ในพอร์ตโฟลิโอของสี่โครงการ LNG แบบบูรณาการของออสเตรเลีย

ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลง MidOcean จะเข้าซื้อหุ้นของ Tokyo Gas ใน Gorgon LNG, Ichthys LNG, Pluto LNG และ Queensland Curtis LNG เพื่อพิจารณาเป็นเงินสดรวม 2.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โครงการแบบบูรณาการเหล่านี้ครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันตกและตะวันออกของออสเตรเลีย และเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ของก๊าซ LNG ไปยังเอเชีย โดยมีสัญญาจ้างหรือจ่ายระยะยาวที่หลากหลายกับคู่สัญญาระดับการลงทุน และไปยังตลาดก๊าซในประเทศของออสเตรเลีย พอร์ตโฟลิโอนี้คาดว่าจะสร้างก๊าซ LNG สุทธิให้กับ MidOcean ได้ประมาณ 1 ล้านตันต่อปี ซึ่งเป็นการผลิตที่ได้รับการสนับสนุนจากปริมาณสำรองที่มีอายุการใช้งานยาวนานและโครงสร้างต้นทุนที่แข่งขันได้ทั่วโลก พอร์ตโฟลิโอได้รับประโยชน์จากผู้ปฏิบัติงานที่มีประสบการณ์ ซึ่งรวมถึง Chevron, INPEX, Woodside และ Shell และขยายห่วงโซ่คุณค่าก๊าซ LNG จากการดำเนินงานต้นน้ำไปจนถึงกลางน้ำ การทำให้เป็นของเหลว และการขาย

การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตัวกลยุทธ์ของ MidOcean ในการสร้างบริษัทก๊าซ LNG บูรณาการแบบ ‘pure play’ ระดับโลกที่มีคุณภาพสูงและหลากหลาย และใช้ประโยชน์จากประสบการณ์การลงทุนที่กว้างขวางของ EIG ในภาคส่วนก๊าซ LNG ระดับโลก โดยได้รับการสนับสนุนจากพันธกิจหลายพันล้านเหรียญดอลลาร์ต่อโครงการก๊าซ LNG หลายโครงการในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยล่าสุดรวมถึงการได้มาของรายการส่วนได้เสียที่มีอำนาจควบคุมใน GNL Quintero S.A. ซึ่งเป็นสถานีระเหยก๊าซ LNG ที่ใหญ่ที่สุดในชิลี ธุรกรรมดังกล่าวยังสอดคล้องกับวิสัยทัศน์การจัดการ "Compass 2030" ของ Tokyo Gas Group ซึ่ง Tokyo Gas ยังคงแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในการเปลี่ยนผ่านสู่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แบบ Net-Zero

R. Blair Thomas ประธานและซีอีโอของ EIG กล่าวว่า “การเปิดตัว MidOcean สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นอย่างลึกซึ้งของเราในก๊าซ LNG ว่าเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานและความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของก๊าซ LNG ในฐานะแหล่งพลังงานด้านกลยุทธ์เชิงภูมิรัฐศาสตร์ เราเชื่อว่าธุรกรรมนี้จะช่วยให้ MidOcean มีพอร์ตโฟลิโอขั้นพื้นฐานของสินทรัพย์ LNG แบบบูรณาการที่คุ้มค่าและคุ้มราคาในเขตปกครองที่มีความเสี่ยงต่ำ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการจัดหาลูกค้าหลักในญี่ปุ่น เอเชีย และทั่วโลกในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า”

ในเดือนมิถุนายน 2565 EIG ได้ประกาศว่า De la Rey Venter ผู้มีประสบการณ์ด้านก๊าซ LNG ซึ่งเคยร่วมงานกับ Shell ได้เข้าร่วม MidOcean ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โดยนำประสบการณ์ 25 ปีในการดำเนินงานก๊าซ LNG การจัดการข้อตกลง และความเป็นผู้นำทางธุรกิจระดับโลก

Mr. Venter กล่าวว่า “ด้วยการประกาศในวันนี้ MidOcean กำลังดำเนินการขั้นตอนแรกสู่การตระหนักถึงวิสัยทัศน์ในการสร้างธุรกิจก๊าซ LNG ที่มีคุณสมบัติแบบ pure play ซึ่งเราคาดว่าจะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงของโลกสู่อนาคตแบบ Net Zero เราเห็นโอกาสมากมายในการขยายจุดยืนของ MidOcean ในการจัดหาตลาดก๊าซ LNG ทั่วโลก และตั้งตารอที่จะได้ร่วมงานกับพันธมิตรและลูกค้ารายใหม่ของเรา”

ธุรกรรมดังกล่าวคาดว่าจะปิดในครึ่งแรกของปี 2566 โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการปิดตามธรรมเนียม รวมถึงการอนุมัติด้านกฎระเบียบของออสเตรเลีย

Barrenjoey, Barclays และ JP Morgan ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของ EIG ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมนี้ และ White & Case ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมายของ EIG

เกี่ยวกับ EIG

EIG เป็นผู้ลงทุนสถาบันชั้นนำในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกด้วยเงิน 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ภายใต้การบริหาร ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 โดย EIG เชี่ยวชาญด้านการลงทุนภาคเอกชนในด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทั่วโลก ในช่วงประวัติศาสตร์ 40 ปี EIG ได้ให้คำมั่นสัญญามูลค่า 4.15 หมื่นล้านดอลลาร์แก่ภาคพลังงานผ่าน 387 โครงการหรือบริษัทใน 38 ประเทศใน 6 ทวีป ลูกค้าของ EIG ประกอบด้วยแผนบำเหน็จบำนาญ บริษัทประกันภัย เงินบริจาค มูลนิธิ และกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติในสหรัฐอเมริกา เอเชีย และยุโรปชั้นนำหลายแห่ง  EIG มีสำนักงานใหญ่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และมีสำนักงานในฮูสตัน ลอนดอน ซิดนีย์ รีโอเดจาเนโร ฮ่องกง และโซล สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปยังเว็บไซต์ของ EIG ได้ที่ www.eigpartners.com หรือเว็บไซด์ MidOcean’s website ได้ที่ www.midoceanenergy.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20221007005100/en/

ติดต่อ:

สื่อ
FGS Global
Kelly Kimberly / Brandon Messina
+1 212-687-8080
EIG@fgsglobal.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Topcon เปิดตัวกล้อง NW500 Non-Mydriatic Retinal

Logo

กล้องอัตโนมัติเต็มรูปแบบให้ภาพคุณภาพสูงที่เชื่อถือได้เมื่อรวมกับความสามารถที่เพิ่มขึ้น

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–06 ต.ค. 2022

Topcon Healthcare ผู้ให้บริการชั้นนำด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์และโซลูชันซอฟต์แวร์สำหรับชุมชนการดูแลดวงตาทั่วโลก มีความยินดีที่จะประกาศว่า บริษัทได้เปิดตัว NW500 ซึ่งเป็นกล้องเรตินอล non-mydriatic อัตโนมัติเต็มรูปแบบรุ่นใหม่ที่ให้ความคมชัดและเชื่อถือได้ ด้วยภาพที่มีคุณภาพพร้อมความสามารถที่เพิ่มขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20221005005153/en/

The new NW500 fully automated non-mydriatic retinal camera from Topcon. (Photo: Business Wire)

กล้องเรตินอล NW500 แบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบจาก Topcon (ภาพ: Business Wire)

NW500 นำเสนอการสแกนรอยกรีดที่เป็นนวัตกรรมใหม่และกลไก rolling shutter ซึ่งช่วยให้ก้าวข้าวหนึ่งในสาเหตุของภาพถ่ายม่านตาที่ได้เกรดต่ำโดยสามารถถ่ายภาพขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ 2.00 มม. ขึ้นไป* เซ็นเซอร์ 12 เมกะพิกเซลให้ภาพจอสีคุณภาพเยี่ยมสำหรับการตรวจสอบและวิเคราะห์ที่ชัดเจน

NW500 มีส่วนช่วยในกระบวนการทำงานที่คล่องตัวและเพิ่มประสบการณ์ของผู้ป่วยด้วยการนำเสนอความสามารถในการรับภาพจอตาในสภาพแสงโดยไม่จำเป็นต้องขยายม่านตาผู้ป่วย NW500 ให้ภาพจอสีคุณภาพเยี่ยมในจุดยึดแบบเดิม 3 จุด (ดิสก์ จุดศูนย์กลาง และมาคูล่า) รวมถึงตำแหน่งการตรึง 9 ตำแหน่งสำหรับการถ่ายภาพบริเวณขอบภาพ

การใช้งานหน้าจอสัมผัสช่วยให้จับภาพได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว การดำเนินการอัตโนมัติเต็มรูปแบบช่วยให้แพทย์มีความยืดหยุ่นในการมอบหมายการตรวจคัดกรองให้กับเจ้าหน้าที่ที่ไม่ใช่คลินิก ความเร็วในการประมวลผลที่ดีขึ้น** หมายถึงสามารถใช้เวลาน้อยลงในการจับภาพ และทำให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถเพิ่มปริมาณงานของผู้ป่วยได้ โดยมีตัวเลือกการเชื่อมต่อที่หลากหลายเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของธุรกิจทางคลินิกและการคัดกรอง

"NW500 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Topcon ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องในการแสวงหาเทคโนโลยีที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับและทำให้การดูแลมีประสิทธิภาพและเข้าถึงได้มากขึ้น" Tobias Kurzke ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการจัดการผลิตภัณฑ์กล่าว “เมื่อรวมกันแล้ว เทคโนโลยี slit scan ที่เป็นนวัตกรรมใหม่และกล้อง 12 เมกะพิกเซลช่วยให้แพทย์ได้ภาพที่มีคุณภาพรวดเร็วและคมชัด โดยมีความล้มเหลวและการถ่ายภาพซ้ำน้อยลง ทำให้กระบวนการรับภาพอวัยวะได้รวดเร็วและเชื่อถือได้มากกว่าเดิม และปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ป่วยผ่านการตรวจคัดกรองที่เร็วขึ้นและไม่จำเป็นต้องขยายม่านตา ซึ่งจะทำให้แพทย์และการตรวจสุขภาพมีความได้เปรียบในการแข่งขัน”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ https://topconhealthcare.jp/products/nw500

เกี่ยวกับ Topcon Healthcare

Topcon Healthcare เห็นว่าสุขภาพดวงตาแตกต่างจากผู้อื่น วิสัยทัศน์ของเราคือการส่งเสริมผู้ให้บริการด้วยเทคโนโลยีที่ชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพสำหรับการดูแลผู้ป่วยที่ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ทันกับภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ เรานำเสนอโซลูชั่นแบบบูรณาการล่าสุด รวมถึงการถ่ายภาพหลายโมเดลขั้นสูง การจัดการข้อมูลที่เป็นกลางจากผู้ขาย การเว้นระยะห่างอย่างปลอดภัย และเทคโนโลยีการวินิจฉัยระยะไกลที่ก้าวล้ำ

Topcon เป็นธุรกิจระดับโลกที่มุ่งเน้นการพัฒนาโซลูชันเพื่อแก้ปัญหาความท้าทายทางสังคมในโดเมนขนาดใหญ่ของการดูแลสุขภาพ การเกษตร และโครงสร้างพื้นฐาน ในด้านการดูแลสุขภาพ ความท้าทายเหล่านี้รวมถึงโรคตาที่เพิ่มขึ้น ค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้น การเข้าถึงการรักษาพยาบาล และการขาดแคลนแพทย์ ด้วยการลงทุนในนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยคุณค่า Topcon ทำงานเพื่อให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดี

* ยืนยันในรุ่น eye

** เมื่อเปรียบเทียบกับกล้องเรตินอลที่ไม่ใช่ mydriatic ของ Topcon TRC-NW400

ผลิตภัณฑ์ บริการ หรือข้อเสนอบางอย่างไม่ได้รับการอนุมัติหรือเสนอในทุกตลาด และผลิตภัณฑ์แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ ติดต่อผู้จัดจำหน่ายในพื้นที่ของคุณสำหรับข้อมูลเฉพาะประเทศและความพร้อมใช้งาน

https://topconhealthcare.jp/

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221005005153/en/

ติดต่อ:

Topcon Corporation Eyecare Business Division
Yasuko Sasaki
infomid@topcon.co.jp

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Elastic แต่งตั้ง Barrie Sheers เป็นรองประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น

Logo

อดีตผู้บริหารของ Microsoft และ EMC เข้าร่วมกับ Elastic เพื่อเร่งการเติบโตของธุรกิจและคลาวด์ และขยายความสัมพันธ์กับลูกค้า

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–06 ต.ค. 2022

Elastic (NYSE: ESTC) บริษัทที่อยู่เบื้องหลัง Elasticsearch ประกาศแต่งตั้ง Barrie Sheers เป็นรองประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น (APJ) Sheers ซึ่งตั้งอยู่ในสิงคโปร์โดยจะรายงานตรงต่อ Michael Cremen หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายของ Elastic

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20221005005521/en/

Barrie Sheers, Vice President, Asia-Pacific and Japan, Elastic (Photo: Business Wire)

Barrie Sheers รองประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น Elastic (รูปภาพ: Business Wire)

Sheers จะเป็นผู้นำกลยุทธ์ทางธุรกิจของ Elastic และการดำเนินงานใน APJ และจะรับผิดชอบการเติบโตของธุรกิจโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการริเริ่มการเติบโตเชิงกลยุทธ์และกลยุทธ์ระยะยาวเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างรวดเร็วของระบบคลาวด์ โอกาสในกลุ่มตลาดใหม่ และเพิ่มมูลค่าตลอดช่วงชีวิตของลูกค้า

Sheers นำประสบการณ์ระดับผู้บริหารมายาวนานกว่า 20 ปีซึ่งเป็นผู้นำทีมที่มีประสิทธิภาพสูงและมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางในบริษัทเทคโนโลยีระดับองค์กรและคลาวด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เขาร่วมงานกับ Elastic จาก Microsoft ซึ่งเขาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายคู่ค้า APJ ซึ่งรับผิดชอบในการสร้างระบบนิเวศของคู่ค้าทั่วเอเชียเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการขาย

ก่อนหน้าบทบาทนี้ Sheers เป็นกรรมการผู้จัดการของ Microsoft ในประเทศนิวซีแลนด์ นอกจากนี้ Sheers ยังดำรงตำแหน่งระดับสูงซึ่งเป็นผู้นำในภูมิภาค APJ ที่ Dell Software Group, Quest Software, Sybase และ EMC

คำพูดสนับสนุน:

  • “ผมตื่นเต้นที่จะได้ต้อนรับ Barrie สู่ Elastic เขาร่วมงานกับเราในช่วงเวลาที่สำคัญในขณะที่เราสร้างการเติบโตในตลาดและเร่งความเร็วธุรกิจคลาวด์ของเรา” Michael Cremen หัวหน้าฝ่ายขายทั่วโลกของ Elastic กล่าว “ความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งของ Barrie ในตลาดคลาวด์ ประกอบกับประสบการณ์ที่กว้างขวางของเขาในการสร้างและดำเนินการตามกลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดในภูมิภาค APJ จะวางตำแหน่งที่ Elastic ให้เติบโตและขยายอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็ช่วยลูกค้าของเราแก้ปัญหาที่สำคัญอย่างแท้จริง”
  • Barrie Sheers รองประธาน APJ ของ Elastic กล่าวว่า "เป็นเวลาที่น่าตื่นเต้นในการเข้าร่วม Elastic และใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ระบบคลาวด์ของผมเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าที่มีอยู่และใหม่ และเร่งการเติบโตบริษัทอย่างต่อเนื่องเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายระยะต่อไปเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับองค์กรมากขึ้นในการเร่งผลลัพธ์ที่สำคัญด้วยพลังของ Elastic Search Platform และโซลูชันของเราสำหรับการค้นหาขององค์กร ความสามารถในการสังเกต และความปลอดภัย”

เกี่ยวกับ Elastic:

Elastic (NYSE: ESTC) เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยการค้นหา เราช่วยให้องค์กร พนักงาน และลูกค้าเร่งผลลัพธ์ที่สำคัญได้ ด้วยโซลูชันใน Enterprise Search, Observability และ Security เราปรับปรุงลูกค้าและ ประสบการณ์การค้นหาของพนักงาน ทำให้แอปพลิเคชันที่มีความสำคัญต่อภารกิจทำงานได้อย่างราบรื่น และป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ Elastic ช่วยให้ลูกค้าได้รับความสำเร็จในระดับใหม่ทั้งในขนาดและขนาดต่างๆ แพลตฟอร์มเดียว เรียนรู้เพิ่มเติมที่ elastic.co.

ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า

ข้อความบางส่วนในที่นี้เป็นข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าที่อาจมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ซึ่งรวมถึง แต่ไม่จำกัดเฉพาะ ข้อความเกี่ยวกับการแต่งตั้ง Sheers เป็นรองประธานแห่งเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นของเราและการมีส่วนร่วมของเขาในกลยุทธ์การเติบโตและขยายขนาดของเรา ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างอย่างมากจากที่ไตร่ตรองไว้ แถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าอันเป็นผลมาจากความไม่แน่นอน ความเสี่ยง และการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการในอนาคตและการเติบโตของธุรกิจของ Elastic และตลาดที่ Elastic ดำเนินการอยู่ ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเพิ่มเติมที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงและผลลัพธ์แตกต่างไปอย่างมากจากที่คาดการณ์ไว้ในแถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าจะรวมอยู่ในคำบรรยายใต้ภาพ "ปัจจัยเสี่ยง" และที่อื่น ๆ ในการยื่นเอกสารล่าสุดของเรากับ SEC รวมถึงรายงานประจำปีของเราในแบบฟอร์ม 10 -K สำหรับปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 30 เมษายน 2022 และรายงานอื่นๆ ที่ยื่นต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เอกสารที่ยื่นต่อ SEC มีอยู่ในส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ของเว็บไซต์ของ Elastic ที่ ir.elastic.co SEC ที่ www.sec.gov Elastic ไม่มีภาระผูกพันและไม่ได้ตั้งใจที่จะปรับปรุงแถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าใดๆ ดังกล่าวหลังจากวันที่เผยแพร่ฉบับนี้ ยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด

เครื่องหมายที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Elastic NV และบริษัทในเครือ ชื่อบริษัทและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ทั้งหมดอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221005005521/en/

ติดต่อ:

Elastic Public Relations
PR-Team@elastic.co

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Thunder Cranes เปิดตัวในตะวันออกกลางและแอฟริกา

Logo

ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–05 ต.ค. 2565

Thunder Cranes ยินดีที่จะประกาศว่าได้เปิดตัวการดำเนินงานในตะวันออกกลางและแอฟริกา ก่อนหน้านี้บริษัทรถเครนนอกชายฝั่งได้ดำเนินการโดยมีฐานอยู่ที่ดูไบตั้งแต่ปี 2552 ถึง 2562 ซึ่งขณะนี้ได้เปิดทำการแล้ว และนอกจากนี้ ยังได้เปิดฐานปฏิบัติการใหม่ในลูอันดาเพื่อให้บริการแก่แองโกลาและแอฟริกาตะวันตก

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20221003005551/en/

Thunder Cranes TC90 Pedestal Crane

Thunder Cranes TC90 Pedestal Crane

Dinesh Arumugam ซีอีโอของ Thunder Cranes กล่าวว่า "ในฐานะผู้ให้บริการชั้นนำของตลาดสำหรับเครนให้เช่านอกชายฝั่ง Thunder Cranes มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือลูกค้าในตะวันออกกลางและแอฟริกาด้วยโซลูชันการยกที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพเพื่อรองรับโครงการนอกชายฝั่ง"

Arumugam กล่าวต่อว่า "แนวโน้มตลาดในภูมิภาคเหล่านี้ในปี 2023 นั้นยอดเยี่ยม และยิ่งไปกว่านั้น เรารู้ว่าเมื่อได้รับโอกาสในการสนับสนุนโครงการนอกชายฝั่งในตลาดใหม่ ลูกค้าจะพบว่า Thunder Cranes มีค่าจากมุมมองด้านประสิทธิภาพ"

ตั้งแต่ปี 1995 Thunder Cranes ได้จัดหาแบรนด์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเครนโมดูลาร์แบบพกพาที่ได้มาตรฐาน API ซึ่งพัฒนาขึ้นในสหรัฐอเมริกา ปัจจุบัน Thunder Cranes มีสำนักงานใหญ่อยู่ในมาเลเซียและดำเนินงานทั่วโลก โดยมีฐานอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไทย มาเลเซีย บรูไน และแองโกลา

แพลตฟอร์มรุ่นเก่าจำนวนมากไม่ได้ติดตั้งเครนที่มีความจุเพียงพอหรือไม่ครอบคลุมเพื่อรองรับโครงการปัจจุบัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีเครนชั่วคราวที่สามารถติดตั้งได้เมื่อจำเป็น ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และคุ้มค่า เครนโมดูลาร์แบบพกพาได้กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในโครงการนอกชายฝั่งที่หลากหลายในการแทรกแซงบ่อน้ำ P&A การก่อสร้าง การเปลี่ยนเครน และการรื้อถอน

เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นการยกนอกชายฝั่ง Thunder Cranes ให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้าผ่านประสิทธิภาพการทำงานที่เชื่อถือได้และปลอดภัย ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ส่งผลให้ได้รับสัญญาบริการระยะยาวกับบริษัทน้ำมันและก๊าซในประเทศมาเลเซีย ประเทศไทย บรูไนและดูไบ ตลอดจนการรักษาความปลอดภัยโครงการในจีน เวียดนาม อินโดนีเซีย และแองโกลา

ในปี 2022 Thunder Cranes ได้รับสัญญาระยะยาวอีกฉบับหนึ่งกับบริษัทน้ำมันรายใหญ่ในประเทศไทย Dinesh Arumugam กล่าวว่า "ประเทศไทยเป็นตลาดหลักสำหรับ Thunder Cranes และตั้งแต่สัญญาแรกของเราที่นั่นในปี 2550 เราได้ทำงานร่วมกับเชฟรอน PTTEP และ Mubadala เป็นประจำ รางวัลล่าสุดนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงประสิทธิภาพการทำงานที่สม่ำเสมอและประวัติด้านความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยมของเรา นอกจากนี้ เรายังได้จัดหาโครงการในแองโกลาเพื่อสนับสนุนกิจกรรมการเปลี่ยนรถเครน และในอีก 6 เดือนข้างหน้า เราจะประมูลสัญญาในหลายประเทศ รวมถึงในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บรูไน กาตาร์ เติร์กเมนิสถาน อินเดีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย"

www.thundercranes .com

อ่านเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221003005551/en/

ติดต่อ:

Ywan Georges Carraz
Thunder Cranes
ywan@thundercranes.com 
+60128385716

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Satellite IM ต้อนรับผู้ใช้สู่แพลตฟอร์มสื่อสาร Web3 แบบกระจายศูนย์ (decentralized) ชิ้นแรก

Logo

ผู้ใช้จะได้เข้าถึงการส่งข้อความ การแชตแบบกลุ่ม และการแชตผ่านวิดีโอที่เป็นส่วนตัวและปลอดภัย

บอสตัน–(BUSINESS WIRE)–04 ตุลาคม 2565

วันนี้ Satellite IM แพลตฟอร์มสื่อสารชั้นนำด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่อยู่บนเครือข่าย peer-to-peer แบบกระจายศูนย์ (decentralized) เต็มรูปแบบ ได้ประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์มสื่อสารที่ให้ผู้ใช้สามารถแชตในสภาพแวดล้อมแบบไร้เซิร์ฟเวอร์ อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ และมีความปลอดภัยได้โดยตรง แอปพลิเคชันนี้เป็นแอปพลิเคชันโซเชียลแบบ Web3 ชิ้นแรกที่ให้ผู้ใช้เป็นเจ้าของข้อมูลของตัวเองได้อย่างเต็มรูปแบบ

ด้วยจุดประสงค์ในการออกแบบมาเป็นตัวเลือกแทนการใช้แพลตฟอร์มส่งข้อความที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งหลาย ๆ แอปมีการเก็บและติดตามข้อมูลของผู้ใช้ แอปพลิเคชันเดสก์ท็อปเบื้องต้นที่เป็นตัวหลักของ Satellite IM ให้ผู้คนสามารถส่งข้อความถึงเพื่อนได้ง่าย ๆ แชตผ่านวิดีโอ และส่งไฟล์ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และสามารถทำทั้งหมดนี้ได้โดยที่ผู้ใช้เป็นผู้ควบคุมข้อมูลของตัวเอง โครงสร้างพื้นฐานของแอปใช้ประโยชน์จากระบบไฟล์แบบกระจายศูนย์ (IPFS) เพื่อให้สามารถปักหมุดหรือเก็บไฟล์แบบกระจายได้ ซึ่งช่วยตัดความจำเป็นในการควบคุมเอนทิตี้ออกไป แพลตฟอร์มซึ่งพัฒนาขึ้นบนเครือข่ายแบบ peer-to-peer ที่มีการเข้ารหัสนี้จะรองรับการแชตผ่านวิดีโอและการสตรีมระดับ 4K เสียงแบบ lossless และความสามารถในการแชร์ไฟล์ขนาด 4GB ในอนาคตอันใกล้นี้ แพลตฟอร์ม Satellite จะเพิ่มการแชตผ่านวิดีโอระดับ 4K พร้อมกันหลายคน เซิร์ฟเวอร์ชุมชน และมาร์เก็ตเพลสเข้ามาด้วย

โดยพร้อม ๆ กับการมอบแพลตฟอร์มสำหรับการสื่อสารที่มีความเป็นส่วนตัวและเข้าถึงได้มากขึ้นให้กับผู้ใช้แล้ว แพลตฟอร์มของ Satellite IM ยังมีโค้ดแบบโอเพนซอร์สที่น่าสนใจสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการสร้างและประดิษฐ์สร้างสรรค์ในสภาพแวดล้อมของการใช้อินเทอร์เนต Web3 ใหม่ โดยให้นักพัฒนาสามารถปรับแต่งและสร้างขึ้นจากแพลตฟอร์มได้เลยเพื่อให้การใช้งานมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและทำให้มีการอัปเดตและการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นแบบกลุ่มใหญ่

Matt Wisniewski ซีอีโอของ Satellite กล่าวว่า “ขณะที่ปัจจุบันมีการละเมิดข้อมูลโดยบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ และเรายังขาดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่แข็งแกร่ง Satellite IM จึงได้เริ่มต้นก้าวที่สำคัญในการคืนความเป็นส่วนตัวของข้อมูลให้กับผู้คน การเปิดตัวแพลตฟอร์มของเราเป็นจุดเริ่มต้นของวิธีสื่อสารระหว่างเครือข่ายที่มีความปลอดภัยมากขึ้นในยุคของ Web3 ทุกวันนี้ ผู้คนต่างเบื่อหน่ายกับการล่วงล้ำข้อมูลส่วนตัวที่เกิดขึ้น เราหวังว่าเราจะสามารถช่วยกอบกู้การสื่อสารในแบบที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และการเป็นเจ้าของข้อมูลเป็นอันดับต้น ๆ กลับมาได้อีกครั้ง”

ผู้ใช้แพลตฟอร์มของ Satellite IM สามารถลงชื่อ เข้ารหัส เผยแพร่ ค้นหา และจัดเก็บเอกสารหรือข้อความด้วยการยืนยันตัวตนที่มีความปลอดภัย โดยไม่ต้องคอยกังวลเลยว่าข้อมูลจะหายไป หากต้องการเข้าถึงแพลตฟอร์มของ Satellite โปรดไปที่ https://core.satellite.im/

เกี่ยวกับ Satellite IM 
Satellite IM เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการสื่อสารผ่านเสียง วิดีโอ และข้อความแบบ peer-to-peer ที่มีการกระจายศูนย์อย่างเต็มรูปแบบ Satellite IM ทำให้เกิดการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นอิสระในแบบที่ไม่ซับซ้อนและการสื่อสารแบบ peer-to-peer โดยใช้ประโยชน์จากระบบไฟล์แบบกระจายศูนย์ (IPFS) และกลไก dag-jose แอปพลิเคชันเดสก์ท็อปเบื้องต้นที่เป็นตัวหลักของ Satellite Imlication อย่าง Satellite IM รองรับการแชตผ่านวิดีโอและการสตรีมระดับ 4K เสียงระดับ lossless และความสามารถในการแชร์ไฟล์ขนาด 4GB โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ แอปพลิเคชันสำหรับมือถือของ Satellite IM อย่าง Uplink มีกำหนดที่จะปล่อยออกมาให้ใช้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 2565 นี้

ดูเนื้อหาต้นฉบับที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220916005041/en/

ติดต่อ:

สื่อ
Olivia Troisi 
olivia.troisi@wachsman.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

แพลตฟอร์มการสรรหาบุคลากรชั้นนำของออสเตรเลียเลือก Boomi เพื่อเร่งการค้นหาผู้มีความสามารถ

Logo

  • LiveHire ร่วมงานกับบริษัทชั้นนำทั่วโลกในการเลือกการจัดการหมวดหมู่ชั้นนำและบริการแพลตฟอร์มแบบบูรณาการ(iPaaS) ที่ได้รับรางวัล Gold Globee Award® ของ Boomi เพื่อผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้น
  • แพลตฟอร์มของ Boomi ช่วยให้สามารถขยายธุรกิจระดับโลกของ LiveHire ในขณะที่ส่งมอบตัวเลือกการบูรณาการที่ตรงเวลาและคุ้มค่าใช้จ่ายมากขึ้น เพื่อให้เหมาะกับความต้องการในการได้มาซึ่งความสามารถเฉพาะของลูกค้า

เชสเตอร์บรูค เพนซิลเวเนีย–(BUSINESS WIRE)–04 ตุลาคม 2565

Boomi™ ผู้นำด้านการเชื่อมต่ออัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ประกาศในวันนี้ว่า LiveHire ผู้ให้บริการสรรหาบุคลากรซอฟต์แวร์ระดับโลก (SaaS) ได้ปรับปรุงความสามารถพิเศษและแพลตฟอร์มการจัดหาโดยตรงเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดเพื่อความรวดเร็วและการปรับเปลี่ยน ด้วยการใช้แพลตฟอร์ม Boomi AtomSphere™ Platform โดย LiveHire ได้พัฒนากลไกการบูรณาการเพื่อสนับสนุนความยืดหยุ่นและทางเลือกสำหรับความต้องการในการสรรหาบุคลากรตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งช่วยลดปัญหาการขาดแคลนทักษะระดับโลกที่กำลังดำเนินการอยู่

Leading Australian Recruitment Platform Selects Boomi to Speed Talent Searches (Graphic: Business Wire)

แพลตฟอร์มการสรรหาบุคลากรชั้นนำของออสเตรเลียเลือก Boomi เพื่อเร่งการค้นหาผู้มีความสามารถ (กราฟิก: Business Wire)

ได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำตลาดในการจัดหาโดยตรงหลังจากเข้าสู่ตลาดอเมริกาเหนือได้ไม่นาน LiveHire ช่วยให้ลูกค้าสามารถดึงดูดและมีส่วนร่วมกับทั้งพนักงานประจำและพนักงานชั่วคราว การเติบโตอย่างต่อเนื่องของการสรรหาบุคลากรระดับองค์กรทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างรวดเร็วในอเมริกาเหนือ ได้ผลักดันให้บริษัทจำเป็นต้องขยายตลาดบูรณาการเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น

“ลูกค้าทุกคนมีรายการความปรารถนาของตัวเอง แต่เราอยู่ท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนทักษะระดับโลก และมีแอปพลิเคชัน HR หลายร้อยรายการที่ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ส่งมอบผลลัพธ์ที่ดีขึ้น” Will Sheers หัวหน้าบริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ LiveHire กล่าว “ทีมของเราไม่มีความสามารถในการสร้างการบูรณาการโดยตรงสำหรับทุกคำขอ และไม่ใช่ลูกค้าหรือพันธมิตรด้านเทคโนโลยีทุกรายที่สามารถสร้างการบูรณาการของตนเองกับ Open Application Programming Interfaces (Open APIs) ของ LiveHire โดย Boomi ช่วยให้เราส่งมอบโซลูชันการบูรณาการที่ปลอดภัยได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มผลตอบแทนสูงสุดจากการลงทุนใน Open APIs และช่วยให้ทีมวิศวกรของเราสามารถมุ่งเน้นไปที่การริเริ่มเชิงกลยุทธ์อื่น ๆ ได้”

Boomi เปลี่ยนวิธีที่ LiveHire เข้าถึงการบูรณาการ ช่วยให้แพลตฟอร์มการสรรหาบุคลากรขยายขีดความสามารถในการบูรณาการ

ภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากปรับใช้แพลตฟอร์ม Boomi โดย LiveHire ได้เปิดตัวการบูรณาการกับ SAP Fieldglass แพลตฟอร์มการจัดการแรงงานภายนอกที่เป็นตลาดชั้นน้ำ การเชื่อมต่อนี้ร่วมกับการบูรณาการ SAP SuccessFactors Recruitment Module ของ LiveHire ทำให้ LiveHire เป็นแพลตฟอร์ม Total Talent Acquisition and Engagement Platform ที่เป็นหนึ่งเดียวกันสำหรับ SAP

“การขาดแคลนผู้มีความสามารถไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในภาคส่วนเทคโนโลยีหรือในออสเตรเลียเท่านั้น แต่ยังมีปัญหาด้านทักษะที่เป็นปัญหาในหลายอุตสาหกรรมทั่วโลก เพื่อค้นหาบุคคลที่เหมาะสมได้เร็วขึ้น บริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มการสรรหาบุคลากรดิจิทัลที่เหมาะกับสไตล์บริษัทของพวกเขา” Nathan Gower หัวหน้าบริหารในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ของ Boomi กล่าว “ด้วยแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและแบบ low-code ของเรา ทำให้ LiveHire สามารถเสนอกลไกการบูรณาการที่เป็นมาตรฐานแก่ลูกค้า ซึ่งช่วยให้พวกเขาปรับเปลี่ยนกระบวนการจ้างงานด้วยกรอบการทำงานที่ยืดหยุ่นเพื่อหยิบและเลือกการผสมผสานของระบบ HR ที่ต้องการได้”

Boomi เฉลิมฉลองรางวัลมากมายสำหรับความเป็นเลิศของผลิตภัณฑ์และวัฒนธรรม รวมถึงรางวัล Gold Globee® Award ในหมวดหมู่ Platform as a Service (PaaS) รางวัล Stevie® Awards ระดับนานาชาติสองรางวัลสำหรับ Company of the Year and Product Innovation ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน Inc. Magazine’s Best Workplaces และสองรางวัลเทียบเคียงสำหรับ Best CEOs for Diversity and Best Company for Career Growth

ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในบริษัทเอกชนที่เติบโตเร็วที่สุดของอเมริกาในรายชื่อ Inc. 5000 2022 listเมื่อเร็ว ๆ นี้ Boomi ได้สร้างสถิติด้านอุตสาหกรรมสำหรับฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มแบบบูรณาการ เพิ่มผู้นำระดับโลก และยังคงขยายธุรกิจไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง

Boomi ได้รับตำแหน่งผู้นำใน Gartner® Magic Quadrant™ สำหรับ Enterprise Integration Platform as a Service (EiPaaS) เป็นเวลาแปดปีติดต่อกัน

ในฐานะบริษัทให้บริการด้านซอฟต์แวร์ (SaaS) การจัดหมวดหมู่ชั้นนำระดับโลก Boomi นำเสนอชุมชนผู้ใช้ที่กำลังเติบโตซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 100,000 ราย และหนึ่งในอาร์เรย์ที่ใหญ่ที่สุดของผู้รวมระบบ (GSI) ทั่วโลกในด้าน iPaaS บริษัทมีความภูมิใจในเครือข่ายทั่วโลกของพันธมิตรประมาณ 800 ราย ซึ่งรวมถึง Accenture, Deloitte, SAP และ Snowflake; และเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการคลาวด์ไฮเปอร์สเกลอร์ที่ใหญ่ที่สุด รวมถึง Amazon Web Services, Google และ Microsoft เป็นต้น

แพลตฟอร์ม cloud-native แบบ low-code ของ Boomi ช่วยให้องค์กรในทุกอุตสาหกรรมเชื่อมต่อแอปพลิเคชันข้อมูล ปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ และมอบประสบการณ์ลูกค้าแบบบูรณาการมากขึ้น

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบของ Gartner::

Gartner, Magic Quadrant for Enterprise Integration Platform as a Service, Eric Thoo, Keith Guttridge, Bindi Bhullar, Shameen Pillai, Abhishek Singh, 29 กันยายน 2564

Gartner ไม่รับรองผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใด ๆ ที่ปรากฎในเอกสารการวิจัย และไม่แนะนำให้ผู้ใช้เทคโนโลยีเลือกเฉพาะผู้ขายที่มีคะแนนสูงสุดหรือกำหนดตำแหน่งอื่น ๆ สิ่งพิมพ์วิจัยของ Gartner ประกอบด้วยความคิดเห็นขององค์กรวิจัยของ Gartner และไม่ควรตีความว่าเป็นข้อเท็จจริง Gartner ปฏิเสธการรับประกันทั้งหมด ไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยนัย ในส่วนที่เกี่ยวกับการวิจัยนี้ รวมถึงการรับประกันความสามารถในการซื้อขายหรือความเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ GARTNER และ Magic Quadrant เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและเครื่องหมายบริการของ Gartner, Inc. และ/หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ และได้รับอนุญาตให้ใช้ในที่นี้ สงวนลิขสิทธิ์ หมายเหตุ: Boomi เป็นที่รู้จักในชื่อ Dell Boomi ตั้งแต่ปี 2557 ถึง 2562

เกี่ยวกับ Boomi
 

Boomi ตั้งเป้าที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นโดยเชื่อมโยงทุกคนเข้ากับทุกสิ่งและทุกที่ ผู้บุกเบิกการให้บริการแพลตฟอร์มบูรณาการ (iPaaS) บนคลาวด์ และปัจจุบันเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลก (SaaS) การจัดหมวดหมู่ชั้นนำ Boomi นำเสนอฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มบูรณาการและเครือข่ายพันธมิตรประมาณ 800 รายทั่วโลก รวมถึง Accenture, Capgemini, Deloitte, SAP, Snowflake, Amazon Web Services, Google Cloud และ Microsoft องค์กรระดับโลกหันไปใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลของ Boomi ในการค้นหา จัดการ และประสานข้อมูล ในขณะที่เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน กระบวนการ และผู้คนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.boomi.com

© 2022 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ 'B', Boomiverse และ AtomSphere เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทย่อยหรือบริษัทในเครือ สงวนลิขสิทธิ์ ชื่อหรือเครื่องหมายอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

ติดต่อ:

Boomi:
Kristen Walker
kristenwalker@boomi.com
+1-415-613-8320

Boomi Australia and New Zealand
boomi@watterson.com.au

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Hytera เปิดตัวกล้องติดตัวสมาร์ท 4G พร้อมคุณสมบัติแบบ PushTalk กดเพื่อพูด

Logo

ด้วยตัวเครื่องที่บางเฉียบและฟังก์ชันระดับมืออาชีพกล้องติดตัว  Hytera SC580 Smart 4G Body Camera ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญที่สุดได้

เซินเจิ้น จีน–(BUSINESS WIRE)–3 ต.ค. 2565

Hytera Communications (SZSE: 002583) ผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านเทคโนโลยีและโซลูชั่นการสื่อสารระดับมืออาชีพ ได้เปิดตัว SC580 Smart 4G Body Camera  เพื่อเพิ่มผลิตภัณฑ์ซีรี่ส์กล้องแบบสวมร่างกาย กล้องติดตัวรุ่นใหม่นี้ซึ่งมีน้ำหนักเพียง 177 กรัมอัดแน่นด้วยคุณสมบัติวิดีโอขั้นสูงในตัวเครื่องที่บางเฉียบและทนทาน โดยจะสตรีมวิดีโอ เสียง และภาพถ่ายจากภาคสนามไปยังศูนย์บัญชาการผ่านเครือข่าย LTE ส่วนตัว เครือข่ายเซลลูลาร์ หรือ WLAN

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20221002005002/en/

Hytera Releases Smart 4G Body Camera with Push-to-Talk Feature (Graphic: Business Wire)

Hytera เปิดตัวกล้องติดตัวแบบสมาร์ท 4G พร้อมคุณสมบัติ กดปุ่มเพื่อพูด Push-to-Talk (กราฟิก: Business Wire)

หน่วยงานด้านความปลอดภัยสาธารณะใช้กล้องติดตัวในการเก็บหลักฐานและรักษาความโปร่งใสในการบังคับใช้กฎหมาย ในขณะที่กล้องติดตัวมีบทบาทสำคัญในการยับยั้งความรุนแรงและปกป้องเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่ ผลิตภัณฑ์รุ่น SC580 มีความเป็นเลิศในการจับภาพวิดีโอที่ชัดเจนในสถานการณ์ที่ท้าทาย เช่น ในสภาพแสงน้อยและทัศนวิสัยไม่ดี การใช้งานในสภาพแสงที่น้อยได้ของ SC580 เกิดขึ้นได้ด้วยเซ็นเซอร์สตาร์ไลท์ ซึ่งสามารถจับภาพที่มีสีสันระดับ HD พร้อมรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น ใบหน้าคนหรือหมายเลขป้ายทะเบียนรถในเวลากลางคืน ด้วยเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหวแบบ 6 แกน กล้องติดตัวกล้องนี้สามารถจับภาพวิดีโอที่นิ่งและชัดเจนแม้ในขณะที่ผู้ใช้กำลังเคลื่อนไหวอยู่

อายุการใช้งานแบตเตอรี่เป็นปัญหาทั่วไปอย่างหนึ่งของการทำงานของกล้องติดตัว SC580 ทำงานด้วยการใช้พลังงานที่เหมาะสมที่สุดและอยู่ได้นานกว่ากะของเจ้าหน้าที่ 12 ชั่วโมง แบตเตอรี่สำรองในตัวที่สามารถรองรับการบันทึกได้ 3-5 นาที ทำให้ SC580 สามารถบันทึกต่อไปได้แม้ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเปลี่ยนแบตเตอรี่หลักแบบถอดได้

“กล้องติดตัวสามารถจับภาพหลักฐาน ที่ช่วยสร้างความชัดเจน และเพิ่มความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ในแต่ละวัน” Ke Wang รองประธานของ Hytera กล่าว “เราได้ศึกษาความคิดเห็นของผู้ใช้จำนวนมากเพื่อพัฒนาคุณสมบัติที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ ด้วยวิธีนี้ เราจึงทำให้กล้องติดตัว SC580 เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังเพื่ออำนวยความสะดวกในการบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น”

ด้วยการใช้แอปพลิเคชัน Hytera Push-to-talk over Cellular (PTToC หรือ PoC) SC580 ทำงานอเนกประสงค์เป็นวิทยุ PoC ปุ่ม Push-to-talk (PTT) หรือปุ่มกดเพื่อพูดช่วยรองรับการโทรด้วยเสียงที่ใช้งานง่าย ในขณะที่คีย์การบันทึกวิดีโอที่จัดเรียงตามหลักสรีรศาสตร์ช่วยให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้สามารถเริ่มการบันทึกได้อย่างรวดเร็วท่ามกลางความเร่งรีบของกิจกรรมที่กำลังดำเนินอยู่

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกล้องติดตัวอัจฉริยะ Hytera SC580 4G โปรดไปที่: https://www.hytera.com/en-products/body-worn-camera/body-worn-camera/sc580/

เกี่ยวกับ Hytera

Hytera Communications Corporation Limited (SZSE: 002583) เป็นผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านเทคโนโลยีและโซลูชั่นการสื่อสารระดับมืออาชีพ ด้วยความสามารถด้านเสียง วิดีโอ และข้อมูล เรามอบการเชื่อมต่อที่รวดเร็วกว่า ปลอดภัยกว่า และหลากหลายมากขึ้นสำหรับผู้ใช้ธุรกิจและผู้ใช้ที่ภารกิจของพวกเขามีความสำคัญมาก เราทำให้โลกมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยการช่วยให้ลูกค้าของเราประสบความสำเร็จมากขึ้นทั้งในด้านการปฏิบัติงานประจำวันและการรับมือเหตุฉุกเฉิน เรียนรู้เพิ่มเติมที่ https://www.hytera.com/en/home.html.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221002005002/en/

ติดต่อ:

lele.yao@hytera.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

CHINT เริ่มลดคาร์บอนเมื่อสิ้นสุดการรณรงค์ระดับโลก

Logo

ขณะนี้ถึงเวลาสำหรับการลดคาร์บอนทั่วโลกแล้ว และแคมเปญระดับโลกกำลังดำเนินการอยู่

เซี่ยงไฮ้–(บิสิเนส ไวร์)–30 ก.ย. 2022

CHINT Limitless ประสบความสำเร็จในการปิดฤดูกาลสร้างแบรนด์ระดับโลก โดยได้มีความก้าวหน้าในการแบ่งปันโซลูชันการลดคาร์บอนกับประเทศและภูมิภาคต่างๆ มากกว่า 10 แห่ง และออกเดินทางสำรวจเส้นทางใหม่สำหรับธุรกิจจีนในการสื่อสารกับบริษัทต่างๆ ที่ต่างประเทศ “CHINT หยั่งรากลึกในตลาดพลังงานไฟฟ้าทั่วโลก และกำลังสำรวจศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงพลังงานอย่างต่อเนื่อง ความปรารถนาของเราคือมีส่วนร่วมในการแบ่งปันแนวความคิดที่เป็นนวัตกรรมและโอกาสที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าทั่วโลก และทำงานร่วมกับผู้อื่นเพื่อสร้างโลกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น” คุณ Lily Zhang ซีอีโอของ CHINT Electrics กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220930005156/en/

CHINT carbon reduction gets underway as the Global Campaign comes to a close (Photo: Business Wire)

การลดคาร์บอนของ CHINT กำลังดำเนินอยู่ในขณะที่การรณรงค์ระดับโลกใกล้จะสิ้นสุดลง (ภาพ: Business Wire)

โดยครอบคลุมหลายทวีปตั้งแต่ตะวันออกไปจนถึง ตะวันตก ครอบคลุมประเทศต่างๆ ทั้งในซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ ครอบคลุมระยะเวลาเกือบ 100 วัน ผ่านการผสมผสานระหว่างวิธีการทางออนไลน์และด้วยตนเอง โดยใช้การประชุมสุดยอดแบรนด์ การเข้าชมและจัดแสดงสินค้าในร้าน การแกะกล่องแบบสด การริเริ่มเพื่อสิ่งแวดล้อม และอื่นๆ CHINT เรียกร้องให้พันธมิตรทั่วโลกมีส่วนร่วมของอย่างกระตือรือร้น ร้านค้าพิเศษของ CHINT เกือบ 100 แห่งใน 5 ทวีป จากยุโรป เอเชีย แอฟริกา และละตินอเมริกาได้ตอบรับ และต่อมาได้เรียกร้องให้มีการสนับสนุนลูกค้าจากคู่ค้าในสาขาต่างๆ เช่น โซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ ศูนย์ข้อมูล ส่วนประกอบ HVAC และ LV ทั้งหมดนี้มีเป้าหมายในการค้นพบวิธีแก้ปัญหาการลดคาร์บอนภายในอุตสาหกรรม

ในสเปน CHINT และสมาคมไฟฟ้าในท้องถิ่นได้ร่วมกันจัดสัมมนาผ่านเว็บเพื่อหารือเกี่ยวกับลักษณะทางเทคนิคและสถานการณ์การใช้งานของอุตสาหกรรมโดยใช้ผลิตภัณฑ์ CHINT เป็นตัวอย่าง ในอินโดนีเซีย CHINT และพันธมิตรในท้องถิ่นร่วมมือกันและแบ่งปันความรู้และความเชี่ยวชาญกับช่างไฟฟ้ากว่า 150 คน

การพัฒนาที่ยั่งยืนได้กลายเป็นประเด็นระดับโลก และภาคพลังงานอยู่ในระดับแนวหน้าในแง่ของการลดคาร์บอน CHINT มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำระดับโลกในฐานะผู้ให้บริการโซลูชั่นพลังงานอัจฉริยะ จะนำความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม 38 ปีมาทำงานเพื่อจัดการกับความต้องการพลังงานสีเขียว ไฟฟ้าอัจฉริยะ และการลดคาร์บอนอัจฉริยะทั่วโลก โดยจะมอบบทบาทอย่างเต็มที่ในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสะสมและความสามารถด้านวิศวกรรมโครงการและการใช้งาน โดยร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในเชิงรุก 140 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก มีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานทั่วโลกของ “CHINT Solutions”

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220930005156/en/

ติดต่อ:

Cora Geng
gxiaol@chintglobal.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ประกาศเปิดตัวโมดูลอัจฉริยะ SC680A LTE ใหม่ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและการประยุกต์ใช้ AI ของแมชชีนวิชัน

Logo

ลาสเวกัส–(BUSINESS WIRE)–28 ก.ย. 2565

Quectel Wireless Solutions ผู้ให้บริการโซลูชัน IoT ระดับโลก ประกาศในวันนี้ว่าได้เปิดตัวโมดูลอัจฉริยะ SC680A ใหม่ ซึ่งมีตัวเลือกการเชื่อมต่อที่หลากหลาย รวมถึง LTE Cat 6, Wi-Fi 802.11ac และ Bluetooth 5.0 พร้อมประสิทธิภาพของระบบอันทรงพลังและฟังก์ชันมัลติมีเดียที่หลากหลาย โมดูลอัจฉริยะ SC680A มุ่งเป้าไปที่อุปกรณ์ IoT ระดับกลาง ซึ่งรวมถึง POS และจุดชำระเงิน อุปกรณ์พกพาอุตสาหกรรมสำหรับโลจิสติกส์และคลังสินค้า โซลูชันอินโฟเทนเมนต์ในรถยนต์และกล้องติดรถยนต์ รวมถึงแอพพลิเคชั่นขนาดเล็กและรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กอีกด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220928005031/en/

Quectel's new SC680A LTE smart module (Photo: Business Wire)

โมดูลอัจฉริยะ SC680A LTE ใหม่ของ Quectel (รูปภาพ: Business Wire)

Norbert Muhrer ประธานและ CSO ของ Quectel กล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะแนะนำโมดูลอัจฉริยะแบบบูรณาการขั้นสูงอีกตัวหนึ่ง ซึ่งช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกได้รับความยืดหยุ่นมากขึ้นในการออกแบบอุปกรณ์ IoT ของพวกเขา" “มันช่วยมอบความหลากหลายให้กับอุตสาหกรรมและผู้บริโภค IoT แนวดิ่งที่มีอัตราข้อมูลสูงพร้อมกับคุณสมบัติของกล้องที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ SC680A ยังมีวงจรชีวิตที่ยาวนานจนถึงปี 2571 เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการความพร้อมใช้งานของฮาร์ดแวร์ที่เพิ่มขึ้น และช่วยให้ภาค IoT สร้างโซลูชัน IoT ที่พิสูจน์ในอนาคตได้”

โมดูล SC680A ของ Quectel ใช้พลังของแพลตฟอร์ม Qualcomm QCM4290  ซึ่งใช้ตัวประมวลผลแอปพลิเคชัน Kryo 260 แบบ octa-core 64 บิต ที่ปรับแต่งเองได้เพื่อเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีเยี่ยมบนอุปกรณ์

โมดูล SC680A รองรับเครือข่ายเซลลูลาร์ LTE Cat 6 แบบมัลติโหมดพร้อมเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะสั้น เช่น Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 802.11ac และความสามารถในการอัปเกรดเป็น Wi-Fi 6 L1+L5 ระบบดูอัลแบนด์หลายกลุ่ม (dual-band multi-constellation)และ ตัวรับ GNSS ที่มีความแม่นยำสูง (GPS/ GLONASS/ BDS/ Galileo/ NavIC/ QZSS) ยังถูกฝังเอาไว้สำหรับบริการระบุตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด อีกด้วย

Quectel SC680A มีระบบปฏิบัติการ Android 12 ในตัว ซึ่งช่วยให้อัปเกรดในอนาคตเป็น Android 13 หรือ 14 ได้ และเหมาะสำหรับการรับรอง Google GMS อนึ่งโมดูลที่มาพร้อมกับ Adreno 610 GPU อันทรงพลังนี้รองรับกล้องสูงสุดสี่ตัว และกล้องคู่ที่มีความละเอียดสูงสุด 25 MP ที่สามารถทำงานได้พร้อมกัน

กลุ่มผลิตภัณฑ์ SC680A นำเสนอตัวเลือกที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก:

  • SC680A-NA สำหรับอเมริกาเหนือ ตัวอย่างโมดูล SC680A-NA จะวางจำหน่ายในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2565
  • SC680A-WF (Wi-Fi และบลูทูธเท่านั้น) สำหรับตลาดทั่วโลกจะวางจำหน่ายในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2565
  • SC680A-EM สำหรับ ยุโรป ตะวันออกกลาง และ แอฟริกา (EMEA), เกาหลี, เอเชียใต้, อินเดีย, ละตินอเมริกา, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และแอฟริกาใต้ พร้อมตัวอย่างที่คาดว่าจะวางจำหน่ายในปลายเดือนกันยายน 2565
  • SC680A-JP อีกรุ่นหนึ่งอยู่ระหว่างการวางแผนสำหรับตลาดญี่ปุ่น

ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกับโมดูลอัจฉริยะรุ่นก่อนหน้าของ Quectel เช่น SC600Y/ SC600T/ SC606T/SC686A ได้แบบ pin-to-pin ผลิตภัณฑ์ซีรีส์ SC680A สามารถช่วยนักพัฒนา IoT อัพเกรดเทอร์มินัลอัจฉริยะของตนได้อย่างง่ายดายและเร่งเวลาในการออกสู่ตลาดของอุปกรณ์

Quectel อยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครในการช่วยสร้างโลกที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้นด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชัน IoT และบริการแบบครบวงจร นอกจากโมดูลอัจฉริยะที่ครอบคลุมทุกกลุ่มตลาดตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับพรีเมียมแล้ว Quectel ยังมีเสาอากาศประสิทธิภาพสูงที่ครอบคลุมอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เสาอากาศ Combo ของ Quectel ซึ่งรวมเทคโนโลยีหลายอย่าง เช่น 4G, Wi-Fi และ GNSS ซึ่งให้โซลูชันเสาอากาศที่ยืดหยุ่นสูงและเชื่อถือได้สำหรับการใช้งานกลางแจ้ง

โมดูล SC680A จะถูกจัดแสดงที่งาน MWC ลาสเวกัส ที่บูธหมายเลข W1.520 ในวันที่ 28-30 กันยายน 2565 โดยจะวางจำหน่ายทั่วไปในช่วงเดือนตุลาคม

เกี่ยวกับ Quectel

ความหลงใหลในโลกที่ชาญฉลาดของ Quectel ผลักดันให้เราเร่งสร้างนวัตกรรม IoT โดยในฐานะองค์กรที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เราเป็นผู้ให้บริการโซลูชัน IoT ระดับโลกที่มีฝ่ายสนับสนุนและบริการที่โดดเด่น ทีมงานระดับโลกที่กำลังเติบโตของเราซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญกว่า 4,000 คนเป็นผู้กำหนดจังหวะสำหรับนวัตกรรมในโมดูลเซลลูลาร์, GNSS, Wi-Fi และ Bluetooth®, เสาอากาศ และการเชื่อมต่อ IoT ด้วยสำนักงานระดับภูมิภาคและการสนับสนุนทั่วโลก ความเป็นผู้นำระดับนานาชาติของเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา IoT และช่วยสร้างโลกที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม: www.quectel.com, LinkedIn, Facebook กับ Twitter.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220928005031/en/

ติดต่อ:

Ashley Liu, media@quectel.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

The Bangkok Reporter