Hytera เปิดตัวกล้องติดตัวขนาดกะทัดรัดพร้อมความละเอียด 2K

Logo

กล้องติดตัวแบบมินิรุ่น GC550 2K ของ Hytera นำเสนอความละเอียด 2K และฟังก์ชันวิดีโอระดับมืออาชีพที่หลากหลายด้วยขนาดที่กะทัดรัด

เซินเจิ้น ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–19 มกราคม 2023

วันนี้ Hytera Communications (SZSE: 002583) ผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชันการสื่อสารระดับมืออาชีพชั้นนำระดับโลก ได้เปิดตัวกล้อง Body Worn Camera (BWC) กล้องติดตัวแบบมินิรุ่นล่าสุด GC550 2K ซึ่ง GC550 ออกแบบโดยให้ความสำคัญกับการยศาสตร์ เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการส่งเสริมความโปร่งใสในที่ทำงานและความปลอดภัยของบุคลากรสำหรับการบังคับใช้กฎหมายและความปลอดภัย

Hytera GC550 2K Mini Body Camera (Photo: Business Wire)

กล้องติดตัวแบบมินิรุ่น GC550 2K ของ Hytera (ภาพ: Business Wire)

GC550 ที่มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาจับภาพทุกเหตุการณ์ในมุมมองกว้างพิเศษ 150° มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดในตลาด โดย GC550 สามารถแสดงวิดีโอ 2K ที่คมชัดเป็นพิเศษที่ 30 fps ทุกเฟรมของวิดีโอนั้นงดงามด้วยรายละเอียดที่ดีที่สุด เทคโนโลยีการมองเห็นตอนกลางคืนด้วยแสงดาวทำให้สามารถถ่ายภาพฟุตเทจที่คมชัดและมีสีสันได้ภายใต้สภาพแสงน้อยมาก เช่น ในเวลากลางคืน

กล้องติดตัวเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับภารกิจและสถานการณ์สำคัญทางธุรกิจมากมาย ภาพที่คมชัดขึ้น ชัดเจนขึ้น และราบรื่นขึ้นช่วยทำให้การบันทึกวิดีโอมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบงานและรวบรวมหลักฐาน” กล่าวโดย Ke Wang รองประธานของ Hytera “GC550 ได้รับการออกแบบมาเพื่อเก็บรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการสืบสวนทางกฎหมายและการพิจารณาคดีในศาล ในขณะเดียวกันก็มีความโดดเด่นในด้านความสะดวกในการสวมใส่และพกพา”

ทุกวินาทีมีค่าเมื่อเจ้าหน้าที่บันทึกเหตุการณ์หรือการพูดคุย แบตเตอรี่สำรองในตัวช่วยให้ผู้ใช้มีเวลาเพิ่มอีก 5 นาทีในการเปลี่ยนแบตเตอรี่หลัก และในขณะเดียวกันก็ช่วยให้บันทึกได้อย่างต่อเนื่อง หาก GC550 ตรวจพบการตกหรือการกระแทกอย่างฉับพลันขณะบันทึก ระบบจะบันทึกการบันทึกที่กำลังดำเนินอยู่โดยอัตโนมัติ และรักษาสิ่งที่บันทึกไว้ให้ปลอดภัย

GC550 น้ำหนักเบาเพียง 115 ก. ช่วยให้สวมอินทรธนูหรือกระเป๋าด้านหน้าได้ด้วยคลิปหนีบ 360° ผู้ใช้สามารถหมุนกล้องติดตัวได้อย่างง่ายดายและค้นหามุมบันทึกที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องถอดออก สวิตช์แบบเลื่อนช่วยให้เริ่มบันทึกได้อย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉิน และแสดงสถานะการบันทึกผ่านตำแหน่งอย่างชัดเจน ทำให้ผู้ใช้สามารถจดจ่ออยู่กับสถานการณ์นั้น ๆ ได้โดยไม่ต้องสนใจกล้องติดตัวมากเกินไป

วันที่วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่อาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Hytera GC550 2K Mini Body Camera สามารถดูได้ที่ https://www.hytera.com/en-products/body-worn-camera/body-worn-camera/gc550/

เกี่ยวกับ Hytera

Hytera Communications Corporation Limited (SZSE: 002583) เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชันการสื่อสารระดับมืออาชีพชั้นนำระดับโลก ด้วยความสามารถด้านเสียง วิดีโอ และข้อมูล เรามอบการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว ปลอดภัย และหลากหลายมากขึ้นสำหรับธุรกิจและผู้ใช้ที่มีความสำคัญต่องานที่ได้รับมอบหมาย เราทำให้โลกสะดวกขึ้นและปลอดภัยยิ่งขึ้นโดยทำให้ลูกค้าของเราประสบความสำเร็จมากขึ้นทั้งในด้านการปฏิบัติงานประจำวันและการตอบสนองเหตุฉุกเฉิน

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53208375/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Lele.yao@hytera.com

แหล่งที่มา: Hytera Communications Corporation Limited

สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมไอทีแห่งปูซานประสบความสำเร็จในโครงการฝึกอบรม ASEAN-ROK XR ปี 2022

Logo

  • โครงการฝึกอบรม ASEAN-ROK XR ที่มีระยะเวลา 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 2 ธันวาคม เสร็จสิ้นลงแล้ว
  • มีเจ้าหน้าที่จากกลุ่มประเทศอาเซียน ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม และเนปาล จำนวน 19 คน เข้าร่วมโครงการ
  • ส่งเสริมโครงการความร่วมมืออาเซียน-เกาหลีผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูล XR และ Metaverse ระหว่างประเทศ

ปูซาน เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–18 มกราคม 2023

สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมไอทีแห่งปูซาน (ประธาน Jeong Mun-Seob) ประกาศเสร็จสิ้นโครงการฝึกอบรม ASEAN-ROK XR โดยมีผู้เข้าร่วม 19 คนจากองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ตลอดจนเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นที่ ASEAN-ROK ICT Convergence Village ในเมืองปูซาน

ในช่วงห้าวันตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายนถึงวันที่ 2 ธันวาคม ทีมงานได้พัฒนามาตรการความร่วมมือเฉพาะระหว่างเกาหลีและอาเซียนในด้าน XR และเทคโนโลยี metaverse

โครงการฝึกอบรมนี้จัดขึ้นโดยสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมไอทีแห่งปูซาน ศูนย์ข้อมูลและเครือข่ายระหว่างประเทศสำหรับมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ภายใต้การอุปถัมภ์ของ UNESCO (อธิบดี Kim Ji-Sung) และองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยว สำหรับเมืองในเอเชียแปซิฟิก (เลขาธิการ Woo Kyoung-Ha)

โครงการฝึกอบรมนี้จัดขึ้นเพื่อพัฒนาความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยว XR และมรดกทางวัฒนธรรมระหว่างเกาหลีและประเทศในอาเซียน โครงการประกอบด้วยการฝึกอบรมทฤษฎี XR/Metaverse การแนะนำกรณีศึกษาของการท่องเที่ยวเกาหลี XR/Metaverse และการบรรจบกันของมรดกทางวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมเทคโนโลยี การเยี่ยมชมโรงงานและบริษัทที่สำคัญในเกาหลี และการเขียนข้อเสนอโครงการร่วมกันโดยทีมงานและที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

ผู้เข้ารับการฝึกอบรมประกอบด้วยสมาชิก 19 คนจากสี่ประเทศในอาเซียน (กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม) และเนปาลจาก ICT องค์กรที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว และรัฐบาลท้องถิ่น โดยจากความรู้ที่ได้รับจากโครงการฝึกอบรม พวกเขาได้เสนอโครงการความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยวและมรดกทางวัฒนธรรม

ข้อเสนอโครงการความร่วมมือทั้งหมดเก้ารายการมาจากโครงการฝึกอบรม ได้แก่

1) กัมพูชา, นครวัด, การพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อส่งเสริมการตระหนักรู้เกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรม, FIND ANGKOR

2) อินโดนีเซีย Metatourism ในเมืองบาตู

3) เนปาล การให้ข้อมูลเกี่ยวกับทัวร์เสมือนจริงผ่านการเปลี่ยนแปลงของภูมิภาคเนปาล

4) มาเลเซีย พิพิธภัณฑ์มีชีวิตในรัฐซาราวักในโลกความเป็นจริงอันสมบูรณ์

5) มาเลเซีย AIVACHI (ข้อมูลมรดกทางวัฒนธรรมของผู้ช่วยเสมือนปัญญาประดิษฐ์)

6) มาเลเซีย แกลเลอรีการท่องเที่ยวอัจฉริยะไทปิง (TAIPING SMART TOURISM GALLERY)

7) เวียดนาม การเล่าเรื่องเพื่อส่งเสริม UNESCO ICH ผ่าน VR อย่างเทศกาล Giong ของคนเวียดนามในวัด Phu Dong และวัด Soc

8) เวียดนาม การประยุกต์ใช้ XR-METAVERSE ในการอนุรักษ์อาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในนครโฮจิมินห์และเมืองไฮฟอง

9) เวียดนาม การแปลงข้อมูลโบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์และมรดกทางวัฒนธรรมใน Long An ไปสู่รูปแบบดิจิทัล

ผู้เชี่ยวชาญจะหารือเกี่ยวกับโครงการที่มีแนวโน้มมากที่สุดซึ่งจะได้รับโปรโมตเป็น 'โครงการความร่วมมือเกาหลี-อาเซียน XR' ในปีหน้า

Jeong Mun-Seob ประธานและซีอีโอของ BIPA กล่าวว่า "ผ่านโครงการฝึกอบรมนี้ เราได้ขยายความเป็นไปได้ของความร่วมมือในด้าน XR และ metaverse กับเกาหลีและอาเซียน ความร่วมมือเกาหลี-อาเซียน XR คาดว่าจะเพิ่มโอกาสให้กับบริษัทเกาหลีในการเข้าสู่ตลาด ตลอดจนส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างเกาหลีและประเทศในอาเซียนผ่านเครือข่ายที่ขยายออกไป "

Kim Ji-Sung ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลและเครือข่ายระหว่างประเทศสำหรับมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกภายใต้การอุปถัมภ์ของ UNESCO กล่าวว่า "ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่เร็วขึ้นตั้งแต่การระบาดของ COVID-19 ความพยายามผสานรวมเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น XR และ metaverse กับมรดกทางวัฒนธรรมกำลังได้รับความสนใจ โครงการฝึกอบรมนี้จะขยายโอกาสให้คนรุ่นหลังในอาเซียนได้มีส่วนร่วมกับความสนใจในการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรม”

"XR·Metaverse เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ได้รับความสนใจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว เมื่อเร็ว ๆ นี้ TPO ยังประสบความสำเร็จในการประชุมสามัญครั้งที่ 10 ภายใต้หัวข้อการฟื้นฟูการท่องเที่ยวและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการส่งเสริมการท่องเที่ยว" กล่าวโดย Woo Kyoung-Ha เลขาธิการองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับเมืองในเอเชียแปซิฟิก (TPO) "เราจะพยายามต่อไปเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของผู้เข้ารับการฝึกอบรมและเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างเกาหลีและอาเซียนบนพื้นฐานความร่วมมือระหว่างสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมไอทีแห่งปูซานและ TPO"

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมไอทีแห่งปูซาน
Hanah
+82-51-783-1170
hanah@busanit.or.kr
http://www.busanit.or.kr/

แหล่งที่มา: Busan IT Industry Promotion Agency

eCloudvalley อยู่ในอันดับที่ 18 ซึ่งเป็น MSP บนคลาวด์สาธารณะ 250 อันดับแรกของโลกในปี 2022 อ้างอิงตาม ChannelE2E

Logo

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–17 มกราคม 2023

จากข้อมูลของ ChannelE2E นั้น eCloudvalley Digital Technology อยู่ในอันดับที่ 18 ใน MSP (Managed Service Providers) บนคลาวด์สาธารณะ 250 อันดับแรกของโลกในปี 2022 ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา eCloudvalley ได้รับการแต่งตั้งให้อยู่ในรายชื่อที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกติดต่อกันเป็นปีที่ห้า และรักษาตำแหน่ง MSP 20 อันดับแรกของโลก รายการ MSP บนคลาวด์สาธารณะ 250 อันดับแรกของ ChannelE2E ได้ระบุและยกย่องผู้ให้บริการที่มีการจัดการชั้นนำ (MSP) ที่สนับสนุนลูกค้าบน Amazon Web Services (AWS), Microsoft Azure, Google Cloud Platform (GCP) และแพลตฟอร์มคลาวด์อื่น ๆ

eCloudvalley ในฐานะ AWS Premier Tier Services Partner ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในด้านความเชี่ยวชาญในการบริการระบบคลาวด์ที่มีการจัดการ ตั้งแต่ปี 2016 eCloudvalley ได้ผ่านการตรวจสอบ AWS MSP เป็นประจำทุกปี และได้รับความพึงพอใจของลูกค้า 96% สำหรับบริการด้านเทคนิคตาม "แบบสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า eCloudvalley MSP ปี 2021"

เมื่อเทคโนโลยีคลาวด์กลายเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ การจัดการคลาวด์จึงเป็นส่วนสำคัญในการลงทุนด้านไอที เมื่อเร็ว ๆ นี้ Gartner คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายของผู้ใช้ปลายทางบนคลาวด์สาธารณะทั่วโลกจะสูงถึงเกือบ 600 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2023 ซึ่งบริการการจัดการและรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์นั้นคาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 22% ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึงประมาณ 41.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ

คุณ Linda Lin ผู้จัดการทั่วไปของ Cloud BU ของ eCloudvalley กล่าวว่า "เมื่อเผชิญกับสภาพแวดล้อมระบบคลาวด์ที่ซับซ้อนมากขึ้น องค์กรต่าง ๆ ควรจัดลำดับความสำคัญของการปรับคลาวด์ให้เหมาะสม สภาพแวดล้อมคลาวด์ที่ปลอดภัย และการฝึกอบรมผู้มีความสามารถพิเศษบนคลาวด์ บริการ eCloudvalley MSP มีทีมงานที่ชำนาญพร้อมวิศวกรที่ผ่านการรับรองมากมาย เมื่อรวมกับทีม MSP ของเราและ "Atlas" แพลตฟอร์มการจัดการคลาวด์ที่พัฒนาขึ้นเอง เรามั่นใจในการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของเราที่จะช่วยลูกค้าเพิ่มประสิทธิภาพด้านไอทีด้วยการจัดการคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น"

บริษัท eCloudvalley จึงมุ่งมั่นที่จะให้บริการคลาวด์ระดับองค์กร ในปี 2022 บริษัทได้รับรางวัล AWS Specialized Partner of the Year (ASEAN) พร้อมด้วยลูกค้าที่แน่นหนา ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์บน AWS ทำให้ eCloudvalley ให้บริการแอปพลิเคชันระบบคลาวด์ที่หลากหลาย รวมถึงบริการที่มีการจัดการ, การรักษาความปลอดภัย, AI, DevOps, การจัดการคาร์บอน, ERP และ CRM

เกี่ยวกับ eCloudvalley

บริษัท eCloudvalley คือ AWS Premier Tier Services Partner ซึ่งในวันนี้ เราได้รับการรับรองระดับมืออาชีพของ AWS มากกว่า 600 รายการ ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ที่ยิ่งใหญ่ถึงความน่าเชื่อถือและการใช้งานจริงของโซลูชันของเรา ในฐานะพันธมิตรที่เกิดในระบบคลาวด์ที่มุ่งเน้นไปที่บริการของ AWS ทั้งหมด เรามีพนักงานที่เชี่ยวชาญมากกว่า 600 คน ซึ่งประจำอยู่ทั่วโลก ทั้งไต้หวัน จีน ฮ่องกง / มาเก๊า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม

เรียนรู้เกี่ยวกับ eCloudvalley : https://www.ecloudvalley.com/en/p/about-ecloudvalley

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

มีเดีย

Siaoyu Chien siaoyu.chien@ecloudvalley.com
Cathy Ye cathy.ye@ecloudvalley.com

แหล่งที่มา: eCloudvalley

Vintcom และ Stellar Cyber ร่วมมือกันนำ Open XDR มาสู่ตลาดประเทศไทย

Logo

ผู้จัดจำหน่ายโซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์ชั้นนำของอาเชียนำเสนอแพลตฟอร์ม Open XDR จาก Stellar Cyber

เมืองซานตาคลารา, มลรัฐแคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–16 มกราคม 2023 

เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมไอทีด้วยโซลูชั่นสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แก่ลูกค้า บริษัท วินท์คอม เทคโลโลยี จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมือกับ Stellar Cyber ผู้สร้างนวัตกรรม Open XDR ในการเผยแพร่แพลตฟอร์ม Open XDR ของ Stellar Cyber สู่ตลาดประเทศไทย

แพลตฟอร์ม Open XDR ของ Stellar Cyber ช่วยลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยลงได้อย่างมาก โดยช่วยให้เรามองเห็นความเป็นไปต่างๆ ของระบบที่ครอบคลุมทั้งเครือข่ายและโครงสร้างพื้นฐานคอมพิวเตอร์ได้ทั้งหมด สามารถเผยให้เห็นแม้กระทั่งการโจมตีที่ซับซ้อนที่สุด ซึ่งแตกต่างจากเครื่องมือรักษาความปลอดภัยทั่วไปที่แสดงการแจ้งเตือนหลายสิบหรือหลายร้อยรายการด้วยน้ำหนักที่เท่ากัน โดย XDR Kill Chain ของแพลตฟอร์มจะจัดลำดับความสำคัญของการตรวจจับเพื่อให้สามารถดำเนินการตอบสนองได้ทันที นอกจากนี้เทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิงของ Stellar Cyber จะเรียนรู้รูปแบบการโจมตีที่เข้ามาตลอดเวลา ดังนั้นแพลตฟอร์มจึงสามารถพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับการตรวจจับและการแก้ไขการโจมตี

“ธุรกิจทุกขนาดในประเทศไทยกำลังมองหาวิธีใหม่ๆ ในราคาที่เข้าถึง เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลของตน” Dominic Neo ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคอาเซียนของ Stellar Cyber กล่าว “แพลตฟอร์ม Open XDR ของ Stellar Cyber ช่วยขจัดปัญหาการมีข้อมูลที่เกินพิกัด และความล้าของการใช้เครื่องมือที่นักวิเคราะห์ความปลอดภัยไซเบอร์นำมาใช้งาน ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานอีกด้วย เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับ Vintcom เพื่อนำโซลูชั่นของเรามาสู่ตลาดประเทศไทย”

Resources

เกี่ยวกับ Stellar Cyber

แพลตฟอร์ม Stellar Cyber Open XDR ส่งมอบการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ที่ครอบคลุมและเป็นรูปแบบเดียว โดยไม่มีความซับซ้อนในการใช้งาน ช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ที่มีจำนวนจำกัดและมีทักษะที่หลากหลายยังคงสามารถประสบผลสำเร็จในการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ได้ ด้วย Stellar Cyber องค์กรต่างๆ จะลดความเสี่ยงลงโดยความสามารถในการระบุและแก้ไขภัยคุกคามได้ตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างแม่นยำ ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดค่าใช้จ่าย และยังรักษาการลงทุนในเครื่องมือที่มีอยู่แล้วไว้ รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของนักวิเคราะห์ความปลอดภัยไซเบอร์ให้ดีขึ้น ทำให้ MTTD ดีขึ้น 8 เท่า และ MTTR ดีขึ้น 20 เท่า บริษัทฯ ตั้งอยู่ในซิลิคอนแวลลีย์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ https://stellarcyber.ai

เกี่ยวกับ บมจ.วินท์คอม เทคโนโลยี

บริษัท วินท์คอม เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี 2544 ปัจจุบันจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วยทุนจดทะเบียน 153.5 ล้านบาท “เราเป็น Digital Transformation Enabler ด้วยประสบการณ์ 21 ปี เราให้บริการโซลูชั่นด้านไอทีแบบครบวงจรแก่ลูกค้าที่ต้องการนำหน้าในยุคดิจิทัลที่กำลังจะมาถึง” ประสบการณ์และความสามารถของเราที่ได้รับจากการให้บริการระดับมืออาชีพแก่องค์กรขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม การธนาคาร การเงิน การศึกษา การดูแลสุขภาพ หน่วยงานภาครัฐ และการผลิตช่วยให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าของบริษัทฯ จะได้รับโซลูชันที่ดีที่สุดที่ตรงกับความต้องการทางธุรกิจ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.vintcom.co.th

Contact:

For Vintcom: marketing@vintcom.co.th.

For Stellar Cyber:

Daniella Assaf, Marketer, InboundJunction Ltd.

daniella@inboundjunction.com

1-351-666-0130

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

บริษัทซังฟอร์ เทคโนโลยี ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นบริษัที่อยู่ในกลุ่มของ Visionary สำหรับผลิตภัณฑ์ Network Firewalls ในรายงานวิจัยทางการตลาดของทางบริษัท Gartner ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและที่ปรึกษาชั้นนำ (Gartner® Magic Quadrant ™)

Logo

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–12 มกราคม 2023

บริษัทซังฟอร์ เทคโนโลยี (Sangfor Technologies) (300454.SZ) ผู้จำหน่ายโซลูชั่นด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และคลาวด์คอมพิวติ้งชั้นนำระดับโลก มีความภูมิใจที่จะประกาศว่า บริษัทฯได้รับการเสนอชื่อให้เป็นบริษัทที่อยู่ในกลุ่มของ Visionary สำหรับผลิตภัณฑ์ Network Firewalls ในรายงานวิจัยทางการตลาดของทางบริษัท Gartner ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและที่ปรึกษาชั้นนำ (Gartner® Magic Quadrant ™) [1]  ถือเป็นปีที่ 8 ของบริษัทซังฟอร์ เทคโนโลยี ที่ได้อยู่ในรายงานการตลาด Magic Quadrant   และถือเป็นปีที่ 2 กับการถูกเสนอชื่อในฐานะ Visionary

Sangfor NGAF เป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีไฟร์วอลล์มาอย่างต่อเนื่อง
 Sangfor เชื่อว่าการได้รับการเสนอชื่ออย่างต่อเนื่องในรายงานการตลาด Gartner Magic Quadrant สำหรับผลิตภัณฑ์ไฟร์วอลล์ในระบบเครือข่ายขององค์กรนั้นเป็นผลมาจากจุดแข็งดังต่อไปนี้:

 การป้องกันระบบเครือข่ายด้วยเทคโนโลยี AI: Sangfor NGAF สามารถยกระดับการรักษาความปลอดภัยจากการโจมตีจากภายนอก ด้วยการใช้ AI อัจฉริยะตัวแรกของโลก ขับเคลื่อนโดยเครื่องมือตรวจจับมัลแวร์ Engine Zero อัจฉริยะของ Sangfor และแพลตฟอร์มตรวจจับภัยคุกคามอัจฉริยะอย่าง Neural-X ซึ่ง Sangfor NGAF ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถป้องกันภัยคุกคามได้ถึง 99.7%

 การผสานรวมโซลูชัััันการรักษาความปลอดภัยอย่างไร้รอยต่อ: NGAF เป็นองค์ประกอบหลักของสถาปัตยกรรม XDDR ของ Sangfor ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยอื่นๆ ของ Sangfor ได้อย่างราบรื่น เสริมสร้างการทำงานของระบบแบบองค์รวมได้ ช่วยให้สามารถป้องกันภัยคุกคามซุกซ่อนได้อย่างแท้จริง

 การทำงานร่วมกับ Web Application Firewall: Sangfor NGAF เป็น NGFW รายแรกและรายเดียวของโลกที่สามารถบูรณาการเข้ากับ Web Application Firewall (WAF) ระดับองค์กรได้อย่างเต็มรูปแบบ มอบการปกป้องเครือข่ายและเว็บแอปพลิเคชันในอุปกรณ์เดียว ทำให้ลูกค้าได้รับทั้งการดำเนินงานที่ง่ายดาย และคุ้มค่ากับการลงทุน

 การปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยที่เรียบง่าย: ด้วยพันธกิจในการทำให้เทคโนโลยีง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ทุกคน ซังฟอร์ ได้รวมศูนย์ SOC (Security Operations Center) Lite ไว้ใน Sangfor NGAF เป็นครั้งแรก เพื่อทำให้การปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย รวมถึงการตอบสนองต่อเหตุการณ์เป็นเรื่องง่าย ทั้งยังสะดวกและง่ายต่อผู้ใช้งานในทุกระดับ 

 เข้าชมเว็บไซต์ www.sangfor.com เพื่อศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันของ Sangfor เพื่อทำให้การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลง่ายขึ้นและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ที่มา [1] Gartner Inc., Magic Quadrant for Network Firewalls, Rajpreet Kaur et al., 19 ธันวาคม 2565

 ดาวน์โหลดรายงาน Gartner Magic Quadrant สำหรับผลิตภัณฑ์ไฟร์วอลล์ในระบบเครือข่ายขององค์กรได้ฟรี ที่นี่

Contacts

marketing@sangfor.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Hajj Expo 2023 เปิดตัวภายใต้การอุปถัมภ์ของผู้ว่านครเมกกะห์

Logo

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฮัจญ์และอุมเราะห์ซาอุดีอาระเบียใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อให้บริการผู้แสวงบุญได้ดียิ่งขึ้น

JEDDAH, Saudi Arabia–(BUSINESS WIRE)–11 มกราคม 2023

เจ้าชายคาเลด อัล-ไฟซาล ที่ปรึกษา Custodian of the Two Holy Mosques และผู้ว่าราชการแคว้นมักกะห์ และเจ้าชายไฟซาล บิน ซัลมาน บิน อับดุลอาซิซ อัล ซาอูด ผู้ว่าการมณฑลมะดีนะฮ์ ทรงเปิดการประชุมและนิทรรศการเกี่ยวกับฮัจญ์และอุมเราะห์ ‘Hajj Expo’ ประจำปี 2023 งานฮัจญ์เอ็กซ์โปครั้งที่สอง ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเจดดาห์ โดยมีวิทยากรร่วมงาน 81 คนจากภาครัฐและเอกชน ตลอดจนคณะผู้แทนระดับสูงของรัฐมนตรีกระทรวงกิจการศาสนา หัวหน้าภารกิจฮัจญ์ และหน่วยงานระดับสูงจากกว่า 57 ประเทศ

H.R.H Prince Khaled Al-Faisal, Advisor to the Custodian of the Two Holy Mosques and Governor of Makkah Region touring the exhibition with H.E. Minister of Hajj and Umrah, Dr. Tawfiq bin Fawzan Al-Rabiah (Photo: AETOSWire)

เจ้าชายคาเลด อัล-ไฟซาล ที่ปรึกษา Custodian of the Two Holy Mosques และผู้ว่าราชการแคว้นเมกกะห์ เดินชมนิทรรศการร่วมกับ Dr. Tawfiq bin Fawzan Al-Rabiah รัฐมนตรีกระทรวงฮัจญ์และอุมเราะห์ (ภาพ: AETOSWire)

Dr. Tawfiq bin Fawzan Al-Rabiah รัฐมนตรีกระทรวงฮัจญ์และอุมเราะห์ กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ โดยระบุว่า สิ่งสำคัญที่สุดของซาอุดีอาระเบียคือการทำให้แน่ใจว่า ผู้แสวงบุญสามารถประกอบพิธีฮัจญ์และอุมเราะห์ได้อย่างปลอดภัย โดยมีการเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลของบริการต่างๆ นี่คือความมุ่งมั่นทางประวัติศาสตร์และเป็นเกียรติยศที่น่าภาคภูมิใจสำหรับรัฐบาลของ Two Holy Mosques” เขากล่าว

Al-Rabiah ย้ำถึงความกระตือรือร้นของกระทรวงที่จะเพิ่มพูนประสบการณ์ฮัจญ์และอุมเราะห์ โดยการพัฒนาบริการและโซลูชัน รวมถึงแนะนำกฎระเบียบและขั้นตอนที่ได้รับการปรับปรุง พร้อมยกย่องความมุ่งมั่นในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการลงนามในข้อตกลงฮัจญ์ในช่วงต้นว่า เป็น ‘ข้อพิสูจน์ถึงความกระตือรือร้นที่ไม่หยุดยั้งเพื่อให้บริการที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้แสวงบุญและอุมเราะห์’

งานดังกล่าวเป็นสักขีพยานในข้อตกลงหลายฉบับและบันทึกความเข้าใจระหว่างหน่วยงานสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง General Authority for Awqaf (GAA), the Saudi Conventions and Exhibitions General Authority (SCEGA), the King Salman Global Academy for Arabic Language (KSAA), the Saudi StandardsMetrology and Quality Organization (SASO) และ the Media and Banking Awareness Committee for Saudi Banks นอกจากนี้ ยังมีการลงนามในข้อตกลงในการให้บริการพิธีฮัจญ์มากกว่า 57 ฉบับ เกี่ยวกับผู้แสวงบุญฮัจญ์ แผนการเฉพาะในการต้อนรับผู้แสวงบุญ และข้อกำหนดด้านสุขภาพและคำแนะนำขั้นตอนต่างๆ

งานฮัจญ์เอ็กซ์โปได้มีการหารือเกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงคุณภาพของบริการฮัจญ์ในงานกล่าวสุนทรพจน์ 10 งาน และงานอภิปราย 13 งาน และ ‘Hajj Talks’ รวมถึงการประชุมเชิงปฏิบัติการและกิจกรรมอื่นๆ อีก 36 รายการ: นิทรรศการเกี่ยวกับอิสลาม ความท้าทายเกี่ยวกับฮัจญ์และอุมเราะห์ และโซนสำหรับผู้เริ่มต้น

งานฮัจญ์เอ็กซ์โปมีเป้าหมายที่จะสร้างระบบนิเวศการบริการและโซลูชันแบบบูรณาการและยั่งยืน เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ของผู้แสวงบุญ การคาดการณ์ทิศทางในอนาคต และการสร้างโอกาสในการร่วมมือ ข้อตกลง และความคิดริเริ่มในระดับท้องถิ่นและระบบนานาชาติ พร้อมกับการแสดงให้เห็นถึงความพยายามของซาอุดีอาระเบียในการยกระดับการพัฒนาบริการสำหรับผู้แสวงบุญอย่างยั่งยืน

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53199476/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

*แหล่งข้อมูลAETOSWire

ติดต่อ

Hussein Nasrallah
pr@digitect.com

แหล่งข้อมูล: Minister of Hajj and Umrah


WilsonHCG ผู้นำความสามารถระดับโลกเข้าซื้อกิจการPersonify เพื่อขยายโซลูชันด้านการดูแลสุขภาพและชีววิทยาศาสตร์

Logo

TAMPA, Fla.–(BUSINESS WIRE)–11 มกราคม 2023

WilsonHCG ผู้นำความสามารถระดับโลกได้ประกาศการเข้าซื้อกิจการของ Personify ผู้ให้บริการเอาต์ซอร์สในกระบวนการสรรหาบุคลากร (RPO) ที่ได้รับรางวัล Personify เชี่ยวชาญในด้านชีววิทยาศาสตร์ การดูแลสุขภาพ เทคโนโลยีชีวภาพ และเภสัชกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ประสบปัญหาการขาดแคลนทักษะที่สำคัญ

Personify ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดหลัก ให้บริการด้านการค้นหาผู้บริหารและการตลาดด้านการสรรหาบุคลากรควบคู่ไปกับโซลูชัน RPO มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองราลี รัฐนอร์ทแคโรไลนา องค์กรแห่งนี้นำเสนอโซลูชันความสามารถที่ยืดหยุ่นแก่ลูกค้าทั่วโลก

"Personify เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ RPO ด้านการดูแลสุขภาพและชีววิทยาศาสตร์รายใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้นการขยายตัวนี้จึงช่วยให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็ตอกย้ำตำแหน่งของเราในฐานะผู้นำระดับโลกด้านการสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถ" กล่าวโดย John Wilson CEO ของ WilsonHCG "ความร่วมมือนี้ทำให้องค์กรทั้งสองแห่งที่ขับเคลื่อนด้วยพันธกิจมีความสอดคล้องกันและมีความต้องการที่เกินความคาดหวังของลูกค้า Personify เป็นบริษัทที่ใส่ใจพนักงานและลูกค้ามากพอ ๆ กับที่เราสนใจ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จึงน่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เราจะร่วมกันสร้างมาตรฐานใหม่ด้วยการให้พื้นที่กับผู้มีความสามารถ"

Ryan Carfley ประธานและ CEO ของ Personify กล่าวเสริมว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ WilsonHCG ผมรู้จัก John มาหลายปีและชื่นชม WilsonHCG ที่เป็นผู้บุกเบิกความสำเร็จในอุตสาหกรรม RPO การทำงานร่วมกันระหว่างวัฒนธรรมของเราทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นกับผลกระทบที่จะมีต่อลูกค้าและอุตสาหกรรมของเรา ความร่วมมือดังกล่าวช่วยให้เราเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ ได้เร็วขึ้น และเราจะกลายเป็นผู้ให้บริการโซลูชันระดับโลกสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ เทคโนโลยีชีวภาพ ชีววิทยาศาสตร์ และอื่น ๆ"

WilsonHCG เข้าซื้อกิจการได้สำเร็จถึงสองครั้งในปี 2022 ในเดือนตุลาคม บริษัทได้ซื้อกิจการ Tracking Talent ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโซลูชันผู้มีความสามารถในแอฟริกาใต้ และในเดือนมีนาคม บริษัทได้เข้าซื้อ Claro Analytics ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มข่าวกรองตลาดแรงงานชั้นนำ

เกี่ยวกับ WilsonHCG

WilsonHCG เป็นผู้นำระดับโลกที่ได้รับรางวัลในด้านโซลูชันผู้มีความสามารถทั้งหมด การดำเนินงานในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ช่วยให้แบรนด์ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในโลกสร้างฟังก์ชันความสามารถที่ครอบคลุม ด้วยการดำเนินงานทั่วโลกครอบคลุมมากกว่า 65 ประเทศและ 6 ทวีป WilsonHCG ให้บริการที่ปรับแต่งได้เต็มรูปแบบ ซึ่งรวมถึงการให้บริการเอาต์ซอร์สในกระบวนการสรรหาบุคลากร (RPO) การค้นหาผู้บริหาร ผู้มีสามารถพิเศษ และการให้คำปรึกษาด้านความสามารถ

TALENT. ™ เป็นมากกว่าวิธีแก้ปัญหา แต่คือตัวตนของเรา

https://www.wilsonhcg.com/

เกี่ยวกับ Personify

Personify (www.personifysearch.com) เป็นบริษัทเอาต์ซอร์สด้านกระบวนการสรรหาบุคลากรที่ได้รับรางวัลและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก แนวทางการรับสมัครหลายช่องทางของบริษัทผสมผสานความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเข้ากับการวิเคราะห์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่อนำเสนอโซลูชันการสรรหาผู้มีความสามารถแห่งอนาคต Personify เปลี่ยนแนวทางการจัดหาผู้มีความสามารถแบบดั้งเดิมและเปลี่ยนเชิงรับให้เป็นระบบเชิงรุกที่ก้าวหน้าซึ่งจัดหาผู้มีความสามารถตามความต้องการ โซลูชัน RPO ที่ไม่ซ้ำใครของ Personify ปรับขนาดตามความต้องการจ้างงานของลูกค้า โดยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถจำกัด และประหยัดงบเมื่อเทียบกับหน่วยงานบุคคลที่สาม

ติดต่อ

Kirsty Hewitt
+44 7889901517
813-418-4479
kirsty.hewitt@wilsonhcg.com

แหล่งที่มา: WilsonHCG

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

MyRepublic Digital พลิกโฉมตลาดโทรคมนาคมด้วย Boomi

Logo

  • ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมที่ชนะรางวัลในเอเชียแปซิฟิกนั้นใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มการผสานรวมแบบ low-code ของ Boomi เพื่อนำเสนอนวัตกรรมที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
  • ตั้งแต่เริ่มใช้งานครั้งแรกในปี 2019 เครื่องมือการจัดการ API ของ Boomi ได้สนับสนุนการเติบโตของแพลตฟอร์ม MyRepublic Digital โดยมีการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นประมาณ 3.5 ล้านรายการต่อไตรมาส

SINGAPORE และ CHESTERBROOK, Pa.–(BUSINESS WIRE)–11 มกราคม 2023

Boomi™ ผู้นำด้านการเชื่อมต่ออัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ประกาศในวันนี้ว่า MyRepublic Digital บริษัทด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่ขับเคลื่อน MyRepublic ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่ชนะรางวัลในเอเชียแปซิฟิก ได้นำแพลตฟอร์ม Boomi AtomSphere™ มาใช้เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการทำงานในระดับที่สูงขึ้น และสุดท้ายคือประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นสำหรับลูกค้า

MyRepublic Digital Transforms Telecommunications Market with Boomi (Graphic: Business Wire)

MyRepublic Digital พลิกโฉมตลาดโทรคมนาคมด้วย Boomi (กราฟิก: Business Wire)

MyRepublic Digital ธุรกิจเทคโนโลยีที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเร็ว ๆ นี้ ช่วยให้ผู้ประกอบการบรรลุผลสำเร็จทางธุรกิจด้วยซอฟต์แวร์ Encore ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริการ (SaaS) แบบเนทีฟบนระบบคลาวด์ที่พร้อมใช้งาน

ในตลาดโทรคมนาคมที่มีการแข่งขันสูง การคงไว้ซึ่งความรวดเร็วและคล่องตัวเมื่อเป็นเรื่องของการส่งมอบบริการคือกุญแจสู่ความสำเร็จ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม Encore และความสามารถในการตัดสินใจแบบเรียลไทม์ โดยไม่กระทบต่อความสามารถในการปรับขนาดหรือความปลอดภัย MyRepublic Digital ได้เลือกใช้บริการ (iPaaS) แพลตฟอร์มการผสานรวมที่ได้รับรางวัลของ Boomi

“ด้วย Boomi เราจึงสามารถขยายขอบเขตของระบบอัตโนมัติของเราและเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลคำสั่งแบบ end-to-end ของ Encore ได้ ซึ่งท้ายที่สุดช่วยให้เรามอบประสบการณ์ที่ราบรื่นที่ลูกค้าคาดหวังจากแบรนด์ดิจิทัลได้” กล่าวโดย Gary Liew กรรมการผู้จัดการแพลตฟอร์ม MyRepublic Digital “ตัวอย่างเช่น เราสังเกตว่าเวลารอโมเด็มของลูกค้าลดลงอย่างเห็นได้ชัดระหว่างหนึ่งถึงสองวันทำการ ทำให้เราสามารถให้บริการได้เร็วขึ้น”

ด้วย iPaaS แบบ low-code ของ Boomi ทำให้ MyRepublic Digital ประสบความสำเร็จในการปรับปรุงระบบอัตโนมัติสำหรับแพลตฟอร์ม Encore รวมถึงเปิดใช้งานการกำหนดค่าที่ใช้ซ้ำได้สำหรับการรวมเข้ากับผู้จำหน่ายบุคคลที่สามและเกตเวย์การชำระเงินของพันธมิตร สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมลดความซับซ้อนของระบบนิเวศดิจิทัลด้วยเทคโนโลยีและตัวเชื่อมต่อแอปพลิเคชันที่มีให้เลือกมากมายของ Boomi ในฐานะที่เป็นเครื่องมือดิจิทัลที่อยู่เบื้องหลังระบบสนับสนุนธุรกิจ (BSS) และระบบสนับสนุนการดำเนินงาน (OSS) ของผู้ให้บริการโทรคมนาคม ตลอดจนประสบการณ์ของลูกค้า แพลตฟอร์ม Encore ของ MyRepublic Digital จัดการกระบวนการแบบสดจำนวนมากในการดำเนินการตามคำสั่งซื้อ การเรียกเก็บเงิน การรับประกันบริการ แอปมือถือ และ แชทบอทพร้อมส่วน API ที่มีธุรกรรมมากกว่า 25 ล้านรายการ นับตั้งแต่การใช้งานครั้งแรกในปี 2019 เครื่องมือการจัดการ API ของ Boomi ได้สนับสนุนการเติบโตของแพลตฟอร์ม MyRepublic Digital โดยมีการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นประมาณ 3.5 ล้านรายการต่อไตรมาส ณ เดือนธันวาคม 2022

“เราชื่นชมที่แพลตฟอร์ม Boomi AtomSphere ทำการปรับแต่งอินเทอร์เฟซให้น้อยที่สุด ซึ่งช่วยเร่งกระบวนการผสานรวม” Gary กล่าวเสริม “ความสามารถในการปรับขนาด ความยืดหยุ่น และการทำให้ง่ายขึ้นเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงเป็นหลักการที่ทั้งเราและ Boomi มีร่วมกัน และความสำเร็จร่วมกันของเราทำให้เราได้สำรวจแง่มุมใหม่ ๆ ของสิ่งที่เราสามารถส่งมอบได้ดียิ่งขึ้น”

HonChew Seetoh ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียของ Boomi กล่าวว่า "ประสิทธิภาพที่เหนือชั้นและการมุ่งเน้นที่ประสบการณ์ของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจอย่าง MyRepublic Digital ซึ่งมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความคาดหวังที่สูงของลูกค้าและผู้บริโภคปลายทาง" "เราภูมิใจที่ได้มีบทบาทสำคัญในการทำให้แพลตฟอร์มดิจิทัลของบริษัทสามารถขยายไปสู่ระดับใหม่และเปลี่ยนแปลงวิธีการให้บริการโทรคมนาคม"

ในฐานะบริษัท SaaS ชั้นนำระดับโลกที่มีฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มการรวมระบบ Boomi นำเสนอชุมชนผู้ใช้ที่กำลังเติบโตซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 100,000 คน เครือข่ายทั่วโลกของพันธมิตรประมาณ 800 ราย และหนึ่งในอาร์เรย์ที่ใหญ่ที่สุดของผู้รวมระบบทั่วโลก ( GSIs) ในพื้นที่ iPaaS เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทได้ขยายการดำเนินงานในญี่ปุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วเอเชียแปซิฟิก ขณะเดียวกันก็ได้รับการยอมรับจาก Deloitte Technology Fast 500™ และ Inc. 5000 ในฐานะหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดและมีนวัตกรรมมากที่สุดในอเมริกา

อีกทั้ง Boomi ยังได้รับรางวัล International Stevie® Awards สองรางวัล สำหรับบริษัทแห่งปีและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ รางวัล Gold Globee® Award ในหมวด Platform as a Service (PaaS) รางวัล Merit Award for Technology ในหมวด Cloud Services รางวัล Stratus Award ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านการประมวลผลแบบคลาวด์ประจำปี 2022 และการจัดอันดับ 5 ดาวอันทรงเกียรติในคู่มือโปรแกรมพันธมิตร CRN

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi มุ่งมั่นที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นด้วยการเชื่อมต่อทุกคนเข้ากับทุกสิ่ง ทุกที่ Boomi เป็นผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มการผสานรวมบนคลาวด์ในรูปแบบบริการ (iPaaS) และปัจจุบันเป็นบริษัทซอฟต์แวร์เชิงบริการ (SaaS) ชั้นนำระดับโลก Boomi นำเสนอฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มการผสานรวมและเครือข่ายทั่วโลกของพันธมิตรกว่า 800 ราย ซึ่งรวมถึง Accenture, Capgemini, Deloitte, SAP และ Snowflake องค์กรระดับโลกหันมาใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลของ Boomi เพื่อค้นหา บริหาร และจัดการข้อมูล ขณะที่เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน กระบวนการ และผู้คนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและรวดเร็วขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ http://www.boomi.com

© 2023 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ 'B', Boomiverse และ AtomSphere เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทย่อยหรือบริษัทในเครือ สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด ชื่อหรือเครื่องหมายอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53177729/en

ติดต่อ

Jasmine Ee
หัวหน้าฝ่ายสื่อและนักวิเคราะห์สัมพันธ์ APJ ที่ Boomi
jasmine.ee@boomi.com

แหล่งที่มา: Boomi

GIGABYTE ในงาน CES 2023: พลังแห่งคอมพิวเตอร์เพื่อพลิกโฉมโลก

Logo

ไทเป–(BUSINESS WIRE)–6 มกราคม 2023

GIGABYTE ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์และผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี นำเสนอ “พลังแห่งคอมพิวเตอร์” ที่งาน CES 2023 เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการประมวลผลที่ยอดเยี่ยมซึ่งขับเคลื่อนเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมไปข้างหน้า โซลูชันสำหรับองค์กรและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่หลากหลายถูกนำมาจัดแสดงเพื่อให้สอดคล้องกับธีม

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20230105005713/en/

GIGABYTE at CES 2023: Power of Computing to Reshape the World (Photo: Business Wire)

GIGABYTE ในงาน CES 2023: พลังแห่งคอมพิวเตอร์เพื่อพลิกโฉมโลก (ภาพ: Business Wire)

ศูนย์ข้อมูลเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี GIGABYTE ได้รับความไว้วางใจเสมอมาในฐานะผู้บุกเบิกในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ใหม่สำหรับนักพัฒนา และทำงานเกี่ยวกับการรวมซอฟต์แวร์เพื่อจัดหาโซลูชันผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับอนาคตของยุคดิจิทัล GIGABYTE นำเสนอฮาร์ดแวร์เซิร์ฟเวอร์และเทคโนโลยีการประมวลผลรุ่นถัดไปที่งาน CES ซึ่งปลดปล่อยประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น และพร้อมสำหรับการประมวลผลความหนาแน่นสูงด้วย CPU และ GPU ล่าสุดเพื่อเร่งปริมาณงานในทุกขนาด นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงเวิร์กสเตชันระดับองค์กรที่ผสานกับสภาพแวดล้อมการพัฒนา MLOps AI ที่พร้อมใช้งานของ MyelinTek อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายของ MLOps ช่วยให้วิศวกรสามารถฝึกโมเดล AI ที่เหมาะสมกับนวัตกรรมของพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว และประสิทธิภาพที่โดดเด่นของเวิร์กสเตชันช่วยให้ใช้งานได้อย่างไม่ลำบาก

ความต้องการด้านคอมพิวเตอร์กำลังเผชิญกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกซึ่งการเพิ่มประสิทธิภาพนั้นขึ้นอยู่กับการเสียสละของสภาพแวดล้อม โซลูชัน Air, Liquid, และ Immersion Cooling ของ GIGABYTE ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายความร้อน เพิ่มศักยภาพให้เซิร์ฟเวอร์เพื่อส่งมอบประสิทธิภาพที่สูงเป็นพิเศษในขณะที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ปูทางสู่อนาคตที่ยั่งยืนโดยไม่ต้องเสียสละการเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่บูธ CES GIGABYTE ยังเปิดตัว TO15-Z40 ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ OCP ที่เข้ากันได้กับถังแช่หลักทั้งหมด เพื่อแสดงการประมวลผลที่พิสูจน์ถึงอนาคตได้มากที่สุดแก่ผู้นำอุตสาหกรรมที่ต้องการสร้างความสมดุลในความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

เทคโนโลยียานยนต์กำลังเฟื่องฟูเนื่องจากใช้ประโยชน์จากพลังของคอมพิวเตอร์เพื่อควบคุมปัญญาประดิษฐ์และการสื่อสาร ดังนั้นจึงเป็นการปูทางไปสู่การขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นและการจราจรที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ด้วยประสบการณ์ที่กว้างขวางในการพัฒนา ADCU (Autonomous Driving Control Unit) และ ADAS DCU (Domain Control Unit) GIGABYTE นำเสนออุตสาหกรรมยานยนต์ด้วย Zonal Integrated DCU ที่มีประสิทธิภาพสูงและโฮสต์การควบคุมการตัดสินใจ ซึ่งสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบรวมศูนย์และสามารถรวมเข้ากับข้อกำหนดและแนวคิดการออกแบบต่าง ๆ ที่ช่วยลดต้นทุนการผลิตรถยนต์

GIGABYTE เปิดตัวโน้ตบุ๊ก AERO Creator และโน้ตบุ๊กเกม AORUS รุ่นใหม่ล่าสุดทันเวลาก่อนที่งาน CES จะเริ่มต้นขึ้น แล็ปท็อปทั้งสองซีรีส์สร้างขึ้นด้วยโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ เจน 13 และกราฟิกการ์ด NVIDIA RTX™ 40 ซีรีส์ นอกจากนี้ ยังได้รับการออกแบบด้วยเทคโนโลยีล่าสุด เพื่อนำเสนอผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีด้วยประสิทธิภาพการประมวลผลที่เหนือความคาดหมาย ผู้ชนะรางวัล CES 2023 Innovation Award ที่เพิ่งครองตำแหน่งใหม่ชุด Stealth 500 PC DIY Kit และจอมอนิเตอร์สำหรับเล่นเกมขนาดมหึมา 48 นิ้วยังจัดแสดงให้ผู้ใช้ได้ลิ้มลองอีกด้วย

เยี่ยมชมหน้ากิจกรรม 'พลังแห่งคอมพิวเตอร์' ของ GIGABYTE

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20230105005713/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

มีเดีย: Michael Pao brand@gigabyte.com

แหล่งที่มา: GIGABYTE

Proterial, Ltd.: ประกาศเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อทางการค้า

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–5 มกราคม 2023

Proterial, Ltd. ขอประกาศว่าชื่อทางการค้าของบริษัทได้เปลี่ยนไปแล้วจาก Hitachi Metals, Ltd. เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2023

1. ชื่อทางการค้าใหม่

Proterial, Ltd.

2. แนวคิดเบื้องหลังชื่อบริษัทของเรา

“Proterial” สะท้อนถึงแก่นแท้ของปรัชญาองค์กรของเรา ซึ่งประกอบด้วยสามองค์ประกอบ ได้แก่ ภารกิจ: “สร้างคุณภาพที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน” วิสัยทัศน์: “เป็นผู้นำความยั่งยืนด้วยผลงานระดับสูง” และค่านิยม: “ความซื่อสัตย์ที่หนักแน่น” และ “เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันด้วยความเคารพ” โดยรวม "pro-" กับคำว่า "material"
“Pro-” หมายถึง “สามข้อดี” ของเรา ดังนี้
มืออาชีพ — งานที่เหนือความคาดหมาย
ก้าวหน้า — จิตวิญญาณที่ท้าทายอยู่เสมอ
เชิงรุก—ทัศนคติที่กล้าได้กล้าเสีย
“Material” หมายถึงวัสดุประสิทธิภาพสูงที่เทคโนโลยีดั้งเดิมของเราผลิตขึ้นและสนับสนุนโดยข้อดีทั้งสาม ด้วยความมุ่งเน้นของเราในการช่วยลูกค้าแก้ปัญหาและยกระดับคุณค่าใหม่ เราสัญญาว่าจะมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่ยั่งยืนผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่รวบรวมปรัชญาของเราเข้าด้วยกัน

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Akio Minami
ฝ่ายสื่อสารองค์กร
Proterial, Ltd.
hmcc.sa@proterial.com

แหล่งที่มา: Proterial, Ltd.

The Bangkok Reporter