Hytera อวดโฉมโซลูชันโครงข่าย Mesh LTE เฉพาะกิจ สำหรับใช้ในภารกิจที่มีความสำคัญโดยเฉพาะ

Logo

SHENZHEN, China–(BUSINESS WIRE)–26 ตุลาคม 2023

Hytera ผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีและโซลูชันการสื่อสารระดับมืออาชีพ ได้มีการเปิดตัวอุปกรณ์เครือข่ายแบบ Broadband Mesh ชนิดพกพารุ่นใหม่ล่าสุดภายใต้ชื่อรุ่น E-mesh580P ซึ่งได้รับการพัฒนาเพื่อสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งสำหรับสื่อสารทั้งเสียง วิดีโอและข้อมูลต่างๆ ภายใต้การใช้งานเฉพาะกิจภาคสนาม รวมถึงระบบควบคุมสั่งการในสถานการณ์ที่ท้าทายหรือไม่สามารถเข้าถึงระบบการสื่อสารอื่นๆ ได้ ด้วยความสามารถ ประโยชน์และความสะดวกในการพกพาของผลิตภัณฑ์ตัวใหม่นี้ เป็นการยกระดับระบบการสื่อสารเฉพาะกิจสำหรับงานสำคัญในกลุ่มกู้ภัยและบรรเทาสาธารณภัย (PPDR: Public Protection and Disaster Relief) ได้เป็นอย่างดี

Hytera New-generation of Broadband Mesh Portable Device E-mesh580P (Graphic: Business Wire)

อุปกรณ์แบบพกพา Broadband Mesh รุ่นใหม่ของ Hytera E-mesh580P (ภาพ: Business Wire)

ด้วยการทำงานที่ไม่ต้องใช้โครงข่ายพื้นฐานใดๆ E-Mesh580P สามารถสร้างเครือข่ายที่มีเสถียรภาพสำหรับการสื่อสารได้อย่างรวดเร็วภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีเครือข่ายสาธารณะอื่นๆ อยู่ในพื้นที่ ด้วยเทคโนลียีด้านระบบเครือข่ายที่น่าทึ่ง ช่วยให้เราสามารถสร้างการเชื่อมต่อที่รองรับการส่งข้อมูลปริมาณมากๆ ในระยะใกล้จนไปถึงการเชื่อมต่อระยะไกลที่ให้เสถียรภาพของสัญญาณสูงได้ และยังมีความยืดหยุ่นในการเลือกการเชื่อมต่อกันระหว่างอุปกรณ์ นอกจากนี้การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 4G LTE และ 5G NR ทำให้ E-mesh580P สามารถเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายได้สูงสุดถึง 32 โหนด และเป็นการเชื่อมต่อแบบ Peer-to-peer ในพื้นที่ที่กว้างโดยไม่มีโหนดที่เป็นศูนย์กลาง ช่วยให้สามารถวางเครือข่ายในพื้นที่ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

E-mesh580P สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ถ่ายทอดสัญญาณวิดีโอ หรือวิทยุดูอัลโหมดทั้งแบบสายและไร้สาย เพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถส่งข้อมูลภาพเคลื่อนไหวและเสียงจากจุดเกิดเหตุไปยังศูนย์ควบคุมสั่งการในแบบเรียลไทม์ ซึ่งทำให้การรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติอย่างเช่น ไฟป่า น้ำท่วม หรือแผ่นดินไหว ที่สร้างความหายกับระบบโครงสร้างพลังงานและการสื่อสาร เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นระบบที่ทีมกู้ภัยต้องฝากชีวิตเอาไว้ด้วย

E-mesh580P มาพร้อมกับดีไซน์ที่เล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ตัวอุปกรณ์สามารถสะพายหลังหรือติดตั้งไปกับยานพาหนะได้อย่างสะดวก และยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูสถานะการทำงานของอุปกรณ์ได้ง่ายผ่านหน้าจอ OLED, ไฟ LED และสัญญาณเสียงเตือน นอกจากนี้ยังรองรับการสื่อสารด้วยเสียงในตัว เพื่อให้สมาชิกในทีมสามารถตืดต่อสื่อสาร และประสานงานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในรูปแบบ MIMO, Conventional หรือ Carrier Aggregation ก็ตาม E-mesh580P ได้รับการออกแบบมาให้มีสัญญาณการเชื่อมต่อที่แรงและตัดสัญญาณรบกวนได้ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมีเสถียรภาพในทุกๆ สภาวะ โดยเฉพาะบริเวณที่มีสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้ารบกวน

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Hytera E-mesh580P สามารถดูได้ที่  E-mesh580P Broadband Mesh Portable Device – Hytera.

เกี่ยวกับไฮเทรา

Hytera Communications Corporation Limited (SZSE: 002583) คือผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชั่นการสื่อสารระดับมืออาชีพชั้นนำระดับโลก ด้วยความสามารถด้านเสียง วิดีโอ และข้อมูล Hytera มอบการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว ปลอดภัยยิ่งขึ้น และหลากหลายยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้ทางธุรกิจและภารกิจที่สำคัญ Hytera ทำให้โลกมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้นโดยช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จมากขึ้นทั้งในด้านการดำเนินงานรายวันและการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/53670221/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อผู้ติดต่อ

lele.yao@hytera.com

ที่มา: การสื่อสารของ Hytera

วิทยาลัยเซนต์ลอเรนซ์ยกระดับประสบการณ์ของนักเรียนและครูด้วย Boomi

Logo

  • วิทยาลัยระดับมัธยมศึกษาในบริสเบนได้รับรองความสอดคล้องของข้อมูลในสภาพแวดล้อมคลาวด์แบบไฮบริด และขจัดกระบวนการที่ต้องดำเนินการด้วยตนเองซึ่งใช้เวลานานออกไป โดยเป็นส่วนหนึ่งของการพิสูจน์อนาคตทางดิจิทัล
  • วิทยาลัยเข้าร่วมกับองค์กรประมาณ 20,000 แห่งทั่วโลก ในการเลือกแพลตฟอร์มการรวบรวมข้อมูลระบบชั้นนําของ Boomi เป็นบริการ (iPaaS) เพื่อผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้น

ซิดนีย์–(BUSINESS WIRE)–26 ตุลาคม 2023

 Boomi™ ผู้นําด้านการเชื่อมต่ออัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ได้ประกาศว่าวิทยาลัยเซนต์ลอเรนซ์('Lauries') กําลังใช้ Boomi platform เพื่อยกระดับประสบการณ์แบบครบวงจรของนักเรียน 1,990 คน ครูและเจ้าหน้าที่ 250 คน ตั้งแต่การลงทะเบียน การเตรียมความพร้อม ไปจนถึงการออกจากโรงเรียน

St Laurence’s College Enhances Student and Teacher Experience with Boomi (Graphic: Business Wire)

วิทยาลัยเซนต์ลอว์เรนซ์เพิ่มประสิทธิภาพให้ประสบการณ์ของนักเรียนและครูด้วย Boomi (กราฟิก: Business Wire)

Lauries ก่อตั้งขึ้นในปี 1915 ในบริสเบนเป็นโรงเรียนชายสําหรับนักเรียนตั้งแต่เกรด 5 ถึง 12 ผลจากการให้บริการกลุ่มคนขนาดใหญ่เช่นนี้ วิทยาลัยจึงจัดการข้อมูลปริมาณมากในระบบหลายสิบระบบ ภายในสภาพแวดล้อมแบบไฮบริดที่ซับซ้อน

เนื่องจากไม่มีความสามารถในการผสานรวมก่อนหน้านี้ Lauries จึงเลือกแพลตฟอร์ม Boomi เพื่อเชื่อมต่อแอปพลิเคชันในองค์กรกับระบบคลาวด์ เพื่อสร้างฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลมีความสอดคล้องกันในทุกระบบ สิ่งนี้ทําให้วิทยาลัยสามารถเอาชนะความท้าทายในการรวบรวม และจัดการชุดข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ต้องการความแม่นยํา ตลอดเส้นทางการเรียนรู้ของนักเรียน

"แม้ว่าเราจะเป็นวิทยาลัยระดับมัธยมศึกษา แต่กลุ่มและบัญชีผู้ใช้จํานวนมากภายในชุมชน Lauries ทําให้กระบวนการข้อมูลของเราคล้ายกับมหาวิทยาลัย เราต้องเผชิญกับความท้าทายเดียวกัน ในการจัดการข้อมูลนักเรียนและเจ้าหน้าที่" Nick Lieschke คณบดีฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจ และเทคโนโลยีสารสนเทศของ Lauries กล่าว "เราต้องการแพลตฟอร์มการรวบรวมข้อมูล เพื่อขจัดความซับซ้อน และที่เลือก Boomi เพราะมีความสามารถในการผสานรวมที่มีประสิทธิภาพ และใช้โค้ดน้อย Boomi เชื่อมโยงจุดข้อมูลของเรา และช่วยให้เรารักษาแหล่งข้อมูลจริงเพียงแห่งเดียว ลดภาระในการป้อนข้อมูล และทำให้พนักงานมีเวลามากขึ้น"

Lauries ใช้แพลตฟอร์มการรวบรวมข้อมูลของ Boomi เป็นบริการ (iPaaS) เพื่อเชื่อมต่อทรัพยากรบุคคล (HR) การเงิน และระบบการจัดการโรงเรียน รวมถึงแอปพลิเคชันบนคลาวด์ที่มีจํานวนเพิ่มมากขึ้น แพลตฟอร์มจะเก็บรักษาข้อมูลทั้งหมดในลักษณะที่สอดคล้องกัน ระหว่างระบบเหล่านี้กับ Microsoft Azure และ Active Directory โดยมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในตัว เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบถึงความขัดแย้งในข้อมูลบัญชี

ก่อนที่จะใช้แพลตฟอร์ม Boomi Lauries จัดการกระบวนการรวบรวม และจัดการข้อมูลทั้งหมดด้วยตนเอง ส่งผลให้เกิดความยุ่งยากในการรับรองความสอดคล้องของข้อมูลในสภาพแวดล้อมด้านไอที โดยต้องอาศัยการจัดการด้วยตนเองที่ใช้เวลานาน ซึ่งทําให้เกิดความเสี่ยงต่อข้อผิดพลาดของมนุษย์

"Boomi ช่วยให้เราลดภาระงานของพนักงานไอทีทั้งหมด เวลาที่เคยใช้ในการบันทึกการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด บันทึกข้อมูล การตรวจสอบและถ่วงดุลในหลายระบบ ตอนนี้ถูกใช้ไปในโครงการที่มีมูลค่าสูงกว่า เพื่อขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่ดีขึ้นสําหรับนักเรียนและครู โดย Boomi ทำให้การทํางานด้วยตนเองทั้งหมดเป็นไปโดยอัตโนมัติ" Lieschke กล่าว "นี่เป็นส่วนสําคัญในภารกิจของเราในการรองรับ Lauries ในอนาคต และทําให้การแนะนําซอฟต์แวร์ใหม่เป็นบริการ (SaaS) ง่ายขึ้นมาก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่เน้นระบบคลาวด์เป็นหลักของเรา ที่สําคัญกว่านั้นคือเราสามารถมุ่งเน้นการเรียนการสอนของนักเรียนได้"

ด้วยความรู้ที่ว่าข้อมูลอยู่ที่ไหน และมีการใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างไร Lauries จึงได้สร้างเครือข่ายความปลอดภัยดิจิทัลขึ้นมาด้วย เมื่อนักเรียน ครู และเจ้าหน้าที่ออกจาก Lauries แล้ว วิทยาลัยจะได้มั่นใจว่าข้อมูลของพวกเขาจะถูกกําจัด ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่ข้อมูลจะรั่วไหล

ในโครงการ Boomi ในอนาคต Lauries กําลังมองหาการปรับใช้ Flow ซึ่งเป็นโซลูชันระบบอัตโนมัติเวิร์กโฟลว์ของ Boomi เพื่อจัดการกับแบบฟอร์มการเริ่มต้นใช้งานและการออก เมื่อพร้อมแล้ว Flow จะช่วย Lauries ส่งจดหมายเสนอให้กับครูใหม่ และเอกสารการลงทะเบียนให้กับผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นนักเรียน ทําให้ฝ่ายเหล่านั้นกรอกและลงนามได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย และเพื่อให้โรงเรียนสร้างบันทึกที่ถูกต้องเมื่อสิ้นสุดกระบวนการ ระบบอัตโนมัติจะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงที่ร้องขอในบัญชีผู้ใช้ เช่น กรณีของนักเรียนที่เปลี่ยนวิชาเลือก

"โรงเรียนควรสามารถนําทรัพยากรของตนไปสู่การศึกษา และประสบการณ์โดยรวมของนักเรียน และไม่จมอยู่กับการรักษาระบบเทคโนโลยีที่พวกเขาใช้ในการทําเช่นนี้" Nathan Gower ผู้อํานวยการออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ของ Boomi กล่าว "Lauries ได้ร่วมมือกับ Boomi เพื่อสร้างรากฐานที่เชื่อถือได้ในการเชื่อมต่อเทคโนโลยีและข้อมูล เพื่อให้สามารถให้ความสนใจกับการเพิ่มมูลค่าให้กับการเดินทางของนักเรียน และส่งเสริมให้ครูทําสิ่งนั้นให้เป็นไปได้"

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ Boomi
Boomi มีจุดมุ่งหมายเพื่อทําให้โลกนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้น โดยเชื่อมโยงทุกคนเข้ากับทุกสิ่งทุกที่ Boomi ผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มการรวบรวมข้อมูลบนคลาวด์ที่ให้บริการ (iPaaS) และปัจจุบันเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ให้บริการ (SaaS) ชั้นนำระดับโลก โดยเป็นฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จําหน่ายแพลตฟอร์มการรวบรวมข้อมูล และเครือข่ายทั่วโลกประมาณ 800 partners รวมถึง Accenture, Capgemini, Deloitte, SAP และ Snowflake องค์กรระดับโลกหันมาใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลของ Boomi เพื่อค้นหา จัดการ และประสานข้อมูล ขณะเดียวกันก็เชื่อมโยงแอปพลิเคชัน กระบวนการ และผู้คน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่าและเร็วขึ้น สําหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม boomi.com

© 2023 บูมี, LP. Boomi โลโก้ 'B' และ Boomiverse เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทย่อยหรือบริษัทในเครือ สงวนลิขสิทธิ์. ชื่อหรือเครื่องหมายอื่นอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/53675942/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ:
Jasmine Ee Head of Media and Analyst Relations, APJ
jasmine.ee@boomi.com

ที่มา: Boomi, LP

Bolt.Earth และ Bafang: ร่วมกันกำหนดอนาคตของรถไฟฟ้าสองล้อ

Logo

บังกาลอร์, อินเดีย–(BUSINESS WIRE)–24 ตุลาคม 2023

Bolt.Earth และ Bafang ผนึกกำลังกันเพื่อจัดหาโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับผู้รับจ้างผลิตรถไฟฟ้าสองล้อเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าสองล้อ ความร่วมมือนี้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะเสริมศักยภาพให้กับผู้รับจ้างผลิตในการส่งมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ไม่มีใครเทียบได้ โดยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ในวงการขับเคลื่อน

Bolt.Earth and Bafang - T&D Collaborate to Provide Comprehensive Solutions for EV Two-Wheeler OEMs (Graphic: Business Wire)

Bolt.Earth และ Bafang – T&D ร่วมมือกันจัดหาโซลูชันที่ครอบคลุมสำหรับผู้รับจ้างผลิตรถไฟฟ้าสองล้อ (รูปภาพ: Business Wire)

Bafang เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในด้านมอเตอร์ไฟฟ้าที่ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมอย่างแม่นยำ หน่วยควบคุมมอเตอร์ แบตเตอรี่ ระบบจัดการแบตเตอรี่ และหน่วยควบคุมยานพาหนะที่ออกแบบมาสำหรับจักรยานไฟฟ้าและจักรยานยนต์ไฟฟ้า นำเสนอความเชี่ยวชาญด้านฮาร์ดแวร์ที่ไม่มีใครเทียบได้ ความมุ่งมั่นต่อประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถืออย่างแน่วแน่ของ Bafang ทำให้มั่นใจได้ว่า OEM จะมีรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับยานพาหนะของพวกเขา

T&D เป็นแบรนด์จดทะเบียนของ Bafang Electric ที่ตั้งอยู่ในเมืองซูโจว ประเทศจีน Bafang ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ามานานกว่า 20 ปี และมีประสบการณ์ระดับมืออาชีพอย่างลึกซึ้งในด้านการวิจัยและพัฒนา การผลิต และการบริการ T&D อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการส่งมอบระบบส่งกำลังที่โดดเด่นและสมบูรณ์แบบสำหรับจักรยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยเครือข่ายระดับโลกที่แข็งแกร่งและห่วงโซ่อุปทานที่มีความคล่องตัวและเติบโตเต็มที่ แบรนด์ได้พัฒนาระบบที่แตกต่างกัน 5 ระบบ เพื่อนำเสนอประสิทธิภาพที่เหมาะสม โดดเด่น และกลมกลืนในหมวดหมู่การขับขี่แบบออฟโรด (ซีรีส์ Storm/FE), การขับขี่ในเมือง (ซีรีส์ Forest/LI), การขับขี่ที่เน้นการเดินทางไกล (ซีรีส์ Fire/HUO), การขับขี่เพื่อความบันเทิง (ซีรีส์ Mountain/SH ) และการขับขี่ประสิทธิภาพสูง (ซีรีส์ Lightning/LE)

ในอีกด้านหนึ่งของความร่วมมือที่น่าตื่นเต้นนี้ Bolt.Earth ได้นำเสนอ EV Operating Stack (OS) ที่ครอบคลุม ซึ่งพร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นซอฟต์แวร์พื้นฐานและอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ผู้รับจ้างผลิตรถไฟฟ้าสองล้อตั้งตารอคอย ข้อเสนอของ Bolt.Earth รวมถึงแผงหน้าปัดอัจฉริยะ แอปคู่หู EV ที่พร้อมใช้งาน แดชบอร์ดการจัดการกลุ่มยานพาหนะและผู้รับจ้างผลิต และโซลูชันตลาดแบบบูรณาการ ช่วยให้ผู้รับจ้างผลิตสามารถนำเสนอประสบการณ์ด้านรถยนต์ไฟฟ้าที่เชื่อมโยงและสอดคล้องกันมากขึ้นแก่ลูกค้า นอกจากนี้ เครือข่ายการชาร์จแบบ peer-to-peer ในตัวซึ่งมีจุดชาร์จทั้ง AC และ DC ช่วยให้มั่นใจในการชาร์จที่ง่ายดายและการเข้าถึงที่ดีขึ้นสำหรับผู้ใช้ปลายทางด้วย

คุณ Jyotiranjan Harichandan ผู้ร่วมก่อตั้ง Bolt.Earth แสดงความตื่นเต้นโดยกล่าวว่า "ความร่วมมือนี้ทำให้เราได้เปิดศักราชใหม่สำหรับผู้รับจ้างผลิตรถไฟฟ้าสองล้อ ขณะนี้ ผู้รับจ้างผลิตสามารถใช้ประโยชน์จากจุดแข็งที่ผสมผสานระหว่างความเชี่ยวชาญด้านฮาร์ดแวร์ของ Bafang และระบบปฏิบัติการที่เป็นนวัตกรรมของเรา เพื่อมอบประสบการณ์ด้านรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นองค์รวม เชื่อมโยงถึงกัน และยึดผู้ใช้เป็นศูนย์กลางแก่ลูกค้าได้แล้ว"

คุณ Sunny กรรมการผู้จัดการของ Bafang เน้นย้ำว่า "ความร่วมมือนี้ไม่ใช่แค่การทำงานอย่างใกล้ชิดของสองบริษัทเท่านั้น แต่เป็นการขยายศักยภาพของรถไฟฟ้าสองล้อสำหรับผู้รับจ้างผลิต เรากำลังมอบเครื่องมือให้ผู้รับจ้างผลิตเพื่อกำหนดนิยามใหม่และยกระดับการเดินทางด้วยรถยนต์ไฟฟ้าให้กับลูกค้าของพวกเขา ด้วยการบูรณาการระบบขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งของเราเข้ากับโซลูชันซอฟต์แวร์ที่ล้ำสมัยของ Bolt.Earth"

สำหรับผู้รับจ้างผลิตรถไฟฟ้าสองล้อ ความร่วมมือนี้ถือเป็นโซลูชันที่ครบวงจร ซึ่งรับประกันความเป็นเลิศของผลิตภัณฑ์ตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงอำนวยความสะดวกในการเข้าสู่ตลาดหรือขยายตลาดอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาระบบการขับเคลื่อนระดับสูงหรือบูรณาการซอฟต์แวร์ที่ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ ผู้รับจ้างผลิตก็มีเส้นทางสู่ความสำเร็จที่ราบรื่น

เข้าร่วมกับเราที่ EICMA 2023 ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายนถึง 12 พฤศจิกายนที่ Fiera Milano-Rho Milan และสัมผัสอนาคตของการขับเคลื่อนที่ยั่งยืนด้วยตัวคุณเอง เยี่ยมชมเราที่ฮอลล์หมายเลข I05 ที่บูธหมายเลข 22 เพื่อดูโซลูชันริเริ่มของ Bolt.Earth และ Bafang ที่กำหนดนิยามใหม่ของการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า อย่าพลาดการสาธิตผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยแบบสดๆ สร้างเครือข่ายกับผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไฟฟ้า รับข้อมูลเชิงลึกสุดพิเศษ และพบกับทีมงานผู้มีวิสัยทัศน์ที่อยู่เบื้องหลัง Bolt.Earth และ Bafang วงวันที่ในปฏิทินของคุณและมาร่วมขับเคลื่อนวิวัฒนาการของการขับเคลื่อนที่ยั่งยืนด้วยกัน

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53655137/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

ติดต่อสำหรับสื่อ : marketing@bolt.earth

ที่มา: Bolt.Earth

 

DONGFENG KC นำเสนอการขนส่งยุคใหม่ระดับโลก ไร้กังวล มั่นคง และเชื่อถือได้

Logo

WUHAN, China–(BUSINESS WIRE)–23 ตุลาคม 2023

Dongfeng Commercial Vehicles เปิดตัวรถดัมพ์รุ่นใหม่ – DONGFENG KC โดยมุ่งเน้นความต้องการของลูกค้า เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในการขนส่งทางบกข้ามภูมิภาคทั่วโลก

DONGFENG KC (Photo: Business Wire)

DONGFENG KC (ภาพถ่าย: Business Wire)

โปรโมชั่น DONGFENG KChttps://www.youtube.com/watch?v=VUo_v2WqWvo

รถดัมพ์ DONGFENG KC ประกอบด้วยห้องโดยสารวิศวกรรม D320 รุ่นใหม่ เบาะนั่งพร้อมถุงลมนิรภัยด้านคนขับ พร้อมที่วางแขนด้านเดียว พนักพิงศีรษะในตัว ถุงลมนิรภัยรองรับส่วนบั้นเอว และระบบระบายอากาศของที่นั่ง ภายในห้องโดยสารมีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ และเครื่องทำความร้อนขณะจอด

DONGFENG KC มีกำลังที่แข็งแกร่งและความสามารถในการรับน้ำหนัก โดยมีการใช้โซ่ส่งกำลังชั้นนำระดับสากลสามชุด ได้แก่ เครื่องยนต์ Dongfeng Cummins กล่องเกียร์ FasTrak และเพลา Dongfeng Dana และ Handmann เครื่องยนต์สามารถมีกำลังสูงสุดได้ถึง 520HP

เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพถนนที่ขรุขระ ไม่ราบเรียบ DONGFENG KC ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์แบบปรับแต่งได้ เช่น อุปกรณ์ทำความร้อนจากก๊าซไอเสีย เพื่อตอบสนองความต้องการในการดำเนินงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่เย็น สามารถกำหนดการปรับเปลี่ยนที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการของผู้ใช้และสภาวะการใช้งานที่แตกต่างกัน แช่น การขนส่งทางบก- หรือการบรรทุกในเหมืองแร่ ระยะห่างจากพื้นของถังเก็บน้ำและความสูงต่ำสุดจากพื้นของอุปกรณ์เสริมแชชซีนั้น ตอบสนองความต้องการในสภาวะการใช้งานได้อย่างครบถ้วน

Dongfeng Commercial Vehicles มุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่น่าเชื่อถือแก่ผู้ใช้ทั่วโลก การจัดตั้งคลังสินค้าอะไหล่ส่วนกลางสองแห่งในเขตการขายที่สำคัญในยุโรป การบริหารจัดการสถานีบริการบำรุงรักษามากกว่า 200 แห่ง และมีผู้เชี่ยวชาญชาวจีนมากมายพร้อมให้การสนับสนุนด้านเทคนิคอย่างมืออาชีพในพื้นที่ ช่วยให้สามารถรับประกันแก่ผู้ใช้ได้ว่า จะได้รับการบริการหลังการขายที่ทันเวลา รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ รูปแบบการจัดจำหน่ายแบบครบวงจรจะช่วยแก้ไขปัญหา "ปัญหาความยุ่งยากหลังการขาย" ที่ตัวแทนจำหน่ายหลายรายต้องเผชิญกับลูกค้า และมอบปราบการณ์ยานยนต์ที่ไร้กังวลด้วยการรับประกันร่วมระดับภูมิภาค

ผมมีหลักเกณฑ์สามประการในการเลือกรถดัมพ์คือ กำลัง ความเพรียว และความสะดวกสบาย DONGFENG KC ตรงตามความต้องการของผมทั้งหมด ผมชอบรถคันนี้มาก!” Simon ผู้ใช้ชาวยุโรป แสดงความพึงพอใจใน DONGFENG KC เป็นอย่างมากในการประชุมแบ่งปันประสบการณ์ทดลองขับแบบออฟไลน์

ทั้งหมดนี้คือความเชื่อใจ Dongfeng Commercial Vehicle กลายเป็น “แบรนด์รถบรรทุกของจีนที่น่าเชื่อถือที่สุด” ด้วยเทคโนโลยียานยนต์ที่ยอดเยี่ยมและบริการสุดพิเศษที่คำนึงถึงผู้ใช้เป็นหลัก นอกจากยุโรปแล้ว ยังมีการเปิดตัว DONGFENG KC ในอเมริกาใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตลาดภูมิภาคอื่นๆ และจะยังคงให้บริการคุณภาพสูงและน่าเชื่อถือแก่ผู้ใช้ทั่วโลก และเพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์

URLs:

http://www.dongfeng-global.com/
https://www.facebook.com/DongfengMotorCorporationGlobal
https://www.facebook.com/DongfengMotorCorporationSA
https://www.facebook.com/DongfengMotorCorporationME
https://www.tiktok.com/@dfmotor

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53650942/en

ติดต่อ

Xu Jin
อีเมล: gjb-xujin@dfmc.com.cn
โทร: +86-27-8430-1322

แหล่งข้อมูล: China Dongfeng Motor Industry Imp. & Exp. Co. Ltd

Turkiye สมาชิกใหม่ล่าสุดของ APO เป็นเจ้าภาพการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งที่ 64 ของหัวหน้าองค์กรเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ

Logo

อังการา ตุรเคีย–(BUSINESS WIRE )–23 ตุลาคม 2023

Turkiye สมาชิกใหม่ล่าสุดขององค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (APO) ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ (WSM) ครั้งที่ 64 ของหัวหน้าองค์กรเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ (NPOs) ในเมืองอังการา ระหว่างวันที่ 17-19 ตุลาคม

L–R: APO Director for Turkiye Abdullah Basar, Minister of Industry and Technology Mehmet Fatih Kacir, APO Secretary-General Dr. Indra Pradana Singawinata. (Photo: Business Wire)

ซ้าย-ขวา: ผู้อำนวยการ APO ของตุรเคีย Abdullah Basar รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี Mehmet Fatih Kacir, Dr. Indra Pradana Singawinata เลขาธิการ APO (รูปภาพ: Business Wire)

การประชุมสามวันนี้มีหัวหน้า NPO 65 คนเข้าร่วม พร้อมด้วยผู้แทนจากสมาชิก APO 20 คน การประชุมเริ่มต้นด้วยคำกล่าวของ Abdullah Basar ผู้อำนวยการทั่วไปด้านการวิจัยเชิงกลยุทธ์และผลผลิต กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี และผู้อำนวยการ APO ของ Turkiye Mehmet Fatih Kacir รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นแขกรับเชิญ กล่าวสุนทรพจน์เปิดงานเพื่อสะท้อนถึงพันธกิจสำคัญของ APO ว่า "เราดำเนินการด้วยความตระหนักว่าทรัพยากรมีจำกัดในโลก และเราให้ความสำคัญกับการกระจายทรัพยากรเหล่านี้อย่างยุติธรรม ซึ่งถือเป็นมรดกร่วมกันของมนุษยชาติ ด้วยแนวทางนี้ เราเห็นว่าเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่มุ่งเน้นด้านประสิทธิภาพการทำงานเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการแก้ปัญหาระดับโลก ผลผลิตเป็นพื้นฐานของอนาคตที่เจริญรุ่งเรืองและการเติบโตที่ยั่งยืน ส่วนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและการเปลี่ยนแปลงที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นพื้นฐานของผลผลิต"

ศูนย์กลางของการพิจารณาคือ APO Vision 2025 Dr. Indra Pradana Singawinata เลขาธิการ APO เน้นย้ำถึงความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการปรับปรุงผลลัพธ์และมาตรการที่ตั้งใจไว้ของวิสัยทัศน์ หรือตัวชี้วัดความสำเร็จ เพื่อให้แน่ใจว่าจะขยายออกไปนอกเหนือจากโปรแกรมและโครงการของ APO เขาเน้นย้ำถึงความเป็นเจ้าของร่วมกัน โดยเน้นว่าจุดแข็งและความสำเร็จของ APO นั้นสร้างขึ้นจากความพยายามในการทำงานร่วมกันของสมาชิก เลขาธิการ Dr. Indra ขอให้สมาชิกจัดทำเอกสารและแบ่งปันเรื่องราวความสำเร็จเพื่อแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่จับต้องได้ของความพยายามและการริเริ่มร่วมกันผ่านโปรแกรมและโครงการต่าง ๆ

WSM ประจำปีเสนอแพลตฟอร์มให้กับ NPO เพื่อพัฒนา ให้คำปรึกษา และขัดเกลาความคิดริเริ่มต่าง ๆ ส่วนสำคัญของการประชุมมุ่งเน้นไปที่การวางกลยุทธ์และการวางแผนสำหรับปี 2025–26 สิ่งนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่า APO ยังคงมีความคล่องตัวและปรับให้เข้ากับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของสมาชิกที่หลากหลาย และตอกย้ำความมุ่งมั่นต่อภารกิจในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนผ่านการผลิตทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ข้อเสนอวิสัยทัศน์บางส่วนที่ได้รับการรับรองโดย WSM นั้นรวมถึงการเปิดตัวโปรแกรมความเป็นผู้นำระดับผู้บริหารสำหรับ NPO และการจัดตั้งกองทุนเพื่อการเข้าถึงผู้ที่ไม่ใช่สมาชิก ด้วยภูมิปัญญาที่แบ่งปันร่วมกันและกลยุทธ์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ APO พร้อมที่จะนำทางความท้าทายและโอกาสที่ไม่หยุดนิ่งที่อยู่ข้างหน้า

เกี่ยวกับ APO

องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (APO) เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลระดับภูมิภาคที่อุทิศตนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกผ่านความร่วมมือร่วมกัน โดยไม่เกี่ยวกับการเมือง ไม่แสวงหากำไร และไม่เลือกปฏิบัติ APO ก่อตั้งขึ้นในปี 1961 โดยมีสมาชิกผู้ก่อตั้ง 8 คน ปัจจุบันประกอบด้วยประเทศสมาชิก 21 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ กัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ฟิจิ ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย อิหร่าน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สปป. ลาว มาเลเซีย มองโกเลีย เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ศรีลังกา ไทย ตุรเคีย และเวียดนาม

APO กำลังกำหนดอนาคตของภูมิภาคโดยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของสมาชิกผ่านบริการให้คำปรึกษาด้านนโยบายระดับชาติ ทำหน้าที่เป็นคลังความคิด โครงการริเริ่มในการสร้างขีดความสามารถของสถาบัน และการแบ่งปันความรู้เพื่อเพิ่มผลผลิต

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:
https://www.businesswire.com/news/home/53649745/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

สำหรับรายละเอียด โปรดติดต่อ:
Digital Information Unit, APO: pr@apo-tokyo.org
โทรศัพท์: +81-3-3830-0411
เว็บไซต์: https://www.apo-tokyo.org

ที่มา: องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย

Toshiba เปิดตัวโฟโตรีเลย์ขนาดเล็กที่เหมาะสำหรับสวิตช์สัญญาณความถี่สูงในเครื่องทดสอบเซมิคอนดักเตอร์

Logo

ลดการสูญเสียสัญญาณจากจุดสัญญาณเข้าและปรับปรุงคุณลักษณะการส่งสัญญาณความถี่สูง

คาวาซากิ ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–17 ตุลาคม 2023

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ("Toshiba") ได้เปิดตัว "TLP3475W" ซึ่งเป็นโฟโตรีเลย์ในแพ็กเกจ WSON4 ขนาดเล็กและบาง ช่วยลดการสูญเสียสัญญาณจากจุดสัญญาณเข้าและระงับการลดทอนกำลังในสัญญาณความถี่สูง [1] และเหมาะสำหรับพินอิเล็กทรอนิกส์ของเครื่องทดสอบเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งใช้รีเลย์จำนวนมากและต้องการการส่งสัญญาณความเร็วสูง เริ่มจัดส่งผลิตภัณฑ์จำนวนมากแล้ววันนี้

Toshiba: TLP3475W, a photorelay in a small, thin WSON4 package. (Graphic: Business Wire)

Toshiba: TLP3475W โฟโตรีเลย์ในแพ็กเกจ WSON4 ขนาดเล็กและบาง (ภาพ: Business Wire)

การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพของ Toshiba จะช่วยลดความจุและการเหนี่ยวนำที่ไม่ต้องการในโฟโตรีเลย์ใหม่ ซึ่งช่วยลดการสูญเสียสัญญาณจากจุดสัญญาณเข้าและปรับปรุงคุณลักษณะการส่งสัญญาณความถี่สูงเป็น 20GHz (ทั่วไป) [2] ซึ่งต่ำกว่า TLP3475S ผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของ Toshiba ประมาณ 1.5 เท่า [2]

TLP3475W ใช้แพ็กเกจ WSON4 ขนาดเล็กและบางที่มีความหนาเพียง 0.8 มม. (ทั่วไป) ทำให้เป็นโฟโตรีเลย์ที่มีขนาดเล็กที่สุด [3] ในอุตสาหกรรมเพื่อให้คุณลักษณะการส่งสัญญาณความถี่สูงที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง มีความสูงน้อยกว่าแพ็กเกจ S-VSON4T ขนาดเล็กพิเศษของ Toshiba ถึง 40% ช่วยให้สามารถติดตั้งผลิตภัณฑ์อื่นได้มากขึ้นบนแผงวงจรเดียวกัน และจะช่วยทำให้มีประสิทธิภาพการวัดที่ดีขึ้นด้วย

Toshiba จะยังคงขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่อไปเพื่อรองรับเครื่องมือทดสอบเซมิคอนดักเตอร์ที่ให้ความเร็วที่สูงขึ้นและฟังก์ชันการทำงานที่ดียิ่งขึ้น

การใช้งาน

  • เครื่องทดสอบเซมิคอนดักเตอร์ (เครื่องทดสอบหน่วยความจำความเร็วสูง เครื่องทดสอบลอจิกความเร็วสูง ฯลฯ)
  • การ์ดโพรบ
  • อุปกรณ์วัด

คุณสมบัติ

  • แพ็กเกจ WSON4 ที่มีขนาดเล็กที่สุด [3] ในอุตสาหกรรม: 1.45 มม. × 2.0 มม. (ทั่วไป), t=0.8 มม. (ทั่วไป)
  • การปรับปรุงการส่งสัญญาณความถี่สูง : f=20GHz (ทั่วไป) @Insertion loss(S21) = -3dB
  • ฟังก์ชันเปิดตามปกติ (1-Form-A)

หมายเหตุ:

[1] เมื่อย่านความถี่อยู่ในช่วงหลายร้อยเมกะเฮิรตซ์ถึงหลายสิบกิกะเฮิรตซ์
[2] ย่านความถี่ที่อัตราส่วนการลดทอนกำลัง (การสูญเสียสัญญาณที่จุดสัญญาณเข้า) เมื่อสัญญาณผ่านเอาท์พุต MOSFET คือ -3dB
[3] สำหรับโฟโตรีเลย์ จากแบบสำรวจของ Toshiba ณ เดือนตุลาคม 2023

ข้อมูลจำเพาะหลัก

(T= 25°C เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น)

หมายเลขชิ้นส่วน

TLP3475W

บรรจุุภัณฑ์

ชื่อ

WSON4

ขนาด (มม.)

1.45 × 2.0 (ทั่วไป), t=0.8 (ทั่วไป)

พิกัดสูงสุดสัมบูรณ์

แรงดันไฟฟ้าขั้วต่อเอาต์พุตสถานะปิด VOFF (V)

60

กระแสไฟสถานะเปิด ION (A)

0.4

กระแสไฟสถานะเปิด (พัลส์) IONP (A)

1.2

อุณหภูมิในการทำงาน Topr (°C)

-40 ถึง 110

คุณลักษณะทางไฟฟ้าแบบคู่

ทริกเกอร์กระแสไฟ LED IFT (mA)

สูงสุด

3.0

ความต้านทานในสถานะเปิด RON (Ω)

ทั่วไป

1.1

สูงสุด

1.5

คุณลักษณะทางไฟฟ้า

ความจุเอาต์พุต COFF (pF)

สูงสุด

20

คุณลักษณะการสวิตช์

เวลาเปิดเครื่อง tON (ms)

@RL = 200Ω,

VDD = 20V,

IF = 5mA

สูงสุด

0.25

เวลาปิดเครื่อง tOFF (ms)

0.2

คุณลักษณะการแยกสัญญาณ

แรงดันไฟฟ้าการแยกสัญญาณ BVS (Vrms)

ขั้นต่ำ

300

การตรวจสอบตัวอย่างและการจัดจำหน่าย

ซื้อออนไลน์

ติดตามลิงก์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
TLP3475W

ติดตามลิงก์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโฟโตรีเลย์ของ Toshiba
โฟโตรีเลย์ (เอาต์พุต MOSFET)

หากต้องการตรวจสอบการจัดจำหน่ายของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ร้านผู้จัดจำหน่ายออนไลน์ โปรดไปที่:
TLP3475W
ซื้อออนไลน์

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกี่ยวข้อง
* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลการติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation เป็นซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และการจัดเก็บขั้นสูง ที่ประยุกต์ใช้ประสบการณ์กว่าครึ่งศตวรรษและนวัตกรรมในการนำเสนอผลิตภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์ชนิดแยกชิ้น ผลิตภัณฑ์ระบบ LSI และ HDD อันโดดเด่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ
พนักงานของบริษัท 21,500 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุด และส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการสร้างมูลค่าและตลาดใหม่ร่วมกัน Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation คาดหวังที่จะสร้างและมีส่วนร่วมในอนาคตที่ดีขึ้นเพื่อทุกคนทั่วโลก โดยมียอดขายต่อปีเกือบ 800 พันล้านเยน (6.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53609287/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

ช่องทางสอบถามสำหรับลูกค้า:
ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์ออปโตอิเล็กทรอนิกส์
โทรศัพท์: +81-44-548-2218
ติดต่อเรา

ช่องทางสอบถามสำหรับสื่อ:
Chiaki Nagasawa
ฝ่ายการตลาดดิจิทัล
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

ที่มา: Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

LiveRamp และ Yahoo ร่วมมือกันขยายความสามารถในการระบุตัวตนผู้ใช้งานทั่วทั้งระบบนิเวศโฆษณา

Logo

ผู้เผยแพร่โฆษณา นักการตลาด และอีกมากมายจะสามารถใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อหลังการส่งสัญญาณได้ดียิ่งขึ้น

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–17 ตุลาคม 2023

LiveRamp (NYSE: RAMP) แพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันด้านข้อมูลชั้นนำ และ Yahoo ประกาศในวันนี้ถึงการขยายความร่วมมือเพื่อขยายขอบเขตความสามารถในการระบุตัวตนผู้ใช้งาน และปรับปรุงการเข้าถึงและการทำงานร่วมกันภายในระบบนิเวศการโฆษณา ความร่วมมือนี้จะทำให้ผู้เผยแพร่ที่ใช้ Authenticated Traffic Solution (ATS) ของ LiveRamp สามารถใช้ประโยชน์จากโซลูชันการระบุตัวตนแบบไม่มีคุกกี้, Yahoo ConnectID และปลดล็อกความต้องการที่ระบุตัวตนผู้ใช้งานเพิ่มเติมได้

นอกจากนี้ แบรนด์ที่ใช้ Yahoo DSP ยังสามารถได้รับการเข้าถึงได้มากขึ้นผ่าน Yahoo ConnectID ซึ่งได้รับประโยชน์จาก RampID และการขยายขนาดของ Authenticated Traffic Solution ของ LiveRamp

Yahoo ConnectID ขับเคลื่อนโดยความสัมพันธ์โดยตรงกับผู้ใช้งานที่มีการยืนยันตัวตนเกือบ 200 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา ทำให้สามารถระบุตัวตนผู้ใช้งานในทุกช่องทางได้ทั่วทั้งทรัพย์สินที่ Yahoo เป็นเจ้าของและดำเนินการและโดเมนผู้เผยแพร่อื่นๆ อีกหลายพันโดเมน RampID และ Authenticated Traffic Solution ของ LiveRamp ขับเคลื่อนแนวทางการระบุตัวตนเฉพาะบุคคลของ LiveRamp ทำให้สามารถระบุตัวตนผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริงในเบราว์เซอร์ อุปกรณ์เคลื่อนที่ และ CTV ทั่วทั้งปลายทางหลายร้อยแห่ง ลูกค้าจะสามารถพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้ใช้งานอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น สร้างมูลค่าตลอดการเดินทางของผู้ใช้งาน และรักษาการควบคุมข้อมูล

ผู้เผยแพร่ที่ใช้ Authenticated Traffic Solution ของ LiveRamp จะสามารถทำงานร่วมกับ Yahoo ConnectID ได้โดยใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อย และสร้างรายได้จากข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ดีขึ้น แบรนด์มากกว่า 450 แบรนด์ทำงานร่วมกับ LiveRamp เพื่อใช้ข้อมูลที่แบรนด์เป็นผู้เก็บรวบรวมด้วยตนเองในการปรับแต่งประสบการณ์ของผู้บริโภคให้ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคล

ผู้เผยแพร่และนักการตลาดจะได้รับประโยชน์จากความร่วมมือนี้โดยไม่ต้องมีการกำหนดค่าหรือทรัพยากรเพิ่มเติมสำหรับผู้ชมที่ได้รับการยืนยันตัวตน โดยมอบประสบการณ์ที่ปรับแต่งตามความต้องการได้ทุกส่วนที่สำคัญ ผู้เผยแพร่ควรคาดหวังว่าจะได้เห็นการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากคลังข้อมูลที่ได้รับการยืนยันตัวตนผ่านทาง Authenticated Traffic Solution เนื่องจาก Yahoo ConnectID พร้อมใช้งานเป็นตัวระบุแล้ว นอกจากนี้ นักการตลาดที่กำลังมองหาโซลูชันการสูญเสียสัญญาณหลังการส่งสัญญาณจะมีการเข้าถึงผู้ใช้ที่ได้รับการยืนยันตัวตนเพิ่มขึ้นจากผู้เผยแพร่โฆษณาที่ใช้ RampID และ/หรือ Yahoo ConnectID ผ่านทาง Yahoo DSP

"เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งในความสามารถในการระบุตัวตนผู้ใช้งานที่ได้รับการยืนยันตัวตน และความร่วมมือนี้ช่วยให้เข้าถึงได้มากขึ้น ซึ่งจะคงอยู่ได้นอกเหนือจากการสูญเสียสัญญาณของบุคคลที่สาม" Elizabeth Herbst-Brady ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ของ Yahoo กล่าว "เรากำลังทำให้นักการตลาดและผู้เผยแพร่โฆษณาใช้ประโยชน์จากโซลูชันเหล่านี้ได้ง่ายขึ้นและเพิ่มผลลัพธ์สูงสุด ขณะเดียวกันก็สนับสนุนธุรกรรมที่ราบรื่นยิ่งขึ้นทั่วทั้งเว็บแบบเปิด"

"Yahoo เป็นผู้สนับสนุนที่ทรงพลังสำหรับการระบุตัวตนผู้ใช้งานที่ได้รับการยืนยันตัวตน และการเชื่อมต่อที่เราร่วมมือกันเพื่อเปิดใช้งานทั่วทั้ง DSP และ Yahoo ConnectID ของพวกเขาจะช่วยทำให้การเชื่อมต่อหลังส่งสัญญาณเป็นประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับนักการตลาดมากกว่าในปัจจุบัน" Travis Clinger รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเปิดใช้งานและการระบุตัวตนผู้บริโภคของ LiveRamp กล่าว "ตอนนี้นักการตลาดและผู้เผยแพร่สามารถมีส่วนร่วม ปรับแต่ง และวัดผลการเดินทางของผู้ใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น"

เกี่ยวกับ LiveRamp

LiveRamp เป็นแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันด้านข้อมูลที่บริษัทนวัตกรรมเลือกใช้มากที่สุดในโลก LiveRamp ซึ่งเป็นผู้นำที่ก้าวล้ำในด้านความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภค จริยธรรมของข้อมูล และเอกลักษณ์องค์กร กำลังสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการสร้างมุมมองของลูกค้าที่เชื่อมต่อด้วยความชัดเจนและบริบทที่ไม่มีใครเทียบได้ ในขณะเดียวกันก็ปกป้องแบรนด์อันมีค่าและความไว้วางใจของผู้บริโภค LiveRamp นำเสนอความยืดหยุ่นที่ครอบคลุมในการทำงานร่วมกันไม่ว่าจะมีข้อมูลอยู่ที่ไหนก็ตาม เพื่อสนับสนุนกรณีการใช้งานการทำงานร่วมกันของข้อมูลที่หลากหลายที่สุด ทั้งภายในองค์กร ระหว่างแบรนด์ และทั่วทั้งเครือข่ายชั้นนำระดับโลกของพันธมิตรคุณภาพสูง

นักนวัตกรรมระดับโลกหลายร้อยราย ตั้งแต่แบรนด์ผู้บริโภคที่โดดเด่นและยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีไปจนถึงธนาคาร ผู้ค้าปลีก และผู้นำด้านการดูแลสุขภาพหันมาใช้ LiveRamp เพื่อสร้างแบรนด์และมูลค่าทางธุรกิจที่ยั่งยืนโดยเพิ่มการมีส่วนร่วมและความภักดีของลูกค้าให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สร้างความร่วมมือใหม่ๆ และเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับข้อมูลบุคคลที่หนึ่งของตน ขณะเดียวกันก็ยังคงก้าวทันข้อกำหนดด้านการปฏิบัติตามและความเป็นส่วนตัวที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว LiveRamp ตั้งอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย และมีสำนักงานอยู่ทั่วโลก เรียนรู้เพิ่มเติมที่ LiveRamp.com

เกี่ยวกับ Yahoo

Yahoo เข้าถึงผู้คนเกือบ 900 ล้านคนทั่วโลก ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงการเงิน กีฬา ช้อปปิ้ง เกม และข่าวสารมากขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์ เนื้อหา และเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ซึ่งช่วยขับเคลื่อนชีวิตประจำวันของพวกเขา สำหรับพันธมิตร เราให้บริการแพลตฟอร์มแบบครบวงจรสำหรับธุรกิจเพื่อขยายการเติบโตและขับเคลื่อนการเชื่อมต่อที่มีความหมายมากขึ้นในการโฆษณา การค้นหา และสื่อ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ yahooinc.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Michelle Millsap
pr@liveramp.com

ที่มา: LiveRamp

          

ASPIRE ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กำหนดนิยามใหม่ของกีฬาแข่งรถเอ็กซ์ตรีมอัตโนมัติ: A2RL เผยโฉมรถ Dallara Super Formula “อัตโนมัติ” ที่งาน GITEX Global 2023

Logo

  • การแข่งรถอัตโนมัติครั้งแรกจะจัดขึ้นในเดือนเมษายน 2024 ที่ Yas Marina Circuit ของอาบูดาบีโดยมีเงินรางวัลรวม 2.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
  • 10 ทีมชั้นนำจากสถาบันที่มีชื่อเสียง ได้แก่: University of California, Berkeley, Technical University of Munich และ Nanyang Technological University, Singapore
  • ผู้เข้าร่วมงาน GITEX จะได้ชมรถยนต์รุ่น Dallara SF23 ที่เป็นรถยนต์อัตโนมัติเป็นครั้งแรก

ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–16 ตุลาคม 2023

ASPIRE ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนเบื้องหลังความท้าทายอันยิ่งใหญ่และการแข่งขันระดับโลกสำหรับสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (ATRC) ของอาบูดาบี ได้ประกาศรายละเอียดของ Abu Dhabi Autonomous Racing League (A2RL) ที่เป็นที่รอคอยอย่างยิ่ง ในวันแรกของงาน GITEX Global ซึ่งเป็นงานเทคโนโลยีชั้นนำของโลก A2RL เผยโฉมรถยนต์รุ่นแรกที่เป็น Dallara Super Formula SF23 อัตโนมัติ ซึ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ สิ่งมหัศจรรย์อันทันสมัยนี้สามารถรับรู้สภาพแวดล้อมและทำงานได้โดยปราศจากการแทรกแซงของมนุษย์ จะเปลี่ยนแปลงวงการมอเตอร์สปอร์ตด้วยการแข่งขันรอบปฐมฤกษ์ครั้งใหญ่ ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 28 เมษายน 2024 ที่ Yas Marina Circuit ของอาบูดาบี

Abu Dhabi Autonomous Racing League - 28th April 2024 - (Photo - AETOSWire)

Abu Dhabi Autonomous Racing League – 28 เมษายน 2024 – (รูปภาพ – AETOSWire)

A2RL เป็นงานประเภทแรกของภูมิภาคที่ผสานรวมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ความเป็นอิสระ และกีฬาเอ็กซ์ตรีมเพื่อผลักดันขอบเขตของการขับเคลื่อนในอนาคต งานนี้กำลังได้รับความสนใจว่าเป็นลีกการแข่งรถอัตโนมัติที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยจะจัดแสดงการแข่งรถอัตโนมัติ การแข่งโดรน และการแข่งรถบักกี้บนเนินทราย

H.E. Faisal Al Bannai เลขาธิการของ ATRC ซึ่งเป็นองค์กรแม่ของ ASPIRE กล่าวว่า "ที่จุดบรรจบกันของวิทยาศาสตร์ กีฬา และเทคโนโลยี ความเป็นอิสระกำลังจะปฏิวัติอนาคตของการคมนาคมขนส่ง Abu Dhabi Autonomous Racing League (A2RL) ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้นของ Abu Dhabi ในฐานะศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนา (R&D) ระดับนานาชาติ และเป็นพื้นที่ทดสอบชั้นนำสำหรับทดลองโซลูชันอัตโนมัติแบบพิสูจน์แนวคิด โดยการนำนักวิทยาศาสตร์ ผู้พัฒนา และผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนโค้ดจากทั่วโลกมารวมตัวกันในสนามกีฬาเอ็กซ์ตรีม เราจึงทดสอบความสามารถต่อความทนทานอย่างแข็งขัน เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนของเรา"

วันแข่งรอบปฐมฤกษ์ (การแข่งรถยนต์) จะนำเสนอภาพรวมของอนาคตของ AI ซึ่งเป็นการผสมผสานที่น่าตื่นเต้นระหว่างประสบการณ์เสมือนจริงและชีวิตจริง และการแนะนำความบันเทิงกีฬาเอ็กซ์ตรีมยุคใหม่

ทีมชั้นนำ 10 ทีมจากมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยระดับนานาชาติได้ยืนยันการเข้าร่วมการแข่งขันรถยนต์อัตโนมัติ และจะแข่งขันกันเพื่อชิงเงินรางวัล 2.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทีมที่เข้าร่วมได้แก่ Beijing Institute of Technology และ Khalifa University (จีนและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์), Code19 Racing และ Indiana University (สหรัฐอเมริกา), Constructor Group (สวิตเซอร์แลนด์และสิงคโปร์), Hungarian Mobility Development Agency (ฮังการี), Kinetiz & Nanyang Technological University (สิงคโปร์), Politecnico di Milano (อิตาลี), Technical University of Munich (เยอรมนี), Technology Innovation Institute (UAE), University of California, Berkeley และ University of Hawaii (สหรัฐอเมริกา), University of Modena and Reggio Emilia (อิตาลี)

ทีมที่เข้าร่วมแต่ละทีมจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึงรถยนต์ Dallara Super Formula SF23 ใหม่ล่าสุด ซึ่งได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับ A2RL รถยนต์คันนี้ผลิตจากวัสดุคอมโพสิตชีวภาพที่ยั่งยืน ซึ่งมีน้ำหนัก 690 กิโลกรัม และปัจจุบันเป็นรถแข่งแบบเปิดล้อที่เร็วที่สุดในโลกรองจาก Formula One ด้วยความเร็วสูงสุด 300 กม./ชม.รถยนต์คันนี้มีระบบเบรกขั้นสูง ชุดระบบอัตโนมัติที่สร้างขึ้นเอง และระบบควบคุมคันเร่งแบบขับเคลื่อนด้วยลวด ทั้ง 10 ทีมจะมีโอกาสปรับใช้อัลกอริธึมซอฟต์แวร์ของตนบนยานพาหนะที่ล้ำสมัยคันนี้เพื่อให้เหนือกว่าคู่แข่ง ผู้เยี่ยมชม GITEX Global สามารถชมโมเดลอัตโนมัติได้ที่บูธ Advanced Technology Research Council (ATRC) – B10 ในฮอลล์ 17 ที่ Dubai World Trade Centre ตลอดช่วงห้าวันของการจัดงาน

ดร. Tom McCarthy กรรมการบริหารของ ASPIRE แสดงความตื่นเต้นเกี่ยวกับโครงการริเริ่มนี้ว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำกิจกรรมการแข่งรถอัตโนมัติมาสู่อาบูดาบี และแสดงให้โลกเห็นผ่าน A2RL โครงการริเริ่มนี้ไม่เพียงแต่กำหนดนิยามใหม่ของอนาคตของการขับเคลื่อนเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่คิดและสร้างสรรค์อนาคตที่สดใสยิ่งขึ้นในการแข่งขันระดับนานาชาติอันน่าตื่นเต้น การเตรียมทีมแข่งขันด้วยรถยนต์ Dallara SF23 ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ พร้อมด้วยระบบอัตโนมัติ ไม่ได้มุ่งเน้นที่ทักษะของผู้ขับขี่ แต่มุ่งเน้นเกี่ยวกับเทคโนโลยี การเขียนโปรแกรม และอัลกอริธึมแมชชีนเลิร์นนิ่งที่ช่วยให้ยานพาหนะเหล่านี้สามารถขับเคลื่อนในสนามแข่งที่ซับซ้อนด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ”

A2RL คืองานแข่งขันแข่งรถยนต์ประจำปีระดับโลก ซึ่งมอบโอกาสอันมีค่าสำหรับความร่วมมือและการทำงานร่วมกันในอุตสาหกรรมและสถาบันการศึกษา งานนี้เน้นให้เห็นประเด็นสำคัญระดับประเทศ เช่น การเป็นผู้บุกเบิกอนาคตของการคมนาคมขนส่ง การสร้างแรงบันดาลใจให้กับบุคลากรด้าน STEM รุ่นต่อไป การเร่งการเติบโตของเศรษฐกิจความรู้ของอาบูดาบี และสร้างผลกระทบที่เป็นรูปธรรมนอกเหนือจากสนามแข่งรถ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม A2RL.io.

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53604224/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

*ที่มา: AETOSWire

รายชื่อติดต่อ

Jennifer Dewan ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสาร 
jennifer.dewan@tii.ae

ที่มา: ASPIRE

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เรียกร้องให้มีฉันทามติระดับโลกเกี่ยวกับการกำกับดูแล AI

Logo

รัฐมนตรีว่าการกระทรวง AI ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กล่าวว่า “รัฐบาลต่างๆ ต้องหยุดพยายามกำกับดูแล AI โดยรวม และหันมาเน้นที่การควบคุมการใช้งานแทน”

ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–16 ตุลาคม 2023

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง AI ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ บรรลุฉันทามติเกี่ยวกับการกำกับดูแล AI ก่อนข้อตกลงปารีส ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเป็นรูปเป็นร่างและมีผลบังคับใช้

An installation of how AI views Museum of the Future (Photo: AETOSWire)

การติดตั้งมุมมองที่ AI มีต่อพิพิธภัณฑ์แห่งอนาคต (ภาพ: AETOSWire)

Omar Al Olama รัฐมนตรีกระทรวงปัญญาประดิษฐ์ เศรษฐกิจดิจิทัล และแอปพลิเคชันการทำงานระยะไกลของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวในการประชุมสภาดูไบว่าด้วยปัญญาประดิษฐ์แบบสร้างสรรค์ (Generative AI) ว่า ประเทศต่างๆ จำเป็นต้องมีแนวทางใหม่ในการกำกับดูแล AI

“ผมคิดว่าการอภิปรายระดับโลกในปัจจุบันเกี่ยวกับการกำกับดูแล AI ยังไม่บรรลุผล แทนที่จะพยายามกำกับดูแลเทคโนโลยี เราสามารถกำกับดูแลการใช้งานได้” เขากล่าว

ระหว่างการประชุม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 2,000 คนจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่และบริษัทที่ปรึกษารายใหญ่ เช่น Microsoft, Deloitte, PwC และ IBM Dubai Future Foundation ได้เปิดตัว Dubai Generative AI Alliance ซึ่งเป็นการรวมตัวใหม่ของบริษัทเทคโนโลยี เพื่อช่วยดูไบเร่งการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้และสร้างรัฐบาลที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

Khalfan Belhoul ซีอีโอของ DFF เรียกร้องให้บริษัทต่างๆ และนักนวัตกรรมเข้าร่วมเป็นพันธมิตร ซึ่งจะมุ่งเน้นที่การพัฒนาโครงการนำร่องเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่โดยใช้ประโยชน์จาก AI, metaverse และ Web3

รัฐบาลดูไบยังได้เปิดตัว “Dubai AI” ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในเมืองดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI แพลตฟอร์มดิจิทัลทั่วเมืองจะนำเสนอข้อมูลและบริการที่ครอบคลุม ครอบคลุมด้านสุขภาพ ธุรกิจ และการศึกษา แก่ผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือน โดยจะเปลี่ยนแปลงการให้บริการของรัฐบาล

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับฟังว่าภาคการธนาคารทั่วโลกจะได้รับประโยชน์มากถึง 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐจากการเติบโตของ AI ได้อย่างไร

เวทีระดับโลกนี้ได้รับฟังจากผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทเทคโนโลยีและที่ปรึกษาระดับนานาชาติ PwC กล่าวว่าการทำงานอัตโนมัติในสถานที่ทำงานกำลังจะมาถึงในเร็วๆ นี้ โดย Generative AI น่าจะสามารถปฏิบัติงานประจำวัน เช่น การจองเที่ยวบินและการสร้างรายงานโดยอัตโนมัติ ในวงกว้างภายใน 18-20 เดือนข้างหน้า

ผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลชั้นนำของ Deloitte กล่าวว่า การหลอมรวมนิวเคลียร์ การดำเนินการด้านสภาพอากาศ และการค้นพบยาจะเป็นหนึ่งในผู้รับประโยชน์หลักของ Generative AI ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมและเภสัชกรรมเป็นกลุ่มที่ปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีเกิดใหม่ได้เร็วที่สุด

Adel Al Redha ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Emirates กล่าวว่าภายในเดือนพฤศจิกายน สายการบินจะ "เสริมอำนาจให้ลูกเรือสามารถใช้ประโยชน์จาก [Generative AI] ผ่านการฝึกอบรมเกี่ยวกับโมเดลที่ซับซ้อน"

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53604113/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ที่มาAETOSWire

รายชื่อติดต่อ

Sara Al Qarout
salqarout@apcoworldwide.com

ที่มา: Dubai Future Foundation

Alpaca และ SBI Holdings ของญี่ปุ่น ประกาศความร่วมมือและการลงทุนเชิงกลยุทธ์มูลค่า 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเร่งธุรกิจของ Alpaca ในเอเชีย

Logo

Alpaca แซงหน้าธุรกิจ 150 แห่ง ที่เปิดตัวบนแพลตฟอร์มนายหน้า และเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตแบบเร่งตัวร่วมกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในแต่ละภูมิภาคหลัก

ซานมาเทโอ แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE )–13 ตุลาคม 2023

Alpaca แพลตฟอร์มนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ระดับโลกสำหรับการซื้อขายหุ้นและสกุลเงินดิจิทัลที่รองรับการเปิดตัวธุรกิจการลงทุนหลายร้อยแห่งทั่วโลก วันนี้ได้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ SBI Group ("SBI") ซึ่งเป็นกลุ่มบริการทางการเงินในญี่ปุ่นที่มีนายหน้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด (บริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสอง) ในญี่ปุ่นโดยมีรายได้และมีสินทรัพย์มากกว่า 400 พันล้านเยนภายใต้การจัดการการลงทุน VC/PE

Alpaca and Japan’s SBI Holdings Announce Partnership and Strategic Investment to Accelerate Alpaca’s Asian Business (Graphic: Business Wire)

Alpaca และ SBI Holdings ของญี่ปุ่น ประกาศความร่วมมือและการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อเร่งธุรกิจของ Alpaca ในเอเชีย (กราฟิก: Business Wire)

ความร่วมมือครั้งนี้ช่วยให้ Alpaca สามารถเร่งการขยายธุรกิจและขยายการเข้าถึงไปยังสถาบันการเงินระดับองค์กรเพื่อการเคลียร์และดำเนินการหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ในเอเชีย

ในฐานะส่วนหนึ่งของความร่วมมือครั้งใหม่ SBI ได้ลงทุน 15 ล้านเหรียญสหรัฐใน Alpaca นอกจากนี้ SBI ยังได้ตกลงกับ Alpaca เพื่อให้คำมั่นสัญญาในการขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคตของ Alpaca ผ่านความพยายามในการพัฒนาธุรกิจร่วมกันและการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม

Alpaca ยังคงจัดหาทรัพยากรที่ทุ่มเทให้กับการขยายธุรกิจในเอเชียผ่านใบอนุญาตนายหน้า-ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับเมื่อเร็ว ๆ นี้ภายใต้ Japan FSA ด้วยใบอนุญาตในญี่ปุ่น Alpaca สามารถจัดหาโครงสร้างพื้นฐานด้านนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์สำหรับสถาบันการเงินระดับองค์กรและบริษัทสตาร์ทอัพ เพื่อเสนอบริการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ให้กับลูกค้าปลายทางได้อย่างง่ายดาย

"เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับ SBI ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของเรา และเพื่อขยายขอบเขตการดำเนินงานของเราในภูมิภาคเอเชีย" กล่าวโดย Yoshi Yokokawa ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Alpaca "ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเร่งภารกิจของเราในการเปิดบริการทางการเงินแก่ทุกคนบนโลกอย่างมีนัยสำคัญ เงินทุนพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของ SBI ช่วยให้เราสามารถเพิ่มสถานะของเราในภูมิภาคเอเชียได้อย่างมีนัยสำคัญ เร่งการให้บริการสถาบันการเงินระดับองค์กร และเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการของท้องถิ่น เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ปลดล็อกศักยภาพอันมหาศาลนี้"

"การลงทุนของเราใน Alpaca สอดคล้องโดยตรงกับวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ของเรา เพื่อแสดงความมุ่งมั่นของเราในการเร่งสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าปลายทาง" กล่าวโดย Shohei Yamada รองผู้จัดการทั่วไปของ SBI Investment "เรารู้สึกประหลาดใจกับการเติบโตและความเร็วของนวัตกรรมที่ Alpaca ได้แสดงให้เห็น และรู้สึกตื่นเต้นที่จะสนับสนุนการขยายธุรกิจต่อไปในภูมิภาคเอเชีย"

นอกจากการเติบโตของ Alpaca ในญี่ปุ่นแล้ว แพลตฟอร์มนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของ Alpaca ยังสนับสนุนธุรกิจหลายร้อยรายในเกือบ 30 ประเทศ เช่น ตุรกี ซาอุดีอาระเบีย อินโดนีเซีย ไทย และอินเดีย Alpaca ระดมทุนได้มากกว่า 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากนักลงทุนชั้นนำในอุตสาหกรรมทั่วโลก

เกี่ยวกับ Alpaca

Alpaca เป็นแพลตฟอร์มนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ API แห่งแรกของนักพัฒนาที่รองรับธุรกิจหลายร้อยแห่งทั่วโลก Alpaca นำเสนอการซื้อขายหุ้นและสกุลเงินดิจิทัล ข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ และโครงสร้างพื้นฐานด้านนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์แบบ end-to-end ผ่าน API ที่ทันสมัย Alpaca ระดมทุนได้มากกว่า 120 ล้านดอลลาร์ และได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนชั้นนำในอุตสาหกรรมทั่วโลก ซึ่งรวมถึง Portage Ventures, Spark Capital, Tribe Capital, Social Leverage, Horizons Ventures, Unbound, SBI Group, Eldridge, Positive Sum, Elefund และ Y Combinator

เกี่ยวกับ SBI Group

SBI Group ก่อตั้งขึ้นในปี 1999 ในฐานะผู้บุกเบิกบริการทางการเงินบนอินเทอร์เน็ตในญี่ปุ่น เป็นกลุ่มการเงินทางอินเทอร์เน็ตแบบครบวงจรที่ดำเนินงานทั่วโลก ครอบคลุมธุรกิจหลัก 5 ประเภท ได้แก่ "ธุรกิจบริการทางการเงิน" เช่น ธุรกิจหลักทรัพย์ การธนาคาร และประกันภัย "ธุรกิจการลงทุน" ซึ่งดำเนินธุรกิจการลงทุนในหุ้นนอกตลาด รวมถึงการร่วมลงทุน "ธุรกิจบริหารสินทรัพย์" ที่ให้บริการด้านการบริหารสินทรัพย์ที่หลากหลาย "ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล" ซึ่งดำเนินการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและบริการแลกเปลี่ยน และ "ธุรกิจที่ไม่ใช่ทางการเงิน" ซึ่งรวมถึงกิจกรรมทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีชีวภาพ การดูแลสุขภาพและสารสนเทศทางการแพทย์, Web3 และตลาดใหม่ในต่างประเทศ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.sbigroup.co.jp/english/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53604043/en

รายชื่อติดต่อ

press@alpaca.markets
ทีมการตลาด Alpaca

ที่มา: Alpaca

The Bangkok Reporter