SciMed (Asia) บริษัทฝ่ายขายและบริการด้านชีววิทยาศาสตร์ในเครือของ PHC Holdings Corporation กลายเป็นบริษัทในเครืออย่างเต็มตัวจากการเข้าซื้อกิจการเพื่อขยายธุรกิจของ PHC Group เพื่อสนับสนุนนักวิจัยและผู้ให้บริการด้านสุขภาพในเอเชียแปซิฟิก

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–15 มิถุนายน 2023

PHC Holdings Corporation (สำนักงานใหญ่: มินาโตะ โตเกียว ญี่ปุ่น, ประธาน กรรมการผู้แทน และซีอีโอ: Shoji Miyazaki ซึ่งต่อไปเรียกบริษัทนี้ว่า PHCHD) ประกาศว่า บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นที่เหลืออีก 30% ของบริษัทในเครือ SciMed (Asia) Pte. Ltd. (สำนักงานใหญ่: สิงคโปร์ ซึ่งต่อไปเรียกบริษัทนี้ว่า SciMed) ทำให้ SciMed กลายเป็นบริษัทในเครือของ PHCHD อย่างเต็มตัว โดยก่อนหน้านี้ PHCHD ถือหุ้นใน SciMed อยู่ 70% PHC Group บริษัทระดับโลกที่ประกอบด้วย PHCHD และบริษัทในเครือ จะใช้การซื้อกิจการครั้งนี้เพื่อขยายธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ไปทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

SciMed นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านชีววิทยาศาสตร์ ซึ่งรวมถึงตู้แช่แข็งอุณหภูมิต่ำพิเศษและตู้อบ CO2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และโอเชียเนีย นับตั้งแต่ปี 1992 PHC Group และกลุ่มบริษัทก่อนหน้าได้ร่วมมือกับ SciMed เพื่อขยายธุรกิจในภูมิภาคเหล่านี้ผ่านเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่กว้างขวาง ตลอดจนความเชี่ยวชาญในสาขาชีววิทยาศาสตร์ของ SciMed และความสามารถในการให้บริการของตน ในเดือนกรกฎาคม 2020 นั้น PHCHD เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน SciMed จาก 14.99% เป็น 70% ซึ่งทำให้กลายเป็นบริษัทในเครือของ PHCHD*

ตลาดอุปกรณ์ชีววิทยาศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคาดว่าจะเติบโตอย่างมาก โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการขยายตัวระดับภูมิภาคในอุตสาหกรรมเภสัชกรรมและการสร้างสถาบันทางการแพทย์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของชีวเภสัชภัณฑ์ เช่น ยาแอนติบอดีและวัคซีน ในฐานะบริษัทในเครืออย่างเต็มตัว SciMed จะสามารถบรรลุความร่วมมือเชิงลึกกับแผนกและบริษัทในเครืออื่น ๆ ของ PHC Group และปรับปรุงโครงสร้างการขายและการตลาดทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และโอเชียเนีย สิ่งนี้จะส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ และเร่งการสร้างโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่สนับสนุนนักวิจัยและผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่เผชิญกับความท้าทายในการพัฒนาการรักษาขั้นสูง

Nobuaki Nakamura เจ้าหน้าที่องค์กรและหัวหน้าร่วมฝ่ายการวินิจฉัยและชีววิทยาศาสตร์ของ PHCHD กล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับ SciMed ในฐานะบริษัทในเครืออย่างเต็มตัวของเรา เราได้ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ SciMed กลายเป็นบริษัทในเครือในปี 2020 โดย SciMed มีความพร้อมที่ดีที่จะกลายเป็นสถานที่ปฏิบัติการในเอเชียสำหรับธุรกิจอื่น ๆ ของ PHC Group ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งจะขยายกิจกรรมการขายในธุรกิจที่มีอยู่และส่งเสริมการเข้าถึงขอบเขตของการรักษาขั้นสูงอย่างเต็มรูปแบบ เช่น เซลล์บำบัดและยีนบำบัด PHC Group จะยังคงสนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างธุรกิจทั่วโลกของเรา และมีส่วนร่วมในการส่งเสริมนักวิจัยในการพัฒนาวิธีการรักษาขั้นสูงเพื่อช่วยสร้างอนาคตของการดูแลสุขภาพที่ดีขึ้น"

ภาพรวมของ SciMed
ชื่อบริษัท: SciMed (Asia) Pte. Ltd.
สำนักงานใหญ่: สิงคโปร์
ก่อตั้ง: 1992
กรรมการผู้จัดการ: Sachihiko Kataoka
ธุรกิจ: การขายและบริการอุปกรณ์และสินค้าอุปโภคบริโภคด้านชีววิทยาศาสตร์
จำนวนพนักงาน: 75 (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2023)
จำนวนไซต์ธุรกิจ: 1

www.phchd.com/global/news/2020/0707

เกี่ยวกับ PHC Holdings Corporation

PHC Holdings Corporation (TSE 6523) เป็นบริษัทด้านการดูแลสุขภาพระดับโลกที่มีพันธกิจในการสนับสนุนสังคมสุขภาพผ่านโซลูชันด้านการดูแลสุขภาพที่มีผลกระทบเชิงบวกและพัฒนาชีวิตของผู้คน โดยมีบริษัทย่อยในเครือ ได้แก่ PHC Corporation, Ascensia Diabetes Care Holdings AG, Epredia Holdings Ltd., Wemex Corporation และ LSI Medience Corporation บริษัทเหล่านี้ร่วมกันพัฒนา ผลิต จำหน่าย และให้บริการโซลูชันด้านการจัดการโรคเบาหวาน โซลูชันด้านการดูแลสุขภาพ การวินิจฉัย และชีววิทยาศาสตร์ ยอดขายสุทธิรวมในปีงบประมาณ 2022 อยู่ที่ 356.4 พันล้านเยน โดยมีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการทั่วโลกในกว่า 125 ประเทศและภูมิภาค PHC Group เป็นคำเรียกรวมที่หมายรวมถึง PHC Holdings Corporation และบริษัทย่อยในเครือทั้งหมด
URL: www.phchd.com

เกี่ยวกับ SciMed (Asia) Pte. Ltd.

SciMed (Asia) Pte. Ltd. มีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ เป็นผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการชั้นนำในด้านชีวการแพทย์ ชีววิทยาศาสตร์ การดูแลสุขภาพ การค้นคว้ายา เวชภัณฑ์ ห้องปฏิบัติการ การทดสอบทางอุตสาหกรรม และตลาดเกษตรกรรม SciMed ได้กลายเป็นบริษัทในเครือของ PHC Holding Corporation อย่างเต็มตัวในปี 2023 เพื่อพัฒนาการขายและการตลาดในธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และโอเชียเนีย
URL: scimed.com.sg/about-scimed

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ช่องทางติดต่อสำหรับสื่อ
Hiroko Arai
ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร
PHC Holdings Corporation
+81-3-6778-5311
อีเมล: phc-cp@gg.phchd.com

ฝ่ายการตลาด แผนกชีวการแพทย์
PHC Corporation
+80-4816-3259
อีเมล: masayo.okada@phchd.com

แหล่งที่มา: PHC HOLDINGS CORPORATION

ANANDA Scientific ประกาศผู้ป่วยรายแรกที่ลงทะเบียนในการทดลองทางคลินิกที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA เพื่อประเมินการรักษาใหม่ที่มีศักยภาพสำหรับโรควิตกกังวลทางสังคม (SAD)

Logo

นิวยอร์กและกรีนวูดวิลเลจ, รัฐโคโลราโด–(BUSINESS WIRE)–28 มีนาคม 2023 

ANANDA Scientific Inc., บริษัทชีวเวชภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการวิจัยได้ประกาศในวันนี้ว่าอาสาสมัครรายแรกได้รับการลงทะเบียนในการทดลองทางคลินิกกับ IND ที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA ซึ่งประเมินว่า Nantheia™ A1002N5S ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในการวิจัยโดยใช้ cannabidiol (CBD) ในเทคโนโลยีการนำส่ง Liquid Structure™ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ANANDA ในฐานะ การรักษาที่เป็นไปได้สำหรับ โรควิตกกังวลทางสังคม (SAD) National Center for Complimentary and Integrative Health (NCCIH ซึ่งเป็นแผนกหนึ่งของ NIH) กำลังจัดหาเงินทุนสำหรับการทดลองนี้ซึ่งดำเนินการที่  NYU Grossman School of Medicine (ตัวระบุ Clinical Trials.gov: NCT05571592)

การพิจารณาคดีนี้นำโดยนักวิจัยหลัก Naomi Simon, MD, MSc., ศาสตราจารย์ด้านจิตเวชศาสตร์และผู้อำนวยการโครงการ Anxiety, Stress and Prolonged Grief Program ที่ NYU Grossman School of Medicine และ Esther Blessing, MD, PhD, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ภาคจิตเวชศาสตร์ที่โรงเรียนแพทย์ NYU Grossman การทดลองแบบควบคุมยาหลอกและปกปิดข้อมูลสองทางเป็นการศึกษา NantheiaTM A1002N5S เทียบกับยาหลอกในช่วงการรักษา 21 วัน โดยมีมาตรการผลลัพธ์หลักคือการเปลี่ยนแปลงในการทดสอบความเครียดทางสังคมของ Trier (TSST) ทำให้เกิดความวิตกกังวลและผลกระทบต่อตัวบ่งชี้ทางชีวภาพที่สร้างภาพประสาท

"เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่การศึกษาที่สำคัญนี้กำลังดำเนินการอยู่" ดร. Simon กล่าว "ความร่วมมือของเรากับ ANANDA ช่วยให้เราทำการศึกษาวิจัย CBD ที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก NIH ได้สำเร็จ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับกลไกและผลกระทบทางคลินิก เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่มีศักยภาพของ CBD ในฐานะการรักษาตามหลักฐานแบบใหม่สำหรับความวิตกกังวลทางสังคม ความผิดปกติ สภาพที่น่าวิตกและไม่ได้รับการจัดการ"

ดร. Blessing ตั้งข้อสังเกตว่า "ผลการตรวจทางคลินิกเบื้องต้นสำหรับ CBD ในการรักษาความผิดปกติของความวิตกกังวลแสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่คาดหวัง และเราหวังว่าจะสร้างผลลัพธ์ก่อนการตรวจทางคลินิกเหล่านี้ในการศึกษานี้"

"การลงทะเบียนอาสาสมัครรายแรกในการทดลองที่สำคัญนี้เป็นอีกก้าวสำคัญสำหรับโครงการพัฒนาทางคลินิกของ ANANDA"  Sohail R. Zaidi ซีอีโอของ ANANDAกล่าว "เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับทีมวิจัยของ NYU ในการประเมินยาที่กำลังศึกษาวิจัยของเรา Nantheia A1002N5S โดยมีข้อบ่งชี้ถึงความต้องการทางการแพทย์ที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองอย่างมีนัยสำคัญ"

เกี่ยวกับ NANTHEIA™ A1002N5S

Nantheia™ A1002N5S เป็นยาที่ใช้ในการวิจัยซึ่งใช้ cannabidiol ในเทคโนโลยีการนำส่งโครงสร้างของเหลวที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ANANDA การศึกษาทางคลินิกเบื้องต้นและเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีการนำส่ง Liquid Structure™ ของ ANANDA (ได้รับใบอนุญาตจาก  Lyotropic Delivery Systems (LDS) Ltd ในเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ประสิทธิภาพและความเสถียรของ cannabidiol Nantheia™ A1002N5S เป็นผลิตภัณฑ์ทางปากที่มี cannabidiol 50 มก. ต่อแคปซูลซอฟต์เจล

เกี่ยวกับ ANANDA SCIENTIFIC

ANANDA เป็นบริษัทชั้นนำด้านชีวเวชภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการวิจัย ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการศึกษาทางคลินิกคุณภาพสูงเพื่อประเมินข้อบ่งชี้ในการรักษา เช่น PTSDอาการปวดที่เส้นประสาทคอความวิตกกังวล และความผิดปกติของการใช้สารกลุ่มฝิ่น (ภูเขาซีนาย และ มหาวิทยาลัย UCLA) บริษัทใช้เทคโนโลยีการนำส่งที่ได้รับสิทธิบัตร (ได้รับใบอนุญาตจาก Lyotropic Delivery Systems (LDS) Ltdในเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล) เพื่อผลิตสารแคนนาบินอยด์และสารประกอบที่ได้จากพืชที่สามารถใช้ประโยชน์ทางชีวภาพได้ ละลายน้ำได้และอายุการเก็บรักษาคงที่และมุ่งเน้นการผลิตเภสัชภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพระดับพรีเมียม บริษัทกำลังขยายฐานการวิจัยผ่านข้อตกลงการวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนหลายฉบับกับมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อกระจายผลงานทางคลินิก

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53368701/en

รายชื่อติดต่อ

ANANDA Scientific Media Relations | Christopher Moore | 813 326 4265 | media@anandascientific.com

ที่มา: ANANDA Scientific Inc.

งานประชุม ‘Medical Korea 2023 Conference’ เกี่ยวกับโอกาสของอุตสาหกรรมการแพทย์ทั่วโลกจะเริ่มขึ้นในวันที่ 23 มีนาคมที่ Coex

Logo

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–22 มีนาคม 2023

กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ (Ministry of Health and Welfare – MOHW) และ สถาบันพัฒนาอุตสหกรรมเกาหลี (Korea Health Industry Development Institute – KHIDI) จะเป็นเจ้าภาพงาน Medical Korea 2023 ซึ่งเป็นงานประชุมสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ระดับโลก ในโซลตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม (วันพฤหัสบดี) ถึง 24 มีนาคม (วันศุกร์), 2023

Medical Korea 2023 Conference, which celebrates its 13th this year, will be held as a large-scale offline event in three years after the outbreak of COVID-19, from March 23 to 24 at Coex in SEOUL. (Graphic: Business Wire)

การประชุม Medical Korea 2023 ซึ่งฉลองครบรอบ 13 ปีในปีนี้ จะจัดขึ้นเป็นงานออฟไลน์ขนาดใหญ่ในรอบ 3 ปีหลังจากการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 23 ถึง 24 มีนาคมที่ Coex ในกรุงโซล (กราฟิก: Business Wire)

การประชุมจะจัดขึ้นเป็นกิจกรรมออฟไลน์ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีหลังจากการระบาดของ โควิด-19

Medical Korea 2023 เป็นหนึ่งในการประชุมด้านการดูแลสุขภาพระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี โดยมีเป้าหมายให้อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพของเกาหลีเป็นโลกาภิวัตน์

การประชุมเริ่มต้นด้วยการบรรยายประเด็นสำคัญโดย Jamie Metzl นักอนาคตด้านเทคโนโลยีและการดูแลสุขภาพ และ Hwang Hee ซีอีโอของ Kakao Healthcare การบรรยายประกอบด้วย 4 ฟอรัมและการสัมมนา 6 รายการซึ่งครอบคลุมหัวข้อต่างๆ เช่น แนวโน้มการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ การฝึกอบรมออนไลน์ บันทึกสุขภาพส่วนบุคคล การดูแลสุขภาพแบบดิจิทัล และกลยุทธ์การขยายขนาดสำหรับธุรกิจการแพทย์ระหว่างประเทศในระดับภูมิภาค โดยมีวิทยากร 65 คนเข้าร่วม

โปรแกรมต่างๆ เช่น การประชุมทางธุรกิจ นิทรรศการ (ศูนย์ประสบการณ์ด้านการดูแลสุขภาพแบบดิจิทัลและห้องโถงส่งเสริมสำหรับระบบการประเมินและรับรองผู้ป่วยต่างชาติ) การประชุม G2G ฯลฯ มีไว้เพื่อส่งเสริมการค้นพบช่องทางเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ผ่านการแลกเปลี่ยนระหว่าง ผู้ซื้อในต่างประเทศและผู้ขายในประเทศ และการขยายสู่ตลาดต่างประเทศโดยอุตสาหกรรมสุขภาพ

ในฟอรัม ผู้เข้าร่วมสามารถสำรวจแนวโน้มล่าสุดในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพทั่วโลกและโอกาสสำหรับความร่วมมือด้านการดูแลสุขภาพผ่านนโยบายการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ทำนายการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมด้านการดูแลสุขภาพที่เกิดจากการแพร่กระจายของ My Data และเรียนรู้ความคิดเห็นของผู้เข้ารับการฝึกอบรม จากประเทศมองโกเลียและอุซเบกิสถานในโครงการอบรมส่งเสริมธุรกิจ MKA e-class เป็นต้น

ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับเชิญเป็นวิทยากร ได้แก่

  • Mohd Daud Mohd Arif (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, Malaysia Healthcare Travel Council (MHTC))
  • Napas Paorohitya (ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์)
  • Hiang Khoon Tan (ผู้อำนวยการ, SingHealth Duke-NUS Global Health Institute -SDGHI)
  • Dmytro Butov (ศาสตราจารย์ภาควิชา Phthisiology and Pulmonology, Kharkiv National Medical University)
  • Kim Ju Han (ศาสตราจารย์วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล)

KHIDI ได้กำหนดให้ 'เฉพาะถิ่น', 'การแพทย์ทางไกล', 'บันทึกสุขภาพส่วนบุคคล', 'การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์' และ 'การบำบัดดิจิทัล (Digital Therapeutics – DTx)' เป็นคำหลัก 5 อันดับแรกสำหรับเทรนด์การดูแลสุขภาพทั่วโลกในปี 2566

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Medical Korea 2023:  www.mkconf.org  เวทีหลักในการประชุม Medical Korea 2023:  https://mkconf.org/fairProgram.do?selAction=single_page&program_idx=50&program_type=P&hl=ENG&FAIRMENU_IDX=12605#/

ชมภาพ/มัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53364494/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Medical Korea 2023
Hwan Guk Park
+82-43-713-8972
hwank21@khidi.or.kr

ที่มา: สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสุขภาพเกาหลี (KHIDI)

ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเนแบรสกาและ ANANDA Scientific ประกาศผู้ป่วยรายแรกที่ลงทะเบียนในการทดลองทางคลินิกซึ่งได้รับการอนุมัติจาก FDA สำหรับโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ (PTSD)

Logo

โอมาฮ่า, Neb. & GREENWOOD VILLAGE, Colo.–( BUSINESS WIRE )–14 มีนาคม 2023

วันนี้ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเนแบรสกา (UNMC) and ANANDA Scientific Inc. ประกาศในวันนี้ว่าผู้ป่วยรายแรกได้รับการลงทะเบียนในการทดลองทางคลินิกที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA เพื่อประเมิน Nantheia™ ATL5 ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในการวิจัยโดยใช้แคนนาบิไดออลในเทคโนโลยีการนำส่ง Liquid Structure™ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ANANDA สำหรับโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ (PTSD ) (ClinicalTrials.gov ตัวระบุ NCT05269459 )

Pictured above is principal investigator Matthew Rizzo, MD, FAAN, FANA, and Ananda Scientific CEO Sohail Zaidi. (Photo: Business Wire)

ภาพด้านบนคือผู้วิจัยหลัก Matthew Rizzo, MD, FAAN, FANA และ Sohail Zaidi ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Ananda Scientific (ภาพ: Business Wire)

การทดลองนี้นำโดยผู้วิจัยหลัก Matthew Rizzo, MD, FAAN, FANA, ศาสตราจารย์ Reynolds และประธานของ UNMC Department of Neurological Sciences, หัวหน้าแพทย์ด้านบริการระบบประสาทที่ Nebraska Medicine และหัวหน้าแพทย์สำหรับโปรแกรมทางคลินิกด้านประสาทวิทยาศาสตร์ที่ Nebraska Medicine

ดร. ริซโซกล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้มีการทดลองที่สำคัญนี้" “ความร่วมมือของเรากับ ANANDA Scientific ช่วยให้เราสามารถพัฒนาการวิจัยที่อิงตามหลักฐานไปสู่วิธีการรักษาแบบใหม่สำหรับผู้ป่วย PTSD จำนวนมาก”

ทีมวิจัยของ Dr. Rizzo ประกอบด้วย Jennifer Merickel, PhD  นักประสาทวิทยาด้านความรู้ความเข้าใจและผู้ช่วยศาสตราจารย์ในภาควิชาวิทยาศาสตร์ประสาทวิทยาของ UNMC และ Brigette Soltis-Vaughan พยาบาลวิชาชีพชั้นสูง แพทย์ และนักวิจัยในแผนกจิตเวชศาสตร์ของ UNMC และอาจารย์ในแผนกวิทยาศาสตร์ประสาทวิทยาของ UNMC

"การลงทะเบียนผู้ป่วยรายแรกในการทดลองทางคลินิก PTSD ครั้งที่สองของเราเป็นก้าวสำคัญสำหรับโครงการพัฒนาทางคลินิกของ ANANDA" Sohail R. Zaidi ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ ANANDA กล่าว “เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับทีมวิจัยของ UNMC ในการประเมินยาที่มีแนวโน้มของเราสำหรับสภาวะที่ทำให้ร่างกายทรุดโทรมอย่างมากนี้"

การศึกษาทางคลินิกแบบสุ่มตัวอย่างแบบปกปิดสองทาง ควบคุมด้วยยาหลอก ระยะที่ 2 นี้ กำลังวางแผนที่จะลงทะเบียนผู้เข้าร่วม 180 คน เพื่อให้มีการประเมินอย่างเข้มงวดเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ Nantheia™ ATL5

เกี่ยวกับ NANTHEIA™ ATL5

Nantheia™ ATL5  เป็นยาที่ใช้ในการวิจัยซึ่งใช้แคนนาบิไดออลในเทคโนโลยีการนำส่งโครงสร้างของเหลวที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ANANDA การศึกษาทางคลินิกเบื้องต้นและเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีการนำส่ง Liquid Structure™ ของ ANANDA (ได้รับอนุญาตจาก Lyotropic Delivery Systems (LDS) Ltd ในกรุงเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความเสถียรของแคนนาบิไดออล Nantheia™ ATL5 เป็นผลิตภัณฑ์ทางปากที่มีแคนนาบิไดออล 100 มก. ต่อแคปซูลซอฟเจล

เกี่ยวกับศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเนแบรสกา

ในฐานะที่เป็นศูนย์วิทยาศาสตร์สาธารณสุขเชิงวิชาการเพียงแห่งเดียวของรัฐเนแบรสกา UNMC มุ่งมั่นที่จะให้การศึกษาบุคลากรด้านการดูแลสุขภาพในศตวรรษที่ 21 เพื่อค้นหาวิธีรักษาและการรักษาโรคร้ายแรง ให้การดูแลผู้ป่วยอย่างดีที่สุดและให้บริการรัฐและชุมชนผ่านการชนะรางวัล UNMC มีวิทยาลัยหกแห่ง สองสถาบัน และหลักสูตรการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ให้บริการนักศึกษามากกว่า 4,400 คนใน 90 หลักสูตร นักวิจัยที่ UNMC ดำเนินการวิจัยที่ทันสมัยในด้านวิทยาศาสตร์ประสาทวิทยา มะเร็งวิทยา โรคติดเชื้อ และสาขาสำคัญอื่นๆ

เกี่ยวกับ ANANDA SCIENTIFIC

ANANDA เป็นบริษัทชั้นนำด้านชีวเวชภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการวิจัย ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการศึกษาทางคลินิกที่มีคุณภาพสูงเพื่อประเมินข้อบ่งชี้ในการรักษา เช่น  PTSDอาการปวดจากหมอนรองกระดูกคอกดทับเส้นประสาท, อาการวิตกกังวล และอาการผิดปกติจากการใช้โอปิออยด์ (ภูเขาซีนายและ UCLA) บริษัทใช้เทคโนโลยีการจัดส่งที่จดสิทธิบัตรเพื่อทำให้สารแคนนาบินอยด์และสารประกอบที่ได้จากพืชอื่นๆ มีชีวภาพสูง ละลายน้ำได้ และมีอายุการเก็บรักษาที่เสถียร และมุ่งเน้นที่การผลิตเภสัชภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพระดับพรีเมียม บริษัทกำลังขยายฐานการวิจัยผ่านข้อตกลงการวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนหลายฉบับกับมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อกระจายผลงานทางคลินิก

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53361193/en

ติดต่อ

ฝ่ายสื่อมวลชนสัมพันธ์ ANANDA Scientific | Christopher Moore | 813 326 4265 | media@anandascientific.com

ที่มา: ANANDA Scientific Inc.

 

Medidata สนับสนุนความหลากหลายในการทดลองทางคลินิก ผ่านการศึกษา 30,000 ครั้งและผู้เข้าร่วม 9 ล้านคน

Logo

ความสำเร็จครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนด้วยนวัตกรรมที่ต่อเนื่องซึ่งสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของชีววิทยาศาสตร์

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–2 มีนาคม 2023

เป็นที่รู้จักในด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำในการทดลองทางคลินิก Medidata บริษัทในเครือ Dassault Systèmes มีการทดลองทางคลินิกมากกว่า 30,000 ครั้งและผู้เข้าร่วมการศึกษา 9 ล้านครั้ง ความสำเร็จครั้งสำคัญเหล่านี้ที่ประสบความสำเร็จร่วมกับลูกค้าและพันธมิตรทั่วโลกกว่า 2,100 ราย ได้รับแรงหนุนจากแพลตฟอร์มของ Medidata และโซลูชันด้านชีววิทยาศาสตร์ที่ขับเคลื่อนการรักษาอย่างชาญฉลาดและทำให้ผู้คนมีสุขภาพดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็ผลักดันให้เข้าถึงการทดลองได้มากขึ้น

“ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนผู้ป่วยและผู้เข้าร่วมการศึกษา ฉันเข้าใจถึงความสำคัญของเหตุการณ์สำคัญเหล่านี้” แอนน์ มารี เมอร์คิวริโอ ผู้สนับสนุนการวิจัยและประธานคณะกรรมการข้อมูลเชิงลึกของผู้ป่วยของ Medidata กล่าว “และนอกเหนือจากตัวเลขและข้อมูลแล้ว ความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ Medidata ในการรวมความคิดเห็นของผู้ป่วยเข้ากับการออกแบบการทดลองและการแก้ปัญหา กำลังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีและครอบคลุมมากขึ้นสำหรับผู้เข้าร่วมการศึกษาทางคลินิกทุกคน”

Medidata มีแพลตฟอร์มที่เจาะลึกและกว้างที่สุดในโปรแกรมการบุกเบิก ซึ่งรวมถึงการทดลองทางคลินิกแบบไร้ศูนย์กลาง การเพิ่มความหลากหลายในการศึกษาทางคลินิก และโซลูชัน AI ขั้นสูงสำหรับการออกแบบและการจำลองการทดลอง การเลือกสถานที่ และแขนควบคุมสังเคราะห์ และเทคโนโลยีและบริการของ Medidata กำลังขับเคลื่อนคุณค่าที่มากขึ้นให้กับลูกค้า ช่วยให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญเร็วขึ้น รวมทั้งประหยัดเวลาโดยเฉลี่ยในการสร้างการศึกษาหนึ่งเดือนและสองเดือนในการดำเนินการศึกษา

Rose Kidd ประธานฝ่าย Operations Delivery ของ ICON แสดงความคิดเห็นว่า "ที่ ICON เทคโนโลยีเป็นแกนหลักในการส่งมอบความต้องการของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ผ่านทางเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเราเพื่อทำงานร่วมกับผู้นำในสายงานของพวกเขา เช่น Medidata ICON มีประวัติอันยาวนานกับ Medidata ในฐานะพันธมิตร CRO รายแรก เราภูมิใจที่ได้ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างโซลูชันชั้นนำของอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพการพัฒนาทางคลินิกอย่างดีที่สุดในระดับเดียวกัน"

Maribel Hernandez รองประธานฝ่ายปฏิบัติการทางคลินิกและโครงการพิเศษของ PTC Therapeutics กล่าวว่า "การทดลองทางคลินิกในโรคหายากมีความซับซ้อนและคาดเดาไม่ได้ ตั้งแต่มาเป็นลูกค้าของ Medidata ในปี 2016 เราได้รับประโยชน์จากประสบการณ์และจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมของพวกเขา และได้รับประสิทธิภาพในการนำยาใหม่ๆ ไปสู่ผู้ป่วยที่ต้องการ”

Mike McDevitt รองประธานอาวุโสฝ่าย Biometrics ของ Syneos Health กล่าวว่า "เราร่วมมือกับ Medidata มานานกว่า 16 ปี และในช่วงเวลานี้ ความทุ่มเทของบริษัทในการให้บริการและนวัตกรรมการทดลองทางคลินิกได้ช่วยให้ Syneos Health สามารถให้บริการลูกค้าของเราและเร่งความเร็ว การพัฒนายาและอุปกรณ์ Medidata มีส่วนสนับสนุนที่ก้าวล้ำในด้านเทคโนโลยีและการวิจัยทางคลินิก ซึ่งเป็นผลงานที่โดดเด่นในอุตสาหกรรมของเรา และเรายินดีที่ได้ร่วมงานกับพวกเขาในการเฉลิมฉลองเหตุการณ์สำคัญในการดำเนินงานที่สำคัญเหล่านี้”

Pascal Daloz ซีอีโอของ Medidata กล่าวว่า "ความสำเร็จในการทดลอง 30,000 ครั้งนี้เป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งและเป็นข้อพิสูจน์ถึงการทำงานอย่างหนักของหลายๆ คนใน Medidata ที่สนับสนุนการทดลอง พัฒนานวัตกรรมด้าน AI และให้บริการลูกค้าโดยให้ความสำคัญกับผู้ป่วยเป็นอันดับแรก" Pascal Daloz ซีอีโอของ Medidata กล่าว “เราขอขอบคุณผู้เข้าร่วมการทดลอง 9 ล้านคนที่เลือกการทดลองทางคลินิกเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางการรักษาพยาบาลของพวกเขา และลูกค้าที่ร่วมมือกับเราเพื่อพัฒนาสุขภาพของมนุษย์…และเราเพิ่งเริ่มต้น!”

การใช้ประโยชน์จากปริมาณการทดลอง ผู้ป่วย และข้อมูลนี้ ทำให้ Medidata ให้ผลลัพธ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ในอุตสาหกรรม ด้วยการศึกษาที่ดำเนินการในกว่า 140 ประเทศ Medidata มีส่วนร่วมในการทดลองเกือบ 40% ที่บริษัทริเริ่มขึ้นทั่วโลก ประมาณ 70% ของยาใหม่ที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ในปี 2022 ได้รับการพัฒนาด้วยซอฟต์แวร์ Medidata และในส่วนที่สำคัญของการวิจัยโรคที่หายาก Medidata ได้สนับสนุนการศึกษามากกว่า 2,000 เรื่องที่เป็นตัวแทนของผู้เข้าร่วมมากกว่า 320,000 คน

ดูเอกสารข้อมูล Medidata ของเรา และตรวจสอบรางวัลและการยอมรับของเราเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม

Medidata เป็นบริษัทในเครือของ Dassault Systèmes ซึ่งมีแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE ที่อยู่ในฐานะผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของวิทยาศาสตร์ชีวภาพในยุคของการแพทย์เฉพาะบุคคลด้วยแพลตฟอร์มทางวิทยาศาสตร์และธุรกิจแบบครบวงจรตั้งแต่การวิจัยจนถึงการค้า

เกี่ยวกับ Medidata

Medidata เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของวิทยาศาสตร์ชีวภาพ สร้างความหวังให้กับผู้ป่วยหลายล้านคน Medidata ช่วยสร้างหลักฐานและข้อมูลเชิงลึกเพื่อช่วยบริษัทด้านเวชภัณฑ์ เทคโนโลยีชีวภาพ อุปกรณ์การแพทย์และการวินิจฉัย ตลอดจนนักวิจัยเชิงวิชาการเร่งสร้างมูลค่า ลดความเสี่ยง และเพิ่มประสิทธิภาพผลลัพธ์ ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนมากกว่าหนึ่งล้านรายในลูกค้าและพันธมิตรกว่า 2,100 ราย เข้าถึงแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลกสำหรับการพัฒนาข้อมูลทางคลินิก ข้อมูลเชิงพาณิชย์ และข้อมูลในโลกแห่งความเป็นจริง Medidata บริษัทในเครือ Dassault Systèmes (Euronext Paris: FR0014003TT8, DSY.PA) มีสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์กซิตี้และมีสำนักงานทั่วโลกเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ค้นพบเพิ่มเติมได้ที่ www.medidata.com และติดตามเราได้ที่ @Medidata

เกี่ยวกับ Dassault Systems

Dassault Systèmes บริษัท 3DEXPERIENCE เป็นตัวกระตุ้นความก้าวหน้าของมนุษย์ เราจัดเตรียมสภาพแวดล้อมเสมือนจริง 3 มิติสำหรับการทำงานร่วมกันให้กับธุรกิจและผู้คน เพื่อจินตนาการถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน ด้วยการสร้างประสบการณ์แฝดเสมือนจริงในโลกแห่งความเป็นจริงด้วยแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน 3DEXPERIENCE ลูกค้าของเราจึงขยายขอบเขตของนวัตกรรม การเรียนรู้ และการผลิตเพื่อบรรลุโลกที่ยั่งยืนมากขึ้นสำหรับผู้ป่วย ประชาชน และผู้บริโภค Dassault Systèmes นำคุณค่ามาสู่ลูกค้ามากกว่า 300,000 รายทุกขนาด ในทุกอุตสาหกรรม ในกว่า 140 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.3ds.com

3DEXPERIENCE, ไอคอนเข็มทิศ, โลโก้ 3DS, CATIA, BIOVIA, GEOVIA, SOLIDWORKS, 3DVIA, ENOVIA, NETVIBES, MEDIDATA, CENTRIC PLM, 3DEXCITE, SIMULIA, DELMIA และ IFWE เป็นเครื่องหมายการค้าเชิงพาณิชย์หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Dassault Systèmes ชาวฝรั่งเศส “ société européenne” (Versailles Commercial Register # B 322 306 440) หรือบริษัทสาขาในสหรัฐอเมริกาและ/หรือประเทศอื่นๆ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53354688/en

ติดต่อ

Tom Paolella
ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจการ
+1-848-203-7596
thomas.paolella@3ds.comthomas.paolella@3ds.com

Paul Oestreicher
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารภายนอก
+1-917-522-4692
paul.oestreicher@3ds.com

ที่มา: Medidata

ระบบตรวจวัดระดับน้ำตาลกลูโคสอย่างต่อเนื่องรุ่น Dexcom G6 เปิดตัวแล้วที่สิงคโปร์

Logo

ระบบ CGM รูปแบบใหม่อันทันสมัยจะช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานไม่ต้องคอยเจาะปลายนิ้วอีกต่อไป

สิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–28 กุมภาพันธ์ 2023

ในวันนี้ Dexcom, Inc. (NASDAQ:DXCM) ซึ่งเป็นผู้นำระดับสากลด้านระบบตรวจวัดระดับน้ำตาลกลูโคสอย่างต่อเนื่อง (CGM) แบบเรียลไทม์สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ได้ประกาศเปิดตัวระบบ CGM รุ่น Dexcom G6 ในสิงคโปร์สำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่มีอายุ 2 ปีขึ้นไปรวมถึงผู้ตั้งครรภ์ ทั้งยังประกาศแต่งตั้งให้ DKSH Singapore Pte Ltd เป็นผู้ให้บริการด้านการขาย การตลาด และการจัดจำหน่ายอีกด้วย

ระบบ Dexcom G6 นี้จะใช้เซนเซอร์ขนาดเล็กแบบสวมพกพาและตัวส่งสัญญาณเพื่อคอยวัดและส่งระดับน้ำตาลกลูโคสแบบไร้สายไปยังตัวรับสัญญาณหรืออุปกรณ์อัจฉริยะที่ใช้คู่กันได้ ผู้ป่วยจึงเห็นข้อมูลระดับน้ำตาลกลูโคสได้แบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องเจาะปลายนิ้ว ระบบนี้ยังมาพร้อมการแจ้งเตือนและสัญญาณเตือนที่ปรับแต่งได้ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงจนอยู่ในขีดอันตราย

คุณ Scott Moss ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธาน Dexcom ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า "การเปิดตัว Dexcom G6 ในสิงคโปร์เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบริษัทเรา" ก่อนกล่าวต่อไปว่า "การเปิดตัวครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ Dexcom CGM ให้บริการแก่ผู้คนที่ป่วยด้วยโรคเบาหวานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจากการที่เราได้เปิดสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคในสิงคโปร์ไปเมื่อไม่นานมานี้ เราหวังว่าจะนำ Dexcom CGM เข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ ในภูมิภาคนี้ในอนาคตอันใกล้"

แอป Dexcom G6 สำหรับอุปกรณ์ iOS และ Android ที่เข้ากันได้ยังช่วยให้ผู้ป่วยสามารถแชร์ข้อมูลน้ำตาลกลูโคสกับผู้ติดตามได้สูงสุด 10 ราย ซึ่งช่วยให้ครอบครัว บุคคลอันเป็นที่รัก และผู้ให้บริการดูแลด้านสุขภาพสามารถติดตามผู้ป่วยจากระยะไกลเพื่อให้อุ่นใจได้มากยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Dexcom G6 ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมสุขภาพของตัวเองได้:

  • ช่วยให้ไม่ต้องเจาะนิ้วเพื่อปรับเทียบและตัดสินใจดำเนินการรักษาโรคเบาหวาน
  • ส่งค่าน้ำตาลกลูโคสที่อ่านได้อย่างต่อเนื่องโดยใช้เทคโนโลยี Bluetooth ไปยังอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ ที่เข้ากันได้ * หรือไปยังตัวรับสัญญาณของ Dexcom โดยเว้นระยะ 5 นาที
  • การแจ้งเตือนและสัญญาณเตือนที่ปรับแต่งได้ ซึ่งรวมถึงการแจ้งเตือน Urgent Low Soon (จะถึงระดับต่ำฉุกเฉินในอีกไม่ช้า) ซึ่งสามารถเตือนผู้ใช้ล่วงหน้าได้ถึง 20 นาทีก่อนจะเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (hypoglycemic) ระดับฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดำเนินการป้องกันได้
  • การแชร์ข้อมูลแบบเรียลไทม์กับแอป Dexcom G6 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์ข้อมูลน้ำตาลกลูโคสของตนกับผู้ติดตามได้สูงสุดสิบคน ในการคอยติดตามระดับน้ำตาลกลูโคสของผู้ใช้เพื่อให้อุ่นใจได้มากยิ่งขึ้น
  • เซนเซอร์ที่อยู่ได้ 10 วัน ช่วยให้รองรับการสวมใส่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น
  • เครื่องส่งสัญญาณขนาดเล็ก กะทัดรัดยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้สวมใส่ได้โดยไม่ดูโดดเด่นนัก
  • ตัวติดเซนเซอร์อัตโนมัติที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ติดเซนเซอร์ได้ง่ายเพียงแค่กดปุ่ม
  • ตัวรับสัญญาณที่ออกแบบขึ้นมาใหม่พร้อมหน้าจอแสดงผลระบบสัมผัส (จะใช้อุปกรณ์ตัวรับสัญญาณ/แสดงผลหรือไม่ก็ได้)
  • เมมเบรนเซนเซอร์รูปแบบใหม่ที่ช่วยให้ใช้ยาอะเซตามีโนเฟนได้โดยไม่ส่งผลต่อค่าน้ำตาลกลูโคสที่อ่านได้แต่อย่างใด §

ระบบ CGN รุ่น Dexcom G6 จะเชื่อมต่อกับแอป Dexcom G6 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดได้จาก App Store ของ Apple หรือ Google Play store เพื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อัจฉริยะของ Apple หรือ Android ที่เข้ากันได้ หรือผู้ป่วยจะดูค่าน้ำตาลกลูโคสที่อ่านได้บนตัวรับสัญญาณที่มีหน้าจอสัมผัส Dexcom G6 (ติดตั้งหรือไม่ก็ได้) ซึ่งมีให้เลือกซื้อแยกต่างหากก็ได้

CGM รุ่น Dexcom G6 ได้รับการอนุมัติจาก HSA ของสิงคโปร์เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว และชาวสิงคโปร์สามารถใช้งานได้แล้วในเดือนนี้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Dexcom G6 ที่ www.dexcom.com/sg

เกี่ยวกับ Dexcom, Inc.

DexCom, Inc. ช่วยให้ผู้คนสามารถควบคุมสุขภาพของตัวเองได้แบบเรียลไทม์ผ่านระบบตรวจวัดระดับน้ำตาลกลูโคสอย่างต่อเนื่อง (CGM) อันทันสมัย บริษัท Dexcom ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการรักษาโรคเบาหวาน โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองแซนดีเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย และดำเนินงานอยู่ทั่วยุโรปรวมถึงเอเชีย/โอเชียเนียบางส่วน การรับฟังความต้องการของผู้ใช้ ผู้ดูแล และผู้ให้บริการช่วยให้ Dexcom สามารถลดความซับซ้อนและปรับปรุงการจัดการโรคเบาหวานทั่วโลกให้ดีขึ้นได้ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Dexcom ที่ https://www.dexcom.com/en-us/about-dexcom

_________________________

*โปรดดูรายการอุปกรณ์ที่เข้ากันได้ที่ www.dexcom.com/compatibility

หากการแจ้งเตือนเกี่ยวกับน้ำตาลกลูโคสและค่าที่อ่านได้จาก G6 ไม่สอดคล้องกับอาการหรือที่คาดไว้ ให้ใช้เครื่องตรวจน้ำตาลกลูโคสในเลือดเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับการรักษาโรคเบาหวาน

จำเป็นต้องมีแอป Follow แยกต่างหาก

§ค่าที่อ่านได้จาก G6 สามารถใช้เพื่อตัดสินใจด้านการรักษาโรคเบาหวานได้ เมื่อใช้ยาอะเซตามีโนเฟนไม่เกิน 1,000 มก. ทุก 6 ชั่วโมง การใช้ยาในปริมาณมากกว่านี้อาจส่งผลต่อค่าที่อ่านได้จาก G6

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

บุคคลติดต่อ

บุคคลติดต่อสำหรับสื่อ:
Patrick Ho: Sr. Manager, New Business Development
Patrick.ho@dexcom.com

James McIntosh: Director, Global Public Relations
James.mcintosh@dexcom.com

แหล่งที่มา: Dexcom, Inc.

WilsonHCG ผู้นำความสามารถระดับโลกเข้าซื้อกิจการPersonify เพื่อขยายโซลูชันด้านการดูแลสุขภาพและชีววิทยาศาสตร์

Logo

TAMPA, Fla.–(BUSINESS WIRE)–11 มกราคม 2023

WilsonHCG ผู้นำความสามารถระดับโลกได้ประกาศการเข้าซื้อกิจการของ Personify ผู้ให้บริการเอาต์ซอร์สในกระบวนการสรรหาบุคลากร (RPO) ที่ได้รับรางวัล Personify เชี่ยวชาญในด้านชีววิทยาศาสตร์ การดูแลสุขภาพ เทคโนโลยีชีวภาพ และเภสัชกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ประสบปัญหาการขาดแคลนทักษะที่สำคัญ

Personify ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดหลัก ให้บริการด้านการค้นหาผู้บริหารและการตลาดด้านการสรรหาบุคลากรควบคู่ไปกับโซลูชัน RPO มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองราลี รัฐนอร์ทแคโรไลนา องค์กรแห่งนี้นำเสนอโซลูชันความสามารถที่ยืดหยุ่นแก่ลูกค้าทั่วโลก

"Personify เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ RPO ด้านการดูแลสุขภาพและชีววิทยาศาสตร์รายใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้นการขยายตัวนี้จึงช่วยให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็ตอกย้ำตำแหน่งของเราในฐานะผู้นำระดับโลกด้านการสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถ" กล่าวโดย John Wilson CEO ของ WilsonHCG "ความร่วมมือนี้ทำให้องค์กรทั้งสองแห่งที่ขับเคลื่อนด้วยพันธกิจมีความสอดคล้องกันและมีความต้องการที่เกินความคาดหวังของลูกค้า Personify เป็นบริษัทที่ใส่ใจพนักงานและลูกค้ามากพอ ๆ กับที่เราสนใจ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จึงน่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เราจะร่วมกันสร้างมาตรฐานใหม่ด้วยการให้พื้นที่กับผู้มีความสามารถ"

Ryan Carfley ประธานและ CEO ของ Personify กล่าวเสริมว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ WilsonHCG ผมรู้จัก John มาหลายปีและชื่นชม WilsonHCG ที่เป็นผู้บุกเบิกความสำเร็จในอุตสาหกรรม RPO การทำงานร่วมกันระหว่างวัฒนธรรมของเราทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นกับผลกระทบที่จะมีต่อลูกค้าและอุตสาหกรรมของเรา ความร่วมมือดังกล่าวช่วยให้เราเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ ได้เร็วขึ้น และเราจะกลายเป็นผู้ให้บริการโซลูชันระดับโลกสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ เทคโนโลยีชีวภาพ ชีววิทยาศาสตร์ และอื่น ๆ"

WilsonHCG เข้าซื้อกิจการได้สำเร็จถึงสองครั้งในปี 2022 ในเดือนตุลาคม บริษัทได้ซื้อกิจการ Tracking Talent ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโซลูชันผู้มีความสามารถในแอฟริกาใต้ และในเดือนมีนาคม บริษัทได้เข้าซื้อ Claro Analytics ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มข่าวกรองตลาดแรงงานชั้นนำ

เกี่ยวกับ WilsonHCG

WilsonHCG เป็นผู้นำระดับโลกที่ได้รับรางวัลในด้านโซลูชันผู้มีความสามารถทั้งหมด การดำเนินงานในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ช่วยให้แบรนด์ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในโลกสร้างฟังก์ชันความสามารถที่ครอบคลุม ด้วยการดำเนินงานทั่วโลกครอบคลุมมากกว่า 65 ประเทศและ 6 ทวีป WilsonHCG ให้บริการที่ปรับแต่งได้เต็มรูปแบบ ซึ่งรวมถึงการให้บริการเอาต์ซอร์สในกระบวนการสรรหาบุคลากร (RPO) การค้นหาผู้บริหาร ผู้มีสามารถพิเศษ และการให้คำปรึกษาด้านความสามารถ

TALENT. ™ เป็นมากกว่าวิธีแก้ปัญหา แต่คือตัวตนของเรา

https://www.wilsonhcg.com/

เกี่ยวกับ Personify

Personify (www.personifysearch.com) เป็นบริษัทเอาต์ซอร์สด้านกระบวนการสรรหาบุคลากรที่ได้รับรางวัลและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก แนวทางการรับสมัครหลายช่องทางของบริษัทผสมผสานความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเข้ากับการวิเคราะห์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่อนำเสนอโซลูชันการสรรหาผู้มีความสามารถแห่งอนาคต Personify เปลี่ยนแนวทางการจัดหาผู้มีความสามารถแบบดั้งเดิมและเปลี่ยนเชิงรับให้เป็นระบบเชิงรุกที่ก้าวหน้าซึ่งจัดหาผู้มีความสามารถตามความต้องการ โซลูชัน RPO ที่ไม่ซ้ำใครของ Personify ปรับขนาดตามความต้องการจ้างงานของลูกค้า โดยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถจำกัด และประหยัดงบเมื่อเทียบกับหน่วยงานบุคคลที่สาม

ติดต่อ

Kirsty Hewitt
+44 7889901517
813-418-4479
kirsty.hewitt@wilsonhcg.com

แหล่งที่มา: WilsonHCG

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Medidata เปิดตัวแอพ myMedidata ตัวใหม่ของตัวเอง เพื่อย่นเวลาในการทำวิจัยในระยะเริ่มต้นและพัฒนาประสบการณ์ของผู้ป่วย

Logo

ออกแบบโดยการนำเสียงสะท้อนจากลูกค้าและผู้ป่วยมาปรับใช้เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับกิจกรรม eCOA และกิจกรรมการศึกษาทดลองเชิงคลินิกแบบกระจายจากศูนย์กลาง (DCTs) อื่นๆ

  • ด้วยพลังจาก Medidata Designer ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยสร้างตัวใหม่ ทำให้แอพ myMedidata สามารถย่นระยะเวลาในการศึกษาวิจัยในระยะเริ่มต้นได้อย่างมีนัยยะสำคัญ
  • ผสานการทำงานอย่างเต็มรูปแบบร่วมกับแพลตฟอร์มของ Medidata ซึ่งรวมถึง Rave EDC
  • ผู้ป่วยสามารถใช้บัญชี myMedidata ของตนเองสลับไปมาระหว่างกันในแอพ บนเว็บไซต์ได้ หรือสามารถนำบัญชีมาใช้ร่วมกับอุปกรณ์ของตนเองหรืออุปกรณ์ที่จัดหาไว้ให้ชั่วคราว ทำให้ผู้ป่วยมีทางเลือกและการเข้าถึงที่มากขึ้น
  • โซลูชัน DCT แบบเบ็ดเสร็จหนึ่งเดียวของวงการได้รับการสนับสนุนจากทีมผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับความไว้วางใจของ Medidata รวมถึงข้อมูลจากการเก็บตัวอย่าง และเป็นไปตามมาตรฐานความเป็นส่วนตัว

นิวยอร์ก –(BUSINESS WIRE)–6 ธันวาคม 2022

Medidata ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Dassault Systèmes ได้เปิดตัวแอพใหม่ของทางบริษัท ชื่อว่า myMedidata app ที่มุ่งเน้นไปที่ตัวผู้ป่วยเป็นสำคัญ โดยมีการออกแบบให้ผู้เข้าร่วมงานวิจัยมีทางเลือกเพิ่มเติมเพื่อประสบการณ์ในการใช้แพลตฟอร์มแบบไร้ขีดจำกัด และเข้าถึงได้ด้วยการล็อกอินเพียงครั้งเดียวสำหรับการเข้าร่วมการทดสอบทางไกลของผู้เข้าร่วมงานวิจัยทุกคน แอพจะชูจุดเด่นโซลูชันที่มุ่งเน้นไปที่ตัวผู้ป่วยเป็นสำคัญของ myMedidata ทั้งหมด โดยให้ความสนใจเริ่มต้นที่ eCOA (การประเมินผลลัพธ์เชิงคลินิกทางอิเล็กทรอนิกส์) แอพ myMedidata พร้อมให้บริการใน iOS และ Android รวมถึงสามารถใช้ได้ทั้งในอุปกรณ์ของผู้ป่วยเอง (BYOD) หรือผ่านอุปกรณ์ที่จัดหาไว้ให้ชั่วคราว

“สิ่งที่เราใส่เข้าไปในแอพ myMedidata ล่าสุดทำให้แอพดังกล่าวกลายเป็นแอพที่มีความทันสมัยสำหรับผู้ป่วย โดยมีการออกแบบร่วมกันกับทีมจัดเก็บข้อมูลเชิงลึกของผู้ป่วยของเรา รวมถึงการนำเอาผลตอบรับจากผู้บริโภค และประสบการณ์ที่ได้จากการศึกษาทดลองเชิงคลินิกแบบกระจายจากศูนย์กลาง (DCTs) ที่ใหญ่ที่สุดของโลกมาปรับใช้ตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา” Matt Noble รองประธานอาวุโสของ Medidata Patient Cloud กล่าว “Medidata กำลังนำความรู้เชิงลึกที่ได้จากสปอนเซอร์ ผู้รับวิจัยทางคลินิก (CRO) รวมถึงการเก็บข้อมูลในพื้นที่จริง และข้อมูลจากผู้ป่วย มาใช้เพื่อสร้างความแตกต่างที่แท้จริงในด้านประสบการณ์การทดลองเชิงคลินิก”

แอพ myMedidata ซึ่งเป็นแอพที่ไม่เหมือนใครในวงการ ได้ผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกับแพลตฟอร์ม Medidata รวมถึงการทำงานร่วมกับ Rave EDC (การจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์) ทำให้เกิดเป็นอีโคซิสเต็มที่สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างสมบูรณ์ โดยข้อมูลของผู้ป่วย กิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดในพื้นที่จริง และการบริการจัดการข้อมูลหลังบ้าน จะสามารถดำเนินไปพร้อม ๆ กันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

แอพดังกล่าวได้รับการออกแบบโดยใช้ Medidata Designer ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการติดตั้งแพลตฟอร์มตัวใหม่ ทำให้แอป myMedidata ได้ตัวสร้างเวิร์กโฟลว์ที่มุ่งเน้นไปที่ตัวผู้ป่วยเป็นสำคัญโดยเน้นใช้ในหน้าจอมือถือก่อน ซึ่งจากการใช้ Designer  ทำให้สปอนเซอร์และผู้รับวิจัยทางคลินิก (CRO) สามารถสร้างประสบการณ์ของผู้ป่วยที่หลากหลายผ่านเทมเพลตหน้าจอแบบลากแล้ววางที่ใช้งานง่าย รวมถึงผ่านเครื่องมือเวิร์กโฟลว์ภาพ ซึ่งจะสร้างฐานข้อมูลทางคลินิกในเบื้องหลังไปพร้อมกันโดยไม่ต้องใช้รหัสแบบกำหนดเองใดๆ นอกจากนี้ Designer ยังช่วยย่นระยะเวลาในการศึกษาวิจัยได้อย่างมาก โดยการใช้ประโยชน์จาก Medidata และฐานข้อมูลของลูกค้า ซึ่งรวมไปถึงอุปกรณ์ eCOA ที่สร้างไว้ก่อนล่วงหน้า การแปลข้อมูล และการคัดกรองข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการวิจัย

Medidata เป็นบริษัทในเครือของ Dassault Systèmes โดยเป็นบริษัทลูกที่บริษัทแม่ลงทุนด้วยตนเองทั้งหมด ด้วยแพลตฟอร์ม  3DEXPERIENCE ที่ถูกกำหนดให้เป็นผู้นำในการปฏิรูปทางดิจิทัลในด้านชีววิทยาศาสตร์ในยุคของการแพทย์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยในระดับปัจเจกบุคคล พร้อมด้วยแพลตฟอร์มทางด้านวิทยาศาสตร์และธุรกิจที่ครบครันแพลตฟอร์มแรก ตั้งแต่การวิจัยไปจนถึงการบริหารจัดการทางธุรกิจ

เกี่ยวกับ Medidata            
Medidata กำลังเป็นผู้นำในการปฏิรูปทางดิจิทัลในด้านชีววิทยาศาสตร์ สร้างความหวังให้กับผู้ป่วยหลายล้านคน Medidata ช่วยสร้างหลักฐานและความรู้เชิงลึกเพื่อช่วยบริษัทที่ทำธุรกิจด้านยา เทคโนโลยีชีวภาพ อุปกรณ์การแพทย์และการวินิจฉัย ตลอดจนนักวิจัยทางวิชาการเพิ่มมูลค่า ผู้บริโภคมากกว่า 2,000 คน และหุ้นส่วนทางธุรกิจสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในโลกเพื่อการพัฒนาทางคลินิก รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลทางการค้าและข้อมูลในโลกแห่งความเป็นจริง Medidata ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Dassault Systèmes (Euronext Paris: FR0014003TT8, DSY.PA) มีสำนักงานใหญ่อยู่ในมหานครนิวยอร์ก และมีสำนักงานกระจายอยู่ทั่วโลกเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.medidata.com และติดตามเราได้ทาง @Medidata

เกี่ยวกับ Dassault Systèmes

Dassault Systèmes ซึ่งเป็นบริษัท 3DEXPERIENCE คือผู้ที่คอยขับเคลื่อนให้มนุษยชาติก้าวไปข้างหน้า เราได้นำเสนอเทคโนโลยีเสมือนจริงสามมิติให้กับวงการธุรกิจและประชาชนทั่วไปเพื่อให้ทุกคนสามารถมองเห็นถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน จากการสร้างสรรค์ประสบการณ์โลกเสมือนจริงแบบคู่ขนานไปกับโลกแห่งความเป็นจริงด้วยแพลตฟอร์มและแอพพลิเคชัน 3DEXPERIENCE ทำให้ลูกค้าของเราสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดในการสรรสร้างนวัตกรรม การเรียนรู้ และการผลิต เพื่อโลกที่มีความยั่งยืนขึ้นสำหรับผู้ป่วย ประชาชนทั่วไป และลูกค้า นอกจากนี้ Dassault Systèmes ได้สร้างสิ่งสำคัญอย่างยิ่งให้กับลูกค้าทุกขนาด ทุกวงการ นับ 300,000 ราย ในประเทศต่างๆ มากกว่า 140 ประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.3ds.com

3DEXPERIENCE, ไอคอน Compass, โลโก้ 3DS, CATIA, BIOVIA, GEOVIA, SOLIDWORKS, 3DVIA, ENOVIA, NETVIBES, MEDIDATA, CENTRIC PLM, 3DEXCITE, SIMULIA, DELMIA และ IFWE เป็นเครื่องหมายทางการค้าในเชิงพาณิชย์ หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Dassault Systèmes เป็น สัญชาติฝรั่งเศส “ในสหภาพยุโรป” (ทะเบียนการค้าแห่งแวร์ซาย # B 322 306 440) หรือเป็นของบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกา และ/หรือ ประเทศอื่น ๆ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Tom Paolella
ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการสื่อสารและกิจการองค์กร
+1-848-203-7596 
thomas.paolella@3ds.com

Paul Oestreicher
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารภายนอก
+1-917-522-4692 
paul.oestreicher@3ds.com

ที่มา: Medidata

ANANDA Scientific ประกาศการอนุมัติจาก FDA สำหรับคำขอ IND การทดลองทางคลินิกสำหรับการประเมินวิธีการรักษา Social Anxiety Disorder (SAD)

Logo

NEW YORK & GREENWOOD VILLAGE, Colo.–(BUSINESS WIRE)–30 พฤศจิกายน 2022 

ANANDA Scientific Inc. บริษัทชีวเวชภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการวิจัย ประกาศการอนุมัติจากสำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) สำหรับคำขออนุมัติ IND การทดลองทางคลินิกเพื่อการประเมินใช้ Nantheia™ A1002N5S ซึ่งเป็นยาที่ใช้ในการวิจัยโดยใช้แคนนาบิดิออล (CBD) ในเทคโนโลยีการสกัด Liquid Structure™ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ANANDA โดยเป็นแนวโน้มการรักษาสำหรับโรคกลัวการเข้าสังคม (Social Anxiety Disorder) องค์กร National Center for Complimentary and Integrative Health (HCCIH ที่เป็นแผนกหนึ่งของ NIH) กำลังจัดหาเงินทุนสำหรับการทดลองนี้ ซึ่งจะมีการดำเนินการที่ NYU Grossman School of Medicine (ตัวบ่งชี้ Clinical Trials.gov: NCT05571592)

(Photo: Business Wire)

(รูปภาพ: Business Wire)

ผู้ตรวจสอบหลักสำหรับการทดลองนี้คือ Naomi Simon, MD, MSc. ศาสตราจารย์ด้านจิตเวชศาสตร์และผู้อำนวยการโครงการ Anxiety, Stress and Prolonged Grief Program ที่ NYU Grossman School of Medicine และ Esther Blessing, MD, PhD ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านจิตเวชศาสตร์ที่ NYU Grossman School of Medicine การทดลองแบบสองทางโดยควบคุมเปรียบเทียบกับยาหลอก จะเป็นการศึกษาเปรียบเทียบระหว่าง Nantheia™ A1002N5S และยาหลอกในช่วงระยะเวลาการรักษา 21 วัน โดยมีการวัดผลลัพธ์หลักคือ การเปลี่ยนแปลงใน Trier Social Stress Test (TSST) เพื่อตรวจสอบระดับความกังวลและผลกระทบต่อการสร้างภาพทางประสาท

“เรามีความยินดีในความก้าวหน้าในการศึกษาที่สำคัญนี้ สำหรับพัฒนาการวิธีการรักษาโรคกลัวการเข้าสังคม (Social Anxiety Disorder) แบบใหม่ ซึ่งเป็นอาการที่น่าวิตกกังวลและยังไม่สามารถรักษาได้ในปัจจุบัน” กล่าวโดย Dr. Simon

Dr. Blessing กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับความก้าวหน้าในการทดลองทางคลินิกที่ได้จากผลลัพธ์พรีคลินิกที่มีแนวโน้มในการใช้ CBD เพื่อรักษาโรควิตกกังวล”

“เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมมือกันกับ Dr. Simon และ Dr. Blessing อีกครั้งในการทดลองที่สำคัญนี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อชีวิตของผู้คนจำนวนมาก” กล่าวโดย Sohail R. Zaidi ซีอีโอของ ANANDA “เราคาดหวังที่จะได้เห็นความก้าวหน้าในการประยุกต์ใช้ยา Nantheia A1002N5S ที่กำลังอยู่ระหว่างการศึกษา พร้อมตัวบ่งชี้ข้อกำหนดทางการแพทย์ที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองอย่างมีนัยสำคัญ”

เกี่ยวกับ ANANDA SCIENTIFIC

ANANDA เป็นบริษัทชั้นนำด้านชีวเวชภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการวิจัย โดยเป็นผู้บุกเบิกการศึกษาทางคลินิกที่มีคุณภาพสูงเพื่อประเมินข้อบ่งชี้ในการรักษา เช่น PTSDRadiculopathic Pain, Anxiety และ Opioid Use Disorder (Mt. Sinai และ UCLA) บริษัทมีการใช้เทคโนโลยีการสกัดที่ได้รับการจดสิทธิบัตร (ได้รับอนุญาตจาก Lyotropic Delivery Systems (LDS) Ltd ในเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล) เพื่อสกัดสารแคนนาบินอยด์และสารประกอบที่ได้จากต้นในประโยชน์ทางชีวภาพ ละลายน้ำได้ และมีอายุการเก็บรักษาที่เสถียร รวมถึงมุ่งเน้นในการผลิตเภสัชภัณฑ์ระดับพรีเมียมที่มีประสิทธิภาพสูง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52981086/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ANANDA Scientific Media Relations | Christopher Moore | 813 326 4265 | media@anandascientific.com

แหล่งข้อมูล: ANANDA Scientific Inc.

Medidata เปิดตัว Rave Companion ซึ่งเป็นโซลูชันที่สามารถปรับขนาดได้โซลูชันแรกสำหรับการป้อนข้อมูล EHR เข้าไปยัง Rave EDC โดยอัตโนมัติ

Logo

Rave Companion มีการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ EDC ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น สามารถลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้นับพันสำหรับการทดลองทางคลินิกและระบบการจัดการข้อมูล 

  • Rave Companion จะช่วยเพิ่มคุณภาพข้อมูลและสามารถลดค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบ โดยรับข้อมูลต้นทางจาก EHRs โดยตรงและส่งไปยัง Rave EDC โดยไม่ต้องมีการพิมพ์ ส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดที่น้อยลง
  • เป็นโซลูชันระหว่างระบบ EHR ของไซต์และโซลูชันข้อมูลด้านการดูแลสุขภาพอื่น ๆ กับ Rave EDC โดยนำบันทึกเวชระเบียนของผู้ป่วยเข้าสู่ Rave EDC โดยตรง

NEW YORK–(BUSINESS WIRE)–15 พฤศจิกายน 2022

Medidata บริษัทในเครือของ Dassault Systèmes ประกาศแผนที่จะเปิดตัว Rave Companion ซึ่งเป็นเทคโนโลยีนวัตกรรมสามารถปรับขนาดได้ และอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร ที่จะช่วยให้การทดลองทางคลินิกสามารถประหยัดเวลาและลดข้อผิดพลาดในการถ่ายโอนข้อมูล EHR (บันทึกข้อมูลสุขภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์) ไปยังระบบ Rave EDC (การบันทึกข้อมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์) Rave Companion จะสามารถรับมือกับความท้าทายในการป้อนข้อมูลซ้ำซ้อนสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีมาอย่างยาวนานได้ โดยมีการใช้งานข้อมูลทั้งแบบมีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้างจากบันทึกข้อมูลสุขภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง Rave EDC สามารถนำไปใช้ได้โดยตรงเพียงไม่กี่คลิก

“จำนวนจุดข้อมูลที่รวบรวมไว้เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองทางคลินิกมีการเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณและสำหรับไซต์ต่าง ๆ ที่มองหาโซลูชันที่สามารถปรับขนาดได้ และใช้งานง่าย เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับระบบ EHR และลดการป้อนข้อมูล” Dan Braga รองประธานฝ่ายโซลูชัน EHR และฝ่ายดูแลสุขภาพที่ Medidata กล่าว “Rave Companion เป็นโซลูชันที่สามารถช่วยในการใช้งานข้อมูลที่มีอยู่จากระบบ EHR ใด ๆ แทนที่จะเป็นการป้อนข้อมูลซ้ำ เพื่อวัตถุประสงค์ในการทดลองทางคลินิก”

Medidata ดำเนินการทดลองมากกว่า 29,000 ครั้ง โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาศาสตร์กว่า 1.5 ล้านคนทั่วโลก โดยใช้แพลตฟอร์มชั้นนำของอุตสาหกรรม Rave Companion ได้รับการออกแบบมาสำหรับฟังก์ชันการทำงานแบบนอกกรอบสำหรับข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง รวมถึงความสามารถในการผสานรวมระบบ EHR แบบขั้นสูงสำหรับไซต์ที่มีการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายของไซต์สำหรับการวิจัยของ Medidata และสามารถขยายได้อย่างรวดเร็ว Rave Companion ทำงานโดยการจำลองแผนผังของ Rave eCRF ในเครื่องมือ “companion” ที่อยู่ด้านบนของหน้าจอ และติดตามผู้ใช้ของไซต์เมื่อมีการเข้าใช้งานผ่านระบบการบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ที่ใช้ในฐานข้อมูลด้านการวิจัย

สำหรับข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง หรือสำหรับไซต์ที่ยังไม่มีการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายของ Medidata Rave Companion จะช่วยให้สามารถหยุดการดำเนินการ “ทำงานพร้อมกันในทั้งสองระบบ” และช่วยให้ Rave EDC สามารถเชื่อมต่อกับผู้ใช้ เมื่อผู้ใช้เข้าใช้งานระบบ EHR หรือระบบทางคลินิกอื่น ๆ ในการค้นหาข้อมูลผู้ป่วยที่เหมาะสม เพียงผู้ใช้คลิกที่ค่า ระบบก็จะกรอกข้อมูลเข้า eCRF ให้ แทนที่จะต้องพิมพ์ข้อมูลอีกครั้ง

ในปีหน้า Rave Companion จะมีการรวมการนำเสนอข้อมูล EHR ภายในโซลูชันโดยตรง หมายความว่าผู้ใช้จะไม่ต้องออกจากระบบ Rave EDC เพื่อกรอกข้อมูล eCRF ให้ครบถ้วน เนื่องจากสามารถดำเนินการได้ภายในระบบเดียว

Medidata จะมีการเปิดตัว Rave Companion ในงานชีววิทยาศาสตร์ชั้นนำ NEXT New York ในวันที่ 15-16 เดือนพฤศจิกายน โดยผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีการที่ Medidata จัดการความท้าทายในการป้อนข้อมูลซ้ำในหัวข้อ “การแก้ไขปัญหาความท้ายทายของการถ่ายโอนข้อมูลจาก EHR ไปยัง EDC: มุมมอง แนวทาง และเทคโนโลยีใหม่” โดยมี Gene Vinson ผู้อำนวยการบริหารของฝ่ายบริหารจัดการ Clinical Vendor Management ที่ Syneos Health และ Dan Braga และ Samir Jain ผู้อำนวยการอาวุโสของ EHR Solutions ของ Medidata เข้าร่วม

Medidata เป็นบริษัทในเครือของ Dassault Systèmes ที่มีแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE เป็นบริษัทชั้นนำในระบบการเปลี่ยนแปลงชีววิทยาศาสตร์ระบบดิจิทัลในยุคของการแพทย์เฉพาะบุคคลที่มีแพลตฟอร์มทางวิทยาศาสตร์และธุรกิจแบบครบวงจรตั้งแต่การวิจัยจนถึงเชิงพาณิชย์ระบบแรก

เกี่ยวกับ Medidata

Medidata เป็นผู้นำทางการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลสำหรับชีววิทยาศาสตร์ การสร้างความหวังให้กับผู้ป่วยหลายล้านคน Medidata จะช่วยสร้างหลักฐานและข้อมูลเชิงลึกเพื่อช่วยบริษัทด้านเภสัชกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และการวินิจฉัย รวมถึงนักวิจัยด้านวิชาการเพื่อเพิ่มมูลค่า ลูกค้าและพันธมิตรกว่า 2,000 รายสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลกสำหรับการพัฒนาทางคลินิก ช้อมูลเชิงพาณิชย์ และข้อมูลจริงได้ Medidata ซึ่งเป็นบริษัท Dassault Systèmes (Euronext Paris: FR0014003TT8, DSY.PA) มีสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์กซิตี้ และมีสำนักงานทั่วโลกเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.medidata.com และติดตามเราได้ที่ @Medidata

เกี่ยวกับ Dassault Systèmes

Dassault Systèmes บริษัทในเครือของบริษัท 3DEXPERIENCE เป็นฝ่ายพัฒนาความก้าวหน้าของมนุษย์ โดยเราได้จัดเตรียมสภาพแวดล้อมเหมือนจริงสำหรับธุรกิจและผู้คนเพื่อจินตนาการถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน ด้วยประสบการณ์เสมือนจริงในโลกแห่งความเป็นจริงในแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันของ 3DEXPERIENCE ลูกค้าของเราสามารถขยายขอบเขตการสร้างนวัตกรรม การเรียนรู้ และการผลิต เพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นสำหรับผู้ป่วย พลเมือง และผู้บริโภค Dassault Systèmes สร้างมูลค่าให้กับลูกค้ากว่า 300,000 รายในทุกขนาด ทุกอุตสาหกรรม ในกว่า 140 ประเทศ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.3ds.com

3DEXPERIENCE, ไอคอนเข็มทิศ, โลโก้ 3DS, CATIA, BIOVIA, GEOVIA, SOLIDWORKS, 3DVIA, ENOVIA, NETVIBES, MEDIDATA, CENTRIC PLM, 3DEXCITE, SIMULIA, DELMIA และ IFWE เป็นเครื่องหมายการค้าเชิงพาณิชย์หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Dassault Systèmes ซึ่งเป็น “société européenne” ในฝรั่งเศส (ทะเบียนพาณิชย์แวร์ซายส์ # B 322 306 440) หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและ/หรือประเทศอื่น ๆ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Tom Paolella
ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจการ
+1-848-203-7596
thomas.paolella@3ds.com

Paul Oestreicher
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารภายนอก
+1-917-522-4692
paul.oestreicher@3ds.com

แหล่งที่มา: Medidata

The Bangkok Reporter