แผ่นฟอยล์สแตนเลสหน้ากว้างของ NIPPON KINZOKU (ผิวเคลือบ BS/WS)

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–29 สิงหาคม 2024

บริษัท NIPPON KINZOKU CO., LTD. (โตเกียว: 5491) (สำนักงานใหญ่: เขตมินาโตะ โตเกียว) ผลิตแผ่นสแตนเลสให้กับตลาดยานยนต์ ตลาดแบตเตอรี่ ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ และตลาดอื่นๆ โดยใช้เทคโนโลยีเฉพาะของบริษัท แผ่นสแตนเลสของเรามีคุณสมบัติด้านความแม่นยำสูง ขนาดความกว้างที่เต็มที่ และน้ำหนักต่อหน่วยที่มาก จึงช่วยให้ลูกค้าปรับปรุงประสิทธิภาพทางการผลิต เพิ่มผลผลิต และลดขั้นตอนในการผลิตได้ นอกจากนี้ เรายังมีพื้นผิวให้เลือกสองประเภท ได้แก่ “BS: ผิวเคลือบแบบมันวาว” และ “WS: ผิวเคลือบแบบสีขาว” เพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านการออกแบบและการใช้งานพื้นผิว

แผ่นฟอยล์สแตนเลสของ NIPPON KINZOKU มีคุณสมบัติด้านความแม่นยำสูง ขนาดความกว้างที่เต็มที่ และน้ำหนักต่อหน่วยที่มาก นอกจากนี้ เรายังมีพื้นผิวให้เลือกสองประเภท ได้แก่ “BS: ผิวเคลือบแบบมันวาว” และ “WS: ผิวเคลือบแบบสีขาว” เพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านการออกแบบและการใช้งานพื้นผิว (ภาพกราฟิก: Business Wire)

แผ่นฟอยล์สแตนเลสหน้ากว้างของ NIPPON KINZOKU

เกรดเหล็ก:

เกรดเหล็กทั้งหมด (SUS304, SUS301, SUS430 เป็นต้น)

พื้นผิว:

พื้นผิวแบบ Spring, พื้นผิวแบบ TA (การอบอ่อนคลายความเค้น), พื้นผิวแบบ BA (การอบอ่อนแบบสว่าง)

คุณสมบัติ:

1. ความกว้าง: สูงสุด 600 มม.

2. ความแม่นยำสูง: แปรผันตามความยาวขั้นต่ำของความหนา ±1μm

3. ผิวเคลือบ: ผิวเคลือบแบบมันวาว (BS), ผิวเคลือบแบบสีขาว (WS)

4. น้ำหนักต่อหน่วย: สูงสุด 0.5 กก./มม.

5. ความหนาขั้นต่ำ: 0.02 มม.

การใช้งาน

คุณสมบัติประการหนึ่งของแผ่นสแตนเลสที่เราผลิตคือเป็นแผ่นฟอยล์ที่มีขนาดความกว้างสูง
การใช้งานรวมถึงการใช้เป็นองค์ประกอบให้ความร้อนบนพื้นผิวในยานยนต์, แผ่นเสริมแรง FPC และหน้ากากโลหะที่ใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงใช้เป็นวัสดุคอมโพสิตสำหรับติดฟิล์มหรือวัสดุอื่นๆ นอกจากนี้ มีผู้ผลิตวัสดุเพียงไม่กี่รายที่ผลิตวัสดุที่มีความหนาน้อยกว่า 30 μm และมีความกว้างเกือบ 600 มม. ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลผลิตแปรรูปและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น

พื้นผิวสัมผัส

เราปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ อันเกี่ยวข้องกับพื้นผิวสัมผัส โดยขึ้นอยู่กับการใช้งาน
มีข้อกังวลเกี่ยวกับการใช้งานในสวิตช์แบบสัมผัสว่าอาจเกิดรอยแตกร้าวได้ เนื่องจากการใช้งานซ้ำๆ อาจส่งผลให้พื้นผิวเกิดความไม่สม่ำเสมอเล็กๆ น้อยๆ ในกรณีดังกล่าว เราขอแนะนำพื้นผิวมันวาว (ผิวเคลือบแบบ BS) ที่เป็นพื้นผิวแบบเรียบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความทนทานได้
ในทางกลับกัน เราแนะนำพื้นผิวสีขาวที่หยาบกว่า (ผิวเคลือบแบบ WS) สำหรับภายนอกของแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้และขั้วต่อ เนื่องจากพื้นผิวดังกล่าวช่วยให้ (ภายนอกของแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้) ยึดเกาะกับกาวได้ดีขึ้น และช่วยให้เห็นการสลักด้วยเลเซอร์บนพื้นผิวผลิตภัณฑ์ (ขั้วต่อ)

เกี่ยวกับกลุ่มบริษัท NIPPON KINZOKU

ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับการใช้งานในหลากหลายด้าน ตั้งแต่ภาคส่วนความแม่นยำ ไปจนถึงอุตสาหกรรมก่อสร้าง https://www.nipponkinzoku.co.jp/en/

คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทความเต็ม
https://www.nipponkinzoku.co.jp/assets/images/2024/08/NIPPON-KINZOKUs-Stainless-Steel-Wide-Width-Foil-BSWS-Finish.pdf

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54114420/en

ข้อมูลติดต่อ

ฝ่ายพัฒนาการขาย
NIPPON KINZOKU CO., LTD.
อีเมล: nikkin-overseas@nipponkinzoku.co.jp
https://www.nipponkinzoku.co.jp/en/inquiry

ที่มา: NIPPON KINZOKU CO., LTD.

Dongfeng Motor ให้ความสำคัญกับการปรับให้เข้ากับท้องถิ่นและการบริการลูกค้า จึงมีการส่งเสริมกลยุทธ์การตลาดอาเซียนอย่างมุ่งมั่น

Logo

WUHAN, China–(BUSINESS WIRE)–22 สิงหาคม 2024

ตลาดอาเซียนเป็นตลาดหลักสำหรับธุรกิจต่างประเทศของ Dongfeng Motor โดย Dongfeng มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในเวียดนาม เมียนมาร์ และกัมพูชา เสริมสร้างการบริการลูกค้าให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ส่งเสริมการตลาดในท้องถิ่นอย่างแข็งขัน ดำเนินกลยุทธ์การพัฒนาระหว่างประเทศอย่างมั่นคง ด้วยความแข็งแกร่งด้านการผลิตยานยนต์ และประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน และมุ่งมั่นในการพัฒนาอนาตที่เป็นประโยชน์ร่วมกันกับพันธมิตร

Dongfeng Conducted Pre-sales Training and Customer Delivery Ceremony in ASEAN Market (Photo: Business Wire)

Dongfeng มีการจัดงานการฝึกอบรมก่อนการขายและพิธีส่งมอบสินค้าแก่ลูกค้าในตลาดอาเซียน (ภาพถ่าย: Business Wire)

ในตลาดเวียดนาม Dongfeng Commercial Vehicles และพันธมิตรได้สร้างระบบความร่วมมือห่วงโซ่คุณค่าแบบครบวงจร รวมถึงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การฝึกอบรมด้านการขาย การตลาด และบริการหลังการขาย การจัดกิจกรรมตามธีมของนวัตกรรมการตลาดด้านบริการช่วยเพิ่มความสามารถระดับมืออาชีพสำหรับช่างบริการด้านเทคนิค และเสริมสร้างความสามารถในการปรับตัวของผลิตภัณฑ์และความเร็วในการตอบสนองด้านการบริการ

ในเดือนพฤษภาคม Dongfeng ประสบความสำเร็จในการจัดงานเปิดตัวรถแทรกเตอร์ DOGFENG GX ในเวียดนาม และมีส่วนร่วมในกระบวนการทั้งหมด ทั้งก่อนและหลังการขายผลิตภัณฑ์ ซึ่งส่งเสริมการเติบโตของแบรนด์ด้านปริมาณ นอกจากนี้ Dongfeng Motor ยังให้ความสำคัญในคุณภาพของการบริการ ดำเนินการจัดรายการผลิตภัณฑ์ใหม่และการฝึกอบรมด้านการบำรุงรักษาอย่างเป็นระบบ รับรองว่าผู้บริโภคจะได้รับการสนับสนุนด้านการบริการอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ และปรับปรุงความพึงพอใจและความภักดีต่อแบรนด์อย่างมีนัยสำคัญ

ในตลาดเมียนมาร์ Dongfeng Commercial Vehicles ส่งเสริมความภักดีของลูกค้าด้วยกิจกรรมด้านการบำรุงรักษาฟรี ในตลาดอินโดนีเซีย Dongfeng Motor ให้ความสำคัญต่อเอกลักษณ์เฉพาะในท้องถิ่นเป็นสำคัญ โดยนนำเสนอประสบการณ์คุณภาพสูงแก่ลูกค้าผ่านนิทรรศการระดับมืออาชีพและการทดลองขับ ในกัมพูชา มีการส่งเสริมประสบการณ์ของผู้ใช้และชื่อเสียงของผลิตภัณฑ์ผ่านกิจกรรมการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่

ในงาน China-ASEAN Expo ครั้งที่ 21 ที่กำลังจะมาถึงนี้ Dongfeng Motor จะจัดแสดงโมเดลผลิตภัณฑ์ 10 รุ่น และกว่า 100 ผลิตภัณฑ์ในสี่ประเภท รวมถึงเครื่องจักรกลด้านการเกษตรและชิ้นส่วนอะไหล่ นำเสนอภาพลักษณ์กลุ่มอย่างเป็นหนึ่งเดียว เสริมสร้างความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนกับพันธมิตรที่มีศักยภาพของกลุ่มประเทศอาเซียน และส่งเสริมการพัฒนาในระดับนานาชาติ

Dongfeng Motor จะยึดถือความต้องการของลูกค้าเป็นแนวทางเสมอ พร้อมทั้งการพัฒนาเพื่อปรับให้เข้ากับท้องถิ่นอย่างเจาะลึก มุ่งเน้นแนวคิด “ลูกค้าเป็นที่หนึ่ง” ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ กลยุทธ์การตลาด การขยายช่องทาง และการอัปเกรดการบริการ รวมทั้งบรรลุการเติบอย่างยั่งยืนในธุรกิจระดับโลก

เว็บไซต์:
http://www.dongfeng-global.com/
https://www.facebook.com/DongfengMotorCorporationGlobal
https://www.facebook.com/DongfengMotorCorporationSA
https://www.facebook.com/DongfengMotorCorporationME
https://www.tiktok.com/@dongfeng_motor

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54112045/en

ติดต่อ

China Dongfeng Motor Industry Imp. & Exp. Co. Ltd
Fan Shaoyang
gjb-fansy@dfmc.com.cn

แหล่งข้อมูล: China Dongfeng Motor Industry Imp. & Exp. Co. Ltd

การพัฒนา “IDEMITSU IFG Plantech Racing” น้ำมันเครื่องสมรรถนะสำหรับรถแข่งรุ่นแรกของโลกที่ผ่านการรับรอง API ผลิตจากวัตถุดิบจากพืชมากกว่า 80%

Logo

TOKYO–(BUSINESS WIRE)–07 สิงหาคม 2024

Idemitsu Kosan Co.,Ltd. (สำนักงานใหญ่: Chiyoda-ku, Tokyo กรรมการบริหารแทน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร: Shunichi Kito ต่อไปนี้จะเรียกว่า “Idemitsu”) มีการพัฒนาน้ำมันเครื่องรุ่นใหม่ IDEMITSU IFG Plantech Racing (เกรดความหนืด: 0W-20) ซึ่งใช้วัตถุดิบจากพืชมากกว่า 80% (ต่อไปนี้เรียกว่า “ผลิตภัณฑ์”) ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการรับรอง API (สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน) SP*1 เสริมให้เป็นน้ำมันเครื่องสมรรถนะสำหรับรถแข่ง*3รุ่นแรกของโลก*2 ที่ใช้วัตถุดิบจากพืช

Perspective image of “IDEMITSU IFG Plantech Racing” package (Photo: Business Wire)

ภาพมุมมองแพ็คเกจ “IDEMITSU IFG Plantech Racing” (ภาพถ่าย: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์นี้ยังได้รับการรับรอง Biomass Mark*4 (หมายเลขการรับรอง: 230315) จากสมาคมรีไซเคิลสารอินทรีย์ของญี่ปุ่นอีกด้วย รุ่นระดับท็อปนี้สืบทอด DNA ของ “IDEMITSU IFG/IRG Series” ซึ่งมีการจัดจำหน่ายใน 13 ประเทศเป็นหลัก ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นในเครือที่อยู่ต่างประเทศของ Idemitsu คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์นี้ประมาณเดือนพฤศจิกายน ปี 2024 โดยจะมีการประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมในเดือนตุลาคม

นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 1911 Idemitsu ให้ความสำคัญกับการออกแบบอย่างพิถีพิถันและการปรับปรุงเทคโนโลยีของน้ำมันหล่อลื่นมาโดยตลอด บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สร้างความพึงพอใจให้กับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ในนความสามารถทางเทคโนโลยี

*1: ข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพที่กำหนดโดย API สำหรับน้ำมันเครื่อง รวมถึงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง ความทนทานต่อความร้อน และความทนทานต่อการสึกหรอ
*2: ดำเนินการสำรวจการตลาดเกี่ยวกับ “น้ำมันเครื่อง” (น้ำมันที่ผ่านการรับรอง API / น้ำมันจากพืช / ประสิทธิภาพการแข่งขัน) เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2023 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2024 โดย Trending Future Research
*3: กำหนดตามข้อกำหนดที่เทียบเท่า (ความทนทาน) โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประวัติการแข่งขันในบริษัทของเรา (การแข่งขันรถขับเคลื่อนสี่ล้อตามเวลาหรือรอบในสนามแข่ง จำกัดเฉพาะผู้เข้าร่วมที่เป็นทีมงานของบริษัทที่เป็นสปอนเซอร์)
*4: เครื่องหมายชีวมวลเป็นตัวบ่งชี้ที่สามารถแสดงบนผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทรัพยากรทางชีวภาพ ได้รับการรับรองจากสมาคมรีไซเคิลสารอินทรีย์ของญี่ปุ่นว่า เป็นไปตามฉลากระบุเครื่องหมายชีวมวล เนื่องจากมีการใช้วัตถุดิบจากพืชมากกว่า 80%

[ข้อมูลอ้างอิง]
เกี่ยวกับ “IDEMITSU IFG/IRG Series”

“IDEMITSU IFG/IRG Series” เป็นซีรีส์น้ำมันเครื่องที่มีการออกแบบมาสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ โดยมีสูตรการผลิตที่เพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ให้สูงสุด

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IDEMITSU IFG/IRG Series ได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
https://www.idemitsu-nano-tailored-oil.com/

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54103018/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับหัวข้อนี้
ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับ IDEMITSU IFG Plantech Racing
idemitsu-plantech-racing@idemitsu.com

หากต้องการสอบถามด้านสื่อ โปรดติดต่อ
แผนกประชาสัมพันธ์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ Idemitsu Kosan Co.,Ltd.
https://www.idemitsu.com/en/contact/flow/index.html

แหล่งข้อมูล: Idemitsu Kosan Co., Ltd..


A2RL ทะยานสู่จุดสูงสุดใหม่: เปิดตัวการแข่งขันรถโดรนอัตโนมัติ มูลค่าเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ

Logo

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–25 กรกฎาคม 2024

Abu Dhabi Autonomous Racing League (A2RL) ซึ่งเปิดตัวอย่างน่าประทับใจในเดือนเมษายนนี้ที่สนาม Yas Marina Circuit ได้ประกาศความท้าทายต่อไปกับ Drone Champions League (DCL) ซึ่งเป็นองค์กรแข่งรถโดรนมืออาชีพชั้นนําของโลก ต่อยอดจากความสําเร็จของงานเปิดตัวครั้งแรก A2RL Drone Race ยังคงพัฒนาขอบเขตของเทคโนโลยีอัตโนมัติ โดยผสมผสานทักษะของมนุษย์เข้ากับความก้าวหน้าทางนวัตกรรมในการบินอัตโนมัติ

The Abu Dhabi Autonomous Racing League (A2RL) x Drone Champions League (DCL) (Graphic: AETOSWire)

A2RL ทะยานสู่จุดสูงสุดใหม่: เปิดตัวการแข่งขันแข่งรถโดรนอัตโนมัติมูลค่าเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ภาพ: AETOSWire)

การแข่งขันรถโดรนอัตโนมัติจะรวบรวมทีมจากทั่วโลก ต้อนรับทีมแข่งรถด้วยโดรนที่จัดตั้งขึ้น สถาบันวิจัย และ 'มือใหม่' ที่กระตือรือร้น ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะแข่งขันกันเพื่อชิงเงินรางวัลที่น่าตื่นเต้นมูลค่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่พวกเขามุ่งมั่นที่จะบรรลุความคล่องตัวและความเร็วสูงสุดในขณะที่หลบหลีกผ่านวัตถุที่ขวางทางได้สําเร็จ เปิดให้ลงทะเบียนแล้วที่ a2rl.io และทีมที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งขันได้ ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดจะผ่านกระบวนการคัดเลือกอย่างเข้มงวด เพื่อระบุทีมที่เข้าแข่งขันที่ประสบความสําเร็จ ผู้ที่ผ่านการคัดกรองจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมในชุดภารกิจที่จะช่วยให้คณะกรรมการตัดสินสามารถประเมินความสามารถของทีมในการใช้เครื่องจําลองโอเพ่นซอร์สเพื่อบินโดรนโดยอัตโนมัติ รอบชิงชนะเลิศจะจัดขึ้นในเดือนเมษายน 2025 ซึ่งจะมีการตัดสินผู้ชนะ

A2RL จัดขึ้นโดย ASPIRE A2RL ผสมผสานปัญญาประดิษฐ์ (AI) ความเป็นอิสระ และกีฬาเอ็กซ์ตรีมเพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของการขับเคลื่อนในอนาคต และได้รับการยกย่องว่าเป็นลีกแข่งรถอัตโนมัติที่ใหญ่ที่สุดในโลก การแข่งขันโดรนอัตโนมัติสุดมันส์ A2RL จะเห็นนักวิจัยที่แข่งขันกันตั้งโปรแกรมโดรนเพื่อนําทางผ่านประตูต่างๆหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง โดยใช้เซ็นเซอร์ในตัวและพลังการคํานวณ เป้าหมายหลักของการแข่งขันคือการกําหนดเกณฑ์มาตรฐานสําหรับการบรรลุนวัตกรรมสูงสุดในอัลกอริทึมในขณะที่ใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์น้อยที่สุดในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน

เช่นเดียวกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ทั้งหมด A2RL Drone Challenge จะรวมถึงการมุ่งเน้นไปที่ STEM และนักเรียนมัธยมปลายจะได้รับการต้อนรับให้เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน

ในการประกาศการแข่งขันครั้งใหม่ H.E. Faisal Al Bannai เลขาธิการ ATRC กล่าวว่า “เมื่อคุณทดลองในสภาวะสุดขั้วเท่านั้น คุณจึงจะค้นพบขอบเขตใหม่หรือความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง เรากําลังสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความร่วมมือระดับโลก ขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และสร้างอนาคตที่โซลูชันอัตโนมัติเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมและปรับปรุงคุณภาพชีวิต”

Stephane Timpano ซีอีโอของ ASPIRE กล่าวว่า “นี่เป็นวิวัฒนาการที่น่าตื่นเต้นของซีรีส์การแข่งรถเอ็กซ์ตรีม A2RL ของเรา DCL เป็นพันธมิตรที่มีแนวคิดเดียวกันด้วยประสบการณ์การแข่งรถโดรนอันล้ำค่ามาหลายปี เราไม่เพียงแต่เพิ่มมิติใหม่แห่งการขับขี่อัตโนมัติให้กับการแข่งรถด้วยโดรนเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจํากัดของอากาศยานไร้คนขับผ่านการแข่งขันครั้งนี้”

Markus Stampfer ประธานบริหารของ Drone Champions AG ผู้จัดงาน Drone Champions League (DCL) กล่าวว่า “ที่ DCL ภารกิจของเราคือการก้าวข้ามขีดจำกัดของการแข่งรถด้วยโดรนมาโดยตลอด หลังจากประสบความสําเร็จในการผสานโลกของการแข่งรถด้วยโดรนเสมือนจริงและทางกายภาพเข้าด้วยกัน การร่วมมือกับ ASPIRE เพื่อพัฒนาการบินด้วยโดรนอัตโนมัติถือเป็นก้าวต่อไปตามธรรมชาติสําหรับเรา เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้นําประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่กว้างขวางของเรามาสู่การแข่งขันที่บุกเบิกนี้ โดยสนับสนุน ASPIRE ด้วยความรู้ที่เราได้รับจากการพัฒนาโดรนสำหรับการแข่งขัน และการทํางานร่วมกับนักบินโดรนที่ดีที่สุดในโลกเป็นเวลาหลายปี”

ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีโดรน การแข่งขันนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ทุกประเทศสามารถเข้าถึงการใช้โดรนได้ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและขับเคลื่อนนวัตกรรมในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น สุขภาพและโลจิสติกส์ได้ในที่สุด

สอบถามข้อมูลสื่อมวลชนได้ที่ comms@a2rl.io หรือ ATRC@edelman.com

Twitter

LinkedIn

Instagram

*ที่มา: AETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54099128/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Jennifer Dewan ผู้อํานวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสาร
Jennifer.dewan@tii.ae

ที่มา: Abu Dhabi Autonomous Racing League


Hero MotoCorp รำลึกถึง Dr. Brijmohan Lall Munjal ผู้ก่อตั้งและประธานกิตติคุณของ Hero Forever ด้วยจักรยานยนต์รุ่นสำหรับนักสะสม, – ‘The Centennial’

Logo

NEW DELHI, India–(BUSINESS WIRE)–01 กรกฎาคม 2024

Hero MotoCorp ผู้ผลิตจักรยานยนต์และสกู๊ตเตอร์รายให้ญ่ที่สุดของโลก แสดงความยกย่องและรำลึกถึง Dr.  Brijmohan Lall Munjal ประธานผู้ก่อตั้งผู้ซึ่งมีวิสัยทัศน์ ด้วยรถจักรยานยนต์รุ่นสำหรับนักสะสม 'The Centennial'

The Centennial (Photo: Business Wire)

The Centennial (ภาพถ่าย: Business Wire)

“Dr. Brijmohan Lall Munjal พ่อของผมและประธานผู้ก่อตั้ง Hero MotoCorp เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลก วิสัยทัศน์ของเขาได้เปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ของอินเดีย และอุตสาหกรรมในอินเดีย โดยทิ้งมรดกแห่งความชาญฉลาด นวัตกรรม แรงบันดาลใจ และความซื่อสัตย์ สำหรับเขาแล้ว นอกเหนือจากธุรกิจและผลกำไรแล้ว เหนือสิ่งอื่นใด คือ ผู้คน ทั้งส่วนบุคคลและชุมชน

ในโอกาสที่เราเฉลิมฉลองครบรอบศตวรรษมาเป็นเวลาหนึ่งปี ผมมีความรู้สึกตื้นตันและภูมิใจขอแนะนำThe Centennialความมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมยานยนต์ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานผู้ก่อตั้งที่มีวิสัยทัศน์ของเรา ‘The Centennial’ ไม่ได้เป็นเพียงรถจักรยานยนต์ที่มีความโดดเด่นเท่านั้น แต่ยังเป็นความทรงจำที่จารึกไว้ในโครงเหล็กกล้าและคาร์บอนไฟเบอร์ โดยการออกแบบ วิศวกรรม และเทคโนโลยีของเครื่อจักรอันงดงามนี้ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ยังคงอยู่ไม่เลือนหายไปจากความทรงจำของผู้ก่อตั้งซึ่งสร้างแรงบันดาลใจของเราตลอดมา

วิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมของเขาผสานรวมทุกคนในชุมชนของ Hero ทั้งลูกค้า พนักงาน ตัวแทนจำหน่าย พันธมิตร ซัพพลายเออร์ และผู้ถือหุ้นต่างๆ ตลอด 100 วันที่ผ่านมา เราเฉลิมฉลองให้กับชายผู้ริเริ่มในทุกสิ่ง ผมขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมรำลึกถึง Dr. Brijmohan Lall Munjal ในวันครบรอบวันเกิดปีที่ 101 ของเขากัน

Dr. Pawan Munjal
ประธานกรรมการบริหาร
Hero MotoCorp

'The Centennial' ได้รับการรังสรรค์คอนเซ็ปต์ ออกแบบ และพัฒนาขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลกที่ Hero Centre for Innovation and Technology (CIT) ในอินเดีย และ Hero Tech Centre in Germany (TCG) ในเยอรมนี ผลงานชิ้นเอกนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทต่อนวัตกรรมและความเป็นเลิศ ถือเป็นชิ้นงานจากฝีมือที่พิถีพิถัน โดยมีเพียง 100 คันเท่านั้น มาพร้อมประสิทธิภาพและเป็นงานฝีมือระดับพรีเมี่ยม

เพื่อเป็นเกียรคิแก่วันครบรอบวันเกิดปีที่ 101 ของ Dr. Brijmohan Lall Munjal บริษัทจะเปิดประมูลรถจักรยานยนต์เหล่านี้สำหรับพนักงาน เพื่อนร่วมงาน พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้ถือหุ้น โดยรายได้จากการประมูลในครั้งนี้จะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ที่ดีขึ้นของสังคม ซึ่งสะท้อนถึงคุณค่าที่ยั่งยืนของผู้ก่อตั้งในการตอบแทนสังคม

โดยจะสามารถเริ่มส่งมอบ ‘The Centennial’ ได้ในเดือนกันยายน ปี 2024

นอกเหนือจากนี้ ด้วยความมุ่งมั่นในความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและความยั่งยืน บริษัทจะมีการเฉลิมฉลอง 100 วันแห่งการมีส่วนร่วมของลูกค้าและพนักงานทั่วทุกโรงงานและเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย รวมถึงตลาดทั่วโลก ในระหว่างช่วงเวลานี้ ลูกค้าที่ซื้อรถจักรยานยนต์หรือสกู๊ตเตอร์ของ Hero ทุกรุ่นจะมีโอกาสพิเศษที่จะได้รับเงินคืน 100% โดยข้อเสนอนี้จะจำกัดเพียง 100 คันเท่านั้น สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของบริษัท

Hero MotoCorp ขอเชิญชวนลูกค้าให้เข้าร่วมในแคมเปญ ‘My Hero, My Story’ ด้วยเช่นกัน ซึ่งทุกคนสามารถแบ่งปันเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่แสดงถึงความผูกพันและการเดินทางที่เป็นเอกลักษณ์ร่วมกับแบรนด์ โดยผลงานที่ส่งเข้าประกวดจะได้รับการประเมินผลโดยคณะผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงจากหลากหลายภูมิหลัง และผลงานที่ติดอันดับสูงสุดจะได้รับรางวัล ‘The Centennial’ อันมีเกียรติของเรา

The Centennial

‘The Centennial’ โดดเด่นด้วยงานฝีมือระดับเยี่ยมยอดหาที่เปรียบมิได้ ประกอบด้วยคาร์บอนไฟเบอร์และอลูมิเนียมขัดเงา มาพร้อมงานวิศวกรรมที่มีความพิถีพิถันระดับพรีเมี่ยม

องค์ประกอบที่โดดเด่นได้แก่ สวิงอาร์มอลูมิเนียมที่มีน้ำหนักเบา เพื่อเสริมแต่งประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น และแผงตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ที่ได้รับการออกแบบใหม่ เพื่อความสวยงามโฉบเฉี่ยวและมีโครงสร้างที่แข็งแกร่ง ฟีเจอร์ของ ‘The Centennial’ ได้รับการพัฒนา ผ่านการกลึง และชุบอะโนไดซ์เป็นพิเศษ พร้อมแฮนด์จับ ที่ยึดแฮนด์จับ แคลมป์สามจุด และชุดขาพักเท้าด้านหลัง

รถจักรยานยนต์คันนี้มาพร้อมสมรรถนะและความคล่องตัวที่น่าประทับใจ โดยมีการติดตั้งมาพร้อมโมโนโช้คแบบชาร์จแก๊สที่สามารถปรับได้เต็มรูปแบบจาก Wilbers และระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบกลับหัวขนาด 43 มม. พร้อมการปรับช่วงล่าง

เสียงท่อไอเสียที่ลึกล้ำอันโดดเด่นจากระบบท่อไอเสียคาร์บอนไฟเบอร์และไทเทเนียมระดับแนวหน้าของ Akrapovic ซึ่งได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อสมรรถนะสูงสุดและผสานรวมเข้ากับรถจักรยานยนต์ได้อย่างลงตัว

เบาะนั่งเดี่ยวพร้อมฝาครอบเบาะนั่งคาร์บอนไฟเบอร์ และป้ายหมายเลขรุ่นพิเศษอลูมิเนียมขัดเงาที่ฝาครอบด้านข้าง ช่วยเพิ่มเอกลักษณ์และความพิเศษเฉพาะตัวของรถจักรยานยนต์รุ่นนี้ ล้ออัลลอยด์ตัดเพชรแสดงถึงความใส่ใจในรายละเอียด พร้อมสีเครื่องยนต์และโครง ซึ่งช่วยเสริมรูปลักษณ์ของรถจักรยานยนต์รุ่นนี้

ด้วยน้ำหนักรถที่มีเบาเป็นพิเศษเพียง 158 กก. ‘The Centennial’ จึงมีความคล่องตัว ตอบสนองการเร่งตัวที่เหนือกว่า เสริมประสิทธิภาพการควบคุมการขับขี่และการเบรกที่ดียิ่งขึ้น

สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.heromotocorp.com/en-in/the-centennial.html

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Hero MotoCorp:

https://www.heromotocorp.com/en-in/
https://www.facebook.com/HeroMotoCorpIndia
https://twitter.com/HeroMotoCorp
https://www.instagram.com/heromotocorp/
https://www.youtube.com/c/HeroMotoCorp
https://www.linkedin.com/company/heromotocorp/mycompany/

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:

https://www.businesswire.com/news/home/54089291/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ผู้ติดต่อสำหรับสื่อ:
corporate.communication@heromotocorp.com

แหล่งข้อมูล: Hero MotoCorp

บริษัท Mitsui Chemicals และ ARRK ได้จัดหาวัสดุสำหรับคอนเซ็ปต์คาร์สมรรถนะสูง

Logo

TAFNEX CF/PP และชิ้นส่วนประกอบจากการพิมพ์แบบ 3 มิติที่พัฒนาโดย Mitsui Chemicals Group ได้ค้นพบถึงการนำไปใช้งานในรถยนต์ที่มีดีไซน์พื้นฐานจาก Toyota Fortuner ซึ่งออกแบบโดย TCD ASIA

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–26 มิถุนายน 2024

Mitsui Chemicals, Inc. (Tokyo:4183; ประธานและ CEO: HASHIMOTO Osamu) และบริษัทย่อย ARRK Corporation (โอซาก้า; ประธานและ CEO: MOROZUMI Naoki) ในวันนี้ได้ประกาศว่าวัสดุที่พัฒนาโดยทั้งสองบริษัทได้ถูกนำมาใช้ในคอนเซ็ปต์คาร์สมรรถนะสูงซึ่งมีดีไซน์พื้นฐานมาจาก Toyota Fortuner ชิ้นส่วนประกอบพิมพ์ด้วยพลาสติกอัดเม็ดแบบโดยตรง*1 ที่พัฒนาร่วมกันโดยบริษัท Mitsui Chemicals และ ARRK รวมถึง TAFNEX CF/PP*2 ซึ่งเป็นแผ่นเรซินโพลีโพรพีลีนเสริมคาร์บอนไฟเบอร์แบบทิศทางเดียวที่พัฒนาโดย Mitsui Chemicals ได้ค้นพบการนำใช้งานในรถยนต์  TOYOTA Hyper-F CONCEPT ซึ่งได้รับการออกแบบโดยบริษัท TCD ASIA CO., LTD.*3 (กรุงเทพฯ ประเทศไทย ประธาน: KAWAZOE Takayuki).

TAFNEX™ CF/PP and 3D-printed components find application in the TOYOTA Hyper-F CONCEPT (Photo: Business Wire)

TAFNEX™ CF/PP และชิ้นส่วนประกอบจากการพิมพ์แบบ 3 มิติได้ค้นพบถึงการนำไปใช้งานในรถยนต์ TOYOTA Hyper-F CONCEPT (ภาพถ่าย: Business Wire)

TAFNEX CF/PP และชิ้นส่วนประกอบจากการพิมพ์แบบ 3 มิติที่อัดเม็ดแบบโดยตรงซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ โดยจะจัดแสดงในงาน Bangkok Auto Salon 2024 เป็นงานแสดงรถยนต์คัสต้อมที่จะจัดขึ้นในเมืองหลวงของประเทศไทยในระหว่างวันที่ 26-30 มิถุนายน และจัดแสดงในงาน Bangsaen Grand Prix 2024 โดยเป็นงานแข่งรถที่จะจัดขึ้นบริเวณรอบนอกกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 3-7 กรกฎาคม

TOYOTA Hyper-F CONCEPT เป็นคอนเซ็ปต์คาร์สมรรถนะสูงพร้อมดีไซน์การแต่งสไตล์ที่ผสมผสานการขับขี่บนถนนและสมรรถนะตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ได้รับการต่อยอดจากสนามแข่งรถโดยธุรกิจมอเตอร์สปอร์ตของ TCD ASIA วัสดุใหม่ดังกล่าวให้บริษัทสามารถลดน้ำหนักของคอนเซ็ปต์คาร์ได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การปรับที่นั่งแบบสปอร์ต 4 ที่นั่งให้เหมาะสมยังช่วยมอบความเพลิดเพลินรูปแบบใหม่ที่ผู้ขับขี่ไม่เคยสัมผัสได้บนรถสองที่นั่งมาก่อน

วัสดุ TAFNEX CF/PP ถูกนำมาใช้สำหรับชิ้นส่วนประกอบตกแต่งในส่วนของกันชนหน้าและช่องระบายอากาศที่ฝากระโปรง ในขณะที่ชิ้นส่วนประกอบจากการพิมพ์แบบ 3 มิติที่อัดเม็ดแบบโดยตรงจะติดตั้งเข้ากับกรอบท่อลมของฝากระโปรงรถ

*1 ชิ้นส่วนประกอบจากการพิมพ์แบบ 3 มิติที่อัดเม็ดแบบโดยตรง

ในปี 2020 บริษัท Mitsui Chemicals ได้เปิดตัวการลงทุนและเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท Dreams Design Corporation (นาโกย่า ไอจิ; คณะกรรมการตัวแทน: OKUMURA Yasuyuki) เป็นผู้ให้บริการด้านวิศวกรรมที่มุ่งเน้นการพัฒนายานยนต์ จากนั้นในปี 2023 บริษัท Mitsui Chemicals ได้เริ่มการลงทุนและเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในลักษณะเดียวกันกับบริษัท ExtraBold Inc. (โทชิมะ, โตเกียว; CEO: HARA Yuji) เป็นผู้ผลิตเครื่องพิมพ์แบบ 3 มิติที่อัดเม็ดแบบโดยตรง

ชิ้นส่วนประกอบจากการพิมพ์แบบ 3 มิติที่ติดตั้งเข้ากับคอนเซ็ปต์คาร์เป็นการนำเทคโนโลยีการออกแบบชิ้นส่วนรถยนต์ของบริษัท Dreams Design มาผสานกับเครื่องพิมพ์แบบ 3 มิติรุ่น EXF-12 ของบริษัท ExtraBold ที่สามารถพิมพ์ชิ้นส่วนขนาดใหญ่ด้วยความเร็วสูงได้ เทคโนโลยีการพิมพ์แบบ 3 มิติและเทคโนโลยี Post Processing ของบริษัท ARRK ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่สนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นในอุตสาหกรรมนี้ โดยให้บริการทุกกระบวนการตั้งแต่การพัฒนาต้นแบบไปจนถึงการผลิตแบบจำนวนมาก รวมถึงเทคโนโลยีวัสดุคอมโพสิตโพลีโอเลฟินส์ที่พัฒนาโดยบริษัท Mitsui Chemicals เพื่อใช้ในการพิมพ์แบบ 3 มิติ

การใช้งานกลไกที่ใช้ในการฉีดขึ้นรูป เครื่องพิมพ์แบบ 3 มิติที่อัดเม็ดพลาสติกโดยตรงจะเป็นการผลิตโครงสร้างจากเม็ดพลาสติกได้โดยตรง ข้อดีของกลไกนี้มีความล้ำหน้ามากกว่าเครื่องพิมพ์แบบ 3 มิติทั่วไปคือปริมาณพลาสติกที่ปล่อยออกมานั้นจะเพิ่มขึ้นอย่างคงที่ ช่วยให้ผลิตโครงสร้างขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อใช้งานในการผลิตจำนวนมากที่มีความหลากหลายในปริมาณต่ำสำหรับผลิตภัณฑ์ที่พิมพ์แบบ 3 มิติแบบไม่ใช้แม่พิมพ์จะช่วยลดทั้งระยะเวลาในการพัฒนาและการลงทุนแรกเริ่มที่จำเป็น รวมถึงต้นทุนสำหรับแม่พิมพ์ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ คาดว่าเทคโนโลยีนี้จะมีส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่พิมพ์แบบ 3 มิติสามารถบดกลับเป็นเม็ดและรีไซเคิลเป็นวัตถุดิบสำหรับการพิมพ์แบบ 3 มิติต่อไปได้

*2 TAFNEX™ CF/PP

TAFNEX™ CF/PP เป็นเทปแบบทิศทางเดียว (เทป UD) ที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ (CF) และโพลีโพรพีลีน (PP) แบบคอมโพสิตโดยใช้เทคโนโลยีอันเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท Mitsui Chemicals นอกจากจะมีน้ำหนักเบา มีความแข็งแกร่งสูง พร้อมความสามารถในการขึ้นรูปที่ดีแล้ว ยังมีคุณสมบัติที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับดีไซน์ที่หลากหลายได้ เช่น การสร้างลวดลายคล้ายหินอ่อน TAFNEX ได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับงานใช้ในยานยนต์และโดรน ตลอดจนการนำไปใช้งานอื่นๆ ในภาคอุตสาหกรรมและสำหรับผู้บริโภค การนำไปใช้งานดังกล่าวรวมถึงการเสริมแรงเฉพาะที่ของชิ้นส่วนแม่พิมพ์แบบฉีดขึ้นรูปหรืออัดแบบขึ้นรูป และวัสดุดังกล่าวยังสามารถแปรรูปเป็นชิ้นส่วนในรูปแบบของท่อหรือแผ่นลามิเนตได้

เว็บไซต์พิเศษ: Mitsui Chemicals TAFNEX (mitsuichemicals.com)

บริษัท *3 TCD ASIA CO., LTD.เป็นบริษัทย่อยในประเทศไทยของ TOYOTA CUSTOMIZING & DEVELOPMENT Co., Ltd.

อ้างอิง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/54087356/en

ข้อมูลติดต่อ

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ โปรดติดต่อ:
แผนกสื่อสารองค์กร
Mitsui Chemicals, Inc.
โทร.: +81-3-6880-7500
แบบฟอร์มสอบถาม: https://form.mitsuichemicals.com/corporate/cc_pr_csr_en?param=13

ฝ่ายสร้างตลาดใหม่ แผนกสร้างธุรกิจใหม่

ARRK Corporation

ที่อยู่อีเมลสำหรับสอบถาม: daishiro_takahashi@arrk.co.jp

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ TAFNEX CF/PP หรือชิ้นส่วนประกอบจากการพิมพ์แบบ 3 มิติ โปรดติดต่อ:
แผนกพัฒนาโมบิลิตี้โซลูชัน ภาคธุรกิจโมบิลิตี้โซลูชัน

Mitsui Chemicals, Inc.

ที่อยู่อีเมลสำหรับการสอบถามข้อมูล:
Atsushi.Miyata@mitsuichemicals.com (TAFNEX)
Naomi.Urakawa@mitsuichemicals.com (ชิ้นส่วนประกอบจากการพิมพ์แบบ 3 มิติ)
TAFNEX แบบฟอร์มสอบถาม

แหล่งที่มา: Mitsui Chemicals, Inc.

HARMAN ประกาศตั้งโรงงานผลิตแห่งใหม่ในประเทศไทย

Logo

โรงงานแห่งใหม่ที่ตั้งอยู่ในแหลมฉบังซึ่งห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 90 นาทีจะรองรับการผลิตทุกภาคส่วนของ HARMAN โดยมุ่งสร้างผลิตภัณฑ์ด้านยานยนต์ที่พร้อมใช้งานและโซลูชันด้านส่วนประกอบ

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE)–20 มิถุนายน 2024

HARMAN ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ในเครือ Samsung Electronics Co., Ltd. ได้จัดงานเปิดตัวการก่อสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นโรงงานใหม่ขนาด 47,000 ตร.ม. โดยประมาณและตั้งอยู่ในแหลมฉบัง ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 125 กิโลเมตร ตามกลยุทธ์ในการจัดตั้งขึ้นภายในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ของประเทศไทยและใกล้เคียงกับโรงงานผลิตของแบรนด์ด้านยานยนต์และเทคโนโลยีชั้นนำหลากหลายแห่ง

แม้โรงงานแห่งนี้จะรองรับหน่วยธุรกิจด้านยานยนต์ของ HARMAN หลายหน่วย แต่การผลิตที่โรงงานใหม่ในประเทศไทยนี้จะมุ่งเน้นด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในภาคส่วนยานยนต์ของบริษัทเป็นหลัก โดย HARMAN เป็นผู้นำระดับโลกในการผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับยานพาหนะที่เชื่อมต่อระหว่างกันที่จะเปลี่ยนเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ความเป็นจริงเสริม (Augmented Reality) และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ให้เป็นประสบการณ์การใช้งานด้านยานยนต์ที่มีคุณค่าต่อผู้บริโภค โรงงานผลิตแห่งใหม่ในประเทศไทยจะเอื้อให้บริษัทสามารถขยับขยายโซลูชันเหล่านี้เพิ่มเติมและบรรลุเป้าหมายตามคำสัญญาในการรังสรรค์ประสบการณ์การใช้งานภายในยานพาหนะให้แก่ผู้บริโภคในระดับยานยนต์

ประธานฝ่ายยานยนต์ของ HARMAN อย่าง Christian Sobottka ตลอดจนผู้นำระดับสูงรายอื่น ๆ ของ HARMAN ฉลองการเปิดตัวครั้งนี้โดยการร่วมมือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมของไทยอย่างพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล และเจ้าหน้าที่ของไทยรายอื่น ๆ ที่ได้กล่าวคำปราศรัยเกี่ยวกับการประสานกำลังในด้านเศรษฐกิจ นวัตกรรม และการเติบโตที่โรงงานใหม่ของ HARMAN จะให้การเกื้อหนุนในภูมิภาค

“HARMAN มุ่งมั่นในการรับรองให้แน่ใจว่าเราจะสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ด้านยานยนต์ที่พร้อมใช้งานตามความต้องการของพันธมิตร OEM ซึ่งจะเป็นการมอบประสบการณ์การใช้งานด้านไลฟ์สไตล์ที่เชื่อมต่อระหว่างกันให้แก่ผู้บริโภคดังที่ผู้บริโภคคาดหวังว่าจะได้รับภายในยานพาหนะของตน” Christian Sobottka ประธานฝ่ายยานยนต์ของ HARMAN กล่าว “การขยายแหล่งผลิตของเราไปยังพื้นที่อย่างประเทศไทยมาพร้อมกับข้อดีหลายประการ ตัวอย่างเช่น กลุ่มบุคลากรที่หลากหลายและการตั้งอยู่ในระยะที่ใกล้กับพันธมิตร OEM โดยประเทศไทยไม่เพียงมีประสบการณ์ด้านการผลิตที่สนับสนุนทั้งภาคส่วนยานยนต์และเทคโนโลยีมาหลายปี แต่ยังกำลังผันตัวเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตรายใหญ่ให้กับทั้งยานพาหนะไฟฟ้าและเทคโนโลยีด้านยานยนต์สมัยใหม่ ปัจจัยจากการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในด้านการผลิตเทคโนโลยีระดับสูงของประเทศไทยกับความรวดเร็วที่จำเป็นในการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าด้านยานยนต์ในปัจจุบันจึงเป็นเหตุให้เราตัดสินใจดำเนินการในภูมิภาคนี้ได้โดยง่าย”

“การตัดสินใจของ HARMAN ในการสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ในแหลมฉบังถือเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย” ดนัยณัฏฐ์ โชคอำนวย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกล่าว “การลงทุนครั้งนี้สอดรับกับกลยุทธ์ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจในวงกว้างของประเทศไทย ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการก่อตั้งซัพพลายเชนด้านยานยนต์สมัยใหม่ที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ โรงงานแห่งใหม่ยังจะมีส่วนช่วยเศรษฐกิจในพื้นที่โดยการสร้างโอกาสในการฝึกอบรมบุคลากรและงานใหม่ ๆ ให้แก่แรงงานในพื้นที่ 1,200”

HARMAN จะร่วมมือกับ ESR Group Limited (“ESR”) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการจัดการสินทรัพย์ที่จับต้องได้ตามหลักเศรษฐกิจกระแสใหม่แห่งเอเชียแปซิฟิกในการออกแบบและก่อสร้าง โดยการออกแบบโรงงานของ HARMAN จะยึดตามมาตรฐาน FM ระดับสากลในด้านความปลอดภัยและการคืนสภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวของประเทศไทย รวมทั้งจะมุ่งเป้าดำเนินการเพื่อให้ได้รับการรับรองระดับทองคำด้านความเป็นผู้นำด้านการออกแบบที่อนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม (Leadership in Energy and Environmental Design หรือ “LEED”) ที่เป็นระบบประเมินการก่อสร้างตามหลักอาคารสีเขียวที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด อีกทั้งยังเป็นตัวบ่งชี้ที่ได้รับการยอมรับเกี่ยวกับการบรรลุและความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน

HARMAN ดำเนินงานอยู่ทั่วโลกโดยมีโรงงานผลิตด้านยานยนต์ในบราซิล จีน ฮังการี อินเดีย และเม็กซิโก อีกทั้งยังมีพนักงานสำหรับการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการโดยเฉพาะอีกกว่า 12,000 ราย เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในราคา คุณภาพ และการส่งมอบที่เหมาะสม ซึ่งได้เลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ตั้งโรงงานผลิตแห่งใหม่ล่าสุดของ HARMAN เนื่องจากปริมาณการผลิตยานพาหนะเป็นจำนวนมากของประเทศ การมี OEM จัดตั้งอยู่อย่างมาก ตลอดจนสภาพแวดล้อมที่ประกอบด้วยบุคลากรอันหลากหลายสำหรับการผลิตเทคโนโลยี แม้ว่ามีการคาดการณ์ว่าจะก่อสร้างโรงงานเสร็จสิ้นในไตรมาสที่ 4 ของปี 2025 แต่ HARMAN จะเริ่มดำเนินการว่าจ้างบุคลากรในพื้นที่สำหรับตำแหน่งบางตำแหน่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ และวางแผนสร้างแรงงานในท้องถิ่นประมาณ 1,200 รายตั้งแต่ช่วงแรกเริ่มจนไปถึงวันเปิดทำการอย่างเป็นทางการของโรงงานในปีถัดไป

หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฝ่ายยานยนต์ของ HARMAN โปรดไปที่ car.harman.com

เกี่ยวกับ HARMAN

HARMAN (harman.com) ออกแบบและวางแผนวิศวกรรมสำหรับผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่เชื่อมต่อระหว่างกันสำหรับผู้ผลิตยานยนต์ ผู้บริโภค และองค์กรทั่วโลก รวมถึงระบบรถยนต์ที่เชื่อมต่อกัน ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเสียงและภาพ โซลูชันระบบอัตโนมัติสำหรับองค์กร ตลอดจนบริการที่รองรับอินเทอร์เน็ตประสานสรรพสิ่ง (Internet of Things) แบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ เช่น AKG®, Harman Kardon®, Infinity®, JBL®, Lexicon®, Mark Levinson® และ Revel®  ส่งผลให้ HARMAN มีชื่อเสียงในหมู่ผู้ชื่นชอบเกี่ยวกับเสียง นักดนตรี และสถานที่จัดงานบันเทิงที่ใช้จัดการแสดงทั่วโลก รถยนต์กว่า 50 ล้านคันที่ขับเคลื่อนอยู่บนถนนในปัจจุบันประกอบด้วยระบบเสียงและระบบรถยนต์ที่เชื่อมต่อกันของ HARMAN บริการซอฟต์แวร์ของเราช่วยขับเคลื่อนอุปกรณ์เคลื่อนที่และระบบต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อกันหลายพันล้านรายการ ซึ่งผสานการทำงานอย่างปลอดภัยทั่วทุกแพลตฟอร์ม ตั้งแต่ที่ทำงานและที่บ้าน ไปจนถึงรถยนต์และอุปกรณ์เคลื่อนที่ HARMAN มีแรงงาน 30,000 รายโดยประมาณทั่วอเมริกา ยุโรป และเอเชีย โดย HARMAN ได้กลายเป็นบริษัทในเครือที่ Samsung Electronics Co., Ltd. เป็นเจ้าของทั้งหมดในเดือนมีนาคม 2017

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Dawn Geary
ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารระดับสากล – ยานยนต์
+1 248-463-0921
Dawn.Geary@harman.com

แหล่งข้อมูล: HARMAN

ระบบจัดการสถานีชาร์จ (CSMS) ของ Autel Energy ได้รับการรับรอง OCPP 2.0.1 ถือเป็นการยกระดับการทำงานร่วมกันและความปลอดภัยในการชาร์จ EV ขั้นสูง

Logo

นครนิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–11 มิถุนายน 2024

Autel Energy ผู้ให้บริการโซลูชั่นและบริการระบบการชาร์จ EV (รถยนต์ไฟฟ้า) ชั้นนำ ได้ประกาศอย่างภาคภูมิใจว่าระบบจัดการสถานีชาร์จ (CSMS) นั้นได้รับการรับรอง OCPP 2.0.1 จาก Open Charge Alliance (OCA) แล้ว ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าของความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาความสามารถในการทำงานร่วมกันและความปลอดภัยของโซลูชั่นการชาร์รถไฟฟ้า(EV) และตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมธุรกิจการชาร์จรถไฟฟ้า EV

Autel Energy’s Charging Station Management System (CSMS) Achieves OCPP 2.0.1 Certification (Graphic: Business Wire)

ระบบการจัดการสถานีชาร์จ (CSMS) ของ Autel Energy ได้รับการรับรอง OCPP 2.0.1 (กราฟิก: Business Wire)

OCPP 2.0.1 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดของ Open Charge Point Protocol (OCPP) ที่ออกโดย OCA ในปี 2020 ถือเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับทั่วโลกในด้านการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพระหว่างสถานีชาร์จและซอฟต์แวร์การจัดการสถานีชาร์จ โปรโตคอลนี้มอบความสามารถในการชาร์จอัจฉริยะขั้นสูงและคุณสมบัติในการควบคุมที่ได้รับการปรับปรุงสำหรับสาธารณูปโภค ผู้ดำเนินกิจการสถานีชาร์จ (CPO) และเจ้าของรถไฟฟ้า ปัจจุบัน มีเพียง 14 บริษัททั่วโลกเท่านั้นที่ได้รับการรับรองอันทรงเกียรตินี้

CSMS ของ Autel Energy มีโปรไฟล์ Core และโปรไฟล์ความปลอดภัยขั้นสูงและสมบูรณ์แบบของระบบ OCPP 2.0.1 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น นอกจากนี้ Autel ยังได้สรุปการพัฒนาสำหรับโปรไฟล์ที่เหลืออีก 6 โปรไฟล์ของ OCPP 2.0.1 และพร้อมที่จะได้รับการรับรองเต็มรูปแบบทันทีที่ OCA เปิดกระบวนการรับรองสำหรับโปรไฟล์เหล่านี้

โซลูชั่นซอฟต์แวร์การชาร์จ Autel EV ประกอบด้วย CSMS และแอปพลิเคชั่นการชาร์จ ทั้งยังให้บริการลูกค้ามากกว่า 100,000 รายในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก รองรับการชาร์จมากกว่า 600,000 ครั้งต่อเดือน และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 42 ล้านกิโลกรัม

ด้วยการได้รับการรับรอง OCPP 2.0.1 Autel รับประกันความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นผ่านการใช้โปรโตคอล Transport Layer Security (TLS) ซึ่งรองรับกลไกการเข้ารหัสและการตรวจสอบสิทธิ์การใช้งานที่จำเป็น ด้วยการใช้โปรโตคอลการสื่อสารที่ได้มาตรฐาน CSMS รับประกันการรับส่งข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ โดยมีการเข้ารหัสการรับส่งข้อมูลทั้งหมดระหว่างสถานีชาร์จและระบบคลาวด์เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล การปลอมแปลง และการโจมตี การตรวจสอบสิทธิ์แบบสองทางระหว่างสถานีชาร์จและระบบคลาวด์ทำให้มั่นใจได้ว่าปลายทั้งสองด้านของการสื่อสารนั้นเชื่อถือได้ ช่วยป้องกันการเข้าถึงอุปกรณ์โดยไม่ได้รับอนุญาต CSMS นำเสนอความสามารถในการทำงานร่วมกันที่ยอดเยี่ยมและความเสถียรของระบบที่เป็นเลิศ สามารถผสานรวมอุปกรณ์ชาร์จจากผู้ผลิตหลายรายได้อย่างราบรื่น ทำให้มีความมั่นใจได้ถึงความเข้ากันได้ในวงกว้าง อีกทั้งยังมีความคล่องตัว ตลอดจนความเสถียรสูงและน่าเชื่อถือ

ความสำเร็จนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำ ของระบบการจัดการสถานีชาร์จรถไฟฟ้า ของ Autel Energy ในด้านนวัตกรรมและศักยภาพทางเทคโนโลยี รวมถึงโปรโตคอลหลักของอุตสาหกรรม เพิ่มความไว้วางใจของลูกค้าและความสามารถในการแข่งขัน ความยืนยัน และความมุ่งมั่นของเรา ในการจัดหาโซลูชันการชาร์จคุณภาพสูง ที่มีความปลอดภัย และทำงานร่วมกันได้กับทุกระบบ

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/54038346/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Tom Rakoczy ผู้จัดการฝ่ายการตลาด
tomr@autel.com

แหล่งที่มา: Autel Energy

กลุ่ม Mitsui Chemicals Group และ ARRK Thailand จัดนิทรรศการ MotionTech 2024 เป็นครั้งแรก

Logo

จัดแสดงวัสดุและเทคโนโลยีเพื่อการขับเคลื่อนแห่งอนาคต

กรุงเทพมหานคร–(BUSINESS WIRE)–13 กุมภาพันธ์ 2024

Mitsui Chemicals Asia Pacific (MCAP) – กลุ่มMitsui Chemicals และ ARRK Thailand จะร่วมกันจัดนิทรรศการสาธารณะในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ซึ่งจะจัดแสดงวัสดุและเทคโนโลยีต่างๆ สำหรับการขับเคลื่อนแห่งอนาคต ที่ได้พัฒนาโดยกลุ่ม Mitsui Chemicals และกลุ่ม ARRK นิทรรศการ MotionTech 2024 จะเป็นนิทรรศการลักษณะดังกล่าวครั้งแรกของทั้งสององค์กร

ผู้เข้าชมสามารถชมเทคโนโลยีล่าสุดและวัสดุที่ใช้งานได้จริงสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งจัดขึ้นมากกว่าสองช่วง นอกจากนั้นยังมีนิทรรศการ touch-and-feel (สัมผัสและรับรู้) สำหรับวัสดุต่างๆ ที่ผลิตโดยกลุ่ม Mitsui Chemicals นอกจากนี้ MOLp (Mitsui Chemicals Material Oriented Laboratory) ซึ่งเป็นงานแสดงนวัตกรรมที่ได้รับการตอบรับอย่างดีในญี่ปุ่น จะมาปรากฏตัวพร้อมกับผลิตภัณฑ์บางส่วนที่นำเสนอไปในนิทรรศการครั้งก่อนๆอีกด้วย

งานนี้ได้รับความร่วมมืออย่างภาคภูมิใจโดย Mitsui Chemicals Asia Pacific, Mitsui Chemicals (Thailand) และ ARRK Thailand

รายละเอียดของนิทรรศการ

ช่วงแรก

วันที่

15 ถึง 16 กุมภาพันธ์ 2024

สถานที่

โรงแรม Nikko Hotel กรุงเทพฯ (ชั้น4)

27 ทองหล่อ, คลองตันเหนือ, วัฒนา, กรุงเทพฯ 10110

ช่วงที่สอง

วันที่

20 กุมภาพันธ์ 2024

สถานที่

โรงแรม Pacific Park ศรีราชา

2 1 ศรีราชานคร 3, ศรีราชา, อ.ศรีราชา, ชลบุรี 20110

เข้าชมได้ฟรี รับวอล์คอินสำหรับทุกท่าน (Walk-in) ไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า เชิญเข้าชมเว็บไซต์ Asia Pacific website เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับ MotionTech 2024 หรือท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้

เกี่ยวกับ MOLp

MOLp™ เป็นโครงการห้องปฏิบัติการแบบเปิดโดย Mitsui Chemicals Group ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อค้นหาเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่และคุณค่าเชิงฟังก์ชันของวัสดุโดยการใช้ประสาทสัมผัสที่หลากหลายอย่างเต็มที่

เชิญเยี่ยมชมเว็บไซต์ MOLp™ website เพื่อทำความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับแรงบันดาลใจเบื้องหลังผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้

บางโครงการของ MOLp™ จะนำเสนอใน MotionTech 2024 ด้วย:

321 IDEA CAVE

https://youtu.be/QJ4Uvl2k-Tk?si=bc0R-yIYK6b1YTB2

NAGORI® products

https://youtu.be/-zpoeglo8zc?si=kDCMTr-ojw4IKLgY

TAFNEX™ bench

https://jp.mitsuichemicals.com/en/release/2022/2022_1018/index.htm

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53893280/en

ติดต่อ

หากต้องการสอบถามเกี่ยวกับข่าวประชาสัมพันธ์นี้ โปรดติดต่อ:

Eric Lim
การสื่อสารองค์กรและการตลาด
Mitsui Chemicals Asia Pacific, Ltd.
eric.lim@mitsuichemicals.com

แหล่งที่มา: Mitsui Chemicals Asia Pacific 


The Bangkok Reporter