AI สามารถช่วยคุณจองทริปที่สมบูรณ์แบบได้แล้วในวันนี้

Logo

REYKJAVIK, Iceland–(BUSINESS WIRE)–14 กันยายน 2023

Guide to Europe ประกาศความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่ในการวางแผนการเดินทาง: Travis นักวางแผนการเดินทางด้วย AI ที่ดำเนินการโดย AI โดยนำเสนอแผนการเดินทางที่ปรับให้เหมาะสมแก่ผู้ใช้ โดยอิงจากความต้องการของลูกค้า สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง การผสมผสานข้อมูลรีวิว เวลาเปิดทำการ และตัวแปรสำคัญอื่นๆ

Helgi Páll Helgason is the visionary of Travis and the Head of AI at Travelshift, the maker of Guide to Europe (Photo: Business Wire)

Helgi Páll Helgason เป็นผู้มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของ Travis และหัวหน้าฝ่าย AI ของ Travelshift ผู้สร้างสรรค์ Guide to Europe (ภาพถ่าย: Business Wire)

การใช้อัลกอริธึม AI ที่ล้ำสมัยนี้ Travis มีการคัดสรรสถานที่ท่องเที่ยงที่ไม่มีใครเทียบและมีการปรับเส้นทางให้เหมาะสมเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่น

Chatbot ก้าวไปไกลกว่าการวางแผนแบบเดิมๆ ด้วยการนำเสนอบริการที่ดีที่สุดที่มีการปรับให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้าและรีวิว ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูและจองทริปทั้งหมดได้ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพียงขั้นตอนเดียว

Dr. Helgi Helgason หัวหน้าฝ่าย AI ของ Guide to Europe และผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลสำหรับ Travis กล่าว "เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัว Chatbot ที่ปฏิวัติวิธีการวางแผนการเดินทางของผู้คนต่างๆ Travis ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโต้อตอบและค้นหาทริปที่สมบูรณ์แบบได้โดยใช้ภาษาธรรมชาติ คุณไม่จำเป็นแม้การระบุจุดหมายปลายทาง คุณยังสามารถระบุประสบการณ์ที่คุณต้องการ เช่น สภาพอากาศ ภูมิภาค หรือวัฒนธรรม Travis สามารถประหยัดเวลาและลดความเครียดของลูกค้าได้โดยลูกค้าสามารถจองทริปที่วางแผนไว้อย่างสมบูรณ์แบบได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจ"

Helgi กล่าวเสริมว่า "Travis ไม่ได้เป็นเพียงนักวางแผนการเดินทางเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้เปลี่ยนเกม โดยการใช้ข้อมูลจำนวนมหาศาล ช่วยในการวางแผนการเดินทางสำหรับคุณได้อย่างพิถีพิถัน พร้อมความมั่นใจว่า เราสามารถทำได้เกินขีดความสามารถของมนุษย์ทั้งในด้านความแม่นยำและความรวดเร็ว ไม่ใช่เพียงการจองทริปเท่านั้น แต่เป็นการทำให้ทริปนั้นสมบูรณ์แบบ"

พร้อมการเปิดตัวบริการที่เป็นนวัตกรรมนี้ Guide to Europe ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำด้านเทคโนโลยีการท่องเที่ยว โดยนำเสนอมิติใหม่ในการวางแผนการเดินทาง การค้นหา และการจองวันหยุดในยุโรป

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53554011/en

ติดต่อ

Dr. Helgi Páll Helgason, helgi@travelshift.com

แหล่งข้อมูล: Travelshift

Seoul Edition 23 เปิดตัวแคมเปญระดับโลก “Seoul, Make It Yours” โดย V วง BTS

Logo

โซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–4 กันยายน 2023

รัฐบาลกรุงโซลและองค์การการท่องเที่ยวกรุงโซลประกาศเปิดตัว Seoul Edition 23: New Tradition วิดีโอแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซลที่ร่วมกับ V ศิลปินวง BTS ทั่วโลกในวันที่ 1 กันยายน วิดีโอทีเซอร์ได้รับการตอบรับอย่างมีล้นหลาม โดยมียอดดูถึง 400,000 ครั้งในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์

Seoul Tourism Organization has released Seoul Edition 23: New Tradition, a Seoul tourism promotional campaign video featuring BTS member V on VisitSeoul TV, the official YouTube channel for Seoul tourism. (Graphic: Business Wire)

องค์การการท่องเที่ยวกรุงโซลได้เปิดตัว Seoul Edition 23: New Tradition ซึ่งเป็นวิดีโอแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซลที่มี V ศิลปินวง BTS บน VisitSeoul TV ซึ่งเป็นช่อง YouTube อย่างเป็นทางการสำหรับการท่องเที่ยวกรุงโซล (กราฟิก: Business Wire)

แคมเปญภาคที่สอง Seoul Edition 23: Nature in the City มีกำหนดปล่อยวันที่ 8 กันยายน

วิดีโอส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซลประจำปี 2023 ที่ร่วมกับ V ศิลปินวง BTS และทูตการท่องเที่ยวกิตติมศักดิ์ของกรุงโซลเผยแพร่ทาง VisitSeoul TV (https://www.youtube.com/VisitSeoulTV) ซึ่งเป็นช่อง YouTube อย่างเป็นทางการสำหรับการท่องเที่ยวกรุงโซลที่ดำเนินการโดยองค์การการท่องเที่ยวกรุงโซล

วิดีโอชุดแรก New Tradition เป็นการแนะนำกรุงโซลและความสามารถในการรวบรวมองค์ประกอบของอดีตเข้ากับในยุคปัจจุบัน วิดีโอเริ่มต้นด้วยชื่อ Seoul Edition โดยมี V อยู่ในฉากหลังของกรุงโซล จากนั้นจะดำเนินต่อไปเพื่อแสดงให้เห็นว่าเครื่องหมายและสัญลักษณ์แบบดั้งเดิมของเมืองยังคงรวมอยู่ในชีวิตประจำวันของเราในรูปแบบที่ทันสมัย เช่น แฟชั่น Y2K ที่พบในตลาดทงมโย ร้านกาแฟสมัยใหม่ในตลาดแบบดั้งเดิม และนิทรรศการสถาปัตยกรรมสื่อในจัตุรัสควางฮวามุน วิดีโอปิดท้ายด้วยข้อความว่า Seoul, Make It Yours เพื่อกระตุ้นให้ผู้ชมทั่วโลกอยากที่จะคว้าโอกาสเพื่อสัมผัสกับกรุงโซลในทันที

วิดีโอชุดที่สอง Nature in the City ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 8 กันยายน นำเสนอวิถีชีวิตของชาวโซลที่โอบกอดธรรมชาติในย่านใจกลางเมืองที่พลุกพล่าน

นอกจากนี้ กิจกรรม Seoul Edition Hashtag จะจัดขึ้นเป็นเวลาหนึ่งเดือนในเดือนกันยายนทางช่องทางโซเชียลมีเดียของ Visit Seoul ผู้ที่โพสต์แฮชแท็กที่กำหนดพร้อมรูปถ่ายสถานที่ที่ต้องการเยี่ยมชมหรือแนะนำ จะได้เข้าร่วมการจับรางวัลเพื่อรับสิทธิ์ลุ้นตั๋วเครื่องบินไป-กลับกรุงโซล รวมถึงบัตรกำนัลการเข้าพักที่โรงแรมระดับห้าดาวเป็นเวลาสองคืน สามารถดูรายละเอียดกิจกรรมได้ที่ช่องทาง Instagram อย่างเป็นทางการของ Visit Seoul (@visitseoul_official) และช่องทางโซเชียลมีเดีย Visit Seoul อื่น ๆ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน

แคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวกรุงโซลมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการจัดแสดงสโลแกนใหม่ของรัฐบาลกรุงโซลอย่าง Seoul, My Soul ไปทั่วโลก ภายใต้สโลแกนใหม่นี้ เนื้อหาแคมเปญจะถูกเผยแพร่สู่ผู้คนทั่วโลกโดยใช้ช่องทางสื่อกลางแจ้งที่มีอิทธิพลในหกเมืองใหญ่ รวมถึงไทม์สแควร์ในนิวยอร์กซิตี้ โตเกียว เซี่ยงไฮ้ กรุงเทพฯ และไทเป เนื้อหาที่แสดงทั้งหมดจะสอดคล้องกับธีมของการถ่ายเซลฟี่กับ V โดยหวังว่าจะสร้างกระแสในหมู่แฟน ๆ และผู้ชมที่สนใจในชุมชนทั่วโลก

แคมเปญนี้จะถูกเผยแพร่ทั่วโลกในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และภูมิภาคอื่น ๆ ของเอเชีย ผ่านทางเครือข่ายโทรทัศน์หลัก ๆ เช่น CNN และ NBC รวมถึงสื่อ New York Times

นอกเหนือจากการส่งเสริมโซลให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว องค์การการท่องเที่ยวกรุงโซลต้องการจะสื่อข้อความอันหนักแน่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยการอธิบายว่ากรุงโซลที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั้นเป็น "สิ่งที่หาไม่ได้จากที่ไหน" แคมเปญนี้ยังให้ความสำคัญกับการกำหนดโทนภาพลักษณ์ของกรุงโซลในฐานะเมืองที่โอบรับเทรนด์ "newtro" ควบคู่ไปกับความสามารถในการกลมกลืนกับธรรมชาติทั้งในและรอบ ๆ กรุงโซล

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53547150/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Kwon Dayoung
kndy@sto.or.kr

ที่มา: องค์การการท่องเที่ยวกรุงโซล


สมาคมเจ-โฮตาเตะ (J-HOTATE) เตรียมจัดแสดงอาหารญี่ปุ่นสดใหม่คุณภาพสูงที่งานซีฟู้ดเอ็กซ์โปเอเชีย (Seafood Expo Asia)

Logo

ซัปโปโร, ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–1 กันยายน 2023

ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อขยายการส่งออกหอยเชลล์ญี่ปุ่น สมาคมส่งเสริมการส่งออกหอยเชลล์แห่งญี่ปุ่น (หรือที่เรียกว่า “สมาคมเจ-โฮตาเตะ [J-HOTATE]” ประธาน Ichiro Nomura ซัปโปโร ฮอกไกโด) จะจัดแสดงสินค้าที่งาน Seafood Expo Asia ระหว่างวันที่ 11 กันยายนถึง 13 กันยายนที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อจัดแสดงหอยเชลล์ญี่ปุ่นให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางสู่ตลาดเอเชีย หอยเชลล์ญี่ปุ่น (หรือเรียกว่าโฮตาเตะ) ได้รับการรับรองถึงเรื่องรสชาติ ขนาด และคุณภาพที่ยอดเยี่ยม คุณสามารถเพลิดเพลินกับหอยเชลล์สดๆ ได้ตลอดทั้งปี โดยอาศัยวิธีการเพาะเลี้ยง/การเก็บเกี่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีขั้นสูงในการรักษาความสด ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งผลิตหอยเชลล์ ในฮอกไกโด อาโอโมริ อิวาเตะ และมิยางิ กระแสน้ำในมหาสมุทรในท้องถิ่นมีสารอาหารที่อุดมสมบูรณ์มาก ถือเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงหอยเชลล์ริมฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง

Japanese Scallop - A Sustainable Gastronomic Delight (Photo: Business Wire)

หอยเชลล์ญี่ปุ่น – ความสุขด้านอาหารอย่างยั่งยืน (ภาพ: Business Wire)

หอยเชลล์ยังเป็นที่รู้จักว่าเป็นอาหารทะเลที่ดีต่อสุขภาพ อุดมไปด้วยสารอาหาร เช่น วิตามินบี 1 ซึ่งมีประสิทธิภาพในการบรรเทาความเหนื่อยล้าและเพิ่มสมาธิ และยังมีทอรีนซึ่งช่วยในการทำงานของหัวใจและตับ และช่วยป้องกันโรคเบาหวาน นอกจากนี้ หอยเชลล์ยังมีโปรตีนสูงและแคลอรี่ต่ำ จึงเหมาะที่จะเป็นซุปเปอร์ฟู้ด

ญี่ปุ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะที่แตกต่างจากที่อื่นๆ ของโลก ตรงที่พื้นที่การจับปลาและท่าเรืออยู่ใกล้กัน ทำให้สามารถแปรรูปและจำหน่ายหอยเชลล์ได้ทันทีหลังจากจับได้ และกลายเป็นเรื่องปกติในญี่ปุ่นที่หอยเชลล์จะต้องรับประทานดิบๆ ในปัจจุบัน หอยเชลล์จะถูกแช่แข็งอย่างรวดเร็วทันทีหลังจากขึ้นฝั่ง ทำให้สามารถจำหน่ายไปต่างประเทศโดยยังคงรักษาคุณภาพไว้ได้

การส่งออก “ผลิตภัณฑ์หอยเชลล์ญี่ปุ่น” จากญี่ปุ่นไปยังประเทศอื่นๆ มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 94.5 พันล้านเยน (น้ำหนักประมาณ 128,000 ตัน) ในปี 2022 ซึ่งเกินกว่ามูลค่าสองเท่า (มากกว่า 1.6 เท่าของน้ำหนัก) จากปี 2020 เมื่อตลาดหยุดชะงักเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19

ข้อมูลการส่งออกหอยเชลล์ญี่ปุ่น (ทั่วโลก)

(หน่วย:ตัน/ล้านเยน/กิโล)

2020

2021

2022

น้ำหนัก

จำนวน

PPU

น้ำหนัก

จำนวน

PPU

น้ำหนัก

จำนวน

PPU

แบบดิบ

13,990

5,090

364

19,597

8,173

417

16,356

9,512

582

แห้ง

1,167

7,154

6,128

994

5,967

6,001

454

3,914

8,628

แช่แข็ง

63,556

26,216

412

96,392

55,877

580

111,392

81,099

728

รวม

78,713

38,460

489

116,983

70,018

599

128,203

94,526

737

ที่มา:สมาคมเจ-โฮตาเตะ

ในการจัดแสดงสินค้านี้ เรามุ่งหวังที่จะขยายการส่งออกหอยเชลล์ญี่ปุ่นให้มากขึ้น และเผยแพร่รูปแบบการ 'รับประทานดิบ' แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น เพื่อลิ้มรสหอยเชลล์ที่อุดมไปด้วยสารอาหารอย่างเต็มที่ ที่บูธของเรา มีพื้นที่จัดประชุม ข้อมูลผลิตภัณฑ์ และพื้นที่การผลิต ตลอดจนการจัดแสดงผลิตภัณฑ์แช่แข็ง/อุณหภูมิห้อง และตัวอย่างหอยเชลล์ญี่ปุ่น

ข้อมูลการจัดแสดง

ชื่องาน: ซีฟู้ดเอ็กซ์โปเอเชีย (Seafood Expo Asia)

(https://www.seafoodexpo.com/asia/)

บูธเลขที่: K01

วันที่: วันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2023 ถึงวันพุธที่ 13 กันยายน 2023

สถานที่: ศูนย์นิทรรศการและการประชุมแซนด์ส (SANDS EXPO AND CONVENTION CENTRE)

เกี่ยวกับสมาคมส่งเสริมการส่งออกหอยเชลล์แห่งญี่ปุ่น (“สมาคมเจ-โฮตาเตะ [J-HOTATE]”)

สมาคมส่งเสริมการส่งออกหอยเชลล์แห่งญี่ปุ่น (หรือที่เรียกว่า “สมาคมเจ-โฮตาเตะ [J-HOTATE]”)

ก่อตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2021 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายการส่งออกหอยเชลล์ญี่ปุ่นซึ่งขึ้นชื่อในด้านคุณภาพและความอร่อยที่ดีต่อสุขภาพด้วยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแบบยั่งยืน ปัจจุบันสมาคมเจ-โฮตาเตะ (J-HOTATE) ประกอบด้วยสมาชิก 72 ราย รวมถึงผู้ผลิต (สมาคมสหกรณ์ประมง) และผู้แปรรูปที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกหอยเชลล์ นอกเหนือจากผู้จัดจำหน่ายที่เกี่ยวข้องกับการประมงของญี่ปุ่นและผู้ค้า https://j-hotate.com/

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53545494/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

การติดต่อ

สำหรับสื่อมวลชนสอบถามข้อมูล:

สำนักงานประชาสัมพันธ์สมาคมเจ-โฮตาเตะ (J-HOTATE) (หน่วยงานอาซาฮี)

j-hotate@asahi-ag.co.jp

ที่มา: สมาคมเจ-โฮตาเตะ (J-HOTATE)


ศาลาว่าการกรุงโตเกียวเปิดไซต์ประชาสัมพันธ์ “#Tokyo Tokyo BASE” ในอาคารผู้โดยสาร 3 ของสนามบินนานาชาติฮาเนดะ

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–1 กันยายน 2023

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2023 ศาลาว่าการกรุงโตเกียวได้เปิดไซต์ประชาสัมพันธ์ของโตเกียว "#Tokyo Tokyo BASE" ในอาคารผู้โดยสาร 3 ของสนามบินนานาชาติฮาเนดะ โตเกียว และประตูสู่ท้องฟ้าของญี่ปุ่น

Opening ceremony (Photo: Business Wire)

พิธีเปิด (ภาพ: Business Wire)

"#Tokyo Tokyo BASE" จัดตั้งขึ้นเพื่อสื่อสารกับนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติเกี่ยวกับเสน่ห์ของโตเกียว ที่ซึ่งประเพณีและวัฒนธรรมล้ำสมัยอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เราจะจำหน่าย "Tokyo Omiyage (ของที่ระลึกของโตเกียว)" ที่พัฒนาร่วมกัน โดยศาลาว่าการกรุงโตเกียวกับธุรกิจเอกชน เช่น งานหัตถกรรมแบบดั้งเดิม เครื่องเขียน และอาหาร นอกจากการขายของที่ระลึกแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปและประสบการณ์วัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบลงมือปฏิบัติจริงในร้านอีกด้วย เพื่อเผยแพร่เสน่ห์ดึงดูดใจของโตเกียว

Hello Kitty และ Hakken ร่วมงานประชาสัมพันธ์ “Tokyo Omiyage (ของที่ระลึกของโตเกียว)”

Hello Kitty ตัวละครจาก Sanrio ที่มีชื่อเสียงระดับโลกและคอสเพลย์เยอร์ Hakken ซึ่งเป็นทูตการท่องเที่ยวกรุงโตเกียว ได้ปรากฏตัวเป็นแขกรับเชิญพิเศษในพิธีเปิดเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการเปิดร้านและกิจกรรมภายในร้าน ซึ่งได้สร้างสีสันในการเปิดร้านครั้งนี้

Hakken ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปิดร้านว่า “ฉันตั้งตารอคอยมากว่าที่ร้านจะมีจำหน่ายอะไรบ้าง” ซึ่งเขาได้ลองเสี่ยงโชคหยิบโอมิคุจิ (แผ่นทำนายดวงชะตา) ที่ร้านและดูเหมือนเขาจะชอบพัดไม้ไซเปรสที่โอมิคุจิแนะนำ และยังกล่าวถึงพัดว่ามี “กลิ่นที่ดมแล้วผ่อนคลาย”

ในคำกล่าวเปิดงาน Akiko Matsumoto รองผู้อำนวยการสำนักงานกิจการอุตสาหกรรมและแรงงาน ศาลาว่าการกรุงโตเกียว กล่าวว่า "ฉันอยากให้คุณสัมผัสเสน่ห์อันหลากหลายของโตเกียวด้วยร้านนี้"

ภาพรวมร้านค้า

ที่อยู่:

อาคารผู้โดยสาร 3 ของสนามบินนานาชาติฮาเนดะ ชั้น 4  EDO MARKET PLACE (2-6-5, สนามบินนานาชาติฮาเนดะ, เขตโอตะ, โตเกียว)

เวลาทำการ:

8.00 น. ถึง 21.00 น.

เนื้อหาการใช้งาน:

  • จำหน่าย "Tokyo Omiyage (ของที่ระลึกของโตเกียว)"
    โปรดดูผลิตภัณฑ์ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
    https://tokyotokyo.jp/article/omiyage/
  • จัดแสดงเวิร์คช็อปและประสบการณ์ด้านวัฒนธรรมของญี่ปุ่น
  • ป้าย มุมประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ที่สื่อถึง "ยุคปัจจุบัน" ของโตเกียว

©'23 SANRIO CO., LTD. APPR.NO L642720

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53527558/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

สำหรับนักข่าวที่ต้องการติดต่อเกี่ยวกับเรื่องนี้
Shigeki Yamaguchi
ผู้อำนวยการฝ่ายขายเมือง แผนกการท่องเที่ยว สำนักอุตสาหกรรมและแรงงาน ศาลาว่าการกรุงโตเกียว
Shigeki_Yamaguchi@member.metro.tokyo.jp

ที่มา: Tokyo Metropolitan Government




เนื่องจาก teamLab Planets ในโตเกียวได้ต้อนรับผู้เยี่ยมชมจากต่างประเทศกว่า 1 ล้านคนในช่วง 6 เดือน Immersive Museum จึงได้เปิดตัวพื้นที่สำหรับงานศิลปะใหม่อีกครั้ง

Logo

ด้วยรายงานว่าประมาณ 1 ใน 10 ของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่มาเยือนญี่ปุ่นนั้นเข้าเยี่ยมชม teamLab Planets พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเปิดให้บริการจนถึงปี 2027

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–31 สิงหาคม 2023

teamLab Planets TOKYO DMM ("teamLab Planets") ซึ่งพิพิธภัณฑ์แบบให้ร่างกายของผู้ชมเข้าไปมีส่วนร่วมกับชิ้นงาน (body-immersive museum)โดยกลุ่มศิลปะ teamLab ในโทโยสุ กรุงโตเกียว ได้เฉลิมฉลองการครบรอบปีที่ห้าด้วยการปรับปรุงพื้นที่งานศิลปะใหม่ เพื่อทำให้มันเป็นประสบการณ์ที่ดื่มด่ำยิ่งขึ้น

As visitors touch the countless crystals of light floating in the air, the work transforms interactively. On view at teamLab Planets, a body immersive museum in Toyosu, Tokyo. (teamLab, Ephemeral Solidified Light / Photo: teamLab)

เมื่อผู้เข้าชมสัมผัสคริสตัลไฟนับไม่ถ้วนที่ลอยอยู่ในอากาศ ผลงานศิลปะดังกล่าวจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในแบบที่ผู้เข้าชมมีปฏิสัมพันธ์ด้วย ภาพที่ teamLab Planets ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ผู้เข้าชมมีโอกาสคลุกคลีกับงานศิลปะที่ย่านโทะโยะซุในกรุงโตเกียว (teamLab, โซน Ephemeral Solidified Light / รูปถ่าย: teamLab)

ในช่วงหกเดือนตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงสิงหาคม 2023 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้ต้อนรับผู้เข้าชมประมาณหนึ่งล้านคนจาก 182 ประเทศและภูมิภาคนอกประเทศญี่ปุ่น คิดเป็น 70% ของจำนวนผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ทั้งหมด (*1) ทั้งยังมีรายงานด้วยว่าประมาณ 1 ใน 10 ของผู้มาเยือนญี่ปุ่นจากต่างประเทศมาเยี่ยมชม teamLab Planets (*2)

การติดตั้งที่เพิ่งเปิดตัวใหม่EPHEMERAL SOLIDIFIED LIGHT

ภายในงานศิลปะอันน่าตื่นตาซึ่งผู้มาเยือนสัมผัสได้ด้วยการลงไปในน้ำ และยังมีมวลแสงจำนวนนับไม่ถ้วนลอยอยู่ในอากาศ โดยแต่ละดวงประกอบด้วยสีสันหลากหลาย ขอบของแต่ละสีนั้นแยกออกจากกันอย่างชัดเจนราวกับเป็นของแข็ง การแยกมวลแสงที่ดูเหมือนสีทึบนั้นไม่พบในโลกธรรมชาติ และเกิดจากการประสานกันอย่างรุนแรง ปรากฏการณ์การประสานกันนี้สร้างโครงสร้างที่มีลำดับขนาดใหญ่ผ่านการจัดระเบียบตนเองเมื่อเวลาผ่านไป

การปรับปรุงพื้นที่งานศิลปะใหม่

ใน The Infinite Crystal Universe งานศิลปะนั้นสร้างประติมากรรมสามมิติจากกลุ่มของจุดแสง ผู้เข้าชมสามารถมีส่วนร่วมในชิ้นงานได้โดยใช้แอป teamLab และสร้างสรรค์งานศิลปะร่วมกับคนอื่นๆ ในพื้นที่ ด้วยการขว้างดาวที่คุณเลือกจากแอป ประติมากรรมแสงจะถูกสร้างขึ้นต่อหน้าคุณรวมทั้งพื้นที่ของชิ้นงานนี้ก็ถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มประติมากรรมแสงเหล่านี้ด้วย ด้วยการปรับปรุงใหม่ ประติมากรรมแสงใหม่ห้าชิ้นได้ถูกเพิ่มเข้ามาในสถานที่จัดวาง

การแสดงผลงานศิลปะประกอบไปด้วยวงกลมของแสงที่จะเปลี่ยนเป็นสีคลุมเครือตามปฏิกิริยาตอบโต้ของผู้คน Expanding Three-dimensional Existence in Transforming Space และพื้นที่งานศิลปะอื่นๆ หลายแห่งที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ เพื่อเพิ่มประสบการณ์การดื่มด่ำด้วยร่างกายทั้งหมดได้

นอกจากนี้ teamLab Planets ซึ่งเดิมมีกำหนดปิดในปลายปี 2023 ได้ถูกขยายออกไปจนถึงสิ้นปี 2027 เนื่องจากความนิยมของพิพิธภัณฑ์อีกด้วย

แนวคิดเบื้องหลัง TEAMLAB PLANETS

เชื่อมโยงกับผู้อื่น  พาร่างกายทั้งหมดเข้าไป รับรู้ด้วยร่างกายของคุณ และหลอมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันกับโลก

teamLab Planets เป็นพิพิธภัณฑ์ที่คุณจะได้เดินผ่านน้ำ และสวนซึ่งทำให้คุณเป็นหนึ่งเดียวกับดอกไม้ ที่นั่นประกอบด้วยพื้นที่แสดงผลงานศิลปะขนาดใหญ่ 4 แห่ง และสวน 2 แห่งซึ่งสร้างโดยกลุ่มงานศิลปะ teamLab

ผู้คนจะเดินเท้าเปล่าและดื่มด่ำกับงานศิลปะอันกว้างใหญ่ร่วมกับคนอื่นๆ โดยงานศิลปะนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปตามการปรากฏตัวของผู้คน ทำให้การรับรู้ขอบเขตระหว่างตนเองกับผลงานพร่ามัว เมื่อบุคคลอื่นๆ ก็มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงของงานศิลปะ ทำให้ขอบเขตระหว่างตนเองกับผลงานนั้นไม่ชัดเจน และสร้างความต่อเนื่องกันระหว่างตนเอง ศิลปะ และผู้อื่น

*1 เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ teamLab Planets ข้อมูลการซื้อตั๋ว (ข้อมูลได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 31 สิงหาคม 2023)
*2 “Amazing Nippon / Digital Art Museum in Tokyo Enchants Overseas Tourists – The Japan News” The Japan News โดย the Yomiuri Shimbun 5 สิงหาคม 2023.

เกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์

teamLab Planets TOKYO DMM
6-1-16 Toyosu, Koto-ku, Tokyo
https://www.teamlab.art/e/planets/

เวลาทำการ
กันยายน – พฤศจิกายน: 09:00 – 22:00
*เข้าได้รอบสุดท้าย 1 ชั่วโมงก่อนปิด

*เวลาทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบเว็บไซต์อย่างเป็นทางการเพื่อดูข้อมูลล่าสุด
วันหยุด: 6 กันยายน (พุธ), 4 ตุลาคม (พุธ), 8 พฤศจิกายน (พุธ)

ค่าเข้าชม

ผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป): 3,800 เยน

นักเรียน (อายุ 13 – 17 ปี): 2,300 เยน

เด็ก (4 – 12 ปี): 1,300 เยน

3 ปีและต่ำกว่า: ฟรี

ส่วนลดสำหรับผู้ทุพพลภาพ: 1,900 เยน

ร้านจำหน่ายตั๋วอย่างเป็นทางการ
https://teamlabplanets.dmm.com

ร้านอาหารและร้านค้า
Vegan Ramen UZU Tokyo: https://vegan-uzu.com/pages/uzu-tokyo-en
teamLab Flower Shop: https://www.teamlab.art/e/flowershop/

สำหรับสื่อ
ชุดข่าวประชาสัมพันธ์: https://goo.gl/tQXMLm
วิดีโอไฮไลท์: https://youtu.be/KAQMAzRjoH0

เกี่ยวกับ PLANETS Co., Ltd.

ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 ดำเนินการและจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกของ teamLab Planets TOKYO

ที่ตั้ง: โตเกียวนิฮอนบาชิทาวเวอร์ ชั้น 10, 2-7-1 นิฮงบาชิ, ชูโอ-คุ, โตเกียว

ตัวแทน: ทาคูมิ โนโมโตะ

เกี่ยวกับ teamLab

teamLab (f. 2001) คือกลุ่มศิลปะระดับนานาชาติ แนวทางปฏิบัติร่วมกันของพวกเขาคือการมุ่งหวังที่จะนำทางการบรรจบกันของศิลปะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และโลกธรรมชาติ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญแบบสหวิทยาการ รวมถึงศิลปิน โปรแกรมเมอร์ วิศวกร นักสร้างแอนิเมชัน CG นักคณิตศาสตร์ และสถาปนิก มีเป้าหมายที่จะสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับโลก ตลอดจนการรับรู้รูปแบบใหม่ผ่านงานศิลปะ

เพื่อทำความเข้าใจโลกรอบตัวพวกเขา ผู้คนจึงแบ่งโลกออกเป็นอัตลักษณ์อิสระโดยมีขอบเขตการรับรู้ระหว่างพวกเขา teamLab พยายามที่จะก้าวข้ามขอบเขตเหล่านี้ในการรับรู้โลกของเรา ความสัมพันธ์ระหว่างตัวตนกับโลก และความต่อเนื่องของเวลา ทุกสิ่งดำรงอยู่ในความต่อเนื่องที่ยาวนาน เปราะบาง แต่อัศจรรย์ และไร้ขอบเขต

นิทรรศการ teamLab จัดขึ้นในเมืองต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงนิวยอร์ก ลอนดอน ปารีส สิงคโปร์ ซิลิคอนแวลลีย์ ปักกิ่ง และเมลเบิร์น และอื่นๆ อีกมากมาย พิพิธภัณฑ์ teamLab และนิทรรศการถาวรขนาดใหญ่ ได้แก่ teamLab Borderless และ teamLab Planets ในโตเกียว, teamLab Borderless Shanghai, teamLab SuperNature Macao และ teamLab Massless Beijing และอื่นๆ อีกมากมายที่จะเปิดตัวในเมืองต่างๆ เช่น อาบูดาบี ฮัมบูร์ก เจดดาห์ และอูเทรคต์

ผลงานของ teamLab อยู่ในคอลเลกชันถาวรของพิพิธภัณฑ์Museum of Contemporary Art ที่ลอสแอนเจลิส หอศิลป์แห่งนิวเซาธ์เวลส์ ซิดนีย์; หอศิลป์แห่งเซาท์ออสเตรเลีย แอดิเลด; พิพิธภัณฑ์ศิลปะAsian Art Museum ซานฟรานซิสโก; พิพิธภัณฑ์สมาคมเอเชีย นิวยอร์ก; Borusan Contemporary Art Collection ในอิสตันบูล; หอศิลป์แห่งชาติวิกตอเรีย เมลเบิร์น; และเอมอส เร็กซ์, เฮลซิงกิ และอื่นๆ อีกมากมาย

teamLab นำเสนอโดย Pace GalleryMartin Browne Contemporary และ Ikkan Art

teamLab: https://www.teamlab.art/
Instagram: https://instagram.com/teamlab/
Facebook: https://www.facebook.com/teamLab.inc
Twitter: https://twitter.com/teamLab_net
YouTube: https://www.youtube.com/c/teamLabART

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53546601/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

PLANETS Co., Ltd. Public Relations Department
E-mail: pr-info@planets.art
การสัมภาษณ์: https://forms.gle/fAtnDKLpQKFME6XR9

ที่มา: PLANETS Co., Ltd.



Al Marjan Island เตรียมนำเสนอ W Al Marjan Island โรงแรมแห่งที่สองของ Marriott International บนชายฝั่งของเกาะ

Logo

ราสอัลไคมาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE )–31 สิงหาคม 2023

Marjan ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในราสอัลไคมาห์ ได้ประกาศเปิดตัวโรงแรม W Hotel บน Al Marjan Island ด้วยความร่วมมือระหว่าง Marriott International, Inc. และ Dalands Holding

Al Marjan Island to feature Marriott International's second hospitality offering on its shores: W Al Marjan Island (Photo: AETOSWire)

Al Marjan Island เตรียมนำเสนอ W Al Marjan Island โรงแรมแห่งที่สองของ Marriott International บนชายฝั่งของเกาะ (ภาพ: AETOSWire)

Al Marjan Island มีกำหนดเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงต้นปี 2027 และพร้อมที่จะเดินหน้าบรรลุความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร 2 ประการ คือการเป็นธุรกิจโรงแรมแห่งที่สองบนเกาะนี้ของ Marriott International และเป็นโรงแรมแห่งแรกในราสอัลไคมาห์ของ W Hotel โดยนำการออกแบบที่โดดเด่นของแบรนด์ บริการที่โดดเด่นและโปรแกรมที่พร้อมใช้งานเสมอไปอยู่ที่เอมิเรตตอนเหนือ

จุดหมายปลายทางแห่งนี้ตั้งอยู่บนหมู่เกาะหลักของ Marjan โดยมีฉากหลังที่งดงามของคาบสมุทรอาหรับ และล้อมรอบด้วยเทือกเขา Yanas และ Jais โรงแรมจะช่วยยกระดับจุดหมายปลายทางเพื่อการพักผ่อนที่เจริญรุ่งเรืองนี้ให้มีความน่าดึงดูดไปอีกระดับ

ด้วยห้องพักและห้องสวีทในโรงแรมจำนวน 300 ห้องพร้อมวิวทะเลอันกว้างไกล ที่พักอันงดงามแห่งนี้คาดว่าจะมีพื้นที่อันเป็นเอกลักษณ์ เช่น ห้องนั่งเล่น, ดาดฟ้า WET, W Lounge, AWAY Spa และฟิตเนสเซ็นเตอร์ FIT พร้อมด้วยร้านอาหาร 3 แห่งและพื้นที่ค้าปลีก

Abdulla Al Abdouli ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Marjan กล่าวว่า "เนื่องจากราสอัลไคมาห์มีจุดยืนที่แข็งแกร่งในด้านภูมิทัศน์การท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างเป็นที่ยอมรับ เราจึงภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมสำคัญในการเพิ่มความน่าเชื่อถือและความน่าดึงดูดให้กับที่แห่งนี้ในสายตานักลงทุนทั่วโลก ความมุ่งมั่นนี้ได้นำไปสู่โครงการอันทรงเกียรติมากมาย ดังตัวอย่างจากการเปิดตัวเกาะ W Al Marjan Island"

"เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ Dalands Holding เพื่อนำความมีชีวิตชีวาและการออกแบบแบบไดนามิกของ W มาสู่ Al Marjan Island" Saahil Lalit รองประธานฝ่ายพัฒนา ตะวันออกกลาง บริษัท Marriott International กล่าว "ราสอัลไคมาห์จะยังคงเป็นจุดหมายปลายทางเพื่อการพักผ่อนที่เป็นที่ต้องการซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมชมชายหาดและสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงามต่อไป"

Saurabh Gupta ซีอีโอของ Dalands Holding กล่าวว่า "เราเชื่อว่าการพัฒนาที่ไม่ซ้ำใครนี้จะได้รับความนิยมอย่างมากจากการออกแบบที่โดดเด่น ที่พักหรูหรา และตัวเลือกอาหารที่ทันสมัย เช่นเดียวกับโรงแรมหรูอื่นๆ ในผลงานของเรา เรากำลังพัฒนา W Al Marjan Island เพื่อตอบสนองความต้องการของแขกในอนาคต โดยคัดสรรข้อเสนอสุดพิเศษและประสบการณ์อันน่าจดจำ"

ด้วยหาดทรายขาวที่ทอดยาวกว่า 7.8 กม. และพื้นที่ริมน้ำยาว 23 กม. Al Marjan Island ได้สร้างจินตนาการใหม่ให้กับการใช้ชีวิตริมน้ำที่หรูหราในราสอัลไคมาห์ด้วยกิจกรรมและกีฬาทางน้ำต่างๆ

*ที่มาAETOSWire

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:

https://www.businesswire.com/news/home/53547343/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Nivine William 
nivine.william@bcw-global.com

ที่มา: Marjan



National Forestry and Grassland Administration: หมู่บ้านเล็กๆ ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกทึ่งอย่างไร ดู Yucun เพื่อหาคำตอบ

Logo

หูโจว ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–21 สิงหาคม 2023

Anji Yucun อยู่ในเมืองหูโจว มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งตั้งชื่อตาม Yuling ตั้งอยู่ในเส้นทางของภูเขา Tianmu มีพื้นที่ 4.86 ตารางกิโลเมตร ถึงจะเล็กแต่ก็มีชื่อเสียง เนื่องจากเป็นแหล่งกำเนิดของ "น้ำใสสะอาดและภูเขาเขียวขจีที่เป็นสินทรัพย์อันประเมินค่าไม่ได้" Yucun มุ่งมั่นที่จะพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยมีความงดงามทางนิเวศวิทยา ความเจริญรุ่งเรืองทางอุตสาหกรรม และความร่ำรวยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เป็นตัวอย่างอันมีค่าสำหรับการสร้างอารยธรรมทางนิเวศวิทยาของจีน

Aerial view of Yucun (Photo: Business Wire)

ภาพถ่ายจากมุมสูงของ Yucun (ภาพ: Business Wire)

Yucun ผสมผสานการเกษตรเชิงนิเวศเข้ากับการท่องเที่ยว เปลี่ยนเหมืองร้างและโรงงานซีเมนต์ให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว แทนที่ไม้ไผ่ ชาขาวและการท่องเที่ยวเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีลักษณะเฉพาะ และเปลี่ยนฟาร์มให้เป็นบ้านไร่และโฮมสเตย์ที่มีลักษณะเฉพาะ ในฐานะที่เป็นหมู่บ้านแรกที่ได้รับเลือกให้เป็น "หมู่บ้านท่องเที่ยวที่ดีที่สุด" โดยองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ หมู่บ้านแห่งนี้รับนักท่องเที่ยวกว่า 700,000 คนในปี 2022

Yucun ก่อตั้ง "หมู่บ้านปลอดคาร์บอน" แห่งแรกของจีน และเพิ่มสร้างอาคารที่ทันสมัย ​​"Yucun Impression" ที่เปลี่ยนจากโรงงานเคมีเสร็จสมบูรณ์ เนื่องจากเป็นอาคารปลอดคาร์บอนอย่างแท้จริง จึงอาศัยระบบผลิตไฟฟ้าโซลาร์เซลล์จากพลังงานหมุนเวียนเพื่อชดเชยคาร์บอน

ความสำคัญเชิงนิเวศน์และการพัฒนาสีเขียวได้เปลี่ยนแปลงการผลิตและชีวิตของผู้คนในหมู่บ้านแห่งนี้ไป ในเดือนกรกฎาคม 2022 ได้มีการเปิดตัว "Yucun Global Partner Program" โดยเชิญผู้มีความสามารถระดับโลกมาร่วมกันสร้าง Yucun และขยายการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เพื่อขยายช่องทางการเปลี่ยนแปลงจาก "น้ำใสและภูเขาเขียวขจี" เป็น "ทรัพย์สินที่ประเมินค่าไม่ได้" Yucun ร่วมมือกับหมู่บ้าน 24 แห่งในสามเมืองโดยรอบเพื่อสร้าง "Great Yucun" โดยสร้างพิมพ์เขียวสำหรับพื้นที่ผู้ประกอบการ 100,000 ตร.ม. พื้นที่โรงงานกว่า 20,000 ตร.ม. ป่าไผ่และพื้นที่เพาะปลูกเกือบ 60,000 mu

Yucun ดำเนินบนเส้นทางการพัฒนาสีเขียวอย่างถูกต้อง และมีรายได้รวมทางเศรษฐกิจ 13.05 ล้านหยวนในปี 2022 โดยมีรายได้สุทธิต่อหัว 64,000 หยวน และรายได้จากการดำเนินงานมากกว่า 8 ล้านหยวน

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: www.businesswire.com/news/home/20230818921835/en/

ติดต่อ

Leiying
937449597@qq.com
http://www.forestry.gov.cn/lyj/1/lcdt/20230818/517777.html

แหล่งที่มา: National Forestry and Grassland Administration

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

OAG เข้าซื้อกิจการของ Infare และร่วมลงทุนใหม่กับ Vitruvian Partners

Logo

การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มข้อมูลตั๋วเดินทางสายการบินเข้าในแพลตฟอร์มข่าวกรองชั้นนำอัจฉริยะสำหรับตลาดของ OAG

LONDON–(BUSINESS WIRE)–28 กรกฎาคม 2023

OAG แพลตฟอร์มข้อมูลชั้นนำสำหรับอุตสาหกรรมการเดินทางทั่วโลกได้เข้าซื้อกิจการของ Infare ซึ่งเป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านข้อมูลการเดินทางทางอากาศจาก Ventiga Capital ตามข้อตกลงที่มีมูลค่ากิจการที่ร่วมกันกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ OAG และ Infare จะมีก้าวต่อไปที่น่าตื่นเต้นในอนาคตจากการใช้ประโยชน์ของแพลตฟอร์มข้อมูลแบบ end-to-end เพื่อตอบสนองความต้องการทั่วโลกด้านข่าวกรองการเดินทางทางอากาศที่สำคัญ

ด้วยมรดกทางอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียง ทั้งสองธุรกิจนี้มีแนวคิดเดียวกันด้านคุณภาพ ความแม่นยำ และการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง จึงทำให้การจับมือในครั้งนี้จะทำให้ OAG และ Infare มีโอกาสสำคัญในการขยายบริการพันธมิตรสายการบินและระบบนิเวศการเดินทางให้กว้างขึ้น พร้อมข้อมูลและโซลูชันเชิงนวัตกรรมที่มีคุณภาพสูง

Infare เป็นพันธมิตรทางเลือกสำหรับสายการบินที่ต้องการแหล่งข้อมูลการเดินทางทางอากาศที่มีคุณภาพดีเยี่ยม เพื่อรองรับการเติบโตของสายการบิน การรวมโซลูชันข้อมูลที่มีอยู่ของ OAG เข้ากับระบบข้อมูลตั๋วเดินทางของสายการบินจะสร้างข้อเสนอที่น่าสนใจสำหรับลูกค้า เพื่อให้สามารถมองเห็นภาพรวมของอุปสงค์และอุปทานได้กว้างขึ้น ระบบนี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถคาดการณ์ทรัพยากร ประเมินความต้องการในการเดินทางและการแข่งขัน และสร้างโมเดลที่ซับซ้อนและเป็นนวัตกรรมมากขึ้น เพื่อเสริมรายได้และการเติบโตของผลกำไร

โดยการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ ทำให้ OAG เติบโตมากขึ้นและมีพนักงานกว่า 300 คนทั่วโลกในสำนักงาน 10 แห่ง

Phil Callow, CEO ของ OAG กล่าว

ไดนามิกที่เพิ่มขึ้นในการเดินทางและเทคโนโลยีทั่วโลกกระตุ้นให้มีความต้องการข้อมูลที่ละเอียดและซับซ้อนมากขึ้น เพื่อทำความเข้าใจ จัดการ และเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตในการเดินทางทางอากาศ การเข้าซื้อกิจการของ Infare จะช่วยเสริมความสามารถของเราในการนำเสนอข้อมูลที่สอดคล้องกับแม่นยำทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทานและอุปสงค์ที่กว้างขึ้น และช่วยให้ทั้งลูกค้าเก่าและใหม่สามารถเติบโตและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ฉันรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากจะได้ต้อนรับเพื่อนร่วมงานจาก Infare เข้าสู่ครอบครัวของ OAG”

Nils Gelbjerg-Hansen, CEO ของ Infare กล่าว

การเข้าถึงข้อมูลที่ครอบคลุมและแม่นยำเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับการตัดสินใจทางธุรกิจที่ข้อมูลมีความสำคัญ สายการบินใช้ข้อมูลต่างๆ เพื่อวิเคราะห์เชิงลึกในพฤติกรรมการเดินทางของลูกค้า แนวโน้มของตลาด และประสิทธิภาพในการดำเนินงาน แพลตฟอร์มเทคโนโลยีของเรา ชุดข้อมูล และซอฟต์แวร์อัจฉริยะ จะช่วยเสริมการทำงานของ OAG และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับลูกค้าของเราทั่วโลก เรามองว่า นี่เป็นโอกาสพิเศษที่จะได้ขยายฐานบริการของเรา และแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าของเรา เรารู้สึกตื่นเต้นในก้าวใหม่นี้ไปด้วยกัน

ทีมฝ่ายบริหารทั้งสองทีมจะยังคงอยู่ในกลุ่มบริษัทและถือหุ้นอยู่ตามเดิม โดยได้รับการสนับสนุนจาก Vitruvian

Ben Johnson พันธมิตรของ Vitruvian กล่าว

“OAG และ Infare ต่างเป็นผู้นำในตลาดระดับโลกภาคส่วนเฉพาะอย่างเห็นได้ชัด การร่วมมือกันจะสร้างโอกาสในการเติบโตให้กับทั้งสองทีม Vitruvian มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนบริษัทเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ และผสานความสัมพันธ์ของเราให้ก้าวไกลในอนาคต

Niclas Gabrán พันธมิตรฝ่ายบริหารจัดการ ของ Ventiga Capital Partners กล่าว

เป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้ร่วมงานกับ Nils และทีมงาน ในการสร้าง Infare ให้เป็นผู้ให้บริการข้อมูลด้านการเดินทางชั้นนำผ่านการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญและการเข้าซื้อกิจการ ก้าวต่อไปของ Infare ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว OAG จะสร้างโอกาสในการเติบโตทั้งภายในและภายนอกภาคส่วนการเดินทางทางอากาศอย่างไม่มีข้อสงสัย

เกี่ยวกับ OAG

OAG เป็นแพลตฟอร์มข้อมูลชั้นนำสหรับอุตสาหกรรมการเดินทางทั่วโลก ซึ่งขับเคลื่อนการเติบโตและนวัตกรรมของระบบนิเวศการเดินทางทางอากาศมาตั้งแต่ปี 1929 โดยมีเครือข่ายข้อมูลเที่ยวบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมการเดินทางทุกส่วน ตั้งแต่การวางแผนจนถึงประสบการณ์การเดินทางของลูกค้า ลูกค้าประกอบด้วยสายการบิน ท่าอากาศยาน ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีการเดินทาง ผู้ให้บริการด้านการบิน หน่วยงานราชการ สถาบันการเงิน และที่ปรึกษา OAG มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สหราชอาณาจักร และมีหน่วยดำเนินงานอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน และลิทัวเนีย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.oag.com และติดตามเราได้ที่ Twitter @OAG Aviation

เกี่ยวกับ Infare

Infare เป็นผู้นำด้านการให้บริการข้อมูลการเดินทางทางอากาศ ช่วยให้สายการบินสามารถตัดสินใจและกำหนดราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภารกิจของ Infare คือ การบริการข้อมูลการเดินทางทางอากาศของแต่ละสายการบินที่แม่นยำให้กับระบบของสายการบินต่างๆ อาจเป็นการส่งข้อมูลให้หลายครั้งในแต่ละวันหรือเป็นข้อมูลแบบเรียลไทม์ โดยบริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2000 และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ Copenhagen, Denmark และมีสาขาอยู่ทั่วโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.infare.com และติดตามเราได้ที่ LinkedIn

เกี่ยวกับ Vitruvian Partners

Vitruvian เป็นบริษัทลงทุนอิสระที่มีการเติบโต และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ลอนดอน และมีสาขาอยู่ทั่วโลก Vitruvian มุ่งเน้นสถานการณ์ที่โดดเด่นด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีการเปลี่ยนแปลงทั้วทั้งอุตสาหกรรม โดยครอบคลุมเทคโนโลยี บริการทางการเงิน การดูแลสุขภาพ และบริการทางธุรกิจและผู้บริโภค Vitruvian เป็นหนึ่งในกลุ่มทุนที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปที่มีการสนับสนุนบริษัทที่มีนวัตกรรมและการเติบโตที่สูงขึ้น Vitruvian Funds ให้การสนับสนุนบริษัทกว่า 90 แห่ง และมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการกว่า 1.5 หมื่นล้านยูโร การลงทุนที่โดดเด่นจนถึงปัจจุบันนี้ประกอบด้วยผู้นำตลาดระดับโลกและนักประดิษฐ์ในแต่ละสาขา เช่น Skyscanner, Sykes Holiday Cottages, CFC Underwriting, CallCredit, Travel Counsellors, Trustpilot, Farfetch, Just Eat, Wise และ Global-e

เกี่ยวกับ Ventiga Capital Partners

Ventiga เป็นผู้ประกอบการและนักลงทุนที่มุ่งเน้นการเติบโต โดยมีการร่วมมือกับผู้ประกอบการและทีมนักบริหารที่ยอดเยี่ยม เพื่อให้บรรลุการเติบโตแบบยั่งยืน มีผลกำไร และสร้างมูลค่า ด้วยความรับผิดชอบ มีส่วนร่วม และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง Ventiga มีการลงทุนในบริษัทที่มีการเติบโตพร้อมกำไร และมีศักยภาพในการขยายธุรกิจที่เหนือกว่า โดยจะเป็นธุรกิจแบบ B2B เป็นหลัก

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Media Enquiries
pressoffice@oag.com

UK/EMEA /ASPAC
Dom Conolly/ Harvard PR

North America
Chrissy Azevedo
Corporate Ink for OAG

แหล่งที่มา: OAG

HEINZ® เปิดตัวแพลตฟอร์มแบรนด์ที่มีความคิดสร้างสรรค์ระดับโลกเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 150 ปี

Logo

การวางตำแหน่งสินค้าใหม่ เฉลิมฉลองและแสดงถึงความรักที่ไร้เหตุผลของแฟน ๆ ตัวจริงที่มีต่อแบรนด์

ชิคาโก พิตส์เบิร์ก และลอนดอน–(BUSINESS WIRE)–1 มิถุนายน 2023

วันนี้ HEINZ ประกาศ "It Has to be HEINZ" แพลตฟอร์มระดับโลกใหม่ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 150 ปี ที่แบรนด์ถูกรวมเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้กลยุทธ์ความคิดสร้างสรรค์เดียว แคมเปญนี้แสดงความเคารพต่อแบรนด์ด้วยการเฉลิมฉลองความรักที่ไร้เหตุผลที่ผู้คนมีให้ HEINZ – ตั้งแต่ความรักใคร่ส่วนตัวของแฟน ๆ ตัวจริงที่มีต่อแบรนด์ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นด้วยความรักและห่วงใย

HEINZ announces its first new global platform in its 150-year history “It Has to be HEINZ,” inspired by real-life stories of fans’ undeniable love of HEINZ (Graphic: Business Wire)

HEINZ ประกาศแพลตฟอร์มใหม่ระดับโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 150 ปี "It Has to be HEINZ" ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงเกี่ยวกับความรักที่ไม่อาจปฏิเสธได้ของแฟน ๆ ที่มีต่อ HEINZ (กราฟิก: Business Wire)

สนับสนุนโดยการลงทุนด้านสื่อที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาจนถึงปัจจุบันของ Kraft HEINZ แพลตฟอร์มความคิดสร้างสรรค์ระดับโลกนี้แสดงให้เห็นถึงความรักที่ไม่มีใครเทียบของผู้คนทั่วโลกหลายยุคสมัยที่มีต่อ HEINZ ตั้งแต่ซอสมะเขือเทศ ไปจนถึง ถึง Beanz และทุกสิ่งที่อยู่ระหว่างกลาง เรื่องราวของแฟน ๆ ที่ถูกแสดงให้เห็นในความคิดสร้างสรรค์ เช่น รอยสัก HEINZ การพกซองเครื่องปรุงในกระเป๋าถือ และการลักลอบนำเข้ากระป๋อง Beanz ผ่านการรักษาความปลอดภัยสนามบิน มีที่มาจากโซเชียลมีเดีย บทความข่าว และผ่านการบอกเล่าปากต่อปาก

"ในขณะที่เรามองเพื่อที่จะรวมแบรนด์ให้เป็นหนึ่งภายใต้แพลตฟอร์มแบรนด์ระดับโลกเดียว เราดำดิ่งสู่โลกของผู้บริโภคของเราและพบว่าพวกเขาทั้งหมดมีสิ่งที่เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ พวกเขาจะไปไกลอย่างไร้เหตุผลเพื่อผลิตภัณฑ์ HEINZ" Diana Frost ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเติบโต โซนอเมริกาเหนือที่ Kraft HEINZ Company กล่าว "ในฐานะแบรนด์ที่หมกมุ่นอยู่กับผู้บริโภคของเรา เราสร้าง 'It Has to be HEINZ' ให้เป็นเพลงรักของเรา ส่งกลับไปหาพวกเขา แฟน ๆ คือแรงบันดาลใจของเรา"

เป็นเวลากว่า 150 ปี ที่ HEINZ มุ่งมั่นทำสิ่งธรรมดาให้ได้ดีเป็นพิเศษ ทุกวันนี้ คุณภาพที่ไม่มีใครเทียบยังคงเป็นแก่นแท้ของความเชื่อและการปฏิบัติของแบรนด์ ตั้งแต่การคัดสรรอย่างพิถีพิถันเฉพาะส่วนผสมที่มีคุณภาพสูงสุดโดย "ผู้เชี่ยวชาญมะเขือเทศ" 7 คน ไปจนถึงเป้าหมายในการจัดหาซอสมะเขือเทศที่ยั่งยืน 100% ภายในปี 2025 แต่ละขั้นตอนได้รับการพิจารณาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้แน่ใจว่าได้ส่งมอบรสชาติที่ไม่ผิดเพี้ยนของ HEINZ ทุกครั้ง

"แฟน ๆ ของเราอาจไปได้ไกลมากอย่างไร้เหตุผล สำหรับ HEINZ แต่ความรู้สึกนั้นมีร่วมกัน – เราหมกมุ่นกับผลิตภัณฑ์ของเราพอ ๆ กับพวกเขา และไม่อาจรอที่จะแบ่งปันกับโลก" Cristina Kenz ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเติบโตโซนนานาชาติที่ Kraft HEINZ Company กล่าว "ความรักที่ไร้เหตุผลนี้ยังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่กว่าที่ Kraft HEINZ ซึ่งเรากำลังเคลื่อนไปด้วยความเร็วของวัฒนธรรมเพื่อสร้างความประหลาดใจและความปิติยินดีให้กับผู้บริโภคด้วยนวัตกรรมที่นำโดยความเข้าใจอย่างถ่องแท้และประสบการณ์แท้จริงที่มีต่อแบรนด์"

แคมเปญนี้พัฒนาโดยความร่วมมือกับ Wieden+Kennedy แสดงให้เห็น 5 สปอตเรื่องจริงและอาจเป็นจริง ในสไตล์วีนแยทท์ เพื่อเฉลิมฉลองให้กับความรักที่ไม่มีใครเทียบที่ผู้คนมีให้ซอสมะเขือเทศ HEINZ และ Beanz แพลตฟอร์มใหม่นี้จะถูกแสดงในช่องทางต่าง ๆ โดยกำหนดเป้าหมายการเข้าถึงจำนวนมากและการวางตำแหน่งที่มีผลกระทบสูงผ่านทีวี วิดีโอออนไลน์ โรงภาพยนตร์ โซเชียล และสื่อโฆษณานอกบ้าน "It Has to be HEINZ" จะเปิดตัวในสหรัฐอเมริกา แคนาดา สหราชอาณาจักร และเยอรมนี และจะเปิดตัวสู่ตลาดอื่น ๆ ในอีก 6 เดือนข้างหน้า

ติดตามชมได้ที่ @Heinz, @Heinz_ca และ @heinz_uk บน Instagram และ @Heinz_us, @heinz_ca และ @heinzuk บน TikTok

เกี่ยวกับ Kraft HEINZ Company

เรากำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ Kraft HEINZ Company (Nasdaq: KHC) ได้รับแรงบันดาลใจจากวัตถุประสงค์ของเรา มาทำให้ชีวิตอร่อยกันเถอะ ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งที่เราทำ ด้วยยอดขายสุทธิในปี 2022 ที่ประมาณ 26 พันล้านเหรียญสหรัฐ เรามีความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตของแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มที่โดดเด่นและเกิดใหม่ของเราในระดับโลก เราใช้ประโยชน์จากขนาดและความคล่องตัวของเราเพื่อปลดปล่อยพลังของ Kraft HEINZ อย่างเต็มที่ทั่วทั้งพอร์ตโฟลิโอของหกแพลตฟอร์มผลิตภัณฑ์ที่ขับเคลื่อนโดยผู้บริโภค ในฐานะพลเมืองโลก เราอุทิศตนเพื่อสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนและมีจริยธรรม ในขณะที่ช่วยให้อาหารโลกด้วยในลักษณะที่ดีต่อสุขภาพและมีความรับผิดชอบ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางของเราโดยการเยี่ยมชม www.kraftheinzcompany.com หรือติดตามเราทาง LinkedIn และ Twitter

ติดต่อ

Jenna Thornton
Kraft HEINZ Company (สอบถามโซนอเมริกาเหนือ)
Jenna.Thornton@kraftheinz.com

Marissa Munnings
Kraft HEINZ Company (สอบถามระหว่างประเทศ)
Marissa.Munnings@kraftheinz.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53410607en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

แหล่งที่มา: Kraft HEINZ Company

EGGDROP ร้านค้าในสนามบินอินชอนมีลูกค้าทะลุ 100,000 รายในช่วงสี่เดือนแรกนับตั้งแต่เปิดตัว

Logo

การเติบโตที่มั่นคงได้รับแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นและรับรู้ถึงแบรนด์ที่แข็งแกร่งในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ

โซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–30 พฤษภาคม 2023

EGGDROP แบรนด์แซนด์วิชระดับพรีเมียมชื่อดังของ Golden Hind (CEO Noh Young-woo) ประสบความสำเร็จอย่างน่าประทับใจโดยมีลูกค้ามากกว่า 100,000 รายในสี่เดือนนับตั้งแต่ EGGDROP เปิดสนามบินอินชอน

American Ham Cheese sandwich, the signature menu of EGGDROP, combines scrambled eggs, light ham, and cheese between thick bread, all enhanced by EGGDROP’s special sauce. (Photo: Golden Hind)

แซนวิชแฮมชีสอเมริกัน เมนูซิกเนเจอร์ของ EGGDROP ผสมผสานระหว่างไข่คน แฮมไขมันต่ำ และชีสระหว่างขนมปังแผ่นหนา เติมด้วยซอสสูตรพิเศษของ EGGDROP (ภาพ: Golden Hind)

เพื่อรำลึกถึงความสำเร็จนี้ EGGDROP ได้เปิดตัววิดีโอสั้นที่น่าสนใจซึ่งแสดงประสบการณ์การรับประทานอาหารที่อร่อย และมีประโยชน์ที่สาขาสนามบินอินชอน โดยเน้นที่ความอร่อย และอาหารเพื่อสุขภาพก่อนออกเดินทาง

EGGDROP สนามบินอินชอนตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ของพื้นที่ปลอดภาษีทางฝั่งตะวันตกของอาคารผู้โดยสาร 1 ที่สนามบินนานาชาติอินชอน จำนวนลูกค้าสูงสุดรายวันเพิ่มขึ้นกว่า 70% จาก 700 รายในเดือนมกราคม 2023 ซึ่งเป็นเดือนแรกหลังจากเปิดตัว เป็นมากกว่า 1,200 รายในเดือนพฤษภาคม 2023 และจำนวนลูกค้าสะสมทะลุ 100,000 รายในวันที่ 13 พฤษภาคม 2023 นอกจากนี้ยอดขายก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่ยั่งยืนของแซนวิชระดับพรีเมียมชั้นนำของเกาหลี และบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเทรนด์อาหารเค

แซนวิช 'อเมริกันแฮมชีส' โดดเด่นในฐานะรายการที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในหมู่ผู้เข้าชม การสร้างสรรค์ที่เย้ายวนใจนี้ดึงดูดใจทั้งชาวเกาหลีและชาวต่างชาติ ได้รับความนิยมจากรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์

"สำหรับผู้โดยสารที่กำลังจะขึ้นเครื่อง แซนวิช EGGDROP นำเสนออาหารที่ 'เรียบง่ายแต่น่าพึงพอใจ'" Lee Ah-rim สมาชิกทีมการตลาดของ Golden Hind กล่าว

ก่อนเปิดร้านในสนามบินอินชอนในเดือนธันวาคม 2022 EGGDROP ได้เปิดตัวในระดับสากลด้วยการเปิดสาขาระดับโลกแห่งแรกในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ขณะนี้บริษัทกำลังเตรียมเปิดสาขาที่ 2 และ 3 ในกรุงเทพฯ

Noh Young-woo ซีอีโอของ โกลเด้นฮินด์กล่าวว่า "การเปิดร้านในสนามบินอินชอนเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ของ EGGDROP ในการเสริมสร้างอิทธิพลของแบรนด์ผ่านการร่วมมือกับเนื้อหา K ต่างๆ อีกทั้งเพิ่มการรับรู้และขยายฐานลูกค้าทั่วโลก"

ภาพรวม EGGDROP

เป็นมากกว่าไข่, EGGDROP
EGGDROP เป็นแบรนด์แซนด์วิชไข่ระดับพรีเมียมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไข่ "อาหารสมบูรณ์" ซึ่งปรุงอาหารเพื่อสุขภาพด้วยไข่คนที่ทำจากไข่เกรด A+ และวัตถุดิบสดใหม่

ภาพรวมของ Golden Hind

Golden Hind เป็นบริษัทใหม่และสร้างสรรค์ที่สนับสนุน "ธุรกิจอาหาร" ในฐานะบริษัทแฟรนไชส์ร้านอาหารที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 ในกรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ปัจจุบัน EGGDROP เป็นธุรกิจชั้นนำและบ่มเพาะแบรนด์อื่นๆ มากมาย

สอบถามแฟรนไชส์ EGGDROP: https://eggdrop.co.kr/th/franchise/inquiry.php

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53407908/en

รายชื่อติดต่อ

Golden Hind
Ahrim Lee
+82-1670-4809
ahrim.lee@goldenhind.co.kr

ที่มา: Golden Hind

The Bangkok Reporter