NielsenIQ BASES ประกาศผู้ชนะรางวัล Design Impact Award ประจำปี 2565

Logo

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–21 กรกฎาคม 2565

NielsenIQ มีความยินดีที่จะประกาศรายชื่อผู้รับรางวัล Design Impact Award โดย NielsenIQ BASES ครั้งที่ 7 ประจำปี 2565 สำหรับอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค (CPG) โดยการแข่งขันระดับโลกนี้เป็นการยกย่องชื่นชมบรรจุภัณฑ์ที่ถูกนำมาปรับดีไซน์ใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยมรวมถึงอิทธิพลทางธุรกิจที่บรรจุภัณฑ์นั้นมีต่อบริษัท สำหรับผู้ชนะปีนี้ประกอบด้วยแบรนด์ต่าง ๆ ที่มีบรรจุภัณฑ์ล้ำสมัยและสร้างสรรค์ พร้อมมีแนวคิดด้านการออกแบบที่สะท้อนวิสัยทัศน์ของแบรนด์ไปพร้อมกับอำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อ

แบรนด์ต่าง ๆ 60 แบรนด์ได้ส่งผลงานการปรับดีไซน์บรรจุภัณฑ์เข้ามา และทีม NielsenIQ BASES ได้นำข้อมูล Retail Measurement Sales (RMS) ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทมาใช้เพื่อพิจารณาว่าแบรนด์ใดที่สามารถแสดงให้เห็นถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นหลังมีการเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ที่มีการปรับดีไซน์ใหม่ นอกเหนือจากการนำข้อมูล RMS มาประเมินแล้ว NielsenIQ ยังได้ทำแบบสำรวจพฤติกรรมของผู้ซื้อสินค้า 15,000 คนเพื่อประเมินผลงานแต่ละรายการตลอดเส้นทางการเลือกซื้อสินค้าของผู้ซื้อ โดยมีการประเมินผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นเพื่อพิจารณาว่าบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์นั้นมีลักษณะที่น่าดึงดูดและสามารถแยกออกจากสินค้าอื่นได้ง่ายเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาผลิตภัณฑ์บนชั้นวางและชักชวนให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าชิ้นนั้นหรือไม่ ผลปรากฏว่ามีผู้ชนะ 10 รายในหมวดหมู่สินค้าอุปโภคบริโภคชนิดต่าง ๆ ที่มีการออกแบบอันยอดเยี่ยมและยอดขายที่เพิ่มขึ้นซึ่งสามารถวัดได้

Andrea Fraboni ผู้ดำรงตำแหน่งรองประธานและ Global Leader ทีม BASES Design Solutions ของ NielsenIQ กล่าวว่า “ทีมของเราตื่นเต้นที่ได้สนับสนุนและส่งเสริมแบรนด์ที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจผู้นำเสนอบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการออกแบบอย่างแปลกใหม่และสวยงาม ซึ่งช่วยกระตุ้นการเติบโตของแบรนด์และความสำเร็จทางด้านการเงิน ผู้ชนะปีนี้ได้ทำให้เห็นว่าการปรับดีไซน์บรรจุภัณฑ์สามารถช่วยพลิกโฉมและยกระดับสิ่งที่แบรนด์ให้ความสำคัญมากที่สุดได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างไร บริษัทเหล่านี้ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบและเราตื่นเต้นที่จะได้แสดงความสำเร็จอันยอดเยี่ยมของพวกเขา”

ผู้ชนะรางวัล Design Impact Award โดย NielsenIQ BASES ประจำปี 2565* มีดังนี้

  • L’usine Sliced Multigrain Bread (บริษัทแม่: Almarai; ประเทศ: ซาอุดิอาระเบีย)
  • Coors Light Beer (บริษัทแม่: Molson Coors Beverage Company; ดีไซน์เอเจนซี่: Soulsight; ประเทศ: สหรัฐอเมริกา)
  • Brooke's Oros Beverages (บริษัทแม่: Tiger Brands; ดีไซน์เอเจนซี่: Just Design; ประเทศ: แอฟริกาใต้)
  • Cadbury Old Gold Chocolate (บริษัทแม่: Mondelez International; ดีไซน์เอเจนซี่: Bulletproof; ประเทศ: ออสเตรเลีย)
  • Lucozade Energy Drink (บริษัทแม่: Suntory; ประเทศ: สหราชอาณาจักร)
  • Nescafé Artesano Coffee (บริษัทแม่: Nestlé; ประเทศ: โคลอมเบีย)
  • SSENSE Herbal Tea (บริษัทแม่: SSENSE; ดีไซน์เอเจนซี่: Pigeon; ประเทศ: แคนาดา)
  • Turin Chocolate (บริษัทแม่: Mars; ประเทศ: เม็กซิโก)
  • Speed Stick & Lady Speed Stick (บริษัทแม่: Colgate-Palmolive; ดีไซน์เอเจนซี่: Dragon Rouge BZ; ประเทศ: เม็กซิโก)
  • Lay's Potato Chips (บริษัทแม่: PepsiCo; ดีไซน์เอเจนซี่: PEP Global Design Team; ประเทศ: แอฟริกาใต้)

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันวิจัยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ รางวัล NielsenIQ BASES Design Impact Award และเรียนรู้จากผู้ชนะประจำปีนี้ได้ที่หน้าเว็บของ BASES Design Impact Award

*ชื่อผลิตภัณฑ์และชื่อบริษัททั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของชื่อนั้น ๆ ไม่มีข้อผูกพันหรือการอนุญาตทั้งในชัดแจ้งหรือโดยปริยาย

เกี่ยวกับ NielsenIQ

NielsenIQ คือบริษัทบริการด้านข้อมูลระดับโลก ผู้ส่งมอบการวัดด้านผู้บริโภคและการค้าปลีกที่มีมาตรฐานระดับชั้นนำ ผ่านความเข้าใจที่เข้าถึง สมบูรณ์ และนำไปดำเนินการต่อได้มากที่สุดของผู้บริโภคกลุ่ม omnichannel ทั่วโลกที่กำลังพัฒนาไปข้างหน้า NielsenIQ คือที่มาของความมั่นใจสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เรารับใช้ และผู้บุกเบิกที่กำหนดนิยามใหม่ให้กับการวัดด้านผู้บริโภคและการค้าปลีกแห่งศตวรรษถัดไป ข้อมูล ข้อมูลเชิงลึกที่เชื่อมโยงกัน และการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ของเราช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคและค้าปลีก โดยพาบริษัทเหล่านั้นเข้าถึงชุมชนที่พวกเขารับใช้มากขึ้น รวมถึงช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทเหล่านั้น

NielsenIQ เป็นบริษัทในเครือ Advent International มีการดำเนินงานในกว่า 90 ตลาด ครอบคลุมมากกว่า 90% ของประชากรโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ NielsenIQ.com

ติดต่อ:

สื่อ 
Gillian Mosher 
Gillian.Mosher@nielseniq.com 
647-282-9714

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

NielsenIQ เผยแพร่รายงานฉบับใหม่เกี่ยวกับผลกระทบของภาวะเงินเฟ้อที่มีต่อแบรนด์ขนาดกลางและขนาดย่อม

Logo

NielsenIQ แสดงตัวอย่างกรอบการทำงานใหม่เพื่อช่วยให้แบรนด์ขนาดกลางและขนาดย่อมได้เติบโตจากผลการศึกษาระดับโลกล่าสุด

ชิคาโก–(บิสิเนส ไวร์)–20 ก.ค. 2022

NielsenIQ แสดงตัวอย่างผลการวิจัยจาก Brand Balancing Act ซึ่งเป็นการศึกษาระดับโลกที่ให้มุมมองว่าผู้บริโภครับรู้แบรนด์ขนาดเล็กและขนาดกลางอย่างไรในตลาดที่มีภาวะเงินเฟ้อใหม่ ท่ามกลางความท้าทายของห่วงโซ่อุปทาน แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และความตั้งใจในการใช้จ่ายของผู้บริโภคอย่างระมัดระวัง  แบรนด์ขนาดเล็กต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ท้าทาย ด้วยการมุ่งเน้นไปที่การกำหนดลักษณะตราสินค้าของผู้บริโภค การเปรียบเทียบประสิทธิภาพ การกะระยะเวลาของวงจร และการสร้างความแตกต่างที่มีความหมาย แบรนด์ขนาดเล็กและขนาดกลางสามารถใช้ประโยชน์จากการตอบสนองของผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ผันผวนให้เกิดประโยชน์ได้

“อัตราเงินเฟ้อได้เพิ่มความสำคัญของการลงทุนและความพยายามเชิงกลยุทธ์ของแบรนด์ขนาดเล็กทุกครั้ง เมื่อต้นทุนของผลิตภัณฑ์สูงขึ้น การพลาดเป้าตามความคาดหวังของผู้บริโภคก็มีเช่นกัน” Lauren Fernandes ผู้อำนวยการระดับโลกด้านความคิดในการเป็นผู้นำกล่าว “ข่าวดีสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางก็คือ ถึงแม้ว่า SMB จำนวนมากจะไม่คุ้นเคยกับการศึกษาล่าสุดของเราแต่ผู้บริโภคกำลังพิจารณาแบรนด์ที่หลากหลายมากขึ้น”

บริษัทขนาดใหญ่สามารถรับมือกับปัญหาเงินเฟ้อและห่วงโซ่อุปทานที่องค์กรขนาดเล็กมักประสบปัญหา ทำให้การปรับสมดุลสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมีความสำคัญอย่างยิ่ง แต่อาจเป็นความพยายามที่คุ้มค่าในช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจงนี้ Brand Balancing Act ให้มุมมองว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อแบรนด์ขนาดกลางและขนาดย่อมและกลยุทธ์ที่สามารถนำมาใช้เพื่อแสดงคุณค่าของตนและยังคงสอดคล้องกับค่านิยมหลักที่ผู้บริโภคต้องการ การวิเคราะห์ยังเน้นย้ำว่า

  • 56% ของผู้บริโภคทั่วโลกต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในท้องถิ่นจากธุรกิจขนาดเล็กในพื้นที่ของตน
  • 57% พยายามสนับสนุนแบรนด์ขนาดเล็กหากเป็นไปได้ แต่พบว่ามันยากที่จะหาซื้อได้ตามร้านค้า
  • 51% รู้สึกว่าแบรนด์ขนาดเล็กมีน่าเชื่อถือกว่าแบรนด์ใหญ่
  • 47% คิดว่าแบรนด์ขนาดเล็กมักจะมีราคาแพงกว่า แต่พร้อมที่จะจ่ายเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย
  • 86% ของผู้บริโภคทั่วโลกรู้สึกว่าเหตุผลในการใช้งาน เช่น ความพร้อมใช้งาน คุณภาพ และความคุ้มค่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการซื้อ การตัดสินใจ

“สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคในปัจจุบันได้สร้างพายุที่สมบูรณ์แบบสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางในการเชื่อมต่อกับผู้บริโภค แต่พายุเดียวกันนั้นอาจบดบังแบรนด์เล็กๆ มาก่อนเกินกว่าจะขยายขนาดได้ กุญแจสำคัญคือการหาข้อได้เปรียบที่เหมาะสม โดยยึดตามข้อมูลผู้บริโภคที่เหมาะสม เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในวิธีที่มีความหมาย” Fernandes กล่าว “โดย 48% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั่วโลกกล่าวว่าพวกเขาวางแผนที่จะซื้อจากแบรนด์ขนาดเล็กในอนาคต ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่สามารถเข้าใจแรงจูงใจในการซื้อในแนวใหม่นี้มักจะได้รับประโยชน์จากการตั้งค่าที่อัปเดตของผู้บริโภค”

เกี่ยวกับ NielsenIQ

NielsenIQ บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลระดับโลก ส่งมอบมาตรฐานในการวัดผลผู้บริโภคและการค้าปลีก ผ่านความเข้าใจที่เชื่อมโยง สมบูรณ์ และนำไปดำเนินการได้มากที่สุดของผู้บริโภคทั่วโลกแบบ Omnichannel ที่กำลังพัฒนา NielsenIQ เป็นแหล่งความเชื่อมั่นสำหรับอุตสาหกรรมที่เราให้บริการ และผู้บุกเบิกกำหนดศตวรรษหน้าของการวัดผลผู้บริโภคและการค้าปลีก ข้อมูล ข้อมูลเชิงลึกที่เชื่อมต่อ และการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ของเราเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ CPG และบริษัทค้าปลีก ทำให้พวกเขาใกล้ชิดกับชุมชนที่พวกเขาให้บริการมากขึ้น และช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของพวกเขา

NielsenIQ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Advent International มีการดำเนินงานในตลาดกว่า 90 แห่ง ครอบคลุมมากกว่า 90% ของประชากรโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม NielsenIQ.com

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220720005285/en/

ติดต่อ:

Media
Gillian Mosher
Gillian.mosher@nielseniq.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Academy of Marketing Science ของ Mary Kay ได้มอบรางวัลปริญญานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิตในการประชุมประจำปี 2022

Logo

นักศึกษาระดับปริญญาเอกจะได้รับทุนสนับสนุนจาก Mary Kay-Sponsored Doctoral Dissertation Awards เพื่อสานต่อเป้าหมายทางวิชาชีพและการศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการตลาด

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–19 ก.ค. 2022

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนองค์กรชั้นนำด้านการเสริมสร้างพลังและการเป็นผู้ประกอบการของสตรีให้การสนับสนุนด้านการศึกษาและการวิจัยเชิงวิชาการมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ ด้วยการประกาศผู้ชนะรางวัล Mary Kay Doctoral Dissertation and Doctoral Dissertation Proposal Awards ในปี 2022 ที่ Academy of การประชุมประจำปี Marketing Science (AMS) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 พฤษภาคม ในเมืองมอนเทอเรย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย  เป็นเวลาเกือบ 30 ปีแล้วที่บริษัทด้านความงามระดับโลกได้มอบทุนประจำปีเหล่านี้แก่ผู้สมัครระดับปริญญาเอกด้านการตลาด โดยเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงวิทยานิพนธ์ที่ได้รับการปกป้องอย่างประสบความสำเร็จต่อหน้าเพื่อนร่วมงาน ผู้ชนะจะพิจารณาจากการนำเสนอครั้งสุดท้ายในการประชุมประจำปี AMS

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220718005732/en/

Mary Kay Dissertation and Dissertation Proposal Award winners announced at 2022 Academy of Marketing Science annual conference. (Graphic: Mary Kay Inc.)

ผู้ชนะรางวัลวิทยานิพนธ์และวิทยานิพนธ์ของ Mary Kay ประกาศในการประชุมประจำปีของ Academy of Marketing Science ปี 2022 (กราฟิก: Mary Kay Inc.)

ผลงานที่ส่งเข้ามาเปิดรับนักศึกษาระดับปริญญาเอกที่ครอบคลุมหัวข้อ วิธีการ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการตลาดทั่วโลก ผู้เข้ารอบสุดท้ายของ 2022 Mary Kay Doctoral Dissertation and Doctoral Dissertation Proposal Award ได้แก่:

รางวัลการนำเสนอปริญญานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิตของ Mary Kay ผู้เข้ารอบสุดท้าย

  • ผู้ชนะเลิศ – Ali Anwar, PhD Candidate, Wilfrid Laurier University (Canada) – “Sales Enablement in Young Ventures: Essays on the Role of Resilience and Internal Social Capital in coping with Adverse Disruptions”
  • รองชนะเลิศอันดับ 1 – Alexander Fulmer, PhD Candidate, Yale University – Questioning the Intuitive Preference for Intentionality”
  • รองชนะเลิศอันดับ 2 – Jen Riley, PhD Candidate, Kennesaw State University – “Evaluating the Impact of Sales Technology on Professional Sales: An Analysis of Social Selling Effectiveness”

รางวัลปริญญานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิตของ Mary Kay ผู้เข้ารอบสุดท้ายปี 2022

  • ผู้ชนะเลิศ – Ishita Chakraborty, PhD, Yale University – “Attribute Sentiment Scoring with Online Text Reviews: Accounting for Language Structure and Missing Attributes”

“ Academy of Marketing Science Mary Kay Dissertation and Dissertation Proposal Awards มอบรางวัลและโอกาสสำหรับมืออาชีพด้านการตลาดเพื่อแสดงผลงานและรับข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์จากเพื่อนร่วมงานซึ่งมีความสำคัญต่อการเติบโตทางอาชีพของพวกเขา” Sheryl Adkins-Green ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Mary Kay Inc. กล่าว “ที่ Mary Kay เรายังคงมุ่งมั่นที่จะให้บริการแพลตฟอร์ม เพื่อความก้าวหน้าทางการศึกษาและอาชีพตลอดจนการพัฒนาวิชาชีพ เราภูมิใจที่ได้สนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดที่มีความสามารถเหล่านี้และการมีส่วนร่วมของพวกเขาในด้านการตลาด”

Julie Moulard อดีตประธานของ Immediate Past (ณ วันที่ 1 มิถุนายน) กล่าวว่า “การแข่งขันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในการที่จะเผยแพร่ผลงานของคุณในวารสารการตลาดที่สำคัญ และมีโอกาสได้รับคำติชมจากนักวิชาการด้านการตลาดชั้นนำก่อนที่จะส่งผลงานของคุณอย่างมีค่า” สถาบันวิทยาการตลาด. “รางวัลวิทยานิพนธ์ของ Mary Kay เป็นเวทีที่สำคัญสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเหล่านี้เพื่อให้งานของพวกเขาได้รับการตรวจสอบและปรับแต่งเพื่อเพิ่มโอกาสในการเผยแพร่ผลการวิจัยในวารสารการตลาดที่น่าเชื่อถือ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือทางวิชาการโดยรวมในที่สุด”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Academy of Marketing Science Mary Kay Dissertation Awards คลิก นี่ที่

เกี่ยวกับ Mary Kay

หนึ่งในผู้บุกเบิกฝ้าเพดานแก้วดั้งเดิม Mary Kay Ash ก่อตั้งบริษัทความงามในฝันของเธอในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียว: การทำให้ชีวิตของผู้หญิงสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย ​​เครื่องสำอางสี อาหารเสริม และน้ำหอม แมรี่ เคย์เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยร่วมมือกับองค์กรจากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการทารุณกรรมในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็กๆ ทำตามความฝัน  เรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com ติดตามเราบน Facebook, Instagram และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

เกี่ยวกับ Academy of Marketing Science

Academy of Marketing Science เป็นองค์กรวิชาชีพระดับนานาชาติที่ไม่แสวงหาผลกำไร ทุ่มเทเพื่อส่งเสริมมาตรฐานสูงและความเป็นเลิศในการสร้างและเผยแพร่ความรู้ด้านการตลาดและการส่งเสริมการปฏิบัติทางการตลาดผ่านบทบาทของความเป็นผู้นำในสาขาวิชาการตลาดทั่วโลก Academy มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมสูงสุดและความร่วมมือในการแสวงหาภารกิจนี้

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220718005732/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. ฝ่ายสื่อสารองค์กร
Marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

VOOPOO เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 รายการ บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของผู้ประกอบการ 8 ปีใน 30 นาที

Logo

เซินเจิ้น ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–04 ก.ค. 2022

แคมเปญ More Than Infinity ปี 2565 ของ VOOPOO จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2022 โดยที่ VOOPOO ใช้เวลา 30 นาทีในการบรรยายเรื่องราวของแบรนด์ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ก่อตั้ง โดยเผยให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่าง "สัญลักษณ์อินฟินิตี้" และ จิตวิญญาณของแบรนด์และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่ไม่มีที่สิ้นสุดโดยใช้เทคโนโลยีใน 3 บท ในขณะเดียวกัน งานก็มีไฮไลท์ผลิตภัณฑ์ POD 3 รายการ ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดของ VOOPOO

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยมัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220629005586/en/

Infinite innovation: The new product launch, backed by atomization platforms and chip development, manifests VOOPOO’s R&D strength. (Graphic: Business Wire)

นวัตกรรม Infinite: การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งสนับสนุนโดยแพลตฟอร์มการทำให้เป็นละอองและการพัฒนาชิป แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งด้านการวิจัยและพัฒนาของ VOOPOO (กราฟิก: Business Wire)

ธีมที่สำคัญมากในงานเสมือนจริงคือการบอกเล่าเรื่องราวการเติบโตของ VOOPOO นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อ 8 ปีที่แล้ว ทางบริษัทได้วิวัฒนาการจากผู้ให้บริการโซลูชันชิปการทำให้เป็นละอองสู่ผู้นำในอุตสาหกรรมการทำละอองอิเล็กทรอนิกส์แบบเปิดในปัจจุบัน  VOOPOO ได้ขับเคลื่อนการพัฒนาในเชิงบวกของอุตสาหกรรมผ่านชุดของนวัตกรรมใหม่ในขณะที่อยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงแบรนด์ของตัวเอง  นอกจากนี้ ตั้งแต่ VOOPOO เริ่มใช้กลยุทธ์โลกาภิวัตน์เมื่อปีที่แล้ว ก็ได้เปิดสาขาในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร อินโดนีเซีย เยอรมนี ฝรั่งเศส แคนาดา และมาเลเซีย และจะเปิดเพิ่มเติมในอนาคตเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการดำเนินงานในระดับท้องถิ่น VOOPOO ยังยืนกรานที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับอิทธิพลระดับโลกในด้านการทำให้เป็นละอองทางอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก โดยการจัดตั้งร้านเรือธงของแบรนด์และเปิดตัวแอปในภูมิภาคต่างๆ มากขึ้น

อีกหนึ่งส่วนสำคัญของงาน VOOPOO คือเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Pod ล่าสุดสามผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ V-series สองรายการ ได้แก่ VMATE E และ VMATE Infinity Edition เป็นครั้งแรก ผลิตภัณฑ์ทั้งสองมีการติดตั้ง cartomizer ที่ได้รับการอัพเกรดใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีการปิดผนึกความสด 5A เพื่อล็อครสชาติและกลิ่นหอมของ e-liquid ที่สดใหม่ ในขณะที่การออกแบบพื้นผิวเลนส์ Fresnel สามารถลดการสัมผัสกับแสงของ e-liquid ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคงรสชาติที่สดใหม่ สำหรับผู้ใช้ วัสดุของตลับถูกเพิ่มเป็นพิเศษด้วยไอออนเงินที่มีประสิทธิภาพ 99%+ ประสิทธิภาพการต้านเชื้อแบคทีเรีย

ผลิตภัณฑ์ Drag Q ตัวที่ 3 ที่วางจำหน่ายก่อนหน้านี้กลับมาพร้อมกับ CMF Infinity Edition ใหม่ ในฐานะผลิตภัณฑ์ POD Drag Q ได้ปฏิวัติอุตสาหกรรมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ POD ด้วยประสิทธิภาพระดับผู้เชี่ยวชาญในการควบคุมแรงดันอัจฉริยะและการฟื้นฟูรสชาติ  ในการเปิดตัวเสมือนจริง VOOPOO แบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลกยังอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับแรงผลักดันหลักของการพัฒนาแบบก้าวกระโดดของ VOOPOO กล่าวคือ การลงทุนในการวิจัยและพัฒนาที่ "เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง" จนถึงตอนนี้ VOOPOO ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มการทำให้เป็นละอองบุกเบิกสามแพลตฟอร์มเพื่อรองรับผู้ใช้ที่แตกต่างกัน ได้แก่ PNP, TPP, ITO และได้พัฒนาชิป GENE สองตัวสำหรับฟังก์ชันผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน ได้แก่ GENE AI และ GENE TT ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีการทำให้เป็นละอองที่ VOOPOO ได้รับความไว้วางใจและการสนับสนุนจากผู้บริโภค

การเชื่อมต่อที่ไม่มีที่สิ้นสุด: จับมือกับลูกค้ากว่า 100,000 รายและแฟน ๆ กว่า 50,000,000 รายเพื่อสร้างวัฒนธรรม

การทำให้เป็นละอองทางอิเล็กทรอนิกส์ บทสุดท้ายอุทิศให้กับลูกค้าและแฟน ๆ นับล้านที่เดินคู่กับ VOOPOO ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา VOOPOO ได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับร้านค้าออฟไลน์มากกว่า 100,000 แห่ง และชนะใจผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและการลงทุนในตลาดอย่างต่อเนื่อง  ความสำเร็จของตลาดเป็นหลักฐานของผลประโยชน์ร่วมกันและความร่วมมือแบบ win-win กับพันธมิตร  ในระดับโลก ผู้ใช้มากกว่า 50 ล้านคนได้กลายเป็นแฟนตัวยงของ VOOPOO พวกเขาไม่เพียงแต่กระตุ้น VOOPOO ให้ยังคงสร้างผลิตภัณฑ์ที่ล้ำสมัย แต่ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการทำให้เป็นละอองทางอิเล็กทรอนิกส์ในระบบนิเวศ VOOPOO ด้วย  VOOPOO ประกาศว่าแฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ VOOPOO จะเปิดในสหราชอาณาจักรและอินโดนีเซียเพื่อการโต้ตอบอย่างใกล้ชิดกับแฟนๆ ของ VOOPOO

VOOPOO ใช้เวลา 30 นาทีเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างกลยุทธ์การพัฒนาของ VOOPOO จิตวิญญาณแห่งนวัตกรรม วัฒนธรรมของแบรนด์ และสัญลักษณ์ที่ไม่มีที่สิ้นสุด ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ 3 รายการจะคุ้มค่ากับความคาดหวังของตลาดและอุตสาหกรรม

เกี่ยวกับ VOOPOO

VOOPOO เป็นแบรนด์ชั้นนำของระบบ open pod และเติบโตอย่างรวดเร็วผ่านผลิตภัณฑ์ DRAG ซึ่งได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางทั่วโลกในระยะเวลาอันสั้น VOOPOO มุ่งเน้นไปที่การสร้างแพลตฟอร์มเทคโนโลยีหลักสองแพลตฟอร์มของ [Chip] และ [Atomization] VOOPOO ได้พัฒนา GENE.AI, GENE.TT และชิปอื่นๆนอกจากนี้ VOOPOO ยังได้พัฒนา Atomization Platform สามแบบอย่างอิสระ ได้แก่ TPP, PNP, ITO โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้ที่แตกต่างกัน VOOPOO มีชุดผลิตภัณฑ์หลักสี่ชุด – ARGUS, DRAG, VINCI และ V-series (Doric) VOOPOO จะยังคงพัฒนาตลาดระดับประเทศต่อไปในอนาคต โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างแบรนด์ระดับโลกที่ทรงอิทธิพลที่สุดแบรนด์หนึ่ง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220629005586/en/

ติดต่อ:

Kai Tsu
Senior PR manager
15957944779
kai@voopootech.com

ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกและผู้ปฏิบัติงานที่มีทักษะรวมกันเพื่อปรับปรุงสุขภาพของมหาสมุทรโดยจัดการกับความท้าทายทั่วทั้งระบบด้านการจัดการทางทะเล

Logo

ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจากโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ The Nature Conservancy รัฐบาล หน่วยงานวิจัย และภาคเอกชน มารวมตัวกันเพื่อแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการปรับปรุงการจัดการทางทะเลอิงตามบทเรียนที่เรียนรู้มาจากทั่วโลก

ลิสบอน โปรตุเกส–(BUSINESS WIRE)–28 มิถุนายน 2565

พื้นที่คุ้มครองทางทะเล (MPA) เป็นเครื่องมือสำคัญในการลดภัยคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพ การปกป้องแหล่งที่อยู่อาศัยทางทะเลและชายฝั่ง การสร้างโซลูชันสภาพภูมิอากาศ และสนับสนุนความต้องการของมนุษย์ผ่านการใช้งานที่ยั่งยืน กรอบงานความหลากหลายทางชีวภาพระดับโลก (Global Biodiversity Framework) ของอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (Convention on Biological Diversity) อาจรวมถึงเป้าหมายที่ตั้งใจและมุ่งมั่นในการขยายความครอบคลุม MPA ให้เป็น 30% ภายในปี 2573 อย่างไรก็ตาม พื้นที่คุ้มครองทางทะเลที่น้อยกว่า 3% บรรลุวัตถุประสงค์ในการเผชิญกับภัยคุกคามระดับท้องถิ่นและระดับโลกที่เร่งขึ้น

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220628005443/en/

Dr. Lizzie McLeod, Global Reefs Lead for The Nature Conservancy (Photo: Mary Kay Inc.)

Dr. Lizzie McLeod, Global Reefs Lead ของ The Nature Conservancy (ภาพ: Mary Kay Inc.)

เพื่อจัดการกับความท้าทายนี้ ทีมผู้เชี่ยวชาญได้ประชุมกันในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยมหาสมุทรในเดือนมิถุนายน 2565 ที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ในหัวข้อ “เรื่องคุณภาพ: การเสริมสร้างธรรมาภิบาล การจัดการที่มีประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นของพื้นที่คุ้มครองทางทะเลเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันหลายประการ” งานนี้มีวิทยากรจากภาคเอกชน หน่วยงานวิทยาศาสตร์ทางทะเลในท้องถิ่น ตัวแทนจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร รัฐบาล และองค์กรระหว่างรัฐบาล วิทยากรจะแบ่งปันว่าพวกเขาเป็นหัวหอกในการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยีและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านการจัดการทางทะเลอย่างไร จะเน้นที่เครื่องมือที่มีคุณค่า การเพิ่มการทำงานร่วมกัน การแบ่งปันความรู้ และการเรียนรู้จากบทเรียน Dr. Lizzie McLeod, Global Reefs Lead ของ The Nature Conservancy กล่าวว่า “การเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงภาคเอกชน รัฐบาล องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร (NGO) นักวิจัย และชุมชนท้องถิ่นมีความสำคัญต่อการปรับปรุงสุขภาพของมหาสมุทร การใช้ประโยชน์จากบทเรียนที่ได้รับและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดทั่วโลกเพื่อปรับปรุงการจัดการมหาสมุทรคือลำดับความสำคัญในการอนุรักษ์ รวมถึงการร่วมกันสร้างโซลูชันร่วมกับพันธมิตรหลัก”

จากเหตุการณ์นี้ โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ The Nature Conservancy และพันธมิตรด้านการอนุรักษ์อื่น ๆ โดยการสนับสนุนจาก Mary Kay Inc. กำลังพัฒนาชุดเครื่องมือสนับสนุนการตัดสินใจสำหรับผู้จัดการทางทะเลที่แก้ไขปรับปรุงการจัดการทางทะเล สนับสนุนการจัดหาเงินทุนที่ยั่งยืนของพื้นที่คุ้มครองทางทะเล และแนะนำการสร้างการฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยทางทะเลตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดทั่วโลก ด้วยการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีใหม่ ๆ และแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดระดับโลก ผู้จัดการทางทะเลจะสามารถจัดการกับภัยคุกคามที่สำคัญที่ระบบนิเวศทางทะเลทั่วโลกต้องเผชิญได้ดียิ่งขึ้น “MPAs เป็นกุญแจสำคัญต่อสุขภาพของมหาสมุทรและการพัฒนาที่ยั่งยืน แต่ก็ไม่ได้ผลเสมอไปหากไม่มีการสนับสนุนมากมาย เครื่องมือสนับสนุนการตัดสินใจที่ช่วยให้การออกแบบและการจัดการ MPA ดีขึ้น การแบ่งปันความรู้ และการทำงานร่วมกันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทางทะเลได้รับการสนับสนุนที่จำเป็นในการปกป้องมหาสมุทรได้ดียิ่งขึ้น” Ole Vestergard เจ้าหน้าที่โครงการของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ กล่าว

“Mary Kay มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุน TNC โดยร่วมมือกับ UNEP และผู้เชี่ยวชาญอื่น ๆ จากทั่วโลก ในความพยายามที่จะปกป้องทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดในโลกของเรา นั่นคือ มหาสมุทร” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay กล่าว “องค์กรเหล่านี้อยู่ในแนวหน้าของการต่อสู้เพื่อรักษาแหล่งน้ำของเรา และเราหวังว่าด้วยการสนับสนุนจาก Mary Kay พวกเขาจะมีเครื่องมือและทรัพยากรที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่ามหาสมุทรของเรามีสุขภาพที่ดีสำหรับคนรุ่นต่อไป”

ในขณะที่รัฐบาลปรับแต่งเป้าหมายการอนุรักษ์ ก็ถึงเวลาที่จะเน้นย้ำถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้ประเทศอื่น ๆ บรรลุเป้าหมายด้านความหลากหลายทางชีวภาพระดับโลกและการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งนี้จำเป็นต้องมีเครื่องมือในการตัดสินใจและวิทยาศาสตร์พื้นฐานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของนักวางแผนและผู้จัดการทางทะเลเพื่อจัดการแหล่งที่อยู่อาศัยทางทะเลให้ดีขึ้นเมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยคุกคามอื่น ๆ

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ดินแดนและน่านน้ำที่ทุกชีวิตต้องพึ่งพาอาศัย ภายใต้การนำด้วยวิทยาศาสตร์ เรารังสรรค์โซลูชั่นที่สร้างสรรค์และใช้งานได้จริงเพื่อรับมือกับความท้าทายที่ยากที่สุดในโลกของเรา เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเติบโตไปด้วยกัน เรากำลังจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์พื้นดิน น้ำ และมหาสมุทรในแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยให้เมืองมีความยั่งยืนมากขึ้น การทำงานใน 79 ประเทศและภูมิภาค เราใช้แนวทางการทำงานร่วมกันที่มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่น ๆ ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

เกี่ยวกับโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP)

UNEP เป็นกระบอกเสียงชั้นนำระดับโลกด้านสิ่งแวดล้อม โดยให้ความเป็นผู้นำและส่งเสริมการเป็นพันธมิตรในการดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยการสร้างแรงบันดาลใจ นำเสนอข้อมูล และช่วยให้ประชาชาติและผู้คนสามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตของพวกเขาโดยไม่กระทบต่อคนรุ่นอนาคต

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 2506 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220628005443/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

Misty Edgecomb
Communications Director, Protect Oceans, Land and Water
The Nature Conservancy
Las Vegas, Nevada (Pacific time zone)
medgecomb@tnc.org, 484-343-3223 cell
pronouns: she/her, Twitter: @mistyedgecomb

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย






NielsenIQ เร่งขยายกลยุทธ์การค้าปลีกทั่วโลกด้วยการนำ Dawn E. Norvell มาร่วมงานในฐานะผู้นำห้องแล็บการค้าปลีก หรือ Retail Lab

Logo

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–27 มิ.ย. 2565

NielsenIQ ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับแนวปฏิบัติด้านการค้าปลีกระดับโลกด้วยการนำ Dawn E. Norvell มาร่วมงานในตำแหน่งหัวหน้าระดับโลก ณ NielsenIQ Retail Lab ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ โดยในบทบาทใหม่นี้ Norvell จะเป็นผู้นำทีมที่ทำงานอย่างแข็งขัน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งไปที่ความต้องการของลูกค้ารายย่อย การออกแบบโซลูชันการออกแบบ และยังช่วยให้ผู้ค้าปลีกใช้ชุดผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ NielsenIQ เพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของตนได้ดียิ่งขึ้น โดย Norvell จะเป็นผู้นำในการสร้างกลยุทธ์การขายและการจัดการเชิงพาณิชย์ที่ออกแบบมาเพื่อขยายจุดเน้นในการวิเคราะห์การค้าปลีกของ NielsenIQ อีกทั้งการสร้างความเติบโตภายในหน่วยธุรกิจ อีกด้วย

“NielsenIQ Retail Lab เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การค้าปลีกระดับโลกและความสำเร็จของบริษัทของเรา ความรู้และภูมิหลังระดับชั้นนำของอุตสาหกรรมในตลาดโลกของ Dawn จะมอบมุมมองที่หายากเกี่ยวกับบรรยากาศการค้าปลีกในปัจจุบันให้กับบริษัท” David Johnson ประธานฝ่ายค้าปลีกระดับโลกของ NielsenIQ กล่าว “ประสบการณ์ตรงที่กว้างขวางของเธอจะช่วยยกระดับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงเป้าหมายลูกค้า และเพิ่มความเข้าใจเชิงลึกที่จำเป็นให้กับทีมค้าปลีกของเรา เรารู้สึกตื่นเต้นที่ NielsenIQ ยังคงดึงดูดกลุ่มผู้ที่มีความสามารถสูงสุดของการเป็นนักคิดเชิงนวัตกรรมและผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ต่อไปเรื่อย ๆ”

Norvell เป็นผู้นำทางธุรกิจที่มีวิสัยทัศน์พร้อมประวัติความสำเร็จและประสบการณ์การค้าปลีกที่กว้างขวาง ความเชี่ยวชาญของเธอในการวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภคและผู้ผลิต การเชื่อมโยงโซลูชันที่ซับซ้อนเพื่อแก้ปัญหาทางธุรกิจ การจัดการกำไรขาดทุน และกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มุ่งผู้บริโภคเป็นหลัก จะช่วยให้เราสามารถส่งมอบผลลัพธ์ทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและในระยะยาวได้

“การย้ายมาที่ NielsenIQ เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับฉัน เพราะชื่อเสียงของบริษัทในการให้บริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม และการอุทิศตนเพื่อนำเสนอการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับแนวโน้มผู้บริโภคและตลาดที่ไม่มีใครเทียบได้” Dawn E. Norvell กล่าว “ฉันยังสนใจใน Retail Lab แห่งใหม่ของบริษัท ซึ่งเป็นแนวคิดของห้องแล็บที่เป็นนวัตกรรมที่แท้จริงที่ช่วยให้ค้นพบปัญหาที่เป็นต้นตอจริง ๆ ของผู้ค้าปลีก อีกทั้งยังมีความสามารถในการจัดการกับปัญหาเหล่านี้ และโอกาสในการสร้างรายได้จากจุดแข็งของผู้ค้าปลีก อีกด้วย ฉันหวังว่าจะได้ผลักดันผลลัพธ์ทางธุรกิจที่แข็งแกร่งโดยการเป็นผู้นำและพัฒนาทีมนักคิดเชิงนวัตกรรมและผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถที่หลากหลาย ณ NielsenIQ Retail Lab”

ก่อนที่จะมาร่วมงานกับ NielsenIQ ตัว Norvell เองได้ทำงานกว่า 10 ปีที่ Walmart ที่ซึ่งเธอทำหน้าที่เป็นทั้งผู้ค้าอาวุโสและนักการตลาดประเภทสินค้าในด้านอาหาร วัสดุสิ้นเปลือง และความงาม เธอได้รับการยอมรับจากรางวัลต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม ซึ่งรวมไปถึงรางวัล Merchandising Excellence Impact Award และรางวัล Risk Thinking Award ของ Walmart นอกจากนี้ Norvell ยังได้รับเลือกให้เป็นวิทยากรคนสำคัญในงานอีเวนต์ต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมหลายงาน และได้รับการยกย่องในฐานะผู้บริหารอุตสาหกรรมความงามที่ "ทรงพลัง" ในการจัดอันดับ "Black Women in Beauty: 15 Beauty Executives Who Are Changing the Industry หรือ สตรีผิวสีในอุตสาหกรรมความงาม: 15 ผู้บริหารด้านความงามที่สร้างความแตกต่างให้กับอุตสาหกรรม" ของนิตยสาร Essence

เกี่ยวกับ NielsenIQ

NielsenIQ บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลระดับโลก ซึ่งมอบมาตรฐานระดับสูงในการวัดผลผู้บริโภคและการค้าปลีก ผ่านความเข้าใจที่เชื่อมโยง สมบูรณ์ และที่สามารถนำไปดำเนินการได้มากที่สุดของผู้บริโภคจากทุกช่องทางทั่วโลก กลุ่มอุตสาหกรรมที่เราให้บริการต่างมอบความเชื่อมั่นให้กับ NielsenIQ โดย NielsenIQ ยังเป็นบริษัทผู้บุกเบิกศตวรรษหน้าในด้านการวัดผลผู้บริโภคและการค้าปลีก ข้อมูล ข้อมูลเชิงลึกที่เชื่อมต่อ และการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ของเราเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ CPG และบริษัทค้าปลีก ทำให้บริษัทต่าง ๆ ใกล้ชิดกับชุมชนที่พวกเขาให้บริการมากขึ้น และช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทเหล่านั้น

NielsenIQ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Advent International มีการดำเนินงานในตลาดมากกว่า 90 แห่ง ครอบคลุมมากกว่าร้อยละ 90 ของประชากรโลก ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ NielsenIQ.com.

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220627005238/en/

ติดต่อ:

Gillian Mosher

รองประธานฝ่ายสื่อสาร

Gillian.mosher@nielseniq.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

มากกว่าอินฟินิตี้! VOOPOO เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทั่วโลกในวันที่ 29 มิถุนายน ทางออนไลน์

Logo

เซินเจิ้น ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–23 มิ.ย. 2022

VOOPOO แบรนด์ atomization อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำระดับโลก เผยการนับถอยหลังเจ็ดวันบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน  การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในธีม "มากกว่าอินฟินิตี้" จะจัดขึ้นในเวลา 22:00 น. (GMT+8) ในวันที่ 29 มิถุนายน  การเปิดตัว VOOPOO ของปีนี้จะได้เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างชัดเจน

ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220623005539/en/

MORE THAN INFINITY NEW PRODUCT LAUNCH BY VOOPOO (Graphic: Business Wire)

MORE THAN INFINITY เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่โดย VOOPOO (กราฟิก: Business Wire)

จะมีการแบ่งปันเรื่องราวใดบ้างในการแสดงครบรอบ 8 ปีนี้

งานเปิดตัวนี้ไม่ได้จัดขึ้นเพื่อผลิตภัณฑ์ใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นการฉลองครบรอบ 8 ปีของการก่อตั้ง VOOPOO ด้วย  นับตั้งแต่ก่อตั้ง VOOPOO ได้รับชื่อเสียงในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ปฏิวัติวงการมากมาย ในขณะที่ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรม  VOOPOO ประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดดโดยได้เพิ่งส่วนแบ่งการตลาดทุกปี  จนถึงตอนนี้ VOOPOO ได้กลายเป็นแบรนด์ชั้นนำในระบบ Open Pod VOOPOO  นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัล Vapoouround 2022 หลายรางวัล เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นที่รู้จักว่าเป็นรางวัลออสการ์ของอุตสาหกรรมการทำให้เป็นละออง และได้รับการยกย่องอย่างสูงจากอุตสาหกรรมและผู้ใช้  VOOPOO จะเปิดเผยเรื่องราวเบื้องหลังแบรนด์ในวันครบรอบ 8 ปีนี้

มีความสัมพันธ์ระหว่างสัญลักษณ์อินฟินิตี้กับแบรนด์ VOOPOO หรือไม่?

โปสเตอร์ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการและแพลตฟอร์มโซเชียลทั้งหมดใช้สัญลักษณ์อินฟินิตี้เป็นองค์ประกอบภาพหลักของการเปิดตัว  VOOPOO เพิ่งเปิดตัวกิจกรรมที่มีชื่อเสียงมากมายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น “Spark Your Life Infinite Challenge” บน Tik-Tok หรือ กิจกรรมป๊อปอัพที่จัดโดยศิลปินกราฟฟิตีในสหราชอาณาจักรและอินโดนีเซีย ล้วนติดอยู่กับสัญลักษณ์อินฟินิตี้อย่างยิ่ง ตอนนี้เป็นที่ชัดเจนว่าสิ่งเหล่านี้ถูกจัดขึ้นเพื่ออุ่นเครื่องการเปิดตัว การเปิดตัวครั้งนี้มีธีมเป็น “มากกว่าอินฟินิตี้” โดยเน้นว่าสัญลักษณ์อินฟินิตี้จะกลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของแบรนด์ VOOPOO สำหรับจิตวิญญาณของแบรนด์กับเครื่องหมายอินฟินิตี้นั้นจะถูกเปิดเผยเมื่อเปิดตัวเท่านั้น

ผลิตภัณฑ์ใหม่จะปฏิวัติวงการอะไร?

ไฮไลท์ของการเปิดตัวอีกประการหนึ่งคือผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ VOOPOO จะเปิดตัวในครั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากเนื้อหาที่เกี่ยวข้องที่เปิดเผยบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ  ภาพรวมของสไตล์ KEY VISION นั้นล้ำหน้าทางเทคโนโลยีอย่างมาก และจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์หลายรายการพร้อมกัน สำหรับ VOOPOO ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้อาจก่อให้เกิดความก้าวหน้าในด้านการออกแบบและเทคโนโลยีต่างๆ ด้วยเช่นกัน  ทางการเปิดเผยว่าการเปิดตัวจะถ่ายทอดสดบนช่อง YouTube เวลา 22:00 น. (GMT+8) ในวันที่ 29 มิถุนายน  ในเวลานั้น แฟน vape ทั่วโลกและผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมจะได้เห็นและมีส่วนร่วมในงานเลี้ยงของ VOOPOO

เกี่ยวกับ VOOPOO

VOOPOO เป็นแบรนด์ชั้นนำของระบบ open pod และเติบโตอย่างรวดเร็วผ่านผลิตภัณฑ์ DRAG ซึ่งได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางทั่วโลกในระยะเวลาอันสั้น  VOOPOO มุ่งเน้นไปที่การสร้างสองแพลตฟอร์มเทคโนโลยีหลัก [Chip] และ [Atomization]  VOOPOO ได้พัฒนา GENE.AI, GENE.TT และชิปอื่นๆ  นอกจากนี้ VOOPOO ยังได้พัฒนา Atomization Platform สามแบบอย่างอิสระ ได้แก่ TPP, PNP, ITO โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้ที่แตกต่างกัน VOOPOO มีชุดผลิตภัณฑ์หลักสี่ชุด – ARGUS, DRAG, VINCI และ V-series (Doric) VOOPOO จะยังคงพัฒนาตลาดระดับประเทศต่อไปในอนาคต โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างแบรนด์ระดับโลกที่ทรงอิทธิพลที่สุดแบรนด์หนึ่ง

อ่านต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20220623005539/en/

Nical Zhang
PR Manager
Nical.zhang@voopootech.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. ร่วมมือกับ Society of Investigative Dermatology (SID) เพื่อมอบทุนสนับสนุนการศึกษาให้แก่นักวิจัยทางวิชาการสำหรับความก้าวหน้าในการวิจัยเพื่อส่งเสริมสุขภาพผิว

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–23 มิถุนายน 2565

Mary Kay Inc. ผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมการดูแลผิว เพิ่งได้สนับสนุนและเปิดเผยผู้ได้รับทุนวิจัยของ Mary Kay Skin Health/Skin Disease Research Grants สำหรับนักวิจัยที่ทำการศึกษานวัตกรรมด้านสุขภาพผิวหนังและโรคผิวหนังที่งานประจำปี 2022 Society for Investigative Dermatology (SID)

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220623005229/en/

Dr. Lucy Gildea, Ph.D., Mary Kay Chief Innovation Officer, Product and Science (Photo: Mary Kay Inc.)

Dr. Lucy Gildea, Ph.D. ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay (ภาพ: Mary Kay Inc.)

“ในฐานะผู้นำด้านเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับโลกมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษ Mary Kay ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำให้ชีวิตของผู้หญิงทั่วโลกสมบูรณ์ยิ่งขึ้น” Dr. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay กล่าว “เรายังมีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงสุดและดำเนินการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับผิวหนังที่ก้าวล้ำทันสมัย เราตระหนักดีว่าการทำงานร่วมกันมีความสำคัญต่อการค้นพบใหม่ ๆ และการร่วมมือกับชุมชนทางวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และการวิชาการเป็นความร่วมมือที่สำคัญ นั่นคือเหตุผลที่เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะมอบทุนสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์เหล่านี้”

ทุนวิจัยของ Mary Kay Skin Health/Skin Disease Research Grants ประกาศในการประชุมเมื่อปีที่แล้วโดยร่วมมือกับ SID ทุนสนับสนุนมูลค่า 25,000 ดอลลาร์จะมอบให้กับนักวิจัยจำนวนสี่คนที่ทำงานวิจัยด้านผิวหนังอย่างไม่น่าเชื่อเพื่อค้นพบมุมมองใหม่และกลยุทธ์นวัตกรรมเชิงพาณิชย์ ในช่วงหลายเดือนหลังจากการประชุมงาน 2021 SID บริษัทได้รับใบสมัครจากนักวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ

ผู้ได้รับทุนสี่รายสุดท้ายที่ได้รับการคัดเลือกได้แก่:

  • Dr. Allison C. Billi, MD, Ph.D. และผู้ช่วยศาสตราจารย์ในภาควิชาโรคผิวหนังที่ University of Michigan เป้าหมายการวิจัยหลักของ Dr. Billi คือการทำความเข้าใจว่า “สิ่งไหนที่ขับเคลื่อนความแก่ของผิวหนังที่เกิดจากแสงแดด” ทุนนี้จะให้ทุนสนับสนุนการวิจัยเพื่อระบุเส้นทางที่สามารถกำหนดเป้าหมายได้ซึ่งช่วยป้องกันหรืออาจย้อนกลับผลกระทบของความแก่ของผิวหนังที่เกิดจากแสงแดด
  • Dr. Angel S. Byrd, MD, Ph.D. และผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่ Howard University College of Medicine และผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่ JHUSOM (ภาควิชาโรคผิวหนัง) งานของ Dr. Byrd มุ่งเน้นไปที่พื้นฐานทางพันธุกรรมของฝ้า ทุนนี้จะให้ทุนสนับสนุนการวิจัยเพื่อช่วยค้นหาสาเหตุทางพันธุกรรมที่ไม่รู้จักของฝ้า เพื่อออกแบบทางเลือกในการรักษาเฉพาะบุคคล
  • Dr. Mae Alexandra Carpenter, Ph.D. นักศึกษาฝึกงานที่ Wright State University งานของ Dr. Carpenter สำรวจว่าอนุภาคที่มี DNA ที่เสียหายได้ถูกปล่อยออกมาอย่างไรและกระตุ้นกระบวนการอักเสบได้อย่างไร การให้ทุนสนับสนุนการวิจัยนี้จะช่วยพัฒนาแนวทางการรักษาแบบใหม่เพื่อลดความไวต่อแสง UVB ในกลุ่มโรค autoinflammatory diseases
  • Dr. Jennifer Powers, MD และรองศาสตราจารย์คลินิกใน ภาควิชาโรคผิวหนังที่ University of Iowa โดย Dr. Powers สนใจในอิทธิพลของไมโครไบโอมและสภาพแวดล้อมในการรักษาต่อการหายของบาดแผลและการเกิดแผลเป็น เงินทุนสำหรับการวิจัยนี้จะช่วยให้เข้าใจว่าระบบภูมิคุ้มกันและจุลินทรีย์ไมโครไบโอตามีปฏิกิริยาอย่างไรในการปรับเปลี่ยนการก่อตัวของแผลเป็นจากแผลและแผลผ่าตัด

“ขอแสดงความยินดีกับผู้ได้รับทุนประจำปี 2565 ของเรา” Dr. Gildea กล่าวเสริม “บุคคลเหล่านี้ได้รับการคัดเลือกอย่างรอบคอบโดยร่วมมือกับ Society for Investigative Dermatology และเรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้สนับสนุนการวิจัยของพวกเขา”

การสนับสนุนและเงินทุนที่เปิดเผยที่งาน SID เป็นเพียงความพยายามครั้งล่าสุดของ Mary Kay ในการตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทที่มีมาอย่างยาวนานในการวิจัยและพัฒนาสุขภาพผิวให้ก้าวหน้า Mary Kay ถือครองสิทธิบัตรผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และการออกแบบบรรจุภัณฑ์มากกว่า 1,600 รายการในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั่วโลก

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 2506 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220623005229/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


Mary Kay Inc. นำเสนอผลการวิจัยใหม่เกี่ยวกับมลภาวะและสุขภาพผิวที่งาน Society for Investigative Dermatology Conference

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–23 มิถุนายน 2565

Mary Kay Inc. ผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมการดูแลผิว ยังคงให้การสนับสนุนชุมชนด้านความงามและวิทยาศาสตร์อย่างต่อเนื่องเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยการสนับสนุนการประชุมประจำปีของงาน 2022 Society for Investigative Dermatology (SID) และเปิดเผยงานวิจัยที่ก้าวล้ำหน้าภายในงาน ผลการวิจัยใหม่ของ Mary Kay ร่วมกับ NYU Grossman Medical School of Environmental Medicine พบว่าสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของ Mary Kay® TimeWise® Miracle Set 3D™ ช่วยลดผลกระทบที่เป็นอันตรายของมลภาวะในชนบทและรังสียูวี

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีเนื้อหามัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20220623005144/en/

Dr. Lucy Gildea, Ph.D., Mary Kay Chief Innovation Officer, Product and Science (Photo: Mary Kay Inc.)

Dr. Lucy Gildea, Ph.D. ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay (ภาพ: Mary Kay Inc.)

“ทีมวิจัยและพัฒนาของเราทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาความก้าวหน้าของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหรือการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ในครั้งต่อไป” Dr. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay กล่าว “ด้วยการเป็นพันธมิตรกับ NYU Grossman และทีมวิทยาศาสตร์และวิชาการอื่น ๆ ทั่วโลก เรามั่นใจว่าบริษัทของเรา—และผลิตภัณฑ์ของเรา—อยู่ในระดับแนวหน้าของนวัตกรรมการดูแลผิวและสุขภาพ”

มลพิษทางอากาศยังคงเพิ่มขึ้นเป็นปัญหาด้านสุขภาพทั่วโลก ก่อนหน้านี้ ทีมวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และค้นพบว่าผลกระทบของมลพิษทางอากาศต่อผิวหนังนั้นรุนแรงมาก ส่งผลให้เกิดริ้วรอย ความหมองคล้ำ และรอยย่น มลพิษทางอากาศสร้างอนุมูลอิสระที่ผิวนั้นต้องต่อสู้เพื่อรักษาสุขภาพและความอ่อนเยาว์

การวิจัยโดยรวมนี้บ่งชี้ว่าสารต้านอนุมูลอิสระชนิดใหม่ที่ใช้เฉพาะที่ของ Mary Kay อาจลดความเสียหายของเซลล์เนื่องจากความเครียดจากสภาพแวดล้อมทั้งในเมืองและในชนบท ซึ่งเป็นประเภทของความเสียหายของเซลล์ที่นำไปสู่สัญญาณของการแก่ก่อนวัย สาร “ซูเปอร์” คอมเพล็กซ์นี้ประกอบด้วยนวัตกรรม encapsulated ที่ห่อหุ้มสารสกัดจากองุ่นแดง (resveratrol) เพื่อต่อต้านวัยและลดการเกิดริ้วรอย ผลิตภัณฑ์ยังมีวิตามินบี 3 เพื่อลดอาการน้ำคั่งในผิว และท้ายสุดเปปไทด์ที่ฟื้นบำรุงเพื่อผิวให้ดูอ่อนเยาว์จบครบสูตรต้านมลภาวะ ด้วยประโยชน์เหล่านี้ที่บันทึกไว้ ทีมงานจึงหวังว่าผู้คนจำนวนที่มากขึ้นจะสามารถค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้องเพื่อต่อสู้กับผลกระทบของมลภาวะต่อผิวของตนเองได้

การสนับสนุนและการวิจัยที่เปิดเผยที่งาน SID เป็นเพียงความพยายามครั้งล่าสุดของ Mary Kay ในการตอกย้ำความมุ่งมั่นที่มีมายาวนานของแบรนด์ในการวิจัยและพัฒนาสุขภาพผิวให้ก้าวหน้า Mary Kay ถือครองสิทธิบัตรผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และการออกแบบบรรจุภัณฑ์มากกว่า 1,600 รายการในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั่วโลก

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 2506 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันของเธอได้เบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทที่เติบโตทางการเงินมูลค่าหลายพันล้าน พร้อมพนักงานขายอิสระกว่าล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตสินค้าบำรุงผิว เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20220623005144/en/

ติดต่อ:

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย


The Bangkok Reporter