BRANDSTARS ประกาศ ‘2022 Korean Wave Brands (KWB)’

Logo

โซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–12 ธันวาคม 2022

ได้ประกาศแบรนด์ตัวแทนสำหรับแต่ละประเภทของ '2022 Korean Wave Brands (KWB)' ซึ่งจัดโดยคณะกรรมการคัดเลือก BRANDSTARS

งานฉลองครบรอบ 5 ปีในปีนี้จัดขึ้นเพื่อคัดเลือกและประกาศตัวแทนแบรนด์ Korean Wave พร้อม ๆ กันผ่านสื่อหลักในจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกได้ดีขึ้นด้วยการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้บริโภคในต่างประเทศ

ในฐานะแบรนด์ที่เป็นตัวแทนของแต่ละอุตสาหกรรมอย่าง Samsung Galaxy Z Fold4 และ Z Flip4 ของ Samsung Electronics, IONIQ5 ของ Hyundai Motor Company, OLED TV และ TROMM ของ LG Electronics, Bacchus ของ Dong-A Pharm ได้รับเลือก

ในหมวดชอปปิง ทั้ง Lotte Department Store และ The Shilla Duty Free ได้รับเลือกอีกครั้งในปีนี้ ในหมวดความบันเทิง BTS และอูยองอูทนายอัจฉริยะ (Extraordinary Attorney Woo) ซึ่งเป็นผู้นำความนิยมของ K-pop และ K-drama ตามลำดับ ได้รับเลือก ในหมวดการท่องเที่ยวและการแสดง จังหวัดปกครองตนเองพิเศษเชจู (Jeju Special Self-Governing Province) และการแสดงน้ำลอยฟ้าในเชจู (Jeju Sky Water Show) ก็ได้อยู่ในรายชื่อตามลำดับ

Sulwhasoo ของ Amorepacific และ The History of Whoo ของ LG Household and Health Care ได้รับเลือกให้อยู่ในหมวดเครื่องสำอาง K-beauty และ OLIVE YOUNG ได้รับเลือกให้อยู่ในหมวดร้านเพื่อสุขภาพและความงาม ในหมวดเวชสำอาง เครื่องสำอางออร์แกนิก และแผ่นมาส์ก Skin79, Coszone Make9 และ Scanco Ballon Blanc ได้รับเลือกตามลำดับ

ในหมวดการดูแลสุขภาพ CheongKwanJang ซึ่งเป็นแบรนด์อาหารเพื่อสุขภาพชั้นนำที่เชี่ยวชาญด้านโสมแดง และ FromBIO บริษัทอาหารเพื่อสุขภาพได้รับเลือก ส่วนในหมวดการตรวจสุขภาพนั้น ศูนย์การแพทย์ซัมซุง (Samsung Medical Center) ได้รับเลือก

แบรนด์อาหารเกาหลีที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ Bibigo ของ CJ CheilJedang, นมรสกล้วยของ Binggrae, Chapaghetti ของ Nongshim, Jin Ramen ของ Ottogi, Paris Baguette และ ISSAC TOAST ในส่วนของ Sinjeon Tteok-bokki และ Buldak Hot Chicken Flavor Ramen ของ Samyang Foods ได้รับเลือกให้เป็นแบรนด์ที่เป็นตัวแทนของรสชาติเผ็ด ในหมวด K-fashion NOS7 ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เปิดตัวโดย Son Heung-min และ Gentle Monster ซึ่งเป็นแบรนด์แว่นกันแดด ได้รับเลือก

ในหมวด Brand K แบรนด์ร่วมที่เป็นตัวแทนของเกาหลี Funshine Optatum ที่เป็นแบรนด์น้ำหอมสำหรับผ้า และ Rokkiss ที่เป็นแบรนด์เครื่องสำอางออร์แกนิกได้รับเลือก

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

BRANDSTARS Selection Committee
KJ.Kim
+82-2-544-0153
brandstars@daum.net

แหล่งที่มา: BRANDSTARS Selection Committee

อีกหนึ่งรางวัลแห่งความยั่งยืนสำหรับ NTHU

Logo

ซินจู๋ ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–9 ธันวาคม 2022

มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา (NTHU) ในไต้หวัน ได้รับรางวัล Taiwan University Sustainability Award สองปีติด! รางวัลนี้ได้ประกาศที่งาน Taiwan Corporate Sustainability Awards (TCSA) ครั้งที่ 15 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้โดย Taiwan Institute for Sustainable Energy (TAISE) ซึ่ง NTHU ได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับแรกในการประเมินที่ครอบคลุม โดดเด่นท่ามกลางมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วม 47 แห่ง และในการแข่งขันแต่ละรายการได้รับ University Sustainability Report Gold Award

NTHU president W. John Kao (right) accepting the Taiwan University Sustainability Award from You Si-kun, president of the Legislative Yuan. (Photo: National Tsing Hua University)

NTHU president W. John Kao (right) accepting the Taiwan University Sustainability Award from You Si-kun, president of the Legislative Yuan. (Photo: National Tsing Hua University)

ผู้พิพากษาอ้างถึงวิธีการที่เป็นแบบอย่างซึ่ง NTHU ได้นำแนวทางใหม่มาใช้เพื่อบูรณาการการเรียนรู้ในห้องเรียน กิจกรรมในวิทยาเขต และการบริการสังคม ซึ่งจะช่วยยกระดับการศึกษาของนักศึกษาและสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่หลากหลาย ยืดหยุ่น และเป็นสหวิทยาการตามหลักการของ “Think locally, act globally” นอกจากนี้ คณะกรรมการเพื่อความยั่งยืนของมหาวิทยาลัยยังได้กำหนดและดำเนินกลยุทธ์การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งบูรณาการทรัพยากรภายในและภายนอก NTHU เข้าด้วยกันอย่างราบรื่น เพื่อให้คำขวัญของมหาวิทยาลัยที่ว่า “มีวินัยในตนเองและมีความรับผิดชอบต่อสังคม” เป็นจริง

Chien Eugene ผู้ประชุมทั่วไปของ TCSA กล่าวชื่นชม NTHU ที่เป็นผู้นำด้วยการแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืนคนแรกของไต้หวัน (CSO) และก่อตั้งโครงการ Rising Sun เพื่อช่วยเหลือนักศึกษาด้อยโอกาส หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืนคือ รองประธานอาวุโส Tai Nyan-hwa ผู้ซึ่งดูแลเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืน 26 คนที่ได้รับการแต่งตั้งจากฝ่ายบริหารและฝ่ายวิชาการแต่ละฝ่าย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในคณะกรรมการด้านความยั่งยืนที่บริหารงานโดยศูนย์นวัตกรรมระดับภูมิภาค ทุนการศึกษา Rising Sun ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่นักศึกษาที่ด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจที่แสดงศักยภาพสูงหลังจากเริ่มการศึกษาที่ NTHU

พิธีมอบรางวัลจัดขึ้นที่ Grand Hotel ในไทเป W. John Kao ประธาน NTHU ได้รับรางวัลที่มอบให้เป็นการส่วนตัวโดย You Si-kun ประธานสภานิติบัญญัติหยวน

ในคำกล่าวรับรางวัลของเขา Kao กล่าวว่า "ความยั่งยืนเป็นกรอบความคิดที่ไม่มีวันสิ้นสุด ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องก้าวต่อไปสู่อีกขั้นของความยั่งยืน”

ประธาน Kao เสริมว่า NTHU กำลังวางแผนที่จะให้ความสำคัญกับการสนับสนุนโครงการวิจัยที่สะท้อนถึง 17 เป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ประกาศใช้โดยสหประชาชาติ (UN) ในด้านการศึกษา มหาวิทยาลัยสนับสนุนให้อาจารย์และนักศึกษาดำเนินการตามขั้นตอนที่ส่งผลดีต่อความยั่งยืน ส่วนในระดับบริหาร การจัดสรรทรัพยากรของมหาวิทยาลัยคคำนึงถึงการใช้พลังงานและปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ และในแง่ของการมีปฏิสัมพันธ์กับสังคมในวงกว้าง มหาวิทยาลัยกำลังวางแผนที่จะจัดตั้งเวทีเพื่ออำนวยความสะดวกในการร่วมมือด้านนวัตกรรมกับภาคองค์กรและภาครัฐ

ความพยายามอย่างต่อเนื่องในด้านความยั่งยืน ในปีนี้ NTHU ได้แต่งตั้งทูตด้านความยั่งยืนสำหรับนักศึกษา 15 คน นอกจากนี้ Huang Chuan นักศึกษาปริญญาโทชั้นปีที่ 2 ในสถาบันวิทยาศาสตร์การบริการ ได้จัดชมรม GreenDot ซึ่งมีร้านเสริมสวยเพื่อความยั่งยืนที่มีเป้าหมายในการนำหลักการของความยั่งยืนไปสู่การปฏิบัติในมหาวิทยาลัย อีกทั้ง Huang ยังวางแผนที่จะจัดตั้งเวทีที่ส่งเสริมให้นักศึกษาระดมความคิด หาพันธมิตร และประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่าง ๆ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53008629/en

ติดต่อ

Holly Hsueh
NTHU
(886)3-5162006
hoyu@mx.nthu.edu.tw

แหล่งที่มา: National Tsing Hua University

Mary Kay ปกป้องลีเมอร์และสัตว์ป่าอื่น ๆ ที่ใกล้สูญพันธุ์ขั้นวิกฤตโดยร่วมมือกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–9 ธันวาคม 2022

วันนี้ Mary Kay Inc. ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความยั่งยืนขององค์กรและการดูแลสิ่งแวดล้อม ได้ประกาศความสำเร็จของโครงการปลูกป่าในมาดากัสการ์ด้วยความร่วมมือกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation สวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Henry Doorly ในโอฮาม่า และห้างหุ้นส่วนจำกัด Madagascar Biodiversity Partnership การประกาศดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ตัวแทนจากทั่วโลกมารวมตัวกันที่เมืองมอนทรีออลในการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (COP 15) เพื่อจัดการกับวิกฤตความหลากหลายทางชีวภาพของโลก

(Credit: Mary Kay Inc.)

(Credit: Mary Kay Inc.)

การจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนมีความสำคัญต่อการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ โครงการต้นไม้ 42,000 ต้นในตะวันออกเฉียงใต้ของมาดากัสการ์ มุ่งเน้นไปที่การพลิกกลับการทำลายป่าหลายทศวรรษ โดยผืนป่าแห่งนี้นั้นเป็นที่อยู่ของเหล่าลีเมอร์ที่ใกล้สูญพันธุ์ขั้นวิกฤตและสัตว์ป่าชนิดอื่น ๆ ที่ไม่สามารถพบได้ที่ไหนในโลก นอกจากนั้น ความพยายามในการปลูกต้นไม้ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงความยืดหยุ่นของป่าและชุมชนใกล้เคียง

มูลนิธิ Arbor Day Foundation ประมาณการ* ว่าในอีก 40 ปีข้างหน้า โครงการนี้จะส่งผลให้เกิด:

  • คาร์บอนไดออกไซด์สุทธิ 10,562 เมตริกตันถูกกักเก็บไว้ (เทียบเท่ากับรถยนต์ที่วิ่งบนถนนน้อยลง 2,296 คัน)
  • กำจัดมลพิษทางอากาศได้ 125 ตัน (เทียบเท่ากับออกซิเจนที่เพียงพอสำหรับ 10,500 คน)
  • เลี่ยงน้ำไหลบ่าได้ถึง 2,627,176 แกลลอน (เทียบเท่ากับการที่ 29,854 คนจะได้ดื่มน้ำสะอาดขึ้น) 

Katie Loos ประธานฝ่ายปฏิบัติการของมูลนิธิ Arbor Day Foundation กล่าวว่า "ผลกระทบจากความร่วมมือในครั้งนี้ได้ช่วยให้เราสามารถก้าวไปในพื้นที่ป่าที่มีความสำคัญต่อความหลากหลายทางชีวภาพอย่างมากที่สุดแห่งหนึ่งได้ ทั้งยังมีหลากหลายสายพันธุ์ที่ต้องพึ่งพาต้นไม้เหล่านี้เพื่อความอยู่รอด" “Mary Kay ยังคงแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนอย่างทุ่มเทในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับผืนป่าที่โลกของเราต้องการมากที่สุด การปกป้องและอนุรักษ์สายพันธุ์ที่อ่อนแอที่สุดของเราเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ปัญหาวิกฤตความหลากหลายทางชีวภาพในปัจจุบัน และเราภูมิใจที่ได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรที่มีค่านิยมเดียวกันนี้”

เมื่อเดือนที่ผ่านมา Mary Kay ได้ประกาศความสำเร็จของโครงการฟื้นฟูสภาพป่า 69 เอเคอร์ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่จัดการสัตว์ป่า Econfina Creek ของฟลอริดาโดยร่วมมือกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation มูลนิธิและ Mary Kay ทำงานร่วมกับเขตการจัดการน้ำฟลอริดาตะวันตกเฉียงเหนือในการปลูกต้นสนใบยาว 43,000 ต้น ซึ่งจะช่วยปกป้องแหล่งน้ำที่สำคัญในเบย์เคาน์ตี้ รัฐฟลอริดา ผลประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพของโครงการที่สำคัญ ได้แก่ การฟื้นฟูและอนุรักษ์แหล่งน้ำดื่มสำคัญสำหรับเบย์เคาน์ตี้ รัฐฟลอริดา การปลูกทดแทนพันธุ์ไม้พื้นเมืองเพื่อให้พื้นที่นี้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติ และการปรับปรุงที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าในพื้นที่ ได้แก่ กวาง นกกระทาบ็อบไวท์ กระรอกจิ้งจอกเชอร์แมน และเต่าโกเฟอร์

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Mary Kay ก็ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับความร่วมมือที่มีมาอย่างยาวนานกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation ทั้ง Mary Kay Inc. และมูลนิธิได้ร่วมกันปลูกต้นไม้มากกว่า 1.2 ล้านต้นทั่วทั้งโลก สร้างผลกระทบอันสามารถวัดได้ต่อระบบนิเวศของป่าที่สำคัญยิ่ง

ท่านสามารถอ่านเกี่ยวกับความมุ่งมั่นสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนของ Mary Kay ได้ที่ marykayglobal.com/sustainability และดาวน์โหลดกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay: เพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน (Mary Kay’s global sustainability strategy: Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow)

*การประเมินผลกระทบจัดทำโดยใช้ i-Tree ซึ่งเป็นชุดซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยและผ่านการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญจาก USDA Forest Service ที่ทำการวิเคราะห์ป่าไม้ในเมืองและชนบทพร้อมทั้งมีเครื่องมือการประเมินผลประโยชน์อีกด้วย

เกี่ยวกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation

มูลนิธิ Arbor Day Foundation ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1972 ได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นองค์กรสมาชิกที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ใหญ่ที่สุดซึ่งได้อุทิศตนเพื่อการปลูกต้นไม้ โดยมีสมาชิก ผู้สนับสนุน และหุ้นส่วนที่ทรงคุณค่ามากกว่าหนึ่งล้านคน ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ต้นไม้ของมูลนิธิ Arbor Day Foundation กว่า 500 ล้านต้นถูกปลูกในละแวกใกล้เคียง ชุมชน เมือง และป่าทั่วโลก วิสัยทัศน์ของเราคือการนำไปสู่โลกที่ต้นไม้ถูกนำมาใช้ในการแก้ปัญหาที่มีความสำคัญต่อการอยู่รอด

ในฐานะหนึ่งในมูลนิธิที่ดำเนินงานเพื่อการอนุรักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มูลนิธิ Arbor Day Foundation ให้ความรู้และมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและชุมชนต่าง ๆ ทั่วโลกผ่านสมาชิก พันธมิตร และโปรแกรมต่าง ๆ ให้มีส่วนร่วมในพันธกิจของการปลูก บำรุงเลี้ยง และยกย่องต้นไม้ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ arborday.org.

เกี่ยวกับ Mary Kay Inc.

หนึ่งในผู้ทำลายเพดานกระจกแบบเดิม Mary Kay Ash ก่อตั้งบริษัทเพื่อความงามในฝันของเธอในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือการทำให้ชีวิตผู้หญิงดีขึ้น ซึ่งความฝันนั้นได้เบ่งบานกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ. ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมผู้หญิงในการเติบโตของเขาผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอางมีสีสัน อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อเรื่องการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการละเมิดในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และสนับสนุนให้เด็ก ๆ เดินตามความฝันของตน

 เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com และสามารถติดตามเราได้ทาง Facebook Instagram และ LinkedIn หรือติดตามเราที่ Twitter

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53028537/en

ติดต่อ

Mary Kay Inc.
ฝ่ายสื่อสารองค์กร
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งที่มา: Mary Kay Inc.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย



พิธีเปิดศูนย์การศึกษาและการวิจัยการผ่าของ NTHU

Logo

ซินจู๋ ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–7 ธันวาคม 2022

พิธีเปิดของมหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา (NTHU) ในศูนย์การศึกษาและการวิจัยการผ่าของไต้หวัน ที่ใช้เงินกว่า 100 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน ได้จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ พิธีเปิดดังกล่าวนั้นรวมถึงพิธีรำลึกถึงผู้บริจาคศพ เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ นักศึกษารุ่นแรกในหลักสูตรหลังปริญญาตรีสาขาการแพทย์ยังได้มอบดอกระฆังจีนให้กับผู้บริจาคด้วย

Students of the Post-baccalaureate Program in Medicine at NTHU offering Chinese bellflowers to those who have donated their cadavers to the program. (Photo: National Tsing Hua University)

นักศึกษาหลักสูตรหลังปริญญาตรีสาขาการแพทย์ที่ NTHU มอบดอกระฆังจีนแก่ผู้ที่บริจาคร่างกายของพวกเขาให้กับโครงการ (ภาพ: มหาวิทยาลัยแห่งชาติซิงหวา)

ในพิธีนี้ อดีตประธานาธิบดี Hocheng Hong ของ NTHU ได้ลงนามในข้อตกลงการบริจาคฉบับแรก ซึ่งระบุว่าผู้บริจาคได้ให้คำมั่นสัญญาอย่างไม่มีเงื่อนไขกับร่างกายของเขาเพื่อการศึกษาและการวิจัยหลังความตาย เพื่อจุดประสงค์ในการพัฒนาวิทยาศาสตร์การแพทย์ให้ก้าวหน้า

W. John Kao ประธาน NTHU คนปัจจุบันขอบคุณ Hocheng สำหรับการสนับสนุนการศึกษาด้านการแพทย์ที่ NTHU รวมถึงการระดมทุน 2 พันล้านเหรียญไต้หวัน ซึ่งทำให้ NTHU สามารถสร้างห้องเรียนกายวิภาคศาสตร์ที่ทันสมัยได้ นอกจากนี้ NTHU ยังได้แต่งตั้งคณาจารย์เต็มเวลาสามคนและนอกเวลาสองคนในกายวิภาคของมนุษย์ ที่เป็นรากฐานของการศึกษาทางการแพทย์

ในนามของ NTHU Kao กล่าวขอบคุณทุกคนที่บริจาคร่างกายของพวกเขา รวมถึงสมาชิกในครอบครัวที่เห็นด้วยกับความตั้งใจของคนที่พวกเขารักที่จะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาทางการแพทย์ Kao กล่าวว่าศพมีความสำคัญต่อการศึกษาทางการแพทย์ และช่วยให้นักศึกษาได้รับความรู้ที่จำเป็นสำหรับการรักษาผู้ป่วยจำนวนนับไม่ถ้วนในอาชีพทางการแพทย์ในอนาคต

นักศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตร์หลังปริญญาตรีแต่ละคนได้มอบดอกระฆังจีนให้กับผู้บริจาค Zhou Zhen-yu และ Liu Gui-zhen ทั้งยังร่วมกันร้องเพลง "Grateful Heart" เพื่อแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้ง พร้อมคำพูดของตัวแทนนักศึกษา Shen Ho-chien "จุดจบของชีวิตของคุณคือจุดเริ่มต้นของการศึกษาทางการแพทย์ของเรา ดังนั้นเราจึงเริ่มต้นการศึกษาของเราด้วยการขอบคุณด้วยความนอบน้อมและความเคารพสูงสุด”

Hocheng กล่าวว่าชีวิตก็เหมือนเรือที่แล่นบนน้ำ เพราะจะมีวันหนึ่งที่เรือกลับเข้าฝั่ง ในเวลานั้น แทนที่จะทิ้งเรือไว้เฉย ๆ ผู้มีใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เลือกที่จะส่งต่อให้คนอื่นใช้ เขายังกล่าวอีกว่า เขารู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ทุกคนที่ช่วยเหลือเขาในหลาย ๆ ด้าน และมีความสุขที่ได้มีโอกาสสนับสนุนการศึกษาด้านการแพทย์

Hocheng ได้สังเกตเห็นว่ากระบวนการที่เหน็ดเหนื่อยในการจัดตั้งโครงการทางการแพทย์ได้บังเกิดผลในที่สุด ขณะนี้นักศึกษาแพทย์กลุ่มแรกได้ลงทะเบียนและทำงานในโรงพยาบาล NTHU ที่กำลังดำเนินการอยู่ในเถาหยวน นอกจากนี้ เขายังกล่าวด้วยว่าเขายินดีที่จะลงนามในข้อตกลงการบริจาค และมองว่าเป็นการแสดงออกถึงการสนับสนุนการศึกษาทางการแพทย์ที่ NTHU อย่างไม่มีเงื่อนไข

หนึ่งในคณาจารย์ของโครงการคือ Chen Shih-chieh ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ 28 ปีในการสอนกายวิภาคศาสตร์ขั้นต้น เขากล่าวว่าสิ่งอำนวยความสะดวกที่กว้างขวางและล้ำสมัยของศูนย์การศึกษาและการวิจัยการผ่าที่สร้างเสร็จใหม่นั้นให้สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เหมาะสมที่สุด โดยปราศจากกลิ่นฟอร์มาลีนใด ๆ ห้องปฏิบัติการชำแหละและห้องเก็บซากศพมีแรงดันเป็นลบตลอดทั้งวัน และมีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศและระบบแบบเรียลไทม์สำหรับตรวจสอบความเข้มข้นของฟอร์มาลดีไฮด์

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Holly Hsueh
NTHU
(886)3-5162006
hoyu@mx.nthu.edu.tw

แหล่งที่มา: มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา (National Tsing Hua University)

โครงการเพื่อความยั่งยืนของ Mary Kay นำเสนอในการประชุมซัมมิทด้านมหาสมุทรทั่วโลกของ Economist Impact ในสิงคโปร์

Logo

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–30 พฤศจิกายน 2022 

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความยั่งยืนชององค์กร และการดูแลลงนามด้านหลักการสร้างมหาสมุทรอย่างยั่งยืนของ UN Global Compact ยังคงสนับสนุนความพยายามในการเพิ่มความตระหนักในมหาสมุทรทั่วโลก และมุ่งเน้นบทบาทที่สำคัญในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่มีผลกระทบต่อมหาสมุทร

สัปดาห์นี้ในงาน World Ocean Summit Asia Pacific ของ Economist Impact ที่สิงคโปร์ โครงการที่ได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay จะมุ่งเน้นเกี่ยวกับสตรีและการอนุรักษ์ โดยมีการนำเสนอหัวข้อ “นวัตกรรมและการปรับตัว—การแก้ปัญหาชายฝั่งจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” การอภิปรายครอบคลุมผลกระทบที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีต่อระบบนิเวศชายฝั่งเอเชียแปซิฟิก รวมถึงต่อมหาสมุทรทั่วโลก และนำเสนอกรณีศึกษาเกี่ยวกับวิธีการเตรียมพร้อมสำหรับภูมิภาคนี้ และปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ป่าชายเลนมีความสำคัญต่อระบบนิเวศชายฝั่ง แต่เป็นหนึ่งในระบบนิเวศที่ถูกคุกคามมากที่สุดในโลก เพื่อสร้างวิธีแก้ปัญหาระยะยาวสำหรับป่าชายเลนในปาปัวนิวกินี Mangoro Market Meri—ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มที่ได้รับการสนับสนุนจาก The Nature Conservancy และ Mary Kay—โดยมีการรวบรวมความร่วมมือในท้องถิ่น การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และคาร์บอนสีน้ำเงิน (คาร์บอนจากมหาสมุทรและชายฝั่งของโลกระบบนิเวศ) เพื่อสร้างแรงจูงใจในการป้องกันและฟื้นฟูป่าชายเลน

ผู้หญิงที่ Mangoro Market Meri ทำการตลาดผลิตภัณฑ์จากป่าชายเลนที่ยั่งยืน เช่น หอยและปูโคลน เพื่อสร้างรายได้และโอกาสการจ้างงาน ในขณะเดียวกัน ก็ปกป้องป่าชายเลนนำไม้ไปใช้ โดยการสนับสนุนจาก Mary Kay ผู้หญิงที่ Mangoro Market Meri จะได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความเสมอภาคทางเพศ ความเป็นผู้นำ ความรู้ทางการเงิน และการจัดการธุรกิจ

Ruth Konia ผู้จัดการโครงการ Mangoro Market Meri สำหรับโครงการ Melanesia  ของ The Nature Conservancy เข้าร่วมกับผู้ร่วมอภิปรายจาก UNEP, WWF China และ the Greener India Council เพื่อแบ่งปันผลกระทบที่ The Nature Conservancy กำลังเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนจาก Mary Kay

“ผู้หญิงจะต้องมีอำนาจในการตัดสินใจด้านสุขภาพ การศึกษา การปกครอง และการเงิน Mangoro Market Meri กำลังปรับเปลี่ยนแนวคิดและให้โอกาสที่เท่าเทียมกันแก่ผู้หญิง โดยสร้างอำนาจแก่ผู้หญิงผ่านการอนุรักษ์ป่าชายเลน” Ruth Konia กล่าว “เมื่อผู้หญิงได้รับการเสริมอำนาจ การดำเนินการต่างๆ จะส่งผลดีต่อครอบครัวและกระตุ้นผลประโยชน์ต่อทั้งชุมชน”

Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ดูแลทรัพยากรธรรมชาติที่ดี ในขณะเดียวกัน ก็ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ และส่งเสริมพลังของผู้หญิงในการอนุรักษ์ทั่วโลก หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนของ Mary Kay โปรดไปที่ marykayglobal.com/sustainability และดาวน์โหลดกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay: ทำชีวิตในวันนี้ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อความยั่งยืนที่ดีในวันพรุ่งนี้

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy (TNC)

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ผืนดินและผืนน้ำที่ทุกชีวิตต้องพึ่งพา ด้วยแนวทางด้านวิทยาศาสตร์ เราค้นพบวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นนวัตกรรมบนพื้นฐานความท้าทายที่ยากที่สุดในโลกของเรา เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเติบโตไปด้วยกัน เรากำลังจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์ผืนดิน ผืนน้ำ และมหาสมุทรที่เกิดขึ้นอย่างมาก จัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยให้สามารถสร้างเมืองอย่างมีความยั่งยืนยิ่งขึ้น เรามีการดำเนินการใน 79 ประเทสและดินแดน โดยใช้ความร่วมมือและการมีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่นๆ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูที่ www.nature.org หรือติดตามเราได้ที่ @nature_press บน Twitter

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash หนึ่งในผู้บุกเบิกด้านเพดานกระจกแบบดั้งเดิม ได้ก่อตั้งบริษัทเสริมความงานตามความฝันของเธอขึ้นในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียว นั่นคือ การทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลล่าร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมผู้หญิงผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังการเสริมความงาม และการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำชีวิตในวันนี้ให้ดียิ่งขึ้นเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยมีการร่วมมือกับองค์กรต่างๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการละเมิดในครอบครัว ทำให้ชุมชนสวยงาม สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com ค้นหาเราได้ที่ FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/52985241/en

ติดต่อ

Mary Kay Inc.
Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

The Nature Conservancy
Misty Edgecomb
Communications Director
medgecomb@tnc.org or 484-343-3223

แหล่งข้อมูล: Mary Kay Inc.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย





Mary Kay ให้ความสำคัญในการยกระดับการพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรีทั่วโลกผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร

Logo

เพื่อเป็นการรำลึกถึงวันผู้ประกอบการสตรี (Women’s Entrepreneurship Day) Mary Kay มีการผสานงานร่วมมือกันกับพันธมิตรเพื่อปลดล็อกศักยภาพของผู้ประกอบการที่เป็นสตรีในทุกแห่งหน

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–23 พฤศจิกายน 2022 

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนหลักในการเสริมสร้างพลังอำนาจทางเศรษฐกิจให้แก่สตรีและความเท่าเทียมทางเพศ จัดงานวันผู้ประกอบการสตรีขึ้นในวันนี้ โดยยืนยันความมุ่งมั่นระดับสากลที่มีต่อผู้ประกอบการที่เป็นสตรีผ่านความร่วมมือจากพันธมิตรต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นการยกระดับและพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรี

Deborah Gibbins, Mary Kay’s Chief Operating Officer (Photo courtesy: Mary Kay Inc.)

Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการของ Mary Kay (เอื้อเฟื้อภาพโดย Mary Kay Inc.)

Mary Kay ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการที่มีการดำเนินการในเกือบ 35 ประเทศ เป็นผู้สนับสนุนหลักในการส่งเสริมสตรีและสนับสนุนแรงบันดาลใจในการเป็นผู้ประกอบการมาเกือบ 60 ปี โดยบริษัทมีการร่วมมือกันกับพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มุ่งเน้นให้มีผลระดับสากล และช่วยขจัดอุปสรรคในการเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของสตรี และผสานรวมพลังของสตรีในระบบนิเวศของผู้ประกอบการ

ศักยภาพและความท้าทายในการเป็นผู้ประกอบการที่เป็นสตรี

การขยายการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของผู้หญิงจะช่วยยกระดับครอบครัว เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชน และทำให้สังคมมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น จากข้อมูลรายงานแสดงให้เห็นว่า ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะลงทุนเพิ่มสูงถึง 90% จากรายได้ในครอบครัวและชุมชนท้องถิ่น 1 การวิจัยยังแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของสามารถฟื้นตัวได้ไว มีความคล่องตัว และมีความยั่งยืนสูง แม้จะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ไม่เสถียร 2 ธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของมักจะตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ด้วยนวัตกรรมในการจัดการกับความท้าทายระดับสากลที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ

นอกเหนือจากผลกระทบทวีคูณในการเป็นผู้ประกอบการที่เป็นสตรี สตรีในธุรกิจยังคงเผชิญกับอุปสรรคทั่วโลกอันเป็นผลมาจากโอกาสในการเข้าถึงเงินทุนที่ไม่เท่าเทียมกัน การศึกษาระดับมืออาชีพ การมีส่วนร่วมในห่วงโซ่คุณค่าระดับโลก และการเข้าถึงตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการของพวกเธอ ทั้งหมดนี้เป็นอุปสรรคจากกฎหมายความไม่เท่าเทียมกัน 2022 Women, Business and the Law Report พบว่า ผู้หญิงในวัยทำงานกว่า 2.4 พันล้านคนยังคงไม่ได้รับสิทธิทางเศรษฐกิจเท่ากันกับผู้ชาย 3

ความท้าทายนี้เป็นวงกว้างมากจน 2022 Global Gender Gap Report มีการระบุว่า จะต้องใช้เวลาถึง 151 ปีกว่าจะสามารถปิดช่องว่างสำหรับการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจและช่องว่างระว่างเพศได้ 4

เมื่อผู้หญิงถูกกีดกันจากระบบนิเวศของการเป็นผู้ประกอบการ นั่นหมายถึง บริษัทและนักลงทุนกำลังพลาดโอกาสในการลงทุนครั้งใหญ่ อย่างเช่นในยุโรป มีผลจากการศึกษาว่า ถึงแม้ว่าผู้หญิงจะได้รับเงินลงทุนน้อยกว่าผู้ชายกึ่งหนึ่ง แต่บริษัทของพวกเธอก็สามารถสร้างรายได้สูงกว่าเป็นสองเท่าสำหรับทุกดอลลาร์ที่ลงทุนไป 5

โดยสอดคล้องกับพันธกิจในการส่งเสริมให้ผู้หญิงมีชีวิตที่ดีขึ้น Mary Kay และพันธมิตรมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรีและสนับสนุนผู้ประกอบการที่เป็นสตรีในทุกแห่งหน

การตระหนักว่า การเสริมกำลังอำนาจของผู้หญิงและความเท่าเทียมทางเพศเป็นปัจจัยสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ความยั่งยืน 10 ปีของ Mary Kay ที่เปิดตัวในปี 2021 ในเรื่อง การสร้างเสริมชีวิตในวันนี้ให้ดียิ่งขึ้นเพื่อความยั่งยืนในอนาคต ถือเป็นการสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศและความมุ่งมั่นหลักในการเสริมศักยภาพให้แก่สตรี 5 ล้านคนทั่วโลกภายในปี 2030 ผ่านการริเริ่มและความร่วมมือที่สำคัญ การส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของสตรีให้ก้าวหน้าไม่เพียงส่งผลดีต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน แต่ยังทำให้มั่นใจได้ว่า ทุกคนจะมีชีวิตที่ดีและเท่าเทียมกัน ซึ่งเป็นหลักการสำคัญสำหรับวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนในปี 2030

“ด้วยแรงบันดาลใจจากพันธกิจของเราในฐานะที่เป็นบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการที่ก่อตั้งขึ้นโดยสตรีเพื่อสตรี เราเชื่อว่าการลงทุนและการส่งเสริมสตรีให้ตระหนักถึงประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับจากการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจ ไม่เพียงเฉพาะในเชิงเศรษฐกิจ แต่ยังรวมถึงสังคมโดยรวมด้วยเช่นกัน เรากำลังปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์สำหรับผู้ประกอบการที่เป็นสตรีโดยการจัดการกับอุปสรรคที่พวกเธอจะต้องเผชิญ โดยผ่านพันธมิตรหลักเพื่อยกระดับสถานะที่เป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้น” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว

ความร่วมมือที่สำคัญซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรีทั่วโลก ได้แก่

  • โครงการหมู่บ้านนำร่อง SDG ในประเทศจีนเป็นโครงการพัฒนาเพื่อลดความยากจนที่มุ่งเน้นสตรี
    • การตระหนักในการพัฒนาชีวิตของผู้หญิงในชนบท ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้กับความยากจนและการบรรลุการพัฒนาอย่างยั่งยืน UNDP China และ Mary Kay ร่วมมือกับรัฐบาลจีน ภาครัฐ และพันธมิตร NGO ได้เปิดตัว โครงการหมู่บ้านนำร่อง SDG ใน Waipula มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ในปี 20176 โดยโครงการร่วมดังกล่าวเป็นการขจัดอุปสรรคในการพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรีโดยสร้างเสริมการคุ้มครองทางสังคมและการสร้างโอกาสในการเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ ด้วยการสนับสนุนการยกระดับความเป็นผู้นำที่เป็นสตรีให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจสำหรับชุมชน
    • อันเป็นผลจากโครงการที่มุ่งเน้นทางเพศ (เฟส I: 2017-2021):
      • อัตราความยากจนในท้องถิ่นภายในหมู่บ้านลดลงจาก 28% ในปี 2017 เป็น 0% ในปี 2020
      • ด้วยการฝึกอบรมและสร้างเสริมศักยภาพ 60 ครัวเรือน และ 193 รายที่เคยมีความเป็นอยู่ยากแค้นได้มีชีวิตที่ดีขึ้นและไม่อยู่ในกลุ่มยากจนในปี 2020
      • แรงงานข้ามชาติตามฤดูกาล 210 ราย และแรงงานข้ามชาติถาวร 120 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานสตรี สามารถกลับไปทำงานที่ภูมิลำเนาหรือเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง และกลับไปอยู่ร่วมกับลูกหลานและครอบครัวได้
      • ผู้หญิงในท้องถิ่น 607 ราย มีงานทำและมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยบางคนได้รับโอกาสเป็นผู้นำชุมชน มีบทบาทเป็นสมาชิกของคณะกรรมการหมู่บ้าน และเป็นผู้จัดการในงานต้อนรับและศิลปะในท้องถิ่น
      • รายได้ต่อหัวประชากรเพิ่มขึ้นเป็น 14,128 หยวน / 2,107 ดอลลาร์ ในปี 2021
      • โครงการขยายการพัฒนาหมู่บ้าน SDG 12 แห่ง จาก 17 แห่ง
  • The WE Empower UN SDG Challenge – การสนับสนุนผู้ประกอบการทางสังคมที่เป็นสตรี
    • นับจากปี 2019 Mary Kay เป็นพันธมิตรหลักของ The WE Empower UN SDG Challenge โดยมีความคิดริเริ่มที่นำโดย Vital Voices และ Global Futures Laboratory ที่ Arizona State University ซึ่งการแข่งขันประจำปีนี้จะเป็นการคัดหาผู้ประกอบการที่เป็นสตรี 5 รายที่พัฒนา SDG ในชุมชนของพวกเขาและผู้ชนะจะได้รับการฝึกอบรมการสร้างเสริมศักยภาพและเข้าพบปะกับผู้เชี่ยวชาญทางธุรกิจทั่วโลก
  • The Women’s Entrepreneurship Accelerator
    • ในปี 2019 ร่วมกับ 6 หน่วยงานของ UN Mary Kay ได้จัดตั้ง Women’s Entrepreneurship Accelerator (WEA) ขึ้น โดยมีพันธกิจในการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการทำงานสำหรับผู้ประกอบการที่เป็นสตรี
    • หน่วยงานของ UN ทั้ง 6 หน่วยงานที่ร่วมก่อตั้ง WEA ขึ้นประกอบด้วย International Labour Organization (ILO), International Trade Centre (ITC), International Telecommunication Union (ITU), UN Global Compact (UNGC), the United Nations Development Programme (UNDP) และ UN Women

ความสำเร็จขั้นสำคัญผ่านโปรแกรม WOMEN’S ENTREPRENEURSHIP ACCELERATOR ได้แก่

  • การพัฒนานโยบายผู้ประกอบการในเม็กซิโกและบราซิล
    • ในช่วงปี 2020 และ 2021 ILO ได้ดำเนินการและทำรายงานการประเมินเงื่อนไขเชิงนโยบาลเกี่ยวกับการพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรี (WED) ซึ่งมีผลกระทบต่อการเป็นผู้ประกอบการที่เป็นสตรีในภาคเชิงพาณิชย์และภาคอุตสาหกรรมในเม็กซิโกซิตี้ ด้วยการสนับสนุนจาก WEA การประเมินนี้ประกอบด้วยชุดคำแนะนำที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ 19 ข้อสำหรับการรับมือกับช่องว่างทางสถาบันที่มีอยู่สำหรับผู้ประกอบการที่เป็นสตรี ในบราซิล ILO มีการทำงานร่วมกับ Serviçio Nacional de Aprendizagem Industrial (SENAI) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรีผ่านการสื่อสารและการรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนัก การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพ และกิจกรรมต่าง ๆ
  • การเปิดตัว Women’s Entrepreneurship EXPO
    • ในปี 2021 Women’s Entrepreneurship EXPO ครั้งแรกที่จัดขึ้นโดย UN Women โดยได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay ได้จัดค่ายฝึกปฏิบัติทั่วภูมิภาคยุโรปและเอเชียกลาง (ECA) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการที่เป็นสตรีในการดึงดูดการลงทุน โดย Investors Pitch Finale สิ้นสุดลงในเดือนเมษายน ปี 2022 ซึ่งมีผู้ประกอบการที่เป็นสตรี 25 คนจาก 9 ประเทศ (ตุรกี บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา จอร์เจีย คาซัคสถาน โคโซโว คีร์กีซสถาน มาซิโคเนียเหนือ มอลโดวา และเซอร์เบีย) เข้าร่วมนำเสนอแผนธุรกิจตั้งต้นและการเริ่มต้นธุรกิจและเผชิญกับปัญหาความท้าทายที่ผู้ประกอบการที่เป็นสตรีต้องเผชิญในการขยายธุรกิจ นั่นก็คือ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน หลังการนำเสนอ นักลงทุนได้ให้การสนับสนุนทางการเงิน คำปรึกษา และโอกาสในการสร้างเครือข่ายให้แก่ผู้ประกอบการที่เป็นสตรีเพื่อช่วยในการขยายธุรกิจของพวกเขา
    • ในเดือนนี้ Women’s Entrepreneurship EXPO ครั้งที่สอง ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่าง PricewaterhouseCoopersEuropean Bank for Reconstruction and Development และ Yildiz Holding ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Women’s Entrepreneurship Accelerator และได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay โดยมีการนำผู้ประกอบการที่เป็นสตรีและพันธมิตรทางธุรกิจเข้ามารวมตัวกัน เพื่อระดมความคิดและดำเนินการอย่างเฉพาะเจาะจงในการพัฒนาภูมิทัศน์สำหรับการพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรี
  • การพัฒนาทักษะทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ไฟแรง
    • ITC SheTrades เปิดคอร์สออนไลน์ฟรีโปรแกรมแรก โปรแกรมประกาศนียบัตรการเป็นผู้ประกอบการ โดยได้รับการสนับสนุนจาก WEA ในเดือนมกราคม ปี 2022 และจัดทำโดย Mary Kay โดยลักสูตรดิจิทัล 27 โมดูลซึ่งครอบคลุม 7 ชั้นตอนหลักของเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการ มีให้บริการทั้งภาษาอังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส และเร็ว ๆ นี้จะมีการขยายบริการในภาษาอาหรับ รัสเซีย และจีน หลักสูตรนี้ประกอบด้วย 200 วิดีโอ และมีเป้าหมายเพื่อสอนทักษะในการออกแบบและเริ่มต้นธุรกิจ โดยผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีการปรับใช้วัฒนธรรมการเป็นผู้ประกอบการ พัฒนาแนวคิดทางธุรกิจ และเรียนรู้วิธีการเริ่มต้นธุรกิจ จัดเตรียมโมเดลธุรกิจ ออกแบบการนำเสนอ ระบุแหล่งเงินทุน ค้นหาพันธมิตรและที่ปรึกษาที่เหมาะสม และการสร้างทีม
    • ในปี 2022 ITU ได้พัฒนาโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาช่องว่างทางทักษะด้านดิจิทัลในเพศต่าง โดยนำเสนอให้ผู้หญิงและเด็กสามารถเข้าร่วมโครงการได้ฟรี สามารถเรียนรู้ในโมดูลที่มีคุณภาพสูง ซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจด้านดิจิทัล โครงการนี้จะมีการแปลเป็นหลายภาษาในปี 2023 โดยได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay ซึ่งโครงการนี้จะประกอบด้วย โมดูลออนไลน์ 17 โมดูล ตัวอย่างเช่น การฝึกอบรมทักษะด้านดิจิทัลโดยทั่วไปในภาคสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ที่เป็นสตรี และทักษะด้านการจัดการด้านเทคโนโลยีสำหรับผู้ประกอบการที่เป็นสตรี ซึ่งโมดูลการเรียนรู้เหล่านี้จะมีการฝึกอบรมวิชาชีพในวงกว้างสำหรับผู้ประกอบการที่เป็นสตรีทุกคน โดยไม่คำนึงถึงสถานที่หรือจุดมุ่งเน้นทางธุรกิจ
  • การเปิดตัว Global Advocacy Brief เพื่อให้ภาคเอกชนสามารถมีส่วนร่วมใน Gender-Responsive Procurement (GRP)
    • ในปี 2022 UN Women ได้มีการเปิดตัว Advocacy Brief เพื่อสนับสนุน WEA หัวข้อกลยุทธ์ในการจัดซื้อจัดจ้าง เหตุผลที่การจัดซื้อจัดจ้างที่ครอบคลุมทุกเพศทุกวัยมีความเหมาะสมทางธุรกิจ และรวมถึงคำกล่าวจาก Deb Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการของ Mary Kay บทสรุปนี้มุ่งเน้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและความยืดหยุ่นในการรับมือวิกฤตการณ์ในกรณีที่ผู้หญิงและผู้ชายมีสิทธิเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับประโยชน์ในการสร้างเสริมการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในห่วงโซ่อุปทานของภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมการเติบโตและการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยจะมีการพูดคุยท่ามกลางผู้มีส่วนร่วม 374 รายเพื่อสร้างแนวทางธุรกิจที่ควรใช้ GRP
  • เปิดตัวการแข่งขันด้านนวัตกรรมในการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย
    • ITU ที่สนับสนุนโดย Mary Kay จะมีการจัดการแข่งขันด้านนวัตกรรมแบบเปิดในเดือนหน้า โดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญจะเลือกแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดทางดิจิทัล 10 แนวทาง และโซลูชันดิจิทัลเพื่อสร้างระบบนิเวศที่ครอบคลุมทุกเพศทุกวัยสำหรับสตาร์ทอัพและสเกลอัพเพื่อรับมือกับหลายอุปสรรคที่ผู้ประกอบการที่เป็นสตรีจะต้องเผชิญในการพัฒนาเทคโนโลยี ผู้ชนะจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงโปรแกรมระบบนิเวศนวัตกรรมดิจิทัล และจะได้รับการเสริมสร้างศักยภาพและได้รับการให้คำปรึกษาเฉพาะด้าน

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash หนึ่งในผู้บุกเบิกเพดานกระจกดั้งเดิม ได้สานฝันของตัวเองในการตั้งบริษัทเสริมความงามในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือ การทำให้ผู้หญิงมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น และขยายฝันกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศในทุกวันนี้ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมผู้หญิงผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทในการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์ที่เป็นเบื้องหลังของความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยมีการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ยกระดับความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้ได้รับการละเมิดในครอบครัว สร้างเสริมชุมชนให้ดียิ่งขึ้น และสนับสนุนเด็ก ๆ ให้ทำตามความฝันของตัวเอง เรียนรู้เพิ่มเติมได้ ที่ marykayglobal.com ค้นหาเราได้ที่ FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

________________

1 Harvard Business Review. 2013. “The Global Rise of Female Entrepreneurs.”
2 BNP Paribas Wealth Management. 2020. “2020 Global Entrepreneur Report.” จากรายงานปี 2020 54% ของผู้ประกอบการที่เป็นสตรีระบุว่า นอกเหนือจากรายได้แล้ว การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ยังเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จสูงสุดในการลงทุน เมื่อเทียบกับผู้ชายที่มีเพียง 41 เปอร์เซ็นต์
3 World Bank. 2022. “Women, Business and the Law 2022.”
4 World Economic Forum. 2022. “Global Gender Gap Report 2022.”
5 European Investment Bank. 2020. “Funding women entrepreneurs: How to empower growth.”
6 พันธมิตร ได้แก่ The China Women’s Development Foundation, the China International Center for Economic and Technical Exchanges, the Women’s Federation of Yunnan Province and Yongren County Government.

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52976803/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

แหล่งข้อมูล: Mary Kay Inc.

การทดลองวิ่งรถไฟความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุงประสบความสำเร็จ

Logo

จาการ์ตา อินโดนีเซีย–(BUSINESS WIRE)–21 พฤศจิกายน 2022

รถไฟความเร็วสูง (HSR) สายจาการ์ตา-บันดุงที่เชื่อมต่อเมืองหลวงจาการ์ตาของอินโดนีเซียกับบันดุง เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ในประเทศ เป็นโครงการสำคัญภายใต้โครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ที่เสนอโดยจีน และนับเป็นการนำระบบรถไฟความเร็วสูงเต็มรูปแบบของจีนไปใช้ในต่างประเทศเป็นครั้งแรก

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2022 การทดลองวิ่งรถไฟความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุงบนเส้นทางระหว่างสถานี Tegalluar และ Casting Yard No. 4 ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ ประธานาธิบดีของชาวอินโดนีเซีย Joko Widodo และประธานาธิบดีของจีน Xi Jinping ร่วมเป็นสักขีพยานในการทดลองใช้งานรถไฟความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุง นอกรอบการประชุมทวิภาคีหลังการประชุมสุดยอด G20 ที่บาหลี

ในระหว่างการทดลองใช้งาน รถไฟความเร็วสูงสำหรับตรวจสอบแบบเบ็ดเสร็จได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยวกับชั้นลดระดับ ราง การสื่อสาร สัญญาณ แหล่งจ่ายไฟสำหรับการลากจูง และระบบอื่น ๆ ตัวชี้วัดที่ได้รับทั้งหมดชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ดี นับเป็นความสำเร็จของการดำเนินการทดลองครั้งแรกของรถไฟความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุงที่จีนและอินโดนีเซียได้พัฒนาร่วมกัน ด้วยความเร็วที่ออกแบบไว้ 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถไฟจะลดระยะเวลาการเดินทางระหว่างจาการ์ตาและบันดุงจาก 3 ชั่วโมงเหลือประมาณ 40 นาที

นอกเหนือจากการมอบความสะดวกสบายในการเดินทางให้กับคนในท้องถิ่นแล้ว โครงการนี้คาดว่าจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางสังคมของอินโดนีเซียอย่างมาก และช่วยยกระดับเทคโนโลยีรถไฟของอินโดนีเซียและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย

โครงการภายใต้ BRI ที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์ของจีนมีกำหนดจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนมิถุนายน 2023 เมื่อถึงเวลานั้น อินโดนีเซียจะกลายเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีรถไฟความเร็วสูง

หลังจากโครงการก้าวสำคัญนี้ รถไฟจีน สะพานจีน และถนนของจีนจำนวนมากได้เผยแพร่ไปต่างประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัท PowerChina ยักษ์ใหญ่ด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้พัฒนา HSR สายจาการ์ตา-บันดุง ซึ่งรับหน้าที่วางรางรถไฟหลักระยะทาง 279.4 กิโลเมตร เปิดเผยว่ามูลค่าสัญญารวมระหว่างการก่อสร้างของ PowerChina ในอินโดนีเซียมีมูลค่าเกิน 3 พันล้านดอลลาร์ ในขณะเดียวกันก็มุ่งมั่นที่จะพัฒนาและก่อสร้างโครงการพลังงานสีเขียวในท้องถิ่นในอินโดนีเซีย ลาว เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ตลอดจนภูมิภาคและประเทศอื่น ๆ

ด้วยการพัฒนาต่อยอดของ BRI การผลิตและเทคโนโลยีของจีนจะไม่เพียงสร้าง "มาตรฐานจีน" ใหม่ให้กับโลกใบนี้เท่านั้น แต่ยังนำประโยชน์ที่แท้จริงมาสู่ประเทศต่าง ๆ ตามเส้นทางหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางด้วย

ข้อมูลติดต่อ

Shi Pei
651538233@qq.com

แหล่งที่มา: PowerChina

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. ประกาศให้ Forest of Hope เป็นภาพยนตร์คัดสรรสำหรับเทศกาลภาพยนตร์ และพูดถึงผลจากการปลูกต้นไม้

Logo

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–16 พฤศจิกายน 2022 

Mary Kay Inc. องค์กรผู้อุทิศตัวระดับโลกเพื่อความยั่งยืน ยินดีประกาศว่า Forest of Hope สารคดีที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทซึ่งเน้นประเด็นของการต่อสู้ปกป้องผืนป่า และบอกเล่าเรื่องราวการอนุรักษ์ รวมถึงการสนับสนุนบทบาทของสตรี ได้รับคัดเลือกอย่างเป็นทางการให้เป็นส่วนหนึ่งของสี่เทศกาลภาพยนตร์

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีสื่อมัลติมีเดีย ดูข่าวฉบับเต็มได้ที่นี่ https://www.businesswire.com/news/home/20221115006123/en/

(Credit: Mary Kay Inc.)

(Credit: Mary Kay Inc.)

ทีมผู้หญิงล้วนเป็นผู้เขียนบท กำกับ และผลิต Forest of Hope รวมถึงจัดฉายที่เทศกาลภาพยนตร์ La Femme International ซึ่งเป็นงานเทศกาลภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ที่เฉลิมฉลอง สนับสนุน และผลักดันการสร้างเนื้อหาโดยโปรดิวเซอร์ นักเขียน และผู้กำกับหญิงจากทั่วโลก ภาพยนตร์นี้ยังได้รับเลือกให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์ North Dakota Environmental Rights เทศกาลภาพยนตร์ Hot Springs International Women และเทศกาลภาพยนตร์ Green Film ด้วย

Mary Kay ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์สั้นร่วมกับ The Nature Conservancy ในการขับเน้นเรื่องราวของ Angelica ผู้นำของ Mujeres Unidas Para La Conservacion de Laguna de Sanchez และกลุ่มของนักธุรกิจหญิงที่ต่อสู้กับความท้าทายทางสิ่งแวดล้อมในพื้นที่โดยรอบของเมืองมอนเตอเรย์

Forest of Hope พาผู้ชมไปยังเมืองในหุบเขาเล็กใกล้เมืองมอนเตอเรย์ที่แวดล้อมไปด้วยอุทยานแห่งชาติ Cumbres สถานที่อนุรักษ์ธรรมชาติที่รู้จักกันในชื่อ “ปอดของภูมิภาค” เป็นสถานที่ที่ไฟและการตัดไม้ทำลายผืนป่าไป 30% รวมถึงความท้าทายด้านนิเวศอื่น ๆ เช่น เฮอร์ริเคน น้ำท่วม และปัญหาการขาดแคลนน้ำ

ปัญหาอื่นทั่วไปที่เจอในพื้นที่นี้คือ การไหลของน้ำฝนที่ส่งผลกระทบกับโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ปศุสัตว์ท้องถิ่น และพลเมืองในชุมชน การเสื่อมสภาพของธรรมชาติเหล่านี้ทำให้ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งอุทิศตนในการฟื้นฟูพันธุ์ไม้และผลิตพันธุ์ต้นไม้พื้นเมืองในสถานอนุบาล เพื่อรักษาความยืดหยุนทางธรรมชาติของพื้นที่ไว้

การปลูกต้นไม้และฟื้นฟูป่าเป็นทางออกที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยต่อสู้กับปัญหาสภาพอากาศ คุณภาพและปริมาณน้ำ สุขภาพความหลากหลายทางชีวภาพ และสุขภาพของมนุษย์เอง จนถึงปัจจุบัน Mary Kay ปลูกต้นไม้มากกว่า 1.2 ล้านต้นทั่วโลก งานอนุรักษ์ของ Mary Kay ต่อต้นไม้เป็นสิ่งที่วัดได้และสร้างผลลัพธ์ที่ยืนยาว

รายงานสถานการณ์ต้นไม้ล่าสุดของ Mary Kay เน้นให้เห็นประโยชน์ที่สั่งสมสามอย่างในการปลูกต้นไม้ผ่านงานที่ทำสำเร็จไปแล้ว ด้วยความร่วมมือกับ Arbor Day Foundation

  • คาร์บอน: การปลูก การปกป้องรักษา และการจัดการต้นไม้ให้ดูดซับคาร์บอน เมื่อต้นไม้โตขึ้น คาร์บอนจะถูกดูดซับออกจากชั้นบรรยากาศเข้าไปในลำต้น ราก และกิ่งก้าน
    • การวัดปริมาณ CO2 แบบตันที่แยกออกมาเดี่ยว ๆ จนถึงปัจจุบัน: 1,115,522
  • น้ำ: ต้นไม้และผืนป่ามีบทบาทสำคัญต่อคุณภาพและปริมาณน้ำ ต้นไม้ที่มีสุขภาพดีและผืนป่าช่วยลดการกัดกร่อนดิน กรองน้ำฝน และการทดน้ำเพื่อการเกษตร ยกระดับการซึมของฝน และลดการไหลของน้ำบนผิวดิน
    • ปริมาณแกลลอนที่เลี่ยงการไหลของน้ำ: 138,014,028 (เทียบเท่ากับ 1,568,341 คนที่มีน้ำสะอาด)
  • อากาศ: ต้นไม้ผลิตออกซิเจนที่เราหายใจ นอกจากนี้ ต้นไม้ยังลดอากาศเป็นพิษด้วยการลดอุณหภูมิอากาศ ทั้งการปล่อยน้ำเข้าสู่บรรยากาศ และการกรองอนุภาค
    • ปริมาณตันของมลพิษทางอากาศที่ถูกกำจัด: 6,123

หากต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมของคำมั่นสัญญาต่อความยั่งยืนของ Mary Kay โปรดดูที่ marykayglobal.com/sustainability และดาวน์โหลดกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay: เพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำอันจำเป็นต่อชีวิตต่าง ๆ เราสร้างโซลูชันที่ใช้ได้จริงและเป็นนวัตกรรมตามแนวทางวิทยาศาสตร์ เพื่อรับมือความท้าทายที่ยากที่สุดของโลกเรา เพื่อให้ธรรมชาติและคนสามารถเติบโตไปด้วยกัน เรากำลังจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพอากาศ การอนุรักษ์ดิน น้ำ และมหาสมุทรในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ช่วยมอบอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน รวมถึงช่วยทำให้เมืองต่าง ๆ มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น เราปฏิบัติงานใน 79 ประเทศ และเขตต่าง ๆ โดยใช้วิธีร่วมมือซึ่งทำให้เราเข้าไปมีส่วนร่วมกับชุมชน รัฐบาล ภาคเอกชน และพาร์ทเนอร์ท้องถิ่น หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ริเริ่มนำร่อง เธอก่อตั้งบริษัทความงามในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือ ช่วยให้ชีวิตผู้หญิงดียิ่งขึ้น ความฝันนั้นผลิดอกออกผลกลายเป็นบริษัทหลายพันล้านดอลลาร์ มีสมาชิกฝ่ายการขายอิสระในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทที่พัฒนาความเป็นนักธุรกิจ Mary Kay ตั้งมั่นที่จะสนับสนุนเส้นทางผู้หญิงผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรม

Mary Kay อุทิศตัวในการลงทุนกับวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงาม และการผลิตสกินแคร์ เครื่องสำอางสี ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเครื่องหอมอันล้ำสมัย Mary Kay เชื่อในการยกระดับชีวิตวันนี้เพื่อความยั่งยืนในวันข้างหน้า จับมือร่วมกับองค์กรอื่น ๆ ทั่วโลกโดยเน้นที่การสนับสนุนความเป็นเลิศด้านธุรกิจ การสนับสนุนงานวิจัยด้านมะเร็ง เพิ่มความเท่าเทียมทางเพศสภาพ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในบ้าน ช่วยให้ชุมชนของเราสวยงามยิ่งขึ้น พร้อมสนับสนุนเด็ก ๆ ให้เดินตามความฝัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com หรือค้นหาเราได้บน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราได้บน Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ดูข้อมูลต้นฉบับได้บน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221115006123/en/

ข้อมูลติดต่อ

Mary Kay Inc.
ฝ่ายสื่อสารบริษัท
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งที่มา: Mary Kay Inc.




จุดประกายความหลงใหลในกีฬา! เข้าร่วมการแข่งขัน VOOPOO Infinity Contest ในวันที่ 23 พฤศจิกายน และรับเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์!

Logo

เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–17 พฤศจิกายน 2022

ในฤดูกาลที่เต็มไปด้วยความหลงใหลในกีฬา ผู้คนทั่วโลกต่างตื่นเต้นกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว บริษัท VOOPOO แบรนด์ยักษ์ใหญ่ด้านบุหรี่ไฟฟ้าที่มุ่งมั่นในการให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางและสนับสนุนวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีและนวัตกรรม ได้ริเริ่มกิจกรรมที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า VOOPOO Infinity Go Go Go บนเว็บไซต์ของบริษัทเพื่อจุดประกายจิตวิญญาณแห่งกีฬาของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า (vaper)

(Photo: Business Wire)

(Photo: Business Wire)

ก่อนหน้านี้ บริษัท VOOPOO ได้ให้รูปลักษณ์เฉพาะตัวแก่ผลิตภัณฑ์รุ่นเรือธงด้วยการเปิดตัวสินค้ารุ่นพิเศษอย่าง ARGUS Series Limited Edition, ARGUS MT, ARGUS XT, ARGUS GT II, ARGUS POD และ ARGUS PRO แคมเปญ VOOPOO Infinity Go Go Go ที่เปิดตัวในช่วงเวลาเดียวกันนั้นก็ได้รับความสนใจจากแฟน ๆ และผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่เปิดตัว

DIY ผลงานศิลปะของคุณเอง พร้อมกับสนับสนุนทีมโปรดของคุณ และชิงเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์!

ในวันที่ 23 พฤศจิกายน VOOPOO จะเปิดตัวขั้นตอนที่สองอย่างเป็นทางการของ VOOPOO Infinity Go Go Go บนเว็บไซต์ของบริษัท

ในหน้ากิจกรรมที่ได้เผยแพร่นั้น เรารู้สึกประหลาดใจที่พบว่า VOOPOO ได้ซ่อนสิทธิประโยชน์มหาศาลเอาไว้อันได้แก่ เงินรางวัลมูลค่า 5,000 ดอลลาร์ ตามข้อมูลที่ประกาศอย่างเป็นทางการ เราพบว่านี่จะเป็นการแข่งขัน DIY ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์ DIY ผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาชื่นชอบนั่นเอง มาที่หน้ากิจกรรม VOOPOO Infinity Go Go Go แล้วตั้งตาคอยการประกาศข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมนี้ ใครกันที่จะเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลใหญ่มูลค่า 5,000 ดอลลาร์นี้ไป

VOOPOO รวมเอาความชื่นชอบด้านกีฬาอย่าง “นวัตกรรม” “ความเพียร” และ “การผสมผสาน” ซึ่งตรงกับค่านิยมของ VOOPOO เอาไว้ในกิจกรรมนี้ ส่งมอบให้กับผู้ใช้และผู้ที่ชื่นชอบ แม้กระทั่งอุตสาหกรรมแนวคิดที่ว่า วิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีเป็นพื้นฐานหนึ่งของการพัฒนา และนวัตกรรมที่ไม่สิ้นสุดจะเปลี่ยนอนาคตได้ ในส่วนของรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎระเบียบของการแข่งขันและเงื่อนไขการให้รางวัล โปรดดูที่หน้ากิจกรรมของ VOOPOO Infinity Go Go Go ในวันที่ 23 พฤศจิกายน

เกี่ยวกับ VOOPOO

VOOPOO  ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2017 และได้เติบโตอย่างรวดเร็วผ่านผลิตภัณฑ์ DRAG ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลกในระยะเวลาอันสั้น ในฐานะองค์กรไฮเทคที่มีทั้งการวิจัยและพัฒนา การออกแบบ การผลิต รวมถึงการสร้างแบรนด์ด้วย VOOPOO มีชุดผลิตภัณฑ์หลักสี่ชุด ได้แก่ ARGUS, DRAG, VINCI และ V ปัจจุบัน VOOPOO มีการดำเนินงานในกว่า 70 ประเทศในอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย

เว็บไซต์: https://www.voopoo.com/

Instagram: https://www.instagram.com/voopootech_official/

Facebook: https://www.facebook.com/voopooglobal

Youtube: https://www.youtube.com/c/VOOPOO

Tiktok: https://www.tiktok.com/@voopoofans

ร้านค้า: https://shop.voopoo.com/

ข้อมูลติดต่อ

Nical Zhang
ผู้จัดการฝ่าย PR
Nical.zhang@voopootech.com

แหล่งที่มา: VOOPOO

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Behavox แต่งตั้งหุ้นส่วนของ Softbank / หัวหน้าฝ่ายบุคลากรและสำนักงาน CEO เป็นคณะกรรมการบริษัท

Logo

Behavox กระชับความสัมพันธ์กับตลาดญี่ปุ่นโดยการแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน

TOKYO–(BUSINESS WIRE)–11 พฤศจิกายน 2022

Behavox บริษัทซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเฝ้าระวังสำหรับระบบการสื่อสาร ประกาศแต่งตั้ง Mr. Sasaki ผู้ซึ่งเป็นหุ้นส่วน / หัวหน้าฝ่ายบุคลากร และหัวหน้าสำนักงาน CEO ของ SoftBank Investment Advisers

Mr. Sasaki สมาชิกคณะกรรมการคนใหม่ ที่มาเข้าร่วม Behavox พร้อมประสบการณ์สูงจากตลาดการเงินของญี่ปุ่น Mr. Sasaki เป็นหุ้นส่วนและหัวหน้าสำนักงาน CEO ของ SoftBank ตั้งแต่ปี 2017 โดยได้เข้าร่วมองค์กรครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2003 และทำงานก่อนหน้านั้นที่ Bank of Tokyo-Mitsubishi มา 3 ปี

สำหรับ Behavox แล้ว ลูกค้าเป็นส่วนสำคัญที่สุด และการที่มีสมาชิกคณะกรรมการเป็นชาวญี่ปุ่นคนแรกขององค์กรนี้เป็นการตัดสินใจขั้นสำคัญ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อญี่ปุ่น ฐานลูกค้าที่กำลังเติบโต และทีมหุ้นส่วนของเราในญี่ปุ่น

Mr. Sasaki เข้าร่วมคณะกรรมการของเราพร้อมแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่เน้นชัดของ Behavox ความมุ่งมั่นที่จะขยายฐานลูกค้าในญี่ปุ่น และการมุ่งเน้นการขยายตลาดในเอเชีย

Erkin Adylov ผู้ก่อตั้ง Behavox & CEO กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ Mr. Sasaki เข้าเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัทของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นที่น่าตื่นเต้นกับโอกาสในการขยายตลาดในเอเชีย Mr. Sasaki มีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งกับตำแหน่งนี้ด้วยประสบการณ์ที่สูงจากตลาดการเงิน พวกเรารู้สึกตื่นเต้นในก้าวต่อไปของพวกเราทั้งสองสำหรับ Behavox และ Mr. Sasaki ร่วมกัน”

พร้อมกับการประกาศนี้ Behavox ยังเพิ่มความมุ่งเน้นที่จะเสริมกำลังเป็นสองเท่าในการปรับปรุงความสามารถในการรองรับภาษาญี่ปุ่นให้ดียิ่งขึ้นทั้งด้านการแปล ข้อความ และระบบเสียง เพื่อรองรับความแตกต่างทางวัฒนธรรมสำหรับนวัตกรรมใหม่นี้

Mr. Sasaki หุ้นส่วน / หัวหน้าฝ่ายบุคลากรและหัวหน้าสำนักงาน CEO กล่าวว่า “พนักงานที่พูดได้สองภาษาจะใช้ภาษาอื่น เช่น ภาษาญี่ปุ่น ในการดำเนินการที่ผิดกฎหมายหรือมุ่งร้าย การเข้าร่วม Behavox เป็นการตัดสินใจที่สำคัญของผม เพื่อให้แน่ใจได้ว่า เรากำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่ไม่เพียงสามารถรับมือกับความแตกต่างทางวัฒนธรรม แต่ยังมีความมุ่งมั่นที่จะจัดหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการคุกคามจากอาชญากรรมจากบุคคลภายในของญี่ปุ่นด้วย”

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุที่ญี่ปุ่นมีความต้องการการเฝ้าระวังอย่างยิ่งยวดจาก Taro Togo กรรมการผู้จัดการของ Behavox ประเทศญี่ปุ่น โดยจะมีการพูดคุยกันถึงหัวข้อต่างๆ ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงระบบการสื่อสารในองค์กร ไปจนถึงการรั่วไหลของข้อมูลที่เป็นความลับ และประเด็นทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ สามารถเข้าดูเพิ่มเติมได้ที่ เพราะเหตุใดการเฝ้าระวังจึงมีความสำคัญ และ ติดต่อเราหากต้องการอีเว้นท์เฉพาะเป็นการส่วนตัว!

เกี่ยวกับ Behavox Ltd.

Behavox เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเฝ้าระวังสำหรับระบบการสื่อสาร

ในฐานะผู้นำตลาดในแอปพลิเคชันระบบด้านปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้ในการตรวจสอบการสื่อสารโดยใช้ข้อความและเสียง ซอฟต์แวร์ของ Behavox จะช่วยปกป้องบริษัทและพนักงานของบริษัทจากผู้ไม่หวังดีและมีการดำเนินการที่ผิดกฎหมายและมุ่งร้ายต่อบริษัท

ทีมการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ทีมเฝ้าระวัง ทีมกฎหมาย และทีม SOC จะใช้ซอฟต์แวร์ของ Behavox เพื่อลดความผิดพลาดที่ไม่มีผลกระทบและเพิ่มอัตราการตรวจจับท่ามกลางความเสี่ยงที่เกิดขึ้นหลากหลาย โดยมมีวิธีการแก้ไขปัญหามากมายสำหรับการปกป้องบริษัทจากความเสี่ยงภายนอก Behavox ปกป้องบริษัทจากความเสี่ยงภายใน

Founded in 2014, Behavox ได้รับการก่อตั้งขึ้นในปี 2014 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่มอนทรีออล และมีสำนักงานอยู่ที่นิวยอร์กซิตี้ ลอนดอน ซีแอตเทิล สิงคโปร์ และโตเกียว

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทได้ที่ www.behavox.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายสื่อพิมพ์:
media@behavox.com

แหล่งข้อมูล: Behavox

The Bangkok Reporter