Mary Kay ให้ความสำคัญในการยกระดับการพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรีทั่วโลกผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร

Logo

เพื่อเป็นการรำลึกถึงวันผู้ประกอบการสตรี (Women’s Entrepreneurship Day) Mary Kay มีการผสานงานร่วมมือกันกับพันธมิตรเพื่อปลดล็อกศักยภาพของผู้ประกอบการที่เป็นสตรีในทุกแห่งหน

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–23 พฤศจิกายน 2022 

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนหลักในการเสริมสร้างพลังอำนาจทางเศรษฐกิจให้แก่สตรีและความเท่าเทียมทางเพศ จัดงานวันผู้ประกอบการสตรีขึ้นในวันนี้ โดยยืนยันความมุ่งมั่นระดับสากลที่มีต่อผู้ประกอบการที่เป็นสตรีผ่านความร่วมมือจากพันธมิตรต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นการยกระดับและพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรี

Deborah Gibbins, Mary Kay’s Chief Operating Officer (Photo courtesy: Mary Kay Inc.)

Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการของ Mary Kay (เอื้อเฟื้อภาพโดย Mary Kay Inc.)

Mary Kay ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการที่มีการดำเนินการในเกือบ 35 ประเทศ เป็นผู้สนับสนุนหลักในการส่งเสริมสตรีและสนับสนุนแรงบันดาลใจในการเป็นผู้ประกอบการมาเกือบ 60 ปี โดยบริษัทมีการร่วมมือกันกับพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มุ่งเน้นให้มีผลระดับสากล และช่วยขจัดอุปสรรคในการเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของสตรี และผสานรวมพลังของสตรีในระบบนิเวศของผู้ประกอบการ

ศักยภาพและความท้าทายในการเป็นผู้ประกอบการที่เป็นสตรี

การขยายการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของผู้หญิงจะช่วยยกระดับครอบครัว เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชน และทำให้สังคมมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น จากข้อมูลรายงานแสดงให้เห็นว่า ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะลงทุนเพิ่มสูงถึง 90% จากรายได้ในครอบครัวและชุมชนท้องถิ่น 1 การวิจัยยังแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของสามารถฟื้นตัวได้ไว มีความคล่องตัว และมีความยั่งยืนสูง แม้จะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ไม่เสถียร 2 ธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของมักจะตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ด้วยนวัตกรรมในการจัดการกับความท้าทายระดับสากลที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ

นอกเหนือจากผลกระทบทวีคูณในการเป็นผู้ประกอบการที่เป็นสตรี สตรีในธุรกิจยังคงเผชิญกับอุปสรรคทั่วโลกอันเป็นผลมาจากโอกาสในการเข้าถึงเงินทุนที่ไม่เท่าเทียมกัน การศึกษาระดับมืออาชีพ การมีส่วนร่วมในห่วงโซ่คุณค่าระดับโลก และการเข้าถึงตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการของพวกเธอ ทั้งหมดนี้เป็นอุปสรรคจากกฎหมายความไม่เท่าเทียมกัน 2022 Women, Business and the Law Report พบว่า ผู้หญิงในวัยทำงานกว่า 2.4 พันล้านคนยังคงไม่ได้รับสิทธิทางเศรษฐกิจเท่ากันกับผู้ชาย 3

ความท้าทายนี้เป็นวงกว้างมากจน 2022 Global Gender Gap Report มีการระบุว่า จะต้องใช้เวลาถึง 151 ปีกว่าจะสามารถปิดช่องว่างสำหรับการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจและช่องว่างระว่างเพศได้ 4

เมื่อผู้หญิงถูกกีดกันจากระบบนิเวศของการเป็นผู้ประกอบการ นั่นหมายถึง บริษัทและนักลงทุนกำลังพลาดโอกาสในการลงทุนครั้งใหญ่ อย่างเช่นในยุโรป มีผลจากการศึกษาว่า ถึงแม้ว่าผู้หญิงจะได้รับเงินลงทุนน้อยกว่าผู้ชายกึ่งหนึ่ง แต่บริษัทของพวกเธอก็สามารถสร้างรายได้สูงกว่าเป็นสองเท่าสำหรับทุกดอลลาร์ที่ลงทุนไป 5

โดยสอดคล้องกับพันธกิจในการส่งเสริมให้ผู้หญิงมีชีวิตที่ดีขึ้น Mary Kay และพันธมิตรมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรีและสนับสนุนผู้ประกอบการที่เป็นสตรีในทุกแห่งหน

การตระหนักว่า การเสริมกำลังอำนาจของผู้หญิงและความเท่าเทียมทางเพศเป็นปัจจัยสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ความยั่งยืน 10 ปีของ Mary Kay ที่เปิดตัวในปี 2021 ในเรื่อง การสร้างเสริมชีวิตในวันนี้ให้ดียิ่งขึ้นเพื่อความยั่งยืนในอนาคต ถือเป็นการสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศและความมุ่งมั่นหลักในการเสริมศักยภาพให้แก่สตรี 5 ล้านคนทั่วโลกภายในปี 2030 ผ่านการริเริ่มและความร่วมมือที่สำคัญ การส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของสตรีให้ก้าวหน้าไม่เพียงส่งผลดีต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน แต่ยังทำให้มั่นใจได้ว่า ทุกคนจะมีชีวิตที่ดีและเท่าเทียมกัน ซึ่งเป็นหลักการสำคัญสำหรับวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนในปี 2030

“ด้วยแรงบันดาลใจจากพันธกิจของเราในฐานะที่เป็นบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการที่ก่อตั้งขึ้นโดยสตรีเพื่อสตรี เราเชื่อว่าการลงทุนและการส่งเสริมสตรีให้ตระหนักถึงประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับจากการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจ ไม่เพียงเฉพาะในเชิงเศรษฐกิจ แต่ยังรวมถึงสังคมโดยรวมด้วยเช่นกัน เรากำลังปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์สำหรับผู้ประกอบการที่เป็นสตรีโดยการจัดการกับอุปสรรคที่พวกเธอจะต้องเผชิญ โดยผ่านพันธมิตรหลักเพื่อยกระดับสถานะที่เป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้น” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว

ความร่วมมือที่สำคัญซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรีทั่วโลก ได้แก่

  • โครงการหมู่บ้านนำร่อง SDG ในประเทศจีนเป็นโครงการพัฒนาเพื่อลดความยากจนที่มุ่งเน้นสตรี
    • การตระหนักในการพัฒนาชีวิตของผู้หญิงในชนบท ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้กับความยากจนและการบรรลุการพัฒนาอย่างยั่งยืน UNDP China และ Mary Kay ร่วมมือกับรัฐบาลจีน ภาครัฐ และพันธมิตร NGO ได้เปิดตัว โครงการหมู่บ้านนำร่อง SDG ใน Waipula มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ในปี 20176 โดยโครงการร่วมดังกล่าวเป็นการขจัดอุปสรรคในการพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรีโดยสร้างเสริมการคุ้มครองทางสังคมและการสร้างโอกาสในการเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ ด้วยการสนับสนุนการยกระดับความเป็นผู้นำที่เป็นสตรีให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจสำหรับชุมชน
    • อันเป็นผลจากโครงการที่มุ่งเน้นทางเพศ (เฟส I: 2017-2021):
      • อัตราความยากจนในท้องถิ่นภายในหมู่บ้านลดลงจาก 28% ในปี 2017 เป็น 0% ในปี 2020
      • ด้วยการฝึกอบรมและสร้างเสริมศักยภาพ 60 ครัวเรือน และ 193 รายที่เคยมีความเป็นอยู่ยากแค้นได้มีชีวิตที่ดีขึ้นและไม่อยู่ในกลุ่มยากจนในปี 2020
      • แรงงานข้ามชาติตามฤดูกาล 210 ราย และแรงงานข้ามชาติถาวร 120 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานสตรี สามารถกลับไปทำงานที่ภูมิลำเนาหรือเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง และกลับไปอยู่ร่วมกับลูกหลานและครอบครัวได้
      • ผู้หญิงในท้องถิ่น 607 ราย มีงานทำและมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยบางคนได้รับโอกาสเป็นผู้นำชุมชน มีบทบาทเป็นสมาชิกของคณะกรรมการหมู่บ้าน และเป็นผู้จัดการในงานต้อนรับและศิลปะในท้องถิ่น
      • รายได้ต่อหัวประชากรเพิ่มขึ้นเป็น 14,128 หยวน / 2,107 ดอลลาร์ ในปี 2021
      • โครงการขยายการพัฒนาหมู่บ้าน SDG 12 แห่ง จาก 17 แห่ง
  • The WE Empower UN SDG Challenge – การสนับสนุนผู้ประกอบการทางสังคมที่เป็นสตรี
    • นับจากปี 2019 Mary Kay เป็นพันธมิตรหลักของ The WE Empower UN SDG Challenge โดยมีความคิดริเริ่มที่นำโดย Vital Voices และ Global Futures Laboratory ที่ Arizona State University ซึ่งการแข่งขันประจำปีนี้จะเป็นการคัดหาผู้ประกอบการที่เป็นสตรี 5 รายที่พัฒนา SDG ในชุมชนของพวกเขาและผู้ชนะจะได้รับการฝึกอบรมการสร้างเสริมศักยภาพและเข้าพบปะกับผู้เชี่ยวชาญทางธุรกิจทั่วโลก
  • The Women’s Entrepreneurship Accelerator
    • ในปี 2019 ร่วมกับ 6 หน่วยงานของ UN Mary Kay ได้จัดตั้ง Women’s Entrepreneurship Accelerator (WEA) ขึ้น โดยมีพันธกิจในการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการทำงานสำหรับผู้ประกอบการที่เป็นสตรี
    • หน่วยงานของ UN ทั้ง 6 หน่วยงานที่ร่วมก่อตั้ง WEA ขึ้นประกอบด้วย International Labour Organization (ILO), International Trade Centre (ITC), International Telecommunication Union (ITU), UN Global Compact (UNGC), the United Nations Development Programme (UNDP) และ UN Women

ความสำเร็จขั้นสำคัญผ่านโปรแกรม WOMEN’S ENTREPRENEURSHIP ACCELERATOR ได้แก่

  • การพัฒนานโยบายผู้ประกอบการในเม็กซิโกและบราซิล
    • ในช่วงปี 2020 และ 2021 ILO ได้ดำเนินการและทำรายงานการประเมินเงื่อนไขเชิงนโยบาลเกี่ยวกับการพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรี (WED) ซึ่งมีผลกระทบต่อการเป็นผู้ประกอบการที่เป็นสตรีในภาคเชิงพาณิชย์และภาคอุตสาหกรรมในเม็กซิโกซิตี้ ด้วยการสนับสนุนจาก WEA การประเมินนี้ประกอบด้วยชุดคำแนะนำที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ 19 ข้อสำหรับการรับมือกับช่องว่างทางสถาบันที่มีอยู่สำหรับผู้ประกอบการที่เป็นสตรี ในบราซิล ILO มีการทำงานร่วมกับ Serviçio Nacional de Aprendizagem Industrial (SENAI) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรีผ่านการสื่อสารและการรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนัก การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพ และกิจกรรมต่าง ๆ
  • การเปิดตัว Women’s Entrepreneurship EXPO
    • ในปี 2021 Women’s Entrepreneurship EXPO ครั้งแรกที่จัดขึ้นโดย UN Women โดยได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay ได้จัดค่ายฝึกปฏิบัติทั่วภูมิภาคยุโรปและเอเชียกลาง (ECA) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการที่เป็นสตรีในการดึงดูดการลงทุน โดย Investors Pitch Finale สิ้นสุดลงในเดือนเมษายน ปี 2022 ซึ่งมีผู้ประกอบการที่เป็นสตรี 25 คนจาก 9 ประเทศ (ตุรกี บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา จอร์เจีย คาซัคสถาน โคโซโว คีร์กีซสถาน มาซิโคเนียเหนือ มอลโดวา และเซอร์เบีย) เข้าร่วมนำเสนอแผนธุรกิจตั้งต้นและการเริ่มต้นธุรกิจและเผชิญกับปัญหาความท้าทายที่ผู้ประกอบการที่เป็นสตรีต้องเผชิญในการขยายธุรกิจ นั่นก็คือ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน หลังการนำเสนอ นักลงทุนได้ให้การสนับสนุนทางการเงิน คำปรึกษา และโอกาสในการสร้างเครือข่ายให้แก่ผู้ประกอบการที่เป็นสตรีเพื่อช่วยในการขยายธุรกิจของพวกเขา
    • ในเดือนนี้ Women’s Entrepreneurship EXPO ครั้งที่สอง ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่าง PricewaterhouseCoopersEuropean Bank for Reconstruction and Development และ Yildiz Holding ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Women’s Entrepreneurship Accelerator และได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay โดยมีการนำผู้ประกอบการที่เป็นสตรีและพันธมิตรทางธุรกิจเข้ามารวมตัวกัน เพื่อระดมความคิดและดำเนินการอย่างเฉพาะเจาะจงในการพัฒนาภูมิทัศน์สำหรับการพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรี
  • การพัฒนาทักษะทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ไฟแรง
    • ITC SheTrades เปิดคอร์สออนไลน์ฟรีโปรแกรมแรก โปรแกรมประกาศนียบัตรการเป็นผู้ประกอบการ โดยได้รับการสนับสนุนจาก WEA ในเดือนมกราคม ปี 2022 และจัดทำโดย Mary Kay โดยลักสูตรดิจิทัล 27 โมดูลซึ่งครอบคลุม 7 ชั้นตอนหลักของเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการ มีให้บริการทั้งภาษาอังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส และเร็ว ๆ นี้จะมีการขยายบริการในภาษาอาหรับ รัสเซีย และจีน หลักสูตรนี้ประกอบด้วย 200 วิดีโอ และมีเป้าหมายเพื่อสอนทักษะในการออกแบบและเริ่มต้นธุรกิจ โดยผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีการปรับใช้วัฒนธรรมการเป็นผู้ประกอบการ พัฒนาแนวคิดทางธุรกิจ และเรียนรู้วิธีการเริ่มต้นธุรกิจ จัดเตรียมโมเดลธุรกิจ ออกแบบการนำเสนอ ระบุแหล่งเงินทุน ค้นหาพันธมิตรและที่ปรึกษาที่เหมาะสม และการสร้างทีม
    • ในปี 2022 ITU ได้พัฒนาโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาช่องว่างทางทักษะด้านดิจิทัลในเพศต่าง โดยนำเสนอให้ผู้หญิงและเด็กสามารถเข้าร่วมโครงการได้ฟรี สามารถเรียนรู้ในโมดูลที่มีคุณภาพสูง ซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจด้านดิจิทัล โครงการนี้จะมีการแปลเป็นหลายภาษาในปี 2023 โดยได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay ซึ่งโครงการนี้จะประกอบด้วย โมดูลออนไลน์ 17 โมดูล ตัวอย่างเช่น การฝึกอบรมทักษะด้านดิจิทัลโดยทั่วไปในภาคสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ที่เป็นสตรี และทักษะด้านการจัดการด้านเทคโนโลยีสำหรับผู้ประกอบการที่เป็นสตรี ซึ่งโมดูลการเรียนรู้เหล่านี้จะมีการฝึกอบรมวิชาชีพในวงกว้างสำหรับผู้ประกอบการที่เป็นสตรีทุกคน โดยไม่คำนึงถึงสถานที่หรือจุดมุ่งเน้นทางธุรกิจ
  • การเปิดตัว Global Advocacy Brief เพื่อให้ภาคเอกชนสามารถมีส่วนร่วมใน Gender-Responsive Procurement (GRP)
    • ในปี 2022 UN Women ได้มีการเปิดตัว Advocacy Brief เพื่อสนับสนุน WEA หัวข้อกลยุทธ์ในการจัดซื้อจัดจ้าง เหตุผลที่การจัดซื้อจัดจ้างที่ครอบคลุมทุกเพศทุกวัยมีความเหมาะสมทางธุรกิจ และรวมถึงคำกล่าวจาก Deb Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการของ Mary Kay บทสรุปนี้มุ่งเน้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและความยืดหยุ่นในการรับมือวิกฤตการณ์ในกรณีที่ผู้หญิงและผู้ชายมีสิทธิเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับประโยชน์ในการสร้างเสริมการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในห่วงโซ่อุปทานของภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมการเติบโตและการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยจะมีการพูดคุยท่ามกลางผู้มีส่วนร่วม 374 รายเพื่อสร้างแนวทางธุรกิจที่ควรใช้ GRP
  • เปิดตัวการแข่งขันด้านนวัตกรรมในการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย
    • ITU ที่สนับสนุนโดย Mary Kay จะมีการจัดการแข่งขันด้านนวัตกรรมแบบเปิดในเดือนหน้า โดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญจะเลือกแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดทางดิจิทัล 10 แนวทาง และโซลูชันดิจิทัลเพื่อสร้างระบบนิเวศที่ครอบคลุมทุกเพศทุกวัยสำหรับสตาร์ทอัพและสเกลอัพเพื่อรับมือกับหลายอุปสรรคที่ผู้ประกอบการที่เป็นสตรีจะต้องเผชิญในการพัฒนาเทคโนโลยี ผู้ชนะจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงโปรแกรมระบบนิเวศนวัตกรรมดิจิทัล และจะได้รับการเสริมสร้างศักยภาพและได้รับการให้คำปรึกษาเฉพาะด้าน

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash หนึ่งในผู้บุกเบิกเพดานกระจกดั้งเดิม ได้สานฝันของตัวเองในการตั้งบริษัทเสริมความงามในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือ การทำให้ผู้หญิงมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น และขยายฝันกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศในทุกวันนี้ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมผู้หญิงผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทในการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์ที่เป็นเบื้องหลังของความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยมีการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ยกระดับความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้ได้รับการละเมิดในครอบครัว สร้างเสริมชุมชนให้ดียิ่งขึ้น และสนับสนุนเด็ก ๆ ให้ทำตามความฝันของตัวเอง เรียนรู้เพิ่มเติมได้ ที่ marykayglobal.com ค้นหาเราได้ที่ FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

________________

1 Harvard Business Review. 2013. “The Global Rise of Female Entrepreneurs.”
2 BNP Paribas Wealth Management. 2020. “2020 Global Entrepreneur Report.” จากรายงานปี 2020 54% ของผู้ประกอบการที่เป็นสตรีระบุว่า นอกเหนือจากรายได้แล้ว การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ยังเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จสูงสุดในการลงทุน เมื่อเทียบกับผู้ชายที่มีเพียง 41 เปอร์เซ็นต์
3 World Bank. 2022. “Women, Business and the Law 2022.”
4 World Economic Forum. 2022. “Global Gender Gap Report 2022.”
5 European Investment Bank. 2020. “Funding women entrepreneurs: How to empower growth.”
6 พันธมิตร ได้แก่ The China Women’s Development Foundation, the China International Center for Economic and Technical Exchanges, the Women’s Federation of Yunnan Province and Yongren County Government.

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52976803/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

แหล่งข้อมูล: Mary Kay Inc.

การทดลองวิ่งรถไฟความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุงประสบความสำเร็จ

Logo

จาการ์ตา อินโดนีเซีย–(BUSINESS WIRE)–21 พฤศจิกายน 2022

รถไฟความเร็วสูง (HSR) สายจาการ์ตา-บันดุงที่เชื่อมต่อเมืองหลวงจาการ์ตาของอินโดนีเซียกับบันดุง เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ในประเทศ เป็นโครงการสำคัญภายใต้โครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ที่เสนอโดยจีน และนับเป็นการนำระบบรถไฟความเร็วสูงเต็มรูปแบบของจีนไปใช้ในต่างประเทศเป็นครั้งแรก

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2022 การทดลองวิ่งรถไฟความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุงบนเส้นทางระหว่างสถานี Tegalluar และ Casting Yard No. 4 ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ ประธานาธิบดีของชาวอินโดนีเซีย Joko Widodo และประธานาธิบดีของจีน Xi Jinping ร่วมเป็นสักขีพยานในการทดลองใช้งานรถไฟความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุง นอกรอบการประชุมทวิภาคีหลังการประชุมสุดยอด G20 ที่บาหลี

ในระหว่างการทดลองใช้งาน รถไฟความเร็วสูงสำหรับตรวจสอบแบบเบ็ดเสร็จได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยวกับชั้นลดระดับ ราง การสื่อสาร สัญญาณ แหล่งจ่ายไฟสำหรับการลากจูง และระบบอื่น ๆ ตัวชี้วัดที่ได้รับทั้งหมดชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ดี นับเป็นความสำเร็จของการดำเนินการทดลองครั้งแรกของรถไฟความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุงที่จีนและอินโดนีเซียได้พัฒนาร่วมกัน ด้วยความเร็วที่ออกแบบไว้ 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถไฟจะลดระยะเวลาการเดินทางระหว่างจาการ์ตาและบันดุงจาก 3 ชั่วโมงเหลือประมาณ 40 นาที

นอกเหนือจากการมอบความสะดวกสบายในการเดินทางให้กับคนในท้องถิ่นแล้ว โครงการนี้คาดว่าจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางสังคมของอินโดนีเซียอย่างมาก และช่วยยกระดับเทคโนโลยีรถไฟของอินโดนีเซียและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย

โครงการภายใต้ BRI ที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์ของจีนมีกำหนดจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนมิถุนายน 2023 เมื่อถึงเวลานั้น อินโดนีเซียจะกลายเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีรถไฟความเร็วสูง

หลังจากโครงการก้าวสำคัญนี้ รถไฟจีน สะพานจีน และถนนของจีนจำนวนมากได้เผยแพร่ไปต่างประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัท PowerChina ยักษ์ใหญ่ด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้พัฒนา HSR สายจาการ์ตา-บันดุง ซึ่งรับหน้าที่วางรางรถไฟหลักระยะทาง 279.4 กิโลเมตร เปิดเผยว่ามูลค่าสัญญารวมระหว่างการก่อสร้างของ PowerChina ในอินโดนีเซียมีมูลค่าเกิน 3 พันล้านดอลลาร์ ในขณะเดียวกันก็มุ่งมั่นที่จะพัฒนาและก่อสร้างโครงการพลังงานสีเขียวในท้องถิ่นในอินโดนีเซีย ลาว เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ตลอดจนภูมิภาคและประเทศอื่น ๆ

ด้วยการพัฒนาต่อยอดของ BRI การผลิตและเทคโนโลยีของจีนจะไม่เพียงสร้าง "มาตรฐานจีน" ใหม่ให้กับโลกใบนี้เท่านั้น แต่ยังนำประโยชน์ที่แท้จริงมาสู่ประเทศต่าง ๆ ตามเส้นทางหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางด้วย

ข้อมูลติดต่อ

Shi Pei
651538233@qq.com

แหล่งที่มา: PowerChina

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. ประกาศให้ Forest of Hope เป็นภาพยนตร์คัดสรรสำหรับเทศกาลภาพยนตร์ และพูดถึงผลจากการปลูกต้นไม้

Logo

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–16 พฤศจิกายน 2022 

Mary Kay Inc. องค์กรผู้อุทิศตัวระดับโลกเพื่อความยั่งยืน ยินดีประกาศว่า Forest of Hope สารคดีที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทซึ่งเน้นประเด็นของการต่อสู้ปกป้องผืนป่า และบอกเล่าเรื่องราวการอนุรักษ์ รวมถึงการสนับสนุนบทบาทของสตรี ได้รับคัดเลือกอย่างเป็นทางการให้เป็นส่วนหนึ่งของสี่เทศกาลภาพยนตร์

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีสื่อมัลติมีเดีย ดูข่าวฉบับเต็มได้ที่นี่ https://www.businesswire.com/news/home/20221115006123/en/

(Credit: Mary Kay Inc.)

(Credit: Mary Kay Inc.)

ทีมผู้หญิงล้วนเป็นผู้เขียนบท กำกับ และผลิต Forest of Hope รวมถึงจัดฉายที่เทศกาลภาพยนตร์ La Femme International ซึ่งเป็นงานเทศกาลภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ที่เฉลิมฉลอง สนับสนุน และผลักดันการสร้างเนื้อหาโดยโปรดิวเซอร์ นักเขียน และผู้กำกับหญิงจากทั่วโลก ภาพยนตร์นี้ยังได้รับเลือกให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์ North Dakota Environmental Rights เทศกาลภาพยนตร์ Hot Springs International Women และเทศกาลภาพยนตร์ Green Film ด้วย

Mary Kay ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์สั้นร่วมกับ The Nature Conservancy ในการขับเน้นเรื่องราวของ Angelica ผู้นำของ Mujeres Unidas Para La Conservacion de Laguna de Sanchez และกลุ่มของนักธุรกิจหญิงที่ต่อสู้กับความท้าทายทางสิ่งแวดล้อมในพื้นที่โดยรอบของเมืองมอนเตอเรย์

Forest of Hope พาผู้ชมไปยังเมืองในหุบเขาเล็กใกล้เมืองมอนเตอเรย์ที่แวดล้อมไปด้วยอุทยานแห่งชาติ Cumbres สถานที่อนุรักษ์ธรรมชาติที่รู้จักกันในชื่อ “ปอดของภูมิภาค” เป็นสถานที่ที่ไฟและการตัดไม้ทำลายผืนป่าไป 30% รวมถึงความท้าทายด้านนิเวศอื่น ๆ เช่น เฮอร์ริเคน น้ำท่วม และปัญหาการขาดแคลนน้ำ

ปัญหาอื่นทั่วไปที่เจอในพื้นที่นี้คือ การไหลของน้ำฝนที่ส่งผลกระทบกับโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ปศุสัตว์ท้องถิ่น และพลเมืองในชุมชน การเสื่อมสภาพของธรรมชาติเหล่านี้ทำให้ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งอุทิศตนในการฟื้นฟูพันธุ์ไม้และผลิตพันธุ์ต้นไม้พื้นเมืองในสถานอนุบาล เพื่อรักษาความยืดหยุนทางธรรมชาติของพื้นที่ไว้

การปลูกต้นไม้และฟื้นฟูป่าเป็นทางออกที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยต่อสู้กับปัญหาสภาพอากาศ คุณภาพและปริมาณน้ำ สุขภาพความหลากหลายทางชีวภาพ และสุขภาพของมนุษย์เอง จนถึงปัจจุบัน Mary Kay ปลูกต้นไม้มากกว่า 1.2 ล้านต้นทั่วโลก งานอนุรักษ์ของ Mary Kay ต่อต้นไม้เป็นสิ่งที่วัดได้และสร้างผลลัพธ์ที่ยืนยาว

รายงานสถานการณ์ต้นไม้ล่าสุดของ Mary Kay เน้นให้เห็นประโยชน์ที่สั่งสมสามอย่างในการปลูกต้นไม้ผ่านงานที่ทำสำเร็จไปแล้ว ด้วยความร่วมมือกับ Arbor Day Foundation

  • คาร์บอน: การปลูก การปกป้องรักษา และการจัดการต้นไม้ให้ดูดซับคาร์บอน เมื่อต้นไม้โตขึ้น คาร์บอนจะถูกดูดซับออกจากชั้นบรรยากาศเข้าไปในลำต้น ราก และกิ่งก้าน
    • การวัดปริมาณ CO2 แบบตันที่แยกออกมาเดี่ยว ๆ จนถึงปัจจุบัน: 1,115,522
  • น้ำ: ต้นไม้และผืนป่ามีบทบาทสำคัญต่อคุณภาพและปริมาณน้ำ ต้นไม้ที่มีสุขภาพดีและผืนป่าช่วยลดการกัดกร่อนดิน กรองน้ำฝน และการทดน้ำเพื่อการเกษตร ยกระดับการซึมของฝน และลดการไหลของน้ำบนผิวดิน
    • ปริมาณแกลลอนที่เลี่ยงการไหลของน้ำ: 138,014,028 (เทียบเท่ากับ 1,568,341 คนที่มีน้ำสะอาด)
  • อากาศ: ต้นไม้ผลิตออกซิเจนที่เราหายใจ นอกจากนี้ ต้นไม้ยังลดอากาศเป็นพิษด้วยการลดอุณหภูมิอากาศ ทั้งการปล่อยน้ำเข้าสู่บรรยากาศ และการกรองอนุภาค
    • ปริมาณตันของมลพิษทางอากาศที่ถูกกำจัด: 6,123

หากต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมของคำมั่นสัญญาต่อความยั่งยืนของ Mary Kay โปรดดูที่ marykayglobal.com/sustainability และดาวน์โหลดกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay: เพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำอันจำเป็นต่อชีวิตต่าง ๆ เราสร้างโซลูชันที่ใช้ได้จริงและเป็นนวัตกรรมตามแนวทางวิทยาศาสตร์ เพื่อรับมือความท้าทายที่ยากที่สุดของโลกเรา เพื่อให้ธรรมชาติและคนสามารถเติบโตไปด้วยกัน เรากำลังจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพอากาศ การอนุรักษ์ดิน น้ำ และมหาสมุทรในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ช่วยมอบอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน รวมถึงช่วยทำให้เมืองต่าง ๆ มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น เราปฏิบัติงานใน 79 ประเทศ และเขตต่าง ๆ โดยใช้วิธีร่วมมือซึ่งทำให้เราเข้าไปมีส่วนร่วมกับชุมชน รัฐบาล ภาคเอกชน และพาร์ทเนอร์ท้องถิ่น หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ริเริ่มนำร่อง เธอก่อตั้งบริษัทความงามในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือ ช่วยให้ชีวิตผู้หญิงดียิ่งขึ้น ความฝันนั้นผลิดอกออกผลกลายเป็นบริษัทหลายพันล้านดอลลาร์ มีสมาชิกฝ่ายการขายอิสระในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทที่พัฒนาความเป็นนักธุรกิจ Mary Kay ตั้งมั่นที่จะสนับสนุนเส้นทางผู้หญิงผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรม

Mary Kay อุทิศตัวในการลงทุนกับวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงาม และการผลิตสกินแคร์ เครื่องสำอางสี ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเครื่องหอมอันล้ำสมัย Mary Kay เชื่อในการยกระดับชีวิตวันนี้เพื่อความยั่งยืนในวันข้างหน้า จับมือร่วมกับองค์กรอื่น ๆ ทั่วโลกโดยเน้นที่การสนับสนุนความเป็นเลิศด้านธุรกิจ การสนับสนุนงานวิจัยด้านมะเร็ง เพิ่มความเท่าเทียมทางเพศสภาพ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในบ้าน ช่วยให้ชุมชนของเราสวยงามยิ่งขึ้น พร้อมสนับสนุนเด็ก ๆ ให้เดินตามความฝัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com หรือค้นหาเราได้บน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราได้บน Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ดูข้อมูลต้นฉบับได้บน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221115006123/en/

ข้อมูลติดต่อ

Mary Kay Inc.
ฝ่ายสื่อสารบริษัท
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งที่มา: Mary Kay Inc.




จุดประกายความหลงใหลในกีฬา! เข้าร่วมการแข่งขัน VOOPOO Infinity Contest ในวันที่ 23 พฤศจิกายน และรับเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์!

Logo

เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–17 พฤศจิกายน 2022

ในฤดูกาลที่เต็มไปด้วยความหลงใหลในกีฬา ผู้คนทั่วโลกต่างตื่นเต้นกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว บริษัท VOOPOO แบรนด์ยักษ์ใหญ่ด้านบุหรี่ไฟฟ้าที่มุ่งมั่นในการให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางและสนับสนุนวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีและนวัตกรรม ได้ริเริ่มกิจกรรมที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า VOOPOO Infinity Go Go Go บนเว็บไซต์ของบริษัทเพื่อจุดประกายจิตวิญญาณแห่งกีฬาของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า (vaper)

(Photo: Business Wire)

(Photo: Business Wire)

ก่อนหน้านี้ บริษัท VOOPOO ได้ให้รูปลักษณ์เฉพาะตัวแก่ผลิตภัณฑ์รุ่นเรือธงด้วยการเปิดตัวสินค้ารุ่นพิเศษอย่าง ARGUS Series Limited Edition, ARGUS MT, ARGUS XT, ARGUS GT II, ARGUS POD และ ARGUS PRO แคมเปญ VOOPOO Infinity Go Go Go ที่เปิดตัวในช่วงเวลาเดียวกันนั้นก็ได้รับความสนใจจากแฟน ๆ และผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่เปิดตัว

DIY ผลงานศิลปะของคุณเอง พร้อมกับสนับสนุนทีมโปรดของคุณ และชิงเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์!

ในวันที่ 23 พฤศจิกายน VOOPOO จะเปิดตัวขั้นตอนที่สองอย่างเป็นทางการของ VOOPOO Infinity Go Go Go บนเว็บไซต์ของบริษัท

ในหน้ากิจกรรมที่ได้เผยแพร่นั้น เรารู้สึกประหลาดใจที่พบว่า VOOPOO ได้ซ่อนสิทธิประโยชน์มหาศาลเอาไว้อันได้แก่ เงินรางวัลมูลค่า 5,000 ดอลลาร์ ตามข้อมูลที่ประกาศอย่างเป็นทางการ เราพบว่านี่จะเป็นการแข่งขัน DIY ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์ DIY ผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาชื่นชอบนั่นเอง มาที่หน้ากิจกรรม VOOPOO Infinity Go Go Go แล้วตั้งตาคอยการประกาศข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมนี้ ใครกันที่จะเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลใหญ่มูลค่า 5,000 ดอลลาร์นี้ไป

VOOPOO รวมเอาความชื่นชอบด้านกีฬาอย่าง “นวัตกรรม” “ความเพียร” และ “การผสมผสาน” ซึ่งตรงกับค่านิยมของ VOOPOO เอาไว้ในกิจกรรมนี้ ส่งมอบให้กับผู้ใช้และผู้ที่ชื่นชอบ แม้กระทั่งอุตสาหกรรมแนวคิดที่ว่า วิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีเป็นพื้นฐานหนึ่งของการพัฒนา และนวัตกรรมที่ไม่สิ้นสุดจะเปลี่ยนอนาคตได้ ในส่วนของรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎระเบียบของการแข่งขันและเงื่อนไขการให้รางวัล โปรดดูที่หน้ากิจกรรมของ VOOPOO Infinity Go Go Go ในวันที่ 23 พฤศจิกายน

เกี่ยวกับ VOOPOO

VOOPOO  ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2017 และได้เติบโตอย่างรวดเร็วผ่านผลิตภัณฑ์ DRAG ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลกในระยะเวลาอันสั้น ในฐานะองค์กรไฮเทคที่มีทั้งการวิจัยและพัฒนา การออกแบบ การผลิต รวมถึงการสร้างแบรนด์ด้วย VOOPOO มีชุดผลิตภัณฑ์หลักสี่ชุด ได้แก่ ARGUS, DRAG, VINCI และ V ปัจจุบัน VOOPOO มีการดำเนินงานในกว่า 70 ประเทศในอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย

เว็บไซต์: https://www.voopoo.com/

Instagram: https://www.instagram.com/voopootech_official/

Facebook: https://www.facebook.com/voopooglobal

Youtube: https://www.youtube.com/c/VOOPOO

Tiktok: https://www.tiktok.com/@voopoofans

ร้านค้า: https://shop.voopoo.com/

ข้อมูลติดต่อ

Nical Zhang
ผู้จัดการฝ่าย PR
Nical.zhang@voopootech.com

แหล่งที่มา: VOOPOO

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Behavox แต่งตั้งหุ้นส่วนของ Softbank / หัวหน้าฝ่ายบุคลากรและสำนักงาน CEO เป็นคณะกรรมการบริษัท

Logo

Behavox กระชับความสัมพันธ์กับตลาดญี่ปุ่นโดยการแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน

TOKYO–(BUSINESS WIRE)–11 พฤศจิกายน 2022

Behavox บริษัทซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเฝ้าระวังสำหรับระบบการสื่อสาร ประกาศแต่งตั้ง Mr. Sasaki ผู้ซึ่งเป็นหุ้นส่วน / หัวหน้าฝ่ายบุคลากร และหัวหน้าสำนักงาน CEO ของ SoftBank Investment Advisers

Mr. Sasaki สมาชิกคณะกรรมการคนใหม่ ที่มาเข้าร่วม Behavox พร้อมประสบการณ์สูงจากตลาดการเงินของญี่ปุ่น Mr. Sasaki เป็นหุ้นส่วนและหัวหน้าสำนักงาน CEO ของ SoftBank ตั้งแต่ปี 2017 โดยได้เข้าร่วมองค์กรครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2003 และทำงานก่อนหน้านั้นที่ Bank of Tokyo-Mitsubishi มา 3 ปี

สำหรับ Behavox แล้ว ลูกค้าเป็นส่วนสำคัญที่สุด และการที่มีสมาชิกคณะกรรมการเป็นชาวญี่ปุ่นคนแรกขององค์กรนี้เป็นการตัดสินใจขั้นสำคัญ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อญี่ปุ่น ฐานลูกค้าที่กำลังเติบโต และทีมหุ้นส่วนของเราในญี่ปุ่น

Mr. Sasaki เข้าร่วมคณะกรรมการของเราพร้อมแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่เน้นชัดของ Behavox ความมุ่งมั่นที่จะขยายฐานลูกค้าในญี่ปุ่น และการมุ่งเน้นการขยายตลาดในเอเชีย

Erkin Adylov ผู้ก่อตั้ง Behavox & CEO กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ Mr. Sasaki เข้าเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัทของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นที่น่าตื่นเต้นกับโอกาสในการขยายตลาดในเอเชีย Mr. Sasaki มีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งกับตำแหน่งนี้ด้วยประสบการณ์ที่สูงจากตลาดการเงิน พวกเรารู้สึกตื่นเต้นในก้าวต่อไปของพวกเราทั้งสองสำหรับ Behavox และ Mr. Sasaki ร่วมกัน”

พร้อมกับการประกาศนี้ Behavox ยังเพิ่มความมุ่งเน้นที่จะเสริมกำลังเป็นสองเท่าในการปรับปรุงความสามารถในการรองรับภาษาญี่ปุ่นให้ดียิ่งขึ้นทั้งด้านการแปล ข้อความ และระบบเสียง เพื่อรองรับความแตกต่างทางวัฒนธรรมสำหรับนวัตกรรมใหม่นี้

Mr. Sasaki หุ้นส่วน / หัวหน้าฝ่ายบุคลากรและหัวหน้าสำนักงาน CEO กล่าวว่า “พนักงานที่พูดได้สองภาษาจะใช้ภาษาอื่น เช่น ภาษาญี่ปุ่น ในการดำเนินการที่ผิดกฎหมายหรือมุ่งร้าย การเข้าร่วม Behavox เป็นการตัดสินใจที่สำคัญของผม เพื่อให้แน่ใจได้ว่า เรากำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่ไม่เพียงสามารถรับมือกับความแตกต่างทางวัฒนธรรม แต่ยังมีความมุ่งมั่นที่จะจัดหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการคุกคามจากอาชญากรรมจากบุคคลภายในของญี่ปุ่นด้วย”

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุที่ญี่ปุ่นมีความต้องการการเฝ้าระวังอย่างยิ่งยวดจาก Taro Togo กรรมการผู้จัดการของ Behavox ประเทศญี่ปุ่น โดยจะมีการพูดคุยกันถึงหัวข้อต่างๆ ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงระบบการสื่อสารในองค์กร ไปจนถึงการรั่วไหลของข้อมูลที่เป็นความลับ และประเด็นทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ สามารถเข้าดูเพิ่มเติมได้ที่ เพราะเหตุใดการเฝ้าระวังจึงมีความสำคัญ และ ติดต่อเราหากต้องการอีเว้นท์เฉพาะเป็นการส่วนตัว!

เกี่ยวกับ Behavox Ltd.

Behavox เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเฝ้าระวังสำหรับระบบการสื่อสาร

ในฐานะผู้นำตลาดในแอปพลิเคชันระบบด้านปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้ในการตรวจสอบการสื่อสารโดยใช้ข้อความและเสียง ซอฟต์แวร์ของ Behavox จะช่วยปกป้องบริษัทและพนักงานของบริษัทจากผู้ไม่หวังดีและมีการดำเนินการที่ผิดกฎหมายและมุ่งร้ายต่อบริษัท

ทีมการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ทีมเฝ้าระวัง ทีมกฎหมาย และทีม SOC จะใช้ซอฟต์แวร์ของ Behavox เพื่อลดความผิดพลาดที่ไม่มีผลกระทบและเพิ่มอัตราการตรวจจับท่ามกลางความเสี่ยงที่เกิดขึ้นหลากหลาย โดยมมีวิธีการแก้ไขปัญหามากมายสำหรับการปกป้องบริษัทจากความเสี่ยงภายนอก Behavox ปกป้องบริษัทจากความเสี่ยงภายใน

Founded in 2014, Behavox ได้รับการก่อตั้งขึ้นในปี 2014 มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่มอนทรีออล และมีสำนักงานอยู่ที่นิวยอร์กซิตี้ ลอนดอน ซีแอตเทิล สิงคโปร์ และโตเกียว

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทได้ที่ www.behavox.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายสื่อพิมพ์:
media@behavox.com

แหล่งข้อมูล: Behavox

Mary Kay Inc. ได้รับการยอมรับในรายงานผลกระทบแนวปะการังทั่วโลกปี 2022 ของ The Nature Conservancy

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–11 พฤศจิกายน 2022

ตลอดปี 2022 Mary Kay Inc. ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความยั่งยืนและการดูแลองค์กร ได้ทำงานเพื่อยกระดับการตระหนักรู้เกี่ยวกับสภาพอากาศที่มีผลกระทบต่อมหาสมุทรและเพื่อเป็นแนวทางในการจัดการกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

The Nature Conservancy and Mary Kay Inc. announced their partnership in 1990. Mary Kay has continued to generously support TNC’s work with an expanded focus on oceans work around the globe. (Credit: The Nature Conservancy)

แม้ The Nature Conservancy และ Mary Kay Inc. ได้ประกาศความร่วมมือในปี 1990 แต่ Mary Kay ยังคงสนับสนุนงานของ TNC อย่างต่อเนื่องโดยมุ่งเน้นที่การขยายงานด้านมหาสมุทรทั่วโลก (เครดิต: The Nature Conservancy)

ในเดือนนี้ Mary Kay ได้รับการยอมรับในรายงานผลกระทบแนวปะการังทั่วโลกปี 2022 ของ The Nature Conservancy โดยรายงานของ The Nature Conservancy ได้กล่าวเน้นถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นล่าสุด และความสำเร็จในวิธีการที่องค์กรร่วมมือกับภาคเอกชนในการดำเนินการโครงการอนุรักษ์ทางทะเลโดยใช้นวัตกรรมใหม่ที่ปกป้องและรักษาชีวิตในมหาสมุทรของเรา

รายงานมีการกล่าวถึงโครงการที่เพิ่งเปิดตัวไปซึ่งมุ่งเน้นเกี่ยวกับ “แนวปะการัง Super Reefs” แนวปะการัง Super Reefs มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถใช้ชีวิตอยู่ในมหาสมุทรที่ร้อนระอุได้ ภารกิจของโครงการแนวปะการัง Super Reefs คือ การระบุถิ่นฐาน ปกป้อง และขยายเครือข่ายแนวปะการัง Super Reefs ทั่วโลกเพื่อรักษาแนวปะการังไว้ให้คงนาน ทีมงานแนวปะการัง Super Reefs ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านมหาสมุทรศาสตร์ ด้านการอนุรักษ์ และด้านการจัดการ จาก Woods Hole Oceanographic Institution, Stanford University และ The Nature Conservancy พร้อมทั้งการสนับสนุนจากภาคเอกชนจาก Mary Kay เพื่อสนับสนุนรัฐบาลและชุมชนในช่วงเวลาอันวิกฤตนี้เพื่อประวัติศาสตร์ของแนวปะการัง

“ฉันเคยเห็นแนวปะการังที่ถูกทำลาย และแนวปะการังที่ได้รับการฟื้นฟูในช่วงชีวิตของฉัน” Elizabeth McLeod หัวหน้าฝ่าย Global Reefs Systems ที่ The Nature Conservancy กล่าว “เราจะต้องเข้าไปที่แหล่งน้ำ เพื่อระบุแนวปะการังที่สามารถมีชีวิตรอดได้จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และเพื่อให้แน่ใจว่า แนวปะการังเหล่านี้ได้รับการปกป้องจากผลกระทบอื่น ๆ”

“เราร่วมมือกับ The Nature Conservancy มายาวนานกว่า 32 ปี แต่เพิ่งมีการเริ่มต้นกันในส่วนนี้” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “ตลอดปี 2022 เรามีการเพิ่มกำลังด้านความยั่งยืนขึ้นเป็นสองเท่า รวมถึงการมุ่งเน้นที่ความสมบูรณ์ของมหาสมุทร ความสมบูรณ์ของมหาสมุทรสะท้อนถึงความสมบูรณ์สำหรับโลกของเรา และจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องทำหน้าที่ของเราในการปกป้องเพื่อคงความสมบูรณ์นี้”

ในปี 2022 Mary Kay ให้การสนับสนุน 11 โครงการที่เกี่ยวข้องกับการริเริ่มในการปกป้องมหาสมุทรทั่วโลก เพื่อปรับปรุงความสมบูรณ์ของมหาสมุทรกลับสู่ธรรมชาติและเพื่อผู้คน ผ่านการปกป้องและการฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัยที่สำคัญ เช่น แนวปะการัง แนวปะการังหอยนางรม และแหล่งน้ำชายเลนริมชายฝั่ง โดยโครงการสำคัญเหล่านี้ ได้แก่

  • การฟื้นฟูแนวปะการังหอยชายฝั่งภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกในออสเตรเลีย ฮ่องกง จีน และแถบพื้นที่สามเหลี่ยมปะการัง
  • การสร้างความมั่นใจในการปกป้องและฟื้นฟูปะการังในประเทศแถบพื้นที่สามเหลี่ยมปะการัง ซึ่งครอบคลุมอินโดนีเซีย ปาปัวนิวกินี และหมู่เกาะโซโลมอน ว่าจะได้รับการสนับสนุนในการอนุรักษ์และการริเริ่มที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อทั้งภูมิภาค
  • การสนับสนุนสตรีผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมในแปซิฟิกในปาปัวนิวกินีและหมู่เกาะโซโลมอน
  • การอนุรักษ์และการฟื้นฟูพื้นที่ชายฝั่งในคาบสมุทรกัลฟ์และการประเมินความเป็นไปได้ของตลาดคาร์บอนสีน้ำเงินเพื่อสนับสนุนการจัดการแหล่งน้ำชายเลนริมชายฝั่งในระยะยาว และ
  • การปรับปรุงการประมงในเม็กซิโก เพื่อส่งเสริมชุมชนและสตรีในอุตสาหกรรมการประมง

หากต้องการอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของ Mary Kay ในด้านความยั่งยืน โปรดไปที่ marykayglobal.com/sustainability และดาวน์โหลดกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay เพื่อชีวิตที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นในวันนี้ เพื่อความยั่งยืนในอนาคค

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy (TNC)

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ผืนแผ่นดินและน่านน้ำที่ทุกชีวิตต้องพึ่งพา โดยมีการสร้างนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ วิธีแก้ไขปัญหาเพื่อรับมือกับความท้าทายที่ยากมากสำหรับโลกของเรา เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเติบโตไปพร้อมกัน เรากำลังรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์ผืนแผ่นดิน น่านน้ำ และมหาสมุทรในระดับที่ไม่เคยทำมาก่อน พร้อมทั้งจัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยให้เมืองต่าง ๆ มีความยั่งยืนมากขึ้น โดยการทำงานใน 79 ประเทศและเขตแดน เราใช้แนวทางการทำงานร่วมกันเพื่อให้มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่น ๆ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press ได้ที่ Twitter

เกี่ยวกับ Mary Kay Inc.

หนึ่งในผู้ผลิตฝ้าเพดานกระจกรุ่นบุกเบิก Mary Kay Ash ได้ก่อตั้งบริษัทเกี่ยวกับความสวยความงามตามความฝันของเธอขึ้นในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือ ทำให้ชีวิตของผู้หญิงทุกคนมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยความฝันของเธอได้เติบโตเบ่งบานขึ้นกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะที่เป็นบริษัทพัฒนาสตาร์ทอัพ Mary Kay มีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มศักยภาพให้กับผู้หญิงผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนทางวิทยาศาสตร์เสริมความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำชีวิตให้ดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยมีการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นและส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการทารุณกรรมในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงามยิ่งขึ้น และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราได้ที่ FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/52963296/en

ติดต่อ

Mary Kay Inc.
Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

The Nature Conservancy
Misty Edgecomb
Communications Director
medgecomb@tnc.org or 484-343-3223

แหล่งข้อมูล: Mary Kay Inc.






Mary Kay Inc. เฉลิมฉลองการปลูกต้นไม้มากกว่า 1.2 ล้านต้นทั่วโลก

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–9 พฤศจิกายน 2022

เมื่อผู้นำระดับโลกมาประชุมกันที่การประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของ UN (COP 27) ในเดือนนี้ Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความยั่งยืนขององค์กรและการให้บริการดูแล ได้ประกาศความสำเร็จของโครงการปลูกป่าขนาด 69 เอเคอร์ เพื่อฟื้นฟูพื้นที่การจัดการสัตว์ป่า Econfina Creek ในรัฐฟลอริดา โดยร่วมมือกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation จนถึงปัจจุบัน Mary Kay Inc. ได้ปลูกต้นไม้มากกว่า 1.2 ล้านต้นกับพันธมิตรทั่วโลก

(Graphic: Mary Kay Inc.)

(ภาพกราฟิก: Mary Kay Inc.)

มูลนิธิ Arbor Day Foundation และ Mary Kay ร่วมมือกับเขตการจัดการน้ำทางตะวันตกเฉียงเหนือของฟลอริดาเพื่อปลูกต้นสนใบยาวจำนวน 43,000 ต้น ซึ่งจะช่วยปกป้องแหล่งน้ำที่สำคัญในเบย์เคาน์ตี รัฐฟลอริดา ประโยชน์หลัก ๆ ด้านสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพของโครงการ ได้แก่

  • ฟื้นฟูและรักษาแหล่งน้ำดื่มหลักสำหรับเบย์เคาน์ตี รัฐฟลอริดา
  • ปลูกทดแทนพันธุ์ไม้พื้นเมืองเพื่อให้พื้นที่นี้กลับคืนสู่สภาวะตามธรรมชาติ
  • ปรับปรุงที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าในพื้นที่ เช่น กวาง นกกระทาบ็อบไวท์ สุนัขจิ้งจอกเชอร์แมน และเต่าโกเฟอร์

“พันธมิตรอย่าง Mary Kay ช่วยให้เราประสบความสำเร็จในระดับโลกซึ่งจำเป็นต่อการขับเคลื่อนให้เกิดผลกระทบที่มีความสำคัญผ่านต้นไม้” กล่าวโดย Dan Lambe ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมูลนิธิ Arbor Day Foundation “เรารู้สึกขอบคุณที่พวกเขาเข้ามามีส่วนร่วมในภารกิจของเรา และหวังว่าจะได้แก้ไขปัญหาเร่งด่วน เช่น การตัดไม้ทำลายป่าและการฟื้นฟูระบบนิเวศร่วมกันในอนาคต”

Arbor Day Foundation ประมาณการ* ว่าผลกระทบตลอด 40 ปีจะส่งผลดังนี้

  • กักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิ 57,387.3 เมตริกตัน
  • กำจัดมลพิษทางอากาศ 165.6 ตัน
  • สกัดกั้นปริมาณน้ำฝน 2,455,300 แกลลอน

"ต้นไม้เป็นสิ่งที่ใกล้เคียงกับฮีโร่มากที่สุดที่โลกของเรามี" Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว "ต้นไม้เหล่านี้ดูดซับคาร์บอน ปรับปรุงคุณภาพน้ำ และผลิตออกซิเจนที่จำเป็น พลังของต้นไม้ไม่มีที่เปรียบ ซึ่งเป็นเหตุผลให้ Mary Kay Inc. ลงทุนอย่างหนักในโครงการปลูกป่าทั่วโลก”

เมื่อต้นปีนี้ Mary Kay ได้เผยแพร่รายงานที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับความร่วมมือที่มีมาอย่างยาวนานกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation โดย Mary Kay Inc. และมูลนิธิ Arbor Day Foundation ร่วมกันปลูกต้นไม้กว่า 1.2 ล้านต้นทั่วโลก ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบที่มากพอจนประเมินได้ต่อระบบนิเวศป่าไม้ที่สำคัญ

หากต้องการอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของ Mary Kay ในด้านความยั่งยืน

โปรดไปที่ marykayglobal.com/sustainability และดาวน์โหลดกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay ในหัวข้อ Enriching Lives Today for a Sustainable Tomorrow

*การประเมินผลกระทบโดยใช้ i-Tree ซึ่งเป็นชุดซอฟต์แวร์ที่ล้ำสมัยและได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญจาก USDA Forest Service ที่ให้บริการเครื่องมือวิเคราะห์และประเมินผลป่าไม้ในเขตเมืองและในชนบท

เกี่ยวกับ Arbor Day Foundation

มูลนิธิ Arbor Day Foundation ก่อตั้งขึ้นในปี 1972 และเติบโตขึ้นจนกลายเป็นองค์กรสมาชิกไม่แสวงหากำไรที่ใหญ่ที่สุดที่อุทิศตนเพื่อการปลูกต้นไม้ โดยมีสมาชิก ผู้สนับสนุน และพันธมิตรที่มีคุณค่ามากกว่าหนึ่งล้านคน ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา มีการปลูกต้นไม้เกือบ 500 ล้านต้นในละแวกบ้าน ชุมชน เมือง และป่าไม้ทั่วโลก วิสัยทัศน์ของเราคือการนำไปสู่โลกที่นำต้นไม้มาใช้ในการแก้ปัญหาที่สำคัญต่อการอยู่รอด

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในมูลนิธิอนุรักษ์ที่ดำเนินงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก มูลนิธิ Arbor Day Foundation ได้ให้ความรู้และดึงดูดผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและชุมชนทั่วโลกให้มีส่วนร่วมในภารกิจการปลูกต้นไม้ บำรุงเลี้ยง และเฉลิมฉลองต้นไม้ผ่านทางสมาชิก พันธมิตร และโครงการต่าง ๆ โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ arborday.org

เกี่ยวกับ Mary Kay Inc.

Mary Kay Ash หนึ่งในผู้ผลิตฝ้าเพดานกระจกรุ่นดั้งเดิม ได้ก่อตั้งบริษัทความงามในฝันของเธอในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือทำให้ชีวิตผู้หญิงสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในเส้นทางเดินของพวกเธอผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย ​​เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยร่วมมือกับองค์กรจากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการทารุณกรรมในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราได้บน FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้บน Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/20221108005288/en/

ข้อมูลติดต่อ

Mary Kay Inc.
Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งข้อมูล: Mary Kay Inc.





Aurora, Bangkok Bank, Farmhouse, Café Amazon ร่วมรับรางวัลแบรนด์ ออฟ เดอะ เยียร์ อวอร์ด ประจำปี 2022

Logo

ลอนดอน –(BUSINESS WIRE)–7 พฤศจิกายน 2022

ในการประกาศรางวัล World Branding Awards ครั้งที่ 15 มีแบรนด์มากกว่า 3,500 แบรนด์จากประเทศต่างๆ มากกว่า 45 ประเทศได้รับการประกาศชื่อให้เป็น “แบรนด์ ออฟ เดอะ เยียร์” ในจำนวนนี้ มีน้อยกว่า 250 แบรนด์ที่ได้รับการประกาศรางวัล มีแขกผู้เข้าร่วมพิธีมอบรางวัล 100 คนจากทั่วโลกมาร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของแบรนด์ที่ดีที่สุดในโลก ณ พระราชวังเค็นซิงตัน ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีมอบรางวัล

Lurpak, Club Med, Yakult, Spotify, CoCo, Ikea, Amazon, Netflix, Neutrogena, Lego, Cadbury, Johnnie Walker, Hennessy ได้รับการประกาศให้เป็นแบรนด์ที่ได้รับรางวัลระดับโลกในพิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติดังกล่าว

แบรนด์จากไทยที่ได้รับรางวัล ได้แก่ Aurora, Bangkok Bank, Farmhouse, Café Amazon, Gems Pavillion, King Power, PTT Station, Siam Paragon, Thai Life Insurance, True Online, Mk Suki, M-150, Twelve Plus สำหรับแบรนด์อื่นๆ ที่ได้รับรางวัลระดับประเทศ ได้แก่ Alibaba (จีน), Dior (ฝรั่งเศส), Haribo (เยอรมนี), Janji Jiwa (อินโดนีเซีย), Sprite (เคนย่า), Toast Box (สิงคโปร์), Sparco (อิตาลี) เป็นต้น

มีเพียง 17 แบรนด์ที่ได้รับรางวัลระดับภูมิภาคปีนี้ ได้แก่ Bosch, Media Markt, Sennheiser, SoundCloud, Al Abraaj Restaurants, Huawei, Carrefour, Optical 88, MR. D.I.Y., Elkjøp, BreadTalk, Naturgy, H&M, Walrus Pump, Gems Pavilion และ CBRE โดยแบรนด์เหล่านี้ได้รับการโหวตให้เป็นแบรนด์โปรดของผู้บริโภคในอย่างน้อย 4 ประเทศของพื้นที่ในภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ 3 แห่งขึ้นไป

“พิธีนี้เป็นการเฉลิมฉลองแบรนด์ที่ดีที่สุดจากทั่วโลก รางวัลดังกล่าวเป็นเสมือนการยอมรับในความอุตสาหะที่ทีมงานของแต่ละแบรนด์ได้ทุ่มเทอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อยในการทำงาน เพื่อสร้างและรักษาแบรนด์ของตนเองไว้ในตลาดที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด” คุณ Danny Pek กรรมการบริหาร World Branding Forum กล่าว

“ปีนี้มีผู้บริโภคเข้าร่วมกระบวนการเสนอชื่อมากกว่า 150,000 คนจากทั่วโลก โดยเฉลี่ยแล้วจะมีแบรนด์ที่ได้รับรางวัลในแต่ละประเทศอยู่เพียง 5 แบรนด์ ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นต่อไปอีกว่าการได้รับรางวัล World Branding Awards นั้นเป็นความสำเร็จอันโดดเด่นอย่างแท้จริง” คุณ Richard Rowles ประธาน World Branding Forum กล่าว

งานนี้ดำเนินรายการโดย Jemma Forte พิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อดัง และนำเสนอข้อมูลเชิงลึกสุดพิเศษเกี่ยวกับผู้บริโภคในอนาคตโดย Chris Sanderson ผู้ร่วมก่อตั้ง 'The Future Laboratory' ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลเชิงลึกด้านผู้บริโภคและการให้คำปรึกษาด้านการพยากรณ์แนวโน้มชื่อดัง

หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมและรายชื่อแบรนด์ทั้งหมดที่ได้รับรางวัล โปรดไปที่ awards.brandingforum.org

###

เกี่ยวกับรางวัล World Branding Awards

รางวัล World Branding Awards เป็นรางวัลชั้นนำของ World Branding Forum ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่จดทะเบียน โดยรางวัลดังกล่าวจะมอบเพื่อยกย่องความสำเร็จของแบรนด์ที่ดีที่สุดในโลก หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ https://awards.brandingforum.org

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Media Team
media@brandingforum.org
+44(0)2037439880

ที่มา: World Branding Awards

2022 New Silk Road Story Exchange·Keqiao Forum และการประชุมการค้าเกี่ยวกับสินค้าสิ่งทอโลกครั้งที่ 5 จะมีการจัดขึ้นที่เคอเฉียว มณฑลเจ้อเจียง ในวันที่ 15 เดือนพฤศจิกายน

Logo

SHAOXING, ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–6 พฤศจิกายน 2022

วันที่ 3 เดือนพฤศจิกายน รองเลขาธิการรัฐบาลมณฑลเจ้อเจียงประกาศในงานแถลงข่าวเกี่ยวกับงาน 2022 New Silk Road Story Exchange·Keqiao Forum และการประชุมการค้าเกี่ยวกับสินค้าสิ่งทอโลกครั้งที่ 5 ที่จะมีการจัดขึ้นที่เขตเคอเฉียว เมืองเช่าซิง มณฑลเจ้อเจียง ตั้งแต่วันที่ 15 ถึง 20 เดือนพฤศจิกายน

Site of the press conference (Photo: Business Wire)

เว็บไซต์งานแถลงข่าว (ภาพถ่าย: Business Wire)

เขตเคอเฉียวเป็นแหล่งรวมอุตสาหกรรมสินค้าสิ่งทอที่มีชื่อเสียงระดับโลก เนื่องด้วยมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าสิ่งทอน้ำหนักเบาที่นี่ทุกปีประมาณ 1/4 ของโลก โดยมีปริมาณการส่งออกสินค้าสิ่งทอกว่า 100 พันล้านหยวนในแต่ละปี ครอบคลุม 192 ประเทศและภูมิภาค

2022 New Silk Road Story Exchange·Keqiao Forum ประกอบด้วยหัวข้อหลักและสามหัวข้อย่อย ผู้เข้าร่วมกว่า 100 ราย รวมถึงเจ้าหน้าที่กระทรวง ผู้นำทางด้านธุรกิจ ผู้บริหารมีเดียต่าง ๆ และนักวิจัย จะมารวมตัวกันที่เจ้อเจียง เพื่อแบ่งปันเรื่องราวและเทคนิคต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงการ "the Belt and Road"

การประชุมการค้าเกี่ยวกับสินค้าสิ่งทอโลกครั้งที่ 5 และกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะมีการจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 ถึง 20 เดือนพฤศจิกายน โดยกิจกรรมหลักจะเป็นการประชุมตามหัวข้อหลัก การประชุมโต๊ะกลม งาน Keqiao Fashion Week งานแสดงสินค้าสิ่งทอฤดูใบไม้ร่วง และการประชุมหัวข้อย่อยอื่น ๆ ในเวลาเดียวกัน ซึ่งกิจกรรมอื่น ๆ นั้นรวมถึงงานรางวัล Merit Award ครบรอบ 30 ปี ของเมืองสินค้าสิ่งทอแห่งประเทศจีน และการเผยแพร่สมุดปกขาวเกี่ยวกับอุตสาหกรรมงานพิมพ์และการย้อมสี

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Wang Na
โทร: +86137 1855 9535
อีเมล: 476270532@qq.com
URL: https://h.xinhuaxmt.com/vh512/share/11186510?d=1348cb0&channel=weixin

แหล่งข้อมูล: Xinhua Daily Telegraph

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52962026/en

Mary Kay มอบเงินช่วยเหลือด้านสุขภาพผิวและนำเสนองานวิจัยด้านชีววิทยาดวงตาที่หย่อนคล้อย ในงานประชุมประจำปีของสมาคมยุโรปด้านการวิจัยโรคผิวหนังครั้งที่ 51

Logo

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–26 ตุลาคม 2022

Mary Kay Inc., หนึ่งในบริษัทนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ดูแลผิวระดับโลกเปิดตัวร่วมมือครั้งใหม่กับ European Society for Dermatological Research (ESDR)  ที่มีสำนักงานจดทะเบียนในกรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อมอบรางวัลแก่นักวิจัยในการประชุม ESDR ประจำปีครั้งที่ 51 การประชุมมีการจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28 กันยายน – 1 ตุลาคม ปี 2022 โดยจะมีการบันทึกการประชุมและพร้อมให้บริการตามความต้องการหลังการประชุม

“Women are seeking more advanced at-home beauty treatment options and our Upstream Innovation team is meeting this need by designing new products that provide compelling skin benefits. Participation at international conferences like ESDR is one way we share and learn about the latest advancements in skincare science to remain relevant in our research efforts and build industry-wide connections,” said Dr. Lucy Gildea, Chief Innovation Officer, Product & Science at Mary Kay. (Credit: Mary Kay Inc.)

“ผู้หญิงกำลังมองหาตัวเลือกการรักษาความงามใกล้บ้านที่ล้ำหน้ายิ่งขึ้น และทีมนวัตกรรมต้นน้ำของเราสามารถตอบสนองความต้องการนี้โดยการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มอบคุณประโยชน์ด้านผิวที่น่าดึงดูด การเข้าร่วมการประชุมระดับนานาชาติเช่น ESDR เป็นวิธีหนึ่งที่เราแบ่งปันและเรียนรู้เกี่ยวกับความก้าวหน้าล่าสุดในวิทยาศาสตร์การดูแลผิว เพื่อให้คงความเกี่ยวข้องในความพยายามในการวิจัยของเรา สร้างการเชื่อมต่อทั่วทั้งอุตสาหกรรม และส่งเสริมให้ Mary Kay เป็นผู้นำระดับโลกในด้านวิทยาศาสตร์ผิวหนัง” ดร.ลูซี กิลเดีย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรม ฝ่ายผลิตภัณฑ์และวิทยาศาสตร์ของแมรี่ เคย์ กล่าว (เครดิต: Mary Kay Inc.)

Mary Kay จะมีการมอบเงินสนับสนุนจำนวน $20,000 ให้แก่นักวิจัยที่ดำเนินการศึกษานวัตกรรมด้านสุขภาพผิวหนังหรือโรคผิวหนัง ซึ่งผู้สมัครที่มีสิทธิ์สามารถสมัครได้จนถึงวันที่ 9 ธันวาคม ปี 2022 ผู้ชนะจะได้รับการประกาศในระหว่างงานเสมือนที่จัดขึ้นพิเศษในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ก่อนการประชุมครั้งแรกของการประชุมสมาคมระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยโรคผิวหนังครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม ด้วยเงินทุนเหล่านี้ Mary Kay หวังว่าจะสามารถช่วยให้นักวิจัยได้ค้นพบมุมมองใหม่และกลยุทธ์การรักษาโรค

Mary Kay นำเสนอผลการวิจัยใหม่ที่น่าตื่นเต้นในการประชุม ESDR ประจำปีครั้งที่ 51 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งมุ่งเน้นชีววิทยาในการเสื่อมสภาพของผิว ทีมงานมีการสำรวจการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไปซึ่งส่งผลต่อดวงตา โดยเฉพาะเปลือกตาบน เมื่อเวลาผ่านไป รูปทรงเปลือกตาบนเริ่มหย่อนคล้อย ทำให้มีลักษณะที่หย่อนคล้อยหรือเป็นถุง ปัจจุบัน มีเพียงตัวเลือกเดียวที่แสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงรูปลักษณ์ของเปลือกตาที่หย่อนคล้อยได้อย่างมีนัยสำคัญ ในการประชุมประจำปี Geetha Kalahasti รองหัวหน้ากลุ่มนักวิทยาศาสตร์ การวิจัยต้นน้ำ การรับรองทางคลินิกและวิทยาศาสตร์ที่ Mary Kay ได้แบ่งปันผลการศึกษาทางคลินิกที่ประเมินประสิทธิภาพของสูตรเครื่องสำอางที่มีสารสกัดจากพฤกษชาติเป็นวิธีแก้ปัญหาเฉพาะที่ในการรักษาเปลือกตาตก สารสกัดจากพฤกษชาติมุ่งเป้าไปที่ส่วนประกอบหลัก 3 อย่างที่มีส่วนทำให้เกิดผลกระทบ ได้แก่ การเสื่อมสภาพทางผิวหนัง การหดตัวของเปลือกตาบน และการขยับของแผ่นไขมันบนเปลือกตาบน ผลการวิจัยแสดงให้เห็นการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญในความหย่อนคล้อยของเปลือกตาและเส้นขอบตา ซึ่งเป็นโซลูชันเครื่องสำอางที่บ้านที่มีแนวโน้มว่าจะแก้ปัญหาดวงตาที่หย่อนคล้อยได้ แพทย์ผิวหนังที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอิสระสองคนได้ประเมินผลทางคลินิกและยืนยันว่าผลลัพธ์เป็นที่น่าสนใจ

“ผู้หญิงกำลังมองหาตัวเลือกการรักษาความงามใกล้บ้านที่ล้ำหน้ายิ่งขึ้น และทีมนวัตกรรมต้นน้ำของเราสามารถตอบสนองความต้องการนี้โดยการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มอบคุณประโยชน์ด้านผิวที่น่าดึงดูดใจ นี่เป็นเพียงหนึ่งในหลายวิธีที่เราตอบสนองและเกินความคาดหวังของผู้บริโภค” ดร.ลูซี กิลเดีย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรม ฝ่ายผลิตภัณฑ์และวิทยาศาสตร์ของแมรี่ เคย์ กล่าว “การเข้าร่วมการประชุมระดับนานาชาติเช่น ESDR เป็นวิธีหนึ่งที่เราแบ่งปันและเรียนรู้เกี่ยวกับความก้าวหน้าล่าสุดในวิทยาศาสตร์การดูแลผิว เพื่อให้คงความเกี่ยวข้องในความพยายามในการวิจัยของเรา สร้างการเชื่อมต่อทั่วทั้งอุตสาหกรรม และส่งเสริมให้ Mary Kay เป็นผู้นำระดับโลกในด้านวิทยาศาสตร์ผิวหนัง”

ESDR สนับสนุนการวิจัยด้านโรคผิวหนัง โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงสุขภาพของผู้ป่วยโรคผิวหนังให้ดียิ่งขึ้น การประชุม European Society for Dermatological Research (ESDR) ประจำปีจัดขึ้นที่ยุโรปในเดือนกันยายนของทุกปี หัวข้อการประชุม ESDR ประจำปีนี้ประกอบด้วยการบรรยายจากนักวิทยาศาสตร์รับเชิญที่มีชื่อเสียงในระดับสากล การนำเสนอบทคัดย่อ บทความด้านวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ทางผิวหนัง การประชุมวิชาการในหลากหลายหัวข้อ การประชุมเชิงปฏิบัติการเชิงโต้ตอบ โดยมีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานกว่า 1,100 คนจาก 51 ประเทศ การประชุม  ESDR ประจำปีดึงดูดความสนใจจากนักวิทยาศาสตร์ทั่วทุกมุมโลกที่มีความสนใจในด้านโรคผิวหนัง และผลการวิจัยขั้นพื้นฐาน ทางคลินิก และผลงานวิจัยล่าสุด

“ในนามของคณะกรรมการ ESDR เราขอขอบคุณ Mary Kay สำหรับการสนับสนุนแก่ ESDR และการสนับสนุนกิจกรรม ESDR วัตถุประสงค์หลักของสมาคมคือ การส่งเสริมงานวิจัยเชิงนวัตกรรมในด้านโรคผิวหนัง และเพื่อสนับสนุนกิจกรรมของนักวิจัยในการวิจัยด้านผิวหนัง เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ Mary Kay มาร่วมป็นส่วนหนึ่งของความพยายามนี้” Eli Sprecher, Chair of the Scientific Program Committee of ESDR กล่าว

เกี่ยวกับ MARY KAY

Mary Kay Ash หนึ่งในผู้ผลิตฝ้าเพดานกระจกรุ่นดั้งเดิม ก่อตั้งบริษัทความงามในฝันของเธอในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือ ทำให้ชีวิตผู้หญิงสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ความฝันของเธอนั้นได้เบ่งบานจนกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทยุคบุกเบิก Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิง โดยสนับสนุนด้านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย ​​เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยร่วมมือกับองค์กรต่างๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการทารุณกรรมในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็กๆ ทำตามความฝัน เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราได้ที่ FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือ ติดตามเราได้ที่ Twitter

เกี่ยวกับสมาคมยุโรปเพื่อการวิจัยด้านโรคผิวหนัง (ESDR)

สมาคมยุโรปเพื่อการวิจัยด้านผิวหนัง (ESDR) ก่อตั้งขึ้นในปี 1970 โดยเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ส่งเสริมวิทยาศาสตร์พื้นฐานและคลินิกด้านโรคผิวหนัง ESDR เป็นสมาคมวิจัยด้านโรคผิวหนังที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยมีสมาชิกในปัจจุบันประมาณ 1100 คน โดยการสนับสนุนการวิจัยด้านโรคผิวหนังและผิวหนัง ESDR มีส่วนส่งเสริมให้มีความเข้าใจเชิงลึกด้านภาวะสมดุลของผิวหนัง และพัฒนาสุขภาพของผู้ป่วยจากโรคผิวหนัง ESDR สนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยด้านโรคผิวหนังระหว่างแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ESDR ยังมีการจัดกิจกรรมการศึกษาตลอดทั้งปีเพื่อให้ความรู้เพิ่มเติมในการวิจัยด้านโรคผิวหนัง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเข้าเยี่ยมชม: https://esdr.org/

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

แหล่งข้อมูล: Mary Kay Inc.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย




The Bangkok Reporter