Mary Kay Inc. ได้รับการรับรองจาก Forest Stewardship Council และเฉลิมฉลองปลูกต้นไม้ 1.3 ล้านต้นร่วมกับมูลนิธิ Arbor Day

Logo

เนื่องในวันป่าไม้สากล Mary Kay เน้นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการอนุรักษ์และการแก้ปัญหาที่อิงกับธรรมชาติ

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–21 มีนาคม 2023

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและความยั่งยืนขององค์กร กำลังฉลองวันป่าไม้สากลโดยเน้นการรับรองล่าสุดจาก Forest Stewardship Council® (FSC®)

Mary Kay Inc., a global advocate for corporate social responsibility and sustainability, is celebrating International Day of Forests by highlighting its recent certification from the Forest Stewardship Council® (FSC®). (Credit: Mary Kay Inc.)

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและความยั่งยืนขององค์กร กำลังฉลองวันป่าไม้สากลโดยเน้นการรับรองล่าสุดจาก Forest Stewardship Council® (FSC®) (เครดิต: Mary Kay Inc.)

ใบรับรองนี้ใช้กับศูนย์การพิมพ์และภาพดิจิทัลของ Mary Kay ซึ่งตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัททั่วโลกและศูนย์กระจายสินค้าระดับภูมิภาคที่ตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัสตอนเหนือ และเป็นการยืนยันความมุ่งมั่นของ Mary Kay ในการสนับสนุนการป่าไม้อย่างมีความรับผิดชอบโดยใช้วัสดุรีไซเคิล FSC 100% หรือแหล่งกระดาษผสม FSC สำหรับการพิมพ์เชิงพาณิชย์ โดยใช้กระดาษสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกไปทั่วโลกเป็นหลัก

FSC® เป็นองค์กรระดับโลกที่ไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งส่งเสริมการจัดการป่าไม้อย่างมีความรับผิดชอบทั่วโลกโดยกำหนดมาตรฐานตามหลักการที่ตกลงร่วมกันสำหรับการดูแลป่า ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ การรับรอง FSC หมายถึงการจัดหาอย่างยั่งยืนที่ให้ความสำคัญกับป่าและผู้คนเป็นอันดับแรก รวมถึงรับประกันว่าผลิตภัณฑ์นั้นมาจากป่าที่มีการจัดการอย่างมีความรับผิดชอบ

“เราภูมิใจในความก้าวหน้าในเส้นทางสู่ความยั่งยืนของเรา” กล่าวโดย Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay “ใบรับรอง FSC เป็นผลมาจากการทำงานอย่างหนักเป็นเวลาหลายเดือน การเตรียมการ การนำโปรโตคอลใหม่ไปใช้ และการฝึกอบรม ความสำเร็จนี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Mary Kay ที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและความเป็นเลิศทางธุรกิจ”

บริษัทด้านความงามและผู้ประกอบการระดับโลกที่มีชื่อเสียงแห่งนี้กำหนดจะเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีในปี 2023 โดยสานต่อพันธสัญญาที่มีมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษในการเพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตทั่วโลกและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ปีนี้ Mary Kay ยังฉลองการเป็นหุ้นส่วน 15 ปีกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation ความร่วมมือของ Mary Kay และมูลนิธิ Arbor Day เริ่มขึ้นในปี 2008 ซึ่งมีประเด็นสำคัญ ดังนี้

  • ในปี 2008 ที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของ Mary Kay ได้เข้าร่วมในโครงการรีไซเคิลโดยปลูกต้นไม้ในป่าที่ต้องการนำคอมแพคเก่าทั้งหมดมารีไซเคิล ด้วยความพยายามในการรีไซเคิลระดับประเทศโดยที่ปรึกษาด้านความงามอิสระและลูกค้า รวมถึงพนักงานของบริษัท ทำให้ Mary Kay บรรลุเป้าหมายการรวบรวมคอมแพคเก่า 200,000 ชิ้น
  • ตั้งแต่ปี 2009 ถึง 2012 ความร่วมมือของ Mary Kay กับมูลนิธิ Arbor Day Foundation ได้สนับสนุนห้องเรียน Nature Explore ในที่พักพิงสำหรับความรุนแรงในครอบครัว เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีสถานที่ที่ปลอดภัยในการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ
  • ตั้งแต่ปี 2013 Mary Kay เริ่มสนับสนุนโครงการปลูกป่าขนาดใหญ่ทั่วโลก รวมถึงสหรัฐอเมริกา บราซิล จีน เยอรมนี ไอร์แลนด์ เปรู และมาดากัสการ์
  • ในปี 2018 ขณะที่ Mary Kay ตัดริบบิ้นที่โรงงาน Richard R. Rogers Manufacturing / R&D แห่งใหม่ใน Lewisville รัฐเท็กซัส บริษัทได้ฉลองความสำเร็จในการปลูกต้นไม้ครบหนึ่งล้านต้นด้วยการปลูกต้นไม้ในพิธีที่ไซต์งาน
  • จนถึงวันนี้ Mary Kay และมูลนิธิ Arbor Day Foundation ได้ปลูกต้นไม้ 1.3 ล้านต้นร่วมกัน และยังคงทำงานต่อไปเพื่อสร้างผลกระทบในอนาคต

“ความมุ่งมั่นที่ยั่งยืนของ Mary Kay ได้แสดงให้เห็นแล้วในการสนับสนุนโครงการผสมผสานที่หลากหลายซึ่งปลูกต้นไม้ที่เหมาะสมในสถานที่ที่เหมาะสม ทำให้ความร่วมมือครั้งนี้เป็นความร่วมมือที่พิเศษอย่างแท้จริง” กล่าวโดย Katie Loos ประธานมูลนิธิ Arbor Day Foundation “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การทำงานร่วมกันของเราได้เติบโตขึ้นเพื่อสร้างผลกระทบในระดับโลกในด้านป่าไม้ที่มีความจำเป็นมากที่สุด Mary Kay เข้าใจความหมายและสิ่งที่จำเป็นในการเป็นเจ้าหน้าที่บริการที่ดีต่อระบบนิเวศและชุมชนที่เปราะบางที่สุดของเรา และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นอนาคตของความร่วมมือนี้ที่รออยู่สำหรับโลกใบนี้”

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของ Mary Kay ในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนได้ที่ https://marykayglobal.com/sustainability/

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 1963 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันนั้นได้เบ่งบานกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

เกี่ยวกับ the Arbor Day Foundation

มูลนิธิ Arbor Day Foundation ก่อตั้งขึ้นในปี 1972 และเติบโตจนกลายเป็นองค์กรสมาชิกที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ใหญ่ที่สุดที่อุทิศตนเพื่อการปลูกต้นไม้ โดยมีสมาชิก ผู้สนับสนุน และพันธมิตรที่ทรงคุณค่ามากกว่าหนึ่งล้านคน ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิ Arbor Day Foundation ปลูกต้นไม้เกือบ 500 ล้านต้นในละแวกใกล้เคียง ชุมชน เมือง และป่าทั่วโลก วิสัยทัศน์ของเราคือการนำไปสู่โลกที่ต้นไม้ถูกนำมาใช้ในการแก้ปัญหาที่มีความสำคัญต่อการอยู่รอด

ในฐานะหนึ่งในมูลนิธิที่ดำเนินงานเพื่อการอนุรักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มูลนิธิ Arbor Day Foundation ผ่านสมาชิก พันธมิตร และโครงการต่าง ๆ ได้ให้ความรู้และสนับสนุนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและชุมชนต่าง ๆ ทั่วโลกให้มีส่วนร่วมในภารกิจการปลูก บำรุงเลี้ยง และเฉลิมฉลองต้นไม้ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ arborday.org

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53365297/en

ติดต่อ

Mary Kay Inc.
การสื่อสารองค์กร
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc.





Women’s Entrepreneurship Accelerator ฉลองครบรอบ 3 ปีที่งานเจนีวาด้วยการเปิดตัว Digital Innovation Challenge สำหรับสตาร์ทอัพสตรีในความร่วมมือกับสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ

Logo

นิวยอร์กและเจนีวา–(BUSINESS WIRE)–18 มีนาคม 2023

การตระหนักถึงความสัมพันธ์ที่ตัดกันระหว่างนวัตกรรม เทคโนโลยี พื้นที่ดิจิทัล และความไม่เท่าเทียมทางเพศ Women's Entrepreneurship Accelerator (WEA) ได้รวบรวมตัวแทนอาวุโสของพันธมิตรผู้ก่อตั้งเพื่อทำเครื่องหมายทั้งสาม ครบรอบปีด้วยการอภิปรายอย่างทันท่วงทีก่อนงาน CSW67 เกี่ยวกับวิธีย้ายเข็มเพื่อสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่รวมเพศมากขึ้น และเพื่อแก้ไขช่องว่างทางเพศดิจิทัล

นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้ง CSW67 ได้ตรวจสอบแนวคิดของนวัตกรรมและเทคโนโลยีแบบองค์รวมจากมุมมองของเพศ โดยนำเสนอโอกาสพิเศษในการสำรวจผลกระทบของนวัตกรรมและเทคโนโลยีตามเพศสภาพ พร้อมคำแนะนำที่จะกำหนดหลักสูตรสำหรับความครอบคลุมมากขึ้นและ เศรษฐกิจดิจิทัลที่เท่าเทียมกัน

ด้วยพันธกิจในการจัดการกับอุปสรรคที่ผู้ประกอบการสตรีต้องเผชิญเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) WEA จึงทำงานเพื่อสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมดิจิทัลที่เอื้อต่อผู้ประกอบการสตรี เพื่อให้แน่ใจว่าประเทศต่างๆ จะได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่กำลังดำเนินอยู่ เพื่อให้โลกมีความครอบคลุมและยั่งยืนมากขึ้น

งานครบรอบ WEA ซึ่งจัดโดยสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ในเจนีวา และการประชุมพันธมิตรสหประชาชาติอีก 5 รายของ WEA เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการลงทุนในผู้ประกอบการสตรีผ่านระบบดิจิทัลเพื่อขยายธุรกิจของพวกเขา เหตุการณ์ดังกล่าวเน้นย้ำว่าการปฏิวัติดิจิทัลเสนอโอกาสมหาศาลในการพัฒนาสถานะทางเศรษฐกิจของผู้หญิงโดยการเปิดการเข้าถึงความรู้และตลาดต่างประเทศ และทำให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมกับเครือข่ายที่กว้างขึ้นได้อย่างไร งานนี้ยังเน้นย้ำถึงความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในการทำให้รูปแบบความไม่เท่าเทียมทางเพศที่มีอยู่คงอยู่ต่อไป ข้อมูลสำคัญจากกิจกรรม ได้แก่

  • นวัตกรรมที่มีอยู่และระบบนิเวศของสตาร์ทอัพ ขาดความหลากหลายทางเพศอย่างมาก และมีลักษณะการกระจายโอกาสและทรัพยากรทางการเงินที่ไม่สม่ำเสมอ
  • ผู้ประกอบการสตรีมักประสบกับการขาดเงินทุนและการลงทุน เพื่อขยายธุรกิจ1 การเข้าถึงการเชื่อมต่อและเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ที่จำกัด ตลอดจนโอกาสในการเรียนรู้ ทักษะที่สำคัญที่จำเป็นต่อการแข่งขัน ในเศรษฐกิจดิจิทัล2
  • เทคโนโลยี แพลตฟอร์ม และเครื่องมือดิจิทัลยังสามารถ เสริมสร้างทัศนคติเหมารวมทางเพศที่เป็นอันตราย และเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิง เว้นแต่จะได้รับการออกแบบมาให้ปลอดภัย ครอบคลุม และเข้าถึงได้ตั้งแต่ต้น ตัวอย่างเช่น อคติทางเพศ พบในชุดข้อมูลและเข้ารหัสใน ผลิตภัณฑ์อัลกอริทึม AI อาจนำไปสู่ระบบและบริการที่เลียนแบบรูปแบบการเลือกปฏิบัติ 
  • ผู้หญิงและเด็กผู้หญิง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเลือกปฏิบัติหลายรูปแบบและตัดกัน ยังเป็น เป้าหมายหลักของความรุนแรงและการล่วงละเมิดทางออนไลน์ ซึ่งทำให้พวกเขาออกจากการมีส่วนร่วม การสนทนา และพื้นที่ดิจิทัลในวงกว้างมากขึ้น นี่เป็นเพียงบางส่วนของความท้าทายเร่งด่วนที่เรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาที่คำนึงถึงเพศภาวะในยุคดิจิทัล

คุณรู้หรือไม่ว่า:

  • ผู้หญิง 37% ในโลกไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต3
  • ภายในปี 2050 75% ของงานจะเกี่ยวข้องกับสาขา STEM4
  • ปัจจุบัน ผู้หญิงดำรงตำแหน่งเพียง 22% ที่ทำงานด้านปัญญาประดิษฐ์ และนักวิจัยทั่วโลกเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่เป็นผู้หญิง5
  • บัณฑิตวิศวกรรมศาสตร์เพียง 28% และวิทยาการคอมพิวเตอร์ 40% เท่านั้นที่เป็นผู้หญิง6
  • การกีดกันผู้หญิงจากโลกดิจิทัลได้ตัดรายได้จากผลิตภัณฑ์มวลรวมถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ ในประเทศของประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลางในทศวรรษที่ผ่านมา7

เปิดตัว WEA Digital Innovation Challenge

งานเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ WEA  Digital Innovation Challenge โดย ITU โดยได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay Inc เพื่อเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาวาระนี้ ความท้าทายระดับโลกเลือกแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านดิจิทัล 10 ข้อและโซลูชันด้านดิจิทัลที่มีศักยภาพในการสร้างระบบนิเวศที่คำนึงถึงเพศภาวะมากขึ้นสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพและธุรกิจขนาดใหญ่ ผู้ชนะเหล่านี้จะเข้าถึงโปรแกรม  Digital Innovation Eco-System ซึ่งพวกเขาจะได้รับการฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างศักยภาพเพื่อช่วยปรับแต่งแผนธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน การให้คำปรึกษาและการเข้าถึงเครือข่ายผู้สร้างการเปลี่ยนแปลง

ข้อความที่ตัดตอนมาจากงานครบรอบ WEA:

  • Doreen Bogdan-Martin ผู้อำนวยการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ กล่าวถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่พิสูจน์แล้วในการเชื่อมช่องว่างระหว่างเพศทางดิจิทัล โดยสังเกตว่าในปี 2020 เพียงปีเดียว รายได้ที่อาจสูญเสียไปเนื่องจากการขาดแคลนสตรี การเข้าถึงโอกาสของผู้ประกอบการคำนวณไว้ที่ 126 พันล้านดอลลาร์ Bogdan-Martin เรียกร้องให้มีการดำเนินการมากกว่านี้เพื่อพัฒนาระบบนิเวศทางดิจิทัลที่คำนึงถึงเพศภาวะ ผ่านการร่วมมือกับภาคธุรกิจ องค์กรภาคประชาสังคม ผู้กำหนดนโยบาย หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานน้องสาวของ UN
  • Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay สังเกตว่าในขณะที่การเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัลเป็นหน้าต่างแห่งโอกาสที่ไม่เหมือนใครสำหรับผู้หญิงในการสร้างนวัตกรรมและขยายธุรกิจของตน การเร่งความเร็วทางดิจิทัลยังสามารถทำให้ความไม่เท่าเทียมกันยังคงอยู่ ด้วยเหตุนี้ Gibbins จึงเรียกร้องให้มีการจัดการความไม่เท่าเทียมกันและสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในเศรษฐกิจดิจิทัล

Digital Innovation Challenge เป็นความคิดริเริ่มล่าสุดของ WEA ตลอดทั้งงาน พันธมิตรของ WEA ได้เน้นย้ำถึงประเด็นสำคัญของงานที่พวกเขาได้ดำเนินการขั้นสูงในการสนับสนุนผู้ประกอบการสตรีตั้งแต่เริ่มก่อตั้งความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่ายที่เปลี่ยนแปลงนี้

  • การพัฒนาทักษะการเป็นผู้ประกอบการออนไลน์

 International Trade Center (ITC) เน้นออนไลน์ฟรีเป็นครั้งแรก  โครงการใบรับรองการเป็นผู้ประกอบการ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับ WEA และเปิดตัวในเดือนมกราคม 2022. โมดูล 27หลักสูตรดิจิทัลครอบคลุม 7 ขั้นตอนสำคัญของเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการ และพร้อมให้บริการในภาษาอังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส และเร็วๆ นี้ภาษาอาหรับ รัสเซีย และจีน หลักสูตรนี้เสริมด้วยวิดีโอ 200 รายการและมีเป้าหมายเพื่อสอนทักษะในการออกแบบและจัดตั้งธุรกิจให้กับผู้ประกอบการที่มุ่งมั่นและมั่นคง ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีนำวัฒนธรรมการเป็นผู้ประกอบการมาใช้ พัฒนาแนวคิดทางธุรกิจและเรียนรู้วิธีการเริ่มต้นธุรกิจ เตรียมโมเดลธุรกิจ ออกแบบสำนวนการขาย ระบุแหล่งเงินทุน ค้นหาพันธมิตรและที่ปรึกษาที่เหมาะสม และสร้างทีม

  • การสนับสนุนของภาคเอกชนในการจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองต่อเพศสภาพ

UN Women เรียกคืนการทำงานเพื่อพัฒนาการจัดซื้อจัดจ้างที่ตอบสนองต่อเพศสภาพ โดยเน้นการตีพิมพ์ Advocacy Brief เมื่อปีที่แล้ว โดยได้รับการสนับสนุนจาก UN Global Compact เรื่อง  Procurement's Strategic Value . เหตุใดการจัดซื้อที่ตอบสนองต่อเพศสภาพจึงสมเหตุสมผลทางธุรกิจ บทสรุปนำเสนอหลักฐานที่น่าสนใจเกี่ยวกับประโยชน์ในการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในห่วงโซ่อุปทานของภาคเอกชนในการตระหนักถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมและการพัฒนาที่ยั่งยืน

  • การจัดการกับอุปสรรคที่สตาร์ทอัพที่เป็นเจ้าของและนำโดยสตรีต้องเผชิญ

UN Women ใน ภูมิภาคยุโรปและเอเชียกลาง (ECA) พูดถึงงาน Women's Entrepreneurship EXPO ครั้งแรก ซึ่งเป็นค่ายฝึกปฏิบัติที่จัดขึ้นทั่วภูมิภาคในปี 2021 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิง ผู้ประกอบการเพื่อดึงดูดการลงทุน ซึ่งจบลงด้วย  Investors Pitch Finale ในเดือนเมษายน 2022 ซึ่งผู้ประกอบการสตรี 25 คนจาก 9 ประเทศ (ตุรกี บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา จอร์เจีย คาซัคสถาน โคโซโว คีร์กีซสถาน มาซิโดเนียเหนือ มอลโดวา และเซอร์เบีย) ได้นำเสนอแผนธุรกิจและการเริ่มต้นธุรกิจในระยะเริ่มต้นเพื่อรับมือกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประการหนึ่งที่ผู้ประกอบการสตรีต้องเผชิญในการขยายธุรกิจ ซึ่งก็คือการเข้าถึงเงินทุน หลังจากการเสนอขาย นักลงทุนได้ให้การสนับสนุนทางการเงิน การให้คำปรึกษา และโอกาสในการสร้างเครือข่ายแก่ผู้ประกอบการสตรีเพื่อช่วยขยายธุรกิจของพวกเขา ในเดือนพฤศจิกายน 2022  งานแสดงสดครั้งที่สอง  Women’s Entrepreneurship EXPO โดยร่วมมือกับ PricewaterhouseCoopers,  European Bank for Reconstruction and Development และ Yildiz Holdingนำผู้ประกอบการสตรีและพันธมิตรทางธุรกิจมารวมตัวกันเพื่อระดมและดำเนินการเฉพาะด้านเพื่อพัฒนาภูมิทัศน์สำหรับผู้ประกอบการสตรี การพัฒนาในภูมิภาค ECA

  • นโยบายการประกอบการสตรีและการสนับสนุนในภูมิภาค LATAM

 องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) แนะนำนโยบายและงานสนับสนุนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาผู้ประกอบการสตรีใน LATAM ในช่วงปี 2020-2021 ILO ดำเนินการและเปิดตัวการประเมินการพัฒนาผู้ประกอบการสตรี (WED) เกี่ยวกับเงื่อนไขนโยบายที่ส่งผลกระทบต่อการเป็นผู้ประกอบการสตรีที่เน้นภาคการค้าและอุตสาหกรรมในเม็กซิโกซิตี้เพื่อสนับสนุน WEA การประเมินรวมชุดคำแนะนำที่สามารถดำเนินการได้ 19 รายการเพื่อจัดการกับช่องว่างทางสถาบันที่มีอยู่สำหรับผู้ประกอบการสตรี ในบราซิล ILO ทำงานร่วมกับ Serviçio Nacional de Aprendizagem Industrial (SENAI) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาผู้ประกอบการสตรีผ่านชุดการสื่อสารและการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ ความสามารถ – สร้างเวิร์กช็อปและกิจกรรมต่างๆ

สามารถบันทึกกิจกรรมได้  ที่นี่

เกี่ยวกับ Women’s Entrepreneurship Accelerator

Women’s Entrepreneurship Accelerator (WEA) เป็นความร่วมมือหลายฝ่ายที่มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับการเป็นผู้ประกอบการของผู้หญิงที่จัดตั้งขึ้นใน UNGA 74 การประชุมประกอบด้วยหกหน่วยงานของสหประชาชาติ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (ITC) สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) UN Global Compact (UNGC) UN Women และ Mary Kay Inc . เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการสตรี 5 ล้านคนภายในปี 2573

เป้าหมายสูงสุดของการริเริ่มคือการเพิ่มผลกระทบด้านการพัฒนาของผู้ประกอบการสตรีให้สูงสุดในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยการสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้ประกอบการสตรีทั่วโลก Accelerator เป็นตัวอย่างพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของความร่วมมือแบบหลายฝ่ายที่มีขนาดไม่ซ้ำใครเพื่อควบคุมศักยภาพของผู้ประกอบการสตรี เรียนรู้เพิ่มเติมที่  we accelerate ติดตามเรา: Twitter (We_Accelerator), Instagram (@we_accelerator), Facebook (@womensentrepreneurshipaccelerator), LinkedIn (@womensentrepreneurshipaccelerator)

1 การวิจัยชี้ให้เห็นว่าผู้ประกอบการสตรีเผชิญกับการขาดดุลทางการเงิน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ MSME Finance Gap, International Finance Corporation, 2017 https://www.ifc.org/wps/wcm/connect/03522e90-a13d-4a02-87cd-9ee9a297b311/121264-WP-PUBLIC-M SMEReportFINAL.pdf?MOD=AJPERES&CVID=m5SwAQA

2 จากจำนวนประมาณ 2.9 พันล้านคนที่ยังคงออฟไลน์ ส่วนใหญ่เป็นสตรีและเด็กหญิงที่มีแนวโน้มน้อยที่จะใช้โทรศัพท์ เข้าถึงอินเทอร์เน็ต หรือมีทักษะในการใช้ประโยชน์จากดิจิทัล เทคโนโลยี.   https://www.gsma.com/r/wp-content/uploads/2022/06/The-Mobile-Gender-Gap-Report-2022.pdf?utm_source=website&utm_medium=download-button&utm_campaign=gender-gap-2022

3 ITU (2022) ข้อเท็จจริงและตัวเลขในปี 2022 – การแบ่งเพศทางดิจิทัล (itu.int)

4   การเคลื่อนไหวอย่างชาญฉลาด (pwc.com.au)

5 https://www.unesco.org/reports/science/2021/en/women-digital-revolution

6   เราต้องการเด็กผู้หญิงและผู้หญิงมากขึ้นในสาขาวิทยาศาสตร์เราสนับสนุนพวกเขาได้ 3 วิธีอย่างไรบ้าง(worldbank.org)

7 UN Women ความคืบหน้าของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ภาพรวมเพศปี 2022

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/53363951/en

รายชื่อติดต่อ

ฝ่ายสื่อสารระดับองค์กรของ Mary Kay Inc
marykay.com/newsroom
(+1) 972.687.5332 or media@mkcorp.com





Milliken & Company Garners ได้รับรางวัลบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกประจำปี 2023

Logo

SPARTANBURG, S.C.–(BUSINESS WIRE)–13 มีนาคม 2023

เป็นปีที่สิบเจ็ดติดต่อกัน Milliken & Company ผู้ผลิตระดับโลกที่มีความหลากหลายได้รับการยอมรับจาก Ethisphere ซึ่งเป็นผู้นำในการกำหนดและยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม เป็นหนึ่งใน บริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกประจำปี 2023 Milliken เป็นหนึ่งในผู้ได้รับรางวัล 135 รายจาก 19 ประเทศและ 46 อุตสาหกรรม และเป็นหนึ่งในผู้ได้รับรางวัลเพียง 6 รายที่ปรากฏในรายชื่อบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกทุกปี นับตั้งแต่ก่อตั้งรางวัลในปี 2007

Milliken is a 17-time World's Most Ethical Companies honor, one of only six companies included on the list each year since it was first published. (Graphic: Business Wire)

Milliken ได้รับรางวัลบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกถึง 17 ครั้ง โดยเป็นหนึ่งในหกบริษัทเท่านั้นที่รวมอยู่ในรายชื่อในแต่ละปีตั้งแต่เผยแพร่ครั้งแรก (ภาพ: Business Wire)

Halsey Cook ประธานและซีอีโอของ Milliken & Company กล่าวว่า "ที่ Milliken เราได้รับการชี้นำจากความมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง" "เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการยอมรับอีกครั้ง และเราภูมิใจในความซื่อตรงที่แข็งแกร่งที่ขับเคลื่อนทีมระดับโลกของเรา"

การทำสิ่งที่ถูกต้องเป็นการกระตุ้นให้ Milliken กล้าที่จะก้าวต่อไปในพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลาย ตามแนวทางของค่านิยมหลัก 5 ประการ ได้แก่ ความซื่อสัตย์ ความเป็นเลิศ นวัตกรรม ความยั่งยืน และบุคลากร Milliken ทำงานเพื่อเป็นผู้นำในการผลิตที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืน เป้าหมายความยั่งยืนปี 2025 กำหนดการทำงานของบริษัทกับผลิตภัณฑ์ พนักงาน และโลก นอกจากนี้ Milliken เพิ่งประกาศเส้นทางสู่อนาคตสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ด้วย โครงการริเริ่ม Science Based Targets (SBTi) อนุมัติเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์ในระยะสั้นและระยะยาว

"Milliken เป็นส่วนหนึ่งของผู้ได้รับรางวัลบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกในช่วง 17 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุตสาหกรรมรายเดียวที่ได้รับรางวัล 17 ครั้ง" Erica Salmon Byrne ซีอีโอของ Ethisphere กล่าว "เราขอชมเชยทีมงานทั้งหมดในความทุ่มเทของพวกเขาในการสร้างผลกระทบที่แท้จริงให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของพวกเขา และความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำที่ยึดตามค่านิยมที่เป็นแบบอย่าง"

ดัชนีจริยธรรมประจำปี 2023 ของ Ethisphere ซึ่งเป็นการรวบรวมบริษัทที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้รับรางวัลบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกประจำปีนี้ มีผลประกอบการดีกว่าดัชนีของบริษัทขนาดใหญ่ที่เทียบเคียงได้ 13.6 จุดเปอร์เซ็นต์ในช่วงระยะเวลาห้าปี

วิธีการและการให้คะแนน

บนพื้นฐานของความฉลาดทางจริยธรรมที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Ethics Quotient® กระบวนการประเมินบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลกประกอบด้วยคำถามมากกว่า 200 ข้อเกี่ยวกับวัฒนธรรม แนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม กิจกรรมด้านจริยธรรมและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ การกำกับดูแล ความหลากหลาย และความคิดริเริ่มที่สนับสนุนห่วงโซ่คุณค่าที่แข็งแกร่ง กระบวนการนี้ทำหน้าที่เป็นกรอบการดำเนินงานเพื่อรวบรวมและจัดทำแนวทางปฏิบัติชั้นนำขององค์กรในอุตสาหกรรมต่างๆ และทั่วโลก

ผู้ได้รับเกียรติ

หากต้องการดูรายชื่อผู้ได้รับรางวัลในปีนี้ทั้งหมด โปรดไปที่เว็บไซต์บริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลก  https://worldsmostethicalcompanies.com/honorees/

 เกี่ยวกับ Milliken

Milliken & Company เป็นผู้นำด้านการผลิตระดับโลกที่มุ่งเน้นด้านวัสดุศาสตร์เพื่อมอบความก้าวหน้าแห่งอนาคตในวันนี้ จากโมเลกุลระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมไปจนถึงนวัตกรรมที่ยั่งยืน Milliken สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยกระดับชีวิตของผู้คนและนำเสนอโซลูชั่นสำหรับลูกค้าและชุมชน จากสิทธิบัตรหลายพันรายการและพอร์ตโฟลิโอที่มีการนำไปใช้ในธุรกิจสิ่งทอ เคมีพิเศษ พื้น และการดูแลสุขภาพ บริษัทใช้ความรู้สึกร่วมกันในความซื่อสัตย์และความเป็นเลิศเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกสำหรับรุ่นต่อรุ่น ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับความคิดที่อยากรู้อยากเห็นของ Milliken และวิธีแก้ปัญหาที่ได้รับแรงบันดาลใจได้ที่ milliken.com และบน FacebookInstagramและ LinkedIn

เกี่ยวกับ Ethisphere

Ethisphere เป็นผู้นำระดับโลกในการกำหนดและยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมซึ่งช่วยส่งเสริมลักษณะเฉพาะขององค์กร ความไว้วางใจในตลาด และความสำเร็จทางธุรกิจ Ethisphere มีความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งในการวัดและกำหนดมาตรฐานจริยธรรมหลักโดยใช้ข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ซึ่งช่วยให้บริษัทต่างๆ ปรับปรุงคุณลักษณะขององค์กร Ethisphere ยกย่องความสำเร็จที่เหนือกว่าผ่านโปรแกรมการยกย่อง World's Most Ethical Companies® จัดชุมชนผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมด้วย Business Ethics Leadership Alliance (BELA) และแสดงแนวโน้มและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในด้านจริยธรรมด้วย นิตยสาร Ethisphere Ethisphere ยังช่วยพัฒนาประสิทธิภาพทางธุรกิจผ่านการประเมิน คำแนะนำ และเกณฑ์มาตรฐานเทียบกับข้อมูลที่ไม่มีใครเทียบได้: ชุดข้อมูลความฉลาดทางวัฒนธรรมที่มุ่งเน้นไปที่วัฒนธรรมด้านจริยธรรมและแสดงการตอบสนองของพนักงาน 2+ ล้านคนทั่วโลก และชุดข้อมูลความฉลาดทางจริยธรรม ซึ่งมีจุดข้อมูลมากกว่า 200 จุดที่เน้นหลักปฏิบัติด้านจริยธรรม การปฏิบัติตามกฎระเบียบ สังคม และธรรมาภิบาลของบริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ https://ethisphere.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53359967/en

ติดต่อ

Betsy Sikma
betsy.sikma@milliken.com
864.909.7908

ที่มา: Milliken & Company

 

สำหรับ Mary Kay ภารกิจสำคัญคือ: เราได้เร่งความพยายามด้านนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อปลดปล่อยศักยภาพของผู้ประกอบการสตรีอย่างเต็มที่

Logo

ถ้อยแถลงโดย Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay เนื่องในวันสตรีสากลปี 2023

ดัลลัส—(BUSINESS WIRE)–9 มีนาคม 2023

ด้านล่างนี้คือถ้อยแถลงของ Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. ในการเฉลิมฉลองวันสตรีสากลปี 2023

Deborah Gibbins, Mary Kay’s Chief Operating Officer (Photo courtesy: Mary Kay Inc.)

Deborah Gibbins, Mary Kay’s Chief Operating Officer (Photo courtesy: Mary Kay Inc.)

37% ของผู้หญิงทั่วโลกไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ฉันรู้ และต้องอ่านสองครั้งเช่นกัน.1

37%! จำนวนนี้ช่างน่าประหลดใจ รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ในโลกที่เชื่อมต่อตลอดเวลาของเรา ผู้หญิงมากกว่าหนึ่งในสามของโลกยังคง “ขาดการเชื่อมต่อ” ได้อย่างไร ความจริงอันน่าตกใจนี้ และความหมายของมัน ขับเคลื่อนธีมวันสตรีสากลในปีนี้: "DigitALL: นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อความเท่าเทียมทางเพศ"

ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay ฉันรู้ว่าเทคโนโลยีมีบทบาทอย่างไรในทุกด้านของธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจของผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มโอกาสที่ได้รับจากเทคโนโลยี ทักษะความรู้ด้านดิจิทัลเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการสตรีในการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในเศรษฐกิจโลกของเรา นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการมีส่วนร่วมของพลเมืองและสังคม

รากฐานของการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่คือดิจิทัลและกำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ สำหรับพวกเราทุกคน การปฏิวัติครั้งนี้ถือโอกาสอันยิ่งใหญ่ในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการสตรีและความเท่าเทียม ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำให้แน่ใจว่าผู้หญิงจะได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลนี้

เศรษฐกิจดิจิทัลไม่รอให้ใครตามทัน การกีดกันผู้หญิงออกจากโลกดิจิทัลได้โกยรายได้ 1 ล้านล้านดอลลาร์จากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของประเทศที่มีรายได้น้อยและปานกลางในทศวรรษที่ผ่านมา2 เป็นอีกครั้งที่การเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดขึ้นเร็วพอสำหรับผู้หญิง

เราสามารถแก้ไขได้ และเราต้องแก้ไขสิ่งนี้

เพื่อให้บรรลุศักยภาพสูงสุด เจ้าของธุรกิจสตรีทั่วโลกไม่เพียงต้องเข้าถึงเครื่องมือดิจิทัลที่เราได้รับอนุญาตเท่านั้น แต่ยังต้องมีทักษะและการฝึกอบรมที่เหมาะสมเพื่อใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ

นั่นเป็นเหตุผลที่การเชื่อมช่องว่างระหว่างเพศในด้านดิจิทัลเป็นเรื่องส่วนตัวสำหรับเราที่ Mary Kay ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดยผู้หญิงเพื่อผู้หญิง

Mary Kay Ash ผู้ก่อตั้งของเรามีวิสัยทัศน์ที่จะเสนอโอกาสในการเป็นผู้ประกอบการที่ไม่มีใครเทียบได้สำหรับสตรีเพื่อความก้าวหน้าและความสำเร็จส่วนบุคคล นั่นหมายถึงบางสิ่งที่แตกต่างจากในยุค 60 ในปัจจุบัน แต่จิตวิญญาณเดียวกันนั้นยังคงอยู่ ในฐานะบริษัทพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการ สิ่งที่เราโฟกัสคือการยกระดับผู้ประกอบการสตรีและจัดการกับอุปสรรคที่พวกเธอเผชิญในการจัดตั้งหรือขยายธุรกิจ การแปลงเป็นดิจิทัลเป็นหนึ่งในนั้น

ที่ Mary Kay เรามุ่งมั่นที่จะให้ผู้ประกอบการสตรีเป็นศูนย์กลางของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล

เราได้เร่งความพยายามในการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลของเรา ซึ่งรวมถึงการปฏิวัติความสามารถของที่ปรึกษาด้านความงามอิสระ (IBCs) ของ Mary Kay เพื่อปลดปล่อยศักยภาพอย่างเต็มที่ผ่านการยกระดับทักษะทางดิจิทัล การพัฒนาและการเปิดตัวเครื่องมือดิจิทัลที่เป็นนวัตกรรม จากแอปที่ได้รับรางวัลซึ่งมีความเป็นจริงเสริม (AR) เพื่อเชื่อมต่อ IBC กับลูกค้าด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพและราบรื่นยิ่งขึ้น เรากำลังปรับปรุงไม่เพียงแต่ประสบการณ์สำหรับพนักงานขายอิสระเท่านั้น แต่ยังรวมถึงลูกค้าของพวกเขาทั่วโลกด้วย

ต่อไปนี้คือตัวอย่างล่าสุดของความมุ่งมั่นของเราในการส่งเสริมพนักงานขายอิสระของ Mary Kay เพื่อควบคุมพลังของดิจิทัล:

  • ในยุโรป "Link & Learn" ที่ได้รับรางวัลของเราเป็นแพลตฟอร์มการศึกษาแบบบูรณาการที่ประกอบด้วยหลักสูตรการเรียนรู้ IBCs ที่มีประสิทธิภาพซึ่งสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา ระบบการเรียนรู้แบบโต้ตอบที่เรียนรู้ด้วยตนเองนี้ช่วยให้ที่ปรึกษานำความฝันของพวกเขาไปสู่การปฏิบัติโดยจัดทำหลักสูตรตามความสามารถที่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องและขับเคลื่อนโดยผู้เชี่ยวชาญ ในขณะที่เชื่อมโยงพวกเขากับชุมชนของที่ปรึกษาที่มีแนวคิดเดียวกัน ประกอบด้วยเนื้อหาที่มุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญของความสามารถที่จำเป็นต่อความสำเร็จในแต่ละขั้นตอนของเส้นทางอาชีพ ด้วยเนื้อหานี้ ที่ปรึกษาจะมุ่งเน้นไปที่หัวข้อสำคัญอย่างมีกลยุทธ์และได้รับทักษะต่างๆ เช่น ทักษะการขาย ทักษะทางธุรกิจ ความรู้ด้านผลิตภัณฑ์ และการทำความเข้าใจแนวทางของ Mary Kay ซึ่งได้รับรางวัลมากมายสำหรับแพลตฟอร์มการศึกษานี้ รวมถึงการจัดอันดับเหรียญทองในหมวดการศึกษาใน “2019 Spring Omni Awards” ในปี 2021 Mary Kay Poland ได้รับรางวัล “Innovative Company” สำหรับโปรแกรมจากนิตยสาร Home & Market และในปี 2018 ได้รับรางวัล “Technology Excellence Award” จาก Brandon Hall Group
  • แพลตฟอร์ม InTouch® เป็นแพลตฟอร์มมือถือแบบครบวงจรซึ่งให้ IBC หลายล้านแห่งทั่วโลกเข้าถึงข้อมูลและบริการตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อจัดการธุรกิจ Mary Kay อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วยคุณสมบัติมากมายเพื่อเพิ่มพูนความรู้ด้านอุตสาหกรรมความงามผ่านการศึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ทักษะพื้นฐานทางธุรกิจผ่านเครื่องมือทางการตลาดและการขาย และเครือข่ายมืออาชีพ ด้วยแอพนี้ IBCs สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนผสมของผลิตภัณฑ์และเนื้อหาเพื่อแบ่งปันกับลูกค้าหรือเป็นข้อมูลอ้างอิงอย่างรวดเร็ว
  • เมื่อเร็ว ๆ นี้แพลตฟอร์ม Salesforce.com ได้เปิดตัวสู่ตลาด Mary Kay ของเราผ่านทางไซต์ Mary Kay InTouch ทำให้สามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้นในการดำเนินงานประจำวัน รวมถึงการสั่งซื้อ IBCs ได้รับการสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันจากทีม Mary Kay ในท้องถิ่น และประหยัดเวลาเพื่อมุ่งเน้นไปที่งานที่เพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจของพวกเขา
  • Mary Kay Mirror Me™ เป็นแอพแปลงโฉมตามเวลาจริงของเราโดยใช้ความเป็นจริงเสริมเพื่อใช้เทรนด์การแต่งหน้าและผลิตภัณฑ์สีสำหรับการใช้งานในชีวิตจริง หลังจากพบรูปลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบแล้ว ลูกค้าสามารถเพิ่มสินค้าลงในถุงช้อปปิ้งและเชื่อมต่อกับ IBC Mirror Me™ มีให้บริการในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ยุโรป และละตินอเมริกา
  • Mary Kay® Skin Analyzer เป็นเครื่องมือที่รวบรวมการดูแลผิวและเทคโนโลยีเข้าด้วยกันเพียงปลายนิ้วสัมผัส ช่วยให้ลูกค้าเข้าใจลักษณะเฉพาะของผิวและสร้างกิจวัตรการดูแลผิวที่กำหนดเองได้ และมีจำหน่ายในภูมิภาคอเมริกาเหนือ เอเชียแปซิฟิก และละตินอเมริกา
  • และสุดท้าย Mary Kay Interactive Catalog ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ทำให้แคตตาล็อกของ Mary Kay มีชีวิตชีวาด้วยการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ที่ง่ายดาย, GIF, วิดีโอ, รายการสินค้าที่ต้องการแชร์ได้, การแปลงโฉมด้วยความเป็นจริงเสริมแบบทันที และอื่นๆ อีกมากมาย แคตตาล็อกมีให้บริการในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ยุโรป และละตินอเมริกา

นอกจากนี้ เรายังเชื่อในความร่วมมือทางดิจิทัลเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสตรีควบคุมพลังแห่งดิจิทัลทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ เราได้ร่วมมือกับ:

และเราเพิ่งเริ่มต้น การปฏิวัติทางดิจิทัลกำลังดำเนินอยู่ อย่าพลาดโอกาสทองนี้ในการช่วยให้ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงสามารถเป็นผู้ประกอบการในยุคดิจิทัล!

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 1963 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันนั้นได้เบ่งบานกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

1 ITU (2022). Facts and Figures 2022 – The gender digital divide (itu.int)

2 UN Women. Progress on the Sustainable Development Goals. The Gender Snapshot 2022.

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/20230308005697/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Mary Kay Inc. 
media@mkcorp.com 
+1-972-687-5332

ที่มา: Mary Kay Inc.

Mary Kay Inc. แต่งตั้ง James Whatley เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูล

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–3 มีนาคม 2023

Mary Kay Inc. บริษัทด้านความงามและผู้ประกอบการชื่อดังได้ประกาศแต่งตั้งให้ James Whatley เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูล ในบทบาทใหม่ของเขา Whatley จะมุ่งมุ่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมระบบดิจิทัลของ Mary Kay รวมถึงการปฏิวัติความสามารถของที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของ Mary Kay ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น และสามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่โดยใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่มีพร้อม

“I’m motivated first and foremost by finding solutions for the sales force,” said Whatley. “At the same time, I want to create environments that foster teamwork, trust, and strong partnerships amongst the company’s global partners,” said Whatley (Credit: Mary Kay Inc.)

“ฉันได้รับแรงบันดาลใจอย่างแรกและสำคัญที่สุดด้วยการหาทางออกสำหรับพนักงานขาย” Whatley กล่าว “ในขณะเดียวกัน ฉันต้องการสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม ความไว้วางใจ และความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างพันธมิตรระดับโลกของบริษัท” Whatley กล่าว (เครดิต: Mary Kay Inc.)

“ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีระบบดิจิทัล เครื่องมือ และแอปพลิเคชัน เราไม่ได้ปรับปรุงเพียงประสบการณ์เฉพาะสำหรับพนักงานขายอิสระเท่านั้น แต่ยังรวมถึงลูกค้าของเราทั่วโลกด้วย” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “James เป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง เขามีความเข้าใจในวิธิการช่วยเหลือพนักงานขายอิสระเพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่ง และนำเสนอบริการที่ยอดเยี่ยมในโลกที่มีการเชื่อมต่อตลอดเวลาได้ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นว่าความหลงใหลในนวัตกรรมของเขาจะทำให้กลยุทธ์ดิจิทัลของเราก้าวไปข้างหน้าได้อย่างไร”

Whatley ร่วมงานกับ Mary Kay มาแล้วเป็นเวลา 25 ปี มีบทบาทสำคัญในการออกแบบระบบเพื่อให้แน่ใจว่า ที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของเราสามารถดำเนินธุรกิจได้ในทุกที่และทุกเวลา ซึ่งรวมถึงการพัฒนาทรัพย์สินทางดิจิทัลที่เป็นสัญลักษณ์ของ Mary Kay เช่น MaryKay.com, Mary Kay InTouch (พอร์ทัลระบบดิจิทัลสำหรับพนักงานฝ่ายขายอิสระ) ระบบการสั่งซื้อออนไลน์ และเว็บไซต์ธุรกิจส่วนตัวของพนักงานฝ่ายขายอิสระ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ขายตรงที่ใหญ่ที่สุดในโลก Mary Kay มีการประมวลผลคำสั่งซื้อถึงกว่าหลายล้านรายการผ่านเว็บไซต์การค้าของบริษัท

“ผมได้รับแรงบันดาลใจอย่างแรกและสำคัญที่สุดด้วยการหาทางออกให้กับพนักงานขาย” Whatley กล่าว “ในขณะเดียวกัน ผมต้องการสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม ความไว้วางใจ และความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างพันธมิตรระดับโลกของบริษัท Mary Kay Ash ผู้ก่อตั้งของเราเคยกล่าวไว้ว่า ‘การหยุดนิ่งอยู่กับที่นั่นก็เท่ากับการเดินถอยหลัง’ ผมเห็นด้วยกับเธอ และนี่คือปรัชญาที่ผมใช้ในการทำงานในทุกวัน”

Whatley สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวออร์ลีนส์ ก่อนร่วมงานกับ Mary Kay เขาทำงานที่ Software Spectrum and Electronic Data Systems (EDS) ในแผนกการพัฒนาซอฟต์แวร์และการให้คำปรึกษา

เกี่ยวกับ Mary Kay

หนึ่งในผู้ตามล่าหาฝันของตัวเอง Mary Kay Ash ก่อตั้งบริษัทเสริมความงามตามความฝันของเธอในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียว นั่นคือ การทำให้ชีวิตผู้หญิงดีขึ้น และความฝันนั้นได้เบ่งบานกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านพร้อมพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมผู้หญิงผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยมีการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ยกระดับความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการทารุณกรรมในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และผลักดันให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราได้ใน FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/53355454/en

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งข้อมูล: Mary Kay


Athena Cosmetics, Inc. บริษัทแม่ของ RevitaLash® Cosmetics ได้รับชัยชนะในการต่อต้านผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบอีกครั้ง

Logo

ผู้ค้าปลีกผลิตภัณฑ์เสริมความงามและน้ำหอมทางออนไลน์ยุติการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ RevitaLash® Cosmetics ทั่วโลก

VENTURA, Calif.–(BUSINESS WIRE)–1 มีนาคม 2023

Athena Cosmetics, Inc. บริษัทแม่ของ RevitaLash® Cosmetics มีความภูมิใจที่จะประกาศชัยชนะอีกครั้งในการกำจัดผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบ หลังจากมีการตรวจพบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบสินค้าระดับพรีเมียมของ RevitaLash Cosmetics อย่างผิดกฎหมายในร้านค้าปลีกออนไลน์ Perfume’s Club (perfumesclub.com) โดย Athena Cosmetics ได้ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ค้าปลีกอย่างรวดเร็ว และระบุแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบได้สำเร็จ

หลังการต่อสู้อย่างยาวนานเกือบหนึ่งปี Perfume’s Club ตกลงที่จะหยุดและยุติการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ RevitaLash® Cosmetics ทั่วโลกในทันที พร้อมทั้งจะมีการลบเนื้อหาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ RevitaLash® Cosmetics โดย Perfume’s Club มีการระบุแหล่งที่มาของสินค้าลอกเลียนแบบว่ามาจากบริษัทขายส่งออนไลน์ Alito S.R.O. สาธารณรัฐเช็ก

“นี่ไม่ได้เป็นเพียงชัยชนะสำหรับบริษัทของเราเท่านั้น แต่เป็นชัยชนะสำหรับทุกแบรนด์ที่ถูกละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทางออนไลน์ และเป็นการประกาศอย่างชัดเจนว่า ผู้ค้าปลีกจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของผู้ค้าที่เป็นบุคคลที่สาม และจะต้องมีการดำเนินการเพิ่มเติมในการป้องกันการปลอมแปลงบนเว็บไซต์ของพวกเขา” Lori Jacobus ประธาน Athena Cosmetics กล่าว “เรามีความภูมิใจในทีมของเราที่ร่วมต่อสู้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อปกป้องแบรนด์ของเรา”

ชัยชนะเหนือหนึ่งในผู้ค้าปลีกน้ำหอมทางออนไลน์รายใหญ่ที่สุดในยุโรปตอกย้ำพันธสัญญาของ RevitaLash Cosmetics ในการปกป้องแบรนด์ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะสั่นคลอนเมื่อผู้ค้าปลีกทางออนไลน์ที่มีชื่อเสียงมากแต่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบที่ไม่มีการควบคุมและอาจไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค

“สำหรับ Athena Cosmetics ความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง” Michael Brinkenhoff M.D. ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Athena Cosmetics กล่าว “นี่เป็นเหตุผลที่เรามุ่งมั่นที่จะต้องหยุดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบ และ 'ตลาดมืด' ของ RevitaLash® Cosmetics เพื่อสร้างความมั่นใจในสวัสดิภาพของลูกค้า โดยสามารถตรวจสอบได้ว่า ผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่ซื้อไปจะได้รับการทดสอบด้านความปลอดภัย และเป็นไปตามกฏระเบียบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด”

ขอแนะนำให้ลูกค้าสั่งซื้อโดยตรงจาก revitalash.com หรือตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต เพื่อป้องกันสินค้าลอกเลียนแบบหรือผลิตภัณฑ์ปลอมแปลงที่อาจเป็นอันตราย คุณจะมั่นใจได้ว่า เมื่อคุณซื้อจาก Athena Cosmetics คุณจะได้รับผลิตภัณฑ์คุณภาพยอดเยี่ยมที่เป็นของแท้เท่านั้น สามารถเข้าดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการระบุผลิตภัณฑ์และเว็บไซต์ที่ลอกเลียนแบบได้ที่ https://www.revitalash.com/pages/counterfeit-product และสามารถดูรายชื่อร้านค้าปลีกที่ได้รับอนุญาตจากบริษัทได้ที่ https://www.revitalash.com/pages/authorized-dealers

เกี่ยวกับ RevitaLash® Cosmetics

RevitaLash® Cosmetics เป็นผู้นำระดับโลกในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตกแต่งขนตา คิ้ว และเส้นผมขั้นสูง บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2006 โดยคอลเลคชันประกอบด้วย RevitaLash® Advanced Eyelash Conditioner และ RevitaBrow® Advanced Eyebrow Conditioner ที่ได้รับรางวัล และมีวางจำหน่ายในคลินิก สปา ร้านเสริมสวย ทางออนไลน์ และร้านค้าปลีกเฉพาะทางในกว่า 70 ประเทศ ด้วยพันธกิจ Eternally Pink® ของพวกเขา RevitaLash® Cosmetics จึงเป็นผู้สนับสนุนโครงการริเริ่มเกี่ยวกับมะเร็งเต้านมที่ไม่แสวงหาผลกำไร โดยบริจาครายได้ส่วนหนึ่งให้กับโครงการริเริ่มด้านการวิจัยและการศึกษา ตอบแทนกลุ่มทำงานด้านมะเร็งเต้านมตลอดทั้งปี ไม่เพียงเฉพาะในเดือนตุลาคมเท่านั้น สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.revitalash.com [RevitaLash® Advanced และ RevitaLash® Advanced Sensitive ไม่มีวางจำหน่ายในแคลิฟอร์เนีย]

ดูข้อมูลต้นฉบับได้จาก businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20230301005080/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

อีเมลติดต่อ

revitalash@behrmanpr.com

แหล่งข้อมูล: RevitaLash Cosmetics

SYNTAGMA CAPITAL เข้าร่วมการเจรจาพิเศษเพื่อซื้อ Erasteel ซึ่งเป็นแผนกเหล็กกล้าความเร็วสูงและการรีไซเคิลของ Eramet S.A. (Euronext Paris: ERA)

Logo

บรัสเซลส์–(BUSINESS WIRE)–23 กุมภาพันธ์ 2023

Syntagma Capital ประกาศในวันนี้ว่าได้เข้าร่วมการเจรจาพิเศษกับ Eramet เพื่อซื้อ Erasteel (https://www.erasteel.com) บริษัทนี้เป็นผู้นำระดับโลกในด้านโลหะวิทยาทั่วไปและโลหะผงของเหล็กกล้าความเร็วสูงที่ใช้สำหรับการตัดเฉือน การเจาะ และเครื่องมือตัดประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ Erasteel ยังมีความสามารถในการรีไซเคิลโลหะที่ไม่เหมือนใครในยุโรป โดยนำเสนอโซลูชันที่ยั่งยืนสำหรับการกู้คืนแบตเตอรี่ ตัวเร่งปฏิกิริยา และโลหะ บริษัทนี้มีพนักงานประมาณ 850 คน ทั่วทั้งหกแห่งในฝรั่งเศส สวีเดน และจีน ในปี 2022 Erasteel สร้างรายได้ 275 ล้านยูโร โดยการให้บริการในภาคการบินและอวกาศ ยานยนต์ และอุตสาหกรรมเป็นหลัก

การซื้อขายตามที่เสนอ ซึ่งจะถูกส่งไปยังข้อมูลที่จำเป็นและการปรึกษาหารือของสภาแรงงานนั้นจะอยู่ภายใต้ข้อตกลงขั้นสุดท้าย ซึ่งจะรวมถึงการปฏิบัติตามเงื่อนไขการปิดตามธรรมเนียม ที่มีการอนุมัติตามกฎระเบียบ และคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในครึ่งแรกของปี 2023

Sebastien Kiekert Le Moult หุ้นส่วนผู้จัดการของ Syntagma กล่าวว่า “แม้จะมีตลาดควบรวมกิจการ (M&A) ที่ท้าทายมาก แต่ Erasteel ก็เป็นตัวแทนของข้อตกลงที่สองของเราในปี 2023 และข้อตกลงที่สามของเราในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถของเราในการจัดหาผู้ขายด้วยความรวดเร็วและแน่นอน เรารู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสที่จะพัฒนา Erasteel ต่อไปในระดับโลก นอกจากนี้ Erasteel ยังเป็นผู้ที่ถือหุ้นรายที่สามของเราและเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งของเราในฐานะพันธมิตรที่ได้รับการแต่งตั้งในยุโรปสำหรับส่วนแบ่งตลาดที่ซับซ้อน”

Frank Coenen หุ้นส่วนของ Syntagma กล่าวว่า “เราตั้งใจที่จะใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ทั่วโลกของเราในด้านโลหะและการวิจัยและพัฒนา (R&D) ที่กว้างขวางของ Erasteel และความรู้ทางเทคนิค การมีตัวตนอยู่ทั่วโลก และความสัมพันธ์กับลูกค้าที่แข็งแกร่ง เพื่อยกระดับการเติบโตทั้งในเชิงธุรกิจและผ่านการควบรวมกิจการ (M&A) ที่กำหนดเป้าหมาย รวมถึงเรายังตั้งใจที่จะเร่งการพัฒนาแผนกรีไซเคิลของ Erasteel ในฝรั่งเศส”

ทีมของ Syntagma ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายนี้ ได้แก่ Sebastien Kiekert Le Moult (หุ้นส่วนผู้จัดการ), Frank Coenen (หุ้นส่วน), Benjamin Dahan (หุ้นส่วน), Fabio Yamasaki (ประธาน), Gabriele Lo Monaco (ผู้ช่วยอาวุโส)

Syntagma ได้รับคำแนะนำจาก Willkie Farr Gallagher (ที่ปรึกษากฎหมาย), Lincoln International (ที่ปรึกษา M&A), PwC (ที่ปรึกษาทางการเงิน) และ Advention Business Partners (ที่ปรึกษาด้านการค้าและกลยุทธ์)

เกี่ยวกับ Syntagma Capital

Syntagma ลงทุนในบริษัทต่าง ๆ ที่สามารถได้รับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติงานจริง เพื่อเร่งการเติบโตและปรับปรุงประสิทธิภาพให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด เราเป็นผู้ปฏิบัติงานจริงที่มีประสบการณ์ในการทำงานและจัดการบริษัทต่าง ๆ ในระดับโลก โดยใช้ประโยชน์จากทรัพยากรภายในองค์กรของเราเพื่อพัฒนากลยุทธ์ให้ประสบความสำเร็จ ดำเนินการเพื่อให้บรรลุศักยภาพสูงสุดและสร้างมูลค่าระยะยาวที่ยั่งยืน Syntagma ลงทุนและดำเนินการบริษัทต่าง ๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยมุ่งเน้นที่ตลาดวัสดุ เคมี อุตสาหกรรม และธุรกิจบริการ รวมถึงการผลิต การกระจายสินค้า การขนส่งและโลจิสติกส์ การเช่าอุปกรณ์ บริการโลหะ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ Syntagma ในฐานะผู้ลงนามใน UN PRI มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามมาตรฐาน ESG ระดับสูงในการลงทุนทั้งหมดของบริษัท และตั้งอยู่ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม: https://syntagmacapital.com

ติดต่อ

Marie Ciparisse 
โทร: +32 (0)2 315 70 12 
อีเมล mciparisse@syntagmacapital.com

แหล่งที่มา: Syntagma Capital

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Education New Zealand เปิดทุนการศึกษา Manaaki New Zealand ประจำปี 2023 สำหรับการศึกษาระดับสูงกว่าปริญญาตรี

Logo

นักเรียนจากประเทศที่มีสิทธิ์ในแปซิฟิก เอเชีย ลาตินอเมริกา แอฟริกา และแคริบเบียนสามารถสมัครได้

เวลลิงตัน นิวซีแลนด์–(BUSINESS WIRE)–21 กุมภาพันธ์ 2023

Education New Zealand มีความยินดีที่จะประกาศว่าทุน Manaaki New Zealand เปิดรับสมัครแล้ว รอบคัดเลือกปี 2023 เป็นรอบแรกของทุนการศึกษานับตั้งแต่เกิดโรคระบาด

ภายใต้การดูแลของกระทรวงการต่างประเทศและการค้าของนิวซีแลนด์ ทุนการศึกษานี้เป็นเสาหลักของความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของนิวซีแลนด์ โดยมอบทุนการศึกษามากกว่า 1,100 ทุนต่อปีให้กับนักเรียนจาก 112 ประเทศที่มีสิทธิ์เข้าศึกษาในนิวซีแลนด์และแปซิฟิก

ในรอบปี 2023 นิวซีแลนด์เสนอทุนการศึกษาระดับอนุปริญญาโท ปริญญาโท และปริญญาเอก สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในสาขาที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศของตน

ทุนการศึกษานี้เปิดให้สำหรับนักเรียนที่สนใจการศึกษาระดับอุดมศึกษาในนิวซีแลนด์ในปี 2024 นักเรียนจากประเทศที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในแปซิฟิก เอเชีย ละตินอเมริกา แอฟริกา และแคริบเบียนสามารถสมัครเพื่อขอรับทุนการศึกษาได้ในหลากหลายโปรแกรม

ประเด็นสำคัญสำหรับรอบคัดเลือกปี 2023 ได้แก่ โปรแกรมการศึกษาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม การจัดการภัยพิบัติ ความมั่นคงด้านอาหารและการเกษตร พลังงานทดแทน ธรรมาภิบาล และการสอนภาษาอังกฤษ (TESOL) ผู้สมัครที่เลือกหนึ่งในวิชาที่ได้รับอนุมัติสำหรับการศึกษาจะได้รับสิทธิพิเศษก่อน

Julia Moore ผู้จัดการทุนการศึกษา Manaaki ของนิวซีแลนด์กล่าวว่าทุนการศึกษา Manaaki New Zealand เป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการพัฒนาของรัฐบาลนิวซีแลนด์เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรือง ความมั่นคง และการเติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศคู่ค้าของเรา

“สถาบันระดับอุดมศึกษาของนิวซีแลนด์เสนอคุณวุฒิการศึกษาคุณภาพสูงในสาขาต่าง ๆ เช่น การจัดการภัยพิบัติ ธรณีวิทยา วิศวกรรมโยธา และสิ่งแวดล้อม

“ฉันสนับสนุนให้ผู้สมัครที่มีศักยภาพทั้งหมดสมัครเพื่อรับทุนรอบปี 2023” Moore กล่าว

ทุนการศึกษา Manaaki New Zealand เป็นตัวแทนของการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดเพียงครั้งเดียวของรัฐบาลนิวซีแลนด์ในทุนการศึกษานานาชาติและได้รับรางวัลมากว่า 70 ปี

การสมัครทางออนไลน์สำหรับทุนการศึกษา Manaaki New Zealand ประจำปี 2023 เพื่อดำเนินการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาในนิวซีแลนด์เปิดรับสมัครแล้ว และจะปิดในเที่ยงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2023 (เวลานิวซีแลนด์)

สำหรับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับทุนการศึกษาของ Manaaki New Zealand รวมถึงคุณสมบัติและขั้นตอนการสมัคร โปรดไปที่หน้าเว็บทุนการศึกษาของ Manaaki New Zealand

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Education New Zealand

manaaki@enz.govt.nz

แหล่งที่มา: Education New Zealand

Telford Offshore ประกาศเสร็จสิ้นกระบวนการขายและการเข้าซื้อกิจการโดย Merced Capital

Logo

Robert Duncan ได้แต่งตั้ง CEO เพื่อเป็นผู้นำตำนานบทถัดไปของการเติบโต

ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–20 กุมภาพันธ์ 2023

Telford Offshore Group (“Telford Offshore” หรือ “บริษัท”) ประกาศในวันนี้ว่า หน่วยงานในเครือของ Merced Capital ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัทแล้ว การซื้อกิจการแสดงถึงการเสร็จสิ้นกระบวนการขายที่มีการแข่งขันซึ่งประกาศไว้ก่อนหน้านี้ (“กระบวนการขาย”) โดยปัจจุบัน เจ้าของ Telford Offshore ก็คือ Merced Capital

ในส่วนหนึ่งของธุรกรรมนี้ Merced Capital ซึ่งได้รับคำแนะนำจาก Sidley Austin ได้เพิ่มเงินทุนใหม่ในบริษัทเพื่อรองรับบทต่อไปของการเติบโตและปรับปรุงงบดุล โดยลดสถานะหนี้สินสุทธิเป็นศูนย์หลังการทำธุรกรรม ด้วยการสนับสนุนของผู้สนับสนุนทางการเงินและสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก Telford Offshore จะอยู่ในสถานะที่ดีที่จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวที่กำลังดำเนินอยู่ในอุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลกและความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับบริการนอกชายฝั่ง

Telford Offshore ยังประกาศว่า Robert Duncan ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของบริษัท Mr. Duncan จะเข้ารับหน้าที่โดยมีผลทันที โดยรับตำแหน่งต่อจาก Fraser Moore ผู้บริหารที่น่าเคารพซึ่งมีประสบการณ์กว่าสองทศวรรษในการเป็นผู้นำทีมระดับโลกในอุตสาหกรรมพลังงานนอกชายฝั่งและอุตสาหกรรมทางทะเล Mr. Duncan เคยดำรงตำแหน่งผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Capital Strategies International และก่อนหน้านั้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Seafox International

Joe McElroy หุ้นส่วนของ Merced Capital กล่าวว่า "เราเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินหลักของ Telford Offshore ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท และตั้งตารอที่จะสนับสนุนทีมต่อไปในบทใหม่ของประวัติศาสตร์องค์กรนี้ เราขอขอบคุณ Fraser สำหรับรากฐานที่แข็งแกร่งที่เขาสร้างขึ้นที่ Telford และการสนับสนุนของเขาในช่วงการเปลี่ยนผ่านนี้ เมื่อมองไปข้างหน้า เรามั่นใจว่า Robert จะเป็นผู้นำในอุดมคติในการพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์มของบริษัท และใช้ประโยชน์จากโอกาสในการเติบโตในตลาดบริการนอกชายฝั่ง”

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับ Telford Offshore ในช่วงเวลาสำคัญของบริษัทและในช่วงเวลาที่สำคัญในอุตสาหกรรมของเรา ซึ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นของสิ่งที่เราคาดว่าจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังจากหลายปีที่ท้าทาย” กล่าวโดย Robert Duncan ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Telford Offshore “ภายใต้การเป็นเจ้าของคนใหม่และงบดุลที่คล่องตัว Telford พร้อมที่จะสร้างตัวเองให้เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมต่อไป”

ความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ Telford Offshore ที่มีต่อลูกค้า ผู้ขาย และพนักงานจะไม่ได้รับผลกระทบ และการดำเนินงานในปัจจุบันจะยังคงดำเนินต่อไปตามปกติ ปัจจุบัน Telford Offshore มีสินทรัพย์ 5 รายการ ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้สัญญาเพื่อทำงานร่วมกับคู่ค้าที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงบริษัทน้ำมันแห่งชาติ (NOCs) และบริษัทน้ำมันระหว่างประเทศ (IOCs) ดังนี้

– Telford 25 พร้อมเครนขนาด 800 ตัน สามารถวางท่อแบบแข็งได้ พื้นที่ดาดฟ้า 1,500 ตร.ม. และท่าเทียบเรือ 379 ท่า

– Telford 28 พร้อมเครนขนาด 270 ตัน พื้นที่ดาดฟ้า 1,500 ตร.ม. และท่าเทียบเรือ 462 ท่า

– Telford 30 พร้อมเครนขนาด 270 ตัน สามารถวางท่อแบบแข็งได้ พื้นที่ดาดฟ้า 300 ตร.ม. และท่าเทียบเรือ 480 ท่า

– Telford 31 พร้อมเครนขนาด 400 ตัน พื้นที่ดาดฟ้า 1,300 ตร.ม. และท่าเทียบเรือ 477 ท่า

– Telford 34 พร้อมเครนขนาด 800 ตัน ระบบท่อแบบแข็ง พื้นที่ดาดฟ้า 1,350 ตร.ม. และท่าเทียบเรือ 339 ท่า

ชีวประวัติของ Robert Duncan

Mr. Duncan ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหลายตำแหน่งในองค์กรต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลกในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา เขาประจำอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ตลอด 17 ปีที่ผ่านมา เมื่อเร็ว ๆ นี้ Mr. Duncan ได้ก่อตั้งและเป็นผู้นำในบริษัท Capital Strategies International Limited (CSIL) ที่ให้บริการคุณภาพสูงระดับมืออาชีพแก่บริษัทพลังงานนอกชายฝั่งและภาคส่วนทางทะเล ตลอดจนสถาบันการเงิน ก่อนหน้านั้น Mr. Duncan มีบทบาทที่หลากหลาย ได้แก่ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินที่ Seafox International ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านพลังงานและการเดินเรือนอกชายฝั่งระหว่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2017 โดยปัจจุบัน Mr. Duncan ยังดำรงตำแหน่งกรรมการที่ไม่ได้เป็นผู้บริหารและสมาชิกคณะกรรมการของ Advance Global Recruitment ซึ่งเป็นธุรกิจจัดหางานตามสัญญาและโซลูชันถาวรชั้นนำที่ให้บริการภาคส่วนพลังงานนอกชายฝั่งทั่วโลก และเป็นตัวแทนพิเศษในตะวันออกกลางสำหรับ Van Aalst Group B.V. อีกทั้ง Mr. Duncan ยังเป็นสมาชิกที่มีคุณสมบัติของ Institute of Chartered Accountants of Scotland (ICAS) และ Chartered Institute of Public Finance and Accountancy (CPFA) อีกด้วย

เกี่ยวกับ Telford Offshore

กองเรือของ Telford Offshore ประกอบด้วยเรือที่ทันสมัย ​​5 ลำ ได้แก่ Telford 25, Telford 28, Telford 30, Telford 31 และ Telford 34 ความสามารถ DP3 และระบบการเดินไปยังที่ทำงานแบบถาวร (walk-to-work system) ช่วยให้ได้รับประโยชน์จากอัตราการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและสูงมากไปยังการติดตั้งการผลิตแบบประจำที่และแบบเคลื่อนที่ ซึ่งช่วยลดเวลาหยุดทำงานขณะอยู่บนสถานี ความสามารถอเนกประสงค์เหล่านี้ทำให้มั่นใจได้ว่าเรือลำเดียวสามารถปฏิบัติการได้หลากหลาย เรือแต่ละลำสามารถให้บริการที่พัก บริการยกของหนักใต้ทะเลและด้านบน วางท่อแข็งและยืดหยุ่นได้ และดำเนินการก่อสร้างใต้ทะเล Telford Offshore สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของลูกค้าและทำงานในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายที่สุด โดยมอบการเข้าถึงที่ปลอดภัยและการสนับสนุนของไซต์งานนอกชายฝั่ง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ www.telfordoffshore.com

เกี่ยวกับ Merced Capital

Merced Capital เป็นบริษัทการลงทุนเอกชนที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1988 และตั้งอยู่ในเมืองมินนิอาโปลิส รัฐมินนิโซตา เป็นบริษัทจัดการเงินทุนในนามของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งรวมถึงเงินบริจาคชั้นนำ กองทุนบำเหน็จบำนาญ และสำนักงานครอบครัว โดยมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมพลังงาน การเดินเรือ และการบริการนอกชายฝั่งทั่วโลก

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม:
FGS Global
อีเมล: merced@fgsglobal.com
หรือ
Telford Offshore
อีเมล: contact@telfordoffshore.com

แหล่งที่มา: Telford Offshore

Mary Kay Inc. แต่งตั้ง Sheryl Adkins-Green เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายประสบการณ์

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–15 กุมภาพันธ์ 2023

Mary Kay Inc. บริษัทด้านความงามและผู้ประกอบการชื่อดังประกาศแต่งตั้ง Sheryl Adkins-Green เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายประสบการณ์ ในบทบาทใหม่นี้ Adkins-Green จะสนับสนุนความสำเร็จของธุรกิจที่ปรึกษาด้านความงามอิสระหลายล้านรายผ่านประสบการณ์ลูกค้าแบบบูรณาการ 360 องศา

“Mary Kay Ash always said, ‘Picture every person with an invisible sign around their neck that says Make Me Feel Important,’” said Adkins-Green. “This will be my mantra as I take on this exciting new role.” (Credit: Mary Kay Inc.)

“Mary Kay Ash พูดเสมอว่า ‘ลองนึกภาพทุกคนที่มีสัญลักษณ์ที่มองไม่เห็นรอบคอที่เขียนว่า Make Me Feel important’” กล่าวโดย Adkins-Green “นี่จะเป็นเวทมนตร์คาถาของฉันเมื่อฉันได้รับบทบาทใหม่ที่น่าตื่นเต้นนี้” (เครดิต: Mary Kay Inc.) Caption 2: Sheryl Adkins-Green ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายประสบการณ์ จะสนับสนุนความสำเร็จของธุรกิจที่ปรึกษาด้านความงามอิสระหลายล้านรายผ่านประสบการณ์ลูกค้าแบบบูรณาการ 360 องศา (เครดิต: Mary Kay Inc.)

“ที่ Mary Kay ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าประสบการณ์ที่คุ้มค่าสำหรับที่ปรึกษาด้านความงามอิสระและลูกค้าของพวกเขา” กล่าวโดย Nathan Moore ประธานฝ่ายขายและการตลาดทั่วโลกของ Mary Kay “ประสบการณ์ของ Sheryl ในฐานะนักการตลาดที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก โดยเน้นที่บริการที่เหนือชั้น ทำให้เธอเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายประสบการณ์ของเรา เธอหลงใหลในโอกาสของ Mary Kay อย่างมาก และเราตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่ากลยุทธ์ระดับโลกของเธอจะสร้างความแตกต่างในชีวิตของผู้หญิงทั่วโลกได้อย่างไร”

Adkins-Green ผู้ที่ร่วมงานกับ Mary Kay มาตั้งแต่ปี 2009 เคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เธอจะยังคงเป็นผู้นำแผนกการสร้างประสบการณ์ต่อแบรนด์ระดับโลก (Global Brand Experience) และหน่วยงานสร้างสรรค์ภายในบริษัทที่สร้างแคมเปญการตลาด เนื้อหาการออกแบบมัลติมีเดีย เนื้อหาโซเชียลมีเดีย และการสื่อสารดิจิทัลแบบบูรณาการที่ช่วยให้ทีมขายอิสระสามารถมอบประสบการณ์ความงามเฉพาะบุคคลและบริการที่ปรับแต่งได้ให้กับลูกค้าของพวกเขา ด้วยการรวมการวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูล และการคาดการณ์แนวโน้ม Adkins-Green และทีมงานของเธอจะคาดการณ์ถึงความต้องการและความคาดหวังของที่ปรึกษาด้านความงามอิสระและลูกค้าของพวกเขาในกว่า 35 ประเทศ

“Mary Kay Ash พูดเสมอว่า ‘ลองนึกภาพทุกคนที่มีสัญลักษณ์ที่มองไม่เห็นรอบคอที่เขียนว่า Make Me Feel important’” กล่าวโดย Adkins-Green “นี่จะเป็นเวทมนต์คาถาของฉันเมื่อฉันได้รับบทบาทใหม่ที่น่าตื่นเต้นนี้”

Adkins-Green นำประสบการณ์ที่สำคัญในการวางแผนเชิงกลยุทธ์ การพัฒนาธุรกิจ และความร่วมมือในองค์กรมาสู่บทบาทของเธอ ก่อนร่วมงานกับ Mary Kay นั้น Sheryl เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารกับ Alberto-Culver, Cadbury-Schweppes, Citigroup และ Kraft Foods เธอได้รับวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาการค้าปลีก เกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน และปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจจากโรงเรียนธุรกิจฮาร์วาร์ด (Harvard Business School) เธอมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในชุมชนผ่านมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation℠ โดยมีภารกิจสองอย่าง คือ การค้นหาวิธีรักษาโรคมะเร็งที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิงและการขจัดความรุนแรงที่มีต่อผู้หญิง ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของ Mary Kay ในการทำให้ชีวิตของผู้หญิงและครอบครัวดีขึ้น

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash หนึ่งในผู้ที่ทำสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้สำเร็จ ได้ก่อตั้งบริษัทความงามในฝันของเธอในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมผู้หญิงในเส้นทางของพวกเธอผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย ​​เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ยกระดับความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการทารุณกรรมในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com หรือค้นหาเราบน FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่ https://www.businesswire.com/news/home/20230214005743/en/

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งที่มา: Mary Kay Inc.


The Bangkok Reporter