แซลมอนขึ้นแท่นธนาคารจดทะเบียนในฟิลิปปินส์

Logo

มะนิลา ฟิลิปปินส์ –(BUSINESS WIRE)–9 มกราคม 2024

แซลมอน บริษัทเทคโนโลยีทางการเงินที่มุ่งมั่นพัฒนาการเข้าถึงสินเชื่อ การออมและการลงทุนให้กับลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินกว่า 500 ล้านคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ประกาศการรับรองการอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการการเงินแห่งธนาคารกลางแห่งฟิลิปปินส์ (BSP) ให้ทำการถือครองหุ้นในธนาคารแห่งซานตาโรซา (ลากูน่า) ซึ่งถือเป็นสถาบันทางการเงินจดทะเบียนที่ได้รับความไว้วางใจในการให้บริการชาวฟิลิปปินส์ตั้งแต่ปี 2506

ทั้งนี้แซลมอนจะถือครองหุ้น 59.7% ของธนาคารแห่งซานตาโรซาเมื่อมีการบรรลุข้อตกลงในการถือครองหุ้นฉบับนี้ ซึ่งกระบวนการต่าง ๆ จะสิ้นสุดลงในอีกไม่กี่สัปดาห์ โดยใบรับรองการจดทะเบียนและรอยเท้านิเวศน์ของธนาคารแห่งซานตาโรซาจะทำให้แซลมอนสามารถเสนอขายผลิตภัณฑ์สินเชื่อและการกู้ยืมที่มีการบริหารจัดการโดยใช้เอไอให้กับลูกค้าทั่วประเทศ ทั้งนี้แซลมอนจะดำเนินธุรกิจทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ โดยสร้างความแตกต่างให้กับตนเองโดยการให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้าทุกระดับ ซึ่งลูกค้ากว่า 92% ของบริษัทแนะนำให้เพื่อนและครอบครัวใช้บริการของแซลมอน

การก้าวขึ้นมาเป็นธนาคารจดทะเบียนในตลาดหลักถือเป็นก้าวสำคัญทั้งสำหรับแซลมอนและฟิลิปปินส์ โดยแซลมอนได้จับมือกับบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินหลายแห่งที่ดำเนินธุรกิจสถาบันธนาคารจดทะเบียนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสัญญาความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มการเข้าถึงบริการธนาคารสมัยใหม่ในหมู่ชาวฟิลิปปินส์ที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินหลายล้านคนในภูมิภาคสำคัญ ๆ เช่น เมโทรมะนิลา เซบู และดาเวา ซึ่งแซลมอนวางแผนที่จะขยายสาขาใหม่อีกหลายสาขาตามความเห็นชอบของธนาคารกลางแห่งฟิลิปปินส์ โดยธุรกรรมทางการเงินถือเป็นการส่งเสริมโครงการเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธนาคารท้องถิ่นที่ริเริ่มโดยธนาคารกลางแห่งฟิลิปปินส์ในปี 2565 เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับภาคการธนาคารท้องถิ่นของประเทศและส่งเสริมการเติบโตแบบองค์รวมเพื่อรับมือกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาของประชากรชาวฟิลิปปินส์ที่มีความตื่นตัว พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ และมีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยี

“เรารู้สึกตื่นเต้นกับการพัฒนาการครั้งสำคัญซึ่งเป็นอีกก้าวที่สำคัญของแซลมอน และรู้สึกซาบซึ้งกับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางแห่งฟิลิปปินส์ และวิสัยทัศน์ของธนาคารในการขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการทางการเงินในประเทศ ข้อตกลงฉบับนี้จะช่วยให้เราเข้าถึงชุมชนด้อยโอกาสในฟิลิปปินส์ได้มากขึ้น โดยให้บริการทางการเงินที่ทันสมัย ยึดถือลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และเข้าถึงง่ายกับผู้คนมากขึ้น เรายังภาคภูมิใจกับความสัมพันธ์อันน่าอัศจรรย์ของเรากับทีมบริหารของธนาคารแห่งซานตาโรซา (ลากูน่า) และหมายมั่นที่จะสร้างสถาบันการเงินที่แข็งแกรงไปพร้อม ๆ กันเพื่อขยายการบริการให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศฟิลิปปินส์”

แซลมอนจะคงรักษาและยกระดับการให้บริการในรูปแบบออฟไลน์ของธนาคารไว้เช่นเดิม โดยอัดฉีดเงินทุนและเทคโนโลยีอย่างเพียงพอให้กับธนาคารเพื่อยกระดับการบริการให้กับลูกค้าทุกคน กลยุทธ์การยึดเอาลูกค้าเป็นศูนย์กลางของแซลมอน ที่เป็นที่ชื่นชมในกลุ่มลูกค้าปัจจุบัน จะมีการนำไปปรับใช้ให้ครอบคลุมทุกช่องทาง รวมถึงช่องทางออฟไลน์ด้วย

ติดต่อ
pr@fhl.world

ที่มา: Salmon

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ให้ความรู้สึกเหมือนบ้าน: CTBC ส่งเสริมให้ผู้เชี่ยวชาญชาวไต้หวันไปทำงานในต่างประเทศ

Logo

ไทเป, ไต้หวัน–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2023

ธนาคาร CTBC จำกัด จัดแสดงนิทรรศการชื่อ “Home Away From Home-ผจญภัยด้วยการก้าวกระโดดเพื่อโอบรับความแตกต่างทางวัฒนธรรม!”  ที่สวนวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ซงชาน เมื่อวันที่ 25 พ.ย. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เชี่ยวชาญชาวไต้หวันไล่ตามความฝันในการไปประกอบอาชีพในต่างประเทศ งานนี้ดึงดูดผู้เข้าชมได้ประมาณ 2,000 คน โดยเชิญวิทยากรมาแบ่งปันความเห็นเกี่ยวกับวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนพูดคุยเกี่ยวกับการแต่งงานข้ามวัฒนธรรม และเรื่องราวของชาวไต้หวันที่ทำงานอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานาน

CTBC staged an exhibition titled “Home Away From Home—Taking an Adventure with the Leap to Embrace Cultural Differences!” and arranged three keynote lectures and a Southeast Asian-style market, which attracted more than 2,000 people to participate in the event. (Photo courtesy of CTBC)

CTBC จัดแสดงนิทรรศการชื่อ “Home Away From Home—ผจญภัยด้วยการก้าวกระโดดเพื่อโอบรับความแตกต่างทางวัฒนธรรม!” และจัดให้มีปาฐกถาสำคัญ 3 ครั้งและตลาดสไตล์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งดึงดูดผู้คนเข้าร่วมงานมากกว่า 2,000 คน เอื้อเฟื้อภาพโดย CTBC)

นิทรรศการประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ ตลาดวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเสวนาด้านวัฒนธรรม และคอนเสิร์ต การเสวนามุ่งเน้นไปที่หัวข้อวัฒนธรรมไทย เรื่องราวของการแต่งงานข้ามวัฒนธรรม และคำแนะนำสำหรับผู้เชี่ยวชาญที่กำลังมองหาการเดินทางไปต่างประเทศ โดยให้ข้อมูลเชิงลึกว่าวัฒนธรรมที่แตกต่างกันมีปฏิสัมพันธ์และบูรณาการอย่างไร

ในการเสวนาครั้งหนึ่ง ปีเตอร์ เหวย หัวหน้ากลุ่มทรัพยากรบุคคลของธนาคาร CTBC ได้แนะนำโครงการ CTBC International Relations Manager (IRM) เขาสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัยของตน เพื่อสำรวจโอกาสในการทำงานในต่างประเทศ

ในขณะเดียวกัน หลินอี้ฝาง หัวหน้าแผนกปฏิบัติการเสื้อผ้าอุตสาหกรรมของกลุ่ม SHEICO อธิบายว่าบริษัทสามารถสร้างทีมงานระดับแนวหน้าผ่านโครงการฝึกอบรมระดับนานาชาติได้อย่างไร ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถของพนักงานให้ได้รับประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศ ทำให้บริษัทก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชุดดำน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เพื่อแนะนำวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แก่ผู้มาเยือน CTBC ได้เชิญการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประจำไทเป สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมมะนิลา สำนักงานเศรษฐกิจและการค้าอินโดนีเซียประจำไทเป และสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมเวียดนามในไทเปเพื่อแสดงการส่งออกทางวัฒนธรรมในนิทรรศการ รวมทั้งเสื้อผ้าแบบดั้งเดิมของเวียดนาม กาแฟ และชาพีช พร้อมด้วยขนมเทมเป้ของอินโดนีเซีย

CTBC ยังได้สร้างภาพยนตร์โปรโมตแบรนด์ในชื่อ “Home Away From Home” ซึ่งแสดงถึงความกล้าหาญ และการทำงานหนักของเพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติของเราในประเทศไทย บอกเล่าเรื่องราวที่เพื่อนร่วมงานชาวไต้หวันของเรา เอาชนะอุปสรรคทางวัฒนธรรมร่วมกับเพื่อนร่วมงานชาวไทย และสร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัวได้อย่างไร รับชมทางออนไลน์ได้แล้ว โปรดเยี่ยมชมเพจเฟซบุ๊ค – Home Run Taiwan ช่องยูทูป https://www.youtube.com/watch?v=819KF9USoBA เพื่อชมภาพยนตร์

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53863984/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์│CTBC Bank Co., Ltd.

ชื่อ: พาเมล่า เฉิน

อีเมล: pamela.chen@ctbcbank.com

โทร: +886-2-3327-7777 ต่อ 6724

ที่มา: ธนาคาร CTBC จำกัด

Home Away From Home: CTBC สนับสนุนพนักงานชาวไต้หวันไปทำงานต่างประเทศ

Logo

TAIPEI,Taiwan–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2023

CTBC Bank Co., Ltd. จัดนิทรรศการ “Home Away From Home-ผจญภัยก้าวกระโดดเพื่อโอบรับความแตกต่างทางวัฒนธรรม!” ที่at the Songshan Cultural and Creative Park เมื่อวันที่ 25 เดือนพฤศจิกายน เพื่อส่งเสริมให้ผู้เชี่ยวชาญชาวไต้หวันไล่ล่าตามความฝันของตนเองในการไปประกอบอาชีพในต่างประเทศ งานนี้ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานได้ถึง 2,000 คนโดยประมาณ โดยมีการเชิญวิทยากรมาแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงมาพูดคุยเกี่ยวกับการแต่งงานข้ามวัฒนธรรม และเรื่องราวของชาวไต้หวันที่ไปทำงานในต่างประเทศ

CTBC staged an exhibition titled “Home Away From Home—Taking an Adventure with the Leap to Embrace Cultural Differences!” and arranged three keynote lectures and a Southeast Asian-style market, which attracted more than 2,000 people to participate in the event. (Photo courtesy of CTBC)

CTBC จัดนิทรรศการชื่อว่า “Home Away From Home—ผจญภัยก้าวกระโดดเพื่อโอบรับความแตกต่างทางวัฒนธรรม!” และมีการปาฐกถาสามรายการและมีการจัดแสดงตลาดสไตล์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสามารถดึงดูดผู้คนมาเข้าร่วมงานได้กว่า 2,000 คน (เครดิตภาพถ่ายจาก CTBC)

นิทรรศการนี้แบ่งออกเป็นสามหัวข้อใหญ่ๆ ได้แก่ วัฒนธรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตลาดแห่งความคิดสร้างสรรค์ การเสวนาด้านวัฒนธรรม และคอนเสิร์ต การเสวนานี้จะมุ่งเน้นในหัวข้อเกี่ยวกับวัฒนธรรมของประเทศไทย เรื่องราวการแต่งงานข้ามวัฒนธรรม และคำแนะนำสำหรับผู้เชี่ยวชาญที่กำลังมองหาหนทางเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ โดยให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความแตกต่างของวัฒนธรรมมีความสัมพันธ์และมีการบูรณาการอย่างไร

หนึ่งในการเสวนาที่ดำเนินการโดย Peter Wei หัวหน้ากลุ่มทรัพยากรบุคคลของ CTBC Bank ได้แนะนำโครงการ CTBC International Relationship Manager (IRM) โดยสนับสนุนให้คนทำงานรุ่นเยาว์ก้าวออกจากเซฟโซนของตัวเองเพื่อเปิดกว้างสำหรับโอกาสในการประกอบอาชีพในต่างประเทศ

ในขณะเดียวกัน Lin Yi-fang หัวหน้าแผนกปฏิบัติการฝ่ายอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายของ SHEICO Group อธิบายเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทสามารถสร้างทีมงานระดับแนวหน้าผ่านโครงการฝึกอบรมระดับนานาชาติ ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถให้พนักงานได้รับประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศ บริษัทจึงสามารถก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชุดดำน้ำที่ใหญ่ที่สุดของโลกได้

เพื่อแนะนำวัฒนธณรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แก่ผู้เข้าชม CTBC ได้เชิญการท่องเที่ยวแห่งชาติไทเปในประเทศไทย สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมมะนิลา สำนักงานเศรษฐกิจและการค้าอินโดนีเซียประจำไทเป และสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมเวียดนามในไทเป มาร่วมแสดงวัฒนธรรมการส่งออกในนิทรรศการนี้ รวมถึงการแสดงเสื้อผ้าแบบดั้งเดิมของเวียดนาม กาแฟ และชาลูกท้อ พร้อมกับขนมเทมเป้จากอินโดนีเซีย

CTBC ยังได้สร้างภาพยนตร์โปรโมตแบรนด์ที่มีชื่อว่า “Home Away From Home” ซึ่งแสดงถึงความกล้าหาญและการทำงานอย่างหนักของเพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติของบริษัทในประเทศไทย โดยมีการบอกเล่าเรื่องราวของเพื่อนร่วมงานชาวไต้หวันของเราในการเอาชนะอุปสรรคทางวัฒนธรรมร่วมกันกับเพื่อนร่วมงานชาวไทย และสร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัวได้อย่างไร โดยสามารถเข้าชมภาพยนตร์นี้ได้ทางออนไลน์ที่เพจ Facebook – Home Run Taiwan Youtube: https://www.youtube.com/watch?v=819KF9USoBA

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Public Relations Dept.│CTBC Bank Co., Ltd.
ชื่อ: Pamela Chen
อีเมล: pamela.chen@ctbcbank.com
โทร: +886-2-3327-7777 Ext.6724

แหล่งข้อมูล: CTBC Holding

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53863981/en

CTBC เผยแพร่วิดีโอโปรโมตแบรนด์บอกเล่าเรื่องราวของพนักงานชาวต่างชาติในประเทศไทย

Logo

TAIPEI, Taiwan–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2023

หลังการเตรียมการยาวนานมาถึงสองปี  CTBC พร้อมแล้วที่จะเปิดตัววิดีโอโปรโมตแบรนด์ที่มีชื่อว่า “Home Away From Home” ในวันที่ 13 เดือนพฤศจิกายน วิดีโอนี้เป็นรูปแบบสารคดีขนาดเล็ก บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวิธีที่พนักงานชาวต่างชาติของ CTBC ในประเทศไทยเอาชนะความท้าทายที่พวกเขาเผชิญด้วยความกล้าหาญและมีการทำงานอย่างหนักท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 และบรรยายถึงความสัมพันธ์แบบครอบครัวระหว่างพนักงานชาวไต้หวันและชาวไทย

CTBC released a brand promotional film titled “Home Away From Home” on Nov. 13, inviting 300 of the company’s employees and senior management figures to watch the film. (Photo courtesy of CTBC)

CTBC เปิดตัวภาพยนตร์โปรโมตแบรนด์ชื่อ “Home Away From Home” เมื่อวันที่ 13 เดือนพฤศจิกายน โดยเชิญพนักงานของบริษัทและผู้บริหารระดับสูงจำนวน 300 คนให้เข้าร่วมชมภาพยนตร์ (เครดิตภาพจาก CTBC)

Morris Li ประธานธนาคาร CTBC สังเกตว่า อุตสาหกรรมการเงินมุ่งเน้นธุรกิจที่คำนึงผู้คนเป็นหลัก จึงมีการสนับสนุนให้พนักงานชาวต่างชาติให้บริการลูกค้าในท้องถิ่นหรือสื่อสารพับเพื่อนร่วมงานด้วยความเห็นอกเห็นใจ ในขณะที่พนักงานชาวต่างชาติต้องเผชิญกับขนบธรรมเนียมและแนวปฏิบัติในต่างประเทศ Li เชื่อว่า ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ดีและการบริการเป็นเลิศ ธนาคาร CTBC จะกลายเป็นธุรกิจชั้นนำในภูมิภาคหรือเอเชียแปซิฟิก

Tony Yang ประธาน CTBC Bank กล่าวว่า เพื่อตอบสนองต่อความมุ่งมั่นของ CTBC Bank ในการขยายธุรกิจระหว่างประเทศ วิดีโอโปรโมตนี้แสดงให้เห็นถึงพันธมิตรจากเชื้อชาติที่แตกต่างกัน และข้ามพรมแดนล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน โดยมีการขยายความหมายของ “ครอบครัว” ไปสู่ “ครอบครัวเดียวระดับโลก” ด้วยความมุ่งมั่นของพนักงานต่างชาติของ CTBC เพื่อช่วยในการขยายการดำเนินงานในต่างประเทศ CTBC Bank ได้กลายเป็นธนาคารระดับสากลที่ติดอันดับในไต้หวัน โดยมีสาขาในจีน ญี่ปุ่น อเมริกาเหนือ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยให้บริการทางการเงินข้ามพรมแดนอย่างครอบคลุมสำหรับบริษัทข้ามชาติ

วิดีโอโปรโมตนี้แสดงถึงการทำงานของพนักงานชาวต่างชาติของ CTBC สามคน ได้แก่ Henry, Semmi และ Century—ซึ่งได้รับมอบหมายให้ไปทำงานที่ LH Financial Group Public Company Limited (LHFG) ในประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทในเครือของ CTBC ทั้งสามคนเอาชนะความคิดถึงบ้าน อุปสรรคด้านภาษา และวัฒนธรรมที่แตกต่างกันในที่ทำงานต่างประเทศ โดยปรับตัวเข้ากับสังคมท้องถิ่น และพัฒนามิตรภาพกับเพื่อนร่วมงานชาวไทยได้เป็นอย่างดี

Shih, Jiing-fuh ประธาน LHFG กล่าวว่า CTBC เชื่อมั่นว่า “ครอบครัว” อยู่เหนือข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์และความผูกพันทางสายเลือด และบริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะขยายความหมายของคำว่า “ครอบครัว” ด้วยการเปิดรับพนักงานจากประเทศต่างๆ สามารถเข้าชมวิดีโอโปรโมตนี้ได้ที่เพจ Facebook ของ Home Run Taiwan หรือ YouTube: https://www.youtube.com/watch?v=819KF9USoBA

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Public Relations Dept.│CTBC Bank Co., Ltd.
ชื่อ: Pamela Chen
อีเมล: pamela.chen@ctbcbank.com
โทร: +886-2-3327-7777 Ext.6724

แหล่งข้อมูล: CTBC Bank Co., Ltd.

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53863980/en

SYNTAGMA CAPITAL เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการ Aginode ซื่งเป็นบริษัทย่อยด้าน LAN/ศูนย์ข้อมูล (“LAN/DC”) และ โทรคมนาคม/ไฟเบอร์ (“FTTx”) ของ Nexans SA (Euronext Paris: NEX)

Logo

บรัสเซลส์–(BUSINESS WIRE)–2 พฤศจิกายน 2023

วันนี้ Syntagma Capital ประกาศว่าบริษัทได้เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการ Aginode (https://www.aginode.net) ที่มีชื่อเดิมว่า Nexans Telecom & Data

บริษัทให้บริการออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายโซลูชันการเชื่อมต่ออัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยีใยแก้วนำแสงและทองแดงไปยังศูนย์ข้อมูล อาคารอัจฉริยะ และผู้ให้บริการโทรคมนาคม โดยได้เปลี่ยนชื่อเป็น Aginode เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ในปี 2022 บริษัททำรายได้ได้ประมาณ 200 ล้านยูโรในกว่า 100 ประเทศ เนื่องจากมีโรงงานอุตสาหกรรม 8 แห่งในฝรั่งเศส เบลเยียม เยอรมนี กรีซ โมร็อกโก และจีน และมีพนักงานประมาณ 680 คนทั่วโลก

"Syntagma มีความยินดีที่จะประกาศในวันนี้ว่าได้เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการ Aginode ซึ่งถือเป็นบริษัทแห่งที่สองในพอร์ตโฟลิโอของกองทุน ตลาดควบรวมกิจการ (M&A) ยังคงท้าทาย และความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเราในการก้าวผ่านช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน และยังคงจัดหาโซลูชันการถอนทุนที่รวดเร็วและแน่นอน รวมถึงคัดเลือกการจัดสรรเงินทุนของเราอย่างพิถีพิถันในขณะเดียวกัน" Sebastien Kiekert Le Moult หุ้นส่วนผู้จัดการของ Syntagma กล่าว

"เรารู้สึกตื่นเต้นกับศักยภาพของ Aginode และหวังว่าจะได้ร่วมมือกับฝ่ายบริหารเพื่อขับเคลื่อนบริษัทไปสู่ความสำเร็จใหม่ๆ ในอนาคต" Frank Coenen หุ้นส่วนของ Syntagma กล่าว

ทีมงานของ Syntagma ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ ได้แก่ Sebastien Kiekert Le Moult (หุ้นส่วนผู้จัดการ), Frank Coenen (หุ้นส่วน), Benjamin Dahan (หุ้นส่วน), João Pilecco (รองประธานอาวุโส), Ludovic Ruffenach (ผู้ร่วมงานอาวุโส) และ Alicia Azéma (นักวิเคราะห์อาวุโส)

Syntagma ได้รับคำแนะนำโดย Willkie Farr Gallagher (Hugo Nocerino, Ji-Soo Kim, Rudy Merlet, Faustine Viala, Charles Bodreau, Charles-Antoine Erignac, Jordan Pontal), PwC Transaction (Eric Douheret, Clément Meudec, François-Xavier Bornet, Edouard Bitton ), PwC Tax and Legal (Anne-Valerie Attias-Assouline, Mathieu Norest, Morgane Croisier, Aurélie Cluzel-d'Andlau, Claire Pascal Oury), Roland Berger (Victor Marcais, Yaroslav Stetsenko) และ ERM (Maryelle Ouvrard, ChinChin Lim)

เกี่ยวกับ Syntagma Capital
Syntagma ลงทุนในบริษัทต่าง ๆ ที่สามารถได้รับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติงานจริง เพื่อเร่งการเติบโตและปรับปรุงประสิทธิภาพสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด เราเป็นผู้ปฏิบัติงานจริงที่มีประสบการณ์ในการทำงานและจัดการบริษัทต่าง ๆ ในระดับโลก โดยใช้ประโยชน์จากทรัพยากรภายในองค์กรของเราเพื่อพัฒนากลยุทธ์ให้ประสบความสำเร็จ ดำเนินการเพื่อให้บรรลุศักยภาพสูงสุดและสร้างมูลค่าระยะยาวที่ยั่งยืน Syntagma ลงทุนและดำเนินการบริษัทต่าง ๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรมโดยเน้นเฉพาะตลาดวัสดุ เคมี อุตสาหกรรมและธุรกิจบริการ รวมถึงการผลิต การกระจายสินค้า การขนส่งและโลจิสติกส์ การเช่าอุปกรณ์ บริการโลหะ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ Syntagma ซึ่งเป็นผู้ลงนามใน UN PRI มีความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามมาตรฐาน ESG ระดับสูงในการลงทุนทั้งหมดของบริษัท และตั้งอยู่ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่: https://syntagmacapital.com

ติดต่อ

Marie Ciparisse
+32 (0)2 315 70 12
mciparisse@syntagmacapital.com

แหล่งข้อมูล: Syntagma Capital

Powered by Business Wire

Recharge Capital แต่งตั้ง Margaret Wang ผู้บริหารของ Bridgewater Associates Singapore ให้ดำรงตำแหน่งหุ้นส่วนผู้จัดการ

Logo

ผู้บริหารสินทรัพย์รุ่นใหญ่ร่วมมือกับบริษัทการลงทุนเพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นตามกระแสของโลก

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–19 กันยายน 2023

Recharge Capital บริษัทการลงทุนเอกชนชั้นนำที่มุ่งเน้นตามกระแสของโลกที่มีมูลค่ากว่า 6 พันล้านดอลลาร์ ประกาศในวันนี้ว่า Margaret Wang อดีตกรรมการบริหารและหัวหน้าของ Bridgewater Associates Singapore ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ โดยมีหน้าที่สำคัญในการเป็นผู้นำด้านกลยุทธ์การดูแลสุขภาพสตรี Wang จะเป็นหัวหน้าสำนักงานในสิงคโปร์ของบริษัท และเป็นผู้นำในการดำเนินงานของบริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Wang ร่วมงานกับ Recharge Capital ด้วยประสบการณ์การทำงานในตำแหน่งผู้นำอาวุโสที่บริษัทการจัดการสินทรัพย์และบริษัทผู้ให้บริการทางการเงินระดับโลก ก่อนที่จะมาร่วมงานกับ Bridgewater Associates Singapore ชั้นนำนี้ Wang เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายริเริ่มเชิงกลยุทธ์ที่ Paxos ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชน และเป็นหัวหน้าฝ่ายพันธมิตรผลิตภัณฑ์ที่ Squarespace (NYSE: SQSP) ซึ่งเป็นพันธมิตรชั้นนำด้านการชำระเงิน เนื้อหา และการจัดการธุรกิจกับ Apple, Google , Facebook, PayPal, Chownow, Acuity Scheduling และ Zola เธอเริ่มต้นเส้นทางอาชีพในด้านกลยุทธ์และการพัฒนาธุรกิจที่ Merrill Lynch และ Goldman Sachs

"การแต่งตั้ง Margaret ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับบริษัทของเรา" Lorin Gu หุ้นส่วนผู้ก่อตั้งของ Recharge Capital กล่าว "เธอนำประสบการณ์อันมหาศาลมาสู่กรอบงานการลงทุนที่มุ่งเน้นตามกระแสของโลกของเรา และยังคงมีประวัติในฐานะหนึ่งในผู้จัดการสินทรัพย์ที่ดีที่สุดในโลกในทุกภาคส่วน เรารู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับการเติบโตในระยะต่อไปซึ่งเสริมความแข็งแกร่งด้วยความเชี่ยวชาญของ Margaret"

เมื่อมาร่วมงานกับ Recharge Capital Wang พร้อมที่จะมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นตามกระแสของโลกของบริษัท ซึ่งรวมถึง Rhea Holdings Co. ซึ่งเป็นเครื่องมือการลงทุนด้านการดูแลสุขภาพสตรีมูลค่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่เปิดตัวในเดือนมิถุนายน 2023 ด้วยโครงสร้าง Private Equity รูปแบบใหม่ เครื่องมือดังกล่าวใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์การลงทุนข้ามประเภทสินทรัพย์เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพสตรี

"ดิฉันตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับทีม Recharge และขับเคลื่อนการสร้างมูลค่าในตลาดต่างประเทศที่สำคัญ" Wang กล่าว "กลยุทธ์ที่มุ่งเน้นตามกระแสโลกของบริษัทพร้อมที่จะส่งเสริมนวัตกรรมและผลกระทบทางสังคมตลอดห่วงโซ่คุณค่า และดิฉันรู้สึกตื่นเต้นที่จะรับมือกับความท้าทายที่สำคัญที่โลกของเรากำลังเผชิญอยู่ผ่านแนวทางที่เป็นเอกลักษณ์ของเราในการลงทุนและสร้างธุรกิจที่มีความหมาย"

ที่ Bridgewater Associates Margaret เป็นผู้นำการดำเนินงานภาคพื้นดินของบริษัทและบริหารจัดการการสร้างสำนักงานในสิงคโปร์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับฐานที่มั่นในภูมิภาค APAC

"ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Margaret มีบทบาทสำคัญในการขยายการดำเนินงานของเราในสิงคโปร์ด้วยการก่อตั้งและเป็นผู้นำสำนักงานของเราที่นั่น" Kyle Delaney ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของ Bridgewater Associates กล่าว "เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็น Margaret รับบทบาทใหม่ของเธอ และรู้สึกขอบคุณสำหรับการมีส่วนร่วมของเธอต่อชุมชน Bridgewater"

Margaret เข้าร่วมทีมการลงทุนที่มุ่งเน้นตามกระแสโลกของ Recharge ในฐานะผู้ขับเคลื่อนการเติบโตหลักสำหรับโครงสร้างการลงทุนที่สร้างสรรค์และสอดคล้องกับแรงจูงใจของบริษัท Recharge Capital ยังคงเป็นนักลงทุนเชิงรุกในภาคส่วนต่างๆ เช่น การทำให้ฟินเทคเป็นประชาธิปไตย การดูแลสุขภาพของสตรี สินทรัพย์ดิจิทัล และการใช้งานเซมิคอนดักเตอร์

เกี่ยวกับ Recharge Capital:

Recharge Capital คือบริษัทการลงทุนเอกชนชั้นนำที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนนวัตกรรมและผลกระทบในภาคส่วนต่างๆ ด้วยการให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการดูแลสุขภาพและการเจริญพันธุ์ของสตรี บริษัทจึงใช้ความเชี่ยวชาญและความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในการลงทุน ปรับขนาด และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจที่ก้าวกระโดด Recharge Capital ดำเนินงานจากสำนักงานในนิวยอร์กและสิงคโปร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในแนวการลงทุนทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Recharge Capital และโครงการริเริ่มด้านการดูแลสุขภาพและการเจริญพันธุ์ของสตรี โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราที่ www.rechargecapital.com  หรือติดต่อสำนักงานข่าวของเราที่ media@rechargecapital.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

ฝ่ายสื่อ
Bevel
Nneka Etoniru
recharge@bevelpr.com

ที่มา: Recharge Capital

 

บริษัท H.I.G. Capital ปิดตัวด้วยสถิติ 5.5 พันล้านดอลลาร์ในกองทุน H.I.G. Middle Market LBO Fund IV

Logo

ไมอามี–(BUSINESS WIRE)–12 กันยายน 2023

H.I.G. Capital (หรือ H.I.G.) ซึ่งเป็นริษัทจัดการสินทรัพย์ทางเลือกชั้นนำระดับโลกด้วยทุน 58 พันล้านดอลลาร์ ภายใต้การจัดการของบริษัท ยินดีในการประกาศปิดกองทุน H.I.G. Middle Market LBO Fund IV (“กองทุน”) กองทุนปิดด้วยจำนวนเงินสูงสุดที่เรียกเก็บจากผู้ถือหุ้นในการลงทุนทั้งหมดจำนวน 5.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มเติมจากเงินลงทุนร่วมของบัญชีผู้ถือหุ้นแยกจำนวน 450 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้เดิมเป็นอย่างมาก

กองทุนจะสร้างจากประวัติผลการดำเนินการที่ยาวนานของทีมด้วยเริ่มจากการลงทุนในตราสารหุ้นที่มีการควบคุมในสถานการณ์อันซับซ้อนในบริษัทที่อยู่ในกลุ่มตลาดขนาดกลางซึ่งมีลักษณะความเสี่ยง/ผลตอบแทนที่ไม่สมดุล และมีการเสนอคุณค่าของบริษัทที่แตกต่าง

Sami Mnaymneh และ Tony Tamer ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารร่วมแห่ง H.I.G กล่าวว่า “เรายินดีอย่างยิ่งกับการสนับสนุนจากนักลุงทุนที่มีมาตลอดซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสมรรถภาพอันแข็งแกร่งของ ทีมตลาดระดับกลางของ H.I.G. และวิธีการลงทุนอันแตกต่าง เรามั่นใจว่าแพลตฟอร์มอันเป็นเอกลักษณ์ของเราจะทำให้เราโดดเด่นในพื้นที่นี้ได้ต่อไป”

Keval Patel, หัวหน้าทีมตลาดระดับกลางของ H.I.G. กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สร้างกลยุทธ์ในตลาดระดับกลางที่ประสบความสำเร็จของ H.I.G. สำหรับกองทุนนี้ ด้วยขนาดและความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติการที่อุทิศให้กับตลาดระดับกลางนี้ มันได้สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันที่สำคัญให้กับเรามาตลอดและทำให้เราผลักดันผลตอบแทนอันสำคัญให้แก่นักลงทุนต่างๆ ไม่ว่าสภาพแวดล้อมด้านภาพรวมทางเศรษฐกิจจะเป็นแบบใดก็ตาม”

Jordan Peer Griffin กรรมการผู้จัดการระดับสูงและหัวหน้าการลงทุนระดับโลก กล่าวเสริมว่า “การสนับสนุนอันทรงพลังของเหล่าห้างหุ้นส่วนจำกัดของเรานำไปสู่การระดมทุนที่สำเร็จซึ่งมีผู้สมัครเข้าร่วมอันล้นหลามซึ่งมีความหมายมากในสภาพแวดล้อมการระดมทุนที่ยากลำบากเช่นนี้ มันเป็นการพิสูจน์ที่ชัดเจนให้เห็นถึงความมั่นใจอย่างสูงของนักลงทุนต่อ H.I.G. กลยุทธ์การลงทุนของเรา และความสามารถในการเป็นแหล่งที่ดึงดูดการลงทุนและสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่น”

กองทุนนี้ได้รับการสนับสนุนจากฐานนักลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนมาเป็นเวลานานของ H.I.G. และยังยินดีเปิดรับนักลงทุนใหม่จากทั่วโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชีย ตะวันออกกลาง และลาตินอเมริกา ห้างหุ้นส่วนจำกัดของกองทุนเป็นกลุ่มของนักลงทุนสถาบันที่หลากหลายและมีชื่อเสียง ซึ่งประกอบด้วย มูลนิธิ กองทุนการกุศล กองทุนบำนาญของรัฐและเอกชน ที่ปรึกษา กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ และสำนักงานครอบครัว

เกี่ยวกับ H.I.G. Capital

บริษัท H.I.G. Capital เป็นบริษัทการลงทุนทางเลือกชั้นนำระดับโลกซึ่งมีเงินทุน 58 พันล้านดอลลาร์ภายใต้การจัดการ* มีที่ตั้งหลักอยู่ที่ไมอามีและมีสำนักงานต่างๆ อยู่ใน นิวยอร์ก บอสตัน ชิคาโก ดัลลัส ลอสแองเจลลิส ซานฟรานซิสโก และแอตแลนตา ในสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งยังมีสำนักงานในเครืออยู่ในลอนดอน แฮมเบิร์ก แมดริด มิลาน ปารีส โบโกตา รีโอเดจาเนโร และเซาเปาโล H.I.G. เชี่ยวชาญในด้านตลาดตราสารหนี้และตลาดทุนในบริษัทตลาดระดับกลางโดยใช้วิธีการปฏิบัติการที่มุ่งเน้น/เพิ่มมูลค่าและมีความยืดหยุ่น

  1. กองทุนรวมตราสารทุนของ H.I.G. ลงทุนในการซื้อกิจการผู้บริหาร การปรับโครงสร้างการเงิน และการแยกออกจากโครงสร้างธุรกิจเดิมของธุรกิจที่ทั้งมีผลกำไรและธุรกิจบริการและอุตสาหกรรมการผลิตที่ผลดำเนินการต่ำกว่าเกณฑ์
  2. กองทุนรวมตราสารหนี้ของ H.I.G. ลงทุนในแหล่งเงินทุนจากหนี้ไม่ด้อยสิทธิ หนี้ตามหน่วยลงทุน และหนี้ด้อยสิทธิให้กับบริษัทในทุกๆ ขนาด ทั้งในตลาดแรก (โดยตรง) และตลาดรอง H.I.G. ยังจัดการการซื้อขายสาธารณะของ BDC, WhiteHorse Finance อีกด้วย
  3. กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ของ H.I.G. ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีการเพิ่มมูลค่าซึ่งได้ประโยชน์จากการวางแผนการจัดการทรัพย์สินที่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น
  4. โครงสร้างพื้นฐานของ H.I.G. มุ่งเน้นไปที่การสร้างมูลค่าเพิ่มและการลงทุนอสังหาริมทรัพย์นอกตลาดระดับ core plus ในภาคส่วนด้านโครงสร้างพื้นฐาน

เริ่มตั้งแต่มีการก่อตั้งบริษัทในปี 1993 นั้น H.I.G ได้มีการลงทุนและจัดการมากกว่า 400 บริษัททั่วโลก พอร์ตโฟลิโอของบริษัทในปัจจุบันมีมากกว่า 100 บริษัทซึ่งมียอดขายรวมกันเกินกว่า 52 พันล้านดอลลาร์ ดูข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ของ H.I.G. ที่ www.higcapital.com

*จากทุนระดมทั้งหมดโดย H.I.G. Capital และบริษัทในเครือ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Jordan Peer Griffin
กรรมการผู้บริหารระดับสูง
jpeer@higcapital.com

Keval Patel,
กรรมการผู้จัดการ
หัวหน้า H.I.G. ตลาดระดับกลาง
kpatel@higcapital.com

ที่มา: H.I.G. Capital

กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการของประเทศไทยเลือก Charles River เพื่อจัดการการดำเนินงานสำนักงานส่วนหน้า

Logo

กรุงเทพฯ–(BUSINESS WIRE )–4 กันยายน 2023

Charles River® Development บริษัทในเครือ State Street ประกาศว่า กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการของประเทศไทย (กบข.) ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนบำเหน็จบำนาญที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยที่มีจำนวนสมาชิกมากกว่า 1.2 ล้านคน ได้เลือก Charles River Investment Management Solution (Charles River IMS) เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานสำนักงานส่วนหน้าให้ทันสมัย และจัดการตราสารทุน ตราสารหนี้ และพอร์ตการลงทุนหลายสินทรัพย์ในประเทศและต่างประเทศ

กบข.จะใช้ Charles River IMS เพื่อส่งมอบขั้นตอนการทำงานอัตโนมัติพร้อมการประมวลผลโดยตรงทั่วทั้งสำนักงานส่วนหน้าและส่วนกลางสำหรับการสร้างพอร์ตโฟลิโอ การวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน การจัดการคำสั่งซื้อ และการปฏิบัติตามข้อกำหนดก่อนและหลังการซื้อขาย แพลตฟอร์มจะจัดหาข้อมูลเงินสด สถานะ และหลักประกันที่มีอยู่ในแบบเรียลไทม์ และส่งมอบข้อมูลตัวชี้วัดเพื่อช่วยให้การดำเนินงานมีความมีประสิทธิภาพสูงสุด

"เนื่องจากแผนการลงทุนเปลี่ยนไป สินทรัพย์มีความหลากหลายและกลยุทธ์การลงทุนมีความซับซ้อนมากขึ้น จึงมีความต้องการระบบที่สามารถรองรับการตัดสินใจลงทุนที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้นเรื่อยๆ " ดร. ศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการ กบข. กล่าว "การเลือก Charles River IMS เป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจรในการจัดการกระบวนการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ จะช่วยให้เกิดระบบอัตโนมัติที่ดียิ่งขึ้น ขับเคลื่อนประสิทธิภาพ และสนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างทีม ช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตและให้บริการสมาชิกของเราได้ดียิ่งขึ้น"

"Charles River มีประวัติอันยาวนานในการทำงานร่วมกับกองทุนบำเหน็จบำนาญและเจ้าของทรัพย์สินอื่นๆ ทั่วภูมิภาค APAC และเราเข้าใจและสนับสนุนความต้องการทางธุรกิจเฉพาะของพวกเขา" Dennis Baillon ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ APAC ของ Charles River Development กล่าว "แพลตฟอร์มของเราช่วยให้บริษัทต่างๆ เช่น กบข.รวมรูปแบบการดำเนินงานของตนเข้ากับความยืดหยุ่นในการรวมเทคโนโลยีและบริการของเราเพื่อรองรับการเติบโต ไม่ว่าจะผ่านทางการกระจายความเสี่ยงไปสู่กลยุทธ์ใหม่ ประเภทสินทรัพย์ หรือภูมิศาสตร์"

State Street ให้บริการนักลงทุนสถาบันในประเทศไทยมานานกว่า 25 ปี โดยก่อตั้งสำนักงานตัวแทนในปี 2014 เมื่อเวลาผ่านไป ข้อเสนอของบริษัทได้เติบโตขึ้นจากการดูแล บริการการจัดการการลงทุน และการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ไปจนถึงการเงินด้านหลักทรัพย์ ประสิทธิภาพ ความเสี่ยง และการวิเคราะห์ ESG ควบคู่ไปกับเทคโนโลยีสำนักงานส่วนหน้าในตลาดภาครัฐและเอกชนผ่านทาง Charles River

"เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่กบข.ไว้วางใจให้ State Street ช่วยจัดการพอร์ตการลงทุนที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ " Kevin Hardy หัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ State Street กล่าว "ในฐานะที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยจึงเป็นตลาดที่มีการเติบโตที่น่าตื่นเต้นสำหรับ State Street โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแพลตฟอร์มการให้บริการสินทรัพย์แบบส่วนหน้าจนถึงส่วนเบื้องหลังที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลของเรา State Street Alpha® เรามุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถและมอบบริการที่เป็นเลิศแก่นักลงทุนสถาบันในประเทศไทย"

เกี่ยวกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 ในปี 1996 และจัดให้มีการจ่ายเงินบำเหน็จและบำเหน็จบำนาญแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐเมื่อเสร็จสิ้นการรับราชการ กองทุนได้เติบโตขึ้นจนเป็นหนึ่งในกองทุนบำเหน็จบำนาญที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยบริหารจัดการมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดประมาณ 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับสมาชิก 1.2 ล้านคน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ https://www.gpf.or.th/

เกี่ยวกับ Charles River บริษัทในเครือ State Street Company

ผู้จัดการด้านการลงทุน ความมั่งคั่ง และทางเลือก เจ้าของสินทรัพย์ และบริษัทประกันในกว่า 30 ประเทศพึ่งพา Charles River IMS ในการจัดการสินทรัพย์มูลค่าประมาณ 58 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วมกับบริการสำนักงานส่วนกลางและส่วนเบื้องหลังของ State Street เทคโนโลยีสำนักงานส่วนหน้าที่ทำงานบนคลาวด์ของ Charles River ก่อให้เกิดรากฐานของ State Street Alpha® Charles River ช่วยทำให้กระบวนการลงทุนในประเภทสินทรัพย์ต่างๆ เป็นอัตโนมัติและลดความซับซ้อน ตั้งแต่การจัดการพอร์ตการลงทุนและการวิเคราะห์ความเสี่ยงไปจนถึงการซื้อขายและการชำระบัญชีหลังการซื้อขาย โดยมีการปฏิบัติตามกฎระเบียบแบบบูรณาการและข้อมูลที่ได้รับการจัดการตลอดทั้งระบบ ระบบนิเวศของพันธมิตรของ Charles River ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูล การวิเคราะห์ แอปพลิเคชัน และผู้ให้บริการสภาพคล่องที่สนับสนุนการผสมผสานผลิตภัณฑ์และสินทรัพย์ของตน เราให้บริการลูกค้าทั่วโลกด้วยพนักงานมากกว่า 1,250 คนในสำนักงานภูมิภาค 11 แห่ง (สถิติ ณ ไตรมาส 2 ปี 2023)

เกี่ยวกับ State Street Corporation

State Street Corporation (NYSE: STT) คือหนึ่งในผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำของโลกแก่นักลงทุนสถาบัน รวมถึงบริการด้านการลงทุน การจัดการการลงทุน ตลอดจนการวิจัยและการซื้อขายการลงทุน ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การดูแลและ/หรือการบริหารมูลค่า 39.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมูลค่า 3.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ* ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2023 State Street ดำเนินงานทั่วโลกในตลาดทางภูมิศาสตร์มากกว่า 100 แห่ง และมีพนักงานประมาณ 43,000 คนทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่เว็บไซต์ของ State Street ที่ www.statestreet.com

*สินทรัพย์ภายใต้การบริหาร วันที่ 30 มิถุนายน 2023 ประกอบด้วยสินทรัพย์ประมาณ 63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ SPDR® ซึ่ง State Street Global Advisors Funds Distributors, LLC (SSGA FD) ทำหน้าที่เป็นตัวแทนการตลาดแต่เพียงผู้เดียว SSGA FD และ State Street Global Advisors อยู่ในเครือเดียวกัน

© 2023 State Street Corporation – สงวนลิขสิทธิ์
State Street Corporation, One Lincoln St, Boston MA 02111

การจำแนกประเภทข้อมูล: ทั่วไป

5907051.1.1.APAC.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ
Kellie Smith
kelliesmith@crd.com
+61 3 8628 0100 ต่อ: 1171

Kate Cheung
kate.cheung@statestreet.com
+852 3556 1103

ที่มา: Charles River Development

Starr แต่งตั้ง Sean Chen เป็น CEO ของ Starr Singapore

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–30 สิงหาคม 2023

Starr Insurance ได้ประกาศในวันนี้ว่า คุณ Sean Chen สมาชิกระยะเวลา 14 ปีในทีมงานระดับโลกของ Starr ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ Starr International Insurance ( Singapore) Pte. Ltd. (Starr Singapore) มีผลตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม

Sean Chen, CEO of Starr Singapore (Photo: Business Wire)

คุณ Sean Chen ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Starr Singapore (รูปภาพ: Business Wire)

Sean เพิ่งได้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการประจำภูมิภาคของ Starr ประจำเกาหลี ไต้หวัน และญี่ปุ่น ในด้านอสังหาริมทรัพย์ พลังงาน และการก่อสร้าง โดยก่อนหน้านี้เขาเคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการพิจารณารับประกันภัยทรัพย์สินอาวุโสในสำนักงานของ Starr ในฮ่องกง ดังนั้นเมื่อรวมการทำงานที่ Starr แล้ว Sean มีประสบการณ์มากกว่า 25 ปีในด้านการรับประกันภัยและลูกค้าสัมพันธ์ทั้งในด้านผู้ให้บริการประกันภัยและนายหน้าของธุรกิจ

“เราโชคดีที่มีผู้บริหารที่มีความสามารถแบบ Sean และเขามีประสบการณ์ด้านการพิจารณารับประกันภัยที่กว้างขวาง เพื่อช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตในเอเชีย” Maurice R. Greenberg ประธานและ CEO ของ Starr Insurance กล่าว “ความก้าวหน้าของ Sean ตอกย้ำความแข็งแกร่งของ Starr ในฐานะสถานที่ที่ผู้คนสามารถเติบโตไปพร้อมกับบริษัทได้”

Sean เข้ามารับตำแหน่งต่อจาก Phil Finley ในตำแหน่ง CEO ของ Starr Singapore เมื่อเร็วๆ นี้ Philได้ย้ายมาประเทศไทยในตำแหน่ง CEO ของบริษัท Starr International Insurance (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เพื่อดูแลการขยายธุรกิจใหม่ที่สำคัญดังกล่าวให้กับStarr ขณะเดียวกันก็ยังคงเป็นผู้นำฝ่ายปฏิบัติการในเอเชียของStarr ในตำแหน่งประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

เกี่ยวกับ Starr Insurance

Starr Insurance (หรือ Starr) เป็นชื่อทางการตลาดของบริษัทประกันภัยปฏิบัติการและให้ความช่วยเหลือด้านการเดินทาง และบริษัทในเครือของ Starr International Company, Inc. และสำหรับธุรกิจการลงทุนของ C. V. Starr & Co., Inc. และบริษัทในเครือ Starr เป็นองค์กรประกันภัยและการลงทุนชั้นนำที่มีการดำเนินงานในหกทวีป Starr ให้บริการผลิตภัณฑ์ประกันภัยทรัพย์สิน ประกันวินาศภัย อุบัติเหตุและสุขภาพ ตลอดจนความคุ้มครองพิเศษต่างๆ มากมาย เช่น การบิน ทางทะเล พลังงาน และประกันวินาศภัยส่วนเกิน ผ่านบริษัทประกันภัยที่ดำเนินงานของบริษัท บริษัทในเครือของบริษัทประกันภัยของ Starr ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในสหรัฐอเมริกา เบอร์มิวดา จีน ฮ่องกง มอลตา สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร ต่างก็มี คะแนน A.M. Best rating อยู่ในเกณฑ์ "A" (ดีเยี่ยม) ส่วน Starr’s Lloyd’s syndicate มีคะแนน Standard & Poor อยู่ในเกณฑ์ “A+” (แข็งแกร่ง)

เยี่ยมชมเราได้ที่ www.starrcompanies.com หรือติดตามเราที่ LinkedIn และ Twitter

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53546262/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Charlie Armstrong
รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด
charlie.armstrong@starrcompanies.com, 646.758.8308

ที่มา: Starr Insurance Companies

U. S. Steel ยืนยันการรับข้อเสนอที่ไม่ได้ร้องขอจาก Cleveland-Cliffs และฝ่ายอื่น ๆ อีกหลายแห่ง โดยยืนยันกระบวนการทบทวนกลยุทธ์การแข่งขันเพื่อเพิ่มมูลค่าหุ้นสูงสุด

Logo

  • Cleveland-Cliffs ปฏิเสธที่จะอนุญาตให้มีกระบวนการมาตรฐานในการประเมินข้อเสนอของพวกเขา
  • บริษัทยืนยันคำเชิญให้ Cleveland-Cliffs เข้าร่วมการทบทวนเชิงกลยุทธ์อีกครั้ง

พิตต์สเบิร์ก–(BUSINESS WIRE)–14 สิงหาคม 2023

United States Steel Corporation (NYSE: X) (“U. S. Steel” หรือ “บริษัท”) ยืนยันในวันนี้ว่า บริษัทได้เชิญ Cleveland-Cliffs Inc. (“Cleveland-Cliffs”) เข้าร่วมในกระบวนการทบทวนเชิงกลยุทธ์ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ บริษัทเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าได้เริ่มกระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นทางการด้วยความช่วยเหลือจากที่ปรึกษาทางการเงินและกฎหมายจากภายนอก เพื่อประเมินทางเลือกเชิงกลยุทธ์สำหรับบริษัท หลังจากได้รับข้อเสนอที่ไม่ได้ร้องขอหลายรายการ ซึ่งมีตั้งแต่การได้มาซึ่งสินทรัพย์การผลิตบางอย่างไปจนถึงการพิจารณาสำหรับทั้งบริษัท

บริษัทได้รับข้อเสนอเงินสดและหุ้นที่ไม่ได้ร้องขอจาก Cleveland-Cliffs เพื่อซื้อหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ U. S. Steel ตามรายละเอียดในจดหมายด้านล่าง U. S. Steel ไม่สามารถประเมินข้อเสนอได้อย่างถูกต้องเนื่องจาก Cleveland-Cliffs ปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในกระบวนการที่จำเป็นและเป็นธรรมเนียมในการประเมินมูลค่าและความแน่นอน เว้นแต่ U. S. Steel จะตกลงตามเงื่อนไขทางเศรษฐกิจของข้อเสนอล่วงหน้า

ข้อความเต็มของจดหมายของ U. S. Steel ถึง Cleveland-Cliffs ที่ส่งเมื่อเวลา 12:01 น. ET ของวันที่ 13 สิงหาคม 2023 มีดังต่อไปนี้:

13 สิงหาคม 2023

เรียน Lourenco

ผมเขียนในนามของ United States Steel Corporation (“บริษัท”) เพื่อตอบกลับจดหมายข้อเสนอของ Cleveland-Cliffs Inc. ลงวันที่ 28 กรกฎาคม 2023 และอัปเดตเพิ่มเติมในวันที่ 11 สิงหาคม 2023 นับตั้งแต่ได้รับข้อเสนอเบื้องต้นจากคุณ คณะกรรมการของบริษัทได้ประชุมกันหลายครั้ง โดยได้รับความช่วยเหลือจากที่ปรึกษาทางการเงิน Barclays และ Goldman Sachs และที่ปรึกษากฎหมายของเรา Milbank และ Wachtell เพื่อประเมินข้อดีและความเสี่ยงของข้อเสนอของคุณ

ตามคำแนะนำของผมและคณะกรรมการ ที่ปรึกษาของเราระบุว่าเราเต็มใจที่จะเข้าร่วม NDA กับคุณในวันที่ 7 สิงหาคม 2023 เพื่อให้เรามีความชัดเจนเพิ่มเติมในประเด็นสำคัญหลายประการ รวมถึงการประเมินมูลค่าหุ้นในข้อเสนอของคุณ ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ และ ระยะเวลาตลอดจนโอกาสสำหรับบริษัทที่ควบรวมกัน เราได้หารือกับที่ปรึกษาของคุณด้วยคำถามที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้เราทั้งคู่สามารถประเมินความเสี่ยงในการต่อต้านการผูกขาดของข้อเสนอของคุณได้อย่างเหมาะสม และในขณะที่ที่ปรึกษาของคุณตกลงว่าสิ่งนี้จะต้องได้รับการวิเคราะห์ และเห็นด้วยกับข้อเสนอของเราที่จะทำงานร่วมกัน สิ่งนี้ก็ยังไม่เกิดขึ้น หลังจากการสนทนาหลายครั้งและทีมของเราได้เข้าร่วมในการเจรจาโดยสุจริตเกี่ยวกับข้อกำหนดของ NDA เราตกใจมากที่ได้รับจดหมายในวันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม ซึ่งระบุว่าคุณปฏิเสธที่จะลงนามใน NDA ที่ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ เว้นแต่เราจะยอมรับเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ ข้อเสนอของคุณล่วงหน้า

อย่างที่คุณทราบดีว่า คณะกรรมการของเรา หรือคณะกรรมการใด ๆ ไม่มีความสอดคล้องกับหน้าที่ที่ได้รับความไว้วางใจ เห็นด้วยกับข้อเสนอที่หุ้นของคุณเป็นตัวแทน 50% โดยไม่ดำเนินการตามกระบวนการตรวจสอบสถานะตามธรรมเนียมปฏิบัติอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อประเมินความเสี่ยงและแนวโน้มขาขึ้นและขาลงที่อาจเกิดขึ้นในการทำธุรกรรม รวมถึงส่วนประกอบของหุ้น การทำอย่างอื่นจะเท่ากับการยอมรับราคาโดยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วหมายถึงอะไร และคณะกรรมการของเราไม่สามารถตกลงกับ "ราคาพาดหัว" ของคุณได้ หากไม่มีการพูดคุยที่เหมาะสมภายใต้ NDA เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของ U. S. Steel ต่อมูลค่าของธุรกิจที่รวมกัน การผลักดันให้คณะกรรมการของเราทำเช่นนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความต้องการที่จะละเมิดหน้าที่ที่ได้รับความไว้วางใจ

บริษัทที่นำโดยคณะกรรมการและทีมผู้บริหารมีความคืบหน้าอย่างมากในการเปลี่ยน บริษัท ให้กลายเป็นผู้ผลิตเหล็ก Best for All® ที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลางและแข่งขันได้ทั่วโลก ในขณะที่เรายังคงได้รับชัยชนะในตลาดเชิงกลยุทธ์ เลื่อนเส้นต้นทุนลง และเลื่อนเส้นแสดงความสามารถขึ้น กลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วนี้ช่วยให้ลูกค้าได้รับโซลูชันเหล็กที่ให้ผลกำไรสำหรับผู้คนและโลกใบนี้ ในขณะที่ให้รางวัลแก่ผู้ถือหุ้นของเรา ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ เราไม่สามารถระบุได้ว่าข้อเสนอที่ไม่ได้ร้องขอของคุณสะท้อนมูลค่าของบริษัททั้งหมดและยุติธรรมได้อย่างถูกต้องหรือไม่

ด้วยเหตุผลทั้งหมดข้างต้น คณะกรรมการไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปฏิเสธข้อเสนอที่ไม่สมเหตุสมผลของคุณ

U. S. Steel Board ยังคงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้น และด้วยเหตุนี้จึงได้ตัดสินใจที่จะเริ่มกระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นทางการเพื่อประเมินทางเลือกเชิงกลยุทธ์ หากคุณต้องการมีส่วนร่วมในกระบวนการดังกล่าว เราขอเชิญคุณติดต่อตัวแทนทางการเงินและกฎหมายของเรา และยินดีต้อนรับคุณเข้าร่วมกระบวนการของเรา

ขอแสดงความนับถือ

David Burritt

กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

ที่ปรึกษา

Barclays Capital Inc. และ Goldman Sachs & Co. LLC ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ U. S. Steel และมี Milbank LLP และ Wachtell, Lipton, Rosen & Katz ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย

United States Steel Corporation ก่อตั้งขึ้นในปี 1901 เป็นผู้ผลิตเหล็กชั้นนำ ด้วยการมุ่งเน้นที่ไม่เปลี่ยนแปลงในเรื่องความปลอดภัย กลยุทธ์ Best for All® ที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางของบริษัทกำลังทำให้อนาคตมีความปลอดภัยและยั่งยืนมากขึ้นสำหรับ U. S. Steel และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ด้วยการเน้นที่นวัตกรรมใหม่ U. S. Steel ให้บริการอุตสาหกรรมยานยนต์ การก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า พลังงาน ตู้คอนเทนเนอร์และบรรจุภัณฑ์ด้วยผลิตภัณฑ์เหล็กที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เช่น เหล็กกล้ากำลังสูงขั้นสูง XG3® ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ U. S. Steel บริษัทยังคงรักษาการผลิตแร่เหล็กที่ได้เปรียบในการแข่งขัน และมีความสามารถในการผลิตเหล็กดิบต่อปีที่ 22.4 ล้านตันสุทธิ U. S. Steel มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย โดยมีการดำเนินงานระดับโลกทั่วสหรัฐอเมริกาและในยุโรปกลาง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม www.ussteel.com

หมายเหตุข้อควรระวังเกี่ยวกับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ประกอบด้วยข้อมูลที่อาจเป็น "ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า" ตามความหมายของมาตรา 27A ของกฎหมายหลักทรัพย์ปี 1933 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม และมาตรา 21E ของกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ปี 1934 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม เราตั้งใจให้ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตได้รับการคุ้มครองโดยบทบัญญัติคุ้มครองความปลอดภัยสำหรับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าในส่วนเหล่านั้น โดยทั่วไป เราได้ระบุข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าวโดยใช้คำว่า "เชื่อ" "คาดหวัง" "ตั้งใจ" "ประมาณการ" "คาดการณ์" "โครงการ" "เป้าหมาย" "คาดการณ์" "จุดมุ่งหมาย" “ควร” “วางแผน” “เป้าหมาย” “อนาคต” “จะ” “อาจ” และการแสดงออกที่คล้ายกันหรือโดยใช้วันที่ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การไม่มีคำเหล่านี้หรือการแสดงออกที่คล้ายคลึงกันไม่ได้หมายความว่าแถลงการณ์ไม่ได้เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตไม่ใช่ข้อเท็จจริงในอดีต แต่แทนที่จะเป็นเพียงความเชื่อของบริษัทเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคต ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว หลาย ๆ อย่างมีความไม่แน่นอนโดยเนื้อแท้และอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัท เป็นไปได้ว่าผลลัพธ์ที่แท้จริง สถานะทางการเงิน และการพัฒนาของบริษัทอาจแตกต่างไปจากผลลัพธ์ การพัฒนา และสถานะทางการเงินที่คาดการณ์ไว้ซึ่งระบุไว้ในข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ ฝ่ายบริหารเชื่อว่าแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้มีความสมเหตุสมผล ณ เวลาที่จัดทำขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรใช้ความระมัดระวังที่จะไม่เชื่อถือข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ มากเกินไป เนื่องจากข้อความดังกล่าวกล่าวถึง ณ วันที่ที่สร้างขึ้นเท่านั้น บริษัทของเราไม่มีข้อผูกมัดในการปรับปรุงหรือแก้ไขข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตใด ๆ ต่อสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นผลจากข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคตหรืออื่น ๆ ยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้ายังมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากประสบการณ์ในอดีตของบริษัทและความคาดหวังหรือการคาดการณ์ในปัจจุบันของเรา ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเหล่านี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการบรรลุวัตถุประสงค์ของกระบวนการทบทวนทางเลือกเชิงกลยุทธ์หรือไม่ ข้อกำหนด โครงสร้าง ผลประโยชน์และต้นทุนของธุรกรรมเชิงกลยุทธ์ใด ๆ ระยะเวลาของธุรกรรมใด ๆ และธุรกรรมใด ๆ จะเสร็จสมบูรณ์หรือไม่ ความเสี่ยงที่การทบทวนทางเลือกเชิงกลยุทธ์และการประกาศอาจส่งผลในทางลบต่อความสามารถของบริษัทในการรักษาลูกค้า รักษาและจ้างบุคลากรหลัก และรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า ซัพพลายเออร์ พนักงาน ผู้ถือหุ้น และความสัมพันธ์ทางธุรกิจอื่น ๆ และต่อผลการดำเนินงาน และธุรกิจโดยทั่วไป ความเสี่ยงที่การตรวจสอบทางเลือกเชิงกลยุทธ์อาจหันเหความสนใจและเวลาของการจัดการของบริษัท ความเสี่ยงของต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดอันเป็นผลจากการทบทวน ความเสี่ยงจากการถูกฟ้องร้องที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ และความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อธิบายไว้ใน “ข้อ 1A ปัจจัยความเสี่ยง” ในรายงานประจำปี Form 10-K สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2022 และที่อธิบายเป็นครั้งคราวในรายงานในอนาคตของเราที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Tara Carraro
รองประธานอาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่สื่อสาร
T- 412-433-1300
E- media@uss.com

Kelly Sullivan / Ed Trissel
Joele Frank, Wilkinson Brimmer Katcher
T- 212-355-4449

Kevin Lewis
รองประธาน
การเงิน
T- 412-433-6935
E- klewis@uss.com

แหล่งที่มา: United States Steel Corporation

The Bangkok Reporter