หมู่บ้านชอนจูฮันอกพร้อมนำเสนอทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงาม

Logo

ชอนจู เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–24 พฤศจิายน 2022

Jeonju City ประกาศว่า "โครงการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกทางวัฒนธรรมหมู่บ้านฮันอกและตรอกซอกซอยยามค่ำคืน" เสร็จสมบูรณ์แล้ว

Jeonju Hanok Village offers a new unique atmosphere to its night view: Jeonju Daesaseupcheong (Photo: Business Wire)

หมู่บ้านชอนจูฮันอกนำเสนอบรรยากาศใหม่ที่ไม่ซ้ำใครสำหรับทิวทัศน์ยามค่ำคืนของหมู่บ้าน: Jeonju Daesaseupcheong (รูปภาพ: Business Wire)

ขณะนี้ได้มีการให้บริการนักท่องเที่ยวและประชาชนให้สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงามได้อย่างปลอดภัย โดยคาดว่าหมู่บ้านฮันอกจะมีการเพิ่มให้บริการทัวร์รอบดึกด้วย

Jeonju City ได้ติดตั้งไฟตกแต่งสวนที่ถนนแทโจ ถนนสายหลักของหมู่บ้านฮันอก และอุปกรณ์ให้แสงสว่าง รวมถึงโคมไฟแบบดั้งเดิมในสถานที่ทางวัฒนธรรมและตรอกซอกซอย เพื่อช่วยให้ผู้มาเยือนได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านชอนจูฮันอกในตอนกลางคืน

โคมไฟชองซาโชรง (Cheongsachorong) ที่ติดไว้ตามทางเข้าหมู่บ้านสร้างโซนเงาหลังจากปิดไฟในร้านค้า และเพื่อรับรองความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและผู้มาเยือน Jeonju City ได้ปรับปรุงสภาพแวดล้อมของหมู่บ้านผ่านโครงการปรับปรุงทิวทัศน์ยามค่ำคืน

ทั้งยังมีการติดตั้งแสงสว่างภายนอกในสถานที่ต่าง ๆ ทางวัฒนธรรม เช่น ศูนย์วัฒนธรรม Jeonju Fan, พิพิธภัณฑ์วรรณกรรม Choi Myeong Hee, Daesaseupcheong, Marudal, ศูนย์วัฒนธรรม Wanpanbon และพื้นที่ศิลปะสร้างสรรค์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่ม "แสงไฟอันอบอุ่น" ให้กับสถานที่ต่างๆ ทางวัฒนธรรมที่ฮันอก

นอกจากนี้ Jeonju City ยังมีการติดตั้งโคมไฟแบบดั้งเดิมและโคมไฟติดผนังเพื่อเปลี่ยนตรอกซอกซอยที่เงียบสงบให้เป็นถนนที่ปลอดภัยซึ่งเต็มไปด้วยแสงไฟอันอบอุ่น

“เราได้ปรับเปลี่ยนหมู่บ้านชอนจูฮันอก ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของเกาหลีและระดับโลก ผ่านโครงการนี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับความงามและเสน่ห์ของหมู่บ้านในยามค่ำคืน” ผู้อำนวยการ Heo Gap-su จากแผนกสนับสนุนหมู่บ้านฮันอกของ Jeonju City กล่าว “เราจะทุ่มเทความพยายามของเราต่อไปในการปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อให้หมู่บ้านชอนจูฮันอกเป็นที่จดจำของนักท่องเที่ยวและเป็นสถานที่ที่พวกเขาจะกลับมาเยี่ยมชมอีกครั้งทั้งในยามกลางวันและกลางคืน”

แกลเลอรีรูปภาพ/มัลติมีเดีย: https://www.businesswire.com/news/home/52977732/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

JEONJU CITY
Inuk Hwang
+82-63-281-2226
inuk0614@korea.kr

แหล่งข้อมูล: JEONJU CITY


Mary Kay ให้ความสำคัญในการยกระดับการพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรีทั่วโลกผ่านความร่วมมือกับพันธมิตร

Logo

เพื่อเป็นการรำลึกถึงวันผู้ประกอบการสตรี (Women’s Entrepreneurship Day) Mary Kay มีการผสานงานร่วมมือกันกับพันธมิตรเพื่อปลดล็อกศักยภาพของผู้ประกอบการที่เป็นสตรีในทุกแห่งหน

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–23 พฤศจิกายน 2022 

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนหลักในการเสริมสร้างพลังอำนาจทางเศรษฐกิจให้แก่สตรีและความเท่าเทียมทางเพศ จัดงานวันผู้ประกอบการสตรีขึ้นในวันนี้ โดยยืนยันความมุ่งมั่นระดับสากลที่มีต่อผู้ประกอบการที่เป็นสตรีผ่านความร่วมมือจากพันธมิตรต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นการยกระดับและพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรี

Deborah Gibbins, Mary Kay’s Chief Operating Officer (Photo courtesy: Mary Kay Inc.)

Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการของ Mary Kay (เอื้อเฟื้อภาพโดย Mary Kay Inc.)

Mary Kay ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการที่มีการดำเนินการในเกือบ 35 ประเทศ เป็นผู้สนับสนุนหลักในการส่งเสริมสตรีและสนับสนุนแรงบันดาลใจในการเป็นผู้ประกอบการมาเกือบ 60 ปี โดยบริษัทมีการร่วมมือกันกับพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มุ่งเน้นให้มีผลระดับสากล และช่วยขจัดอุปสรรคในการเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของสตรี และผสานรวมพลังของสตรีในระบบนิเวศของผู้ประกอบการ

ศักยภาพและความท้าทายในการเป็นผู้ประกอบการที่เป็นสตรี

การขยายการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของผู้หญิงจะช่วยยกระดับครอบครัว เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชน และทำให้สังคมมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น จากข้อมูลรายงานแสดงให้เห็นว่า ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะลงทุนเพิ่มสูงถึง 90% จากรายได้ในครอบครัวและชุมชนท้องถิ่น 1 การวิจัยยังแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของสามารถฟื้นตัวได้ไว มีความคล่องตัว และมีความยั่งยืนสูง แม้จะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ไม่เสถียร 2 ธุรกิจที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของมักจะตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ด้วยนวัตกรรมในการจัดการกับความท้าทายระดับสากลที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ

นอกเหนือจากผลกระทบทวีคูณในการเป็นผู้ประกอบการที่เป็นสตรี สตรีในธุรกิจยังคงเผชิญกับอุปสรรคทั่วโลกอันเป็นผลมาจากโอกาสในการเข้าถึงเงินทุนที่ไม่เท่าเทียมกัน การศึกษาระดับมืออาชีพ การมีส่วนร่วมในห่วงโซ่คุณค่าระดับโลก และการเข้าถึงตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการของพวกเธอ ทั้งหมดนี้เป็นอุปสรรคจากกฎหมายความไม่เท่าเทียมกัน 2022 Women, Business and the Law Report พบว่า ผู้หญิงในวัยทำงานกว่า 2.4 พันล้านคนยังคงไม่ได้รับสิทธิทางเศรษฐกิจเท่ากันกับผู้ชาย 3

ความท้าทายนี้เป็นวงกว้างมากจน 2022 Global Gender Gap Report มีการระบุว่า จะต้องใช้เวลาถึง 151 ปีกว่าจะสามารถปิดช่องว่างสำหรับการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจและช่องว่างระว่างเพศได้ 4

เมื่อผู้หญิงถูกกีดกันจากระบบนิเวศของการเป็นผู้ประกอบการ นั่นหมายถึง บริษัทและนักลงทุนกำลังพลาดโอกาสในการลงทุนครั้งใหญ่ อย่างเช่นในยุโรป มีผลจากการศึกษาว่า ถึงแม้ว่าผู้หญิงจะได้รับเงินลงทุนน้อยกว่าผู้ชายกึ่งหนึ่ง แต่บริษัทของพวกเธอก็สามารถสร้างรายได้สูงกว่าเป็นสองเท่าสำหรับทุกดอลลาร์ที่ลงทุนไป 5

โดยสอดคล้องกับพันธกิจในการส่งเสริมให้ผู้หญิงมีชีวิตที่ดีขึ้น Mary Kay และพันธมิตรมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรีและสนับสนุนผู้ประกอบการที่เป็นสตรีในทุกแห่งหน

การตระหนักว่า การเสริมกำลังอำนาจของผู้หญิงและความเท่าเทียมทางเพศเป็นปัจจัยสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ความยั่งยืน 10 ปีของ Mary Kay ที่เปิดตัวในปี 2021 ในเรื่อง การสร้างเสริมชีวิตในวันนี้ให้ดียิ่งขึ้นเพื่อความยั่งยืนในอนาคต ถือเป็นการสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศและความมุ่งมั่นหลักในการเสริมศักยภาพให้แก่สตรี 5 ล้านคนทั่วโลกภายในปี 2030 ผ่านการริเริ่มและความร่วมมือที่สำคัญ การส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของสตรีให้ก้าวหน้าไม่เพียงส่งผลดีต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน แต่ยังทำให้มั่นใจได้ว่า ทุกคนจะมีชีวิตที่ดีและเท่าเทียมกัน ซึ่งเป็นหลักการสำคัญสำหรับวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนในปี 2030

“ด้วยแรงบันดาลใจจากพันธกิจของเราในฐานะที่เป็นบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการที่ก่อตั้งขึ้นโดยสตรีเพื่อสตรี เราเชื่อว่าการลงทุนและการส่งเสริมสตรีให้ตระหนักถึงประโยชน์ที่พวกเขาจะได้รับจากการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจ ไม่เพียงเฉพาะในเชิงเศรษฐกิจ แต่ยังรวมถึงสังคมโดยรวมด้วยเช่นกัน เรากำลังปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์สำหรับผู้ประกอบการที่เป็นสตรีโดยการจัดการกับอุปสรรคที่พวกเธอจะต้องเผชิญ โดยผ่านพันธมิตรหลักเพื่อยกระดับสถานะที่เป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้น” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว

ความร่วมมือที่สำคัญซึ่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรีทั่วโลก ได้แก่

  • โครงการหมู่บ้านนำร่อง SDG ในประเทศจีนเป็นโครงการพัฒนาเพื่อลดความยากจนที่มุ่งเน้นสตรี
    • การตระหนักในการพัฒนาชีวิตของผู้หญิงในชนบท ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้กับความยากจนและการบรรลุการพัฒนาอย่างยั่งยืน UNDP China และ Mary Kay ร่วมมือกับรัฐบาลจีน ภาครัฐ และพันธมิตร NGO ได้เปิดตัว โครงการหมู่บ้านนำร่อง SDG ใน Waipula มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ในปี 20176 โดยโครงการร่วมดังกล่าวเป็นการขจัดอุปสรรคในการพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรีโดยสร้างเสริมการคุ้มครองทางสังคมและการสร้างโอกาสในการเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ ด้วยการสนับสนุนการยกระดับความเป็นผู้นำที่เป็นสตรีให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจสำหรับชุมชน
    • อันเป็นผลจากโครงการที่มุ่งเน้นทางเพศ (เฟส I: 2017-2021):
      • อัตราความยากจนในท้องถิ่นภายในหมู่บ้านลดลงจาก 28% ในปี 2017 เป็น 0% ในปี 2020
      • ด้วยการฝึกอบรมและสร้างเสริมศักยภาพ 60 ครัวเรือน และ 193 รายที่เคยมีความเป็นอยู่ยากแค้นได้มีชีวิตที่ดีขึ้นและไม่อยู่ในกลุ่มยากจนในปี 2020
      • แรงงานข้ามชาติตามฤดูกาล 210 ราย และแรงงานข้ามชาติถาวร 120 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานสตรี สามารถกลับไปทำงานที่ภูมิลำเนาหรือเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง และกลับไปอยู่ร่วมกับลูกหลานและครอบครัวได้
      • ผู้หญิงในท้องถิ่น 607 ราย มีงานทำและมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยบางคนได้รับโอกาสเป็นผู้นำชุมชน มีบทบาทเป็นสมาชิกของคณะกรรมการหมู่บ้าน และเป็นผู้จัดการในงานต้อนรับและศิลปะในท้องถิ่น
      • รายได้ต่อหัวประชากรเพิ่มขึ้นเป็น 14,128 หยวน / 2,107 ดอลลาร์ ในปี 2021
      • โครงการขยายการพัฒนาหมู่บ้าน SDG 12 แห่ง จาก 17 แห่ง
  • The WE Empower UN SDG Challenge – การสนับสนุนผู้ประกอบการทางสังคมที่เป็นสตรี
    • นับจากปี 2019 Mary Kay เป็นพันธมิตรหลักของ The WE Empower UN SDG Challenge โดยมีความคิดริเริ่มที่นำโดย Vital Voices และ Global Futures Laboratory ที่ Arizona State University ซึ่งการแข่งขันประจำปีนี้จะเป็นการคัดหาผู้ประกอบการที่เป็นสตรี 5 รายที่พัฒนา SDG ในชุมชนของพวกเขาและผู้ชนะจะได้รับการฝึกอบรมการสร้างเสริมศักยภาพและเข้าพบปะกับผู้เชี่ยวชาญทางธุรกิจทั่วโลก
  • The Women’s Entrepreneurship Accelerator
    • ในปี 2019 ร่วมกับ 6 หน่วยงานของ UN Mary Kay ได้จัดตั้ง Women’s Entrepreneurship Accelerator (WEA) ขึ้น โดยมีพันธกิจในการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการทำงานสำหรับผู้ประกอบการที่เป็นสตรี
    • หน่วยงานของ UN ทั้ง 6 หน่วยงานที่ร่วมก่อตั้ง WEA ขึ้นประกอบด้วย International Labour Organization (ILO), International Trade Centre (ITC), International Telecommunication Union (ITU), UN Global Compact (UNGC), the United Nations Development Programme (UNDP) และ UN Women

ความสำเร็จขั้นสำคัญผ่านโปรแกรม WOMEN’S ENTREPRENEURSHIP ACCELERATOR ได้แก่

  • การพัฒนานโยบายผู้ประกอบการในเม็กซิโกและบราซิล
    • ในช่วงปี 2020 และ 2021 ILO ได้ดำเนินการและทำรายงานการประเมินเงื่อนไขเชิงนโยบาลเกี่ยวกับการพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรี (WED) ซึ่งมีผลกระทบต่อการเป็นผู้ประกอบการที่เป็นสตรีในภาคเชิงพาณิชย์และภาคอุตสาหกรรมในเม็กซิโกซิตี้ ด้วยการสนับสนุนจาก WEA การประเมินนี้ประกอบด้วยชุดคำแนะนำที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ 19 ข้อสำหรับการรับมือกับช่องว่างทางสถาบันที่มีอยู่สำหรับผู้ประกอบการที่เป็นสตรี ในบราซิล ILO มีการทำงานร่วมกับ Serviçio Nacional de Aprendizagem Industrial (SENAI) เพื่อสนับสนุนการพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรีผ่านการสื่อสารและการรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนัก การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพ และกิจกรรมต่าง ๆ
  • การเปิดตัว Women’s Entrepreneurship EXPO
    • ในปี 2021 Women’s Entrepreneurship EXPO ครั้งแรกที่จัดขึ้นโดย UN Women โดยได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay ได้จัดค่ายฝึกปฏิบัติทั่วภูมิภาคยุโรปและเอเชียกลาง (ECA) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการที่เป็นสตรีในการดึงดูดการลงทุน โดย Investors Pitch Finale สิ้นสุดลงในเดือนเมษายน ปี 2022 ซึ่งมีผู้ประกอบการที่เป็นสตรี 25 คนจาก 9 ประเทศ (ตุรกี บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา จอร์เจีย คาซัคสถาน โคโซโว คีร์กีซสถาน มาซิโคเนียเหนือ มอลโดวา และเซอร์เบีย) เข้าร่วมนำเสนอแผนธุรกิจตั้งต้นและการเริ่มต้นธุรกิจและเผชิญกับปัญหาความท้าทายที่ผู้ประกอบการที่เป็นสตรีต้องเผชิญในการขยายธุรกิจ นั่นก็คือ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน หลังการนำเสนอ นักลงทุนได้ให้การสนับสนุนทางการเงิน คำปรึกษา และโอกาสในการสร้างเครือข่ายให้แก่ผู้ประกอบการที่เป็นสตรีเพื่อช่วยในการขยายธุรกิจของพวกเขา
    • ในเดือนนี้ Women’s Entrepreneurship EXPO ครั้งที่สอง ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่าง PricewaterhouseCoopersEuropean Bank for Reconstruction and Development และ Yildiz Holding ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Women’s Entrepreneurship Accelerator และได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay โดยมีการนำผู้ประกอบการที่เป็นสตรีและพันธมิตรทางธุรกิจเข้ามารวมตัวกัน เพื่อระดมความคิดและดำเนินการอย่างเฉพาะเจาะจงในการพัฒนาภูมิทัศน์สำหรับการพัฒนาผู้ประกอบการที่เป็นสตรี
  • การพัฒนาทักษะทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ไฟแรง
    • ITC SheTrades เปิดคอร์สออนไลน์ฟรีโปรแกรมแรก โปรแกรมประกาศนียบัตรการเป็นผู้ประกอบการ โดยได้รับการสนับสนุนจาก WEA ในเดือนมกราคม ปี 2022 และจัดทำโดย Mary Kay โดยลักสูตรดิจิทัล 27 โมดูลซึ่งครอบคลุม 7 ชั้นตอนหลักของเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการ มีให้บริการทั้งภาษาอังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส และเร็ว ๆ นี้จะมีการขยายบริการในภาษาอาหรับ รัสเซีย และจีน หลักสูตรนี้ประกอบด้วย 200 วิดีโอ และมีเป้าหมายเพื่อสอนทักษะในการออกแบบและเริ่มต้นธุรกิจ โดยผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้วิธีการปรับใช้วัฒนธรรมการเป็นผู้ประกอบการ พัฒนาแนวคิดทางธุรกิจ และเรียนรู้วิธีการเริ่มต้นธุรกิจ จัดเตรียมโมเดลธุรกิจ ออกแบบการนำเสนอ ระบุแหล่งเงินทุน ค้นหาพันธมิตรและที่ปรึกษาที่เหมาะสม และการสร้างทีม
    • ในปี 2022 ITU ได้พัฒนาโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาช่องว่างทางทักษะด้านดิจิทัลในเพศต่าง โดยนำเสนอให้ผู้หญิงและเด็กสามารถเข้าร่วมโครงการได้ฟรี สามารถเรียนรู้ในโมดูลที่มีคุณภาพสูง ซึ่งจำเป็นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจด้านดิจิทัล โครงการนี้จะมีการแปลเป็นหลายภาษาในปี 2023 โดยได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay ซึ่งโครงการนี้จะประกอบด้วย โมดูลออนไลน์ 17 โมดูล ตัวอย่างเช่น การฝึกอบรมทักษะด้านดิจิทัลโดยทั่วไปในภาคสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่ที่เป็นสตรี และทักษะด้านการจัดการด้านเทคโนโลยีสำหรับผู้ประกอบการที่เป็นสตรี ซึ่งโมดูลการเรียนรู้เหล่านี้จะมีการฝึกอบรมวิชาชีพในวงกว้างสำหรับผู้ประกอบการที่เป็นสตรีทุกคน โดยไม่คำนึงถึงสถานที่หรือจุดมุ่งเน้นทางธุรกิจ
  • การเปิดตัว Global Advocacy Brief เพื่อให้ภาคเอกชนสามารถมีส่วนร่วมใน Gender-Responsive Procurement (GRP)
    • ในปี 2022 UN Women ได้มีการเปิดตัว Advocacy Brief เพื่อสนับสนุน WEA หัวข้อกลยุทธ์ในการจัดซื้อจัดจ้าง เหตุผลที่การจัดซื้อจัดจ้างที่ครอบคลุมทุกเพศทุกวัยมีความเหมาะสมทางธุรกิจ และรวมถึงคำกล่าวจาก Deb Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการของ Mary Kay บทสรุปนี้มุ่งเน้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและความยืดหยุ่นในการรับมือวิกฤตการณ์ในกรณีที่ผู้หญิงและผู้ชายมีสิทธิเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับประโยชน์ในการสร้างเสริมการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในห่วงโซ่อุปทานของภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมการเติบโตและการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยจะมีการพูดคุยท่ามกลางผู้มีส่วนร่วม 374 รายเพื่อสร้างแนวทางธุรกิจที่ควรใช้ GRP
  • เปิดตัวการแข่งขันด้านนวัตกรรมในการสร้างระบบนิเวศดิจิทัลที่ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย
    • ITU ที่สนับสนุนโดย Mary Kay จะมีการจัดการแข่งขันด้านนวัตกรรมแบบเปิดในเดือนหน้า โดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญจะเลือกแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดทางดิจิทัล 10 แนวทาง และโซลูชันดิจิทัลเพื่อสร้างระบบนิเวศที่ครอบคลุมทุกเพศทุกวัยสำหรับสตาร์ทอัพและสเกลอัพเพื่อรับมือกับหลายอุปสรรคที่ผู้ประกอบการที่เป็นสตรีจะต้องเผชิญในการพัฒนาเทคโนโลยี ผู้ชนะจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงโปรแกรมระบบนิเวศนวัตกรรมดิจิทัล และจะได้รับการเสริมสร้างศักยภาพและได้รับการให้คำปรึกษาเฉพาะด้าน

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash หนึ่งในผู้บุกเบิกเพดานกระจกดั้งเดิม ได้สานฝันของตัวเองในการตั้งบริษัทเสริมความงามในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือ การทำให้ผู้หญิงมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น และขยายฝันกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศในทุกวันนี้ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมผู้หญิงผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทในการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์ที่เป็นเบื้องหลังของความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยมีการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ยกระดับความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้ได้รับการละเมิดในครอบครัว สร้างเสริมชุมชนให้ดียิ่งขึ้น และสนับสนุนเด็ก ๆ ให้ทำตามความฝันของตัวเอง เรียนรู้เพิ่มเติมได้ ที่ marykayglobal.com ค้นหาเราได้ที่ FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

________________

1 Harvard Business Review. 2013. “The Global Rise of Female Entrepreneurs.”
2 BNP Paribas Wealth Management. 2020. “2020 Global Entrepreneur Report.” จากรายงานปี 2020 54% ของผู้ประกอบการที่เป็นสตรีระบุว่า นอกเหนือจากรายได้แล้ว การลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ยังเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จสูงสุดในการลงทุน เมื่อเทียบกับผู้ชายที่มีเพียง 41 เปอร์เซ็นต์
3 World Bank. 2022. “Women, Business and the Law 2022.”
4 World Economic Forum. 2022. “Global Gender Gap Report 2022.”
5 European Investment Bank. 2020. “Funding women entrepreneurs: How to empower growth.”
6 พันธมิตร ได้แก่ The China Women’s Development Foundation, the China International Center for Economic and Technical Exchanges, the Women’s Federation of Yunnan Province and Yongren County Government.

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52976803/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

แหล่งข้อมูล: Mary Kay Inc.

พนักงานมีความสุขเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกฉลองวันผู้ปกครอง

Logo

ฮานอย เวียดนาม–(BUSINESS WIRE)–21 พฤศจิกายน 2022

ในขณะที่ทั่วโลกกำลังปลดพนักงานด้านเทคโนโลยี FPT Software ซึ่งเป็นธุรกิจไอทีชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ต้อนรับผู้ปกครองของพนักงานหลายพันคนมาที่สำนักงานเพื่อแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจและมุ่งมั่นที่จะมอบสภาพการทำงานที่ดีที่สุดให้กับพนักงาน

Thousands of employees’ parents are welcomed at FPT Software’s offices across the country (Photo: Business Wire)

ผู้ปกครองของพนักงานหลายพันคนได้รับการต้อนรับที่สำนักงานของ FPT Software ทั่วประเทศ (ภาพ: Business Wire)

ตั้งแต่ปี 2006 วันที่ 19 พฤศจิกายนได้กลายเป็นวันผู้ปกครองสำหรับ FPT Software เพื่อแสดงความขอบคุณต่อผู้ปกครองของพนักงาน โดยจัดขึ้น 1 วันก่อนวันครูของเวียดนามโดยมีความคิดที่ว่าผู้ปกครองควรได้รับเกียรติก่อน ซึ่งบ่งบอกถึงวัฒนธรรมประจำชาติ

งานปีนี้ใช้ธีม “พาผู้ปกครองไปทำงาน” และจัดขึ้นในสี่เมืองใหญ่ โดยมีผู้ปกครองหลายพันคนมาเยี่ยมบริษัท FPT Software ถึงที่ ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีแห่งแรกในเวียดนามที่ริเริ่มแนวคิดนี้ร่วมกับ Google หรือ LinkedIn

ผู้ปกครองของพนักงานจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ทำงานของลูก ๆ หลาน ๆ จากจุดนั้นก็จะได้สัมผัสกับงานทำงานตลอดวัน ตั้งแต่การประชุมบริษัทไปจนถึงพื้นที่รับประทานอาหารกลางวันของบริษัท สิ่งนี้ทำให้ผู้ปกครองมีโอกาสได้เห็นกับตาตัวเองว่าลูก ๆ หลาน ๆ ทำอะไรกันบ้างเมื่อมาทำงาน ซึ่งช่วยให้ครอบครัวคุยกันรู้เรื่องมากขึ้น

วันผู้ปกครองเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดของปี ไม่เพียงแต่พนักงานของ FPT Software เท่านั้น แต่ผู้ปกครองก็ด้วย พนักงานชาวเวียดนามหลายพันคนที่ทำงานในสาขาต่าง ๆ ทั่วโลก แม้จะไม่สามารถกลับบ้านได้ แต่ก็ได้เชิญผู้ปกครองให้มาร่วมงาน

ในเช้าวันที่อากาศแจ่มใส ทุก ๆ พื้นที่ทำงานของ FPT Software มีผู้ปกครองที่ภาคภูมิใจมากมายนับไม่ถ้วนแวะเวียนกันมา พร้อมเสียงหัวเราะ ความสนุกสนาน และความสุข น้ำตาหลั่งไหลและรับฟังถ้อยคำกันอย่างจริงใจ

Ms. Chu Thi Thanh Ha ประธานบริษัท FPT Software กล่าวในงานว่า "ความสำเร็จของ FPT Software ไม่อาจเกิดขึ้นได้หากปราศจากความทุ่มเทของพนักงานทุกคนและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากผู้ปกครอง" และสนับสนุนให้พนักงานบริษัทใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้น “สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ ไม่มีอะไรยาใจได้ดีไปกว่าการได้รับข้อความหรือได้รับโทรศัพท์จากลูก ๆ ทุกวัน”

FPT Software มุ่งมั่นที่จะจัดหาสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีที่สุดให้กับพนักงาน โดยบริษัทกำลังสร้างระบบแคมปัสตามมาตรฐานของบริษัทไอทีชั้นนำอย่าง Google หรือ Facebook นอกจากนี้ พนักงานและครอบครัวยังได้รับการสนับสนุนด้วยดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัยและรถยนต์ การดูแลสุขภาพ และการศึกษาจาก FPT Group ด้วย

ความทุ่มเทนี้ทำให้ FPT Software ได้รับรางวัลจาก Great Place to Work® ในฐานะหนึ่งใน "สถานที่ทำงานที่ดีที่สุดในเอเชีย" บริษัทไอทีแห่งนี้ได้รับการยอมรับในด้านวัฒนธรรมองค์กรเชิงบวก โดยพิจารณาจากการดูแลและการสนับสนุนบุคลากรของบริษัทอย่างแท้จริง ตั้งแต่ความปลอดภัยทางร่างกายไปจนถึงสุขภาพจิตและอารมณ์ที่ดี

เนื่องในโอกาสวันผู้ปกครองนี้ บริษัทขอยืนยันคำมั่นสัญญาที่มีต่อพนักงาน และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองว่าลูก ๆ หลาน ๆ จะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และพนักงานจะใช้โอกาสนี้เพื่อขอบคุณคนที่อยู่เคียงข้างมาโดยตลอด

สิบหกปีนับตั้งแต่ที่มีการจัดวันผู้ปกครอง กิจกรรมนี้ก็ยิ่งใหญ่ขึ้นตามการเติบโตของบริษัท โดยเผยแพร่ข้อความแห่งความรักของ FPT Software ให้ผู้คนได้สัมผัสกันมากขึ้น บริษัทมีความมุ่งมั่นในระยะยาวที่จะทำให้พนักงานเป็นหัวใจของการทำธุรกิจ และรักษาสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์ของบริษัทไอทีชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป

FPT Software เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีและไอทีระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่ในเวียดนาม โดยมีรายได้มากกว่า 632.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และพนักงาน 25,500 คนใน 28 ประเทศ ในฐานะผู้บุกเบิกการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล บริษัทนี้ให้บริการระดับสากลแก่ลูกค้ามากกว่า 1,000 รายทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ของ FPT Software มีอยู่ทั่วโลก ในธุรกิจระดับแนวหน้าของทุกพื้นที่ เช่น อีคอมเมิร์ซ ยานยนต์ การบิน หรือบริการด้านสุขภาพ เป็นต้น

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52973966/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Media contact
Mai Duong (Ms.)
FPT Software
PR Manager
อีเมล: MCP.PR@fsoft.com.vn

Dzung Duong (Ms.)
Corporate Branding Manager
อีเมล: DungDTH1@fsoft.com.vn

เว็บไซต์: https://www.fpt-software.com/newsroom/

แหล่งที่มา: FPT Software

การทดลองวิ่งรถไฟความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุงประสบความสำเร็จ

Logo

จาการ์ตา อินโดนีเซีย–(BUSINESS WIRE)–21 พฤศจิกายน 2022

รถไฟความเร็วสูง (HSR) สายจาการ์ตา-บันดุงที่เชื่อมต่อเมืองหลวงจาการ์ตาของอินโดนีเซียกับบันดุง เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ในประเทศ เป็นโครงการสำคัญภายใต้โครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ที่เสนอโดยจีน และนับเป็นการนำระบบรถไฟความเร็วสูงเต็มรูปแบบของจีนไปใช้ในต่างประเทศเป็นครั้งแรก

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2022 การทดลองวิ่งรถไฟความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุงบนเส้นทางระหว่างสถานี Tegalluar และ Casting Yard No. 4 ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ ประธานาธิบดีของชาวอินโดนีเซีย Joko Widodo และประธานาธิบดีของจีน Xi Jinping ร่วมเป็นสักขีพยานในการทดลองใช้งานรถไฟความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุง นอกรอบการประชุมทวิภาคีหลังการประชุมสุดยอด G20 ที่บาหลี

ในระหว่างการทดลองใช้งาน รถไฟความเร็วสูงสำหรับตรวจสอบแบบเบ็ดเสร็จได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยวกับชั้นลดระดับ ราง การสื่อสาร สัญญาณ แหล่งจ่ายไฟสำหรับการลากจูง และระบบอื่น ๆ ตัวชี้วัดที่ได้รับทั้งหมดชี้ให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ดี นับเป็นความสำเร็จของการดำเนินการทดลองครั้งแรกของรถไฟความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุงที่จีนและอินโดนีเซียได้พัฒนาร่วมกัน ด้วยความเร็วที่ออกแบบไว้ 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถไฟจะลดระยะเวลาการเดินทางระหว่างจาการ์ตาและบันดุงจาก 3 ชั่วโมงเหลือประมาณ 40 นาที

นอกเหนือจากการมอบความสะดวกสบายในการเดินทางให้กับคนในท้องถิ่นแล้ว โครงการนี้คาดว่าจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางสังคมของอินโดนีเซียอย่างมาก และช่วยยกระดับเทคโนโลยีรถไฟของอินโดนีเซียและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย

โครงการภายใต้ BRI ที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์ของจีนมีกำหนดจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนมิถุนายน 2023 เมื่อถึงเวลานั้น อินโดนีเซียจะกลายเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีรถไฟความเร็วสูง

หลังจากโครงการก้าวสำคัญนี้ รถไฟจีน สะพานจีน และถนนของจีนจำนวนมากได้เผยแพร่ไปต่างประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัท PowerChina ยักษ์ใหญ่ด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้พัฒนา HSR สายจาการ์ตา-บันดุง ซึ่งรับหน้าที่วางรางรถไฟหลักระยะทาง 279.4 กิโลเมตร เปิดเผยว่ามูลค่าสัญญารวมระหว่างการก่อสร้างของ PowerChina ในอินโดนีเซียมีมูลค่าเกิน 3 พันล้านดอลลาร์ ในขณะเดียวกันก็มุ่งมั่นที่จะพัฒนาและก่อสร้างโครงการพลังงานสีเขียวในท้องถิ่นในอินโดนีเซีย ลาว เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ตลอดจนภูมิภาคและประเทศอื่น ๆ

ด้วยการพัฒนาต่อยอดของ BRI การผลิตและเทคโนโลยีของจีนจะไม่เพียงสร้าง "มาตรฐานจีน" ใหม่ให้กับโลกใบนี้เท่านั้น แต่ยังนำประโยชน์ที่แท้จริงมาสู่ประเทศต่าง ๆ ตามเส้นทางหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางด้วย

ข้อมูลติดต่อ

Shi Pei
651538233@qq.com

แหล่งที่มา: PowerChina

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

teamLab Planets TOKYO: ตั๋วที่ซื้อจากต่างประเทศมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 136% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันในปี 2019 (ก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19) โดยหนึ่งในสามของผู้เข้าชมมาจากต่างประเทศ

Logo

มีการเปิดตัวพื้นที่แห่งใหม่ในระหว่างการแพร่ระบาด รวมถึงชิ้นงานศิลปะใน Garden Area ซึ่งมีสวนกล้วยไม้ลอยน้ำกว่า 13,000 ต้น และร้านราเมนมังสวิรัติ ที่คุณสามารถดื่มด่ำได้พร้อมเสพงานศิลปะภายในพื้นที่งานศิลปะของ teamLab

TOKYO–(BUSINESS WIRE)–19 พฤศจิกายน 2022

teamLab Planets เป็นพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สายน้ำ และหมู่สวน ซึ่งผู้คนสามารถผสานรวมเป็นหนึ่งกับดงดอกไม้ พิพิธภัณฑ์เชิงประสบการณ์แห่งนี้ได้เปิดต้อนรับผู้เข้าชมโดยรวมแล้วกว่า 3 ล้านคน นับตั้งแต่เปิดทำการในเดือนกรกฎาคม ปี 2018

teamLab, Floating Flower Garden; Flowers and I are of the Same Root, the Garden and I are One © teamLab

teamLab, สวนดอกไม้ลอยน้ำ ดอกไม้และผู้คนจากรากฐานเดียวกัน ตัวฉันและส่วนร่วมเป็นหนึ่งเดียว © teamLab

[เปิดพื้นที่ใหม่หลายแห่งในระหว่างการแพร่ระบาด]

แม้จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าในปี 2020 มีการเปิดพื้นที่ใหม่ภายในพิพิธภัณฑ์ตามที่มีการแสดงบนสื่อต่างๆ เช่น CNN ในช่วงที่มีการแพร่ระบาด รวมถึงชิ้นงานศิลปะขนาดใหญ่สองชิ้นใน Garden Area และร้านราเมนมังสวิรัติที่อยู่ภายในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งมีต้นกำเนิดจาก Kyoto

[การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากการเปิดประเทศสำหรับการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นส่วนบุคคล และการขยายพื้นที่ใหม่]

ในวันที่ 11 เดือนตุลาคม ปี 2022 รัฐบาลญี่ปุ่นมีการผ่อนปรนมาตรการควบคุม COVID-19 อย่างมีนัยสำคัญ เปิดประเทศสำหรับการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นส่วนบุคคล มีการยกเว้นวีซ่าเหมือนเดิม และยกเลิกการจำกัดจำนวนคนเข้าประเทศญี่ปุ่นในแต่ละวัน และการท่องเที่ยวญี่ปุ่นกลับมาดำเนินการเป็นปกติครั้งแรกในรอบสองปีครึ่ง

หนึ่งเดือนโดยประมาณนับตั้งแต่การเปิดประเทศสำหรับการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นส่วนบุคคลในวันที่ 11 เดือนตุลาคม ปี 2022 แสดงข้อมูลตั๋วที่นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศซื้อมีปริมาณเพิ่มขึ้น 136% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันในปี 2019 (ก่อนเกิด COVID-19) โดยหนึ่งในสามของผู้เข้าชมมาจากต่างประเทศ (*1)
ผู้เข้าชมมากกว่าครึ่งจากต่างประเทศมีการซื้อตั๋วก่อนเดินทางมาญี่ปุ่น และมีแนวโน้มว่า พิพิธภัณฑ์เป็นหนึ่งในจุดประสงค์ของผู้เดินทางมาญี่ปุ่น (*2)
ในแบบสอบถามสำหรับผู้เข้าชม ได้รับความคิดเห็นเชิงบวกจากผู้เข้าชมจากต่างประเทศ เช่น "ฉันอยากไปพิพิธภัณฑ์ตั้งแต่ได้รับการต่ออายุ"

(*1) ตามข้อมูลการสั่งซื้อตั๋วเข้าชมจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ teamLab Planets: ช่วงระยะเวลาสำรวจ – วันที่ 11 เดือนตุลาคม (อ.) ถึงวันที่ 6 เดือนพฤศจิกายน (อา.) ปี 2022 และวันที่ 11 เดือนตุลาคม (อ.) ถึงวันที่ 6 เดือนพฤศจิกายน (พ.) ปี 2019
(*2) ตามข้อมูลการสั่งซื้อตั๋วเข้าชมจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ teamLab Planets: ช่วงระยะเวลาสำรวจ – วันที่ 11 เดือนตุลาคม (อ.) และวันที่ 6 เดือนพฤศจิกายน (อา.) ปี 2022

[การตอบรับอย่างดีจากนิตยสารท่องเที่ยว]

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการตีพิมพ์เกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ในสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีชื่อเสียง เช่น Lonely Planet หนังสือนำเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งมีการแนะนำพิพิธภัณฑ์เป็นหนึ่งใน “พิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุด 7 แห่งในโตเกียวที่แม้แต่ชาวโตเกียวก็ตั้งตารอ” รวมถึงเป็นหนึ่งใน “กิจกรรมที่ไม่ควรพลาด 26 รายการในโตเกียว” โดย Condé Nast Traveler

เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวในโตเกียวเข้าสัมผัสพิพิธภัณฑ์ซึ่งได้รับการพัฒนาผ่านพื้นที่งานศิลปะใหม่ๆ

พิพิธภัณฑ์จะยังคงมอบประสบการณ์ให้กับผู้คนจากทั่วโลกตามแนวคิดของ teamLab Planets “ดื่มด่ำผสมผสานร่างกายของคุณ เข้ากับผู้คนอื่นๆ ร่วมเป็นหนึ่งเดียวในโลก”

Garden Area

Garden Area มีการเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม ปี 2021 โดยมีชิ้นงานศิลปะขนาดใหญ่สองชิ้นงาน รวมถึงสวนกล้วยไม้สดกว่า 13,000 ต้น และพื้นที่ศิลปะธรรมชาติเหนือจริงรูปทรงไข่ ซึ่งกระจายอยู่ทั่วพื้นปูปกคลุมด้วยตะไคร่น้ำจริง สามารถเข้าสัมผัสพื้นที่งานศิลปะใหม่เหล่านี้ได้ที่นี่เท่านั้น และสำรวจความสัมพันธ์ของผู้คนกับธรรมชาติและโลกผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล ด้วยการผสมผสานแสงธรรมชาติจากอวกาศ ชิ้นงานแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างวันและหลังพระอาทิตย์ตกดิน

สวนดอกไม้ลอยน้ำ ดอกไม้และผู้คนจากรากฐานเดียวกัน ตัวฉันและสวนร่วมเป็นหนึ่งเดียว
ชิ้นงานศิลปะ: https://planets.teamlab.art/tokyo/ew/ffgarden_planets/

สวนตะไคร่น้ำแห่งพิภพสะท้อนแสงขนาดเล็ก แสงสีสะท้อน พระอาทิตย์ขึ้น และยามอัสดง
ชิ้นงานศิลปะ: https://planets.teamlab.art/tokyo/ew/resonating_microcosms_mossgarden_planets/

อาหารและศิลปะ: เพลิดเพลินกับราเมนมังสวิรัตในพื้นที่แสดงงานศิลปะ

Vegan Ramen UZU Tokyo เป็นร้านราเมนมังสวิรัติที่มีต้นกำเนิดจาก Kyoto ซึ่งมีการเปิดให้บริการในเดือนตุลาคม ปี 2021 ในสถานที่เดียวกันกับ teamLab Planets ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับราเมนในพื้นที่แสดงงานศิลปะ Reversible Rotation – Non-Objective Space ของ teamLab เช่นเดียวกับ Table of Sky and Fire และ One Stroke Bench ด้านนอกร้านอาหาร Vegan Ramen UZU Tokyo ยังมีบริการไอศกรีมมังสวิรัติและชาต่างๆ ที่มีเฉพาะในโตเกียวเท่านั้น สามารถเข้าทานอาหารในร้านโดยไม่ต้องเข้า teamLab Planets

Vegan Ramen UZU Tokyo: https://vegan-uzu.com/pages/uzu-tokyo

ชิ้นงานศิลปะสาธารณะที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมชมได้

จักรวาลดาวอัคคีหล่นจากท้องฟ้า เป็นชิ้นงานศิลปะสาธารณะที่สื่อถึงเปลวไฟ โดยมีการจัดแสดงตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2021 เปลวไฟซึ่งเป็นปรากฎการณ์ของแสงและความร้อนที่เกิดจากการเผาไหม้ โดยเป็นชุดลายเส้นที่วาดขึ้นสัมพันธ์กับการไหลของแก๊สเผาไหม้ จะมีการจัดแสดงชิ้นงานนี้ในพื้นที่กลางแจ้ง และทุกคนสามารถเข้าชมได้ โดยไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วเข้าพิพิธภัณฑ์

จักรวาลดาวอัคคีหล่นจากท้องฟ้า
ชิ้นงานศิลปะ: https://planets.teamlab.art/tokyo/ew/universe_fireparticles_falling/

[ teamLab Planets TOKYO DMM ]

teamLab Planets เป็นพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ สายน้ำ และดงดอกไม้ โดยจะมีพื้นที่จัดนิทรรศการขนาดใหญ่อยู่สี่แห่งและสวนสองแห่ง

คุณสามารถดื่มด่ำงานศิลปะมากมายหลากหลาย ผสานรวมร่างกายของคุณเข้ากับธรรมชาติ ละลายตัวคุณเอง ผู้คน และโลกเข้าเป็นหนึ่ง และมุ่งเน้นการสำรวจความสัมพันธ์ใหม่โดยไม่มีขอบเขตระหว่างตัวเราเองกับโลก

เข้าร่วมชมเท้าเปล่า ผสานรวมตัวคุณเองกับทุกคนในพื้นที่งานศิลปะ และร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับโลกใบนี้

[รายละเอียดนิทรรศการ]

teamLab Planets TOKYO DMM
ที่ตั้ง: teamLab Planets TOKYO, 6-1-16 Toyosu, Koto-ku, Tokyo

[เวลาเปิดทำการ]

(เดือนพฤศจิกายน – มกราคม)
จ. – ศ. 10:00 – 20:00
วันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 9:00 – 21:00
* วันที่ 26 เดือนธันวาคม (จ.) – วันที่ 30 เดือนธันวาคม (ศ.), วันที่ 2 เดือนมกราคม (จ.) – วันที่ 6 เดือนมกราคม (ศ.) 9:00 – 21:00
* วันที่ 31 เดือนธันวาคม (ส.), วันที่ 1 เดือนมกราคม (อา.) 9:00 – 20:00
* เคาน์เตอร์จะปิด 1 ชั่วโมงก่อนปิดทำการ

ปิดทำการ:
วันที่ 8 เดือนธันวาคม (พฤ.), วันที่ 11 เดือนมกราคม (พ.)

*เวลาเปิดทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดดูอัปเดตล่าสุดจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://planets.teamlab.art/tokyo/jp/
ไฮไลท์วิดีโอของ teamLab Planets: https://youtu.be/oiQoe9Ow9o0

*teamLab Planets จะเปิดใน Toyosu, Tokyo ปลายปี 2023

[ตั๋วเข้าชม]

ผู้ใหญ่: 3,200 เยน
นักเรียนชั้นมัธยมต้นและมัธยมปลาย: 2,000 JPY
เด็ก (อายุ 4 ถึง 12 ปี): 1,000 JPY
เด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี: Free
ส่วนลดสำหรับผู้ทุพพลภาพ: 1,600 JPY

เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วของ teamLab Planets TOKYO DMM: https://teamlabplanets.dmm.com

[มาตรการป้องกันการแพร่กระจายของ COVID-19]

โปรดเข้าดูรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการติดเชื้อใน teamLab Planets ที่ลิงก์ด้านล่าง:
https://teamlabplanets.dmm.com/covid-19

[HP/โซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการ]

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://planets.teamlab.art/tokyo/
Instagram: https://www.instagram.com/teamlab.planets/
Facebook: https://www.facebook.com/TL.Planets/
Twitter: https://twitter.com/teamLab_net
#teamLabPlanets

[อาหาร & ร้านค้า]

Vegan Ramen UZU Tokyo: https://vegan-uzu.com/pages/uzu-tokyo
teamLab Flower Shop & Art
*โปรดเข้าดูเวลาเปิดทำการจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
*ปิดทำการในวันเดียวกันกับ teamLab Planets

[มาตรการควบคุมโคโรน่าไวรัสใหม่ (กำหนดใช้กับอาหาร & ร้านค้า)]

  • ดำเนินการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อเป็นประจำ
  • ฆ่าเชื้อที่นั่งหลังจากลูกค้าแต่ละรายใช้งาน
  • มีน้ำยาฆ่าเชื้อที่มือที่ทางเข้า
  • จำกัดจำนวนคนในพื้นที่
  • มีการจัดสรรระยะห่างระหว่างที่นั่งอย่างถูกต้อง
  • พนักงานทุกคนสวมหน้ากากอนามัย
  • ไม่มีสินค้าวางบนโต๊ะ
  • มีการควบคุมและวัดค่าอุณหภูมิ

[เอกสารสื่อ]

https://goo.gl/tQXMLm

[PLANETS Co., Ltd.]

ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 ดำเนินการและบริหาร teamLab Planets TOKYO
ที่ตั้ง: Tokyo Nihonbashi Tower 10F, 2-7-1 Nihonbashi, Chuo-ku, Tokyo
ตัวแทน: Takumi Nomoto

[teamLab]

teamLab (f. 2001) เป็นกลุ่มศิลปะนานาชาติ โดยมีการทำงานร่วมกันเพื่อผสานรวมศิลปะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และโลกธรรมชาติ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญสหวิทยาการ รวมถึงศิลปิน โปรแกรมเมอร์ วิศวกร แอนิเมเตอร์ CG นักคณิตศาสตร์ และสถาปนิก มุ่งสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองและโลก รวมถึงการรับรู้รูปแบบใหม่ผ่านศิลปะ

เพื่อทำความเข้าใจในโลกรอบตัว ผู้คนมีการแยกโลกออกเป็นหน่วยอิสระ โดยมีขอบเขตการรับรู้ระหว่างผู้คนและโลก teamLab มุ่งเน้นที่จะก้าวข้ามขอบเขตการรับรู้เกี่ยวกับโลก ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองและโลก และความต่อเนื่องของเวลา ทุกสิ่งดำรงอย่างยาวนาน เปราะบาง ทว่าน่าอัศจรรย์ไร้พรมแดน

teamLab มีการจัดนิทรรศการขึ้นในเมืองต่างๆ ทั่วโลก รวมถึง นิวยอร์ก ลอนดอน ปารีส สิงคโปร์ ซิลิคอนแวลเล่ย์ ปักกิ่ง และเมลเบิร์น พิพิธภัณฑ์ของ teamLab และนิทรรศการขนาดใหญ่อย่างถาวร รวมถึง teamLab Borderless และ teamLab Planets ในโตเกียว, teamLab Borderless Shanghai, และ teamLab SuperNature Macao และยังมีเปิดตัวในเมืองต่างๆ อีกมากมาย ทั้งที่อาบูดาบี ปักกิ่ง ฮัมบูร์ก เจดดาห์ และอูเทร็คท์

ผลงานของ teamLab อยู่ในคอลเลคชันแบบถาวรในพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยที่ลอสแองเจลิส หอศิลป์แห่งนิวเซาธ์เวลส์ที่ซิดนีย์ หอศิลป์แห่งเซาท์ออสเตรเลียที่แอดิแลด พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชียที่ซานฟรานซิสโก พิพิธภัณฑ์สังคมเอเชียที่นิวยอร์ก คอลเลคชันศิลปะร่วมสมัยที่ Borusan จากอิสตันบูล หอศิลป์แห่งชาติวิกตอเรียที่เมลเบิร์น และ Amos Rex ที่ Helsinki

teamLab: https://www.teamlab.art/
Instagram: https://instagram.com/teamlab/
Facebook: https://www.facebook.com/teamLab.inc
Twitter: https://twitter.com/teamLab_net
YouTube: https://www.youtube.com/c/teamLabART

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52971993/en

ติดต่อ

[Inquiries regarding releases and interviews]
PLANETS Co., Ltd. Public Relations Department
E-mail: pr-info@planets.art
Interview: https://forms.gle/fAtnDKLpQKFME6XR9

แหล่งข้อมูล: PLANETS Co., Ltd.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย




บริษัท Wipro ประกาศตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (APMEA) ในเมืองดูไบ

Logo

เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และบังกาลอร์ อินเดีย–(BUSINESS WIRE)–18 พฤศจิกายน 2022

บริษัท Wipro Limited (NYSE: WIT, BSE: 507685, NSE: WIPRO) เป็นบริษัทชั้นนำผู้ให้บริการและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี ได้ประกาศเปิดสำนักงานใหญ่ด้านกลยุทธ์ทางการตลาดประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (APMEA) ในเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

Sheikh Hamdan bin Mohammed bin Rashid Al Maktoum มกุฎราชกุมารแห่งเมืองดูไบและประธานสภาบริหารเมืองดูไบ และ Sheikh Maktoum bin Mohammed bin Rashid Al Maktoum รองเจ้าผู้ครองนครดูไบ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่คนสำคัญของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เข้าเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ที่เพิ่งเปิดใหม่ในวันเปิดทำการวันแรก

เจ้าชาย Sheikh Hamdan bin Mohammed กล่าวว่า  “การก่อตั้งหน่วยงานแห่งใหม่ของ Wipro ในเมืองดูไบนี้ สะท้อนให้เห็นถึงสถานะการเติบโตของเอมิเรตในฐานะที่เป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำของโลก วิสัยทัศน์ของการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมของ Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum ผู้ซึ่งเป็นรองประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเจ้าผู้ครองนครดูไบ ทำให้เมืองดูไบกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนจากผู้เล่นระดับแนวหน้าของโลก ในอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนอนาคตของเศรษฐกิจโลก เมืองดูไบได้สร้างโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศแบบพลวัตรสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมกับกรอบการกำกับดูแลที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนนวัตกรรม ผู้ประกอบการ และการขยายธุรกิจ เมืองนี้ยังเป็นฐานที่ตั้งในอุดมคติสำหรับการเข้าถึงผู้มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของโลก ซึ่งดึงดูดให้เมืองดูไบได้รับประโยชน์อย่างต่อเนื่องจากโอกาสในการเติบโตมากมายและมาตรฐานการครองชีพที่สูง ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เมืองดูไบได้ร่วมเป็นพยานในความสำเร็จด้านเทคโนโลยีระดับโลกที่สำคัญหลายอย่าง ซึ่งช่วยเสริมภาพลักษณ์ของเมืองในฐานะจุดศูนย์กลางระดับโลกสำหรับการเติบโตและองค์กรในภาคส่วนนี้”

สำนักงานใหญ่ที่เพิ่งเปิดใหม่ซึ่งตั้งอยู่ ณ ใจกลางของสถานประกอบการธุรกิจอันพลุกพล่านของ One Central ที่ Dubai World Trade Centre จะเป็นผู้นำในการขยายตัวและการลงทุนของ Wipro ทั่วสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และ APMEA โดยจะช่วยจัดการธุรกิจ เทคโนโลยี และวาระการเปลี่ยนแปลงของลูกค้าในภาคส่วนสำคัญ เช่น บริการทางการเงิน การค้าปลีก โทรคมนาคม พลังงานและสาธารณูปโภค รวมไปถึงภาครัฐด้วย Wipro เริ่มดำเนินกิจการดังกล่าวในตะวันออกกลาง ณ ปี 2001 และปัจจุบันได้แพร่กระจายไปในหลายประเทศในแต่ละภูมิภาค หน่วยการตลาดเชิงกลยุทธ์ของ APMEA สร้างรายได้ประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์ให้กับ Wipro และมีพนักงานมากกว่า 30,000 คน

Rishad Premji ประธานกรรมการบริหารบริษัท Wipro Limited กล่าวว่า “เรายินดีที่ได้เปิดตัวสำนักงานใหญ่ APMEA ของเราในเมืองดูไบ ซึ่งถือเป็นการเปิดบทใหม่สำหรับ Wipro ในตลาดที่ขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็วและเน้นการใช้เทคโนโลยีเป็นอันดับแรก เมืองดูไบเป็นประตูสู่โลก และมีรัฐบาลที่ก้าวหน้า พนักงานที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และนโยบายที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ ทำให้เมืองดูไบเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับเราในขณะที่เราขยายธุรกิจไปทั่วภูมิภาค APMEA”

ความร่วมมือในระบบนิเวศเป็นหนึ่งในแกนหลักของกลยุทธ์ทางธุรกิจของ Wipro สำนักงานใหญ่ APMEA จะมีพื้นที่สำหรับนวัตกรรมร่วม ซึ่งพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ อันได้แก่ AWS, Microsoft, HPE, Informatica, Palo Alto Networks, SAS และ Snowflake จะร่วมมือกับ Wipro เพื่อสร้างโซลูชันร่วมกันที่จะตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของภาคส่วนและเทคโนโลยีที่สำคัญ

ที่นี่จะเป็นที่รวมพลังของกลุ่ม Wipro สำนักงานใหญ่แห่งนี้จะเป็นที่ตั้งของทีมงานที่เชี่ยวชาญในท้องถิ่นจาก Capco ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีและการจัดการระดับโลกที่มุ่งเน้นบริการทางการเงิน และจาก Designit ซึ่งเป็นบริษัทด้านการออกแบบเชิงกลยุทธ์และนวัตกรรม เป็นการนำเสนอความสามารถที่แตกต่างที่สุดของ Wipro ในพื้นที่ นอกจากนี้ Wipro ยังได้เปิดตัว Lab45 ในภูมิภาค ซึ่งเป็นพื้นที่นวัตกรรมอันมีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาโซลูชันที่ล้ำสมัยเพื่อส่งเสริมและเร่งสร้างไอเดียให้กับลูกค้า

Thierry Delaporte ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการของ Wipro Limited กล่าวว่า "การก่อตั้งสำนักงานใหญ่ของเราที่นี่เปิดโอกาสในการเติบโตอย่างมากมาย และเป็นโอกาสในการทำงานร่วมกันทั่วทั้งภูมิภาค สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เข้าใจถึงคุณค่าเชิงกลยุทธ์ของเทคโนโลยี และพลังของการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ดี Wipro เองก็ได้แบ่งปันวิสัยทัศน์นั้น เราจะใช้ประโยชน์จากความสามารถระดับโลก ความเชี่ยวชาญในท้องถิ่น ตลอดจนระบบนิเวศของพันธมิตรระดับโลกเพื่อร่วมกันสร้างโซลูชันสำหรับลูกค้าในภูมิภาคนี้”

Anis Chenchah ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Wipro Limited ประจำ APMEA กล่าวว่า “ข้าพเจ้ารู้สึกยินดีที่มี Wipro เป็นบริษัทระดับโลกแห่งแรกในอุตสาหกรรมของเราที่รวม 3 ทวีปอันกว้างใหญ่อย่างแอฟริกา เอเชีย และโอเชียเนียเอาไว้ภายใต้การนำที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองดูไบ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของข้าพเจ้า การแลกเปลี่ยนทางธุรกิจระหว่างแอฟริกาและเอเชียนั้นเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก สร้างโอกาสยิ่งใหญ่ให้กับ Wipro ด้วยที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ โครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย และแนวคิดระดับโลก เมืองดูไบจึงเป็นสถานที่ในอุดมคติสำหรับการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในส่วนที่มีแนวโน้มที่ดีของโลกนี้”

เกี่ยวกับ Wipro Limited

Wipro Limited (NYSE: WIT, BSE: 507685, NSE: WIPRO) เป็นบริษัทชั้นนำผู้ให้บริการและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นการสร้างโซลูชันนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอันซับซ้อนที่สุดของลูกค้า ดึงคุณประโยชน์จากความสามารถแบบองค์รวมของเราในการให้คำปรึกษา การออกแบบ วิศวกรรม และการดำเนินงาน เราช่วยให้ลูกค้าได้ตระหนักถึงความทะเยอทะยานที่กล้าหาญที่สุดของพวกเขา และสร้างธุรกิจที่พร้อมสำหรับอนาคตและมีความยั่งยืน ด้วยพนักงานและพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 250,000 คนใน 66 ประเทศ เราทำตามคำมั่นสัญญาในการช่วยเหลือลูกค้า เพื่อนร่วมงาน และชุมชนของเราเพื่อให้สามารถเติบโตในโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เยี่ยมชมเราได้ที่ www.wipro.com

บทความคาดการณ์ในอนาคต

บทความคาดการณ์ในอนาคตในที่นี้แสดงถึงความเชื่อของ Wipro เกี่ยวกับเหตุการณ์ในอนาคต ซึ่งหลายอย่างเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่แน่นอนโดยเนื้อแท้ และอยู่นอกเหนือการควบคุมของ Wipro ข้อความดังกล่าวรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อความเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของ Wipro ผลการดำเนินงานทางการเงินในอนาคต แผน ความคาดหวัง และความตั้งใจ เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต Wipro จึงขอเตือนให้ผู้อ่านทราบว่าบทความคาดการณ์ในอนาคตนี้มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากผลลัพธ์ที่คาดการณ์ไว้ในข้อความดังกล่าว ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนดังกล่าวรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความเสี่ยงและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความผันผวนของรายรับ รายได้ และผลกำไรของเรา, ความสามารถของเราในการสร้างและจัดการการเติบโต, การดำเนินการขององค์กรที่เสนอโดยสมบูรณ์, การแข่งขันที่รุนแรงในบริการด้านไอที, ความสามารถของเราในการรักษาความได้เปรียบด้านต้นทุน, การเพิ่มอัตราค่าจ้างในอินเดีย, ความสามารถของเราในการดึงดูดและรักษาผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะสูง, เวลาและต้นทุนที่มากเกินไปสำหรับสัญญาราคาคงที่, กรอบเวลาคงที่, การกระจุกตัวของลูกค้า, ข้อจำกัดในการอพยพ, ความสามารถของเราในการจัดการการดำเนินงานระหว่างประเทศ, ความต้องการที่ลดลงสำหรับเทคโนโลยีในพื้นที่โฟกัสหลักของเรา, การหยุดชะงักของเครือข่ายโทรคมนาคม, ความสามารถของเราในการดำเนินการและบูรณาการการเข้าซื้อกิจการที่อาจเกิดขึ้นให้สำเร็จ, ความรับผิดต่อความเสียหายในสัญญาบริการของเรา, ความสำเร็จของบริษัทที่เราลงทุนเชิงกลยุทธ์, การถอนแรงจูงใจทางการคลัง, ความไม่แน่นอนทางการเมือง, สงคราม, ข้อจำกัดทางกฎหมายในการเพิ่มทุนหรือการซื้อบริษัทนอกอินเดีย, การใช้ทรัพย์สินทางปัญญาของเราโดยไม่ได้รับอนุญาต และสภาวะเศรษฐกิจทั่วไปที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและอุตสาหกรรมของเรา

ความเสี่ยงเพิ่มเติมที่อาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในอนาคตของเราได้อธิบายไว้อย่างครบถ้วนในเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะรายงานประจำปีในแบบฟอร์ม 20-F เอกสารที่ยื่นเสนอเหล่านี้มีอยู่ที่ www.sec.gov ในบางกรณี เราอาจจัดทำแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าที่เป็นลายลักษณ์อักษรและปากเปล่าเพิ่มเติม รวมถึงข้อความที่อยู่ในเอกสารที่บริษัทยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และรายงานของเราต่อผู้ถือหุ้น เราไม่ดำเนินการอัปเดตบทความคาดการณ์ล่วงหน้าที่อาจจัดทำขึ้นเป็นครั้งคราวโดยเราหรือในนามของเรา

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

ติดต่อ Wipro Media:
Purnima Burman
purnima.burman@wipro.com

ติดต่อ H+K Strategies Media:
Mark Sutton & Ghinwa Al Ahmad
Mark-r.sutton@hkstrategies.com
Ghinwa.AlAhmad@hkstrategies.com

แหล่งที่มา: Wipro Limited

Tusk Innovation ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับ Black Friday

Logo

KUALA LUMPUR, Malaysia–(BUSINESS WIRE)–17 พฤศจิกายน 2022

Tusk Inc. Limited (www.tusklimited.com) บริษัทที่เริ่มต้นในปี 2012 ในฐานะบริษัทจัดการเงินทุนในกรุงกัวลาลัมเปอร์ซึ่งมีสำนักงานอยู่ทั่วโลก และปัจจุบันเป็นหนึ่งในบริษัทโซลูชันไฟฟ้าชั้นนำที่มุ่งเน้นการผลิตสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์การทำเหมือง พลังงานแสงอาทิตย์ และอะแดปเตอร์ กำลังประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับ Black Friday สายผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับไฟฟ้า ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://tusklimited.com/products

This product is sold with a 7in 1 Solar Panel, so you don’t have to pay for the panel. (Photo: Business Wire)

ผลิตภัณฑ์นี้ขายพร้อมแผงโซลาร์เซลล์ 7in 1 คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าแผง (ภาพ: Business Wire)

ในฐานะหนึ่งในบริษัทโซลูชันไฟฟ้าชั้นนำ Tusk ประกาศให้ส่วนลด 30% สำหรับนวัตกรรมของ Tusk ในวัน Black Friday สำหรับอุปกรณ์การทำเหมืองแบบคอมโบ ซึ่งรวมเอาแผงโซลาร์เซลล์เข้ากับเครื่องขุดบิตคอยน์ เพื่อให้การทำเหมืองเป็นไปอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญใดๆ เนื่องจากไฟฟ้าเป็นปัญหาหลักในอุตสาหกรรมการทำเหมือง

โดยการปรับล่าสุดจากวัสดุโพลีคริสตัลไลน์เป็นวัสดุเซลล์แสงอาทิตย์ นวัตกรรมของ Tusk มีการทดสอบประสิทธิภาพของการรวมผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์เข้ากับเครื่องขุดคริปโตเคอเรนซี และได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุด นักลงทุนด้านนวัตกรรมของ Tusk สามารถทำเหมืองคอยน์ของตนได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีการหยุดชะงักแล้วในขณะนี้ ทั้งยังมีความเสี่ยงน้อยลง และได้ผลกำไรสูงสุด

นี่เป็นความพยายามในการลดปริมาณไฟฟ้าที่ใช้เมื่อลูกค้าทำการขุดคริปโตเคอเรนซี และได้รับการเปิดเผยโดย John Walls ประธานฝ่ายปฏิบัติการ (COO) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของ Walls "รายงานต่างๆ แสดงให้เห็นว่าปริมาณไฟฟ้าที่คนงานเหมืองต้องการอาจมากเกินกว่าที่จะจัดการได้ ดังนั้น เราจึงได้ตัวเลือกที่สมเหตุสมผล"

กำไรจากการขุด

แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่ายินดีและให้ผลกำไรสูงสำหรับใครหลายๆ คนในการสร้างฟาร์มเหมืองคริปโตเคอเรนซี แต่ก็มีการคาดเดามากมายว่าพวกเขาอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการใช้ไฟฟ้า Tusk Inc ได้สร้างโซลูชันที่ใช้งานได้ยาวนานด้วยการมอบแผงโซลาร์เซลล์ที่ไม่สัมพันธ์กับค่าไฟฟ้าของคุณและอุปกรณ์การขุดบิตคอยน์ที่สามารถทำการขุดแบบคู่ได้ คุณสามารถขุดคอยน์ของคุณโดยไม่ต้องคอยกังวลกับความผันผวนของตลาด

Tusk Inc ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย และสหราชอาณาจักร มีความโดดเด่นที่แตกต่างจากที่อื่น โดยลูกค้าสามารถรับบริการพัฒนากระเป๋าเงินดิจิทัล (crypto wallet) รวมถึงหน่วยประมวลผลกราฟิกจากบริษัทที่มีสำนักงานอยู่ในสามทวีป นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ในการพัฒนาบล็อกเชน และโซลูชันการขุดบิตคอยน์ รวมถึงด้านอื่นๆ อีกมากมาย

เกี่ยวกับ Tusk

ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการ และต่อมาทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีก็ได้เข้ามามีส่วนร่วม ปัจจุบัน Tusk Inc เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโซลูชันไฟฟ้าชั้นนำ พวกเขาภูมิใจในความสามารถในการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากพวกเขาอยู่ในธุรกิจการบริหารความเสี่ยงมานานกว่าทศวรรษ และด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีหลายประการ พวกเขาได้รวมกิจการที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าไว้ในระบบการจัดการความเสี่ยง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการขุดคริปโตเคอเรนซี โดยใช้วัสดุเซลล์แสงอาทิตย์

ข้อมูลติดต่อ

John Walls
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
john@tusklimited.com
(+60)1117000943

แหล่งที่มา: Tusk Inc. Limited

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Mary Kay Inc. ประกาศให้ Forest of Hope เป็นภาพยนตร์คัดสรรสำหรับเทศกาลภาพยนตร์ และพูดถึงผลจากการปลูกต้นไม้

Logo

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–16 พฤศจิกายน 2022 

Mary Kay Inc. องค์กรผู้อุทิศตัวระดับโลกเพื่อความยั่งยืน ยินดีประกาศว่า Forest of Hope สารคดีที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทซึ่งเน้นประเด็นของการต่อสู้ปกป้องผืนป่า และบอกเล่าเรื่องราวการอนุรักษ์ รวมถึงการสนับสนุนบทบาทของสตรี ได้รับคัดเลือกอย่างเป็นทางการให้เป็นส่วนหนึ่งของสี่เทศกาลภาพยนตร์

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีสื่อมัลติมีเดีย ดูข่าวฉบับเต็มได้ที่นี่ https://www.businesswire.com/news/home/20221115006123/en/

(Credit: Mary Kay Inc.)

(Credit: Mary Kay Inc.)

ทีมผู้หญิงล้วนเป็นผู้เขียนบท กำกับ และผลิต Forest of Hope รวมถึงจัดฉายที่เทศกาลภาพยนตร์ La Femme International ซึ่งเป็นงานเทศกาลภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ที่เฉลิมฉลอง สนับสนุน และผลักดันการสร้างเนื้อหาโดยโปรดิวเซอร์ นักเขียน และผู้กำกับหญิงจากทั่วโลก ภาพยนตร์นี้ยังได้รับเลือกให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์ North Dakota Environmental Rights เทศกาลภาพยนตร์ Hot Springs International Women และเทศกาลภาพยนตร์ Green Film ด้วย

Mary Kay ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์สั้นร่วมกับ The Nature Conservancy ในการขับเน้นเรื่องราวของ Angelica ผู้นำของ Mujeres Unidas Para La Conservacion de Laguna de Sanchez และกลุ่มของนักธุรกิจหญิงที่ต่อสู้กับความท้าทายทางสิ่งแวดล้อมในพื้นที่โดยรอบของเมืองมอนเตอเรย์

Forest of Hope พาผู้ชมไปยังเมืองในหุบเขาเล็กใกล้เมืองมอนเตอเรย์ที่แวดล้อมไปด้วยอุทยานแห่งชาติ Cumbres สถานที่อนุรักษ์ธรรมชาติที่รู้จักกันในชื่อ “ปอดของภูมิภาค” เป็นสถานที่ที่ไฟและการตัดไม้ทำลายผืนป่าไป 30% รวมถึงความท้าทายด้านนิเวศอื่น ๆ เช่น เฮอร์ริเคน น้ำท่วม และปัญหาการขาดแคลนน้ำ

ปัญหาอื่นทั่วไปที่เจอในพื้นที่นี้คือ การไหลของน้ำฝนที่ส่งผลกระทบกับโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ปศุสัตว์ท้องถิ่น และพลเมืองในชุมชน การเสื่อมสภาพของธรรมชาติเหล่านี้ทำให้ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งอุทิศตนในการฟื้นฟูพันธุ์ไม้และผลิตพันธุ์ต้นไม้พื้นเมืองในสถานอนุบาล เพื่อรักษาความยืดหยุนทางธรรมชาติของพื้นที่ไว้

การปลูกต้นไม้และฟื้นฟูป่าเป็นทางออกที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยต่อสู้กับปัญหาสภาพอากาศ คุณภาพและปริมาณน้ำ สุขภาพความหลากหลายทางชีวภาพ และสุขภาพของมนุษย์เอง จนถึงปัจจุบัน Mary Kay ปลูกต้นไม้มากกว่า 1.2 ล้านต้นทั่วโลก งานอนุรักษ์ของ Mary Kay ต่อต้นไม้เป็นสิ่งที่วัดได้และสร้างผลลัพธ์ที่ยืนยาว

รายงานสถานการณ์ต้นไม้ล่าสุดของ Mary Kay เน้นให้เห็นประโยชน์ที่สั่งสมสามอย่างในการปลูกต้นไม้ผ่านงานที่ทำสำเร็จไปแล้ว ด้วยความร่วมมือกับ Arbor Day Foundation

  • คาร์บอน: การปลูก การปกป้องรักษา และการจัดการต้นไม้ให้ดูดซับคาร์บอน เมื่อต้นไม้โตขึ้น คาร์บอนจะถูกดูดซับออกจากชั้นบรรยากาศเข้าไปในลำต้น ราก และกิ่งก้าน
    • การวัดปริมาณ CO2 แบบตันที่แยกออกมาเดี่ยว ๆ จนถึงปัจจุบัน: 1,115,522
  • น้ำ: ต้นไม้และผืนป่ามีบทบาทสำคัญต่อคุณภาพและปริมาณน้ำ ต้นไม้ที่มีสุขภาพดีและผืนป่าช่วยลดการกัดกร่อนดิน กรองน้ำฝน และการทดน้ำเพื่อการเกษตร ยกระดับการซึมของฝน และลดการไหลของน้ำบนผิวดิน
    • ปริมาณแกลลอนที่เลี่ยงการไหลของน้ำ: 138,014,028 (เทียบเท่ากับ 1,568,341 คนที่มีน้ำสะอาด)
  • อากาศ: ต้นไม้ผลิตออกซิเจนที่เราหายใจ นอกจากนี้ ต้นไม้ยังลดอากาศเป็นพิษด้วยการลดอุณหภูมิอากาศ ทั้งการปล่อยน้ำเข้าสู่บรรยากาศ และการกรองอนุภาค
    • ปริมาณตันของมลพิษทางอากาศที่ถูกกำจัด: 6,123

หากต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมของคำมั่นสัญญาต่อความยั่งยืนของ Mary Kay โปรดดูที่ marykayglobal.com/sustainability และดาวน์โหลดกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay: เพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำอันจำเป็นต่อชีวิตต่าง ๆ เราสร้างโซลูชันที่ใช้ได้จริงและเป็นนวัตกรรมตามแนวทางวิทยาศาสตร์ เพื่อรับมือความท้าทายที่ยากที่สุดของโลกเรา เพื่อให้ธรรมชาติและคนสามารถเติบโตไปด้วยกัน เรากำลังจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพอากาศ การอนุรักษ์ดิน น้ำ และมหาสมุทรในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ช่วยมอบอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน รวมถึงช่วยทำให้เมืองต่าง ๆ มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น เราปฏิบัติงานใน 79 ประเทศ และเขตต่าง ๆ โดยใช้วิธีร่วมมือซึ่งทำให้เราเข้าไปมีส่วนร่วมกับชุมชน รัฐบาล ภาคเอกชน และพาร์ทเนอร์ท้องถิ่น หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ริเริ่มนำร่อง เธอก่อตั้งบริษัทความงามในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือ ช่วยให้ชีวิตผู้หญิงดียิ่งขึ้น ความฝันนั้นผลิดอกออกผลกลายเป็นบริษัทหลายพันล้านดอลลาร์ มีสมาชิกฝ่ายการขายอิสระในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทที่พัฒนาความเป็นนักธุรกิจ Mary Kay ตั้งมั่นที่จะสนับสนุนเส้นทางผู้หญิงผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรม

Mary Kay อุทิศตัวในการลงทุนกับวิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงาม และการผลิตสกินแคร์ เครื่องสำอางสี ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเครื่องหอมอันล้ำสมัย Mary Kay เชื่อในการยกระดับชีวิตวันนี้เพื่อความยั่งยืนในวันข้างหน้า จับมือร่วมกับองค์กรอื่น ๆ ทั่วโลกโดยเน้นที่การสนับสนุนความเป็นเลิศด้านธุรกิจ การสนับสนุนงานวิจัยด้านมะเร็ง เพิ่มความเท่าเทียมทางเพศสภาพ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากความรุนแรงในบ้าน ช่วยให้ชุมชนของเราสวยงามยิ่งขึ้น พร้อมสนับสนุนเด็ก ๆ ให้เดินตามความฝัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com หรือค้นหาเราได้บน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราได้บน Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ดูข้อมูลต้นฉบับได้บน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221115006123/en/

ข้อมูลติดต่อ

Mary Kay Inc.
ฝ่ายสื่อสารบริษัท
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งที่มา: Mary Kay Inc.




จุดประกายความหลงใหลในกีฬา! เข้าร่วมการแข่งขัน VOOPOO Infinity Contest ในวันที่ 23 พฤศจิกายน และรับเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์!

Logo

เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน–(BUSINESS WIRE)–17 พฤศจิกายน 2022

ในฤดูกาลที่เต็มไปด้วยความหลงใหลในกีฬา ผู้คนทั่วโลกต่างตื่นเต้นกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว บริษัท VOOPOO แบรนด์ยักษ์ใหญ่ด้านบุหรี่ไฟฟ้าที่มุ่งมั่นในการให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางและสนับสนุนวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีและนวัตกรรม ได้ริเริ่มกิจกรรมที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า VOOPOO Infinity Go Go Go บนเว็บไซต์ของบริษัทเพื่อจุดประกายจิตวิญญาณแห่งกีฬาของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า (vaper)

(Photo: Business Wire)

(Photo: Business Wire)

ก่อนหน้านี้ บริษัท VOOPOO ได้ให้รูปลักษณ์เฉพาะตัวแก่ผลิตภัณฑ์รุ่นเรือธงด้วยการเปิดตัวสินค้ารุ่นพิเศษอย่าง ARGUS Series Limited Edition, ARGUS MT, ARGUS XT, ARGUS GT II, ARGUS POD และ ARGUS PRO แคมเปญ VOOPOO Infinity Go Go Go ที่เปิดตัวในช่วงเวลาเดียวกันนั้นก็ได้รับความสนใจจากแฟน ๆ และผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่เปิดตัว

DIY ผลงานศิลปะของคุณเอง พร้อมกับสนับสนุนทีมโปรดของคุณ และชิงเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์!

ในวันที่ 23 พฤศจิกายน VOOPOO จะเปิดตัวขั้นตอนที่สองอย่างเป็นทางการของ VOOPOO Infinity Go Go Go บนเว็บไซต์ของบริษัท

ในหน้ากิจกรรมที่ได้เผยแพร่นั้น เรารู้สึกประหลาดใจที่พบว่า VOOPOO ได้ซ่อนสิทธิประโยชน์มหาศาลเอาไว้อันได้แก่ เงินรางวัลมูลค่า 5,000 ดอลลาร์ ตามข้อมูลที่ประกาศอย่างเป็นทางการ เราพบว่านี่จะเป็นการแข่งขัน DIY ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์ DIY ผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาชื่นชอบนั่นเอง มาที่หน้ากิจกรรม VOOPOO Infinity Go Go Go แล้วตั้งตาคอยการประกาศข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมนี้ ใครกันที่จะเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลใหญ่มูลค่า 5,000 ดอลลาร์นี้ไป

VOOPOO รวมเอาความชื่นชอบด้านกีฬาอย่าง “นวัตกรรม” “ความเพียร” และ “การผสมผสาน” ซึ่งตรงกับค่านิยมของ VOOPOO เอาไว้ในกิจกรรมนี้ ส่งมอบให้กับผู้ใช้และผู้ที่ชื่นชอบ แม้กระทั่งอุตสาหกรรมแนวคิดที่ว่า วิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีเป็นพื้นฐานหนึ่งของการพัฒนา และนวัตกรรมที่ไม่สิ้นสุดจะเปลี่ยนอนาคตได้ ในส่วนของรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎระเบียบของการแข่งขันและเงื่อนไขการให้รางวัล โปรดดูที่หน้ากิจกรรมของ VOOPOO Infinity Go Go Go ในวันที่ 23 พฤศจิกายน

เกี่ยวกับ VOOPOO

VOOPOO  ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2017 และได้เติบโตอย่างรวดเร็วผ่านผลิตภัณฑ์ DRAG ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั่วโลกในระยะเวลาอันสั้น ในฐานะองค์กรไฮเทคที่มีทั้งการวิจัยและพัฒนา การออกแบบ การผลิต รวมถึงการสร้างแบรนด์ด้วย VOOPOO มีชุดผลิตภัณฑ์หลักสี่ชุด ได้แก่ ARGUS, DRAG, VINCI และ V ปัจจุบัน VOOPOO มีการดำเนินงานในกว่า 70 ประเทศในอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย

เว็บไซต์: https://www.voopoo.com/

Instagram: https://www.instagram.com/voopootech_official/

Facebook: https://www.facebook.com/voopooglobal

Youtube: https://www.youtube.com/c/VOOPOO

Tiktok: https://www.tiktok.com/@voopoofans

ร้านค้า: https://shop.voopoo.com/

ข้อมูลติดต่อ

Nical Zhang
ผู้จัดการฝ่าย PR
Nical.zhang@voopootech.com

แหล่งที่มา: VOOPOO

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Midea VRF เข้าสู่ระดับโลก เปิดตัวรถไฟความเร็วสูงจาการ์ตา-บันดุง

Logo

JAKARTA, Indonesia–(BUSINESS WIRE)–15 พฤศจิกายน 2022

การประชุมสุดยอด G20 ที่บาหลีนำเสนอผลการก่อสร้างล่าสุดของรถไฟความเร็วสูง (HSR) สายจาการ์ตา-บันดุง ซึ่งเป็นรถไฟความเร็วสูงสายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยระยะทางยาวทั้งหมด 142 กิโลเมตร และความเร็วสูงสุดตามการออกแบบอยู่ที่ 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้อินโดนีเซียเข้าสู่ "ยุครถไฟความเร็วสูง " Midea นำเสนอโซลูชัน HVAC ระดับมืออาชีพ และการบริการที่เข้าถึงผู้ใช้มากที่สุด พร้อมนำเสนอ "Midea Coolness" สำหรับ HSR สายจาการ์ตา-บันดุง ด้วย 126 ODU และ 705 IDU จาก Midea VC Pro

Midea VC Pro VRFs have been used in Jakarta-Bandung High-Speed Railway (HSR), Dubai Expo and many other overseas projects. (Graphic: Business Wire)

มีการนำ Midea VC Pro VRFs มาใช้ในโครงการรถไฟความเร็วสูง (HSR) จาการ์ตา-บันดุงในงาน Dubai Expo และโครงการในต่างประเทศอีกหลายโครงการ (กราฟิก: Business Wire)

โครงการ HVAC เป็นการสนับสนุนอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับ HSR สายจาการ์ตา-บันดุง โดยรถไฟจากจาการ์ตา-บันดุงตั้งอยู่ในเขตภูมิอากาศแบบป่าฝนเขตร้อนของหมู่เกาะชวา และได้รับอิทธิพลจากภูมิอากาศแถบเส้นศูนย์สูตร ผู้ปฏิบัติงานของ HSR จึงต้องการระบบเครื่องปรับอากาศส่วนกลางที่เชื่อถือได้และมีความเสถียรภาพ เพื่อให้สามารถปรับให้เข้ากับอุณหภูมิที่สูงและสภาพการทำงานที่มีความชื้นสูงโดยไม่มีการหยุดทำงาน และสามารถคงระดับอุณหภูมิของพื้นที่อาคาร HSR ให้คงที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในฐานะที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม HVAC ระดับโลก Midea Building Technologies นำเสนอโซลูชันระบบเครื่องปรับอากาศมืออาชีพสำหรับ HSR สายจาการ์ตา-บันดุง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระบบระบายความร้อนด้วยชิปของเหลวแบบหลายตัว โดยสามารถช่วยระบายความร้อนของชิ้นส่วนควบคุมระบบไฟฟ้าให้เย็นลงได้ทันเวลา และสามารถลดอุณหภูมิของชิ้นส่วนควบคุมระบบไฟฟ้าได้ประมาณ 8 องศา ซึ่งสามารถรักษาความเย็นในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงได้เป็นอย่างดี ในกรณีของความทนทานต่อการกัดกร่อน ODU ของ VC Pro VRFs ยังคงสามารถทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการกัดกร่อนของเกลืออย่างรุนแรงได้ โดยผ่านการจำลองการทดสอบเชิงทดลอง

นอกจากประสบกับปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ก่อสร้างขนาดใหญ่และการเข้าออกของประชากรจำนวนมากในสถานี HSR ไซต์ 4 ที่ Midea MBT ชนะการประมูลแล้ว ยังมีอาคารอยู่หกประเภท เช่น อาคารสถานี อาคารอพาร์ทเมนท์ เป็นต้น เป็นไซต์ที่มีความซับซ้อนมากที่สุดสำหรับการติดตั้งเครื่องปรับอากาศสำหรับ HSR สายจาการ์ตา-บันดุง นอกเหนือจากนั้น ที่ประเทศอินโดนีเซีย การจัดหาวัสดุการติดตั้งสำหรับโครงการก็มีข้อจำกัดในหลาย ๆ ด้าน จึงต้องมีการประเมินทุกปัจจัยในกระบวนการคัดเลือก แผนการออกแบบเครื่องปรับอากาศยังมีการปรับปรุงครั้งแล้วครั้งเล่า จนในที่สุด ระบบที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพที่ปรับจนเหมาะสมสำหรับโครงการติดตั้ง HVAC ก็บรรลุผลสำเร็จโดยมีการผสมผสานระหว่างดีไซน์หลากหลายรูปแบบและโครงร่างแบบผสมผสาน

ยังมีการใช้งาน Midea VC Pro VRFs ใน Dubai Expo และโครงการในต่างประเทศอีกหลายโครงการด้วยเช่นกัน ในปัจจุบัน Midea Building Technologies ได้ปรับเครือข่ายการขายและบริการในตลาดต่างประเทศ โดยมีการสร้างโครงร่างที่ครอบคลุมตั้งแต่เทคโนโลยีหลักและผลิตภัณฑ์ดั้งเดิม ไปจนถึงโซลูชันที่แตกต่างกันไปตามการปรับแต่งให้เหมาะสม

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52969740/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

Lori Luo
+86 13512784739
luory17@midea.com

แหล่งที่มา: Midea

The Bangkok Reporter