NielsenIQ เปิดตัวรายงานใหม่ที่มุ่งเน้นผลกระทบด้านความยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค

Logo

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้บริษัทต่าง จะต้องริเริ่มความคิดในการสร้างโมเดลธุรกิจ และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในอีกห้าปีข้างหน้า

CHICAGO–(BUSINESS WIRE)–30 พฤศจิกายน 2022

วันนี้ NielsenIQ มีการเปิดตัวรายงานใหม่ "การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีผลต่อความยั่งยืน " ที่มุ่งเน้นผลกระทบในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่ออุตสาหกรรมสินค้าบรรจุภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค ในอีกห้าปีข้างหน้า มีการคาดการณ์ว่า การกำกับดูแลและต้นทุนจะกำหนดให้ผู้ผลิต แบรนด์ และผู้ค้าปลีกจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงและมุ่งมั่นที่จะสร้างโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืน และลดความเสี่ยงทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

"เราได้มุ่งเน้นความยั่งยืนในวาระขององค์กรมาระยะหนึ่งแล้ว โดยเป็นลำดับที่มีความสำคัญ ซึ่งธุรกิจบางแห่งอาจตัดสินใจดำเนินการเชิงรุกเพื่อความก้าวหน้า และบางธุรกิจอาจยังคงเฝ้ารอดูผลก่อนตัดสินใจ" Regan Leggett, Foresight Leader, NielsenIQ กล่าว "ต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก บวกกับความล้มเหลวของการเพาะปลูก และการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทต่าง ๆ จำต้องสร้างโมเดลธุรกิจเพื่ออนาคต มิฉะนั้น อาจมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนและผลกระทบด้านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้"

ท่ามกลางความท้าทายในห่วงโซ่อุปทาน แรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ และการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังของผู้บริโภค มีรายงานระบุว่า ผู้บริโภคได้รับข้อมูลมากขึ้นเกี่ยวกับความยั่งยืนและความคาดหวังในการดำเนินการและความรับผิดชอบขององค์กร รายงานฉบับใหม่มีการกล่าวถึงประเด็นสำคัญ ดังนี้

  1. ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมีผลในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจที่มีอยู่ เนื่องด้วยผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างไร
  2. ธรรมาภิบาลและกฎระเบียบใหม่มีผลต่อการขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนอย่างไร
  3. พื้นฐานใหม่ในการตัดสินใจเปลี่ยนไปสำหรับผู้บริโภคอย่างไร
  4. ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีบทบาทอย่างไรในการผลักดันวาระด้านความยั่งยืนให้ก้าวหน้า ผู้บริโภคมีความเชื่อถือในผู้ใด และวิธีการที่บริษัทสามารถช่วยให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกด้านความยั่งยืนมากขึ้นอย่างไร
  5. อนาคตของความยั่งยืนสำหรับผู้ค้าปลีก แบรนด์ ผู้บริโภค และรัฐบาลเป็นอย่างไร
  6. บริษัทจะต้องมีการดำเนินการอย่างไร เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในอนาคตและคำมั่นจากทางรัฐบาล

"ผู้บริโภคต้องการความช่วยเหลือในการดำรงชีวิตและบริโภคอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกองค์กรที่จะมีแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืน" Nicole Corbett รองประธานจาก Thought Leadership ของ NielsenIQ กล่าว "ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผู้บริโภคมักมองหาการปฏิบัติที่ไม่มุ่งเน้นวัตถุ และการไม่ยึดติดแบรนด์และผู้ค้าปลีก ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถไว้วางใจได้ในทุกระดับ"

จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อยู่ในขั้นวิกฤต และอาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในอีกห้าปีข้างหน้า เมื่อบริษัทต่าง ๆ มีการปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองความต้องการ แนวทาง และการดำเนินธุรกิจต่าง  ๆ การดำเนินธุรกิจเชิงรุกจะช่วยให้บริษัทได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ ในขณะที่อุตสาหกรรมอื่น ๆ มีการแย่งชิงกันเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการและคงความยั่งยืน

สำหรับข้อมูลรายงานเชิงลึกล่าสุด สามารถเข้าดูได้ที่: https://nielseniq.com/global/en/insights/analysis/2022/the-changing-climate-of-sustainability-has-reached-a-critical-moment/

เกี่ยวกับ NielsenIQ

NielsenIQ เป็นบริษัทที่ให้บริการด้านข้อมูลระดับโลก โดยมีการนำเสนอมาตรฐานสูงในการวัดดัชนีผู้บริโภคและค้าปลีกด้วยประสบการณ์ที่มีความเข้าใจธุรกิจเป็นอย่างดี และสามารถเชื่อมโยง นำไปปฎิบัติได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดสำหรับผู้บริโภคที่ผ่านการพัฒนาในทุกช่องทางทั่วโลก NielsenIQ เป็นแหล่งข้อมูลที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เราให้บริการ และเป็นผู้บุกเบิกดัชนีชี้วัดผู้บริโภคและค้าปลีกในศตวรรษหน้า ข้อมูลเชิงลึกของเรา และการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ CPG และบริษัทค้าปลีกให้สามารถเข้าถึงชุมชนที่ให้บริการ และช่วยส่งเสริมการเติบโตทางธุรกิจด้วยเช่นกัน

NielsenIQ เป็นบริษัทในเครือของ Advent International โดยมีสำนักงานอยู่ในกว่า 90 ประเทศ โดยครอบคลุมมากกว่า 90% ของประชากรโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ NielsenIQ.com

ติดต่อ

เอเชียแปซิฟิก: Tarini Mathur Kaul (tarini.mathurkaul@nielseniq.com)
ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา: Sebastien Monard (sebastien.monard@nielseniq.com)
อเมริกาใต้: Ari Rodriguez (ari.rodriguez@nielseniq.com)
อเมริกาเหนือ: Gillian Mosher (gillian.mosher@nielseniq.com)

แหล่งข้อมูล: NielsenIQ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

NTT DATA เข้าร่วม Global Alliance Program ของ EOI Space

Logo

ข้อตกลงนี้จะเอื้อให้ลูกค้าของ NTT DATA สามารถวางแผนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและการป้องกันประเทศด้วยความสามารถการถ่ายภาพทางดาวเทียมของ EOI Space

LOUISVILLE, Colo.–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2022

 EOI Space คือบริษัทที่ปรับใช้กลุ่มดาวเทียมซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตำแหน่งแก่ลูกค้าภาครัฐและเชิงพาณิชย์ วันนี้ได้ประกาศเกี่ยวกับข้อตกลงด้านการจัดจำหน่ายเชิงกลยุทธ์กับ NTT DATA Corporation ซึ่งเป็นผู้นำด้านธุรกิจดิจิทัลและบริการทางไอทีระดับโลก เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีภาพถ่ายโลกที่มีความละเอียดสูงเป็นพิเศษของ EOI Space แก่ลูกค้าในตลาดประเทศญี่ปุ่น

Christopher Thein, CEO of EOI Space (left) and Hidenori Chihara, Executive Vice President of NTT DATA. (Photo: Business Wire)

Christopher Thein, CEO จาก EOI Space (ซ้าย) และ Hidenori Chihara, รองกรรมการผู้จัดการจาก NTT DATA. (ภาพ: Business Wire)

NTT DATA เป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการเจ้าแรกใน Global Alliance Program ของ EOI Space ซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรจำกัดระดับโลกที่มีสิทธิ์เข้าถึงเนื้อหาและบริการดาวเทียมของ EOI Space ก่อนใคร ด้วยความร่วมมือครั้งนี้ NTT DATA จะใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยใหม่ล่าสุดของ EOI Space นั่นคือ ดาวเทียม Stingray ซึ่งมีวงโคจรโลกที่ต่ำมาก (Very Low Earth Orbit (VLEO)) ช่วยให้สามารถมอบข้อมูลความจุสูงที่ลูกค้าต้องการ เพื่อตรวจสอบและรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนการคุกคามความปลอดภัยสาธารณะ ซึ่ง EOI Space วางแผนที่จะเปิดตัวดาวเทียมดวงแรกในไตรมาส 1 ปี 2024 โดยมีดาวเทียมอีกห้าดวงที่คาดว่าจะเปิดตัวภายใน 12 เดือน ขณะเดียวกัน NTT DATA ก็จะสร้าง Secure Access Facility ในญี่ปุ่น เพื่อเสริมความสามารถในการดาวน์ลิงก์โดยตรงจากกลุ่มดาวเทียม Stingray

“EOI Space และ NTT DATA ร่วมมือกันสร้าง Secure Access Facility สำหรับ NTT DATA แบบระยะยาว ซึ่งจะช่วยให้สามารถส่งข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์แก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วกว่าที่เคย” Christopher Thein ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง EOI Space กล่าว “นี่คืออุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นการถ่ายภาพคุณภาพสูงอย่างทันเวลา เราขอขอบคุณพันธมิตรที่ทุ่มเทร่วมใจให้กับภารกิจและตลาดนี้สำหรับ NTT DATA”

“โดยการใช้ดาวเทียม Stingray ของ EOI Space เราจะสามารถรวบรวมภาพความละเอียดสูงจำนวนมากในศูนย์ข้อมูลของเรา เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ภายใน การใช้อัลกอริธึม AI ล่าสุดของเราจะช่วยให้เราสามารถให้บริการผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มแก่ลูกค้าของเรา โดยการแยกความแตกต่างในข้อมูลที่รวบรวมไว้ก่อนหน้านี้และข้อมูลที่รวบรวมใหม่ เพื่อตรวจสอบความผิดปกติ” Hideyuki Nakamura ผู้จัดการฝ่ายบริหารจาก NTT DATA กล่าว “นอกเหนือจากนี้ เรายังสามารถขยายการใช้งานภาพของ EOI Space สำหรับระบบป้องกันภัยพิบัติต่างๆ และโครงการบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะมีการพัฒนาขึ้นในอนาคต และสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เสริมระดับความยืดหยุ่น”

อนาคตของดาวเทียม: ขนาดเล็ก แต่ให้ผลสูง

ดาวเทียมกลายมามีความสำคัญมากขึ้นในชีวิตประจำวันและในด้านความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนทั่วโลก ดาวเทียม Stingray ของ EOI Space สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบขับเคลื่อนพลาสมาที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท โดยทำงานในวงโคจรที่ใกล้โลกมากกว่าเดิมเมื่อเทียบกับดาวเทียมอื่นๆ ในตลาด ช่วยให้ดาวเทียมสามารถจับภาพความละเอียดสูงเกือบ 15 ซม. ได้แบบเรียลไทม์ ระบบขับเคลื่อนแบบไอออนไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นอย่างเป็นอิสระของ EOI Space ซึ่งอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร ช่วยให้สามารถมั่นใจได้ว่า ดาวเทียมจะสามารถทำงานได้อย่างเสถียรในวงโคจรโลกต่ำ นอกจากนี้ ดาวเทียม Stingray ของ EOI Space ที่มีขนาดเล็กจะช่วยให้ NTT DATA และลูกค้าสามารถเข้าถึงภาพความละเอียดสูงและความจุข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้นด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับดาวเทียมขนาดใหญ่ที่มีราคาแพงกว่าในการพัฒนาและเปิดตัว

NTT DATA คาดว่า ยอดขายข้อมูลของ EOI Space และผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม เช่น การวิเคราะห์ AI มีมูลค่าสูงกว่า 70 ล้านดอลลาร์ในปี 2028 โดยคาดการณ์ว่า ยอดขายส่วนใหญ่จะมาจากการนำไปใช้ในการป้องกัน ความปลอดภัยสาธารณะ และการจัดการภัยพิบัติ บริษัทยังได้เข้าร่วมกับนักลงทุนรายย่อยอื่นๆ ในกลุ่ม Series A ของ EOI Space พร้อมการลงทุนในตราสารทุน แสดงถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อ EOI Space และตลาดการสังเกตการณ์โลก

เกี่ยวกับ EOI Space

EOI Space ตั้งอยู่ใน Louisville, Colorado กำลังพัฒนาดาวเทียมขนาดเล็กที่สามารถบินต่ำอย่างไม่เหมือนใคร เพื่อรวบรวมภาพถ่ายความละเอียดสูงเป็นพิเศษ รองรับการใช้งานด้านสังเกตการณ์ในโลกที่หลากหลายในวงโคจรโลกที่ต่ำมาก (Very Low Earth Orbit (VLEO)) โดยใช้สิทธิบัตรเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ผ่านการรับรองและกำลังอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร การปฏิบัติการใกล้โลกมากขึ้นกว่าเดิมจะทำให้ EOI บันทึกมุมมองของโลกจากอวกาศ เพื่อให้ได้ข้อมูลข่าวกรองแบบเรียลไทม์ที่มีมูลค่าสูงเชิงพาณิชย์ การติดตามทรัพย์สิน และการตรวจสอบสถานการณ์ ขณะนี้ EOI Space กำลังระดมทุนเพื่อลงทุนในการขยายกลุ่มดาวเทียม ติดตามเราได้ที่ https://eoi.space เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับภารกิจและโอกาสในการลงทุนของเรา

เกี่ยวกับ NTT DATA

NTT DATA เป็นส่วนหนึ่งของ NTT Group  และเป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมด้านไอทีและบริการธุรกิจระดับโลกที่เชื่อถือได้ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่โตเกียว เราให้บริการช่วยลูกค้าในการเปลี่ยนแปลงผ่านการให้คำปรึกษา โซลูชันอุตสาหกรรรม บริการกระบวนการทางธุรกิจ การปรับปรุงไอทีให้ทันสมัย และบริการบริหารจัดการ โดย NTT DATA ช่วยให้ลูกค้าและสังคมสามารถก้าวไปสู่อนาคตแห่งดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ เรามุ่งมั่นในการช่วยให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในระยะยาวและวางแผนที่จะขยายบริการไปให้ถึงทั่วโลกมากกว่า 50 ประเทศ พร้อมดูแลใส่ใจลูกค้าในท้องถิ่น ติดตามเราได้ที่ https://www.nttdata.com

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52979658/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ผู้ติดต่อฝ่ายสื่อ:
Paul Smith
EOI Space
+1 650.200.3360
media@eoi.space

แหล่งข้อมูล: EOI Space

Hyatt สานต่อกลยุทธ์การเติบโตแบบ Asset-Light ด้วยแผนการเข้าซื้อกิจการ Dream Hotel Group

Logo

การเข้าซื้อกิจการเพื่อขยายการให้บริการไลฟ์สไตล์โฮเต็ลที่ไม่เหมือนใครของ Hyatt ด้วยพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วโดยเน้นที่ประสบการณ์การรับประทานอาหารและสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่มีชีวิตชีวา

CHICAGO–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2022

Hyatt Hotels Corporation (NYSE: H) และ Dream Hotel Group ได้ประกาศข้อตกลงสำหรับบริษัทในเครือ Hyatt เพื่อซื้อแบรนด์ไลฟ์สไตล์โฮเต็ลและแพลตฟอร์มการจัดการของ Dream Hotel Group ซึ่งรวมถึง Dream HotelsThe Chatwal Hotels และแบรนด์ Unscripted Hotels พร้อมที่พักในตลาดโรงแรมบางแห่งที่โดดเด่นที่สุดในโลกในอเมริกา ยุโรป และเอเชีย

Dream Downtown (Photo: Business Wire)

Dream Downtown (Photo: Business Wire)

การเข้าซื้อกิจการแบบ Asset-light นี้จะรวมถึงพอร์ตโฟลิโอของไลฟ์สไตล์โฮเต็ลที่ได้รับการบริหารจัดการหรือแฟรนไชส์ ​​12 แห่ง พร้อมด้วยข้อตกลงการจัดการระยะยาวอีก 24 ฉบับสำหรับโรงแรมที่คาดว่าจะเปิดในอนาคต เมื่อปิดตัวลง การขยายตัวนี้จะเพิ่มห้องพักมากกว่า 1,700 ห้องให้กับพอร์ตโฟลิโอไลฟ์สไตล์ของ Hyatt และเพิ่มจำนวนห้องของ Hyatt ในนิวยอร์กซิตี้มากกว่า 30% การซื้อกิจการครั้งนี้เป็นการสานต่อกลยุทธ์การเติบโตของสินทรัพย์ที่เบาสบายของ Hyatt หลังจากการทำธุรกรรมเพื่อซื้อกิจการ Two Roads Hospitality ในปี 2018 และ Apple Leisure Group ในปี 2021 และล่าสุด ได้มีข้อตกลงความร่วมมือของ Hyatt กับ German Lindner Hotels AG เพื่อเพิ่มยอดแบรนด์ของ Hyatt ในยุโรป

เมื่อปิดการขาย Hyatt จ่ายราคาซื้อพื้นฐานที่ 125 ล้านดอลลาร์ และเพิ่มสูงสุดถึง 175 ล้านดอลลาร์ในช่วง 6 ปีข้างหน้าเมื่อที่พักเข้าสู่กระบวนการและเปิดดำเนินการ ค่าธรรมเนียมการจัดการที่คงที่ตามราคาซื้อพื้นฐานที่ 125 ล้านดอลลาร์คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 12 ล้านดอลลาร์ และเท่าที่มีการชำระราคาซื้อที่อาจเกิดขึ้นที่ 175 ล้านดอลลาร์ ค่าธรรมเนียมการจัดการที่คงที่เพิ่มเติมคาดว่าจะสูงถึงประมาณ 27 ล้านดอลลาร์ ราคาซื้อพื้นฐานทั้งหมดบวกกับราคาซื้อที่อาจเกิดขึ้นแสดงถึงการได้มาซึ่งหลายรายการที่น่าสนใจในอัตราเลขหนึ่งหลักช่วงปลายจากรายได้ที่คงที่ที่คาดการณ์ไว้

กรรมสิทธิ์ของ Dream Hotel Group เป็นที่รู้จักในด้านประสบการณ์การรับประทานอาหารและสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่มีชีวิตชีวา รวมถึงร้านอาหารยอดนิยม สถานบันเทิงหรูหรา และไนท์คลับสุดพิเศษที่สร้างขึ้นจากความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับผู้นำที่ได้รับรางวัลในอุตสาหกรรมที่สร้างสรรค์ การซื้อกิจการครั้งนี้จะขยายขอบเขตแบรนด์ของ Hyatt ในตลาดสำคัญ ๆ รวมถึงแนชวิลล์ ฮอลลีวูด เซาท์บีช เดอรัม สถานที่ตั้งหลายแห่งในนิวยอร์กซิตี้ และอีกหนึ่งแห่งในแคตสกิลส์ สัญญาที่ลงนามนั้นแสดงถึงจุดหมายปลายทางเชิงกลยุทธ์เพิ่มเติม ได้แก่ ลาสเวกัส เซนต์ลูเซีย และโดฮา

“เรามีความเคารพอย่างสูงต่อสิ่งที่ Sant Singh Chatwal ผู้ก่อตั้ง Dream Hotel Group และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Jay Stein รวมถึงทีมงานของพวกเขาได้สร้างขึ้น และรู้สึกขอบคุณสำหรับความไว้วางใจที่ Dream Hotel Group มอบให้เราในการดูแลแบรนด์ของพวกเขาและสานต่อความสำเร็จของพวกเขาต่อไปในอนาคต” กล่าวโดย Mark Hoplamazian ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Hyatt “เราตั้งตารอที่จะเติบโตต่อไปพร้อมกับสมาชิกครอบครัว Hyatt ใหม่กว่า 600 คน ซึ่งจะยกระดับความเชี่ยวชาญด้านไลฟ์สไตล์ของเราและขยายความสำเร็จของแผนกไลฟ์สไตล์โดยเฉพาะของเรา เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะนำเสนอประสบการณ์ที่สร้างแรงบันดาลใจและโปรแกรมการเฉลิมฉลองให้กับแขกผู้มาเยือนและสมาชิกที่ภักดีของเรา และนำคุณค่าของเครือข่าย Hyatt มาสู่เจ้าของโรงแรมและนักพัฒนาที่มีวิสัยทัศน์ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วโลก”

Sant Singh Chatwal ประธานและผู้ก่อตั้ง Dream Hotel Group กล่าวว่า "Hyatt มีผลงานเป็นที่ประจักษ์แล้วในการรักษาสิ่งที่ทำให้ไลฟ์สไตล์โฮเต็ลมีความพิเศษ และเป็นบ้านใหม่ที่เหมาะสำหรับแบรนด์ Dream Hotel Group ที่กำลังเติบโตของเรา" “ในฐานะเจ้าของที่พักในเครือ Dream Hotel Group ผมตั้งตารอการเดินทางก้าวต่อไปของเรา และผมมั่นใจว่าจะมีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้าสำหรับโรงแรม เจ้าของ แขก และสมาชิกในทีมของเราในฐานะส่วนหนึ่งของครอบครัว Hyatt”

การทำธุรกรรมนี้คาดว่าจะปิดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการปิดตามธรรมเนียม หลังจากเสร็จสิ้นการทำธุรกรรม Hyatt จะทำงานเพื่อต้อนรับโรงแรมใหม่เข้าสู่โปรแกรมสะสมแต้ม World of Hyatt ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าพักและจุดหมายปลายทางให้กับฐานสมาชิก สมาชิก World of Hyatt คือนักเดินทางที่มีค่าที่สุดในอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผู้ที่ใช้จ่ายมากขึ้นและเข้าพักมากขึ้น ซึ่งสร้างรายได้เป็นอย่างมากให้กับเจ้าของที่พักในเครือ Dream Hotel Group

Sant Singh Chatwal ผู้ก่อตั้ง Dream Hotel Group จะยังคงมุ่งมั่นต่อไปในฐานะเจ้าของโรงแรมที่เปิดให้บริการแล้ว 4 แห่งและโรงแรมที่จะเปิดในอนาคตอีก 2 แห่งที่คาดว่าจะเข้าร่วมในพอร์ตโฟลิโอของ Hyatt โดย Jay Stein ซีอีโอของ Dream Hotel Group จะเข้าร่วมกับ Hyatt ในฐานะหัวหน้าของ Dream Hotels เพื่อแนะนำการรวมแบรนด์ Dream Hotel Group เข้ากับพอร์ตโฟลิโอของ Hyatt เพื่อให้มั่นใจว่า DNA ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์จะได้รับการเก็บรักษาไว้ ในขณะเดียวกันก็ใช้ประโยชน์จากความสามารถของ Hyatt เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการของที่พัก นอกจากนี้ David Kuperberg ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาของ Dream Hotel Group จะร่วมงานกับ Hyatt ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพัฒนาของ Dream Hotels โดยที่ Michael Lindenbaum ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการจะเข้าร่วมกับ Hyatt ในตำแหน่ง Global Head of Operations ของ Dream Hotels

ในการทำธุรกรรมดังกล่าว Moelis & Company LLC ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของ Hyatt และ Latham & Watkins LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย

คำว่า "Hyatt" ใช้ในข่าวประชาสัมพันธ์นี้เพื่อความสะดวกในการอ้างถึง Hyatt Hotels Corporation และ/หรือบริษัทในเครืออย่างน้อยหนึ่งแห่ง

เกี่ยวกับ Hyatt Hotels Corporation

Hyatt Hotels Corporation มีสำนักงานใหญ่ในชิคาโก เป็นบริษัทด้านการบริการชั้นนำระดับโลกที่มีเป้าหมายในการดูแลผู้คนเพื่อให้พวกเขาทำงานได้อย่างดีที่สุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2022 พอร์ตโฟลิโอของบริษัทประกอบด้วยโรงแรมและที่พักแบบเหมาจ่ายมากกว่า 1,200 แห่งใน 72 ประเทศในหกทวีป ข้อเสนอของบริษัทประกอบด้วยแบรนด์ต่าง ๆ ใน ​​Timeless Collection ได้แก่ Park Hyatt®Grand Hyatt®Hyatt Regency®Hyatt®Hyatt Residence Club®Hyatt Place®Hyatt House® และ UrCove ใน Boundless Collection ได้แก่ Miraval®Alila®Andaz®Thompson Hotels®Hyatt Centric® และ Caption by Hyatt ใน Independent Collection ได้แก่ The Unbound Collection by Hyatt®Destination by Hyatt™ และ JdV by Hyatt™ และ Inclusive Collection ได้แก่ Hyatt Ziva®Hyatt Zilara®Zoëtry® Wellness & Spa ResortsSecrets® Resorts & SpasBreathless Resorts & Spas®Dreams® Resorts & SpasVivid Hotels & Resorts®Alua Hotels & Resorts® และ Sunscape® Resorts & Spas บริษัทย่อยดังกล่าวของบริษัทนั้น ๆ ดำเนินการโปรแกรมสะสมแต้ม World of Hyatt®, ALG Vacations®, Unlimited Vacation Club®, บริการจัดการปลายทาง Amstar DMC และบริการเทคโนโลยี Trisept Solutions® หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม www.hyatt.com

เกี่ยวกับ Dream Hotel Group

Dream Hotel Group เป็นแบรนด์โรงแรมและบริษัทบริหารจัดการที่มีประวัติยาวนานถึง 35 ปีในการจัดการที่พักในสภาพแวดล้อมโรงแรมที่มีการแข่งขันสูงที่สุดในโลกหลายแห่ง เช่น นิวยอร์ก ลอสแองเจลิส ไมอามี กรุงเทพฯ และล่าสุดที่แนชวิลล์ Dream Hotel Group เป็นที่ตั้งของแบรนด์ Dream Hotels, Unscripted Hotels, The Chatwal และแบรนด์ใหม่อย่าง By Dream Hotel Group โดยมีสามสายธุรกิจ ได้แก่ แบรนด์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ การจัดการโรงแรม และร้านอาหารและสถานบันเทิงยามค่ำคืน บริษัทยึดมั่นในปรัชญาที่ว่าการออกแบบที่ล้ำหน้า บริการ และประสบการณ์ของผู้เข้าพักควรมีอยู่ในทุกกลุ่มตลาด Dream Hotel Group มุ่งมั่นที่จะนำเสนอการเชื่อมต่อที่แท้จริงแก่นักท่องเที่ยวไปยังจุดหมายปลายทางที่เลือกด้วยวิธีการดั้งเดิมอย่างแท้จริง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Dream Hotel Group และแบรนด์ในเครือ โปรดไปที่ www.DreamHotelGroup.com และติดตาม @dreamhotelgroup บน Twitter และ LinkedIn

ข้อความคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต

ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริงในอดีต เป็นข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าตามความหมายของกฎหมายปฏิรูปการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์ส่วนบุคคลปี 1995 ข้อความเหล่านี้รวมถึงข้อความเกี่ยวกับการเสนอซื้อกิจการของแบรนด์ไลฟ์สไตล์โฮเต็ลและแพลตฟอร์มการจัดการของ Dream Hotel Group รวมถึงผลประโยชน์ทางการเงินและการดำเนินงานที่คาดว่าจะได้รับจากการซื้อกิจการ ข้อได้เปรียบของผู้เข้าพักและเจ้าของที่เกิดจากการซื้อกิจการ จำนวนของที่พักที่คาดว่าจะเปิดในอนาคตซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการซื้อกิจการ จำนวนโรงแรมที่คาดว่าจะได้รับมาเป็นส่วนหนึ่งของการเข้าซื้อกิจการในโปรแกรมสะสมแต้มของ World of Hyatt ระยะเวลาที่คาดว่าจะเสร็จสิ้นการซื้อกิจการ โอกาสหรือเหตุการณ์ในอนาคต และเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงทั้งที่ทราบและไม่ทราบซึ่งยากต่อการคาดเดา ผลลัพธ์ที่แท้จริง ประสิทธิภาพ หรือความสำเร็จของเราอาจแตกต่างอย่างมากจากที่แสดงหรือบอกเป็นนัยในข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้ ในบางกรณี คุณสามารถระบุข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าได้โดยใช้คำต่าง ๆ เช่น "อาจ" "สามารถ" "คาดหวัง" "ตั้งใจ" "วางแผน" "มองหา" "คาดการณ์" "เชื่อ" "ประมาณการ" "ทำนาย" "ศักยภาพ" "ต่อไป" "น่าจะ" "จะ" "อาจจะ" และรูปแบบต่าง ๆ ของคำศัพท์เหล่านี้และการแสดงออกที่คล้ายคลึงกัน หรือการลบของคำศัพท์เหล่านี้หรือการแสดงออกที่คล้ายคลึงกัน แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าดังกล่าวจำเป็นต้องมีพื้นฐานจากการประมาณการและข้อสมมติฐาน ซึ่งแม้ว่าเราและผู้บริหารของเราจะพิจารณาแล้วว่าสมเหตุสมผล แต่ก็ยังคงมีความไม่แน่นอนโดยเนื้อแท้

ปัจจัยที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากความคาดหวังในปัจจุบันนั้นรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าซื้อกิจการ Apple Leisure Group รวมถึงการรวมธุรกิจ Apple Leisure Group ที่ประสบความสำเร็จ อย่างระยะเวลาและความรุนแรงของการระบาดใหญ่ของ COVID-19 หรือการฟื้นตัวเพิ่มเติมใด ๆ และอัตราการฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดหรือการฟื้นตัวเพิ่มเติมใด ๆ และอย่างผลกระทบระยะสั้นและระยะยาวของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่รวมถึงความต้องการในการเดินทาง ธุรกิจชั่วคราวและธุรกิจแบบกลุ่ม และระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ทั้งยังมีผลกระทบต่อการดำเนินการของรัฐบาล ธุรกิจ หรือบุคคลเพื่อตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของ COVID-19 หรือการฟื้นตัวเพิ่มเติมใด ๆ ต่อเศรษฐกิจโลกและภูมิภาค การจำกัดการเดินทางหรือการห้าม และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ หรืออย่างความสามารถของเจ้าของที่เป็นบุคคลภายนอก ผู้ซื้อแฟรนไชส์ ​​หรือหุ้นส่วนธุรกิจด้านการบริการเพื่อรับมือกับผลกระทบของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 หรือการฟื้นตัวเพิ่มเติมใด ๆ ได้สำเร็จ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโดยทั่วไปในตลาดสำคัญ ๆ ของโลก และภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยหรือการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับต่ำ หรืออย่างอัตราและจังหวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจตามภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ อีกทั้งข้อจำกัดและการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ต้นทุนแรงงานและวัสดุที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อหรือปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจไม่ถูกหักล้างทั้งหมดจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจของเรา ความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มที่พักหรู รีสอร์ท และที่พักแบบเหมาจ่าย ระดับการใช้จ่ายในภาคธุรกิจ การพักผ่อน และกลุ่ม รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภค การลดลงของอัตราการเข้าพักและอัตราเฉลี่ยต่อวัน การมองเห็นที่จำกัดเกี่ยวกับการจองในอนาคต การสูญเสียบุคลากรหลัก เงื่อนไขทางการเมืองและภูมิรัฐศาสตร์ในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงความไม่สงบทางการเมืองหรือพลเรือน หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้า ความเป็นปรปักษ์หรือความหวาดกลัวต่อความเป็นปรปักษ์ รวมถึงการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในอนาคตที่ส่งผลกระทบต่อการเดินทาง อุบัติเหตุจากการเดินทาง ภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น แผ่นดินไหว สึนามิ พายุทอร์นาโด พายุเฮอริเคน น้ำท่วม ไฟป่า น้ำมันรั่วไหล เหตุการณ์นิวเคลียร์ และการระบาดทั่วโลกของโรคระบาดหรือโรคติดต่อ หรือความกลัวต่อการระบาดดังกล่าว ความสามารถของเราในการประสบความสำเร็จในการทำกำไรจากการดำเนินงานในระดับหนึ่งในโรงแรมที่มีการทดสอบประสิทธิภาพหรือการรับประกันเพื่อประโยชน์ของเจ้าของบุคคลที่สามของเรา ผลกระทบของการปรับปรุงโรงแรมและการพัฒนาขื้นใหม่ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับแผนการจัดสรรเงินทุน โครงการซื้อหุ้นคืน และการจ่ายเงินปันผลของเรา รวมถึงการลดหรือยกเลิกหรือระงับกิจกรรมการซื้อคืนหรือการจ่ายเงินปันผล ธรรมชาติตามฤดูกาลและวัฏจักรของธุรกิจที่พักและการบริการ การเปลี่ยนแปลงในการจัดการการจัดจำหน่าย เช่น ผ่านตัวกลางการเดินทางทางอินเทอร์เน็ต การเปลี่ยนแปลงในรสนิยมและความชอบของลูกค้าของเรา ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานและสหภาพแรงงานและการเปลี่ยนแปลงกฎหมายแรงงาน สถานะทางการเงินและความสัมพันธ์ของเรากับเจ้าของทรัพย์สินที่เป็นบุคคลภายนอก ผู้ซื้อแฟรนไชส์ ​​และหุ้นส่วนธุรกิจด้านการบริการ การที่เจ้าของที่เป็นบุคคลภายนอก แฟรนไชส์ ​​หรือหุ้นส่วนการพัฒนาไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนที่จำเป็นต่อการดำเนินงานปัจจุบันหรือดำเนินการตามแผนเพื่อการเติบโตได้ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการได้มาและการขายที่อาจเกิดขึ้นและการแนะนำแนวคิดแบรนด์ใหม่ ระยะเวลาของการซื้อกิจการและการขายกิจการ และความสามารถของเราในการรวมการซื้อกิจการที่เสร็จสมบูรณ์แล้วเข้ากับการดำเนินงานที่มีอยู่ การไม่สามารถดำเนินการธุรกรรมที่เสนอได้สำเร็จ (รวมถึงการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการปิดบัญชีหรือได้รับการอนุมัติที่จำเป็น) ความสามารถของเราในการดำเนินกลยุทธ์ของเราให้ประสบความสำเร็จในการขยายการจัดการและธุรกิจแฟรนไชส์ ​​ในขณะเดียวกันก็ลดฐานทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์ของเราภายในกรอบเวลาเป้าหมายและตามมูลค่าที่คาดหวัง การลดลงของมูลค่าทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์ของเรา การยุติการจัดการหรือข้อตกลงแฟรนไชส์ของเราโดยไม่คาดคิด การเปลี่ยนแปลงในกฎหมายภาษีของรัฐบาลกลาง รัฐ ท้องถิ่น หรือต่างประเทศ การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ค่าจ้าง และต้นทุนการดำเนินงานอื่น ๆ ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศหรือการปรับโครงสร้างสกุลเงิน การขาดการยอมรับตราสินค้าหรือนวัตกรรมใหม่ ความผันผวนทั่วไปของตลาดทุนและความสามารถของเราในการเข้าถึงตลาดดังกล่าว การเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมการแข่งขันในอุตสาหกรรมของเรา ซึ่งรวมถึงผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 การรวมอุตสาหกรรม และตลาดที่เราดำเนินการ ความสามารถของเราในการขยายโปรแกรมสะสมแต้มของ World of Hyatt และโปรแกรมสมาชิกแบบชำระเงิน Unlimited Vacation Club ให้ประสบความสำเร็จ เหตุการณ์ทางไซเบอร์และความล้มเหลวของเทคโนโลยีสารสนเทศ ผลของกระบวนการทางกฎหมายหรือการบริหาร การละเมิดข้อบังคับหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจแฟรนไชส์ของเรา และความเสี่ยงอื่น ๆ ที่กล่าวถึงในเอกสารที่บริษัทยื่นต่อสำนักงาน ก.ล.ต. รวมถึงรายงานประจำปีของเราในแบบฟอร์ม 10-K ซึ่งเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงาน ก.ล.ต. แถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าทั้งหมดที่เป็นของเราหรือบุคคลที่ดำเนินการในนามของเรานั้นมีคุณสมบัติครบถ้วนตามแถลงการณ์เตือนที่กำหนดไว้ข้างต้น เราขอเตือนคุณว่าอย่าเชื่อถือข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตมากเกินไป ซึ่งจัดทำขึ้น ณ วันที่ของข่าวประชาสัมพันธ์นี้เท่านั้น เราไม่ดำเนินการหรือรับภาระผูกพันใด ๆ ในการอัปเดตแถลงการณ์เชิงคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ ต่อสาธารณะเพื่อสะท้อนผลลัพธ์จริง ข้อมูลใหม่หรือเหตุการณ์ในอนาคต การเปลี่ยนแปลงสมมติฐานหรือการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ยกเว้นในขอบเขตที่กำหนดโดยกฎหมายที่ใช้บังคับ หากเราอัปเดตข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าตั้งแต่หนึ่งข้อความขึ้นไป ไม่ควรอนุมานว่าเราจะทำการปรับปรุงเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านั้นหรือข้อความอื่น ๆ

ติดต่อ

ช่องทางการติดต่อผ่านมีเดียเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:

Hyatt:
Franziska Weber
franziska.weber@hyatt.com

Investor Contact:
Noah Hoppe
noah.hoppe@hyatt.com

Dream Hotel Group:
Katie Fontana
kfontana@dreamhotelgroup.com

แหล่งที่มา: Hyatt Hotels Corporation

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย



โครงการเพื่อความยั่งยืนของ Mary Kay นำเสนอในการประชุมซัมมิทด้านมหาสมุทรทั่วโลกของ Economist Impact ในสิงคโปร์

Logo

DALLAS–(BUSINESS WIRE)–30 พฤศจิกายน 2022 

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความยั่งยืนชององค์กร และการดูแลลงนามด้านหลักการสร้างมหาสมุทรอย่างยั่งยืนของ UN Global Compact ยังคงสนับสนุนความพยายามในการเพิ่มความตระหนักในมหาสมุทรทั่วโลก และมุ่งเน้นบทบาทที่สำคัญในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่มีผลกระทบต่อมหาสมุทร

สัปดาห์นี้ในงาน World Ocean Summit Asia Pacific ของ Economist Impact ที่สิงคโปร์ โครงการที่ได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay จะมุ่งเน้นเกี่ยวกับสตรีและการอนุรักษ์ โดยมีการนำเสนอหัวข้อ “นวัตกรรมและการปรับตัว—การแก้ปัญหาชายฝั่งจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” การอภิปรายครอบคลุมผลกระทบที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีต่อระบบนิเวศชายฝั่งเอเชียแปซิฟิก รวมถึงต่อมหาสมุทรทั่วโลก และนำเสนอกรณีศึกษาเกี่ยวกับวิธีการเตรียมพร้อมสำหรับภูมิภาคนี้ และปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ป่าชายเลนมีความสำคัญต่อระบบนิเวศชายฝั่ง แต่เป็นหนึ่งในระบบนิเวศที่ถูกคุกคามมากที่สุดในโลก เพื่อสร้างวิธีแก้ปัญหาระยะยาวสำหรับป่าชายเลนในปาปัวนิวกินี Mangoro Market Meri—ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มที่ได้รับการสนับสนุนจาก The Nature Conservancy และ Mary Kay—โดยมีการรวบรวมความร่วมมือในท้องถิ่น การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และคาร์บอนสีน้ำเงิน (คาร์บอนจากมหาสมุทรและชายฝั่งของโลกระบบนิเวศ) เพื่อสร้างแรงจูงใจในการป้องกันและฟื้นฟูป่าชายเลน

ผู้หญิงที่ Mangoro Market Meri ทำการตลาดผลิตภัณฑ์จากป่าชายเลนที่ยั่งยืน เช่น หอยและปูโคลน เพื่อสร้างรายได้และโอกาสการจ้างงาน ในขณะเดียวกัน ก็ปกป้องป่าชายเลนนำไม้ไปใช้ โดยการสนับสนุนจาก Mary Kay ผู้หญิงที่ Mangoro Market Meri จะได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความเสมอภาคทางเพศ ความเป็นผู้นำ ความรู้ทางการเงิน และการจัดการธุรกิจ

Ruth Konia ผู้จัดการโครงการ Mangoro Market Meri สำหรับโครงการ Melanesia  ของ The Nature Conservancy เข้าร่วมกับผู้ร่วมอภิปรายจาก UNEP, WWF China และ the Greener India Council เพื่อแบ่งปันผลกระทบที่ The Nature Conservancy กำลังเกิดขึ้นในภูมิภาคนี้ โดยได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนจาก Mary Kay

“ผู้หญิงจะต้องมีอำนาจในการตัดสินใจด้านสุขภาพ การศึกษา การปกครอง และการเงิน Mangoro Market Meri กำลังปรับเปลี่ยนแนวคิดและให้โอกาสที่เท่าเทียมกันแก่ผู้หญิง โดยสร้างอำนาจแก่ผู้หญิงผ่านการอนุรักษ์ป่าชายเลน” Ruth Konia กล่าว “เมื่อผู้หญิงได้รับการเสริมอำนาจ การดำเนินการต่างๆ จะส่งผลดีต่อครอบครัวและกระตุ้นผลประโยชน์ต่อทั้งชุมชน”

Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ดูแลทรัพยากรธรรมชาติที่ดี ในขณะเดียวกัน ก็ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ และส่งเสริมพลังของผู้หญิงในการอนุรักษ์ทั่วโลก หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนของ Mary Kay โปรดไปที่ marykayglobal.com/sustainability และดาวน์โหลดกลยุทธ์ความยั่งยืนระดับโลกของ Mary Kay: ทำชีวิตในวันนี้ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อความยั่งยืนที่ดีในวันพรุ่งนี้

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy (TNC)

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ผืนดินและผืนน้ำที่ทุกชีวิตต้องพึ่งพา ด้วยแนวทางด้านวิทยาศาสตร์ เราค้นพบวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นนวัตกรรมบนพื้นฐานความท้าทายที่ยากที่สุดในโลกของเรา เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเติบโตไปด้วยกัน เรากำลังจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์ผืนดิน ผืนน้ำ และมหาสมุทรที่เกิดขึ้นอย่างมาก จัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยให้สามารถสร้างเมืองอย่างมีความยั่งยืนยิ่งขึ้น เรามีการดำเนินการใน 79 ประเทสและดินแดน โดยใช้ความร่วมมือและการมีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่นๆ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูที่ www.nature.org หรือติดตามเราได้ที่ @nature_press บน Twitter

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash หนึ่งในผู้บุกเบิกด้านเพดานกระจกแบบดั้งเดิม ได้ก่อตั้งบริษัทเสริมความงานตามความฝันของเธอขึ้นในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียว นั่นคือ การทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลล่าร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในเกือบ 40 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมผู้หญิงผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังการเสริมความงาม และการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำชีวิตในวันนี้ให้ดียิ่งขึ้นเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยมีการร่วมมือกับองค์กรต่างๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการละเมิดในครอบครัว ทำให้ชุมชนสวยงาม สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com ค้นหาเราได้ที่ FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/52985241/en

ติดต่อ

Mary Kay Inc.
Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 or media@mkcorp.com

The Nature Conservancy
Misty Edgecomb
Communications Director
medgecomb@tnc.org or 484-343-3223

แหล่งข้อมูล: Mary Kay Inc.

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย





Illumination และ Nintendo ปล่อยตัวอย่างที่สองและนักพากย์ภาษาญี่ปุ่นสำหรับ The Super Mario Bros. Movie

Logo

ซานตาโมนิกา แคลิฟอร์เนีย และโตเกียว ญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–30 พฤศจิกายน 2022

Illumination (สำนักงานใหญ่: ซานตาโมนิกา แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา; ผู้ก่อตั้งและ CEO: Chris Meledandri) และ Nintendo Co., Ltd. (สำนักงานใหญ่: เกียวโต มินามิกุ ญี่ปุ่น; Representative Director และประธาน: Shuntaro Furukawa จากนี้ไปเรียกว่า “Nintendo”) ร่วมกันเปิดตัวอย่างที่สอง ของ The Super Mario Bros. Movie วันนี้ ซึ่งเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องใหม่ที่ใช้โลกของเกม Super Mario Bros. ในงาน Nintendo Direct ที่สตรีมออนไลน์วันเดียวกัน

นอกจากนี้ ทั้งสองบริษัทได้ประกาศรายชื่อนักพากย์ภาษาญี่ปุ่นสำหรับตัวละคร Mario, Princess Peach, Luigi, Bowser และ Toad

ทีมพากย์ภาษาญี่ปุ่น

Mario

Mamoru Miyano

เจ้าหญิง Peach

Arisa Shida

Luigi

Tasuku Hatanaka

Bowser

Kenta Miyake

Toad

Tomokazu Seki

  • เกี่ยวกับ The Super Mario Bros. Movie ภาพยนตร์แอนิเมชัน The Super Mario Bros. Movie ภาพยนตร์แอนิเมชัน The Super Mario Bros. Movie ผลิตโดย Chris Meledandri จาก Illumination และ Shigeru Miyamoto จาก Nintendo จะได้รับทุนสนับสนุนจาก Universal Pictures และ Nintendo โดยจะออกฉายทั่วโลกโดย Universal Pictures

    กำกับโดย Aaron Horvath และ Michael Jelenic (เคยร่วมกันทำ Teen Titans Go!Teen Titans Go! To the Movies) ซึ่งเขียนบทโดย Matthew Fogel (Minions: The Rise of Gru ของ Illumination) นักแสดงประกอบด้วย Chris Pratt รับบทเป็น Mario, Anya Taylor-Joy รับบทเป็นเจ้าหญิง Peach, Charlie Day รับบทเป็น Luigi, Jack Black รับบทเป็น Bowser, Keegan-Michael Key รับบทเป็น Toad, Seth Rogen รับบทเป็น Donkey Kong, Fred Armisen รับบทเป็น Cranky Kong, Kevin Michael Richardson รับบทเป็น Kamek และ Sebastian Maniscalco รับบทเป็น Spike

  • เกี่ยวกับ Illumination
    Illumination ก่อตั้งโดย Chris Meledandri เมื่อปี 2007 เป็นหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำของอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงที่สร้างแอนิเมชันชื่อดังอย่าง Despicable Me—แฟรนไชส์แอมิเมชันที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์—รวมถึง Dr. Seuss The LoraxDr. Seuss The Grinch และ The Secret Life of Pets และ Sing  The Super Mario Bros. Movie ของ Illumination ที่จะเข้าฉายในเร็วๆ นี้ และจะได้เป็นหนึ่งในผลงานภาพยนตร์แอนิเมชันของสตูดิโอนี้ที่มี 2 เรื่องติดอันดับ 10 สุดยอดภาพยนตร์แอมิเมชันตลอดกาล แฟรนไชส์อันเป็นที่รักและเป็นที่ชื่นชอบของ Illumination ซึ่งผสมผสานด้วยตัวละครที่น่าจดจำและโดดเด่น ความดึงดูดใจระดับโลก และความเกี่ยวข้องทางวัฒนธรรม ทำรายได้ทั่วโลกไปแล้วกว่า 8,000 ล้านดอลลาร์ Illumination มีหุ้นส่วนทางการเงินและการจัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวกับ Universal Pictures ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ Illumination ในปี 2023 ได้แก่ The Super Mario Bros. Movie และ Migration
  • เกี่ยวกับ Nintendo
  • Nintendo Co., Ltd. มีสำนักงานใหญ่ในเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ได้สร้างแฟรนไชส์ที่กลายเป็นที่รู้จักในทุกบ้านทั่วโลก เช่น Mario™, Donkey Kong™, The Legend of Zelda™, Metroid™, Pokémon™, Animal Crossing™, Pikmin™ และ Splatoon™ ผ่านผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบผสมผสาน Nintendo ตั้งเป้าหมายที่จะมอบประสบการณ์ความบันเทิงที่ไม่เหมือนใครและใช้งานง่ายให้ทุกคน การผลิตและการตลาดอุปกรณ์วิดีโอเกม เช่น ผลิตภัณฑ์ตระกูล Nintendo Switch™ การพัฒนาและการใช้งานแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์อัจฉริยะ และการร่วมมือกับพันธมิตรในโครงการริเริ่มด้านความบันเทิงอื่นๆ เช่น เนื้อหาภาพเสมือนและสวนสนุก Nintendo ขายวิดีโอเกมไปแล้วกว่า 5,400 ล้านเกมและฮาร์ดแวร์มากกว่า 800 ล้านเครื่องทั่วโลก ตั้งแต่ที่เปิดตัว Nintendo Entertainment System™ เมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว จนถึงวันนี้และในอนาคต ภารกิจระยะยาวของ Nintendo คือการสร้างความบันเทิงที่ไม่เหมือนใครซึ่งสร้างรอยยิ้มให้คนทั่วโลก

ข้อมูลติดต่อ

Sarah Rothman
Sarah.Rothman@ledecompany.com

แหล่งข้อมูล: Illumination

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

FPT Software เปิดสำนักงานใหม่ในประเทศไทย ตั้งเป้าเป็นบริษัทไอที 30 อันดับแรกของประเทศ

Logo

BANGKOK–(BUSINESS WIRE)–1 ธันวาคม 2022

เมื่อเร็วๆ นี้ FPT Software ผู้ให้บริการโซลูชันไอทีชั้นนำของเวียดนาม ได้ประกาศเปิดสำนักงานแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย สาขานี้มีเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทไอทีชั้นนำ 30 อันดับแรกในประเทศไทย โดยช่วยเหลือการปรับเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์ของ FPT Software เพื่อขยายการดำเนินงานไปทั่วโลก

FPT Software’s representatives and distinguished guests at the Appreciation Dinner to celebrate the office opening on November 22 (Photo: Business Wire)

ตัวแทนของ FPT Software และแขกผู้มีเกียรติในงานเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเฉลิมฉลองการเปิดสำนักงานในวันที่ 22 พฤศจิกายน (ภาพ: Business Wire)

ฯพณฯ Phan Chi Thanh เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย, วรนุช เดชะไกศยะ ประธาน KBTG, จรุง เกียรติสุภาพงศ์ รองประธาน KBTG, CHRO Nguyen Tuan Minh ของ FPT Software, Nguyen Hoang Trung รองประธานของ FPT Software, FPT Greater Bay Indochina (FPT GBI – บริษัทในเครือของ FPT Software ) CEO Levi Nguyen และแขกผู้มีเกียรติท่านอื่น ๆ ได้เข้าร่วมพิธีเปิด

ในงาน ฯพณฯ Phan Chi Thanh เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย ได้เน้นย้ำถึงความร่วมมืออย่างรอบด้านระหว่างไทยและเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล เอกอัครราชทูตยังเชื่อว่าด้วยความสามารถด้านไอทีของ FPT Software บริษัทสามารถมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความสัมพันธ์นี้และเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลได้

โดยมีการคาดว่าสาขากรุงเทพฯ จะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในประเทศไทยได้ Levi Nguyen CEO ของ FPT GBI กล่าวว่า "เราตั้งเป้าที่จะขยายกำลังแรงงานในท้องถิ่นของเราให้เป็นวิศวกรไอทีคุณภาพสูง 500 คนในอีก 3 ปีข้างหน้า และร่วมงานกับบริษัทไทยจากหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงการค้าปลีก, BFSI, การผลิต และอื่น ๆ อีกมากมาย"

ตามที่ CEO ของ FPT GBI กล่าวว่า สำนักงานใหม่จะช่วยให้ FPT Software ทำงานอย่างใกล้ชิดกับองค์กรชั้นนำในประเทศไทยในโครงการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล “ปรัชญาของบริษัทของเราคือการอยู่ใกล้ชิดกับลูกค้า ดังนั้นสำนักงานนี้จะช่วยให้เราสามารถให้บริการได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น” กล่าวโดย Levi

CEO ของ FPT GBI กล่าวเสริมว่า “นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่แข็งแกร่งและทรัพยากรของบริษัทในแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น Make ของธนาคารกสิกรไทย Alive & Vitality ของ AIA ตลอดจนเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น Cloud, Data, Artificial Intelligence และ Cyber ​​Security”

วรนุช เดชะไกศยะ ประธาน KBTG กล่าวในงานว่า “ดิฉันเคยไปเยี่ยมชมวิทยาเขตของ FPT Software ในเวียดนามมาก่อน และไม่เห็นความแตกต่างจาก Silicon Valley ในสหรัฐอเมริกามากนัก ดิฉันดีใจที่ได้สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริษัทไอทีชั้นนำอย่าง FPT Software พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญกว่า 100 คนที่อุทิศตัวเพื่อสนับสนุนแพลตฟอร์มดิจิทัลและระบบหลักของเรา และเราวางแผนที่จะเพิ่มเป็นสองเท่าในปี 2023"

เวียดนามและไทยกำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล โดยรัฐบาลทั้งสองได้แนะนำกรอบการทำงานและโครงการต่าง ๆ ในการปลดล็อกศักยภาพการทำงานร่วมกันระหว่างบริษัทของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในภาคส่วนไอซีที ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศจะคิดเป็น 20% ถึง 30% ของ GDP ภายในปี 20301 ในฐานะบริษัทไอทีชั้นนำของเวียดนาม FPT Software มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือระยะยาวในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลระหว่างเวียดนามและไทย

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา FPT Software ดำรงอยู่อย่างแข็งแกร่งใน 7 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย เวียดนาม ไทย อินโดนีเซีย และจีน (รวมถึงฮ่องกง) ทำให้สามารถให้บริการด้านไอทีแบบครบวงจรแก่ธุรกิจทุกภาคส่วน บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งใน 50 อันดับแรกของผู้ให้บริการการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลระดับโลกภายในปี 2030

สำนักงานใหม่ของ FPT Software ตั้งอยู่ที่อาคารธนภูมิ ชั้น 10 โซน C ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร

เกี่ยวกับ FPT Software

FPT Software เป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีและไอทีระดับโลกที่มีสำนักงานใหญ่ในเวียดนาม โดยมีรายได้มากกว่า 632.5 ล้านดอลลาร์และพนักงาน 25,500 คนใน 28 ประเทศ ในฐานะผู้บุกเบิกการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล บริษัทได้ให้บริการระดับโลกในโรงงานอัจฉริยะ แพลตฟอร์มดิจิทัล RPA, AI, IoT, คลาวด์, AR/VR, BPO และอื่น ๆ ซึ่งให้บริการลูกค้ามากกว่า 1,000 รายทั่วโลก โดยหลายร้อยรายเป็นบริษัทที่ติดอันดับ Fortune Global 500 ในด้านยานยนต์ การธนาคารและการเงิน โลจิสติกส์และการขนส่ง สาธารณูปโภค และอื่น ๆ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมที่ http://www.fpt-software.com

_________________________
1 เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยมีแนวโน้มคิดเป็น 30% ของ GDP ภายในปี 2030: รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(https://www.nationthailand.com/blogs/in-focus/40008944)

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สื่อ
Mai Duong (Ms.)
FPT Software
ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
อีเมล: MCP.PR@fsoft.com.vn
เว็บไซต์: https://www.fpt-software.com/newsroom/

แหล่งที่มา: FPT Software

Eco Expo Asia 2022 กลับมาอีกครั้งในเดือนธันวาคมด้วยธีม “นวัตกรรมเพื่อความเป็นกลางของระดับคาร์บอน”

Logo

แนวโน้มที่ดีขึ้นเมื่อฮ่องกงยุติการกักบริเวณในโรงแรม

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–28 พฤศจิกายน 2022

งาน Eco Expo Asia 2022 ซึ่งจัดร่วมกันโดยองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกงและ Messe Frankfurt (HK) Ltd และร่วมจัดโดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยาภาครัฐของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 ถึง 17 ธันวาคม ที่ศูนย์การประชุมและนิทรรศการฮ่องกง งานแสดงสินค้าจัดขึ้นภายใต้รูปแบบไฮบริด EXHIBITION+ รูปแบบใหม่ล่าสุด โดยนอกจากจะให้ผู้แสดงสินค้าและผู้ซื้อติดต่อกันแบบเจอตัวกันจริงๆ แล้ว ก็ยังมีช่องทางให้พูดคุยกันผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ “Click2Match” อีกด้วย โดยงานนี้จะจัดถึงวันที่ 24 ธันวาคม โดยเปิดโอกาสให้องค์กรต่างๆ พบกับ “หนทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ในเชิงรุก

Eco Expo Asia 2022 returns in December (Photo: Business Wire)

Eco Expo Asia 2022 กลับมาอีกครั้งในเดือนธันวาคมนี้ (ภาพ: Business Wire)

ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน รัฐบาลเขตปกครองพิเศษฮ่องกงจะขอยุติการกักตัวสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศด้วยนโยบายใหม่ “0+3” ผู้เดินทางเข้าประเทศไม่ต้องทดสอบ PCR ก่อนบินและไม่ต้องกักตัวในโรงแรมที่กำหนดอีกต่อไป ผู้เดินทางเข้าประเทศที่มีรหัสสีเหลืองในช่วงสามวันของการเฝ้าระวังทางการแพทย์จะได้รับอนุญาตให้เข้างานแสดงที่เกี่ยวข้องทางธุรกิจได้

ธีมของ Eco Expo Asia 2022 คือ “นวัตกรรมสะอาดเพื่อความเป็นกลางของระดับคาร์บอน” โดยมุ่งเน้นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่สามารถช่วยลดคาร์บอนในโลก ในฐานะงานสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อม งานแสดงสินค้าในปีนี้จะประกอบด้วยผู้จัดแสดงสินค้ากว่า 200 รายจากเก้าประเทศและภูมิภาคโดยแบ่งออกเป็นเก้าโซนพิเศษ ซึ่งมีตั้งแต่หมวดการขนส่งจนถึงการเงินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และอีกมากมาย เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้เกิดการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรมต่างๆ โดยที่รักษาความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โซนพิเศษสำหรับสามประเทศและภูมิภาคจะกลับมาอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งประกอบด้วยแคนาคา ฮ่องกง และญี่ปุ่น โซนญี่ปุ่นจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาก โดยมีผู้แสดงสินค้าประมาณ 30 รายที่มาพร้อมผลิตภัณฑ์ โซลูชันและเทคโนโลยีล่าสุดด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การอัปไซเคิลทรัพยากร รวมถึงการเงินที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและ ESG ซึ่งเป็นการนำเสนอนวัตกรรมของญี่ปุ่นที่ดีที่สุด

งานประชุม Eco Asia ปีนี้เป็นงานที่พลาดไม่ได้ เพราะในงานจะมีวิทยากรรุ่นใหญ่มาแบ่งปันมุมมองในหัวข้อต่างๆ เช่น รูปแบบธุรกิจหมุนเวียน” “เศรษฐกิจไฮโดรเจน” “การดัดแปลงให้อาคารใช้พลังงานได้มีประสิทธิภาพและการเงินที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

งานนี้จะเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมในวันสุดท้ายเพื่อส่งเสริมการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผู้เข้าชมสามารถเข้าร่วมเวิร์กช็อปด้านสิ่งแวดล้อม ตลาดสีเขียว และงานสัมมนาต่างๆ ได้

นักธุรกิจ: ลงทะเบียนเลยตอนนี้เพื่อรับบัตรฟรี https://bit.ly/3OKv9Wo

คนทั่วไป: ลงทะเบียนเลยตอนนี้เพื่อสัมผัสชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม https://bit.ly/3FacHDn

เว็บไซต์ : www.ecoexpoasia.com

ดูเวอร์ชันของแหล่งข้อมูลใน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20221128005301/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

โปรดติดต่อฝ่ายจัดนิทรรศการของ HKTDC:
Jojo Li
โทร: (852) 22404136
อีเมล: jojo.ty.li@hktdc.org

แหล่งข้อมูล: Hong Kong Trade Development Council

การประเมิน IRAP ของออสเตรเลียยอมรับว่า Boomi มอบการควบคุมความปลอดภัยที่ครอบคลุม

Logo

  • Boomi เสร็จสิ้นการประเมินอิสระสำหรับการควบคุมความปลอดภัยบนคลาวด์ภายใต้กรอบ IRAP ของรัฐบาลออสเตรเลีย

เชสเตอร์บรูค เพนซิลเวเนีย–(BUSINESS WIRE)–29 พฤศจิกายน 2022

Boomi™ ผู้นำด้านการเชื่อมต่ออัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ประกาศในวันนี้ว่า Boomi AtomSphere™ Platform ได้รับการประเมินอิสระสำหรับการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์เทียบกับการควบคุมที่ได้รับการป้องกันโดยคู่มือความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (ISM) ของรัฐบาลออสเตรเลีย

Australia’s IRAP Assessment Recognizes Boomi to Provide Comprehensive Security Controls (Graphic: Business Wire)

การประเมิน IRAP ของออสเตรเลียยอมรับว่า Boomi มอบการควบคุมความปลอดภัยที่ครอบคลุม (กราฟิก: Business Wire)

การประเมินนี้ดำเนินการภายใน Australian Signals Directorate (ASD) Information Security Registered Assessors Program (IRAP) ซึ่งเป็นกรอบการทำงานทั่วไปที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานรัฐบาลออสเตรเลียในการประเมินท่าทางความปลอดภัยของผู้ขาย ที่เป็นการสานต่อ โมเมนตัมของ Boomi ในตลาดภาครัฐ

“การเร่งการประสานงานของภาครัฐของออสเตรเลียให้ความสำคัญกับการจัดลำดับความสำคัญของการใช้ข้อมูลในการตัดสินใจและการกำหนดข้อมูลให้เป็นทรัพย์สินของชาติที่ใช้ร่วมกัน” กล่าวโดย Nathan Gower ผู้อำนวยการ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ของ Boomi “การมีมาตรฐานที่จำเป็นสำหรับการปกป้องข้อมูล และการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีอยู่ทั่วหน่วยงานและเขตอำนาจศาลนั้นมีความสำคัญในโลกของคลาวด์ในปัจจุบัน และการผ่านการประเมิน IRAP ของเราถือเป็นการยืนยันว่าเทคโนโลยีของเราพร้อมใช้งานสำหรับภาครัฐของออสเตรเลียและสามารถดำเนินการได้อย่างปลอดภัยในระดับที่ได้รับการปกป้องภายในสภาพแวดล้อมคลาวด์ของพวกเขา”

การประเมินที่ระดับ PROTECTED ถือว่า Boomi มอบการควบคุมความปลอดภัยที่ครอบคลุมในการออกแบบระบบและประสิทธิภาพการดำเนินงานทั่วทั้งแพลตฟอร์มบูรณาการแบบใช้โค้ดน้อยในฐานะบริการ (iPaaS) ซึ่งรวมถึง Master Data Hub, การจัดการ B2B/EDI, การจัดการ API และการจัดการกระแสงาน

มาตรการรักษาความปลอดภัยของ Boomi ในการจัดเก็บ ประมวลผล และสื่อสารข้อมูลช่วยให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถซื้อแพลตฟอร์ม Boomi AtomSphere ได้โดยไม่ต้องทำการประเมินด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังสนับสนุนการขยายงานเชิงพาณิชย์กับองค์กรหลายแห่งในออสเตรเลียที่ยอมรับ IRAP เป็นมาตรฐานสูงสุดสำหรับการประเมินความปลอดภัยของระบบคลาวด์

Boomi ฉลองรางวัลมากมายสำหรับความเป็นเลิศด้านผลิตภัณฑ์และวัฒนธรรม รวมถึงรางวัล  Gold Globee® Award ในประเภท Platform as a Service (PaaS), รางวัล Stevie® ระดับนานาชาติสองรางวัลสำหรับบริษัทยอดเยี่ยมแห่งปีและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ โดยเป็นหนึ่งในสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดของนิตยสาร Inc. และรางวัล Comparably สองรางวัลสำหรับสุดยอด CEO สำหรับความหลากหลายและบริษัทที่ดีที่สุดสำหรับการเติบโตในสายอาชีพ

Boomi ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดและมีนวัตกรรมมากที่สุดในอเมริกาในรายชื่อ Deloitte Technology Fast 500™ และ Inc. 5000 ล่าสุด Boomi ได้สร้างสถิติอุตสาหกรรมสำหรับฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มบูรณาการ เพิ่มผู้นำระดับโลก และขยายขอบเขตไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง

Boomi ได้รับตำแหน่งผู้นำใน Gartner® Magic Quadrant™ สำหรับการบริการแพลตฟอร์มระดับองค์กร (EiPaaS) เป็นเวลาแปดปีติดต่อกัน

ในฐานะบริษัทชั้นนำด้านการบริการซอฟต์แวร์ (SaaS) ระดับโลก Boomi นำเสนอชุมชนผู้ใช้ที่กำลังเติบโตซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 100,000 ราย และเป็นหนึ่งในอาร์เรย์ของผู้รวมระบบระดับโลก (GSI) ที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่แพลตฟอร์มรวมการบริการ (iPaaS) บริษัทมีเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกประมาณ 800 ราย ซึ่งรวมถึง Accenture, Deloitte, SAP และ Snowflake และเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการคลาวด์ไฮเปอร์สเกลเลอร์รายใหญ่ที่สุด ซึ่งรวมถึง Amazon Web Services, Google และ Microsoft เป็นต้น

แพลตฟอร์มแบบเนทีฟคลาวด์ที่ใช้ low-code ของ Boomi ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ในทุกอุตสาหกรรมเชื่อมต่อแอปพลิเคชันข้อมูล ปรับปรุงกระแสงาน และมอบประสบการณ์ลูกค้าที่บูรณาการมากขึ้น

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อจำกัดความรับผิดชอบของ Gartner:

Gartner, Magic Quadrant for Enterprise Integration Platform as a Service, Eric Thoo, Keith Guttridge, Bindi Bhullar, Shameen Pillai, Abhishek Singh, 29 กันยายน 2021.

Gartner ไม่รับรองผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใด ๆ ที่ปรากฎในเอกสารเผยแพร่งานวิจัยของบริษัท และไม่แนะนำให้ผู้ใช้เทคโนโลยีเลือกเฉพาะผู้จำหน่ายที่มีคะแนนสูงสุดหรือตำแหน่งอื่น ๆ เอกสารเผยแพร่งานวิจัยของ Gartner ประกอบด้วยความคิดเห็นขององค์กรวิจัยของ Gartner และไม่ควรได้รับการตีความว่าเป็นข้อเท็จจริง Gartner ปฏิเสธการรับประกันทั้งหมด ไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยาย ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยนี้ รวมถึงการรับประกันใด ๆ ของความสามารถในการขายหรือความเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ GARTNER และ Magic Quadrant เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนและเครื่องหมายบริการของ Gartner, Inc. และ/หรือบริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ และนำมาใช้ในที่นี้โดยได้รับอนุญาต ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมด ไปใช้ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข ก่อนได้รับอนุญาต หมายเหตุ: Boomi เป็นที่รู้จักในนาม Dell Boomi ตั้งแต่ปี 2014 ถึง 2019

เกี่ยวกับ Boomi

Boomi มุ่งมั่นที่จะทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นด้วยการเชื่อมต่อทุกคนเข้ากับทุกสิ่งและทุกที่ Boomi เป็นผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มรวมการบริการ (iPaaS) และปัจจุบันเป็นบริษัทซอฟต์แวร์เชิงบริการ (SaaS) ชั้นนำระดับโลก Boomi นำเสนอฐานลูกค้าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาผู้จำหน่ายแพลตฟอร์มการผสานรวมและเครือข่ายทั่วโลกของพันธมิตรกว่า 800 ราย ซึ่งรวมถึง Accenture, Capgemini, Deloitte, SAP และ Snowflake องค์กรระดับโลกหันมาใช้แพลตฟอร์มที่ได้รับรางวัลของ Boomi เพื่อค้นหา บริหาร และจัดการข้อมูล ขณะที่เชื่อมต่อแอปพลิเคชัน กระบวนการ และผู้คนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและรวดเร็วขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ http://www.boomi.com

© 2022 Boomi, LP. Boomi, โลโก้ 'B', Boomiverse และ AtomSphere เป็นเครื่องหมายการค้าของ Boomi, LP หรือบริษัทย่อยหรือบริษัทในเครือ ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมด ไปใช้ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข ก่อนได้รับอนุญาต ชื่อหรือเครื่องหมายอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่ businesswire.comhttps://www.businesswire.com/news/home/20221128005027/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

สื่อ:

Jasmine Ee

หัวหน้าฝ่ายสื่อและนักวิเคราะห์สัมพันธ์ใน APJ ที่ Boomi
jasmine.ee@boomi.com

แหล่งที่มา: Boomi

รายงาน Emerging Trends in Real Estate® ของ ULI และ PwC พบว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเอเชียพบความหวังแม้ในช่วงซบเซา

Logo

ฮ่องกงและสิงคโปร์–(BUSINESS WIRE)–24 พฤศจิกายน 2022

รายงาน Emerging Trends in Real Estate® Asia Pacific ฉบับที่ 17 ซึ่งเป็นการคาดการณ์อสังหาริมทรัพย์ระดับภูมิภาคที่จัดพิมพ์ร่วมกันโดย Urban Land Institute (ULI) และ PwC เผยให้เห็นความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลดลง เนื่องจากความกังวลเรื่องต้นทุนหนี้ที่เพิ่มขึ้น อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก โดยรายงานชิ้นนี้อ้างอิงจากการสำรวจผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ 233 คน และการสัมภาษณ์นักลงทุน นักพัฒนา ตัวแทนบริษัทอสังหาริมทรัพย์ และนายหน้าผู้ปล่อยกู้ 101 คน

เงินเฟ้อทั่วโลก เศรษฐกิจที่ถดถอย และความเสื่อมโทรมของตัวชี้วัดทั่วโลกยังคงมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นต่อไป ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะระงับการซื้อจนกว่าจะเห็นชัดขึ้นว่าผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกนั้นจะเป็นอย่างไร เห็นได้ชัดว่าปริมาณธุรกรรมในภูมิภาคลดลง โดยจำนวนธุรกรรมในไตรมาสที่สามในเอเชียแปซิฟิกลดลง 38% เมื่อเทียบเป็นรายปีเหลือ 32,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นปริมาณการซื้อขายในไตรมาสสามที่ต่ำที่สุดในรอบ 10 ปีในภูมิภาคนี้ จีนแผ่นดินใหญ่มีสัดส่วนการลดลงมากที่สุดโดยลดลง 23% เมื่อเทียบเป็นรายปี

David Faulkner, President of ULI Asia Pacific กล่าวว่า "อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวกำลังเริ่มส่งผลกระทบต่อการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ในภูมิภาค และเปลี่ยนวิธีที่นักลงทุนประเมินดีลที่จะเกิดขึ้น ในฐานะการป้องกันเงินเฟ้อในระยะยาว อสังหาริมทรัพย์จะยังคงดึงเงินทุน แต่ขณะเดียวกันก็มีแนวโน้มที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่มีการพัฒนาและวิธีที่ผู้คนใช้สภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นที่เปลี่ยนแปลงไป"

ตลาดชั้นนำสำหรับโอกาสการลงทุนในภูมิภาคนี้มีลักษณะเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูงและวิธีแบบ Flight-to-Safety สิงคโปร์ โตเกียว และซิดนีย์ยังคงครองตำแหน่งตลาดสามอันดับแรก ด้วยวิกฤตสภาพคล่องอย่างต่อเนื่องในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนแผ่นดินใหญ่และความเข้มงวดที่เป็นผลจากการแพร่ระบาดที่ยังไม่จบลง สิงคโปร์จึงได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนทิศทางของเงินทุนที่อาจถูกวางไว้ในสินทรัพย์ในจีนแผ่นดินใหญ่และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง โตเกียวยังคงได้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยใกล้ศูนย์ ซึ่งช่วยให้แน่ใจว่าต้นทุนการกู้ยืมจะลดลงและส่วนต่างที่เป็นบวกจะมากกว่าต้นทุนของหนี้ แม้จะมีการผ่อนปรนกฎต่างๆ เกี่ยวกับโรคโควิดในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง แต่สถานะของตลาดการค้าและที่อยู่อาศัยที่แพงที่สุดในเอเชียแปซิฟิกทำให้เกิดความเสี่ยงท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เศรษฐกิจถดถอยซึ่งมีอัตราเงินเฟ้อสูงในปัจจุบัน

Stuart Porter, Asia Pacific Real Estate Tax Leader กล่าวว่า “สภาวะตลาดที่แตกแยกที่ยังไม่สิ้นสุดทำให้สิงคโปร์และโตเกียวสามารถรักษาตำแหน่งสูงสุดในฐานะเมืองที่มีแนวโน้มการลงทุนที่สดใสที่สุด แม้ว่าปัจจัยเสริมแต่ละเมืองจะแตกต่างกันอย่างชัดเจน เมื่อสำรวจโอกาสในภูมิภาคนี้ นักลงทุนควรใช้แนวทางที่ระมัดระวังมากขึ้นในการซื้อสินทรัพย์ใหม่ในตลาดเอเชียบางแห่ง และเปลี่ยนความสนใจจากประเภทสินทรัพย์ทั่วไปเป็นพื้นที่เฉพาะที่หลากหลายซึ่งดูแล้วมีอนาคตกว่าแทน ซึ่งรวมถึงสินทรัพย์กันชนและธีมเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเบี่ยงเบนความสนใจไปจากสินทรัพย์กระแสหลัก เช่น สำนักงานและภาคการค้าปลีกที่ได้รับความนิยมมาแต่เดิม”

นักลงทุนได้เริ่มปรับกลยุทธ์ไปยังอสังหาริมทรัพย์กันชนที่ทนทานต่อแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่ไม่ปกติ และหันไปหาสินทรัพย์ที่สามารถเสนอคุณลักษณะต่างๆ เช่น การจัดทำดัชนีค่าเช่า ระยะเวลาการเช่าที่สั้นลง และรายได้ประจำที่น่าเชื่อถือ ครอบครัวหลายครอบครัว โรงแรม บ้านพักคนชรา และภาคส่วนโลจิสติกส์ถือเป็นสินทรัพย์กันชนที่ดี ภาคส่วนย่อยของเศรษฐกิจใหม่ เช่น ศูนย์ข้อมูล โครงสร้างพื้นฐานห้องเย็น สิ่งอำนวยความสะดวกด้านชีววิทยาศาสตร์ และพื้นที่จัดเก็บด้วยตนเอง ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในฐานะเครื่องมือการลงทุนที่ทนต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากปัจจัยต่างๆ ที่รวมกัน ไม่ว่าจะเป็นการครอบครอง 5G ที่เพิ่มขึ้น โครงสร้างที่ไม่เพียงพอเพื่อรองรับ อุปสงค์และวิวัฒนาการของห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ด้วยการระดมทุนใหม่ 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับกลยุทธ์ที่ฉวยโอกาสในภาคส่วนย่อยเหล่านี้ในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งมากกว่าสามเท่าของยอดรวมทั้งหมดในปี 2021 ลอจิสติกส์น่าจะยังคงความน่าสนใจต่อไปสำหรับนักลงทุนที่จะเข้าสู่ปี 2023

ด้วยแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มความเสี่ยงในการพัฒนา โครงการพัฒนาที่กินเวลายาวนานจึงถูกระงับไว้ก่อน นักลงทุนยังปรับเปลี่ยนการรับประกันภัยโดยการตั้งส่วนสำรองสำหรับอัตราการออกที่สูงขึ้น การลดการใช้หนี้ การซื้อวัสดุล่วงหน้า รวมถึงการใช้แนวทาง "วิศวกรรมมูลค่า" เพื่อค้นหาความประหยัดผ่านการวิเคราะห์พารามิเตอร์สรุปการออกแบบที่เข้มงวดมากขึ้น

ภาคสำนักงานยังคงเป็นประเภทสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ ทรัพย์สินที่สำคัญในเขตธุรกิจและเขตต่างๆ มักจะขาดตลาดอยู่เสมอ และเป็นเป้าหมายของกองทุนหลักระดับภูมิภาคที่แข่งขันกันเพื่อวางทุน ในขณะเดียวกัน ก็คาดว่าจะยังคงมีช่องว่างด้านราคาที่กว้างระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ดูรายงานฉบับเต็มได้ที่นี่

เกี่ยวกับ Urban Land Institute

พันธกิจของ Urban Land Institute (ULI) คือการกำหนดอนาคตของสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นสำหรับผลกระทบด้านการเปลี่ยนแปลงในชุมชนทั่วโลก ULI มีสมาชิกมากกว่า 2,600 รายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ULI Asia Pacific ที่ asia.uli.org

เกี่ยวกับ PwC – ทั่วโลก

ที่ PwC จุดประสงค์ของเราคือการสร้างความไว้วางใจในสังคมและแก้ปัญหาที่สำคัญ เราเป็นเครือข่ายบริษัที่อยู่ใน 152 ประเทศ โดยมีพนักงานเกือบ 328,000 คนที่มุ่งมั่นที่จะให้บริการด้านการรับประกัน ที่ปรึกษา และภาษีที่มีคุณภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติมและบอกเราถึงสิ่งที่สำคัญสำหรับคุณได้ที่ www.pwc.com

PwC หมายถึงเครือข่าย PwC และ/หรือบริษัทสมาชิกหนึ่งแห่งขึ้นไป ซึ่งแต่ละแห่งเป็นนิติบุคคลแยกต่างหาก โปรดดู www.pwc.com/structure เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

ULI Media Enquiries: media@uli.org

แหล่งข้อมูล: Urban Land Institute

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/52977613/en

Toshiba เป็นผู้ชนะรางวัล World Electronics Achievement Awards ของ AspenCore

Logo

KAWASAKI, Japan–(BUSINESS WIRE)–24 พฤศจิกายน 2022

Toshiba Devices & Storage (Shanghai) Co., Ltd. บริษัทสาขาในเซี่ยงไฮ้ของ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) เป็นผู้ชนะเลิศประเภท “Power Semiconductor/Driver of the Year” ในงาน World Electronics Achievement Awards (WEAA) 2022 โดย Toshiba Devices & Storage (Shanghai) Co., Ltd. ได้เข้ารับรางวัลในพิธีซึ่งจัดขึ้นที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2022

Toshiba is a Winner at AspenCore World Electronics Achievement Awards (Photo: Business Wire)

Toshiba เป็นผู้ชนะรางวัล World Electronics Achievement Awards ของ AspenCore (ภาพ: Business Wire)

AspenCore ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในกลุ่มสื่อเทคโนโลยีชั้นนำของโลก และทุก ๆ ปี WEAA ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจะมีการยกย่องบริษัทและบุคคลที่มีส่วนร่วมอย่างโดดเด่นในด้านนวัตกรรมและการพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ในปีนี้ XPQR3004PB MOSFET ของ Toshiba ซึ่งเป็นทรานซิสเตอร์สนามไฟฟ้าของสารกึ่งตัวนำโลหะออกไซด์แรงดันต่ำเชิงกลยุทธ์ ได้รับรางวัล "Power Semiconductor/Driver of the Year"

Tsutomu Nomura ประธานบริษัท Toshiba Devices & Storage (Shanghai) Co., Ltd. กล่าวว่า "เรามีความยินดีที่ได้รับการยกย่องจาก WEAA อันทรงเกียรติ โดยเป็นปีที่ห้าติดต่อกันที่ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับรางวัล Toshiba มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการจัดหาอุตสาหกรรมยานยนต์และภาคส่วนอื่น ๆ ด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กำลังที่ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์และเพิ่มความเป็นกลางทางคาร์บอน”

XPQR3004PB ที่เปิดตัวในปีงบประมาณนี้ เป็น MOSFET แรงดันต่ำ 40V ที่มี N-channel สำหรับการใช้งานในยานยนต์ เหมาะสำหรับสวิตช์แบตเตอรี่ในรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมอเตอร์ช่วยขับขี่ในรถยนต์ไฮบริด ทั้งยังเป็นแม่พิมพ์ UMOS IX ที่ก้าวหน้าที่สุดของ Toshiba และรวมอยู่ในแพ็คเกจ L-TOGL™ ซึ่ง AspenCore รับรองว่า มีกระแสไฟฟ้าสูง ความสามารถในการกระจายความร้อนสูง และความน่าเชื่อถือสูง

จากนี้ Toshiba จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจสารกึ่งตัวนำกำลัง (power semiconductor) ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความสามารถในการประหยัดพลังงานสูง และนำไปสู่สังคมที่ใช้พลังงานต่ำและความเป็นกลางทางคาร์บอน

* TOGL™ เป็นเครื่องหมายการค้าของ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอื่น ๆ อาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลติดต่อ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโซลูชันเซมิคอนดักเตอร์และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลขั้นสูง ระดมประสบการณ์และนวัตกรรมกว่าครึ่งศตวรรษเพื่อนำเสนอเซมิคอนดักเตอร์แบบแยก ระบบ LSI และผลิตภัณฑ์ HDD ให้กับลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจ

พนักงานของบริษัทจำนวน 23,000 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นร่วมกันในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้สูงสุด และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในการสร้างมูลค่าร่วมกันและการเปิดตลาดใหม่ ปัจจุบัน Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ที่มียอดขายต่อปีทะลุ 8.5 แสนล้านเยน (7.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ตั้งตารอที่จะสร้างและมีส่วนร่วมเพื่ออนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกหนทุกแห่ง

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/52977612/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Customer Inquiries:
ติดต่อเรา

รายชื่อติดต่อหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมด้านสื่อ:
K.Tanaka, S.Mihashi
กลุ่มงานสื่อสารองค์กรและข่าวกรองการตลาด
ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
โทร: +81-44-548-2122
อีเมล: tdsc-publicrelations@ml.toshiba.co.jp

แหล่งที่มา: Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

The Bangkok Reporter