Wemade อัปเดตจัตุรัสเวทย์มนต์ และยอดเขาลับแลชั้นสูงสุดใน MIR4 แล้ว

Logo

  • มอบรางวัลมากมายเพื่อการเติบโตของผู้เล่นที่ปฏิบัติภารกิจบนชั้นสูงสุด ของจัตุรัสเวทย์มนต์และยอดเขาลับแล
  • เปิดตัว ‘เซทราแห่งแสงสว่าง’ ภูติพิทักษ์หัวหน้าปาร์ตี้ตัวใหม่ ช่วยเพิ่มการป้องกันทางกายภาพและพลังป้องกันเวทได้เป็นอย่างมาก
  • ระบบการชำระเงิน WEMIX$ ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาตลาด

กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)— Wemade ได้อัปเดตบล็อกบัสเตอร์ของ MMORPG MIR4 เพื่อขยายชั้นสูงสุดของจัตุรัสเวทย์มนต์และยอดเขาลับแล ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2023

มอนสเตอร์อันทรงพลังที่เกิดบนชั้น 9 ที่เพิ่มเข้ามาใหม่จะช่วยให้ผู้เล่นระดับสูงมีโอกาสได้รับ EXP จำนวนมาก ผู้เล่นสามารถออกสำรวจเพื่อเข้าร่วมในภารกิจต่าง ๆ เพื่อรับรางวัลที่ช่วยในการเติบโตของผู้เล่น เช่น “ศิลาเสริมพลังแห่งความมืดระดับตำนาน” “โสมหิมะในมหากาพย์” และอื่น ๆ อีกมากมาย

The highest floors for Magic Square and Secret Peak were updated in MIR 4 (Graphic: Wemade)

จัตุรัสเวทย์มนต์และยอดเขาลับแลชั้นสูงสุดได้อัปเดตใน MIR4 แล้ว (กราฟิก: Wemade)

MIR4 เปิดตัวภูติพิทักษ์หัวหน้าปาร์ตี้ใหม่ “เซทราแห่งแสงสว่าง” “เซทราแห่งแสงสว่าง” เป็นภูติแห่งแสงในตำนานที่มีเอฟเฟกต์พิเศษที่ช่วยเพิ่มการป้องกันทางกายภาพ ผู้เล่นที่อัญเชิญภูติตนนี้สามารถแบ่งปันทักษะหัวหน้าปาร์ตี้กับสมาชิกปาร์ตี้ที่อยู่ใกล้กัน ซึ่งการป้องกันทางกายภาพและพลังป้องกันเวทย์ของปาร์ตี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

ในขณะเดียวกัน “กิจกรรมชวนใจเต้นของความรักที่หวานเจี๊ยบ” จะจัดขึ้นจนถึงวันที่ 6 มีนาคม 2023 ผู้เล่นสามารถรับรางวัลต่าง ๆ เช่น “ศิลาเสริมพลังแห่งมังกรศักดิ์สิทธิ์อีปิค” “รูปปั้นมังกรฟ้าตำนาน” และอื่น ๆ อีกมากมาย ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เข้าร่วม “กิจกรรมเช็กชื่อ 14 วันแห่งความหวานเจี๊ยบ”

นอกจากนี้ MIR4 ได้เปลี่ยนวิธีการชำระเงินจาก HYDRA เป็น WEMIX$ ผู้เล่นสามารถแลกเปลี่ยนยอดคงเหลือใน HYDRA หรือ WEMIX$ เป็น pWEMIX$ เพื่อซื้อสินค้าต่าง ๆ เช่น ภารกิจเลื่อนระดับ และอื่น ๆ ในร้านค้าในเกม WEMIX$ ที่เปิดตัวขึ้นมาใหม่ จะยังคงรักษามูลค่าของสินค้าจำนวนมากเอาไว้ แม้ว่าจะมีความผันผวนของราคาตลาดของโทเค็นเกมก็ตาม ทั้งนี้ ระบบการชำระเงิน WEMIX$ ให้บริการเฉพาะเวอร์ชันพีซีเท่านั้น

จากการต่อสู้ของข้า สู่สงครามของพวกเรา ดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับ MIR4 ได้ที่ เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53330302/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Wemade Co., Ltd. (112040: KOSDAQ)
Jennifer Jung เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์
jennifer@wemade.com

แหล่งที่มา: Wemade Co., Ltd.

Medidata เปิดตัวทีมผู้นำระดับอาวุโสเพื่อต่อยอดการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัลให้วงการชีววิทยาศาสตร์ด้วยโซลูชันแบบครบวงจรที่ไม่มีใครเทียบ

Logo

คุณ Pascal Daloz ได้รับตำแหน่งเป็น CEO และคุณ Michael Pray ได้รับตำแหน่งเป็น COO ของ Medidata

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–21 กุมภาพันธ์ 2023

วันนี้ Medidata ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Dassault Systèmes ได้ประกาศโครงสร้างความเป็นผู้นำรูปแบบใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเดินหน้าภารกิจของบริษัทในการพัฒนาโซลูชันแบบครบวงจรที่ช่วยยกระดับการรักษาให้ชาญฉลาดยิ่งขึ้นและช่วยให้ผู้คนมีสุขภาพดีขึ้น โดยการพัฒนาเชิงกลยุทธ์เช่นนี้เปิดโอกาสให้สามารถต่อยอดเป้าหมายและการเติบโตในระยะยาว เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากสายผลิตภัณฑ์ของ Dassault Systèmes ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยยกระดับการพัฒนายาขึ้นไปอีกระดับในท้ายที่สุด

คุณ Pascal Daloz ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้มากความสามารถของ Dassault Systèmes ได้เข้าดำรงตำแหน่งเป็น CEO ของ Medidata โดยคุณ Daloz มีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เข้าซื้อกิจการ Medidata ได้สำเร็จเมื่อปี 2019 โดยความสามารถในการเป็นผู้นำธุรกิจและวิสัยทัศน์อันยอดเยี่ยมของเขาจะเข้ามาช่วยเสริม Medidata ได้เป็นอย่างดี

ส่วนคุณ Michael Pray ได้รับแต่งตั้งเป็น COO ของบริษัทดังกล่าว โดยก่อนจะเข้ามารับตำแหน่งนี้ให้กับ Medidata เขาเคยเป็นบุคลากรคนสำคัญที่ช่วยให้บริษัทเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงการเพิ่มรายได้รวมขึ้น 2 เท่าเป็นจำนวนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา โดยคุณ Pray จะเข้ามาดูแลการปฏิบัติงานในแต่ละวันของ Medidata และจะร่วมงานกับคุณ Daloz อย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างชุดโซลูชันที่ครบครันสำหรับวงการชีววิทยาศาสตร์ในวงกว้าง

คุณ Pascal Daloz  ซึ่งเป็น CEO ของ Medidata กล่าวว่า “ลูกค้าคาดหวังให้ Medidata ตอบโจทย์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น และเราก็คอยพัฒนาตัวเองให้สอดรับกับความต้องการด้านการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัลของลูกค้า” ก่อนกล่าวต่อไปว่า “เราจะคิดค้นโซลูชันใหม่ ๆ ที่ไม่มีใครเทียบได้สำหรับงานชีววิทยาศาสตร์ในทุก ๆ ด้านอย่างไม่หยุดยั้งโดยต่อยอดจากรากฐานที่มั่นคงมากว่า 20 ปี เรายังมุ่งมั่นทุ่มเทให้กับวงการนี้ และจะไม่หยุดทุ่มเทเพื่อให้วิสัยทัศน์ของเราเกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะเป็นการป้องกัน การรักษาอย่างตรงจุด การค้นพบ ไปจนถึงการจัดจำหน่าย เพื่อให้เราได้เป็นศูนย์กลางในทุก ๆ ขั้นตอนของการดูแลรักษาผู้ป่วย”

Medidata เป็นบริษัทย่อยที่ Dassault Systèmes ได้เข้าซื้อกิจการทั้งหมดแล้ว โดยแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE ของ Medidata มีส่วนช่วยอย่างมากในการปรับเปลี่ยนงานชีววิทยาศาสตร์ให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลในยุคปัจจุบันที่การรักษาแบบเฉพาะบุคคลกำลังเป็นที่นิยม โดยให้บริการแพลตฟอร์มด้านวิทยาศาสตร์และธุรกิจแบบครบวงจรที่ครอบคลุมตั้งแต่การวิจัยไปจนถึงการจำหน่าย

เกี่ยวกับ Medidata

Medidata เป็นผู้นำในการเปลี่ยนงานชีววิทยาศาสตร์ให้เป็นระบบดิจิทัล ช่วยให้ผู้ป่วยหลายล้านรายเกิดความหวัง โดย Medidata ช่วยสร้างข้อมูลหลักฐานและข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ เพื่อช่วยเร่งประโยชน์ ลดความเสี่ยง และยกระดับผลลัพธ์ให้กับบริษัทด้านเภสัชกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และการวินิจฉัย ตลอดจนนักวิจัยทางวิชาการต่าง ๆ ทั้งนี้ แพลตฟอร์มที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในโลกของบริษัทมีผู้ใช้ที่ลงทะเบียนมากกว่า 1 ล้านรายจากลูกค้าและพาร์ทเนอร์กว่า 2,100 ราย ซึ่งเข้าใช้เพื่อรับข้อมูลการพัฒนาทางคลินิก การจำหน่าย และข้อมูลที่การใช้งานที่เกิดขึ้นจริง Medidata ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Dassault Systèmes (Euronext Paris: FR0014003TT8, DSY.PA), มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่นิวยอร์กซิตี และมีสำนักงานตั้งอยู่ทั่วโลกเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.medidata.com และติดตามเราที่ @Medidata

เกี่ยวกับ Dassault Systèmes

Dassault Systèmes ซึ่งเป็นบริษัท 3DEXPERIENCE เป็นบริษัทที่มุ่งพัฒนาด้านบุคลากร เราช่วยให้ธุรกิจและผู้คนมีสภาพแวดล้อมเสมือนจริงแบบ 3 มิติเพื่อร่วมกันรังสรรค์นวัตกรรมที่ยั่งยืน เมื่อมีแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน 3DEXPERIENCE แบบเสมือนจริงที่ใกล้เคียงความเป็นจริง ลูกค้าของเราจึงสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดในการคิดค้นนวัตกรรม การเรียนรู้ และการผลิต เพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นให้แก่ผู้ป่วย ผู้คน และผู้บริโภค ในปัจจุบัน Dassault Systèmes มีลูกค้ามากกว่า 300,000 ในทุกขนาดและวงการในกว่า 140 ประเทศ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.3ds.com

3DEXPERIENCE, ไอคอนรูปเข็มทิศ, ไอคอน 3D, CATIA, BIOVIA, GEOVIA, SOLIDWORKS, 3DVIA, ENOVIA, NETVIBES, MEDIDATA, CENTRIC PLM, 3DEXCITE, SIMULIA, DELMIA และ IFWE เป็นเครื่องหมายการค้าเชิงพาณิชย์หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Dassault Systèmes หรือภาษาฝรั่งเศสคือ “société européenne” (การจดทะเบียนพาณิชย์ Versailles # B 322 306 440) หรือบริษัทย่อยในเครื่องในสหรัฐอเมริกาและ/หรือประเทศอื่น ๆ

ผู้ติดต่อ

Tom Paolella
Senior Director, Corporate Communications & Affairs
+1-848-203-7596
thomas.paolella@3ds.com

Paul Oestreicher
External Communications Director
+1-917-522-4692
paul.oestreicher@3ds.com

แหล่งที่มา: Medidata

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Education New Zealand เปิดทุนการศึกษา Manaaki New Zealand ประจำปี 2023 สำหรับการศึกษาระดับสูงกว่าปริญญาตรี

Logo

นักเรียนจากประเทศที่มีสิทธิ์ในแปซิฟิก เอเชีย ลาตินอเมริกา แอฟริกา และแคริบเบียนสามารถสมัครได้

เวลลิงตัน นิวซีแลนด์–(BUSINESS WIRE)–21 กุมภาพันธ์ 2023

Education New Zealand มีความยินดีที่จะประกาศว่าทุน Manaaki New Zealand เปิดรับสมัครแล้ว รอบคัดเลือกปี 2023 เป็นรอบแรกของทุนการศึกษานับตั้งแต่เกิดโรคระบาด

ภายใต้การดูแลของกระทรวงการต่างประเทศและการค้าของนิวซีแลนด์ ทุนการศึกษานี้เป็นเสาหลักของความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของนิวซีแลนด์ โดยมอบทุนการศึกษามากกว่า 1,100 ทุนต่อปีให้กับนักเรียนจาก 112 ประเทศที่มีสิทธิ์เข้าศึกษาในนิวซีแลนด์และแปซิฟิก

ในรอบปี 2023 นิวซีแลนด์เสนอทุนการศึกษาระดับอนุปริญญาโท ปริญญาโท และปริญญาเอก สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในสาขาที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศของตน

ทุนการศึกษานี้เปิดให้สำหรับนักเรียนที่สนใจการศึกษาระดับอุดมศึกษาในนิวซีแลนด์ในปี 2024 นักเรียนจากประเทศที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในแปซิฟิก เอเชีย ละตินอเมริกา แอฟริกา และแคริบเบียนสามารถสมัครเพื่อขอรับทุนการศึกษาได้ในหลากหลายโปรแกรม

ประเด็นสำคัญสำหรับรอบคัดเลือกปี 2023 ได้แก่ โปรแกรมการศึกษาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม การจัดการภัยพิบัติ ความมั่นคงด้านอาหารและการเกษตร พลังงานทดแทน ธรรมาภิบาล และการสอนภาษาอังกฤษ (TESOL) ผู้สมัครที่เลือกหนึ่งในวิชาที่ได้รับอนุมัติสำหรับการศึกษาจะได้รับสิทธิพิเศษก่อน

Julia Moore ผู้จัดการทุนการศึกษา Manaaki ของนิวซีแลนด์กล่าวว่าทุนการศึกษา Manaaki New Zealand เป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการพัฒนาของรัฐบาลนิวซีแลนด์เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรือง ความมั่นคง และการเติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศคู่ค้าของเรา

“สถาบันระดับอุดมศึกษาของนิวซีแลนด์เสนอคุณวุฒิการศึกษาคุณภาพสูงในสาขาต่าง ๆ เช่น การจัดการภัยพิบัติ ธรณีวิทยา วิศวกรรมโยธา และสิ่งแวดล้อม

“ฉันสนับสนุนให้ผู้สมัครที่มีศักยภาพทั้งหมดสมัครเพื่อรับทุนรอบปี 2023” Moore กล่าว

ทุนการศึกษา Manaaki New Zealand เป็นตัวแทนของการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดเพียงครั้งเดียวของรัฐบาลนิวซีแลนด์ในทุนการศึกษานานาชาติและได้รับรางวัลมากว่า 70 ปี

การสมัครทางออนไลน์สำหรับทุนการศึกษา Manaaki New Zealand ประจำปี 2023 เพื่อดำเนินการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาในนิวซีแลนด์เปิดรับสมัครแล้ว และจะปิดในเที่ยงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2023 (เวลานิวซีแลนด์)

สำหรับข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับทุนการศึกษาของ Manaaki New Zealand รวมถึงคุณสมบัติและขั้นตอนการสมัคร โปรดไปที่หน้าเว็บทุนการศึกษาของ Manaaki New Zealand

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Education New Zealand

manaaki@enz.govt.nz

แหล่งที่มา: Education New Zealand

Telford Offshore ประกาศเสร็จสิ้นกระบวนการขายและการเข้าซื้อกิจการโดย Merced Capital

Logo

Robert Duncan ได้แต่งตั้ง CEO เพื่อเป็นผู้นำตำนานบทถัดไปของการเติบโต

ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–20 กุมภาพันธ์ 2023

Telford Offshore Group (“Telford Offshore” หรือ “บริษัท”) ประกาศในวันนี้ว่า หน่วยงานในเครือของ Merced Capital ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัทแล้ว การซื้อกิจการแสดงถึงการเสร็จสิ้นกระบวนการขายที่มีการแข่งขันซึ่งประกาศไว้ก่อนหน้านี้ (“กระบวนการขาย”) โดยปัจจุบัน เจ้าของ Telford Offshore ก็คือ Merced Capital

ในส่วนหนึ่งของธุรกรรมนี้ Merced Capital ซึ่งได้รับคำแนะนำจาก Sidley Austin ได้เพิ่มเงินทุนใหม่ในบริษัทเพื่อรองรับบทต่อไปของการเติบโตและปรับปรุงงบดุล โดยลดสถานะหนี้สินสุทธิเป็นศูนย์หลังการทำธุรกรรม ด้วยการสนับสนุนของผู้สนับสนุนทางการเงินและสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก Telford Offshore จะอยู่ในสถานะที่ดีที่จะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวที่กำลังดำเนินอยู่ในอุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลกและความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับบริการนอกชายฝั่ง

Telford Offshore ยังประกาศว่า Robert Duncan ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ของบริษัท Mr. Duncan จะเข้ารับหน้าที่โดยมีผลทันที โดยรับตำแหน่งต่อจาก Fraser Moore ผู้บริหารที่น่าเคารพซึ่งมีประสบการณ์กว่าสองทศวรรษในการเป็นผู้นำทีมระดับโลกในอุตสาหกรรมพลังงานนอกชายฝั่งและอุตสาหกรรมทางทะเล Mr. Duncan เคยดำรงตำแหน่งผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Capital Strategies International และก่อนหน้านั้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Seafox International

Joe McElroy หุ้นส่วนของ Merced Capital กล่าวว่า "เราเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินหลักของ Telford Offshore ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท และตั้งตารอที่จะสนับสนุนทีมต่อไปในบทใหม่ของประวัติศาสตร์องค์กรนี้ เราขอขอบคุณ Fraser สำหรับรากฐานที่แข็งแกร่งที่เขาสร้างขึ้นที่ Telford และการสนับสนุนของเขาในช่วงการเปลี่ยนผ่านนี้ เมื่อมองไปข้างหน้า เรามั่นใจว่า Robert จะเป็นผู้นำในอุดมคติในการพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์มของบริษัท และใช้ประโยชน์จากโอกาสในการเติบโตในตลาดบริการนอกชายฝั่ง”

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับ Telford Offshore ในช่วงเวลาสำคัญของบริษัทและในช่วงเวลาที่สำคัญในอุตสาหกรรมของเรา ซึ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นของสิ่งที่เราคาดว่าจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งหลังจากหลายปีที่ท้าทาย” กล่าวโดย Robert Duncan ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Telford Offshore “ภายใต้การเป็นเจ้าของคนใหม่และงบดุลที่คล่องตัว Telford พร้อมที่จะสร้างตัวเองให้เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมต่อไป”

ความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ Telford Offshore ที่มีต่อลูกค้า ผู้ขาย และพนักงานจะไม่ได้รับผลกระทบ และการดำเนินงานในปัจจุบันจะยังคงดำเนินต่อไปตามปกติ ปัจจุบัน Telford Offshore มีสินทรัพย์ 5 รายการ ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้สัญญาเพื่อทำงานร่วมกับคู่ค้าที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงบริษัทน้ำมันแห่งชาติ (NOCs) และบริษัทน้ำมันระหว่างประเทศ (IOCs) ดังนี้

– Telford 25 พร้อมเครนขนาด 800 ตัน สามารถวางท่อแบบแข็งได้ พื้นที่ดาดฟ้า 1,500 ตร.ม. และท่าเทียบเรือ 379 ท่า

– Telford 28 พร้อมเครนขนาด 270 ตัน พื้นที่ดาดฟ้า 1,500 ตร.ม. และท่าเทียบเรือ 462 ท่า

– Telford 30 พร้อมเครนขนาด 270 ตัน สามารถวางท่อแบบแข็งได้ พื้นที่ดาดฟ้า 300 ตร.ม. และท่าเทียบเรือ 480 ท่า

– Telford 31 พร้อมเครนขนาด 400 ตัน พื้นที่ดาดฟ้า 1,300 ตร.ม. และท่าเทียบเรือ 477 ท่า

– Telford 34 พร้อมเครนขนาด 800 ตัน ระบบท่อแบบแข็ง พื้นที่ดาดฟ้า 1,350 ตร.ม. และท่าเทียบเรือ 339 ท่า

ชีวประวัติของ Robert Duncan

Mr. Duncan ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหลายตำแหน่งในองค์กรต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลกในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา เขาประจำอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ตลอด 17 ปีที่ผ่านมา เมื่อเร็ว ๆ นี้ Mr. Duncan ได้ก่อตั้งและเป็นผู้นำในบริษัท Capital Strategies International Limited (CSIL) ที่ให้บริการคุณภาพสูงระดับมืออาชีพแก่บริษัทพลังงานนอกชายฝั่งและภาคส่วนทางทะเล ตลอดจนสถาบันการเงิน ก่อนหน้านั้น Mr. Duncan มีบทบาทที่หลากหลาย ได้แก่ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินที่ Seafox International ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านพลังงานและการเดินเรือนอกชายฝั่งระหว่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2017 โดยปัจจุบัน Mr. Duncan ยังดำรงตำแหน่งกรรมการที่ไม่ได้เป็นผู้บริหารและสมาชิกคณะกรรมการของ Advance Global Recruitment ซึ่งเป็นธุรกิจจัดหางานตามสัญญาและโซลูชันถาวรชั้นนำที่ให้บริการภาคส่วนพลังงานนอกชายฝั่งทั่วโลก และเป็นตัวแทนพิเศษในตะวันออกกลางสำหรับ Van Aalst Group B.V. อีกทั้ง Mr. Duncan ยังเป็นสมาชิกที่มีคุณสมบัติของ Institute of Chartered Accountants of Scotland (ICAS) และ Chartered Institute of Public Finance and Accountancy (CPFA) อีกด้วย

เกี่ยวกับ Telford Offshore

กองเรือของ Telford Offshore ประกอบด้วยเรือที่ทันสมัย ​​5 ลำ ได้แก่ Telford 25, Telford 28, Telford 30, Telford 31 และ Telford 34 ความสามารถ DP3 และระบบการเดินไปยังที่ทำงานแบบถาวร (walk-to-work system) ช่วยให้ได้รับประโยชน์จากอัตราการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและสูงมากไปยังการติดตั้งการผลิตแบบประจำที่และแบบเคลื่อนที่ ซึ่งช่วยลดเวลาหยุดทำงานขณะอยู่บนสถานี ความสามารถอเนกประสงค์เหล่านี้ทำให้มั่นใจได้ว่าเรือลำเดียวสามารถปฏิบัติการได้หลากหลาย เรือแต่ละลำสามารถให้บริการที่พัก บริการยกของหนักใต้ทะเลและด้านบน วางท่อแข็งและยืดหยุ่นได้ และดำเนินการก่อสร้างใต้ทะเล Telford Offshore สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของลูกค้าและทำงานในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายที่สุด โดยมอบการเข้าถึงที่ปลอดภัยและการสนับสนุนของไซต์งานนอกชายฝั่ง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ www.telfordoffshore.com

เกี่ยวกับ Merced Capital

Merced Capital เป็นบริษัทการลงทุนเอกชนที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1988 และตั้งอยู่ในเมืองมินนิอาโปลิส รัฐมินนิโซตา เป็นบริษัทจัดการเงินทุนในนามของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งรวมถึงเงินบริจาคชั้นนำ กองทุนบำเหน็จบำนาญ และสำนักงานครอบครัว โดยมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมพลังงาน การเดินเรือ และการบริการนอกชายฝั่งทั่วโลก

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม:
FGS Global
อีเมล: merced@fgsglobal.com
หรือ
Telford Offshore
อีเมล: contact@telfordoffshore.com

แหล่งที่มา: Telford Offshore

ความเป็นอยู่ที่ดี ความสนิทสนมกลมเกลียว และผลกระทบต่อชุมชนเป็นจุดศูนย์กลางที่ J.P. Morgan Run

Logo

พนักงาน 23,000 คนวิ่งด้วยกันทั่วมุมไบ เบงกาลูรู ไฮเดอราบัด และปูเน่ ในกิจกรรมองค์กรปลอดขยะ

มุมไบ ไฮเดอราบัด เบงกาลูรู และปูเน่ ในอินเดีย–(BUSINESS WIRE)— ก่อนหน้านี้ JPMorgan Chase (NYSE:JPM) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการเริ่มดำเนินการโดยองค์กรเป็นครั้งแรกในรอบสองปี กิจกรรมนี้เพิ่มความสนิทสนมกลมเกลียว ช่วยสร้างวัฒนธรรมของการรวมเป็นหนึ่งและการเป็นเจ้าของ และนำพนักงานมารวมกันเพื่อตอบแทนชุมชนท้องถิ่น พนักงาน 23,000 คนทั่วทั้งเมืองมุมไบ เบงกาลูรู ไฮเดอราบัด และปูเน่ เข้าร่วมกิจกรรมลดขยะ (Zero-Waste) นี้

ในวันครบรอบ 10 ปีนั้น 2023 J.P. Morgan Run เป็นหนึ่งในงานวิ่งขององค์กรที่ใหญ่ที่สุดในอินเดียจนถึงปัจจุบัน นอกจากการระดมทุนเพื่อสวัสดิภาพและการศึกษาของเด็กแล้ว การวิ่งยังเป็นกิจกรรมที่ปลอดขยะ ซึ่งหมายความว่าขยะน้อยกว่า 10% ที่เกิดขึ้นระหว่างงานจะจบลงด้วยการเป็นขยะฝังกลบ งานนี้อนุญาตให้ผู้เข้าร่วมเลือกระหว่างการแข่งขัน 5K หรือ 10K และเสนอหมวดหมู่เพิ่มเติมที่พบได้ไม่บ่อยในสถานที่แบบนี้ อย่างการแข่งขันอายุ 50 ปีขึ้นไปและเพศที่ไม่ใช่ไบนารี ซึ่งนำไปสู่การปฏิบัติแบบไม่แบ่งแยก

Deepak Mangla ซีอีโอของ JPMorgan Chase Corporate Centers ในอินเดียและฟิลิปปินส์ กล่าวว่า “J.P. Morgan Run เป็นงานสำคัญสำหรับพนักงานแฟรนไชส์ในอินเดียของเรา เป็นการเฉลิมฉลองประจำปีเพื่อเพิ่มความสนิทสนมกลมเกลียว เป็นเวลาให้ได้ออกกำลังกาย และเป็นโอกาสในการแสดงการสนับสนุนของเราต่อความพยายามเพื่อการกุศลของบริษัทในการสนับสนุนการศึกษาและสวัสดิการของเด็ก”

ธีมในปีนี้คือ “Run Together” ได้รับเลือกโดยตั้งใจให้รวมพนักงานทุกระดับทักษะ ตั้งแต่นักวิ่งมือใหม่ไปจนถึงนักวิ่งผู้เชี่ยวชาญ โดยไม่คำนึงถึงอายุและเพศ ในบรรดานักวิ่งหลายพันคน มีนักวิ่งทั้งมือใหม่และผู้มีประสบการณ์ที่เคยวิ่งอัลตรามาราธอนมาแล้ว

งานนี้ยังเป็นเวทีสำหรับเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ระหว่างกันและกันกับพนักงานที่ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนกิจกรรมที่ตรงกับใจของพวกเขาด้วยธีมที่จัดแสดงซึ่งครอบคลุมความพิการ LGBTQ+ ทหารผ่านศึก สตรีและการอยู่ร่วมกันระหว่างรุ่น ความยั่งยืน ความเป็นอยู่ที่ดี ความสนิทสนมกลมเกลียว และผลกระทบต่อชุมชน

การวิ่งครั้งนี้จะสนับสนุนการศึกษาและสวัสดิการของเด็กผ่าน United Way Mumbai ที่เป็นพันธมิตรระยะยาว นอกจากนี้ยังจะสนับสนุนสวัสดิภาพสัตว์ร่วมกับ YODA, CARE และ People for Animals

เกี่ยวกับ JPMORGAN CHASE ในอินเดีย

JPMorgan Chase & Co. หนึ่งในสถาบันการเงินที่เก่าแก่ที่สุดในโลก นำเสนอโซลูชันทางการเงินที่เป็นนวัตกรรมแก่ผู้บริโภคหลายล้านราย ธุรกิจขนาดเล็ก และลูกค้าองค์กร สถาบัน และรัฐบาลที่โดดเด่นที่สุดในโลกจำนวนมากภายใต้แบรนด์ J.P. Morgan และ Chase ประวัติศาสตร์ของเรายาวนานกว่า 200 ปี และปัจจุบันเราเป็นผู้นำในด้านวาณิชธนกิจ การธนาคารเพื่อผู้บริโภคและธุรกิจขนาดเล็ก การธนาคารพาณิชย์ การประมวลผลธุรกรรมทางการเงิน และการจัดการสินทรัพย์

J.P. Morgan ทำธุรกิจในอินเดียมาตั้งแต่ปี 1922 และเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นผู้ให้บริการชั้นนำที่ครอบคลุมทั้งบรรษัทและวาณิชธนกิจ (Corporate & Investment Banking), ธนาคารพาณิชย์ (Commercial Banking), การจัดการสินทรัพย์และความมั่งคั่ง (Asset & Wealth Management) ตลอดจนบริการและโซลูชันสำหรับองค์กร อินเดียยังเป็นที่ตั้งของศูนย์องค์กรของบริษัท ซึ่งให้บริการการดำเนินธุรกิจ เทคโนโลยี การเงิน และการวิจัยของบริษัททั่วโลก

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ช่องทางติดต่อสำหรับสื่อ:
Sanam Mirchandani
sanam.mirchandani@jpmchase.com

แหล่งที่มา: JPMorgan Chase & Co.

Aura Network ระดมทุน 4 ล้านเหรียญฯ ในช่วง Pre-Series A นำโดย Hashed และ Coin98

Logo

Aura Network เริ่มต้นปี 2023 ด้วยรอบการระดมทุน 4 ล้านเหรียญสหรัฐโดยมี Hashed และ Coin98 เป็นผู้นำการระดมทุนดังกล่าว Aura Network กำลังก้าวขึ้นสู่แนวหน้าในปีนี้ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ซบเซา

ฮานอย เวียดนาม –(BUSINESS WIRE)–15 กุมภาพันธ์ 2023

Aura Network ได้ปิดรอบการระดมทุนเป็นจำนวนเงิน 4 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมี Hashed และ Coin98 Ventures ร่วมกันเป็นผู้นำการระดมทุนดังกล่าว ทั้งนี้ การระดมทุนนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญก่อนการเปิดใช้งาน Mainnet ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2023 ถัดจากการประกาศความร่วมมือด้านการให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์กับ Republic Crypto

(Photo: Business Wire)

(Photo: Business Wire)

การระดมทุนครั้งนี้นับเป็นหนึ่งในครั้งที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ Aura Network โดยมีการลงทุนจาก Hashed ซึ่งเป็นบริษัทการลงทุนคริปโตรายใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ หลังจากก่อตั้งบริษัทมา 5 ปี Hashed ได้ลงทุนกับโครงการต่าง ๆ กว่า 80 โครงการในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ NFT อย่าง Axie Infinity และ The Sandbox, เครือข่ายบล็อกเชนอย่าง Cosmos และ Klaytn และโปรโตคอล DeFi อย่าง MakerDAO

คุณ Joseph Young ผู้ดำรงตำแหน่ง Senior Associate ของ Hashed ได้กล่าวว่า "Hashed ยินดีอย่างยิ่งที่ได้ให้การสนับสนุน Aura Network ในช่วงก่อนการเปิดใช้งาน Mainnet เราประทับใจในความสำเร็จด้านเทคนิคที่ผ่าน ๆ มาของ Aura Network ซึ่งช่วยให้บริษัทนี้พัฒนาขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโอเพนซอร์สรายใหญ่ที่สุดแก่ Cosmos” ทั้งยังกล่าวต่อไปว่า “เราเล็งเห็นว่าระบบนิเวศของ Cosmos มีแนวโน้มที่ดี และเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของ Aura Network ในพัฒนา Layer-1 ที่สนับสนุน NFT, การเล่นเกม และ DeFi ที่ยั่งยืนอย่างครอบคลุมในที่เดียว"

ในรอบการระดมทุนนี้ Aura Network ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการบล็อกเชนบางโครงการ ซึ่งรวมถึง GuildFi, Istari Ventures, Republic Crypto และนักลงทุนกับธุรกิจในระยะเริ่มต้น (Angel investor) รายอื่น ๆ นอกจากนี้ ความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับนักลงทุนและพาร์ทเนอร์เหล่านี้จะช่วยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินการ ผลิตภัณฑ์และการพัฒนาธุรกิจ การทำการตลาด และอื่น ๆ

คุณ Thanh Le ผู้ก่อตั้ง Coin98 กล่าวว่า ”การได้สนับสนุน Giang และทีมงานผู้มีความสามารถของ Aura ตั้งแต่ต้นและเฝ้าดูพวกเขาพัฒนาขึ้นในทุก ๆ วันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก Aura Network ให้บริการ Layer-1 ที่ให้ความสำคัญกับ NFT ทั้งยังมีความน่าเชื่อถือ รวดเร็ว และรองรับการปรับขยาย จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะช่วยให้การนำ NFT เข้ามาใช้ในด้านต่าง ๆ ทั่วโลกเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น” และกล่าวต่อไปว่า “เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุน Aura, ทีมงานที่ดำเนินงานได้อย่างยอดเยี่ยม, ความรู้ทางเทคนิคในเชิงลึก, รากฐานที่มีประสิทธิภาพสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้กับผู้พัฒนา ตลอดจนความทุ่มเทอย่างสุดความสามารถในด้านคุณภาพเพื่อให้ NFT เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง"

ก้าวต่อไปของ Aura Network

“Web3 และ NFT จะอยู่กับเราไปอีกนาน เมื่อได้รับการสนับสนุนจากบริษัทขนาดใหญ่ เราจะใช้เงินทุนนี้เพื่อดำเนินงานพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าตลาดจะอยู่ในสภาวะเช่นไรก็ตาม” said Giang Tran, Founder & CEO of Aura Network.

เงินทุนจะถูกนำไปใช้เพื่อขยายระบบนิเวศของ Aura Network ซึ่งรวมถึงการเพิ่มจำนวนโครงการ Web3 ระดับสากลและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นภายในระบบนิเวศดังกล่าว ทั้งนี้ ทีมฝ่ายพัฒนาของ Aura Network อยู่ระหว่างพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มากมายเพื่อเดินหน้าสู่การเปิดใช้งาน Mainnet โดยบริษัทจะประกาศกำหนดการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในอีกไม่ช้าในแผนดำเนินงานประจำปี 2023

เมื่อได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากนักลงทุนกับธุรกิจในระยะเริ่มต้น (Angel investor) และพาร์ทเนอร์ Aura Network จะช่วยให้ NFT มีการนำมาใช้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้นและก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้พัฒนา Web3 ชั้นนำ

เกี่ยวกับ Aura Network

Aura Network เป็นระบบนิเวศที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้มีการนำ NFT มาใช้งานทั่วโลกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดย Aura Network มุ่งเน้นการพัฒนาอินเทอร์เน็ตของ NFT และทำให้ NFT กับ web3 มีการใช้งานโดยผู้คนจำนวนมาก

Website | Twitter | Discord | Telegram | Blog

เกี่ยวกับ Hashed

Hashed ก่อตั้งขึ้นจากทีมผู้ประกอบการต่อเนื่องและวิศวกรในปี 2017 โดยเป็นบริษัทบล็อกเชนรายใหญ่ในเอเชียที่มีผลงานอยู่ทั่วโลก

Website | Twitter | Blog | Linkedin

เกี่ยวกับ Coin98 Ventures

Coin98 Ventures เป็นหน่วยธุรกิจเงินร่วมลงทุนของ Coin98 Finance ซึ่งเป็นฮับพัฒนา Web3 ในเวียดนาม บริษัทแห่งนี้มุ่งมั่นที่จะลงทุนกับผู้ก่อตั้งบริษัทต่าง ๆ ที่มีแนวคิดที่สร้างความเปลี่ยนแปลงและแนวทางเชิงสร้างสรรค์ในทุก ๆ เรื่องเกี่ยวกับสแต็ก Web3 ตั้งแต่โปรโตคอลและโครงสร้างพื้นฐาน Layer-1 ไปจนถึงการใช้งานสำหรับผู้บริโภค

Website | Twitter

บุคคลติดต่อ

Thu Tran (คุณ)
Aura Network
COO
thu@aura.network

แหล่งที่มา: Aura Network

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Midea Group ได้รับรางวัล 2022 Forbes China สุดยอด 50 ธุรกิจอุตสาหกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

Logo

ฝอซาน, จีน–(BUSINESS WIRE)–15 กุมภาพันธ์ 2023

ในช่วงต้นปีนี้ Forbes ได้เผยแพร่รายชื่อ "2022 Forbes China สุดยอด 50 ธุรกิจอุตสาหกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน"  ซึ่งมี Midea Group รวมอยู่ในรายชื่อดังกล่าวด้วยเนื่องจากผลงานที่โดดเด่นในด้านการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความเป็นกลางทางคาร์บอน การพัฒนาที่ยั่งยืน และโครงสร้างแบบ ESG

Midea Group Awarded as 2022 Forbes China TOP 50 Sustainable Development Industrial Enterprises (Graphic: Business Wire)

Midea Group ได้รับรางวัล 2022 Forbes China สุดยอด 50 ธุรกิจอุตสาหกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Graphic: Business Wire)

การประเมินมุ่งเน้นไปที่ตัวชี้วัดอย่างเฉพาะเจาะจง 5 มิติ ได้แก่ "ระบบการจัดการ นวัตกรรมทางเทคโนโลยี ผลประโยชน์ที่ครอบคลุม การจัดสรรทรัพยากร รวมไปถึงการสาธิตและส่งเสริม" บริษัทที่ได้รับเลือกในปีนี้คือบริษัทอุตสาหกรรมทั้งหมดที่ก่อตั้งมาอย่างน้อย 10 ปี และมีรายได้ต่อปีมากกว่า 100 พันล้านหยวน พร้อมกับมีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาที่เพิ่มขึ้นประมาณ 50% เมื่อเทียบเป็นรายปี พวกเขายังแสดงให้เห็นถึงข้อได้เปรียบที่สำคัญเหนือคู่ค้าในระดับโลกและมีเทคโนโลยีล้ำสมัยซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดในโลก
ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา Midea ได้ปรับปรุงและทำให้ระบบการจัดการการพัฒนาอย่างยั่งยืนของตนสมบูรณ์แบบ โดยได้ผสานแนวคิดของการพัฒนาอย่างยั่งยืนไว้ในแทบทุกขั้นตอนของการผลิตและการดำเนินงาน ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการทำตามความมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าร่วมกันกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้สำเร็จ

Midea Shunde Industrial Park ใช้ระบบ PV แบบกระจาย อุปกรณ์จัดเก็บพลังงาน อุปกรณ์ HVAC ประสิทธิภาพสูง (รวมถึงยูนิตเชื่อมต่อ MDV8 หลายตัว) ลิฟต์อัจฉริยะดิจิทัล LINVOL โมดูลการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ และสายการผลิตอัตโนมัติเพื่อทำให้การเป็นสำนักงานสีเขียวและการผลิตคาร์บอนโดยมีต้นทุนต่ำสำเร็จ ความพยายามดังกล่าวนำไปสู่การรับรองโดย LEED & WELL ด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัลของ iBUILDING ระบบการจัดการคาร์บอนและระบบโครงข่ายไฟฟ้าของ Midea Shunde Industrial Park ได้รับการผนวกรวมเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ และยังบรรลุถึงความเป็นกลางทางคาร์บอนในพื้นที่สำนักงานอีกด้วย

ปัจจุบันโรงงาน Midea Chongqing ได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสีเขียวและประหยัดพลังงานมากกว่า 15 รายการ แอปพลิเคชันฉากดิจิทัล 8 รายการ การรับรองและการให้คำปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม 3 รายการ และยังมีการเข้าถึงระบบข้อมูลมากกว่า 10 ระบบ และยังเพิ่มสัดส่วนของพลังงานสะอาดและไฟฟ้าสีเขียวอย่างมีนัยสำคัญด้วยการติดตั้งแผง PV บนหลังคา ผนังอาคารที่มีแผงโซลาร์เซลล์แสงอาทิตย์แบบบูรณาการ และไฟถนนพลังงานแสงอาทิตย์ นอกจากนี้ โรงงาน Midea Chongqing ยังได้รับใบรับรองคาร์บอนเป็นกลาง PAS2060 ทำให้กลายเป็นหนึ่งในโรงงานต้นแบบที่ปลอดคาร์บอนแห่งแรกของ Midea

ด้วยคำแนะนำจากการให้คำปรึกษาด้านคาร์บอนขั้นสูงสุด โรงงาน Midea Jingzhou ได้สร้างเส้นทางปลอดคาร์บอนซึ่งประกอบด้วยสี่ขั้นตอน ได้แก่ การวางแผนและการออกแบบ การก่อสร้าง การดำเนินงาน และการปฏิรูป นอกจากนี้ บริษัทยังใช้โซลูชันคาร์บอนเป็นศูนย์ที่สำคัญเพื่อให้ได้รับการรับรองทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและเรื่องคาร์บอนเป็นศูนย์ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพและการจัดการพลังงานดังกล่าว ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและการบำรุงรักษาจะลดลง 30% และการใช้พลังงานของโรงงานจะลดลง 5-20% โดยทั้งหมดนี้คือความพยายามในการลดคาร์บอน

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ดูเวอร์ชันต้นฉบับได้ที่ businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20230213005693/en/

ติดต่อ

Lori Luo   luory17@midea.com

 

แหล่งที่มา: Midea Group

ในงาน MWC 2023 GIGABYTE จะมีการนำเสนอโซลูชัน 5G Edge และ Green Computing พร้อมเปิดตัววิสัยทัศน์ใหม่แห่ง “Power of Computing”

Logo

TAIPEI–(BUSINESS WIRE)–15 กุมภาพันธ์ 2023

GIGABYTE ผู้นำด้านนวัตกรรมฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์และโซลูชันเซิร์ฟเวอร์ จัดงานแสดงผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ในงาน MWC 2023 (บูธ #5F60 ฮอลล์ 5) โดยเป็นครั้งแรกที่ GIGABYTE นำเสนอร่วมกับ Giga Computing ซึ่งเป็นบริษัทใหม่ล่าสุดภายในเครือ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในโซลูชันสำหรับองค์กร โดยจะร่วมกันเปิดตัวโซลูชันไอทีล่าสุดสำหรับ edge computinggreen computing, AI, ศูนย์ข้อมูล HPC และการใช้งานระบบคลาวด์สำหรับองค์กร โดยจะมีการแสดงภาพรวมของ "Power of Computing" และวิธีการปรับเปลี่ยนรูปแบบและเปิดกว้างโอกาสสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ ของโลก

At MWC 2023, GIGABYTE to Present 5G Edge and Green Computing Solutions, Unveiling New Visions of “Power of Computing” (Photo: Business Wire)

ในงาน MWC 2023 GIGABYTE จะมีการนำเสนอโซลูชัน 5G Edge และ Green Computing พร้อมเปิดตัววิสัยทัศน์ใหม่แห่ง “Power of Computing” (ภาพ: Business Wire)

ตั้งแต่วันที่ 27 เดือนกุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 2 เดือนมีนาคม ในงาน MWC GIGABYTE จะมีการนำเสนอเซิร์ฟเวอร์ซีรีส์ใหม่ที่มุ่งเน้นผลกระทบที่เกิดใน HPC การพัฒนา AI และระบบการประมวลผลบนคลาวด์ ด้วยความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน โซลูชันเซิร์ฟเวอร์ของ GIGABYTE เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายและมีการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งในสถาบันการศึกษา ศูนย์การบินและอวกาศ บริการคลาวด์สาธารณะ บริษัทผลิตเซมิคอนดัคเตอร์ และสตูดิโอผลิตแอนิเมชั่น เพื่อเปิดกว้างศักยภาพของนวัตกรรมที่ก้าวล้ำ

ศูนย์ข้อมูล Edge จะช่วยเพิ่มการเติบโตของระบบนิเวศ 5G

ในระหว่างงาน MWC GIGABYTE จะมีการเปิดตัว เซิร์ฟเวอร์สำหรับ edge computing รุ่นล่าสุด โดยเซิร์ฟเวอร์ edge เหล่านี้จะสามารถประมวลผลข้อมูลด้วยความเร็วในการรับส่งข้อมูลและประสิทธิภาพในการประมวลผลที่ดีเยี่ยมโดยใช้พลังงานที่น้อยลง การออกแบบแชชซีที่มีความลึกน้อยลงจะช่วยให้เซิร์ฟเวอร์มีขนาดที่เข้ากับพื้นที่ที่จำกัดใกล้กับแหล่งข้อมูล โดยเป็นส่วนที่สำคัญในการรองรับอุปกรณ์ IoT แบบเรียลไทม์ปริมาณมาก

ด้วยขอบเขตการครอบคลุมที่เพิ่มขึ้นในเครือข่าย 5G ระบบการผลิตแบบอัจฉริยะ เทคโนโลยียานยนต์ และ เมืองอัจฉริยะ ที่เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนความต้องการของศูนย์ข้อมูล edge จำนวนสูง โดยโซลูชันเซิร์ฟเวอร์ edge ที่สมบูรณ์ของ GIGABYTE มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมให้องค์กรและสถาบันสามารถเปิดกว้างโอกาสการดำเนินการธุรกิจภายใต้ระบบ 5G ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

โซลูชัน Green Computing ของ GIGABYTE จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของศูนย์ข้อมูล พร้อมลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้น้อยลง

การที่ศูนย์ข้อมูลมีความต้องการพลังงานไฟฟ้าสูงขึ้นถือเป็นความท้าทายที่สำคัญในการบรรลุเป้าหมายให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ รวมถึงการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าและสภาพอากาศที่รุนแรงทำให้โซลูชันการระบายความร้อนของศูนย์ข้อมูลยิ่งทำให้เป็นความต้องการที่สำคัญในกลยุทธ์ด้านไอที

GIGABYTE เตรียมนำเสนอ โซลูชันการระบายความร้อน และเซิร์ฟเวอร์ที่สอดคล้องกันในงาน MWC โดยจะมีการนำโซลูชันดังกล่าวมาใช้ในโรงหล่อ IC เพื่อปรับปรุงระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และการกระจายความร้อนของศูนย์ข้อมูล HPC ให้ดียิ่งขึ้น โดยมีระดับ PUE (ประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน) ลดลงเป็นอย่างมากต่ำกว่า 1.08 และเพิ่มประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ HPC ให้มากขึ้นกว่า 10% โดยจะเป็นศูนย์ข้อมูลแม่แบบตัวอย่างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

GIGABYTE มีการสร้างมาตรฐานระดับสูงสำหรับเทคโนโลยี green computing สำหรับสายการผลิตเซิร์ฟเวอร์โดยรวม โดยเป็นที่รู้จักกันดีในด้านการออกแบบระบบระบายความร้อนระดับพรีเมียมและประสิทธิภาพที่โดดเด่นแม้จะมีโหลดการประมวลผลที่หนักหน่วง โดยมีสถาบันต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยและบริษัทโทรคมนาคมเข้าร่วมมือกับ GIGABYTE เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ดีเยี่ยมโดยมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่น้อยลง

ในงาน MWC ที่กำลังจะมาถึงนี้ GIGABYTE ขอแสดงความยินดีต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมเพื่อสำรวจวิสัยทัศน์อย่างชาญฉลาดและยั่งยืนยิ่งขึ้นผ่าน "Power of Computing" โดยไฮไลต์ในบูธจะเป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีของ edge computing, green computing, AI, ศูนย์ข้อมูล HPC และ enterprise cloud รวมถึงวิธีการผสานรวมโอกาสความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดเพื่ออนาคตที่ดีกว่า

เกี่ยวกับ GIGABYTE

GIGABYTE เป็นกลุ่มนักวิศวกร ผู้มีวิสัยทัศน์ และเป็นผู้นำในโลกแห่งเทคโนโลยีที่ใช้ความเชี่ยวชาญด้านฮาร์ดแวร์ นวัตกรรมที่ได้รับการจดสิทธิบัตร และความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ในการสร้าง แรงบันดาลใจ และพัฒนาให้ก้าวล้ำยิ่งขึ้น GIGABYTE เป็นรากฐานที่สำคัญในชุมชน HPC โดยมีชื่อเสียงในด้านความเป็นเลิศที่ได้รับรางวัลเกี่ยวกับเมนบอร์ดและกราฟิกการ์ดมากว่า 30 ปี นำธุรกิจไปสู่ความสำเร็จด้วยความเชี่ยวชาญด้านเซิร์ฟเวอร์และศูนย์ GIGABYTE ทุ่มเทในการคิดค้นโซลูชันอัจฉริยะที่ปรับแปลงระบบดิจิทัลจาก edge เป็นคลาวด์ และช่วยให้ลูกค้าสามารถมองเห็นภาพรวม วิเคราะห์ และแปลงข้อมูลดิจิทัลให้เป็นข้อมูลทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ และ "ยกระดับชีวิตของคุณ" พร้อมกับอยู่ในระดับแนวหน้าของเทคโนโลยี

เยี่ยมชม GIGABYTE MWC event page

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53314598/en

ติดต่อ

สื่อ: Michael Pao brand@gigabyte.com

แหล่งข้อมูล: GIGABYTE

Mary Kay Inc. แต่งตั้ง Sheryl Adkins-Green เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายประสบการณ์

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–15 กุมภาพันธ์ 2023

Mary Kay Inc. บริษัทด้านความงามและผู้ประกอบการชื่อดังประกาศแต่งตั้ง Sheryl Adkins-Green เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายประสบการณ์ ในบทบาทใหม่นี้ Adkins-Green จะสนับสนุนความสำเร็จของธุรกิจที่ปรึกษาด้านความงามอิสระหลายล้านรายผ่านประสบการณ์ลูกค้าแบบบูรณาการ 360 องศา

“Mary Kay Ash always said, ‘Picture every person with an invisible sign around their neck that says Make Me Feel Important,’” said Adkins-Green. “This will be my mantra as I take on this exciting new role.” (Credit: Mary Kay Inc.)

“Mary Kay Ash พูดเสมอว่า ‘ลองนึกภาพทุกคนที่มีสัญลักษณ์ที่มองไม่เห็นรอบคอที่เขียนว่า Make Me Feel important’” กล่าวโดย Adkins-Green “นี่จะเป็นเวทมนตร์คาถาของฉันเมื่อฉันได้รับบทบาทใหม่ที่น่าตื่นเต้นนี้” (เครดิต: Mary Kay Inc.) Caption 2: Sheryl Adkins-Green ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายประสบการณ์ จะสนับสนุนความสำเร็จของธุรกิจที่ปรึกษาด้านความงามอิสระหลายล้านรายผ่านประสบการณ์ลูกค้าแบบบูรณาการ 360 องศา (เครดิต: Mary Kay Inc.)

“ที่ Mary Kay ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าประสบการณ์ที่คุ้มค่าสำหรับที่ปรึกษาด้านความงามอิสระและลูกค้าของพวกเขา” กล่าวโดย Nathan Moore ประธานฝ่ายขายและการตลาดทั่วโลกของ Mary Kay “ประสบการณ์ของ Sheryl ในฐานะนักการตลาดที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก โดยเน้นที่บริการที่เหนือชั้น ทำให้เธอเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายประสบการณ์ของเรา เธอหลงใหลในโอกาสของ Mary Kay อย่างมาก และเราตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่ากลยุทธ์ระดับโลกของเธอจะสร้างความแตกต่างในชีวิตของผู้หญิงทั่วโลกได้อย่างไร”

Adkins-Green ผู้ที่ร่วมงานกับ Mary Kay มาตั้งแต่ปี 2009 เคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด เธอจะยังคงเป็นผู้นำแผนกการสร้างประสบการณ์ต่อแบรนด์ระดับโลก (Global Brand Experience) และหน่วยงานสร้างสรรค์ภายในบริษัทที่สร้างแคมเปญการตลาด เนื้อหาการออกแบบมัลติมีเดีย เนื้อหาโซเชียลมีเดีย และการสื่อสารดิจิทัลแบบบูรณาการที่ช่วยให้ทีมขายอิสระสามารถมอบประสบการณ์ความงามเฉพาะบุคคลและบริการที่ปรับแต่งได้ให้กับลูกค้าของพวกเขา ด้วยการรวมการวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูล และการคาดการณ์แนวโน้ม Adkins-Green และทีมงานของเธอจะคาดการณ์ถึงความต้องการและความคาดหวังของที่ปรึกษาด้านความงามอิสระและลูกค้าของพวกเขาในกว่า 35 ประเทศ

“Mary Kay Ash พูดเสมอว่า ‘ลองนึกภาพทุกคนที่มีสัญลักษณ์ที่มองไม่เห็นรอบคอที่เขียนว่า Make Me Feel important’” กล่าวโดย Adkins-Green “นี่จะเป็นเวทมนต์คาถาของฉันเมื่อฉันได้รับบทบาทใหม่ที่น่าตื่นเต้นนี้”

Adkins-Green นำประสบการณ์ที่สำคัญในการวางแผนเชิงกลยุทธ์ การพัฒนาธุรกิจ และความร่วมมือในองค์กรมาสู่บทบาทของเธอ ก่อนร่วมงานกับ Mary Kay นั้น Sheryl เคยดำรงตำแหน่งผู้บริหารกับ Alberto-Culver, Cadbury-Schweppes, Citigroup และ Kraft Foods เธอได้รับวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาการค้าปลีก เกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน และปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจจากโรงเรียนธุรกิจฮาร์วาร์ด (Harvard Business School) เธอมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในชุมชนผ่านมูลนิธิ Mary Kay Ash Foundation℠ โดยมีภารกิจสองอย่าง คือ การค้นหาวิธีรักษาโรคมะเร็งที่ส่งผลกระทบต่อผู้หญิงและการขจัดความรุนแรงที่มีต่อผู้หญิง ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของ Mary Kay ในการทำให้ชีวิตของผู้หญิงและครอบครัวดีขึ้น

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash หนึ่งในผู้ที่ทำสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้สำเร็จ ได้ก่อตั้งบริษัทความงามในฝันของเธอในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น ความฝันนั้นได้เบ่งบานกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมผู้หญิงในเส้นทางของพวกเธอผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย ​​เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ยกระดับความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการทารุณกรรมในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com หรือค้นหาเราบน FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่ https://www.businesswire.com/news/home/20230214005743/en/

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งที่มา: Mary Kay Inc.


Mary Kay จุดประกายแห่งฝันให้กับผู้นำพลังหญิงรุ่นใหม่จากหลักสูตร STEAM ที่งาน Youth Summit

Logo

Young Women’s Preparatory Network / Irma Lerma Rangel Young Women’s Leadership School Students ร่วมเฉลิมฉลองวันแห่ง STEAM อันแสนพิเศษเพื่อจุดไฟแห่งฝันในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำแห่งแวดวง STEAM

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–14 กุมภาพันธ์ 2023

Mary Kay Inc. บริษัทระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจเพื่อสนับสนุนการศึกษาและเสริมสร้างขีดความสามารถให้กับผู้หญิง ได้เชิญเด็กหญิงวัยรุ่น 25 คนจาก Young Women’s Preparatory Network (YWPN) / Irma Lerma Rangel Young Women’s Leadership School ประจำเขตพื้นที่การศึกษาของโรงเรียนเอกชนดัลลาส มาเพื่อศึกษาดูงาน และสร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับผู้หญิงในแวดวง STEAM ซึ่งในกิจกรรมนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ร่วมกันเฉลิมฉลองวันสตรีและเด็กหญิงในวงการวิทยาศาสตร์สากล (International Day of Women and Girls in Science) เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาด้วย

Mary Kay Inc. welcomed students from the Irma Lerma Rangel Young Women’s Leadership School to R3 for a STEAM themed summit exploring being a woman in STEAM. (Photo: Mary Kay Inc.)

Mary Kay Inc. ขอต้อนรับนักศึกษาจาก Irma Lerma Rangel Young Women’s Leadership School สู่ R3 เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดในหัวข้อ STEAM เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นเพศหญิงในวงการ STEAM (รูปภาพ: Mary Kay Inc.)

โดยบรรดานักเรียนสาววัยมัธยมได้ใช้เวลาทั้งวันที่ศูนย์การผลิต/R&D Richard R. Rogers ของ Mary ในเลวิสวิลล์ ที่เท็กซัส ซึ่งทุกคนได้เยี่ยมชมอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกสุดทันสมัย ทั้งยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับแง่มุมต่าง ๆ ของกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตร STEAM ในบริษัทด้านความงามครบวงจรระดับโลก นอกจากการเยี่ยมชมบริษัทและการผลิตในส่วนต่าง ๆ แล้วนักเรียนนักศึกษายังได้ร่วมรับฟังการอภิปรายจากผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ ของ STEAM ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้หญิงเก่งจากหลากสาขาอาชีพ ในการอภิปรายครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ เช่น การคิดค้นนวัตกรรมต้นน้ำ การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยีสารสนเทศ การวิจัยผลิตภัณฑ์ การวางแผนกลยุทธ์การจัดสรรทรัพยากร และการพัฒนา ส่วนในช่วงบ่ายนักเรียนจะได้เข้าร่วมรับประทานอาหารกลางวันพร้อมกับให้คำปรึกษาถึงโอกาสในเส้นทางอาชีพสายต่าง ๆ ของผู้หญิงในแวดวง STEAM ไปจนถึงการให้แรงบันดาลใจด้านการงานอาชีพเป็นรายบุคคล รวมทั้งวิธีกระตุ้น เตรียมพร้อม และสนับสนุนเด็กหญิงวัยรุ่นให้กล้าออกไปไล่ล่าความฝันในแวดวง STEAM อย่างเต็มภาคภูมิ

“Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างขีดความสามารถและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงเจเนอเรชันใหม่ให้กล้าออกไปไล่ล่าท้าทายความฝันของตน เพราะโลกยุคต่อไปจะขับเคลื่อนด้วยเหล่าผู้คนจาก STEAM” Dr. Lucy Gildea ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และวิทยาศาสตร์ของ Mary Kay กล่าว “ผู้หญิงจัดเป็นแรงงานที่มีบทบาทน้อยมากในแวดวง STEAM แต่เราสามารถลดช่องว่างนี้ได้ด้วยการให้โอกาสในการเรียนรู้และเปิดรับสิ่งต่าง ๆ ซึ่งมีความสำคัญต่อเด็กหญิงวัยรุ่นเพื่อส่งเสริมให้พวกเธอกล้าออกไปตามความฝันและสำรวจเส้นทางสายอาชีพในแวดวง STEAM ที่พวกเธอสนใจอย่างเต็มที่”

Young Women’s Preparatory Network คือหน่วยงานไม่แสวงหากำไรซึ่งร่วมมือกับเขตพื้นที่การศึกษาทั่วรัฐเท็กซัสเพื่อสร้างเครือข่ายโรงเรียนหญิงล้วนของรัฐและโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โรงเรียนในเครือ YWPN จะตั้งอยู่ในเขตชุมชนเมืองที่มีความยากลำบาก แต่มีประวัติด้านผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา และมีอัตราการสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาไปจนถึงการเข้าเรียนต่อระดับวิทยาลัยที่น่าพึงพอใจ YWPN ได้สร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ/เอกชนแห่งแรกขึ้นที่เขตพื้นที่การศึกษาของโรงเรียนเอกชนดัลลาส ด้วยการเปิด Irma Lerma Rangel Young Women’s Leadership School ขึ้นในปี 2004

“เราดีใจเป็นอย่างยิ่งที่บรรดาเด็กสาววัยรุ่นของเราได้มีส่วนร่วมในวันแห่งการเชื่อมโยงถึงกันอย่างมีความหมายระหว่างเหล่าอนาคตของชาติกับบรรดาหญิงแกร่งแห่งแวดวง STEAM และเราขอขอบคุณ Mary Kay เป็นอย่างสูงที่ทำให้โอกาสดี ๆ เช่นนี้เกิดขึ้นจริงได้” Lynn McBee ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่ง Young Women’s Preparatory Network กล่าว “ผู้นำในโลกอนาคตเหล่านี้คือบรรดาหญิงสาวที่เฉลียวฉลาดและมีพรสวรรค์อย่างเต็มเปี่ยม การที่พวกเธอได้รับโอกาสในการพบปะกับบรรดาหญิงเก่งที่ประสบความสำเร็จในเส้นทางสาย STEAM และได้เห็นว่าพวกเธอสามารถสร้างแรงกระเพื่อมในแง่บวกให้กับสังคมได้มากแค่ไหน ยิ่งเป็นการจุดประกายฝันให้พวกเธอก้าวไปได้ไกลขึ้น ไขว่คว้าความสำเร็จได้มากขึ้น และหวังว่าสักวันพวกเธอจะสามารถเปลี่ยนโลกด้วยศาสตร์แห่ง STEAM ที่พวกเธอเรียนรู้มาเกือบครึ่งค่อนชีวิต”

Mary Kay ขอเฉลิมฉลองและสนับสนุนเหล่าหญิงสาวทุกคนที่กล้ากำหนดอนาคตของตนเองผ่านความเป็นผู้นำ การสร้างสรรค์นวัตกรรม และความมุ่งมั่นที่จะก้าวหน้าในวงการ STEAM เพราะสำหรับวงการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์มีผู้หญิงเพียง 28% เท่านั้นที่โลดแล่นอยู่ในวงการนี้ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก [1] จึงเป็นหน้าที่ของทางบริษัทที่จะสืบทอดปณิธานของ Mary Kay เพื่อสนับสนุนหญิงสาววัยแรกแย้มให้มีความกล้าในการลุกขึ้นมาไล่ล่าฝันในสายอาชีพ STEAM และเป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาชีวิตของผู้หญิงทุกคนจากทั่วทุกมุมโลก

[1]แหล่งที่มา
National Girls Collaborative Project (2022). The State of Girls and Women in Stem. https://ngcproject.org/resources/state-girls-and-women-stem

เกี่ยวกับ Mary Kay Inc.

Mary Kay Ash คือผู้หญิงคนแรก ๆ ที่กล้าทลายกำแพงที่กดทับความก้าวหน้าของสตรีเพศด้วยการก่อตั้งบริษัทด้านความงามในฝันของเธอเมื่อปี 1963 ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ว่าต้องการเพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตของผู้หญิง เมื่อเวลาผ่านไปความฝันของเธอค่อย ๆ เบ่งบานจากบริษัทขนาดเล็ก ค่อย ๆ ขยายตัวกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีสมาชิกในหน่วยงานขายอิสระกระจายอยู่ตัวอยู่ในกว่า 35 ประเทศทั่วโลก และในฐานะที่บริษัทแห่งนี้เป็นบริษัทที่มีฝันอยากช่วยพัฒนาผู้ประกอบการทำให้ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเสริมขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในเส้นทางที่พวกเธอเลือกเดิน ผ่านการพัฒนาการศึกษา ให้คำปรึกษา ให้การสนับสนุน สร้างเครือข่ายและนวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อผู้หญิง นอกจากนี้ Mary Kay ยังยอมอุทิศทรัพย์สินส่วนตัวเพื่อการลงทุนในวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความสวยความงาม และการผลิตสกินแคร์ สีเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และน้ำหอมที่ทันสมัย เพราะ Mary Kay เชื่อว่าการเพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตในวันนี้จะนำไปสู่พรุ่งนี้ที่ยั่งยืน เธอจึงร่วมมือกับบริษัทต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นด้านการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนงานวิจัยด้านมะเร็ง พัฒนาด้านความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว ส่งเสริมด้านความงามให้กับชุมชนของเรา และสนับสนุนอย่างสุดหัวใจให้เด็ก ๆ กล้าออกไปตามความฝัน หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมให้เข้าไปที่ marykayglobal.com หรือค้นหาเราได้ที่ FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53320643/en

ช่องทางติดต่อ

Mary Kay Inc. Global Communications
newsroom.marykay.com
+1.972.687.5332
media@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc.


The Bangkok Reporter