Aura Network ประกาศวันเปิดตัว Xstaxy Mainnet

Logo

HANOI, Vietnam–(BUSINESS WIRE)–3 มีนาคม 2023

กว่า 15 เดือนของการพัฒนาอย่างต่อเนื่องพร้อมกับการทดสอบอย่างไม่หยุดยั้งและการเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ ในขณะนี้ Aura Network ได้ก้าวเข้าสู่เฟสถัดไปแล้วอย่างเป็นทางการ โดยจะมีการเปิดตัว Aura Network Mainnet – ‘The Xstaxy’ โดยถือเป็นการปฏิวัติ Web3 และก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในระดับที่ใช้ Cosmos ชั้นนำ ซึ่งมุ่งเน้นใน NFT, Web 3.0 gaming และ DeFi แบบยั่งยืน

Aura Network announces the launch date for Xstaxy Mainnet on March 20th, 2023. (Graphic: Business Wire)

Aura Network ประกาศวันเปิดตัว Xstaxy Mainnet ในวันที่ 20 เดือนมีนาคม ปี 2023. (กราฟิก: Business Wire)

“Mainnet ของเรากำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ เรามีความยินดีที่จะประกาศวันเปิดตัว Aura Mainnet ภายในสิ้นไตรมาสแรก ทุกทีมกำลังดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้พร้อมสำหรับการเปิดตัว Mainnet ได้ตามหมายกำหนดการตามที่ให้คำมั่นไว้กับนักลงทุน พันธมิตร และชุมชน” Giang Tran ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Aura Network กล่าว

Xstaxy Mainnet มีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 เดือนมีนาคม เวลา 13:00 UTC ในการเปิดใช้งาน mainnet Aura Network จะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในฐานะเครือข่ายอัจฉริยะที่ได้รับอนุญาตเป็นรายแรก และนำไปสู่การขับเคลื่อนการนำ NFT ไปใช้ในระบบนิเวศของ Cosmos อย่างกว้างขวาง

ในการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวในครั้งนี้ เครือข่ายของ Aura มีการเผยแพร่การอัปเดตที่สำคัญเกี่ยวกับการพัฒนา mainnet สี่ส่วนด้วยกัน:

  • การขยายตัวของระบบนิเวศนอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ปัจจุบันซึ่งรวมถึง AuraScan และ Pyxis Safe มี dApps หลายตัวที่มีความเกี่ยวข้องกับ DeFi และ NFT Marketplace แบบยั่งยืนที่กำลังมีการสร้างขึ้นและมีการทดสอบอย่างต่อเนื่อง โดยทำหน้าที่เป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศ Aura จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เหล่านี้สู่ชุมชนในเร็วๆ นี้ด้วยรีลีสอัลฟ่า พร้อมกับแคมเปญต่างๆ สำหรับผู้ใช้งานกลุ่มแรก โดยจะมีการมอบรางวัลแก่ผู้ใช้ที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ต่อทีมฝ่ายเทคนิคของ Aura
     
  • การย้ายโทเค็นไปยัง Mainnet: ถือว่าเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการเปิดใช้ mainnet โดยมีการปรับปรุงโฟล์วการย้ายข้อมูลระหว่าง BEP-20 Aura และโทเค็นแบบเนทีฟบน Mainnet อย่างเต็มรูปแบบเพื่อให้เป็นกระบวนการที่ปลอดภัยและง่ายดาย ทีมของ Aura มีการประสานงานอย่างแข็งขันร่วมกับ CEX และ DEX ในการสนับสนุนโทเค็นแบบเนทีฟใหม่ นอกจากนี้ Pyxis Safe ยังอยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยหลายระดับ ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยระดับแนวหน้า
     
  • โปรแกรมตรวจสอบความถูกต้องในขั้นตอนสุดท้ายของการเตรียมระบบ Mainnet Aura Network มีการสรรหาผู้ตรวจสอบเพิ่มเติมอีก 18 รายสำหรับเจเนซิสบล็อก นักพัฒนาและผู้ตรวจสอบความถูกต้องทั่วโลกสามารถมีส่วนร่วมในการเปิดตัว Mainnet ได้ โดยผ่าน Aura Foundation Delegation Program โดยกิจกรรมนี้ได้มีการออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างการเติบโตของเครือข่ายโดยทั่วไป และการกระจายอำนวจโดยการจัดสรรเงินทุนอย่างเหมาะสม พร้อมเปิดให้ลงทะเบียนแล้วจนถึงวันที่ 2 เดือนมีนาคม ปี 2023 เวลา 0:00 (UTC) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
     
  • ความร่วมมือและการเติบโตของชุมชน: นับจากรอบการระดมทุน Pre-Series A มูลค่า 4 ล้านดอลล่าร์ที่จัดขึ้นโดย Hashed และ Coin98 Aura Network ได้ปิดข้อตกลงกับพันธมิตรหลายรายจาก Web3 และ Blockchain ซึ่งช่วยเสริมโมเมนตัมเป็นอย่างมากในการกระตุ้นการเปิดตัวของ Mainnet ในแง่ของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การดำเนินงาน และกลยุทธ์ทางการตลาด

ในขั้นตอนสุดท้ายของการทดสอบผลิตภัณฑ์ บริษัทมีเป้าหมายในการสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งและมีความเสถียร ก่อนที่จะเปิดตัวแก่ผู้ใช้ใหม่และนักพัฒนากว่าแสนราย

เกี่ยวกับ Aura Network

Aura Network เป็นระบบนิเวศที่สร้างขึ้นเพื่อเสริมบการกำหนดใช้ NFT ทั่วโลกให้เร็วขึ้น Aura Network มุ่งเน้นที่การสร้างอินเทอร์เน็ต NFT และเปิดตัว NFT และ web3 สู่ผู้คนโดยทั่วไป

เว็บไซต์ | Twitter | Discord | Telegram | บล็อก

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53334271/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Thu Tran (Ms.)
Aura Network
COO
thu@aura.network

แหล่งข้อมูล: Aura Network

Mary Kay Inc. แต่งตั้ง James Whatley เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูล

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–3 มีนาคม 2023

Mary Kay Inc. บริษัทด้านความงามและผู้ประกอบการชื่อดังได้ประกาศแต่งตั้งให้ James Whatley เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูล ในบทบาทใหม่ของเขา Whatley จะมุ่งมุ่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมระบบดิจิทัลของ Mary Kay รวมถึงการปฏิวัติความสามารถของที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของ Mary Kay ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น และสามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่โดยใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่มีพร้อม

“I’m motivated first and foremost by finding solutions for the sales force,” said Whatley. “At the same time, I want to create environments that foster teamwork, trust, and strong partnerships amongst the company’s global partners,” said Whatley (Credit: Mary Kay Inc.)

“ฉันได้รับแรงบันดาลใจอย่างแรกและสำคัญที่สุดด้วยการหาทางออกสำหรับพนักงานขาย” Whatley กล่าว “ในขณะเดียวกัน ฉันต้องการสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม ความไว้วางใจ และความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างพันธมิตรระดับโลกของบริษัท” Whatley กล่าว (เครดิต: Mary Kay Inc.)

“ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีระบบดิจิทัล เครื่องมือ และแอปพลิเคชัน เราไม่ได้ปรับปรุงเพียงประสบการณ์เฉพาะสำหรับพนักงานขายอิสระเท่านั้น แต่ยังรวมถึงลูกค้าของเราทั่วโลกด้วย” Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay Inc. กล่าว “James เป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง เขามีความเข้าใจในวิธิการช่วยเหลือพนักงานขายอิสระเพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่ง และนำเสนอบริการที่ยอดเยี่ยมในโลกที่มีการเชื่อมต่อตลอดเวลาได้ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นว่าความหลงใหลในนวัตกรรมของเขาจะทำให้กลยุทธ์ดิจิทัลของเราก้าวไปข้างหน้าได้อย่างไร”

Whatley ร่วมงานกับ Mary Kay มาแล้วเป็นเวลา 25 ปี มีบทบาทสำคัญในการออกแบบระบบเพื่อให้แน่ใจว่า ที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของเราสามารถดำเนินธุรกิจได้ในทุกที่และทุกเวลา ซึ่งรวมถึงการพัฒนาทรัพย์สินทางดิจิทัลที่เป็นสัญลักษณ์ของ Mary Kay เช่น MaryKay.com, Mary Kay InTouch (พอร์ทัลระบบดิจิทัลสำหรับพนักงานฝ่ายขายอิสระ) ระบบการสั่งซื้อออนไลน์ และเว็บไซต์ธุรกิจส่วนตัวของพนักงานฝ่ายขายอิสระ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ขายตรงที่ใหญ่ที่สุดในโลก Mary Kay มีการประมวลผลคำสั่งซื้อถึงกว่าหลายล้านรายการผ่านเว็บไซต์การค้าของบริษัท

“ผมได้รับแรงบันดาลใจอย่างแรกและสำคัญที่สุดด้วยการหาทางออกให้กับพนักงานขาย” Whatley กล่าว “ในขณะเดียวกัน ผมต้องการสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม ความไว้วางใจ และความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างพันธมิตรระดับโลกของบริษัท Mary Kay Ash ผู้ก่อตั้งของเราเคยกล่าวไว้ว่า ‘การหยุดนิ่งอยู่กับที่นั่นก็เท่ากับการเดินถอยหลัง’ ผมเห็นด้วยกับเธอ และนี่คือปรัชญาที่ผมใช้ในการทำงานในทุกวัน”

Whatley สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวออร์ลีนส์ ก่อนร่วมงานกับ Mary Kay เขาทำงานที่ Software Spectrum and Electronic Data Systems (EDS) ในแผนกการพัฒนาซอฟต์แวร์และการให้คำปรึกษา

เกี่ยวกับ Mary Kay

หนึ่งในผู้ตามล่าหาฝันของตัวเอง Mary Kay Ash ก่อตั้งบริษัทเสริมความงามตามความฝันของเธอในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียว นั่นคือ การทำให้ชีวิตผู้หญิงดีขึ้น และความฝันนั้นได้เบ่งบานกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านพร้อมพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมผู้หญิงผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน การสร้างเครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนในวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยมีการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ยกระดับความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการทารุณกรรมในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และผลักดันให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราได้ใน FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่:  https://www.businesswire.com/news/home/53355454/en

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งข้อมูล: Mary Kay


EIG เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการ 25% ของธุรกิจ Upstream ทั่วโลกทั้งหมดของ Repsol

Logo

Breakwater Energy ของ EIG เข้าซื้อหุ้นมูลค่า 4.8 พันล้านดอลลาร์

วอชิงตัน–(BUSINESS WIRE)–3 มีนาคม 2023

EIG นักลงทุนสถาบันชั้นนำในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ประกาศในวันนี้ว่าได้เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการในสัดส่วน 25% ของ Repsol Upstream บริษัทสำรวจและผลิตก๊าซถ่วงน้ำหนักที่ตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจน้ำมันและก๊าซต้นน้ำทั่วโลกของ Repsol

Breakwater Energy ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ EIG ได้รับผลประโยชน์ 25% ใน Repsol Upstream คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 4.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงหนี้สิน โดย Repsol ถือหุ้นที่เหลือ 75%

Repsol Upstream เป็นเจ้าของและดำเนินการพอร์ตการลงทุนต้นน้ำที่หลากหลายทั่วโลกของ Repsol ซึ่งประกอบด้วยการผลิตและการดำเนินงานมากกว่า 600,000 บาร์เรลต่อวันใน 15 ประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา พอร์ตโฟลิโอสร้างกระแสเงินสดอิสระที่สำคัญซึ่งควรสนับสนุนการจ่ายเงินปันผลที่สำคัญ ในขณะเดียวกันก็ยังคงความเข้มข้นของคาร์บอนที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่น โดยทั้ง Repsol และ EIG เล็งเห็นถึงศักยภาพในการจดทะเบียนธุรกิจในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป ภายใต้สภาวะตลาดที่เอื้ออำนวย

"Repsol เป็นผู้นำด้านการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน และเรายินดีที่ได้ทำธุรกรรมนี้กับบริษัทระดับโลกที่มีความมุ่งมั่นร่วมกันในการลดการปล่อยมลพิษในขณะที่ตอบสนองความต้องการด้านพลังงานของโลก" กล่าวโดย R. Blair Thomas ประธานและ CEO ของ EIG “ธุรกรรมดังกล่าวทำให้ Repsol Upstream อยู่บนเส้นทางสู่อนาคตของการลดคาร์บอนที่รวดเร็ว การสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง และสภาพคล่องในตลาดที่มีศักยภาพ”

ตามที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ EIG จะมีสิทธิ์ในการเสนอชื่อสมาชิกสองคนเข้าสู่คณะกรรมการบริหารของ Repsol Upstream ที่ต้องมีสมาชิกแปดคน สี่คนจะได้รับการเสนอชื่อโดย Repsol และอีกสองคนที่เหลือจะเป็นแบบไม่บังคับ นอกจากนี้ EIG จะแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงสองคนให้กับทีมผู้นำของ Repsol Upstream โดยคนหนึ่งทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการ ESG และอีกคนหนึ่งเป็นผู้นำโครงการพิเศษ รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการเสนอขายหุ้น IPO

Goldman Sachs & Co LLC และ J.P. Morgan ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ EIG ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม Goldman Sachs & Co LLC, J.P. Morgan และ Lazard ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านตลาดทุนที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาเงินทุนของการทำธุรกรรม Latham & Watkins และ Debevoise & Plimpton ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมายของ EIG

เกี่ยวกับ EIG

EIG เป็นผู้ลงทุนระดับสถาบันชั้นนำในภาคพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก โดยมีมูลค่า 22.7 พันล้านดอลลาร์ภายใต้การบริหาร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2022 EIG เชี่ยวชาญด้านการลงทุนภาคเอกชนในด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานในระดับโลก ในช่วงประวัติศาสตร์ 40 ปี EIG ได้ให้เงินสนับสนุนกว่า 44.6 พันล้านดอลลาร์แก่ภาคพลังงานผ่านโครงการหรือบริษัท 396 โครงการใน 42 ประเทศบน 6 ทวีป ลูกค้าของ EIG ประกอบด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญชั้นนำ บริษัทประกัน กองทุนการกุศล มูลนิธิ และกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติในสหรัฐอเมริกา เอเชีย และยุโรป EIG มีสำนักงานใหญ่อยู่ในวอชิงตัน ดี.ซี. และมีสำนักงานในฮูสตัน ลอนดอน ซิดนีย์ ริโอเดจาเนโร ฮ่องกง และโซล สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ EIG ที่ www.eigpartners.com

เกี่ยวกับ Repsol

Repsol เป็นบริษัทพลังงานระดับโลกที่เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงาน ซึ่งได้ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทที่ปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 บริษัทอยู่ตลอดห่วงโซ่คุณค่าด้านพลังงาน โดยมีพนักงาน 24,000 คน และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกว่า 90 ประเทศให้กับลูกค้า 24 ล้านราย

บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการด้านพลังงานและความคล่องตัวของผู้บริโภคด้วยข้อเสนอที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ซึ่งอยู่ในระดับแนวหน้าของการพัฒนาโซลูชันที่ยั่งยืนสำหรับการสัญจร ด้วยเชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การชาร์จไฟฟ้า เชื้อเพลิงหมุนเวียน (เชื้อเพลิงชีวภาพขั้นสูงและเชื้อเพลิงสังเคราะห์) ก๊าซรถยนต์ และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานพาหนะ

เพื่อให้การปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 Repsol มุ่งมั่นที่จะสร้างแบบจำลองที่ผสานรวมเทคโนโลยีการลดคาร์บอนทั้งหมด โดยพิจารณาจากการปรับปรุงประสิทธิภาพ การเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าหมุนเวียน การผลิตเชื้อเพลิงหมุนเวียน การพัฒนาโซลูชันใหม่ ๆ สำหรับลูกค้า เศรษฐกิจหมุนเวียน และการส่งเสริมโครงการล้ำสมัยเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของอุตสาหกรรม

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.repsol.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

มีเดีย

EIG
FGS Global
Kelly Kimberly / Brandon Messina
+1 212-687-8080
EIG@FGSGlobal.com

Repsol
+34 91 753 8787
prensa@repsol.com

ที่มา: EIG

Athena Cosmetics, Inc. บริษัทแม่ของ RevitaLash® Cosmetics ได้รับชัยชนะในการต่อต้านผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบอีกครั้ง

Logo

ผู้ค้าปลีกผลิตภัณฑ์เสริมความงามและน้ำหอมทางออนไลน์ยุติการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ RevitaLash® Cosmetics ทั่วโลก

VENTURA, Calif.–(BUSINESS WIRE)–1 มีนาคม 2023

Athena Cosmetics, Inc. บริษัทแม่ของ RevitaLash® Cosmetics มีความภูมิใจที่จะประกาศชัยชนะอีกครั้งในการกำจัดผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบ หลังจากมีการตรวจพบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบสินค้าระดับพรีเมียมของ RevitaLash Cosmetics อย่างผิดกฎหมายในร้านค้าปลีกออนไลน์ Perfume’s Club (perfumesclub.com) โดย Athena Cosmetics ได้ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ค้าปลีกอย่างรวดเร็ว และระบุแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบได้สำเร็จ

หลังการต่อสู้อย่างยาวนานเกือบหนึ่งปี Perfume’s Club ตกลงที่จะหยุดและยุติการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ RevitaLash® Cosmetics ทั่วโลกในทันที พร้อมทั้งจะมีการลบเนื้อหาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ RevitaLash® Cosmetics โดย Perfume’s Club มีการระบุแหล่งที่มาของสินค้าลอกเลียนแบบว่ามาจากบริษัทขายส่งออนไลน์ Alito S.R.O. สาธารณรัฐเช็ก

“นี่ไม่ได้เป็นเพียงชัยชนะสำหรับบริษัทของเราเท่านั้น แต่เป็นชัยชนะสำหรับทุกแบรนด์ที่ถูกละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทางออนไลน์ และเป็นการประกาศอย่างชัดเจนว่า ผู้ค้าปลีกจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของผู้ค้าที่เป็นบุคคลที่สาม และจะต้องมีการดำเนินการเพิ่มเติมในการป้องกันการปลอมแปลงบนเว็บไซต์ของพวกเขา” Lori Jacobus ประธาน Athena Cosmetics กล่าว “เรามีความภูมิใจในทีมของเราที่ร่วมต่อสู้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อปกป้องแบรนด์ของเรา”

ชัยชนะเหนือหนึ่งในผู้ค้าปลีกน้ำหอมทางออนไลน์รายใหญ่ที่สุดในยุโรปตอกย้ำพันธสัญญาของ RevitaLash Cosmetics ในการปกป้องแบรนด์ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะสั่นคลอนเมื่อผู้ค้าปลีกทางออนไลน์ที่มีชื่อเสียงมากแต่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบที่ไม่มีการควบคุมและอาจไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค

“สำหรับ Athena Cosmetics ความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง” Michael Brinkenhoff M.D. ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Athena Cosmetics กล่าว “นี่เป็นเหตุผลที่เรามุ่งมั่นที่จะต้องหยุดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบ และ 'ตลาดมืด' ของ RevitaLash® Cosmetics เพื่อสร้างความมั่นใจในสวัสดิภาพของลูกค้า โดยสามารถตรวจสอบได้ว่า ผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่ซื้อไปจะได้รับการทดสอบด้านความปลอดภัย และเป็นไปตามกฏระเบียบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด”

ขอแนะนำให้ลูกค้าสั่งซื้อโดยตรงจาก revitalash.com หรือตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาต เพื่อป้องกันสินค้าลอกเลียนแบบหรือผลิตภัณฑ์ปลอมแปลงที่อาจเป็นอันตราย คุณจะมั่นใจได้ว่า เมื่อคุณซื้อจาก Athena Cosmetics คุณจะได้รับผลิตภัณฑ์คุณภาพยอดเยี่ยมที่เป็นของแท้เท่านั้น สามารถเข้าดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการระบุผลิตภัณฑ์และเว็บไซต์ที่ลอกเลียนแบบได้ที่ https://www.revitalash.com/pages/counterfeit-product และสามารถดูรายชื่อร้านค้าปลีกที่ได้รับอนุญาตจากบริษัทได้ที่ https://www.revitalash.com/pages/authorized-dealers

เกี่ยวกับ RevitaLash® Cosmetics

RevitaLash® Cosmetics เป็นผู้นำระดับโลกในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตกแต่งขนตา คิ้ว และเส้นผมขั้นสูง บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2006 โดยคอลเลคชันประกอบด้วย RevitaLash® Advanced Eyelash Conditioner และ RevitaBrow® Advanced Eyebrow Conditioner ที่ได้รับรางวัล และมีวางจำหน่ายในคลินิก สปา ร้านเสริมสวย ทางออนไลน์ และร้านค้าปลีกเฉพาะทางในกว่า 70 ประเทศ ด้วยพันธกิจ Eternally Pink® ของพวกเขา RevitaLash® Cosmetics จึงเป็นผู้สนับสนุนโครงการริเริ่มเกี่ยวกับมะเร็งเต้านมที่ไม่แสวงหาผลกำไร โดยบริจาครายได้ส่วนหนึ่งให้กับโครงการริเริ่มด้านการวิจัยและการศึกษา ตอบแทนกลุ่มทำงานด้านมะเร็งเต้านมตลอดทั้งปี ไม่เพียงเฉพาะในเดือนตุลาคมเท่านั้น สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.revitalash.com [RevitaLash® Advanced และ RevitaLash® Advanced Sensitive ไม่มีวางจำหน่ายในแคลิฟอร์เนีย]

ดูข้อมูลต้นฉบับได้จาก businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20230301005080/en/

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

อีเมลติดต่อ

revitalash@behrmanpr.com

แหล่งข้อมูล: RevitaLash Cosmetics

NIQ เผยโฉมแบรนด์ใหม่ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นใน Full View การมองข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค

Logo

NIQ นำเสนอความเข้าใจที่สมบูรณ์และชัดเจนที่สุดในโลกเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–1 มีนาคม 2023

NIQ ผู้นำระดับโลกด้านข่าวกรองผู้บริโภค ได้เปิดตัวเอกลักษณ์ของแบรนด์ใหม่ ซึ่งสะท้อนถึงข้อมูลเชิงลึกและความสามารถในการวัดผลระดับแนวหน้าของบริษัท โดยเผยให้เห็นเส้นทางใหม่สู่การเติบโตสำหรับผู้ค้าปลีกและแบรนด์ต่าง ๆ การสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ใหม่นี้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญทั่วทั้งองค์กร และแสดงถึงความมุ่งมั่นในการมอบความเข้าใจที่สมบูรณ์และชัดเจนที่สุดแก่ผู้บริโภคทั่วโลก นั่นก็คือ Full View

Full View ของ NIQ ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่มากขึ้นจากช่องทาง แหล่งที่มา ผู้บริโภค และภูมิภาคต่าง ๆ การทำความเข้าใจ การวัดผล และการใช้งานบนข้อมูลที่สมบูรณ์จะมอบโอกาสที่เหนือชั้นที่จะทำให้ลูกค้าได้เปรียบในการแข่งขัน ใช้ประโยชน์จากโอกาส ลดความเสี่ยง และทำความเข้าใจพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยความเข้าใจที่ชัดเจนที่สุดเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งนำเสนอผ่านแพลตฟอร์มขั้นสูงพร้อมการวิเคราะห์แบบบูรณาการ ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจที่จะขับเคลื่อนการเติบโต

Tracey Massey ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ NIQ กล่าวว่า "เอกลักษณ์ของแบรนด์ใหม่จะสร้างความสมดุลระหว่างสิ่งที่เรามีและอนาคตของเราในฐานะผู้นำด้านข่าวกรองผู้บริโภค" “ในปี 1923 บริษัทของเราได้สร้างแนวคิดเรื่องส่วนแบ่งการตลาด และตอนนี้ด้วยการลงทุนของเราในช่องทางแบบหลายช่องทาง เอกลักษณ์ของ NIQ บ่งบอกถึงมาตรฐานใหม่สำหรับการทำความเข้าใจว่าผู้บริโภคซื้ออะไร ทำไมพวกเขาถึงตัดสินใจซื้อ และที่สำคัญที่สุดคือ ลูกค้าของเราจะเอาชนะใจลูกค้าได้อย่างไร”

องค์ประกอบใหม่ของเอกลักษณ์ของแบรนด์ ได้แก่ ชื่อบริษัท โลโก้ สี และวัตถุประสงค์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ สิ่งเหล่านี้ร่วมกันส่งสัญญาณถึงวิวัฒนาการของบริษัทและบ่งบอกถึงความเป็นผู้นำในด้านข้อมูลผู้บริโภคแบบหลายช่องทาง

  • ชื่อ/โลโก้: NIQ ต่อยอดจากสิ่งที่มีอยู่ของบริษัทและปรับปรุงตัวเองเพื่ออนาคต
  • โทนสี: สีสันที่หลากหลายรองรับแพลตฟอร์ม Connect ขั้นสูงของ NIQ และแพลตฟอร์มการแสดงข้อมูล Discover ซึ่งเป็นเครื่องมือข่าวกรองธุรกิจที่แข็งแกร่งและใช้งานง่ายที่โต้ตอบกับชุดข้อมูลผู้บริโภคที่สมบูรณ์ที่สุดทั่วโลก
  • วัตถุประสงค์ของแบรนด์: แสดงให้โลกเห็นว่าผู้คนต้องการอะไร” เน้นที่กลยุทธ์ของบริษัทและคุณค่าที่พนักงานมอบให้
  • คำมั่นสัญญาของแบรนด์: “เรานำเสนอ Full View ซึ่งเป็นความเข้าใจที่สมบูรณ์และชัดเจนที่สุดในโลกเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค ซึ่งเผยให้เห็นเส้นทางใหม่สู่การเติบโต” แสดงให้ลูกค้าเห็นถึงมุมมองที่ทะเยอทะยานที่ไม่เหมือนใครของเรา

Marta Cyhan-Bowles ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อสารและหัวหน้าฝ่ายการตลาดประจำอเมริกาเหนือกล่าวว่า "เอกลักษณ์ใหม่ของเราสะท้อนถึงจุดมุ่งหมายและพลังงานทั่วทั้งบริษัทที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ซึ่งเปิดรับการเปลี่ยนแปลง นวัตกรรม และการแก้ปัญหาความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรม" “ปีนี้เป็นปีแห่งความสำเร็จสำหรับ NIQ เนื่องจากบริษัทเร่งสร้างวิสัยทัศน์ของเราเพื่อให้โลกเห็นตัวตนที่แท้จริงของเรา ซึ่งเป็นเส้นทางสู่การเติบโต”

เอกลักษณ์ใหม่ของ NIQ จะจัดแสดงในการประชุมประจำปี Consumer 360® เนื่องจากบริษัทได้ทำลายแนวทางใหม่เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย กำหนดแนวทางใหม่สำหรับนวัตกรรม สร้างสะพานเชื่อมใหม่สำหรับการทำงานร่วมกัน และกำหนดเส้นทางใหม่สู่การเติบโต

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ NIQ และดูเอกลักษณ์ของแบรนด์ใหม่ สามารถดูได้ที่ www.niq.com

เกี่ยวกับ NIQ

NIQ บริษัทข้อมูลผู้บริโภคชั้นนำของโลก เปิดเผยเส้นทางใหม่สู่การเติบโตของผู้ค้าปลีกและผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ด้วยการดำเนินงานในกว่า 100 ประเทศ ทำให้ NIQ มอบความเข้าใจที่สมบูรณ์และชัดเจนที่สุดเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคผ่านแพลตฟอร์มข่าวกรองธุรกิจขั้นสูงพร้อมการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์แบบบูรณาการ โดย NIQ มอบ Full View

NIQ ก่อตั้งขึ้นในปี 1923 และเป็นบริษัทในเครือ Advent International สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ NIQ.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

มีเดีย
Gillian Mosher (gillian.mosher@nielseniq.com)

ที่มา: NIQ

ZCG ประกาศความร่วมมือกับ Scuderia Ferrari สำหรับการแข่งขัน Formula 1 ฤดูกาล 2023

Logo

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–1 มีนาคม 2023

Z Capital Group, L.L.C. ("ZCG") ประกาศในวันนี้ว่าได้ลงนามเป็นพันธมิตรของทีม Scuderia Ferrari สำหรับฤดูกาล 2023 ภายใต้ความร่วมมือนี้ โลโก้ของ ZCG จะปรากฏบนชุดเครื่องแบบ SF-23 โดยเริ่มตั้งแต่การแข่งขัน Bahrain Grand Prix ซึ่งเป็นรอบแรกของการแข่งขัน Formula 1 World Championship ปี 2023

Z Capital Group announced it has signed as a Team Partner to Scuderia Ferrari for the 2023 season (Graphic: Business Wire)

Z Capital Group, L.L.C. ("ZCG") ประกาศว่าได้ลงนามเป็นพันธมิตรของทีม Scuderia Ferrari สำหรับฤดูกาล 2023 (กราฟิก: Business Wire)

“ZCG แบ่งปันความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของ Scuderia Ferrari ในด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมและความเป็นเลิศ” กล่าวโดย James Zenni ผู้ก่อตั้ง ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ZCG “นี่เป็นโอกาสพิเศษในการเป็นพันธมิตรกับหนึ่งในแบรนด์กีฬาที่โดดเด่นที่สุด และมีส่วนร่วมกับแฟน ๆ นับล้านและผู้ที่ชื่นชอบ Formula 1 ทั่วโลก Ferrari เป็นผู้เล่นหลักตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของ Formula 1 เราตื่นเต้นที่จะสนับสนุนทีมนี้เมื่อเข้าสู่ฤดูกาล 2023 เพื่อทำสถิติแชมป์สมัยที่ 17 ให้ได้”

“การดำเนินงานระดับสูงสุดในโลกของมอเตอร์สปอร์ต เรามักจะมองหาพาร์ทเนอร์ที่มีมุมมองระดับโลกร่วมกันและอุทิศตนเพื่อประสิทธิภาพที่เหนือชั้น” กล่าวโดย Lorenzo Giorgetti หัวหน้าเจ้าหน้าที่สรรพากรการแข่งของ Scuderia Ferrari “เรายินดีที่ได้ต้อนรับ ZCG ในฐานะ Team Partner และแทบรอไม่ไหวที่จะสานต่อความร่วมมือนี้ร่วมกันในปีหน้า”

Formula 1 ซึ่งเป็นหนึ่งในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตที่น่าตื่นเต้นและมีชื่อเสียงที่สุดในโลก ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในสหรัฐอเมริกาเพียงประเทศเดียว ฤดูกาล 2022 มีผู้ชมเฉลี่ยเกือบ 300,000 คนในแต่ละสุดสัปดาห์ของกรังด์ปรีซ์ 22 รายการมากกว่าฤดูกาลก่อน ในขณะที่ Formula 1 ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้ ZCG จัดเป็นหนึ่งในชื่อที่มีเรื่องราวมากที่สุดของกีฬา

ปี 2023 จะเป็นปีที่สองของ ZCG ที่สนับสนุนการเติบโตของ Formula 1 ในฐานะ Team Partner และเป็นปีแรกที่ทำงานร่วมกับ Scuderia Ferrari

เกี่ยวกับ ZCG

ZCG เป็นผู้นำอุตสาหกรรมที่ประกอบด้วยการจัดการสินทรัพย์นอกตลาด บริการให้คำปรึกษาทางธุรกิจ การพัฒนาเทคโนโลยี และโซลูชัน

เป็นเวลาเกือบ 30 ปีที่ ZCG Principals ได้ลงทุนไปประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีประวัติชั้นนำของอุตสาหกรรมในด้านหุ้นนอกตลาดและเครดิตเอกชน

ZCG มี AUM ประมาณ 6.5 พันล้านดอลลาร์ในการจัดการสินทรัพย์ และนักลงทุนของบริษัทเป็นหนึ่งในนักลงทุนสถาบันระดับโลกที่ใหญ่และซับซ้อนที่สุด ซึ่งรวมถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญ เงินบริจาค มูลนิธิ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ธนาคารกลาง และบริษัทประกันภัย

ZCG มีทีมงานระดับโลกที่ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญเกือบ 400 คน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.zcg.com

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20230301005697/en/

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53354228/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

มีเดีย
Tim Ragones / Kate Thompson / Erik Carlson
Joele Frank, Wilkinson Brimmer Katcher
212-355-4449

ที่มา: Z Capital Group, L.L.C. 



Techtronic Industries มอบผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งประจำปี 2022

Logo

อัตรากำไรขั้นต้นขยายเป็น 39.3% EBIT เพิ่มขึ้นเป็น 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ฮ่องกง–(BUSINESS WIRE)–1 มีนาคม 2023

บริษัทอุปกรณ์ไฟฟ้า การดูแลพื้นและทำความสะอาดระดับโลก บริษัท Techtronic Industries จำกัด (“TTI” หรือ “กลุ่มบริษัท”) (รหัสหุ้น: 669, สัญลักษณ์ ADR: TTNDY) มีความยินดีที่จะประกาศผลการรวมบัญชีที่ตรวจสอบแล้วของบริษัทและบริษัทในเครือสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2022 TTI แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของรูปแบบธุรกิจในปี 2022 ในสภาพแวดล้อมการดำเนินงานที่ท้าทายมากขึ้น หลังจากเพิ่มฐานรายได้เกือบสองเท่าจากปี 2018 ถึง 2021 กลุ่มบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 2.8% ในสกุลเงินท้องถิ่นในปี 2022 เนื่องจากการเติบโตที่ไม่ธรรมดาของธุรกิจ MILWAUKEE

  • ธุรกิจ MILWAUKEE ที่สำคัญที่สุดของเราเติบโต 21.8% ในสกุลเงินท้องถิ่น
  • กระแสเงินสดอิสระเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังจนถึงสิ้นปีที่ 329 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นสำหรับปีที่ 14 ติดต่อกันเป็น 39.3% เพิ่มขึ้น 54 คะแนนพื้นฐาน

สรุปผลการดำเนินงานทางการเงินปี 2022

2022 *ล้าน

ดอลลาร์สหรัฐ

2021 ล้าน

ดอลลาร์สหรัฐ’

การเปลี่ยนแปลง

รายได้

13,254

13,203

+0.4%

อัตรากำไรขั้นต้น

39.3

%

38.8

%

+54bps

EBIT

1,201

1,192

+0.8%

กำไรส่วนที่เป็นของเจ้าของบริษัท

1,077

1,099

(2.0

%)

กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (เซ็นต์สหรัฐ)

58.86

60.04

(2.0

%)

เงินปันผลต่อหุ้น (ประมาณ US cents)

23.81

23.81

อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 14 จาก 38.8% ในปี 2021 เป็น 39.3% ในปี 2022 TTI EBIT เพิ่มขึ้น 0.8% เป็น 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐโดยมีอัตรากำไรเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 9.1% กำไรสุทธิลดลง 2.0% เป็น 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐเนื่องจากดอกเบี้ยจ่ายที่สูงขึ้น กำไรต่อหุ้นลดลง 2.0% เป็น 58.86 เซนต์ กลุ่มบริษัทสร้างกระแสเงินสดอิสระ 329 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีการปรับปรุงอย่างมากในครึ่งปีหลัง เงินทุนหมุนเวียนจนถึงยอดขายสิ้นปีนี้อยู่ที่ 21.2% เทียบกับ 20.9% ในปีที่แล้ว สิ่งสำคัญคือ จำนวนวันของสินค้าสำเร็จรูปคงคลังลดลง 3 วันเป็น 113 วัน ณ สิ้นปี

ธุรกิจอุปกรณ์ไฟฟ้าของ TTI ซึ่งคิดเป็น 93.0% ของยอดขายทั้งหมด เติบโต 5.5% ในสกุลเงินท้องถิ่น MILWAUKEE เติบโตขึ้น 21.8% ในสกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งชดเชยการลดลงของธุรกิจผู้บริโภคและธุรกิจทำความสะอาดพื้นของเรา ในธุรกิจอุปกรณ์ไฟฟ้า TTI สร้างการเติบโตในระดับเลขสองหลักในระดับต่ำในยุโรปและ ROW พร้อมกับการเติบโตในเชิงบวกในธุรกิจหลักในอเมริกาเหนือ

คณะกรรมการแนะนำให้จ่ายเงินปันผลครั้งสุดท้ายที่ 90.00 เซนต์ฮ่องกง (ประมาณ 11.58 เซนต์สหรัฐ) ต่อหุ้น เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่ 95.00 เซนต์ฮ่องกง (ประมาณ 12.23 เซนต์สหรัฐ) ต่อหุ้น ส่งผลให้เงินปันผลทั้งปีอยู่ที่ 185.00 เซนต์ฮ่องกง (ประมาณ 23.81 เซนต์สหรัฐ) ต่อหุ้น เช่นเดียวกับปีที่แล้ว

Mr. Horst Pudwill ประธาน TTI กล่าวว่า "ด้วยกระแสเงินสดอิสระที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งและงบดุลที่แข็งแกร่ง TTI อยู่ในสถานะที่ดีที่จะขยายตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรม มืออาชีพ และผู้บริโภคทั่วโลก เรามีความมั่นใจอย่างสูงในความสามารถของเราในการเดินหน้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดและสร้างผลงานที่เหนือกว่าตลาดในปี 2023"

Mr. Joseph Galli ซีอีโอของ TTI แสดงความคิดเห็นว่า "TTI อยู่ในสถานะที่ดีที่จะทำผลงานได้ดีกว่าตลาดในปี 2023 เราไม่เพียงกำหนดขนาดฐานต้นทุน SG&A ที่เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังปรับปรุงตำแหน่งค่าโสหุ้ยคงที่ของเราและจัดการระดับการผลิตของเราอย่างรอบคอบในขณะเดียวกันก็พัฒนาสายผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นนวัตกรรม"

เกี่ยวกับ TTI

TTI เป็นผู้นำระดับโลกในด้านเทคโนโลยีไร้สาย ซึ่งครอบคลุมถึงเครื่องมือไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้ากลางแจ้ง ผลิตภัณฑ์ดูแลพื้นและทำความสะอาดสำหรับ DIY ผู้บริโภค มืออาชีพ และผู้ใช้อุตสาหกรรมในบ้าน การก่อสร้าง การบำรุงรักษา อุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทมีรากฐานที่สร้างขึ้นจากปัจจัยขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์ 4 ประการ อันได้แก่ แบรนด์ที่ทรงพลัง ผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม บุคลากรที่ยอดเยี่ยม และความเป็นเลิศในการดำเนินงาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ระยะยาวที่กว้างขวางในการพัฒนาเทคโนโลยีไร้สาย กลยุทธ์การเติบโตระดับโลกของการแสวงหานวัตกรรมผลิตภัณฑ์อย่างไม่ลดละทำให้ TTI ก้าวขึ้นสู่แถวหน้าของอุตสาหกรรมในขณะที่ยังคงรักษามาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลในระดับสูง กลุ่มผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพของ TTI ได้แก่ เครื่องมือไฟฟ้า MILWAUKEE, AEG และ RYOBI, อุปกรณ์เสริมและเครื่องมือช่าง, ผลิตภัณฑ์กลางแจ้ง RYOBI และ HOMELITE, ผลิตภัณฑ์เค้าโครงและเครื่องมือวัด EMPIRE และผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นทำความสะอาดพื้น HOOVER, ORECK, VAX และ DIRT DEVIL

TTI ก่อตั้งขึ้นในปี 1985 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงในปี 1990 และเป็นหนึ่งในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี Hang Seng, ดัชนีมาตรฐานความยั่งยืนขององค์กร Hang Seng, ดัชนี FTSE RAFITM All-World 3000, ดัชนี FTSE4 Good Developed และ MSCI ดัชนี ACWI หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ www.ttigroup.com

เครื่องหมายการค้าทั้งหมดที่ระบุไว้นอกเหนือจาก AEG และ RYOBI เป็นของกลุ่มบริษัท AEG เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ AB Electrolux (มหาชน) และใช้ภายใต้ใบอนุญาต RYOBI เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Ryobi Limited และใช้ภายใต้ใบอนุญาต

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สำหรับคำถามเกี่ยวกับนักลงทุนสัมพันธ์:

หน้าหลัก
นักลงทุนสัมพันธ์ TTI
โทรศัพท์: +1 (954) 541-9660
อีเมล: ir@ttihq.com

เอเชีย/แปซิฟิก
นักลงทุนสัมพันธ์ TTI
โทรศัพท์: +(852) 2402 6888
อีเมล: ir@tti.com.hk

ที่มา: บริษัท Techtronic Industries จำกัด

Huawei ที่งาน MWC 2023: โลกอัจฉริยะต้องการอุตสาหกรรม ICT และเศรษฐกิจดิจิทัลที่แข็งแกร่งขึ้น

Logo

บาร์เซโลนา สเปน–(BUSINESS WIRE)–28 กุมภาพันธ์ 2023

ในระหว่างงาน MWC Barcelona 2023 นั้น Huawei จะพบปะกับผู้ให้บริการ พันธมิตรในอุตสาหกรรม และผู้นำทางความคิดรายสำคัญอื่น ๆ จากทั่วโลกเพื่อหารือเกี่ยวกับ " GUIDE สู่โลกอัจฉริยะ" พวกเขาจะร่วมกันดูวิธีใช้พิมพ์เขียวธุรกิจของ GUIDE เพื่อวางรากฐานสำหรับ 5.5G และต่อยอดความสำเร็จของ 5G ให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้นในโลกอัจฉริยะ

Huawei's Hall 1 exhibition booth at MWC Barcelona 2023 (Photo: Huawei)

บูธนิทรรศการใน Hall 1 ของ Huawei ที่งาน MWC Barcelona 2023 (ภาพ: Huawei)

บูธนิทรรศการหลักของ Huawei ใน Hall 1 ของ MWC Barcelona ได้รับการออกแบบโดยใช้แนวคิด "อนาคตอัจฉริยะ เต็มไปด้วยความหวัง" ที่บูธ Huawei ได้วาดภาพของยุคสมัยที่ขับเคลื่อนโดยเศรษฐกิจดิจิทัลและกำหนดโดยความร่วมมือที่สดใสและเต็มไปด้วยความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด ภายในงาน Huawei ยังจัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชันล่าสุดที่มอบประสบการณ์ 5G ขั้นสูงสุด การเชื่อมต่ออัลตราบรอดแบนด์อัจฉริยะระดับพรีเมียม การแปลงโฉมสู่ดิจิทัลและอัจฉริยะ และโซลูชัน Green 1-2-3 ข้อเสนอของ Huawei แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ชัดเจนในการสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับยุค 5.5G โดยการสร้างมูลค่าให้กับลูกค้า และกระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัล

ภายในสิ้นปี 2022 ได้พิสูจน์แล้วว่า 5G ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ทั่วโลก โดยมีผู้ใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่มากกว่าพันล้านรายที่เชื่อมต่อกับ 5G ผู้ให้บริการชั้นนำในจีน เกาหลีใต้ สวิตเซอร์แลนด์ ฟินแลนด์ และคูเวตบรรลุอัตราการเจาะผู้ใช้ 5G มากกว่า 30% แล้ว และมากกว่า 30% ของการรับส่งข้อมูลมาจาก 5G

จากรายงาน 5G City Benchmark ล่าสุดของ Ookla รายงานว่า Huawei ได้มีส่วนสำคัญในการสร้างเครือข่าย 5G ในเมือง 10 อันดับแรกจากทั้งหมด 40 เมืองที่เป็นตัวแทน 5G ของโลก สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าผลลัพธ์ของประสิทธิภาพ 5G ใน 10 เมืองเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเครือข่าย 5G ที่สร้างโดย Huawei นั้นมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุด

ตามแนวคิดของ Huawei ที่เกี่ยวกับ "การก้าวสู่ยุค 5.5G" ที่เสนอในเดือนกรกฎาคม 2022 Huawei ได้เน้นย้ำถึงคุณลักษณะสำคัญ 5 ประการของยุค 5.5G ได้แก่ ประสบการณ์ 10 Gbps, การเชื่อมต่อโครงข่ายเต็มรูปแบบ, การตรวจจับและการสื่อสารแบบบูรณาการ, เครือข่ายขับเคลื่อนอัตโนมัติ L4 และ ICT สีเขียว ผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลก องค์กรด้านมาตรฐาน และพันธมิตรระบบนิเวศอุตสาหกรรมกำลังมารวมตัวกันเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมและการสำรวจสำหรับยุค 5.5G นี้ เนื่องจากจะทำให้เกิดแอปพลิเคชันและโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ มากขึ้น

การลงทุนอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่งในโครงสร้างพื้นฐานด้าน ICT จะกระตุ้นการเติบโตภายในเศรษฐกิจดิจิทัลโดยตรง รายงานของบุคคลที่สามแสดงให้เห็นว่าเมื่อเครือข่ายใหม่วิวัฒนาการจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง ผลกระทบนี้จะขยายมากขึ้นอีก 15% เมื่อมองไปยังอนาคต เราเชื่อว่าพิมพ์เขียวธุรกิจ GUIDE ที่รวมทั้ง 5G และ 5.5G จะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าวิวัฒนาการของ ICT จะก้าวหน้าและนำมาซึ่งมูลค่าที่มากขึ้นได้อย่างไร

เราจะเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ต่อไปร่วมกับลูกค้าและพันธมิตร โดยสร้างการเชื่อมต่ออัจฉริยะและกำหนดนิยามใหม่ของคอมพิวติ้ง ความร่วมมือด้านนวัตกรรมนี้จะสร้างมูลค่าที่มากขึ้นให้กับอุตสาหกรรม ICT และทำให้อุตสาหกรรมโดยรวมมีความยืดหยุ่นและมั่งคั่งยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ฝ่ายองค์กรของ Huawei ยังจัดอีเวนต์ของตัวเองที่งาน MWC 2023 ในหัวข้อ “โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลชั้นนำเพื่อคุณค่าใหม่ร่วมกัน” ซึ่งจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมมากกว่า 50 รายการสำหรับลูกค้าทั่วโลก ไฮไลท์ในที่นี้ ได้แก่ โซลูชันเครือข่ายแคมปัสอัจฉริยะแบบง่าย ชุดโซลูชันศูนย์ข้อมูลที่เป็นนวัตกรรมใหม่ และกลยุทธ์ทางธุรกิจสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)

ในส่วนของอุปกรณ์ Huawei กำลังจัดแสดง HUAWEI Mate 50 Series, HUAWEI WATCH Buds, HUAWEI WATCH GT Cyber ​​ที่มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ในด้านต่าง ๆ เช่น การสร้างภาพบนมือถือ ฟิตเนสและสุขภาพ และสำนักงานอัจฉริยะ

MWC Barcelona 2023 เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ถึง 2 มีนาคม ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน Huawei จัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่บูธ 1H50 ใน Fira Gran Via Hall 1 ร่วมกับผู้ให้บริการระดับโลก ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และผู้นำทางความคิด เราเจาะลึกหัวข้อต่าง ๆ เช่น ความสำเร็จของธุรกิจ 5G, โอกาส 5.5G, การพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และวิสัยทัศน์ของเราในการใช้พิมพ์เขียวธุรกิจของ GUIDE เพื่อวางรากฐานสำหรับ 5.5G และต่อยอดความสำเร็จของ 5G ให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้น สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ https://carrier.huawei.com/en/events/mwc2023

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: www.businesswire.com/news/home/53353566/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Olivia Zhang
+86-15013066795 / +44-7444720703
zhangningning7@huawei.com

ที่มา: Huawei

Farm to Plate ประกาศความพร้อมใช้งานของแพลตฟอร์ม SaaS สำหรับห่วงโซ่อุปทานที่ปฏิวัติวงการ เพื่อยกระดับความปลอดภัยของอาหาร ลดการเรียกคืน และขับเคลื่อนระบบนิเวศที่ยั่งยืน

Logo

ข้อมูลซัพพลายเชนแบบเรียลไทม์ที่ไม่เปลี่ยนรูปจะช่วยลดวงจรการเรียกคืนและลดการสูญเสียอาหาร

อัลฟาเรตตา จอร์เจีย–(BUSINESS WIRE)–1 มีนาคม 2023

วันนี้ Farm to Plate ได้ประกาศความพร้อมของ Farm To Plate (F2P) ซึ่งเป็นเป็นผู้บุกเบิกผลิตภัณฑ์ที่มาจากบล็อกเชนและการติดตามสำหรับห่วงโซ่อุปทานอาหารที่จะขยายขอบเขตของความโปร่งใสของข้อมูลไปสู่ระดับรากหญ้าของอุตสาหกรรมอาหารตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง จากผู้ผลิตถึงผู้บริโภคแพลตฟอร์ม Farm to Plate ตอบสนองความต้องการด้านกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้นสำหรับการแปลงเป็นดิจิทัลและความโปร่งใสผ่านการปฏิบัติตามข้อกำหนด GS1 และ FSMA Rule #204 และเพิ่มความไว้วางใจในแบรนด์ ความมั่นคงทางการเงิน และชื่อเสียงโดยเน้นที่ความยั่งยืน การทำฟาร์มที่มีความรับผิดชอบ ความโปร่งใสของผู้บริโภค และลดความเสี่ยงและขนาดการเรียกคืนลงอย่างมาก ดูวิธีการทำงาน

คุณสมบัติหลักและประโยชน์ของ Farm to Plate

  • Microtipping: เปิดใช้งานเคล็ดลับโดยตรงไปยังผู้ผลิตจากผู้บริโภคปลายทางที่ส่งผ่านบล็อกเชนอย่างปลอดภัยและทันที โดยกำจัดพ่อค้าคนกลางและโอกาสในการฉ้อฉลในขณะที่ให้ผู้ผลิตมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก
  • ร่องรอยและการติดตามแบบครบวงจรที่ไม่เปลี่ยนรูปแบบ: ข้อมูลที่ไม่เปลี่ยนรูปและแบบกระจายศูนย์ช่วยให้มั่นใจได้ว่าไม่มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรายใดที่มีกรรมสิทธิ์ในข้อมูลที่ไม่สมส่วน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่ข้อมูลจะรั่วไหล
  • การควบคุมการเข้าถึงอย่างปลอดภัยสำหรับข้อมูลบนบล็อกเชนการควบคุมการเข้าถึงที่แข็งแกร่งทำให้สามารถควบคุมได้อย่างละเอียดว่าใครสามารถเข้าถึงข้อมูลใดได้บ้าง เพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลต่าง ๆ สามารถเข้าถึงเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นและเกี่ยวข้องเท่านั้น
  • สร้างขึ้นตามมาตรฐาน GS1 และสอดคล้องกับ FDA FSMA Rule #204

ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในด้านความโปร่งใสแบบครบวงจร

ในห่วงโซ่อุปทานอาหารโลกาภิวัตน์ที่มีการจัดหาและขนส่งอาหารข้ามทวีป ระดับความโปร่งใสตั้งแต่การจัดหา การขนส่ง ไปจนถึงการจัดเก็บและรายละเอียดอื่น ๆ ที่ผู้บริโภคต้องการในขณะนี้นั้นสูงเป็นประวัติการณ์ การวิจัยยังพิสูจน์ให้เห็นว่า 73% ของผู้บริโภคชอบแบรนด์ที่ยั่งยืน ซื่อสัตย์ และโปร่งใสเกี่ยวกับวิธีการและที่ที่ผลิตภัณฑ์ได้รับการเลี้ยงดูหรือเติบโต การผลิตที่ยั่งยืนนั้นอยู่ในรายการสิ่งที่อยากได้ โดยพวกเขายินดีจ่ายเบี้ยประกันจำนวนมาก โดยเฉลี่ยตั้งแต่ 30% ถึง 40% สำหรับสินค้าที่ผลิตอย่างยั่งยืน “Farm to Plate จะเป็นการปฏิวัติสำหรับแบรนด์อาหารที่ต้องการพัฒนาเอกลักษณ์ที่แข็งแกร่งพร้อมกับผู้บริโภคสมัยใหม่ที่มุ่งเน้นความยั่งยืน ด้วยความโปร่งใสและความสามารถในการเชื่อมต่อกับซัพพลายเออร์โดยตรง แบรนด์สามารถมีภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งในฐานะองค์กรที่ทันสมัยและใส่ใจต่อลูกค้าของพวกเขาได้ นี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางของความไว้วางใจอันยาวนานระหว่างผู้บริโภคและแบรนด์อาหาร” กล่าวโดย Mika Liss ที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ของ Farm To Plate

Farm to Plate ช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปในห่วงโซ่อุปทาน

แบรนด์อาหารกำลังต่อสู้กับน้ำหนักของข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและความต้องการด้านความโปร่งใสของผู้บริโภค การให้ข้อมูลเชิงลึกและเชื่อถือได้ในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกที่ซับซ้อนทำให้เกิดความท้าทาย มีการพึ่งพากระบวนการด้วยตนเองอย่างหนักทำให้ข้อมูลเสี่ยงต่อการฉ้อโกงและป้องกันข้อมูลอย่างทันท่วงทีจากการส่งต่อไปยังผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด Farm to Plate ใช้บล็อกเชนที่ได้รับอนุญาต เครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI และระบบอัตโนมัติผ่านอุปกรณ์ IoT เพื่อให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่ควบคุมการเข้าถึงและไม่เปลี่ยนรูปแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เหมาะสม “เราได้สร้าง F2P ด้วยเทคโนโลยีมาตรฐานอุตสาหกรรมแบบเปิดที่ผสานรวมกับระบบที่คุณมีอยู่ได้อย่างลงตัว และส่วนที่ดีที่สุดคือ รูปแบบโมดูลาร์ ทำให้เราสามารถขยายขีดความสามารถได้แทบจะไม่มีที่สิ้นสุดในขณะที่เราสร้างคุณสมบัติในการเปิดตัวในอนาคต” กล่าวโดย Saptarshi Choudhury รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Farm To Plate

การเชื่อมโยงผู้บริโภคและเกษตรกรเพื่อระบบนิเวศที่ยั่งยืน

ด้วยการใช้นวัตกรรมของแพลตฟอร์มการส่งข้อความยอดนิยม เช่น WhatsApp การถอดเสียง การแปลภาษาท้องถิ่น และการทำงานแบบออฟไลน์ Farm To Plate เป็นโซลูชันติดตามและตรวจสอบแรกที่ชาวประมงและชาวนาเข้าถึงได้อย่างแท้จริง Farm to Plate จะใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อระหว่างผู้บริโภคกับเกษตรกร เพื่อนำความมั่นคงทางการเงินมาสู่ชุมชนผู้ผลิตและลดความเสี่ยงของการทำฟาร์มมากเกินไปผ่าน microtipping

Farm To Plate เป็นโซลูชันห่วงโซ่อุปทานอาหารแห่งแรกที่จะเชื่อมโยงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกรายเข้าด้วยกัน และทำให้พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของระบบ เราเชื่อมโยงผู้บริโภคและเกษตรกรโดยตรง ทำให้ผู้บริโภคได้รับความไว้วางใจด้านอาหารผ่านความโปร่งใสและความยั่งยืนทางการเงินสำหรับผู้ผลิตผ่านรหัส QR เดียว คุณค่าที่นำเสนอของเราอยู่ใน 5 Ts: Trace, Track, Trade, Tip, Trust และ Tip เป็นสิ่งที่เราชื่นชอบเพราะเป็นการยกย่องเกษตรกร” กล่าวโดย Pramod Sajja ประธานและ CEO ของ Farm to Plate LLC. & Paramount Software Solutions Inc.

เกี่ยวกับ Farm to Plate

วิสัยทัศน์ของทีม Blockchain ของ Farm to Plate คือการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เรื่องราวความสำเร็จของ Hyperledger Fabric ส่งผลให้มีการนำระบบนิเวศที่เปิดกว้างไปสู่แถวหน้าของเทคโนโลยีนี้ Farm to Plate ต้องการสร้างสิ่งที่สร้างความแตกต่างและยังง่ายต่อการปรับเปลี่ยนเพื่อเติมเต็มช่องว่างในระบบห่วงโซ่อุปทานอาหารที่มีอยู่

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
Neha Rao
ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร
neha@paramountsoft.net

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Farm To Plate:
www.farmtoplate.io

ที่มา: Farm to Plate

Foo Fighters และ Stern Pinball ประกาศเปิดตัวเครื่องพินบอล Rock and Roll ใหม่

Logo

อีเวนต์ SXSW สุดพิเศษ

ชิคาโก–(BUSINESS WIRE)–28 กุมภาพันธ์ 2023

Stern Pinball, Inc. เปิดตัวเครื่องพินบอลแนวใหม่เพื่อเฉลิมฉลองและสร้างขึ้นโดยความร่วมมือกับ Foo Fighters วงที่ได้รับการเสนอชื่อในหอเกียรติยศของ Rock and Roll ในปี 2021 เครื่องพินบอล Foo Fighters มีจำหน่ายในรุ่น Pro, Premium และ Limited Edition (LE)

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้เป็นแบบมัลติมีเดีย ดูฉบับเต็มได้ที่นี่: https://www.businesswire.com/news/home/20230228005291/en/

Foo Fighters ก้าวสู่เวทีโลกครั้งแรกในปี 1995 ด้วยอัลบั้มเปิดตัวสุดคลาสสิกที่มีชื่อตัวเอง ตลอดระยะเวลาการทำงาน วงนี้ออกสตูดิโออัลบั้มมาแล้ว 10 อัลบั้ม มียอดขายมากกว่า 32 ล้านแผ่นทั่วโลก ได้รับรางวัลแกรมมี่อวอร์ด 15 รางวัล ได้รับรางวัล MTV “Global Icon” เป็นวงแรก และได้รับการแต่งตั้งให้เข้าสู่หอเกียรติยศของ Rock and Roll ในปี 2021 หนึ่งในผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสนามกีฬาระดับโลก อารีน่า และเทศกาลต่าง ๆ ในเร็ว ๆ นี้ ดนตรีของพวกเขาจะเริ่มเติมเต็มห้องเกมและสถานบันเทิงในรูปแบบพินบอล

เครื่อง Foo Fighters ของ Stern นำประสบการณ์คอนเสิร์ต Foo Fighters กลับบ้าน ในขณะที่ผู้เล่นได้ดื่มด่ำไปกับการผจญภัยพินบอลสุดอลังการที่มีเพลงโด่งดัง 15 เพลงครอบคลุมรายการเพลงที่มากมายของวง ได้แก่ All My LifeBest of YouBreakoutEverlongHolding PoisonI’ll Stick AroundLearn to FlyMonkey WrenchMy HeroRunSomething from NothingThe PretenderThis is a CallTimes Like These, และ Walk.

กว่าสองปีในการสร้างและด้วยความคิดสร้างสรรค์จาก Dave Grohl, Nate Mendel, Pat Smear, Chris Shiflett, Rami Jaffee และ Taylor Hawkins ผู้ล่วงลับ Foo Fighters ของ Stern เป็นเครื่องพินบอลชั้นนำและอื่น ๆ อีกมากมาย จักรวาลใหม่ทั้งหมดได้รับการพัฒนาด้วยงานศิลปะที่วาดด้วยมือและแอนิเมชันแบบกำหนดเองที่ทำให้คุณต้องตะลึง รวมถึง “Foo Fighters Saturday Morning Action Time!” ซึ่งเป็นซีรีส์ทีวีที่แต่งขึ้นเกี่ยวกับภารกิจของวงในการกอบกู้ rock and roll… และโลก! เข้าร่วมกับ Foo Fighters ในภารกิจช่วยเหลือนี้เพื่อขัดขวางโอเวอร์ลอร์ดเอเลี่ยนลึกลับผู้ชั่วร้ายและกองทัพบอทของเขา ค้นหาสนามชั้นบน Area 51 เพื่อบุกเข้าไปและปลดปล่อยความโกลาหลของพินบอล กระโดดขึ้นรถตู้เพื่อออกปฏิบัติหน้าที่อย่างชอบธรรมเพื่อช่วยมนุษยชาติจากการสูญพันธุ์และให้เพลงร็อคปกครอง!

เครื่องพินบอล Foo Fighters มีระบบ Insider Connected™ ที่ได้รับรางวัลของ Stern ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นโต้ตอบกับเกมและเครือข่ายผู้เล่นทั่วโลกได้หลายวิธี ผ่าน Insider Connected ผู้เล่นสามารถติดตามความคืบหน้า รับรางวัลพิเศษเฉพาะเกมใหม่ มีส่วนร่วมกับชุมชนผู้เล่น และเข้าร่วมในโปรโมชันและภารกิจท้าทาย Insider Connected ยังมีชุดเครื่องมือที่เน้นผู้ปฏิบัติงานเพื่อขับเคลื่อนการเล่นตำแหน่งผ่าน Location Leaderboards สร้างความภักดีของผู้เล่น วิเคราะห์ประสิทธิภาพ ปรับเปลี่ยนจากระยะไกล และบำรุงรักษาเครื่อง สามารถลงทะเบียนสำหรับ Insider Connected ได้ที่ insider.sternpinball.com/

Limited Edition ที่มี Expression Lighting System™ ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 1,000 เครื่องทั่วโลก ด้วยไฟ LED RGB อัจฉริยะ 96 ดวง Expression Lighting System ช่วยให้สามารถควบคุมสเปกตรัมสีได้อย่างสมบูรณ์ อยู่ในช่องที่ตัดเข้าข้างตู้เพื่อให้ไฟส่องสว่างตามธีมสีทั้งสนาม ระบบไฟสนามแบบบูรณาการนี้จะซิงโครไนซ์กับการแสดงแสงแบบกำหนดเองซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับทุกเพลงและตอบสนองต่อเหตุการณ์ในเกมแบบไดนามิก รุ่น LE ยังมีกระจกหลังสีเต็มรูปแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Rock-Battle, งานศิลปะตู้ติดสติกเกอร์ฟอยล์สะท้อนแสงความละเอียดสูงแบบสีพิเศษ, ไม้พินบอลเคลือบผงสีเขียวมันวาวแบบกำหนดเอง, ส่วนโค้งด้านล่างที่มีลายเซ็นของนักออกแบบที่กำหนดเอง, เบลดศิลปะภายในสุดพิเศษ, ระบบเสียงที่ได้รับการอัปเกรด, กระจกสนามสำหรับเล่นพินบอลกันแสงสะท้อน, มอเตอร์เขย่า, แผ่นป้ายที่มีหมายเลขตามลำดับ และใบรับรองผลิตภัณฑ์ของแท้ที่ลงนามโดย Gary Stern ประธานของ Stern และ Seth Davis ประธานและ CEO

“ด้วยการร่วมมือกับ Foo Fighters เราได้สร้างจักรวาลพินบอลใหม่ทั้งหมดภายใต้ฉากหลังของดนตรีที่น่าทึ่ง พลังจากการออกแบบเกมที่ไม่เหมือนใคร รวดเร็ว และลื่นไหล ออกแบบด้วยการแสดงแสงสีตระการตาและงานศิลปะที่วาดด้วยมืออันน่าทึ่ง ได้สร้างประสบการณ์การเล่นเกมขั้นสุดยอด” กล่าวโดย Seth Davis ประธานและ CEO “เชื่อมต่อเลยวันนี้และกลายเป็นฮีโร่”

เครื่องพินบอล Foo Fighters ใหม่จะจัดแสดงและพร้อมให้เล่นในงานเปิดตัวพิเศษที่งานปาร์ตี้ House of Internet ระหว่าง SXSW วันที่ 10-12 มีนาคมที่ The Pershing ในออสติน เท็กซัส

ราคาและการวางจำหน่าย:

ราคาขายปลีกที่แนะนำของผู้ผลิต (“MSRP”)*:

*MSRP สำหรับการขายให้กับผู้ใช้ปลายทางในสหรัฐอเมริกา ก่อน VAT, GST, ภาษีการขาย, อากร หรือภาษีอื่น ๆ

Pro Edition:

$US 6,999

Premium Edition:

$US 9,699

Limited Edition:

$US 12,999

เครื่องพินบอล Foo Fighters และอุปกรณ์เสริมมีวางจำหน่ายแล้วผ่านผู้จัดจำหน่ายและตัวแทนจำหน่าย Stern Pinball ที่ได้รับอนุญาตทั่วโลก

เกี่ยวกับ Insider Connected

Insider Connected เป็นความคิดริเริ่มด้านเทคโนโลยีที่ครอบคลุมเพื่อเชื่อมต่อจักรวาลของเครื่องพินบอล Stern แพลตฟอร์มนี้ออกแบบมาเพื่อยกระดับและขยายการมีส่วนร่วมของผู้เล่นกับเกมทั้งในบ้านและในเชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ยังนำเสนอชุดเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ควบคุมเครื่องพินบอลระดับมืออาชีพเพื่อขับเคลื่อนการเล่น สร้างความภักดีของผู้เล่น วิเคราะห์ประสิทธิภาพ ปรับเปลี่ยนจากระยะไกล และบำรุงรักษาเครื่อง

ลงทะเบียนสำหรับ Insider Connected ได้ที่ insider.sternpinball.com ผู้เล่นยังสามารถลงทะเบียนที่เกมที่เชื่อมต่อโดยสแกนรหัส QR ลงทะเบียนบนเครื่อง เมื่อผู้เล่นลงทะเบียน พวกเขาจะได้รับรหัส QR เฉพาะที่สามารถใช้เพื่อระบุผู้เล่นคนนั้นที่เครื่องพินบอล Stern ที่เชื่อมต่อได้ทุกที่ในโลก เมื่อผู้เล่นสแกนเข้าไปในเครื่อง พวกเขาจะสามารถติดตามความคืบหน้า รับรางวัลพิเศษเฉพาะเกมใหม่ มีส่วนร่วมกับชุมชนผู้เล่น และเข้าร่วมในโปรโมชันและภารกิจท้าทายได้

Seth Davis ประธานและ CEO ของ Stern Pinball, Inc. กล่าวว่า "Insider Connected กำลังเปลี่ยนวิธีที่ผู้เล่นโต้ตอบกับเครื่องพินบอล ผู้ดำเนินการได้รับประโยชน์จากเครื่องมือใหม่ที่ขับเคลื่อนการเล่นซ้ำและช่วยดูแลเกมจากระยะไกล ในขณะที่ผู้เล่นสามารถรับป้ายสถานบันเทิงพิเศษ"

เกี่ยวกับ Stern Pinball, Inc.

Stern Pinball, Inc. สร้างความบันเทิงที่น่าสนใจซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้รักเกมตลอดชีวิต จุดประกายความหลงใหล หล่อหลอมมิตรภาพ และเชื่อมโยงผู้คนทุกที่เชื่อมโยงผู้คนทุกที่ผ่านความสนุก นวัตกรรม เกมพินบอลขั้นสูงทางเทคโนโลยี และประสบการณ์ สำนักงานใหญ่อยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติ O'Hare ของชิคาโกในใจกลางทวีปอเมริกาเหนือเพียงไม่กี่นาที บริษัทสร้าง ออกแบบ วิศวกร ผลิต ทำการตลาด และจัดจำหน่ายเกมพินบอลทั้งภาคพื้นดินและดิจิทัลที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง ชิ้นส่วน อุปกรณ์เสริม และสินค้า Stern Pinball ให้บริการตลาดดิจิทัล ผู้บริโภค การค้า และองค์กรทั่วโลก

ชื่อเรื่องล่าสุดของ Stern Pinball ได้แก่ James Bond, Rush, Godzilla, The Mandalorian, Led Zeppelin, Avengers: Infinity Quest, Teenage Mutant Ninja Turtles, Stranger Things, Elvira’s House of Horrors, Jurassic Park, Black Knight: Sword of Rage, The Munsters, The Beatles, Deadpool, Iron Maiden, Guardians of the Galaxy, Star Wars, Aerosmith, Ghostbusters, KISS, Metallica, Game of Thrones, The Walking Dead, Star Trek, AC/DC, Batman และ Spider-Man ผู้เล่นหลากหลายประเภทเพลิดเพลินกับเกมของ Stern Pinball ตั้งแต่ผู้เล่นพินบอลมืออาชีพที่แข่งขันในการแข่งขันที่มีเดิมพันสูงทั่วโลก ไปจนถึงผู้เล่นมือใหม่ที่ค้นพบเสน่ห์ของลูกบอลเหล็กเป็นครั้งแรก หากต้องการร่วมสนุกและเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.sternpinball.com

เครื่องหมายการค้าและชื่อผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของบริษัทที่เกี่ยวข้อง

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ดูเวอร์ชันต้นฉบับบน businesswire.com: https://www.businesswire.com/news/home/20230228005291/en/

ติดต่อ

Zach Sharpe
zach.sharpe@sternpinball.com

ที่มา: Stern Pinball, Inc.

The Bangkok Reporter