Gradiant เข้าซื้อกิจการ MPES ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านระบบจัดการ และการบำบัดน้ำและน้ำเสียรายใหญ่ในประเทศโอมาน

Logo

การเข้าซื้อกิจการดังกล่าวเป็นไปตามแผนขยายธุรกิจไปในตะวันออกกลาง

บอสตัน–(BUSINESS WIRE)–28 มีนาคม 2023

วันนี้ Gradiant ซึ่งเป็นผู้นำสำหรับการให้บริการระบบการบำบัดน้ำรวมถึง น้ำเสียแบบครบวงจรโดยใช้นวัตกรรมขั้นสูงสำหรับการบำบัดน้ำแบบเมมเบรน ได้เข้าซื้อกิจการ Muscat Projects & Engineering Services (MPES) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำที่ให้บริการด้านระบบจัดการ และการบำบัดน้ำและน้ำเสียแบบครบวงจรในประเทศโอมาน ประกาศนี้ได้ถูกแถลงหลังจากที่ Gradiant เข้าซื้อกิจการของ Advanced Watertek เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

เพื่อรับมือกับภัยแล้งครั้งใหญ่สุดในรอบ 900 ปีที่เกิดขึ้น องค์กรธุรกิจต่างๆ ในตะวันออกกลางจึงกำลังร่วมกันพัฒนาและทางสร้างเป้าหมายเพื่อความยั่งยืนในการใช้น้ำ โดยเพิ่มขีดความสามารถในการบำบัดน้ำเสียและนำน้ำเสียนั้นกลับมาใช้ใหม่ อีกทั้งยังมองหาวิธีจัดการ และบริหารทรัพยากรทางเพื่อนำมาใช้ทดแทน หรือนำกลับมาใช้ใหม่ โดยให้สอดคล้องกับปริมาณความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น โดยเป็นการกำหนดเป้าหมาย และสร้างโอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อนในอุตสาหกรรมการบำบัดน้ำตลาดด้านน้ำและน้ำเสียในภูมิภาคนี้ การเข้าซื้อกิจการของ MPES ทำให้ Gradiant สามารถขยายขีดความสามารถในการให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งรวมถึงการเริ่มปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงงาน SmartOps และเทคโนโลยีการจัดการสินทรัพย์ผ่านบริการ O&M

"Gradiant ทำโครงการต่างๆ ได้ยอดเยี่ยมมาก" Prakash Govindan, COO ของ Gradiant กล่าว "เรานำเสนอรูปแบบธุรกิจที่หลากหลาย รวมถึงการออกแบบ, สร้าง และการออกแบบที่ครอบคลุมงานระบบทั้งหลายให้พร้อมใช้งาน- (DBO) เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวของลูกค้าแต่ละราย การแบบในรูปแบบของ DBO ทำให้เราสามารถรวบรวมส่วนงานต่างๆเข้าด้วยกันเป็นระบบเดียว ด้วยระบบและนวัตกรรมเฉพาะของ Gradiant  การเข้าซื้อกิจการของ MPES และ Advanced Watertek เป็นตัวชี้วัดว่า Gradiant มีความตั้งใจนำเสนอนวัตกรรมการบำบัดน้ำสที่ดีที่สุดไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง เราจะถ่ายทอดองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญรวมถึงทรัพยากรหลักของ MPES เข้าไปในบริการการเดินระบบ หรือที่เรียกกว่า O&M ไปยังโรงงานเดิมและโรงงานใหม่ของ Gradiant ในภูมิภาค ซึ่งจะเป็นการกระจายส่วนผสมรายได้ของเราให้มีรูปแบบที่เกิดซ้ำในระยะยาว"

MPES ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2008 โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้บริการระบบการบำบัดน้ำ และขยะมูลฝอย แบบครบวงจรในประเทศโอมาน ซึ่งมีการให้บริการการเดินระบบและซ่อมแซมระบบบำบัด หรือO&M ให้แก่ภาคอุตสาหกรรม ปัจจุบันบริษัทนี้เป็นหนึ่งในบริษัทจัดการน้ำเสียชั้นนำของประเทศโอมาน โดยมีลูกค้ารายสำคัญ คือ Haya Water, กระทรวงกลาโหมโอมาน และ Petroleum Development Oman

“เราตั้งใจที่จะผสานความเชี่ยวชาญของเรา เข้ากับ Gradiant เพื่อพัฒนาวิธีบริหารจัดการ และแก้ปัญหาน้ำและน้ำเสียของเรา” E.M. Badhrudeen, Managing Director ของ MPES กล่าว “เราโชคดีที่ปัจจุบันเราเป็นผู้ให้บริการด้านการเดินระบบร่วมถึงการซ่อมแซมงานระบบ (O&M) ชั้นนำประเทศในโอมาน และการร่วมมือกับ Gradiant จะทำให้เราได้พัฒนาองค์ความรู้และความชำนาญในการบริการของเราไปยังโครงการต่างๆ ทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง”

ด้วยโอกาสทางธุรกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง Gradiant กำลังรวบรวมระบบบำบัดน้ำชั้นนำ โดยผสานรวมกับความสามารถของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้าด้วยกัน เพื่อแก้ปัญหาด้านการใช้น้ำ และทรัพยากรทางน้ำที่สำคัญที่สุดในโลกอย่างยั่งยืน

เกี่ยวกับ Gradiant

Gradiant เป็นผู้ให้บริการระบบบำบัดน้ำและน้ำเสียขั้นสูง แบบครบวงจรครบวงจรที่มีความเฉพาะและเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ โดยมุ่งหวังเรื่องการบริการจัดการน้ำและทรัพยากรทางน้ำเป็นหลัก  Gradiant ได้มีโอกาสให้บริการระบบบำบัดน้ำแก่ลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีความสำคัญระดับโลก Gradiant ได้ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกที่สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) เพื่อรับมือกับความท้าทายในการเผชิญหน้ากับปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมที่มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อันเป็นผลพวงจากการพัฒนาทางอุตสาหกรรม การเพิ่มขึ้นของอัตราของประชากร และปัญหาต่างๆที่เกิดจากการใช้น้ำ ปัจจุบัน Gradiant มีพนักงานมากกว่า 900 คนซึ่งปฏิบัติการจากสำนักงานใหญ่ในบอสตัน สำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคและ Global Innovation Center ในประเทศสิงคโปร์ และสำนักงานใน 14 ประเทศ โปรดอ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.gradiant.com

ข้อมูลเกี่ยวกับ MPES

Muscat Projects & Environmental Services (MPES) เป็นบริษัทชั้นนำด้านระบบจัดการน้ำและน้ำเสียแบบครบวงจรในประเทศโอมาน บริษัทมุ่งเน้นการออกแบบ สร้าง และดูแลระบบการจัดการและบำบัดน้ำเสีย MPES ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 ในเมืองมัสกัต และปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 320 คน ลูกค้ารายสำคัญๆ ได้แก่ Haya Water, กระทรวงกลาโหมโอมาน และ Petroleum Development Oman MPES ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001, 14001 และ 45001 โปรดไปที่ https://www.mpesllc.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ข้อมูลติดต่อ

ข้อมูลติดต่อบริษัท:
Felix Wang
Gradiant, VP of Marketing
fwang@gradiant.com

แหล่งข้อมูล: Gradiant

APO เปิดตัวศูนย์ความเป็นเลิศด้านเกษตรกรรมอัจฉริยะด้านสภาพอากาศแห่งใหม่

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–27 มีนาคม 2023

ในความพยายามที่จะเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เพิ่มผลกำไรของเกษตรกร และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ในภาคส่วนทั่วทั้งภูมิภาค องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (APO) ได้ประกาศแต่งตั้งองค์กรวิจัยการเกษตรและอาหารแห่งชาติ (NARO) ของญี่ปุ่นเป็นศูนย์ความเป็นเลิศด้านเกษตรกรรมอัจฉริยะด้านสภาพอากาศ (COE on CSA) แห่งใหม่ นี่เป็นผลมาจากความร่วมมือระยะยาวระหว่างสองสถาบันในการเผยแพร่ความรู้ในประเด็นที่ COE ใหม่ให้ความสำคัญ

ภาคการเกษตรมีความสำคัญต่อสมาชิก APO ส่วนใหญ่และจำเป็นต่อความมั่นคงด้านอาหารของโลก อย่างไรก็ตาม ยังมีส่วนสำคัญในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมีความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยแล้ง น้ำท่วม และเหตุการณ์สภาพอากาศที่รุนแรงอาจทำให้เกิดการขาดแคลนอาหาร การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเกษตร การปศุสัตว์ และการใช้ที่ดินคาดว่าจะคิดเป็น 24% ของทั้งหมดทั่วโลก การนำแนวปฏิบัติทางการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสภาพอากาศมาผสมผสานกับการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้สามารถก่อให้เกิดประโยชน์หลายประการในรูปของผลผลิตที่สูงขึ้น การผลิตทางการเกษตรและอาหารที่เพิ่มขึ้น และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

โครงการ APO COE นำเสนอความเป็นเลิศในสาขาการผลิตที่เฉพาะเจาะจงเพื่อส่งเสริมการนำความรู้และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของสมาชิกคนหนึ่งมาใช้โดยสมาชิกคนอื่น ๆ ในขณะที่ปรับให้เข้ากับบริบทในท้องถิ่น COE on CSA จะมุ่งเน้นไปที่การปรับใช้เทคโนโลยีลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการปรับตัว องค์ความรู้ และกรอบการทำงานสำหรับการผลิตข้าวคาร์บอนต่ำ ข้าวสาลี และถั่วเหลืองเป็นอาหารหลักในเอเชียแปซิฟิก ประเด็นที่มุ่งเน้นเฉพาะจะแบ่งปันความรู้ด้านเทคนิคและวิธีการลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากนาข้าว การนำระบบข้อมูลสภาพอากาศทางการเกษตรมาใช้ในการผลิตข้าว ข้าวสาลี และถั่วเหลือง เครื่องมือแสดงภาพการกักเก็บคาร์บอนในดินบนเว็บสำหรับการลดก๊าซเรือนกระจกในพืชต่าง ๆ เช่น ข้าว ข้าวสาลี และถั่วเหลือง การประยุกต์ใช้ถ่านชีวภาพและการพัฒนาหลักเกณฑ์คาร์บอนเครดิต และแนวทางการจัดการน้ำในการปลูกข้าวและบำบัดของเสียจากปศุสัตว์

COE on CSA จะเริ่มกิจกรรมตั้งแต่เดือนเมษายน 2023 รวมถึงการประเมินความต้องการและความพร้อมของสมาชิก APO สำหรับการนำเทคโนโลยีการปรับตัวและบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปใช้ การประชุมระหว่างประเทศสองครั้งเกี่ยวกับ CSA และประเด็นอื่น ๆ ที่มุ่งเน้นของ COE และโครงการนำร่องเพื่อใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาโดย COE on CSA ที่จะเริ่มตั้งแต่ 2024 ตลอดจนการสัมมนา การทัศนศึกษาดูงาน การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการฝึกอบรมนอกสถานที่เพื่อปรับแต่งองค์ความรู้ให้สอดคล้องกับความต้องการในท้องถิ่นของสมาชิก APO

COE on CSA สามารถให้ความรู้และทักษะด้านเทคนิค เช่น เทคโนโลยีเพื่อลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากนาข้าว ระบบข้อมูลสภาพอากาศทางการเกษตรสำหรับการผลิตข้าว ข้าวสาลี และถั่วเหลือง เครื่องมือแสดงภาพการกักเก็บคาร์บอนในดินบนเว็บสำหรับการลดก๊าซเรือนกระจกในพืชต่าง ๆ เช่น ข้าว ข้าวสาลี และถั่วเหลือง

เกี่ยวกับ NARO

องค์กรวิจัยการเกษตรและอาหารแห่งชาติ (NARO) เป็นกลุ่มวิจัยชั้นนำของญี่ปุ่นที่มุ่งเน้นด้านการเกษตร อาหาร และสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วยสำนักงานใหญ่ สถาบัน/ศูนย์วิจัย 16 แห่ง และศูนย์วิจัยระดับภูมิภาค 5 แห่งในฮอกไกโด โทโฮคุ ภาคกลางของญี่ปุ่น ภาคตะวันตกของญี่ปุ่น และคิวชู-โอกินาวา ซึ่งดำเนินกิจกรรม R&D พื้นฐานและประยุกต์ที่หลากหลายเพื่อพัฒนาภาคเกษตรอาหารของญี่ปุ่น โดยร่วมมืออย่างแข็งขันกับรัฐบาล จังหวัด มหาวิทยาลัย และองค์กรเอกชนเพื่อนำผลการวิจัยและพัฒนาไปใช้และแบ่งปันผลการวิจัยกับผู้ผลิตและผู้บริโภคทางการเกษตร สามารถเยี่ยมชม https://www.naro.go.jp/ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

เกี่ยวกับ APO

องค์การเพิ่มผลผลิตแห่งเอเชีย (APO) เป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลระดับภูมิภาคที่อุทิศตนเพื่อพัฒนาความสามารถในการผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกผ่านความร่วมมือซึ่งกันและกัน ซึ่งไม่เกี่ยวกับการเมือง ไม่แสวงหากำไร และไม่เลือกปฏิบัติ ปัจจุบัน APO ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1961 ด้วยสมาชิกผู้ก่อตั้งแปดคนนั้นประกอบด้วยเศรษฐกิจสมาชิก 21 ประเทศ ได้แก่ บังคลาเทศ, กัมพูชา, สาธารณรัฐจีน (ROC), ฟิจิ, ฮ่องกง, อินเดีย, อินโดนีเซีย, อิหร่าน, ญี่ปุ่น, สาธารณรัฐเกาหลี (ROK), สปป.ลาว, มาเลเซีย, มองโกเลีย, เนปาล, ปากีสถาน, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ศรีลังกา, ไทย, ตุรเคีย และเวียดนาม

APO กำลังกำหนดอนาคตของภูมิภาคโดยส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของสมาชิกผ่านบริการให้คำปรึกษาด้านนโยบายระดับชาติ ทำหน้าที่เป็นคลังความคิด การริเริ่มสร้างขีดความสามารถของสถาบัน และการแบ่งปันความรู้เพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิต

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53367246/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

หน่วยบริการสารสนเทศดิจิทัลของ APO: pr@apo-tokyo.org
โทร: +81-3-3830-0411
เว็บไซต์: https://www.apo-tokyo.org

ที่มา: Asian Productivity Organization

BRANDSTARS ประกาศแบรนด์ตัวแทนของเกาหลีประจำปี 2023

Logo

โซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–27 มีนาคม 2023

คณะกรรมการคัดเลือก BRANDSTARS เป็นเจ้าภาพจัดงานแบรนด์ตัวแทนเกาหลีครั้งที่ 5 ประจำปี 2023 และคัดเลือกแบรนด์ที่ดีที่สุดของเกาหลีตามอุตสาหกรรม

งานนี้มีการประกาศเป็นประจำทุกปีผ่านทางสื่อหลักในจีนและประเทศอื่นๆ ในเอเชีย โดยจัดขึ้นเพื่อให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมแก่ลูกค้าทั่วโลก และส่งเสริมการเติบโตของมูลค่าแบรนด์องค์กรโดยการคัดเลือกและประชาสัมพันธ์แบรนด์ตัวแทนของเกาหลีซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านความยอดเยี่ยม คุณภาพและบริการ

ในฐานะแบรนด์ที่เป็นตัวแทนของแต่ละอุตสาหกรรม Samsung Electronics' Galaxy Z Flip4 (สมาร์ทโฟน), Hyundai Motor Company's Genesis (รถยนต์), Kia's EV6 (รถยนต์ไฟฟ้า), LG Electronics' Whisen (เครื่องปรับอากาศ), SSG.com (ออนไลน์ช้อปปิ้ง), The Shilla Hotels & Resorts (ที่พัก), Kiturami Energy (หม้อไอน้ำ), Bacchus (เครื่องดื่มชูกำลัง), Kumsung Kamping KidKid (การศึกษา), Agabang (เสื้อผ้าสำหรับทารก), Kakao (แพลตฟอร์มมือถือ) และ Vovo (เครื่องใช้ในครัวเรือน) ผ่านการสรรเลือกแล้ว นอกจากนี้ ในหมวดความบันเทิง กลุ่มไอดอล  BTS (กลุ่ม K-pop) ก็ได้รับเลือกเช่นกัน

Sulwhasoo ของ Amorepacific และ ประวัติของ Whoo ในด้านครัวเรือนและการดูแลสุขภาพของ LGOlive Young (ร้านเสริมความงาม) และWell-being Health Gounbal (สกินแคร์) ได้รับเลือกในหมวดเครื่องสำอาง K-beauty

ในหมวดอาหารเค ผู้ชนะ ได้แก่ Bibigo (อาหารสำเร็จรูป) Shin Ramyun (นองชิม)Paris Baguette (เบเกอรี่), BBQ (ไก่), Ottogi (ซอสมะเขือเทศ), Buldak-bokkeum-myeon (ราเมนรสเผ็ด), MAMACOOK (เครื่องเคียง), Baunenajoo (ซุปกระดูกเนื้อ) และ Garimi (สาหร่าย)

ในหมวด K-fashion เลือก LF Hazzys (ชุดลำลอง) และในหมวดการดูแลสุขภาพ CheongKwanJang (โสมแดง), Boto (อาหารเพื่อสุขภาพ) และ Neo safe guard KF-94 (หน้ากาก K-quarantine) ได้รับเลือก สำหรับแบรนด์การท่องเที่ยวชั้นนำ เกาะเชจู (สถานที่ท่องเที่ยว) ได้รับเลือก

Galaxy ของ Samsung Electronics, Genesis ของ Hyundai Motor, Whisen ของ LG Electronics, BTS, Sulwhasoo, The History of Whoo, Gounbal, Bibigo, Ottogi, Baunenajoo, CheongKwanJang และ Jeju Island ได้รับเลือกเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน และ Hazzys, SSG.com, Neo safe guard, Kia EV6, Boto, Agabang และ Kiturami Energy อยู่ในรายชื่อนี้มานานกว่าสองปีแล้ว

แบรนด์ตัวแทนของเกาหลีได้รับเลือกสำหรับหมวดหมู่ธุรกิจกลุ่มบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อมในแต่ละอุตสาหกรรมโดยพิจารณาจากสื่อแบบบูรณาการและการประเมินของผู้บริโภค

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

คณะกรรมการคัดเลือก BRANDSTARS
KJ.Kim
+82-2-544-0153

brandstars@daum.net

http://brandstars.kr/

ที่มา: คณะกรรมการคัดเลือก BRANDSTARS

American Express เผยเทรนด์การเดินทางยอดนิยมประจำปี 2023

Logo

  • รายงานแนวโน้มการเดินทางทั่วโลกปี 2023 ของ American Express Travel1  แสดงให้เห็นว่านักเดินทาง โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Millennials2 วางแผนที่จะใช้จ่ายกับการเดินทางในปี 2023 มากกว่าปี 2022
  • นักท่องเที่ยวได้รับแรงบันดาลใจจากรายการและภาพยนตร์ที่พวกเขาชื่นชอบ เลือกจุดหมายปลายทางในฝันต่อไปโดยพิจารณาจากสิ่งที่พวกเขาจะรับประทาน และขับเคลื่อนด้วยความปรารถนาที่จะมีสุขภาพที่ดีขึ้นและการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น

นิวยอร์ก–(BUSINESS WIRE)–23 มีนาคม 2023

วันนี้ American Express Travel® เผยแพร่ รายงานแนวโน้มการเดินทางทั่วโลกประจำปี 2023 โดยเน้นแนวโน้มระดับโลกสี่ประการที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนเดินทางในปีนี้:

American Express Travel's 2023 Global Travel Trends Report

รายงานแนวโน้มการเดินทางทั่วโลกปี 2023 ของ American Express Travel

  • การเพิ่มขึ้นของ "การท่องเที่ยวสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ (Set-Jetting)": ภาพยนตร์ รายการทีวี และโซเชียลมีเดียยอดนิยมกำลังสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนเดินทางไปยังสถานที่ที่พวกเขาเห็นบนหน้าจอ เช่น อิตาลี ปารีส เยลโลว์สโตน และลอนดอน
  • จุดหมายปลายทางแสนอร่อย: ตั้งแต่ร้านอาหารชั้นนำ อาหารท้องถิ่นจานโปรด ไปจนถึงชั้นเรียนทำอาหาร ผู้คนต่างเลือกจุดหมายปลายทางต่อไปโดยพิจารณาจากสิ่งที่พวกเขาจะกิน
  • คลื่นแห่งความสุข: การพักผ่อนเพื่อการฟื้นฟูกำลังเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากนักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับการดูแลตนเอง รวมถึงสุขภาพจิตและร่างกาย
  • เดินทางออกนอกเส้นทาง: นักท่องเที่ยวต้องการค้นพบอัญมณีที่ซ่อนอยู่และสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นเมื่อพวกเขามาเยือน

รายงานซึ่งอิงจากข้อมูลการสำรวจนักเดินทางจากสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา เม็กซิโก ญี่ปุ่น อินเดีย และสหราชอาณาจักร พบว่ามากกว่าครึ่ง (52%) ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าพวกเขาวางแผนที่จะเดินทางมากกว่านี้ ปีมากกว่าปีที่แล้ว และ 50% ของผู้ตอบแบบสอบถามวางแผนที่จะใช้เงินกับการเดินทางในปี 2023 มากกว่าปี 2022 84% ของ Gen Z และ Millennials ที่ทำแบบสำรวจอยากไปเที่ยวพักผ่อนในฝันมากกว่าซื้อของฟุ่มเฟือยชิ้นใหม่ และ 79% ยอมรับว่าให้ความสำคัญกับการจัดสรรงบประมาณสำหรับการเดินทาง

Audrey Hendley ประธาน American Express Travel กล่าวว่า "วันหยุดพักผ่อนเป็นสิ่งที่มีค่า และนักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับแผนการเดินทางส่วนบุคคลที่สร้างขึ้นจากความหลงใหลของพวกเขา ตั้งแต่การวางแผนวันหยุดทั้งหมดเพื่อจองอาหารค่ำมื้อเดียว ไปจนถึงรับวิดีโอที่สมบูรณ์แบบสำหรับ TikTok" "ไม่ว่าแรงบันดาลใจคืออะไร American Express Travel Consultants มีความเชี่ยวชาญในการช่วยนักเดินทางทุกประเภทวางแผนการเดินทางทุกประเภท"

ข้อมูลเชิงลึกยอดนิยมจากรายงานเทรนด์การเดินทางทั่วโลกปี 2023 ของ American Express Travel  รวมถึง:

  • วัฒนธรรมป๊อปและสื่อสังคมออนไลน์มีอิทธิพลต่อการเพิ่มขึ้นของ "การเดินทางโดยเครื่องบิน" โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่นักท่องเที่ยวอายุน้อย
    • 75% ของผู้ตอบแบบสอบถามยอมรับว่าพวกเขาได้รับแรงบันดาลใจให้เดินทางไปยังจุดหมายปลายทางแห่งใดแห่งหนึ่งจากโซเชียลมีเดีย
    • 70% ของ Gen Z และ Millennials ที่ทำแบบสำรวจยอมรับว่าพวกเขาได้รับแรงบันดาลใจให้ไปที่จุดหมายปลายทางหลังจากที่ได้เห็นสถานที่นั้นปรากฏในรายการทีวี แหล่งข่าว หรือภาพยนตร์
    • 46% ของ Gen Z และ Millennials ที่ทำแบบสำรวจกล่าวว่าพวกเขาได้รับแรงบันดาลใจให้เดินทางไปยังจุดหมายปลายทางเพราะ Instagram
  • ตั้งแต่การไปร้านอาหารชั้นนำและร้านโปรดในท้องถิ่นไปจนถึงการเรียนทำอาหาร อาหารมีผลกระทบอย่างมากต่อการเดินทางของผู้คน
    • 81% ของผู้ตอบแบบสอบถามยอมรับว่าการลองชิมอาหารและอาหารท้องถิ่นเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่พวกเขาตั้งตารอมากที่สุด
    • 66% ของ Gen Z และ Millennials ที่ทำแบบสำรวจยอมรับว่าพวกเขาได้รับแรงบันดาลใจในการกิน-เที่ยวส่วนใหญ่จากโซเชียลมีเดีย
    • เกือบครึ่ง (47%) ของ Gen Z และ Millennials ที่ทำแบบสำรวจยอมรับว่าพวกเขาได้วางแผนการเดินทางทั้งหมดเพื่อเยี่ยมชมร้านอาหารแห่งใดแห่งหนึ่ง
  • การจัดลำดับความสำคัญของการดูแลตนเองนำไปสู่การพักผ่อนเพื่อการพักผ่อนที่เพิ่มขึ้น
    • 73% ของผู้ตอบแบบสอบถามกำลังวางแผนวันหยุดพักผ่อนเพื่อให้สุขภาพจิต ร่างกาย และอารมณ์ดีขึ้นในปีนี้
    • 60% ของ Gen Z และ Millennials ที่ทำแบบสำรวจกล่าวว่าพวกเขาพยายามจองโรงแรมที่ให้บริการสปาและสุขภาพ
  • นักท่องเที่ยวต้องการค้นพบสิ่งเลอค่าที่ซ่อนอยู่และสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นที่พวกเขาไปเยี่ยมชม
    • 85% ของผู้ตอบแบบสอบถามต้องการไปสถานที่ที่สามารถสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง
    • 78% ของผู้ตอบแบบสอบถามสนใจไปเที่ยวพักผ่อนที่สนับสนุนชุมชนท้องถิ่นในปี 2023

เนื่องจากความต้องการเดินทางยังคงดำเนินต่อไปในปี 2023 American Express Travel จึงให้สมาชิกบัตรที่มีสิทธิ์ได้รับการเข้าถึงการเดินทางพิเศษ รวมถึงห้องรับรองสนามบินกว่า 1,400 แห่งผ่าน  Global Lounge Collection; ที่ปรึกษาด้านการเดินทางมากกว่า 7,000 คน; การจองร้านอาหารผ่าน Resy.com และคำแนะนำสถานที่กินที่ดูแลจัดการที่ Resy.com/Travel; สิทธิประโยชน์จากโรงแรมกว่า 2,000 แห่งทั่วโลกผ่าน Fine Hotels + Resorts®และThe Hotel Collection และอื่น ๆ

ดูรายงานแนวโน้มการเดินทางทั่วโลกของ American Express Travel 2023 ฉบับเต็มได้ที่นี่

เกี่ยวกับ AMERICAN EXPRESS

American Express เป็นบริษัทการชำระเงินแบบบูรณาการระดับโลก โดยให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์ ข้อมูลเชิงลึก และประสบการณ์ที่ยกระดับชีวิตและสร้างความสำเร็จทางธุรกิจ เรียนรู้เพิ่มเติม0ที่ americanexpress.com และเชื่อมต่อกับเราที่ facebook.com/americanexpressinstagram.com/americanexpresslinkedin.com/company/american-expresstwitter.com/americanexpress, และ youtube.com/americanexpress

ลิงก์สำคัญไปยังผลิตภัณฑ์ บริการ และข้อมูลความรับผิดชอบขององค์กร: บัตรส่วนบุคคลบัตรธุรกิจและบริการบริการการเดินทางบัตรของขวัญบัตรเติมเงินบริการร้านค้าAccertifyKabbage, Resyบัตรองค์กรการเดินทางเพื่อธุรกิจความหลากหลายและการรวมความรับผิดชอบขององค์กร และ รายงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

วิธีการ:

1รายงานแนวโน้มการเดินทางทั่วโลกประจำปี 2023 ของ American Express อ้างอิงจากข้อมูลที่ได้รับจากแบบสำรวจออนไลน์ที่จัดทำโดย Morning Consult ระหว่างวันที่ 3 – 11 กุมภาพันธ์ 2023 ในกลุ่มตัวอย่างนักเดินทาง 1,000 คนจากออสเตรเลีย แคนาดา อินเดีย ญี่ปุ่น เม็กซิโก สหราชอาณาจักร และผู้เดินทาง 2,000 คนในสหรัฐอเมริกาที่มีรายได้ครัวเรือนอย่างน้อย 70,000 ดอลลาร์เทียบเท่า และผู้ที่เดินทางโดยเครื่องบินอย่างน้อยปีละครั้ง ผลลัพธ์จากการสำรวจแต่ละตลาดมีข้อผิดพลาดบวกหรือลบ 3 จุดเปอร์เซ็นต์

2Gen Z และ Millennials หมายถึงผู้ตอบแบบสอบถามที่เกิดระหว่างปี 1981 – 2012

ผู้ขายการเดินทาง

American Express Travel Related Services Company, Inc. ทำหน้าที่เป็นตัวแทนขายสำหรับผู้จัดหาการเดินทางเท่านั้น และไม่รับผิดชอบต่อการกระทำหรือการเพิกเฉยของผู้จัดหาดังกล่าว ซัพพลายเออร์บางรายจ่ายค่าคอมมิชชันและสิ่งจูงใจอื่นๆ ให้เราเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการขายหรือเป้าหมายอื่นๆ และอาจให้สิ่งจูงใจแก่ที่ปรึกษาด้านการเดินทางของเรา ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  www.americanexpress.com/travelterms

แคลิฟอร์เนีย CST#1022318; วอชิงตัน UBI#600-469-694

ที่มา: American Express Company

สถานที่: นิวยอร์ก

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53366199/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

AMERICAN EXPRESS
Emily Vicker
Emily.Vicker@aexp.com

ที่มา: American Express




Mary Kay เน้นย้ำถึงความสำคัญของความเป็นผู้นำของผู้หญิงและการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในการอนุรักษ์ที่งาน World Ocean Summit 2023 ซึ่งจัดโดย Economist Impact

Logo

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–22 มีนาคม 2023 

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความยั่งยืนขององค์กรและผู้ลงนามในหลักการมหาสมุทรที่ยั่งยืนของ UN Global Compact ยังคงมีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์มหาสมุทร ในเดือนกุมภาพันธ์ แบรนด์ความงามนี้ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มที่ล้ำสมัยและเป็นมิตรกับผู้ใช้ โดยนำเสนอคำแนะนำอันทรงคุณค่า เครื่องมือสนับสนุนการตัดสินใจ และความรู้เชิงปฏิบัติสำหรับผู้ปฏิบัติงานทางทะเล หลังจากการประกาศ เมื่อไม่นานมานี้ Mary Kay ได้เข้าร่วมงาน World Ocean Summit และ Expo 2023 ครั้งที่ 10 ที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ซึ่งจัดโดย Economist Impact

Sandra Silva, Mary Kay Portugal’s General Manager participates on a panel on the topic of "Putting Coral Reef Restoration at the Heart of Ocean Conservation Action" at the World Ocean Summit in Lisbon, Portugal (Credit: Mary Kay Inc.).

Sandra Silva ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay Portugal เข้าร่วมการอภิปรายในหัวข้อ "Putting Coral Reef Restoration at the Heart of Ocean Conservation Action" ที่งาน World Ocean Summit ที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส (เครดิต: Mary Kay Inc.)

World Ocean Summit เป็นงานระดับโลกประจำปีที่รวบรวมภาคส่วนกว้างที่สุดของชุมชนมหาสมุทร ตั้งแต่ธุรกิจและการเงินไปจนถึงรัฐบาล ผู้กำหนดนโยบายระดับชาติและระดับนานาชาติ ภาคประชาสังคม และสถาบันการศึกษา ผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 1,500 คนจากกว่า 100 ประเทศเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสามวัน โดยมีวิทยากร 188 คนกล่าวถึงความท้าทายเร่งด่วนที่สุดที่มหาสมุทรต้องเผชิญ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และมลพิษ

Sandra Silva ผู้จัดการทั่วไปของ Mary Kay Portugal เป็นหนึ่งในผู้ร่วมอภิปรายที่โดดเด่นในการอภิปราย "Putting Coral Reef Restoration at the Heart of Ocean Conservation Action" ของการประชุมสุดยอด ซึ่งเธอได้เข้าร่วมกับวิทยากรที่มีชื่อเสียงคนอื่น ๆ เช่น Yabanex Batista จาก Global Fund for Coral Reefs (สหประชาชาติ), Tom Moore จาก King Abdullah University of Science and Technology (ซาอุดีอาระเบีย) และ Deborah Brosnan จาก Deborah Brosnan & Associates

Silva เน้นย้ำถึงความสำคัญของการอนุรักษ์มหาสมุทร โดยกล่าวว่า "มหาสมุทรมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของผู้คนหลายพันล้านคน และเราทุกคนมีบทบาทในการอนุรักษ์มหาสมุทรและเศรษฐกิจที่ได้จากมหาสมุทรอย่างยั่งยืน Mary Kay สนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิงในทุกด้านของชีวิตและธุรกิจ รวมถึงความสมบูรณ์ของโลกของเรา"

Martin Koehring หัวหน้าฝ่ายโครงการ World Ocean Initiative ของ Economist Impact กล่าวว่า "การรักษาโมเมนตัมต่อปฏิบัติการในมหาสมุทร ซึ่งรวมถึงผ่านการประชุมสุดยอดและสื่อสิ่งพิมพ์ของเรานั้นมีความสำคัญ ในปีนี้ การประชุมสุดยอดได้ผลักดันความก้าวหน้าโดยนำเสนอการประชุมข้ามอุตสาหกรรมเพื่อใช้ประโยชน์จากการทำงานร่วมกันและส่งเสริมการมีส่วนร่วมข้ามภาคส่วน การมีส่วนร่วมของ Mary Kay ใน World Ocean Summit และ Expo 2023 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการอนุรักษ์มหาสมุทรและความทุ่มเทในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน”

โครงการ World Ocean Initiative เปลี่ยนโมเมนตัมและจุดโฟกัสของ World Ocean Summit ให้เป็นโครงการตลอดทั้งปีในมหาสมุทรที่ขับเคลื่อนความสามารถทั้งหมดของ Economist Impact โดยผสมผสานความเฉลียวฉลาดของคลังความคิดเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ของแบรนด์สื่อเพื่อดึงดูดผู้ชมที่มีอิทธิพลทั่วโลก โครงการ World Ocean Initiative พยายามที่จะให้ความกระจ่าง กระตุ้น และปลูกฝังการทำงานร่วมกันที่ดีขึ้นระหว่างธุรกิจ ผู้กำหนดนโยบาย นักลงทุน นักวิทยาศาสตร์ และองค์กรพัฒนาเอกชน เพื่อแสวงหาแนวทางแก้ไขสำหรับความท้าทายและโอกาสในมหาสมุทรที่เร่งด่วนที่สุด

Mary Kay ทำงานเพื่อยกระดับสุขภาพของมหาสมุทรและการรับรู้แนวปะการังผ่านการเป็นพันธมิตรกับ The Nature Conservancy มานานกว่า 32 ปี หนึ่งในโครงการสำคัญที่ Mary Kay สนับสนุนเรียกว่า "Super Reefs" ซึ่งระบุ ปกป้อง และสร้างเครือข่ายแนวปะการังทั่วโลกที่มีความยืดหยุ่นสูงที่สามารถอยู่รอดได้ในมหาสมุทรที่ร้อนขึ้น

Dr. Elizabeth McLeod จาก The Nature Conservancy กล่าวว่า “ทีม Super Reefs รวบรวมรัฐบาลและชุมชนแนวปะการัง พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์มหาสมุทร การอนุรักษ์ และการจัดการจาก Woods Hole Oceanographic Institution, Stanford University และ The Nature Conservancy พร้อมด้วยการสนับสนุนจากภาคเอกชนจาก Mary Kay ในช่วงเวลาวิกฤตในประวัติศาสตร์ของแนวปะการัง”

คลิกที่นี่เพื่อชมการอภิปราย Putting Coral Reef Restoration At The Heart Of Ocean Conservation Action

คุณรู้หรือไม่?

  • CEO Water Mandate เป็นความคิดริเริ่มของ UN Global Compact ที่ระดมผู้นำทางธุรกิจเกี่ยวกับน้ำ สุขอนามัย และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (Mary Kay เป็นผู้ลงนามและเข้าร่วมในเดือนกุมภาพันธ์ 2021)
  • หลักการด้านมหาสมุทรที่ยั่งยืน ซึ่งจัดทำขึ้นโดยปรึกษาหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกว่า 300 ราย ได้จัดทำกรอบแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจที่มีความรับผิดชอบในภาคส่วนและภูมิภาคต่าง ๆ พวกเขาสร้างและเสริมหลักการสิบประการของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริต (Mary Kay เป็นผู้ลงนามและเข้าร่วมในเดือนกุมภาพันธ์ 2021)
  • มหาสมุทรมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจที่มีสุทธิเป็นศูนย์ มีความยืดหยุ่น และมีความเท่าเทียมกัน และส่งมอบวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนในปี 2030 ทั้งหมด ชุมชนธุรกิจทั่วโลกมีความรับผิดชอบร่วมกันในการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อรักษามหาสมุทรที่ดี (Mary Kay เป็นสมาชิกและเข้าร่วมในเดือนสิงหาคม 2022)

เกี่ยวกับ MARY KAY

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 1963 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันนั้นได้เบ่งบานกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ผืนดินและผืนน้ำที่ทุกชีวิตต้องพึ่งพา ด้วยแนวทางทางวิทยาศาสตร์ เราได้สร้างวิธีแก้ปัญหาที่เป็นนวัตกรรมบนพื้นฐานสำหรับความท้าทายที่ยากที่สุดในโลกของเรา เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถเติบโตไปด้วยกันได้ เรากำลังจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์ผืนดิน น้ำ และมหาสมุทรในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดหาอาหารและน้ำอย่างยั่งยืน และช่วยให้เมืองมีความยั่งยืนมากขึ้น เราทำงานใน 76 ประเทศและดินแดน 37 แห่งโดยผลกระทบด้านการอนุรักษ์โดยตรง และ 39 แห่งโดยคู่ค้า เราใช้วิธีการทำงานร่วมกันที่มีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่น รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่น ๆ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดไปที่ www.nature.org หรือติดตาม @nature_press บน Twitter

เกี่ยวกับโครงการ World Ocean Initiative

World Ocean Initiative ของ Economist Impact สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจมหาสมุทรที่ยั่งยืนโดยจัดการกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ทะเลของเราเผชิญ ซึ่งก็คือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และมลพิษ ตลอดทั้งปีและที่งาน World Ocean Summit ซึ่งเป็นเรือธงของเรา เราสร้างแรงบันดาลใจในการคิดที่กล้าหาญ เริ่มความร่วมมือใหม่ ๆ และสำรวจการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อดาวเคราะห์สีฟ้าที่สมบูรณ์ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ impact.economist.com/ocean

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53366240/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Mary Kay Inc. Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc.








Mary Kay Inc. ได้รับการรับรองจาก Forest Stewardship Council และเฉลิมฉลองปลูกต้นไม้ 1.3 ล้านต้นร่วมกับมูลนิธิ Arbor Day

Logo

เนื่องในวันป่าไม้สากล Mary Kay เน้นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการอนุรักษ์และการแก้ปัญหาที่อิงกับธรรมชาติ

ดัลลาส–(BUSINESS WIRE)–21 มีนาคม 2023

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและความยั่งยืนขององค์กร กำลังฉลองวันป่าไม้สากลโดยเน้นการรับรองล่าสุดจาก Forest Stewardship Council® (FSC®)

Mary Kay Inc., a global advocate for corporate social responsibility and sustainability, is celebrating International Day of Forests by highlighting its recent certification from the Forest Stewardship Council® (FSC®). (Credit: Mary Kay Inc.)

Mary Kay Inc. ผู้สนับสนุนระดับโลกด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและความยั่งยืนขององค์กร กำลังฉลองวันป่าไม้สากลโดยเน้นการรับรองล่าสุดจาก Forest Stewardship Council® (FSC®) (เครดิต: Mary Kay Inc.)

ใบรับรองนี้ใช้กับศูนย์การพิมพ์และภาพดิจิทัลของ Mary Kay ซึ่งตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัททั่วโลกและศูนย์กระจายสินค้าระดับภูมิภาคที่ตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัสตอนเหนือ และเป็นการยืนยันความมุ่งมั่นของ Mary Kay ในการสนับสนุนการป่าไม้อย่างมีความรับผิดชอบโดยใช้วัสดุรีไซเคิล FSC 100% หรือแหล่งกระดาษผสม FSC สำหรับการพิมพ์เชิงพาณิชย์ โดยใช้กระดาษสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกไปทั่วโลกเป็นหลัก

FSC® เป็นองค์กรระดับโลกที่ไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งส่งเสริมการจัดการป่าไม้อย่างมีความรับผิดชอบทั่วโลกโดยกำหนดมาตรฐานตามหลักการที่ตกลงร่วมกันสำหรับการดูแลป่า ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ การรับรอง FSC หมายถึงการจัดหาอย่างยั่งยืนที่ให้ความสำคัญกับป่าและผู้คนเป็นอันดับแรก รวมถึงรับประกันว่าผลิตภัณฑ์นั้นมาจากป่าที่มีการจัดการอย่างมีความรับผิดชอบ

“เราภูมิใจในความก้าวหน้าในเส้นทางสู่ความยั่งยืนของเรา” กล่าวโดย Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Mary Kay “ใบรับรอง FSC เป็นผลมาจากการทำงานอย่างหนักเป็นเวลาหลายเดือน การเตรียมการ การนำโปรโตคอลใหม่ไปใช้ และการฝึกอบรม ความสำเร็จนี้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Mary Kay ที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและความเป็นเลิศทางธุรกิจ”

บริษัทด้านความงามและผู้ประกอบการระดับโลกที่มีชื่อเสียงแห่งนี้กำหนดจะเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีในปี 2023 โดยสานต่อพันธสัญญาที่มีมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษในการเพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตทั่วโลกและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ปีนี้ Mary Kay ยังฉลองการเป็นหุ้นส่วน 15 ปีกับมูลนิธิ Arbor Day Foundation ความร่วมมือของ Mary Kay และมูลนิธิ Arbor Day เริ่มขึ้นในปี 2008 ซึ่งมีประเด็นสำคัญ ดังนี้

  • ในปี 2008 ที่ปรึกษาด้านความงามอิสระของ Mary Kay ได้เข้าร่วมในโครงการรีไซเคิลโดยปลูกต้นไม้ในป่าที่ต้องการนำคอมแพคเก่าทั้งหมดมารีไซเคิล ด้วยความพยายามในการรีไซเคิลระดับประเทศโดยที่ปรึกษาด้านความงามอิสระและลูกค้า รวมถึงพนักงานของบริษัท ทำให้ Mary Kay บรรลุเป้าหมายการรวบรวมคอมแพคเก่า 200,000 ชิ้น
  • ตั้งแต่ปี 2009 ถึง 2012 ความร่วมมือของ Mary Kay กับมูลนิธิ Arbor Day Foundation ได้สนับสนุนห้องเรียน Nature Explore ในที่พักพิงสำหรับความรุนแรงในครอบครัว เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีสถานที่ที่ปลอดภัยในการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ
  • ตั้งแต่ปี 2013 Mary Kay เริ่มสนับสนุนโครงการปลูกป่าขนาดใหญ่ทั่วโลก รวมถึงสหรัฐอเมริกา บราซิล จีน เยอรมนี ไอร์แลนด์ เปรู และมาดากัสการ์
  • ในปี 2018 ขณะที่ Mary Kay ตัดริบบิ้นที่โรงงาน Richard R. Rogers Manufacturing / R&D แห่งใหม่ใน Lewisville รัฐเท็กซัส บริษัทได้ฉลองความสำเร็จในการปลูกต้นไม้ครบหนึ่งล้านต้นด้วยการปลูกต้นไม้ในพิธีที่ไซต์งาน
  • จนถึงวันนี้ Mary Kay และมูลนิธิ Arbor Day Foundation ได้ปลูกต้นไม้ 1.3 ล้านต้นร่วมกัน และยังคงทำงานต่อไปเพื่อสร้างผลกระทบในอนาคต

“ความมุ่งมั่นที่ยั่งยืนของ Mary Kay ได้แสดงให้เห็นแล้วในการสนับสนุนโครงการผสมผสานที่หลากหลายซึ่งปลูกต้นไม้ที่เหมาะสมในสถานที่ที่เหมาะสม ทำให้ความร่วมมือครั้งนี้เป็นความร่วมมือที่พิเศษอย่างแท้จริง” กล่าวโดย Katie Loos ประธานมูลนิธิ Arbor Day Foundation “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การทำงานร่วมกันของเราได้เติบโตขึ้นเพื่อสร้างผลกระทบในระดับโลกในด้านป่าไม้ที่มีความจำเป็นมากที่สุด Mary Kay เข้าใจความหมายและสิ่งที่จำเป็นในการเป็นเจ้าหน้าที่บริการที่ดีต่อระบบนิเวศและชุมชนที่เปราะบางที่สุดของเรา และเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นอนาคตของความร่วมมือนี้ที่รออยู่สำหรับโลกใบนี้”

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของ Mary Kay ในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนได้ที่ https://marykayglobal.com/sustainability/

เกี่ยวกับ Mary Kay

Mary Kay Ash คือหนึ่งในผู้ที่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคที่มองไม่เห็น และก่อตั้งบริษัทความงามของตัวเองขึ้นในปี 1963 โดยมีเป้าหมายหนึ่งคือเติมเต็มชีวิตให้กับผู้หญิง ความฝันนั้นได้เบ่งบานกลายเป็นบริษัทมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ ในฐานะบริษัทพัฒนาผู้ประกอบการ Mary Kay มุ่งมั่นที่จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในการเดินทางผ่านการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน เครือข่าย และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงาม และผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอาง อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการทำให้ชีวิตดีขึ้นในวันนี้เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ จากทั่วโลกที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความเป็นเลิศทางธุรกิจ สนับสนุนการวิจัยโรคมะเร็ง ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ปกป้องผู้รอดชีวิตจากการความรุนแรงในครอบครัว ทำให้ชุมชนของเราสวยงาม และส่งเสริมให้เด็ก ๆ ทำตามความฝัน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com พบกับเราบน FacebookInstagram, และ LinkedIn หรือติดตามเราบน Twitter

เกี่ยวกับ the Arbor Day Foundation

มูลนิธิ Arbor Day Foundation ก่อตั้งขึ้นในปี 1972 และเติบโตจนกลายเป็นองค์กรสมาชิกที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ใหญ่ที่สุดที่อุทิศตนเพื่อการปลูกต้นไม้ โดยมีสมาชิก ผู้สนับสนุน และพันธมิตรที่ทรงคุณค่ามากกว่าหนึ่งล้านคน ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิ Arbor Day Foundation ปลูกต้นไม้เกือบ 500 ล้านต้นในละแวกใกล้เคียง ชุมชน เมือง และป่าทั่วโลก วิสัยทัศน์ของเราคือการนำไปสู่โลกที่ต้นไม้ถูกนำมาใช้ในการแก้ปัญหาที่มีความสำคัญต่อการอยู่รอด

ในฐานะหนึ่งในมูลนิธิที่ดำเนินงานเพื่อการอนุรักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มูลนิธิ Arbor Day Foundation ผ่านสมาชิก พันธมิตร และโครงการต่าง ๆ ได้ให้ความรู้และสนับสนุนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและชุมชนต่าง ๆ ทั่วโลกให้มีส่วนร่วมในภารกิจการปลูก บำรุงเลี้ยง และเฉลิมฉลองต้นไม้ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ arborday.org

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53365297/en

ติดต่อ

Mary Kay Inc.
การสื่อสารองค์กร
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

ที่มา: Mary Kay Inc.





งานประชุม ‘Medical Korea 2023 Conference’ เกี่ยวกับโอกาสของอุตสาหกรรมการแพทย์ทั่วโลกจะเริ่มขึ้นในวันที่ 23 มีนาคมที่ Coex

Logo

โซล, เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–22 มีนาคม 2023

กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ (Ministry of Health and Welfare – MOHW) และ สถาบันพัฒนาอุตสหกรรมเกาหลี (Korea Health Industry Development Institute – KHIDI) จะเป็นเจ้าภาพงาน Medical Korea 2023 ซึ่งเป็นงานประชุมสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ระดับโลก ในโซลตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม (วันพฤหัสบดี) ถึง 24 มีนาคม (วันศุกร์), 2023

Medical Korea 2023 Conference, which celebrates its 13th this year, will be held as a large-scale offline event in three years after the outbreak of COVID-19, from March 23 to 24 at Coex in SEOUL. (Graphic: Business Wire)

การประชุม Medical Korea 2023 ซึ่งฉลองครบรอบ 13 ปีในปีนี้ จะจัดขึ้นเป็นงานออฟไลน์ขนาดใหญ่ในรอบ 3 ปีหลังจากการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 23 ถึง 24 มีนาคมที่ Coex ในกรุงโซล (กราฟิก: Business Wire)

การประชุมจะจัดขึ้นเป็นกิจกรรมออฟไลน์ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีหลังจากการระบาดของ โควิด-19

Medical Korea 2023 เป็นหนึ่งในการประชุมด้านการดูแลสุขภาพระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี โดยมีเป้าหมายให้อุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพของเกาหลีเป็นโลกาภิวัตน์

การประชุมเริ่มต้นด้วยการบรรยายประเด็นสำคัญโดย Jamie Metzl นักอนาคตด้านเทคโนโลยีและการดูแลสุขภาพ และ Hwang Hee ซีอีโอของ Kakao Healthcare การบรรยายประกอบด้วย 4 ฟอรัมและการสัมมนา 6 รายการซึ่งครอบคลุมหัวข้อต่างๆ เช่น แนวโน้มการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ การฝึกอบรมออนไลน์ บันทึกสุขภาพส่วนบุคคล การดูแลสุขภาพแบบดิจิทัล และกลยุทธ์การขยายขนาดสำหรับธุรกิจการแพทย์ระหว่างประเทศในระดับภูมิภาค โดยมีวิทยากร 65 คนเข้าร่วม

โปรแกรมต่างๆ เช่น การประชุมทางธุรกิจ นิทรรศการ (ศูนย์ประสบการณ์ด้านการดูแลสุขภาพแบบดิจิทัลและห้องโถงส่งเสริมสำหรับระบบการประเมินและรับรองผู้ป่วยต่างชาติ) การประชุม G2G ฯลฯ มีไว้เพื่อส่งเสริมการค้นพบช่องทางเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ผ่านการแลกเปลี่ยนระหว่าง ผู้ซื้อในต่างประเทศและผู้ขายในประเทศ และการขยายสู่ตลาดต่างประเทศโดยอุตสาหกรรมสุขภาพ

ในฟอรัม ผู้เข้าร่วมสามารถสำรวจแนวโน้มล่าสุดในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพทั่วโลกและโอกาสสำหรับความร่วมมือด้านการดูแลสุขภาพผ่านนโยบายการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ทำนายการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมด้านการดูแลสุขภาพที่เกิดจากการแพร่กระจายของ My Data และเรียนรู้ความคิดเห็นของผู้เข้ารับการฝึกอบรม จากประเทศมองโกเลียและอุซเบกิสถานในโครงการอบรมส่งเสริมธุรกิจ MKA e-class เป็นต้น

ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับเชิญเป็นวิทยากร ได้แก่

  • Mohd Daud Mohd Arif (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, Malaysia Healthcare Travel Council (MHTC))
  • Napas Paorohitya (ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์)
  • Hiang Khoon Tan (ผู้อำนวยการ, SingHealth Duke-NUS Global Health Institute -SDGHI)
  • Dmytro Butov (ศาสตราจารย์ภาควิชา Phthisiology and Pulmonology, Kharkiv National Medical University)
  • Kim Ju Han (ศาสตราจารย์วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล)

KHIDI ได้กำหนดให้ 'เฉพาะถิ่น', 'การแพทย์ทางไกล', 'บันทึกสุขภาพส่วนบุคคล', 'การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์' และ 'การบำบัดดิจิทัล (Digital Therapeutics – DTx)' เป็นคำหลัก 5 อันดับแรกสำหรับเทรนด์การดูแลสุขภาพทั่วโลกในปี 2566

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Medical Korea 2023:  www.mkconf.org  เวทีหลักในการประชุม Medical Korea 2023:  https://mkconf.org/fairProgram.do?selAction=single_page&program_idx=50&program_type=P&hl=ENG&FAIRMENU_IDX=12605#/

ชมภาพ/มัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53364494/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Medical Korea 2023
Hwan Guk Park
+82-43-713-8972
hwank21@khidi.or.kr

ที่มา: สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสุขภาพเกาหลี (KHIDI)

MIR4 อัปเดต ‘การแย่งชิงซาบัค’ เพื่อกำหนดแคลนที่ทรงพลังที่สุด

Logo

การแย่งชิงซาบัค สงครามยึดปราสาทสไตล์ทัวร์นาเมนต์ระหว่างแคลนของราชาของทุกเซิร์ฟเวอร์

ได้รับอำนาจในการจัดการดินแดนปราสาทซาบัค ปรับภาษี และอื่น ๆ เมื่อกลายเป็นแคลนของจักรพรรดิ

มีการจัดกิจกรรมเช็กอินที่มีไอเทมต่าง ๆ เพื่อเฉลิมฉลองการอัปเดตเนื้อเรื่องใหม่

โซล เกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–21 มีนาคม 2023

MIR4 เกม MMORPG ระดับบล็อกบัสเตอร์ของ Wemade ได้อัปเดตการแย่งชิงซาบัค สงครามยึดปราสาทระหว่างแคลนหนึ่งกับอีกแคลนหนึ่ง ในวันที่ 21 มีนาคม

MIR4 Updates ‘Sabuk Clash,’ a tournament style Castle Siege content to determine the Emperor’s Clan, on March 21 (Graphic: Wemade)

MIR4 อัปเดต 'การแย่งชิงซาบัค' สงครามยึดปราสาทสไตล์ทัวร์นาเมนต์เพื่อกำหนดแคลนของจักรพรรดิในวันที่ 21 มีนาคม (กราฟิก: Wemade)

“การแย่งชิงซาบัค” เป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับสงครามยึดปราสาทสไตล์ทัวร์นาเมนต์ที่แคลนของราชาจากเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดในแต่ละภูมิภาครวมตัวกันในเซิร์ฟเวอร์ปราบปราม และต่อสู้เพื่อเป็นแคลนของจักรพรรดิ เฉพาะแคลนของราชาปราสาทบิชอนเท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมได้ แคลนที่ชนะจะกลายเป็นแคลนของจักรพรรดิ ซึ่งสามารถเก็บภาษีจากราชาของเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดในแต่ละภูมิภาค ปรับอัตราภาษีส่วนบุคคลต่อเซิร์ฟเวอร์ และได้รับอำนาจในการจัดการอาณาเขตปราสาทซาบัค

รอบแรกเริ่มวันที่ 26 มีนาคม เวลา 22.00 น. และรอบใหม่จะจัดขึ้นทุกสัปดาห์ รวมเป็น 3 รอบตลอด 3 สัปดาห์ ในรอบแรก แคลนทั้งหมด 16 แคลนต่อสู้เพื่อยึดหนึ่งใน 8 เสาหินที่วางอยู่ใน 8 พื้นที่ และ 8 แคลนที่ชนะจะได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ในรอบที่สอง 4 จาก 8 แคลนจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไป และจากทั้ง 4 แคลนในรอบสุดท้าย แคลนเดียวที่สามารถยึดศิลายึดครองได้สำเร็จจะกลายเป็นแคลนของจักรพรรดิ

แคลนที่ชนะจะได้รับ 50,000 ทองแดงแคลนเป็นรางวัล หัวหน้าแคลนของแคลนที่ชนะจะกลายเป็นจักรพรรดิและได้รับอำนาจในการแต่งตั้งตำแหน่ง ปรับอัตราภาษี มอบรางวัล และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ จักรพรรดิยังได้รับม้าศึกซาบัค ซึ่งเป็นพาหนะเฉพาะตัวของจักรพรรดิอีกด้วย

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการแต่งตั้งจักรพรรดิองค์ใหม่ ผู้เล่นทุกคนในทุกเซิร์ฟเวอร์จะได้รับ “ของขวัญหลวงจากจักรพรรดิแห่งซาบัค” ในวันหลังจากรอบที่ 3 สิ้นสุดลง ของขวัญประกอบด้วยไอเทมต่าง ๆ เช่น "น้ำมันมังกรฮีโร่แห่งพร" "กล่องเหล็กมังกรหายาก" และอื่น ๆ

MIR4 จัดกิจกรรมเช็คชื่อสองครั้งเพื่อเฉลิมฉลองการอัปเดตของการแย่งชิงซาบัค อย่างแรก กิจกรรม “เช็คชื่อให้กำลังใจ7 วันการแย่งชิงซาบัคของบองบอง” จะมอบ “กล่องยาของบองบอง” ระดับหายากให้กับผู้เล่นที่มีบัฟโพชั่นจนถึงวันที่ 3 เมษายน นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมถึง 17 เมษายน "ศิลาเสริมพลังวัตถุโบราณมังกรของมังกรศักดิ์สิทธิ์" "กล่องชิ้นส่วนอาถรรพ์หายาก (Rare Mystical Piece Box)" และไอเทมอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการเติบโตสามารถรับได้จากกิจกรรม "เช็คชื่อ14 วันยุคแห่งสงคราม"

ในขณะเดียวกัน "กิจกรรมเช็คชื่อ14 วันแห่งความมืด" และ "กิจกรรมพรมังกรศักดิ์สิทธิ์" จะจัดขึ้นจนถึงวันที่ 3 เมษายนเพื่อเฉลิมฉลองการอัปเดตคลาสใหม่ ซึ่งก็คือ เซียนเต๋ามืด

จากการต่อสู้ของฉัน สู่สงครามของเรา! ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับ MIR4 สามารถพบได้บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53365147/en

ติดต่อ

Wemade Co., Ltd. (112040: KOSDAQ)
Jennifer Jung ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
jennifer@wemade.com

ที่มา: Wemade Co., Ltd.

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี เลือกใช้โซลูชัน Strategic Cloud ของ Charles River

Logo

เมลเบิร์น ออสเตรเลีย–(BUSINESS WIRE)–21 มีนาคม 2023

Charles River® Development บริษัทในเครือ State Street ประกาศว่า บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ. กรุงศรี) ซึ่งเป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์ชั้นนำของไทยและเป็นลูกค้าระยะยาว ได้เปลี่ยนการดำเนินงานของสำนักงานส่วนหน้าไปสู่แพลตฟอร์มบนคลาวด์ของ Charles River โดย บลจ. กรุงศรี ใช้ Charles River Investment Management Solution (Charles River IMS) สำหรับกองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่สนับสนุนประเภทตราสารทุน ตราสารหนี้ และตราสารอนุพันธ์

“การเปลี่ยนไปใช้การส่งมอบและบริการบนคลาวด์ใน Charles River IMS ทำให้เราสามารถปรับปรุงรูปแบบการดำเนินงานของเราให้ทันสมัย และมอบความสามารถที่ทันสมัยที่สุดให้กับทีมการจัดการพอร์ตโฟลิโอ การซื้อขาย และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ” กล่าวโดย นายประเสริฐ อิ่มพรรุจี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บลจ. กรุงศรี “โซลูชันนี้สนับสนุนการดำเนินงานด้านการลงทุนของเราและทำให้ทรัพยากรภายในมีอิสระมากขึ้นเพื่อมุ่งเน้นไปที่ลำดับความสำคัญของธุรกิจของเราทั้งหมด ในขณะที่จัดการต้นทุนด้วยเทคโนโลยีที่คาดการณ์ได้และสนับสนุนการใช้จ่าย”

“Charles River มีประวัติอันยาวนานในการเป็นพันธมิตรกับลูกค้าในประเทศไทย และยังคงให้การสนับสนุนฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” กล่าวโดย Martin Hofmeyr ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Charles River Development “แพลตฟอร์มของเราช่วยให้บริษัทต่าง ๆ เช่น บลจ. กรุงศรี บรรลุเป้าหมายด้วยการควบคุมต้นทุนที่ดีขึ้นและใช้ประโยชน์จากความสามารถล่าสุดที่แพลตฟอร์มของเรามีให้ในระดับที่พวกเขาต้องการ”

เกี่ยวกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ. กรุงศรี) เป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำในประเทศไทย นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย ได้แก่ กองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และการจัดการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1996 ในชื่อ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อยุธยา จาร์ดีนเฟลมมิ่ง (AJF) และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด ในปี 2011 ด้วยการสนับสนุนของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นธนาคารแม่ที่เป็นสมาชิกของ MUFG (กลุ่มการเงินระดับโลก) บลจ. กรุงศรีเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยสินทรัพย์รวมภายใต้การจัดการ (AUM) 540,691 ล้านบาท (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2022) บลจ. กรุงศรีนำเสนอกองทุนที่หลากหลายผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลายเพื่อเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่ม รวมถึงเครือข่ายสาขาของธนาคารกรุงศรีอยุธยากว่า 600 แห่ง ตลอดจนตัวแทนขายในประเภทต่าง ๆ เช่น ธนาคาร หลักทรัพย์ หลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายกองทุนรวม และบริษัท Fintech บลจ. กรุงศรีมุ่งมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม บริการที่โดดเด่น และผลตอบแทนที่มั่นคงแก่ลูกค้าของเรา สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.krungsriasset.com

เกี่ยวกับ Charles River, A State Street Company

ผู้จัดการการลงทุน ความมั่งคั่งและทางเลือก เจ้าของสินทรัพย์ และบริษัทประกันในกว่า 30 ประเทศไว้วางใจให้ Charles River IMS จัดการสินทรัพย์มูลค่า 48 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อรวมกับบริการสำนักงานกลางและส่วนหลังของ State Street เทคโนโลยีสำนักงานส่วนหน้าที่ใช้งานบนคลาวด์ของ Charles River จะสร้างรากฐานของ State Street Alpha℠ โดย Charles River ช่วยทำให้กระบวนการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ เป็นไปโดยอัตโนมัติและง่ายขึ้น ตั้งแต่การจัดการพอร์ตโฟลิโอและการวิเคราะห์ความเสี่ยงไปจนถึงการซื้อขายและการส่งมอบหลังการซื้อขาย ด้วยการปฏิบัติตามข้อกำหนดแบบบูรณาการและข้อมูลที่จัดการทั้งหมด ระบบนิเวศพันธมิตรของ Charles River ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูล การวิเคราะห์ แอปพลิเคชัน และผู้ให้บริการสภาพคล่องที่สนับสนุนผลิตภัณฑ์และประเภทสินทรัพย์ของพวกเขา เราให้บริการลูกค้าทั่วโลกด้วยพนักงานมากกว่า 1,250 คนในสำนักงานภูมิภาค 11 แห่ง (สถิติ ณ ไตรมาส 4 ปี 2022)

เกี่ยวกับ State Street Corporation
State Street Corporation (NYSE: STT) เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำของโลกแก่นักลงทุนสถาบัน รวมถึงบริการด้านการลงทุน การจัดการการลงทุน และการวิจัยการลงทุนและการซื้อขาย ด้วยสินทรัพย์ภายใต้การดูแลและ/หรือการบริหารมูลค่า 36.7 ล้านล้านดอลลาร์ และสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ 3.5 ล้านล้านดอลลาร์* ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2022 โดย State Street ดำเนินงานทั่วโลกในตลาดทางภูมิศาสตร์มากกว่า 100 แห่ง และมีพนักงานประมาณ 42,000 คนทั่วโลก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ State Street ที่ www.statestreet.com

*สินทรัพย์ภายใต้การจัดการ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2022 รวมถึงสินทรัพย์ประมาณ 59 พันล้านดอลลาร์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ SPDR® ซึ่ง State Street Global Advisors Funds Distributors, LLC (SSGA FD) ทำหน้าที่เป็นตัวแทนการตลาดแต่เพียงผู้เดียว SSGA FD และ State Street Global Advisors เป็นบริษัทในเครือ

© 2023 State Street Corporation – สงวนลิขสิทธิ์

State Street Corporation, One Lincoln St, Boston MA 02111

การจัดจำแนกข้อมูล: ทั่วไป

5474056.1.1.GBL

ติดต่อ

มีเดีย
Kellie Smith
kelliesmith@crd.com
+61 3 8628 0100 ext: 1171

ที่มา: Charles River Development

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

Laxman Narasimhan เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Starbucks

Logo

ซีแอตเทิล–(BUSINESS WIRE)–20 มีนาคม 2023

Starbucks (NASDAQ: SBUX) ประกาศในวันนี้ว่า Laxman Narasimhan เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและจะเข้าร่วมคณะกรรมการบริหารของบริษัท Narasimhan ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นซีอีโอคนใหม่เมื่อวันที่  วันที่ 1 กันยายน 2022 สืบทอดตำแหน่งต่อจากผู้ก่อตั้งบริษัทและปัจจุบันเป็นอดีตซีอีโอ Howard Schultz

Laxman Narasimhan has assumed the role of Starbucks chief executive officer and will join the company’s board of directors. (Photo: Business Wire)

Laxman Narasimhan เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Starbucks และจะเข้าร่วมในคณะกรรมการบริหารของบริษัท (ภาพ: Business Wire)

หลังจากการค้นหาผู้นำคนใหม่ของ Starbucks ทั่วโลก Narasimhan เข้าร่วมบริษัทในฐานะซีอีโอคนใหม่ในวันที่ 1 ตุลาคม 2022 พร้อมประสบการณ์เกือบ 30 ปีในการเป็นผู้นำระดับโลกสำหรับธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคและให้คำปรึกษาแก่บริษัทค้าปลีก ร้านขายของชำ ร้านอาหาร และบริษัทอีคอมเมิร์ซ ในช่วงห้าเดือนที่ผ่านมา เขาได้เริ่มต้นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร เดินทางไปทำงานร่วมกับหุ้นส่วน (พนักงาน) ในร้านค้ากว่า 30 แห่ง โรงงานผลิต และศูนย์สนับสนุนทั่วโลก และได้รับใบรับรองบาริสต้าไปในขณะเดียวกัน เขาหมกมุ่นอยู่กับแผนการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ของบริษัทที่นำโดย Schultz ซึ่งกลับมาเป็นซีอีโอชั่วคราวโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2022

นับตั้งแต่ Schultz กลับมาเมื่อปีที่แล้ว Starbucks ได้เปิดตัวกลยุทธ์การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ทั่วทั้งบริษัท และยังคงส่งมอบเงินลงทุนมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์แก่พันธมิตรผู้ค้าปลีกและร้านค้าสำหรับส่วนงานสำคัญ เช่น การเพิ่มเงินค่าจ้างและเวลาลาป่วย ความเป็นอยู่ที่ดีทางการเงินแบบใหม่ สิทธิประโยชน์ การฝึกอบรมและการทำงานร่วมกันที่ทันสมัย นวัตกรรมร้านค้าและอุปกรณ์ และการเฉลิมฉลองธุรกิจกาแฟ โดยเห็นได้จากราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น 47 เปอร์เซ็นต์สำหรับรายได้รวมจากไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2022 ไปจนถึงรายได้รวมในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2023 และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเพิ่มขึ้นประมาณ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน บริษัทยังส่งมอบผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นรวม 50% ในช่วงเวลานี้ ซึ่งแซงหน้า S&P 500 ไปอย่างมาก Starbucks ยังได้รับเลือกให้เป็นแบรนด์ร้านอาหารที่มีมูลค่าสูงสุดติดต่อกันเป็นปีที่ 7 โดย Brand Finance

Schultz ได้แสดงจดหมายถึงทีมผู้นำระดับสูงของบริษัทในวันก่อนการประกาศ โดยสามารถดูได้  ที่นี่

“คณะกรรมการขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อผู้ก่อตั้งของเรา Howard Schultz ในการแสดงถึงความเป็นผู้นำเมื่อได้รับการร้องขอ โดยละทิ้งค่าตอบแทนและประโยชน์ของตนเอง เพื่อความรักที่มีต่อบริษัทและหุ้นส่วนของเรา” Mellody Hobson ประธานคณะกรรมการอิสระของ Starbucks กล่าว “เราคงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา”

Narasimhan เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารอย่างเป็นทางการในวันนี้ และจะเป็นผู้นำการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีของ Starbucks ในวันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคมนี้ ในขณะที่เขาก้าวเข้าสู่บทบาทนี้ Narasimhan จะยังคงมีส่วนร่วมกับทีมผู้นำต่อไป แบ่งปันการเรียนรู้และข้อมูลเชิงลึกในช่วงแรกของเขา และประเมินโอกาสสำหรับบริษัทในขณะที่พวกเขาวางผังเส้นทางการเดินไปข้างหน้า

“ความทุ่มเทอย่างเต็มที่ในธุรกิจของ Laxman ประกอบกับประสบการณ์ที่กว้างขวางของเขาในฐานะผู้สร้างแบรนด์ ผู้ริเริ่ม และผู้ดำเนินการที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ได้เตรียมเขาให้พร้อมอย่างมีเอกลักษณ์เพื่อนำ Starbucks ไปสู่ระยะต่อไปของการเติบโต” Hobson กล่าว “การมีส่วนร่วมนี้ทำให้ Laxman เข้าใจวัฒนธรรมและค่านิยมของสตาร์บัคส์อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ในช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้และการรับฟังนี้ เขาชนะใจและความคิดของพันธมิตรของเราทั่วโลกแล้ว”

“ฉันมีความยินดีในการก้าวเข้าสู่บทบาทอย่างเป็นทางการในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Starbucks ซึ่งเป็นผู้นำทีมอันน่าทึ่งของเราซึ่งมีพาร์ทเนอร์ผ้ากันเปื้อนสีเขียวมากกว่า 450,000 รายทั่วโลก รากฐานที่ Howard ได้วางไว้ ซึ่งได้แก่ การสร้างแบรนด์ระดับโลกอันโดดเด่นตั้งแต่เริ่มต้นซึ่งได้รับแรงหนุนจากความหลงใหลอันยาวนานในการยกระดับมนุษยชาติ นับเป็นสิ่งที่น่าทึ่งอย่างแท้จริง และผมรู้สึกเป็นเกียรติที่มีโอกาสสานต่อมรดกอันลึกซึ้งนี้” Narasimhan กล่าว “ในฐานะธุรกิจที่เชื่อมโยงกับมนุษย์ เรามีความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัดที่เราสามารถนำเสนอให้แก่พันธมิตร ลูกค้า นักลงทุน และชุมชนของเราผ่านทุกแก้วและทุกเรื่องราว ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรของเราทั่วโลกเพื่อปลดล็อกอนาคตที่ไร้ขีดจำกัดของ Starbucks”

เกี่ยวกับ Starbucks

ตั้งแต่ปี 1971 บริษัท Starbucks Coffee มุ่งมั่นที่จะจัดหาและคั่วกาแฟอาราบิก้าคุณภาพสูงอย่างมีจริยธรรม ปัจจุบัน บริษัทมีร้านค้ามากกว่า 36,000 แห่งทั่วโลก เป็นผู้คั่วและผู้ค้าปลีกกาแฟชนิดพิเศษชั้นนำของโลก ด้วยความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ต่อความเป็นเลิศและหลักการชี้นำของเรา เราจึงนำประสบการณ์สตาร์บัคส์ที่ไม่เหมือนใครมาสู่ชีวิตสำหรับลูกค้าทุกคนผ่านทุกแก้ว หากต้องการแบ่งปันประสบการณ์ สามารถเข้าเยี่ยมชมร้านค้าของเราหรือทางออนไลน์ที่ stories.starbucks.com www.starbucks.com

ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า

ข้อความบางข้อความในเอกสารนี้เป็นข้อความ "คาดการณ์ล่วงหน้า" ตามความหมายของกฎหมายและข้อบังคับหลักทรัพย์ที่บังคับใช้ โดยทั่วไป ข้อความเหล่านี้สามารถระบุได้โดยใช้คำต่างๆ เช่น "จุดมุ่งหมาย" "คาดการณ์" "เชื่อ" "ดำเนินการต่อ" "สามารถ" "ประเมิน" "คาดหวัง" "รู้สึก" " คาดการณ์” “ตั้งใจ” “อาจ” “แนวโน้ม” “วางแผน” “ศักยภาพ” “ทำนาย” “โครงการ” “แสวงหา” “ควร” “จะ” “จะ” และการแสดงออกที่คล้ายกัน มีจุดประสงค์เพื่อระบุข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต แม้ว่าข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าบางข้อความไม่ได้ประกอบด้วยคำที่ระบุถึงเหล่านี้ ข้อความเหล่านี้อาจรวมถึงข้อความที่เกี่ยวข้องกับแนวโน้มหรือความคาดหวังที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบของความคิดริเริ่ม กลยุทธ์ การลงทุน และแผนที่มีอยู่และในอนาคตของเรา รวมถึงแผนการสร้างสรรค์ใหม่ของเรา ตลอดจนแนวโน้มหรือความคาดหวังเกี่ยวกับผลลัพธ์ทางการเงินของเราและระยะยาว รูปแบบการเติบโตระยะและไดรเวอร์ การดำเนินงานของเราในสหรัฐอเมริกาและจีน ความพยายามด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลของเรา พันธมิตรของเรา แนวโน้มเศรษฐกิจและผู้บริโภค รวมถึงผลกระทบจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ผลกระทบจากการแปลงค่าเงินตราต่างประเทศ การดำเนินการกำหนดราคาเชิงกลยุทธ์ การแปลงการดำเนินงานของตลาดบางอย่างเป็นรูปแบบที่ได้รับอนุญาตอย่างสมบูรณ์ แผนการของเราในการปรับปรุงการดำเนินงานของเรา รวมถึงการเปิด การปิดร้าน และการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและโมเดลของร้านค้า ความสำเร็จของความสัมพันธ์ด้านใบอนุญาตของเรากับเนสท์เล่ ของสินค้าบรรจุภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคและธุรกิจบริการด้านอาหาร และผลกระทบที่มีต่อผลลัพธ์ของส่วนการพัฒนาช่องทางการขายของเรา อัตราภาษี โอกาสทางธุรกิจ การขยายตัว และความคิดริเริ่มใหม่ๆ รวมถึง Starbucks Odyssey การเข้าซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์ โปรแกรมเงินปันผลของเรา ต้นทุนสินค้าและกลยุทธ์การลดของเรา สภาพคล่อง กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน การลงทุน ความสามารถในการกู้ยืม และการใช้เงินของเรา การปฏิบัติตามพันธสัญญาของเราอย่างต่อเนื่องภายใต้วงเงินสินเชื่อและโปรแกรมเอกสารเชิงพาณิชย์ของเรา การส่งเงินสดกลับประเทศสหรัฐอเมริกา โอกาสในการออกหนี้เพิ่มเติมและอัตราดอกเบี้ยที่เกี่ยวข้อง ผลกระทบอย่างต่อเนื่องของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อผลประกอบการทางการเงินของเรา และความพร้อมในอนาคตของเงินอุดหนุนจากรัฐบาลสำหรับโควิด-19 หรือกิจกรรมด้านสาธารณสุขอื่นๆ การเปลี่ยนแปลงซีอีโอของเรา โครงการซื้อหุ้นคืนของเรา การใช้เงินสดและความต้องการเงินสดของเรา ผลกระทบที่คาดว่าจะได้รับจากการประกาศทางบัญชีใหม่และผลกระทบโดยประมาณของการเปลี่ยนแปลงกฎหมายภาษีของสหรัฐอเมริกา รวมถึงอัตราภาษี การลงทุนที่ได้รับทุนสนับสนุนจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้และผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้น และผลของการดำเนินคดี ข้อความดังกล่าวอ้างอิงจากข้อมูลการดำเนินงาน การเงิน และการแข่งขันที่มีอยู่ในปัจจุบัน และอยู่ภายใต้ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนต่างๆ ผลลัพธ์และแนวโน้มในอนาคตที่แท้จริงอาจแตกต่างกันอย่างมากโดยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ผลกระทบต่อเนื่องของโควิด-19 ต่อธุรกิจของเรา มาตรการกำกับดูแลหรือการดำเนินการโดยสมัครใจที่อาจนำมาใช้เพื่อจำกัดการแพร่กระจายของโควิด-19 รวมถึงข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจหรือข้อกำหนดการเว้นระยะห่างทางสังคม และระยะเวลาและประสิทธิภาพของข้อจำกัดดังกล่าว การฟื้นตัวจากการติดเชื้อโควิด-19 และการไหลเวียนของสายพันธุ์ใหม่ของโควิด-19 ความผันผวนของเศรษฐกิจและสกุลเงินของสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ ความสามารถของเราในการรักษา เติบโต และใช้ประโยชน์จากแบรนด์ของเรา ความสามารถของพันธมิตรทางธุรกิจและผู้ให้บริการบุคคลที่สามในการปฏิบัติตามความรับผิดชอบและคำมั่นสัญญาของพวกเขา ผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยที่เกิดจากอาหารหรือเครื่องดื่ม การปลอมแปลง การปลอมปน การปนเปื้อน หรือการติดฉลากผิด ผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นจากการละเมิดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของเราในขอบเขตที่เราประสบกับการละเมิดเนื้อหา ความล้มเหลวที่สำคัญของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของเรา ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับและการดำเนินการให้สำเร็จตามความคิดริเริ่มและแผนของบริษัท ความคิดริเริ่มและแผนใหม่หรือการแก้ไขความคิดริเริ่มหรือแผนที่มีอยู่ ความสามารถของเราในการขอสินเชื่อตามเงื่อนไขที่ยอมรับได้ การยอมรับผลิตภัณฑ์ของบริษัทจากลูกค้าของเรา การพัฒนาความชอบและรสนิยมของผู้บริโภค และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค การลงทุนของพันธมิตร การเปลี่ยนแปลงในความพร้อมและต้นทุนของแรงงาน รวมถึงความพยายามในการจัดตั้งสหภาพแรงงานและการตอบสนองของเราต่อความพยายามดังกล่าว ความล้มเหลวในการดึงดูดหรือรักษาความสามารถของผู้บริหารหรือพนักงานคนสำคัญไว้ หรือประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร ต้นทุนโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ผลกระทบของการแข่งขัน ความเสี่ยงโดยธรรมชาติในการดำเนินธุรกิจระดับโลก รวมถึงผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ราคาและความพร้อมของกาแฟ นม และวัตถุดิบอื่นๆ ผลของกระบวนการทางกฎหมาย และผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงกฎหมายภาษีและคำแนะนำและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องที่อาจนำมาใช้ รวมถึงกฎหมายว่าด้วยการลดอัตราเงินเฟ้อปี 2022 และความเสี่ยงอื่น ๆ ซึ่งมีรายละเอียดอยู่ในเอกสารที่เรายื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงใน "ปัจจัยความเสี่ยง" และ "คำอธิบายของฝ่ายบริหาร" และการวิเคราะห์สถานะทางการเงินและผลการดำเนินงาน” ในส่วนรายงานประจำงวดของบริษัทที่ยื่นล่าสุดในแบบฟอร์ม 10-K และแบบฟอร์ม 10-Q และเอกสารที่ยื่นตามมา

ข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าไม่ใช่ทั้งการคาดการณ์หรือการรับประกันเหตุการณ์หรือสถานการณ์ในอนาคต และเหตุการณ์หรือสถานการณ์ในอนาคตเหล่านั้นอาจไม่เกิดขึ้น คุณไม่ควรเชื่อถือข้อความคาดการณ์ล่วงหน้ามากเกินไป ซึ่งกล่าวถึง ณ วันที่เผยแพร่เท่านั้น เราไม่มีภาระผูกพันในการปรับปรุงหรือแก้ไขข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าใดๆ ไม่ว่าจะเป็นผลมาจากข้อมูลใหม่ เหตุการณ์ในอนาคตหรืออื่นๆ

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่https://www.businesswire.com/news/home/53364481/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

Starbucks Contact, Media:
Reggie Borges
press@starbucks.com  
206-240-2953

แหล่งที่มา: Starbucks

The Bangkok Reporter