SciMed (Asia) บริษัทฝ่ายขายและบริการด้านชีววิทยาศาสตร์ในเครือของ PHC Holdings Corporation กลายเป็นบริษัทในเครืออย่างเต็มตัวจากการเข้าซื้อกิจการเพื่อขยายธุรกิจของ PHC Group เพื่อสนับสนุนนักวิจัยและผู้ให้บริการด้านสุขภาพในเอเชียแปซิฟิก

Logo

โตเกียว–(BUSINESS WIRE)–15 มิถุนายน 2023

PHC Holdings Corporation (สำนักงานใหญ่: มินาโตะ โตเกียว ญี่ปุ่น, ประธาน กรรมการผู้แทน และซีอีโอ: Shoji Miyazaki ซึ่งต่อไปเรียกบริษัทนี้ว่า PHCHD) ประกาศว่า บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นที่เหลืออีก 30% ของบริษัทในเครือ SciMed (Asia) Pte. Ltd. (สำนักงานใหญ่: สิงคโปร์ ซึ่งต่อไปเรียกบริษัทนี้ว่า SciMed) ทำให้ SciMed กลายเป็นบริษัทในเครือของ PHCHD อย่างเต็มตัว โดยก่อนหน้านี้ PHCHD ถือหุ้นใน SciMed อยู่ 70% PHC Group บริษัทระดับโลกที่ประกอบด้วย PHCHD และบริษัทในเครือ จะใช้การซื้อกิจการครั้งนี้เพื่อขยายธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ไปทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

SciMed นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านชีววิทยาศาสตร์ ซึ่งรวมถึงตู้แช่แข็งอุณหภูมิต่ำพิเศษและตู้อบ CO2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และโอเชียเนีย นับตั้งแต่ปี 1992 PHC Group และกลุ่มบริษัทก่อนหน้าได้ร่วมมือกับ SciMed เพื่อขยายธุรกิจในภูมิภาคเหล่านี้ผ่านเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่กว้างขวาง ตลอดจนความเชี่ยวชาญในสาขาชีววิทยาศาสตร์ของ SciMed และความสามารถในการให้บริการของตน ในเดือนกรกฎาคม 2020 นั้น PHCHD เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน SciMed จาก 14.99% เป็น 70% ซึ่งทำให้กลายเป็นบริษัทในเครือของ PHCHD*

ตลาดอุปกรณ์ชีววิทยาศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคาดว่าจะเติบโตอย่างมาก โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการขยายตัวระดับภูมิภาคในอุตสาหกรรมเภสัชกรรมและการสร้างสถาบันทางการแพทย์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของชีวเภสัชภัณฑ์ เช่น ยาแอนติบอดีและวัคซีน ในฐานะบริษัทในเครืออย่างเต็มตัว SciMed จะสามารถบรรลุความร่วมมือเชิงลึกกับแผนกและบริษัทในเครืออื่น ๆ ของ PHC Group และปรับปรุงโครงสร้างการขายและการตลาดทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และโอเชียเนีย สิ่งนี้จะส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ และเร่งการสร้างโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่สนับสนุนนักวิจัยและผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่เผชิญกับความท้าทายในการพัฒนาการรักษาขั้นสูง

Nobuaki Nakamura เจ้าหน้าที่องค์กรและหัวหน้าร่วมฝ่ายการวินิจฉัยและชีววิทยาศาสตร์ของ PHCHD กล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับ SciMed ในฐานะบริษัทในเครืออย่างเต็มตัวของเรา เราได้ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ SciMed กลายเป็นบริษัทในเครือในปี 2020 โดย SciMed มีความพร้อมที่ดีที่จะกลายเป็นสถานที่ปฏิบัติการในเอเชียสำหรับธุรกิจอื่น ๆ ของ PHC Group ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งจะขยายกิจกรรมการขายในธุรกิจที่มีอยู่และส่งเสริมการเข้าถึงขอบเขตของการรักษาขั้นสูงอย่างเต็มรูปแบบ เช่น เซลล์บำบัดและยีนบำบัด PHC Group จะยังคงสนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างธุรกิจทั่วโลกของเรา และมีส่วนร่วมในการส่งเสริมนักวิจัยในการพัฒนาวิธีการรักษาขั้นสูงเพื่อช่วยสร้างอนาคตของการดูแลสุขภาพที่ดีขึ้น"

ภาพรวมของ SciMed
ชื่อบริษัท: SciMed (Asia) Pte. Ltd.
สำนักงานใหญ่: สิงคโปร์
ก่อตั้ง: 1992
กรรมการผู้จัดการ: Sachihiko Kataoka
ธุรกิจ: การขายและบริการอุปกรณ์และสินค้าอุปโภคบริโภคด้านชีววิทยาศาสตร์
จำนวนพนักงาน: 75 (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2023)
จำนวนไซต์ธุรกิจ: 1

www.phchd.com/global/news/2020/0707

เกี่ยวกับ PHC Holdings Corporation

PHC Holdings Corporation (TSE 6523) เป็นบริษัทด้านการดูแลสุขภาพระดับโลกที่มีพันธกิจในการสนับสนุนสังคมสุขภาพผ่านโซลูชันด้านการดูแลสุขภาพที่มีผลกระทบเชิงบวกและพัฒนาชีวิตของผู้คน โดยมีบริษัทย่อยในเครือ ได้แก่ PHC Corporation, Ascensia Diabetes Care Holdings AG, Epredia Holdings Ltd., Wemex Corporation และ LSI Medience Corporation บริษัทเหล่านี้ร่วมกันพัฒนา ผลิต จำหน่าย และให้บริการโซลูชันด้านการจัดการโรคเบาหวาน โซลูชันด้านการดูแลสุขภาพ การวินิจฉัย และชีววิทยาศาสตร์ ยอดขายสุทธิรวมในปีงบประมาณ 2022 อยู่ที่ 356.4 พันล้านเยน โดยมีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการทั่วโลกในกว่า 125 ประเทศและภูมิภาค PHC Group เป็นคำเรียกรวมที่หมายรวมถึง PHC Holdings Corporation และบริษัทย่อยในเครือทั้งหมด
URL: www.phchd.com

เกี่ยวกับ SciMed (Asia) Pte. Ltd.

SciMed (Asia) Pte. Ltd. มีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ เป็นผู้ให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการชั้นนำในด้านชีวการแพทย์ ชีววิทยาศาสตร์ การดูแลสุขภาพ การค้นคว้ายา เวชภัณฑ์ ห้องปฏิบัติการ การทดสอบทางอุตสาหกรรม และตลาดเกษตรกรรม SciMed ได้กลายเป็นบริษัทในเครือของ PHC Holding Corporation อย่างเต็มตัวในปี 2023 เพื่อพัฒนาการขายและการตลาดในธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และโอเชียเนีย
URL: scimed.com.sg/about-scimed

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ช่องทางติดต่อสำหรับสื่อ
Hiroko Arai
ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร
PHC Holdings Corporation
+81-3-6778-5311
อีเมล: phc-cp@gg.phchd.com

ฝ่ายการตลาด แผนกชีวการแพทย์
PHC Corporation
+80-4816-3259
อีเมล: masayo.okada@phchd.com

แหล่งที่มา: PHC HOLDINGS CORPORATION

Macnica ให้บริการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ด้านมอเตอร์ในประเทศทวีปเอเชีย Mpression Smart Motor Sensor ในอาเซียน

Logo

ลดเวลาหยุดทำงานของเครื่องจักรและเพิ่มประสิทธิภาพด้านค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสำหรับลูกค้าในอุตสาหกรรมการผลิต

โยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–16 มิถุนายน 2023

Macnica, Inc. (สำนักงานใหญ่: โยโกฮามา จังหวัดคานางาวะ ประธาน: Kazumasa Hara ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า Macnica) ผู้ให้บริการโซลูชันและบริการแบบครบวงจรในด้านเซมิคอนดักเตอร์ เครือข่าย ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และ AI/IoT ได้เปิดตัว Mpression Smart Motor Sensor ในอาเซียน ซึ่งเป็นโซลูชันที่ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาโดย Analog Devices, Inc (NASDAQ: ADI สำนักงานใหญ่: แมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ผู้บริหารสูงสุด: Vincent Roche ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า Analog Devices) โดยมี Macnica Cytech Pte Ltd ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Macnica เป็นผู้จำหน่าย Mpression Smart Motor Sensor ในกลุ่มประเทศอาเซียน

Image : Sensor device attachment and dashboard (Graphic: Business Wire)

สิ่งที่แนบมากับอุปกรณ์เซ็นเซอร์และแดชบอร์ด (กราฟิก: Business Wire)

Image : Sensor device attachment and dashboard (Graphic: Business Wire)

คุณสมบัติ 3 ประการของเซ็นเซอร์มอเตอร์อัจฉริยะ (กราฟิก: Business Wire)

Mpression Smart Motor Sensor สามารถนำไปใช้กับระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ และการตรวจสอบ เช่น ยา อาหารและเครื่องดื่ม พลังงาน สาธารณูปโภคด้านน้ำ กระดาษ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ

Macnica Smart Motor Sensor

เครื่องมือนี้เป็นโซลูชัน OEM จาก Macnica ซึ่งประกอบด้วยฮาร์ดแวร์ที่ติดตั้งเซ็นเซอร์ MEMS ความแม่นยำสูงพิเศษที่พัฒนาโดย Analog Devices และซอฟต์แวร์เฉพาะ การติดตั้งฮาร์ดแวร์ดำเนินการโดยติดเซ็นเซอร์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เข้ากับครีบระบายความร้อนของมอเตอร์ และการตั้งค่าเริ่มต้นผ่านแอปสมาร์ทโฟน เมื่อใช้งาน ระบบแมชชีนเลิร์นนิง AI จะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ และหลังจากผ่านไประยะหนึ่ง ระบบจะสร้างโมเดล AI ขึ้นอัตโนมัติเพื่อตรวจจับความผิดปกติ ซึ่งช่วยให้เซ็นเซอร์รวบรวมข้อมูลการสั่นสะเทือน อุณหภูมิ และข้อมูลสนามแม่เหล็กได้ เพื่อให้สามารถตรวจสอบผ่านพีซี สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต พร้อมส่งการแจ้งเตือนในกรณีที่เกิดความผิดปกติ

ความผิดปกติของมอเตอร์ที่ตรวจจับได้มีอยู่ 9 ประเภท โดยแต่ละประเภทจะวิเคราะห์ด้วยค่าปกติที่เป็นอิสระจากกันที่ 0-10 ซึ่งจะช่วยให้ทำการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์เพื่อลดการขัดข้องกะทันหันและเวลาหยุดทำงานได้ โดยไม่ต้องมีความรู้พิเศษเกี่ยวกับการวิเคราะห์การสั่นสะเทือนหรือ AI

– ความผิดปกติของมอเตอร์ 9 ประเภท –

ระบบไฟ

เพลามอเตอร์/บาลานซ์

การจัดตำแหน่ง

ขดลวดสเตเตอร์ (การตรวจประเมินฉนวน)

ระยะเยื้องศูนย์ (ช่องว่างอากาศ)

ระบบระบายความร้อน

โรเตอร์

ลูกปืน

การสึกหรอของเครื่องจักร

เครื่องมือนี้ช่วยให้สามารถกำหนดเวลาสำหรับการบำรุงรักษา ซ่อมแซม และยกเครื่องได้อย่างเหมาะสมโดยดูจากข้อมูล และสามารถดำเนินการในช่วงเวลาทำงานปกติ จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและป้องกันการหยุดทำงานในเวลาเดียวกัน การเพิ่มประสิทธิภาพการบำรุงรักษาและการยกเครื่องส่งผลให้มอเตอร์ทำงานได้อย่างเหมาะสม และกระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพในกรณีที่ไม่สามารถหยุดการทำงานของมอร์เตอร์ในโรงงานได้ หรือหากหยุดทำงานอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจ Macnica ได้จัดทำระบบ Digital Synergy Factory (DSF) ซึ่งเป็นบริการสำหรับโรงงานอัจฉริยะแห่งอนาคตที่ใช้ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในอุตสาหกรรมการผลิต และจะขยายการสนับสนุนไปยังสาขาการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ด้วยการจัดหา Macnica Smart Motor Sensor โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.cytechglobal.com/products/analog-devices/mpression-smart-motor-sensor

จัดแสดงสินค้าที่งาน Thailand Manufacturing Expo และ Vietnam Industrial and Manufacturing Fair

บริษัท Macnica Cytech Pte Ltd/Analog Devices จะจัดแสดงสินค้าที่งาน "Thailand Manufacturing Expo 2023" ซึ่งจะจัดขึ้นที่ไบเทค – กรุงเทพฯ ประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 21 ถึง 24 มิถุนายน 2023 (วันพุธ-วันเสาร์) และที่งาน "Vietnam Industrial and Manufacturing Fair 2023 – Binh Duong" ซึ่งจะจัดขึ้นที่ World Trade Center Binh Duong New City (WTC) – บิ่นห์เยือง ประเทศเวียดนาม ตั้งแต่วันที่ 21 ถึง 23 มิถุนายน 2023 (วันพุธ-วันศุกร์)

เราจะจัดแสดงสินค้าและสาธิต "Mpression Smart Motor Sensor" ที่งานแสดงเหล่านี้ที่จัดแสดงเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ทำให้ระบบอัตโนมัติและประสิทธิภาพการดำเนินงานในโรงงานผลิตเป็นจริง

  • ชื่องานแสดงสินค้า: Thailand Manufacturing Expo 2023
  • ผู้จัดงาน: RX Tradex
  • สถานที่: ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค – กรุงเทพฯ ประเทศไทย – บูธ 0C46 (ชื่อผู้แสดงสินค้า: Macnica Cytech Pte Ltd/Analog Devices)
  • วันที่: 21 ถึง 24 มิถุนายน 2023 (วันพุธ-วันเสาร์)
  • https://www.manufacturing-expo.com/

  • ชื่องานแสดงสินค้า: Vietnam Industrial and Manufacturing Fair 2023 – Binh Duong
  • ผู้จัดงาน: OMG Events
  • สถานที่: World Trade Center Binh Duong New City (WTC) – บิ่นห์เยือง ประเทศเวียดนาม – บูธ 214 (ชื่อผู้แสดงสินค้า: Macnica Cytech Pte Ltd/Analog Devices)
  • วันที่: 21 ถึง 23 มิถุนายน 2023 (วันพุธ-วันศุกร์)
  • https://vietnamindustrialfiesta.com/

* ชื่อบริษัทและผลิตภัณฑ์ที่กล่าวถึงในข้อความเป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ Macnica และบริษัทอื่น ๆ ข้อมูลที่อยู่ในข่าวประชาสัมพันธ์นี้รวมถึงผลิตภัณฑ์ ราคา และข้อมูลจำเพาะ เป็นข้อมูลปัจจุบัน ณ วันที่เผยแพร่ โปรดทราบว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Analog Devices

บริษัท Analog Devices, Inc. (NASDAQ: ADI) ดำเนินงานด้านเศรษฐกิจดิจิทัลสมัยใหม่เป็นหลัก โดยแปลงปรากฏการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริงให้เป็นข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริงด้วยชุดสัญญาณแอนะล็อกและสัญญาณผสมที่ครอบคลุม การจัดการพลังงาน คลื่นความถี่วิทยุ (RF) และเทคโนโลยีดิจิทัลและเซ็นเซอร์ ADI ให้บริการลูกค้ากว่า 125,000 รายทั่วโลกด้วยผลิตภัณฑ์มากกว่า 75,000 รายการในตลาดอุตสาหกรรม การสื่อสาร ยานยนต์ และผู้บริโภค ADI มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่วิลมิงตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ไปที่ https://www.analog.com/en/index.html

เกี่ยวกับ Macnica

นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 1972 Macnica ได้ให้บริการด้านเซมิคอนดักเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครือข่าย และผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับแนวหน้าด้วยเทคโนโลยีที่มีมูลค่าเพิ่มสูง Macnica พัฒนาธุรกิจใหม่อย่างแข็งขันในด้าน AI, IoT, การขับขี่อัตโนมัติและวิทยาการหุ่นยนต์ โดยอาศัยจุดแข็งของบริษัทในการจัดหาทรัพยากรทั่วโลกและการวางแผนเชิงกลยุทธ์สำหรับเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก

Macnica ยึดถือสโลแกน "Co.Tomorrowing" (สร้างอนาคตร่วมกัน) โดยเชื่อมโยงเทคโนโลยีระดับแนวหน้าเข้ากับระบบอัจฉริยะของ "Macnica" เพื่อมอบบริการและโซลูชันที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงสร้างคุณค่าทางสังคมและเอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาสังคมในอนาคตให้ดียิ่งขึ้น Macnica มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในโยโกฮาม่า และขยายธุรกิจทั่วโลกครอบคลุม 23 ประเทศ/ภูมิภาค และ 81 แห่งทั่วโลก โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.macnica.co.jp/en/

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53419378/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ช่องทางติดต่อสำหรับสื่อ:
Macnica Cytech Pte Ltd: https://www.macnica.com/asean-india
โทรศัพท์: +65 6396 0200
อีเมล: cyg_inquiry@macnica.com

แหล่งที่มา: Macnica, Inc.



J&J Green Paper และ Sintesa Group ประสานความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อผลิตสารเคลือบกระดาษที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและต่อสู้กับขยะพลาสติกทั่วโลก

Logo

ไมอามี–(BUSINESS WIRE)–14 มิถุนายน 2023

J&J Green Paper, Inc. (JJGP) บริษัทในเดลาแวร์ของสหรัฐอเมริกา ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระดับโลกกับ Sintesa Group บริษัทการลงทุนเชิงกลยุทธ์ชั้นนำของอินโดนีเซียที่สืบทอดมายาวนานกว่าหนึ่งศตวรรษ โดยมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านการลงทุนเพื่อผลกระทบเชิงบวก

การร่วมทุนนี้จะนำเอาเทคโนโลยีที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของ JJGP และความเป็นผู้นำอันเหนือชั้นของ Sintesa Group มาใช้เพื่อสร้างกำลังการผลิตทั่วโลกสำหรับ JANUS® ซึ่งเป็นสารเคลือบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับบรรจุภัณฑ์กระดาษที่พัฒนาโดย JJGP โดยนำมาใช้แทนโพลิเอทิลีนและกำจัดความอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับโพลิเอทิลีน

JANUS เป็นสารเคลือบกันความชื้นจากธรรมชาติที่ใช้สำหรับบรรจุภัณฑ์กระดาษ เป็นเทคโนโลยีที่รีไซเคิลได้ ย่อยสลายได้ และนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ทำให้สามารถใช้แทนโพลิเอทิลีนที่ใช้ในผลิตภัณฑ์กระดาษแบบดั้งเดิมในปัจจุบันได้ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาการกำจัดขยะทั่วโลกและการทำลายสิ่งแวดล้อม JANUS เป็นสารประกอบที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพด้วยแนวทางห่วงโซ่คุณค่าอาหารที่ยั่งยืน ตลอดจนการใช้งานและคุณประโยชน์หลากหลายที่สอดคล้องกับปรัชญาของ Sintesa

"ความมุ่งมั่นของ Sintesa ในการส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนที่เป็นประโยชน์ต่อผู้คนและโลกนั้นสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของเราอย่างสมบูรณ์แบบ" Rick Bulman ประธาน JJGP กล่าว "เรารู้สึกตื่นเต้นและพร้อมที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในเชิงบวกที่เป็นรูปธรรมในอินโดนีเซียและทั่วทั้งโลกด้วยการส่งเสริมแนวทางใหม่ในการจัดการความอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมของโพลิเอทิลีน"

Sintesa Group เริ่มต้นจากการเป็นธุรกิจครอบครัวที่มีความปรารถนาที่จะรักษาความยืดหยุ่นในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงยึดถือความยั่งยืนเป็นแนวทางกลยุทธ์ที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ ภายใต้การนำของ Abyasa Kamdani สมาชิกในครอบครัวรุ่นที่สี่ Sintesa มั่นใจว่าการลงทุนในอนาคตจะสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทในการเป็นบริษัทที่มีความเป็นเลิศอย่างยั่งยืน

"เรามุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรที่มีความคิดก้าวหน้าที่สามารถช่วยแก้ปัญหาอย่างเป็นผล เพื่อสร้างภูมิทัศน์ทางธุรกิจที่ยั่งยืนมากขึ้น และท้ายที่สุดคือโลกที่ยั่งยืน" Kamdani หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ Sintesa กล่าว "การสร้างอนาคตที่ดีขึ้นนั้นอยู่ในมือของเรา โดยการมุ่งมั่นเพื่อสร้างความสมดุลทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดี ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง" บริษัทของเราและ JJGP จะร่วมกันมีส่วนร่วมในการสร้างเศรษฐกิจสีเขียวในกลุ่มประเทศอาเซียนโดยการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ปฏิวัติวงการ ตลอดจนช่วยสนับสนุนการเกษตร จัดการความเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่มีความรับผิดชอบ"

Bulman ตอบรับความพยายามนี้ โดยกล่าวว่าเทคโนโลยียั่งยืนที่นำมาใช้ในอินโดนีเซียนั้นคาดว่าจะผลักดันความคิดริเริ่มในการพัฒนาทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียนในอีกหลายปีข้างหน้า เขาเสริมว่าเร็ว ๆ นี้ JJGP จะเปิดตัวพันธมิตรที่ปรึกษาเพิ่มเติมทั่วโลกซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนวัตถุประสงค์ของบริษัทในสหรัฐอเมริกา เอเชีย และภูมิภาคอื่น ๆ

"ความสามารถที่หลากหลายของ JANUS จะช่วยให้ไม่มีผลิตภัณฑ์จำนวนมากกองทิ้งไว้ในบ่อขยะเป็นเวลาหลายศตวรรษอีกต่อไป" Bulman กล่าว "นั่นเป็นเป้าหมายของเรามาโดยตลอด และเรามั่นใจว่าการร่วมทุนครั้งนี้จะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมากและรวดเร็วกว่าที่ผู้บริโภคคาดคิด"

เกี่ยวกับ Sintesa Group

Sintesa Group เป็นบริษัทการลงทุนเชิงกลยุทธ์ชั้นนำของอินโดนีเซียที่มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเป็นเลิศอย่างยั่งยืน Sintesa Group (PT Widjajatunggal Sejahtera) เริ่มต้นจากการเป็นธุรกิจครอบครัวในปี 1919 และได้เปลี่ยนเป็นบริษัทโฮลดิ้งมืออาชีพที่มุ่งเน้นการสร้างธุรกิจใหม่ตลอดจนการพัฒนาความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ใหม่กับผู้เล่นทางธุรกิจที่มีศักยภาพ Sintesa Group ดำเนินการธุรกิจภายใต้ 4 เสาหลัก ได้แก่ ทรัพย์สิน สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าอุตสาหกรรม และพลังงาน และบริหารจัดการบริษัทในเครือมากกว่า 15 แห่ง โดยมีบริษัทสองแห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย Sintesa Group รวมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) เข้ากับโมเดลธุรกิจและหลักการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบโดยพัฒนาแผนการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG Roadmap) ของตนเอง ที่เรียกว่า Sintesa for the Earth (Sintesa เพื่อโลก) เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ของบริษัทในการเป็นบริษัทที่มีความเป็นเลิศอย่างยั่งยืน

www.sintesagroup.com

เกี่ยวกับ J&J Green Paper

J&J Green Paper, Inc. เป็นบริษัทในเดลาแวร์ สหรัฐอเมริกา ที่ได้พัฒนาสารประกอบที่ได้รับการจดสิทธิบัตรและมีกระบวนการผลิตจากธรรมชาติทั้งหมดจนเป็นกระดาษกันความชื้น ซึ่งไม่เพียงแค่กำจัดปิโตรเคมีที่พบในกระดาษมาตรฐานและบรรจุภัณฑ์กระดาษ และก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการสลายตัวของกระดาษเหล่านั้นเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติเป็นไปตามมาตรฐานที่เข้มงวดของสหภาพยุโรปและประเทศต่าง ๆ ในการกำจัดพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งด้วย โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.jjgreenpaper.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Inka Prawirasasra
AVP ฝ่ายสื่อสารองค์กรและความยั่งยืน
Sintesa Group
inka.prawirasasra@sintesagroup.com
085282807879

แหล่งที่มา: J&J Green Paper, Inc.

KRAFTON เปิดลงทะเบียนล่วงหน้าทั่วโลกสำหรับ Defense Derby

Logo

ผู้เล่นที่ลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับเกม Defense Derby บน Google Play, App Store และ Galaxy Store จะได้รับรางวัลเปิดตัวสุดพิเศษ

กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–14 มิถุนายน 2023

RisingWings ซึ่งเป็นสตูดิโออิสระของ KRAFTON, Inc. ได้เปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้าทั่วโลกสำหรับเกม Defense Derby เกมมือถือแนวป้องกันเชิงกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ที่กำลังจะมีบน Google Play, App Store ของ Apple และ Galaxy Store ของ Samsung

KRAFTON opened pre-registration worldwide for its real-time strategy defense mobile game Defense Derby (Graphic: KRAFTON)

KRAFTON เปิดลงทะเบียนล่วงหน้าทั่วโลกสำหรับเกมมือถือแนวป้องกันเชิงกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ Defense Derby (กราฟิก: KRAFTON)

เปิดใจให้กับเกมแนวป้องกันป้อม Defense Derby ผลักดันผู้เล่นเข้าสู่การแข่งขันแบบเป็นรอบ ซึ่งพวกเขาต้องเผชิญกับกลยุทธ์ที่เข้มข้น เกมจิตวิทยา และการจัดคอมโบที่ทรงพลัง แต่ละรอบจะเริ่มต้นด้วย "การประมูลยูนิต" ซึ่งผู้เล่นทั้ง 4 คนจะต้องแย่งชิงผู้พิทักษ์เพื่อจัดทัพให้กับเหล่าฮีโร่ของพวกเขา จากนั้นผู้เล่นจะต้องวางผู้พิทักษ์ของตนอย่างมีกลยุทธ์ เพื่อใช้สกิลเฉพาะตัวของเหล่าผู้พิทักษ์ในการป้องกันการรุกรานจากเหล่ามอนสเตอร์ ผู้เล่นที่รอดชีวิตจากมอนสเตอร์และยังคงปกป้องปราสาทไว้ได้จะเป็นผู้ชนะในการแข่งขัน

การลงทะเบียนล่วงหน้าสำหรับ Defense Derby ยังคงเปิดอยู่จนกว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปลายปีนี้ ผู้ที่ลงทะเบียนล่วงหน้าจะได้รับ 'แพ็กเกจต้อนรับ' เมื่อเปิดตัว ซึ่งเต็มไปด้วยโบนัสในเกม เช่น 20,000 ทอง การ์ดฮีโร่หายาก การ์ดยูนิตหายาก และสกินปราสาทแบบพิเศษ Google Play, App Store และ Galaxy Store รองรับการลงทะเบียนล่วงหน้าของ Defense Derby สำหรับอุปกรณ์ Android และ iOS

ด้วยการพัฒนาของ Defense Derby ในขั้นตอนสุดท้าย RisingWings มุ่งเน้นที่การปรับปรุงคุณภาพการเล่นเกม ผู้เข้าร่วมทดสอบการเข้าถึงล่วงหน้าที่สำรวจเมื่อต้นปีนี้ให้คะแนนเกมสูง ส่งผลให้คะแนนความพึงพอใจอยู่ที่ 4.6 เต็ม 5 คะแนน โดยจะมีกำหนดวางจำหน่ายในกว่า 190 ประเทศทั่วโลกในปีนี้ Defense Derby จะมีให้บริการทั้งหมด 9 ภาษา รวมถึงไทยเช่นกัน

สำหรับการอัปเดตล่าสุดของ Defense Derby โปรดไปที่ https://defensederby.krafton.com และติดตามได้บนโซเชียลมีเดีย (Facebook | YouTube)

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53418536/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

KRAFTON
Jihyun Park
jihyun.park@krafton.com

ที่มา: KRAFTON, Inc.

Toshiba เปิดตัว 600V Super Junction Structure N-Channel Power MOSFET ที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของพาวเวอร์ซัพพลาย

Logo

คาวาซากิ ประเทศญี่ปุ่น–(BUSINESS WIRE)–13 มิถุนายน 2023

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation (“Toshiba”) ได้ขยายไลน์อัพของ N-channel power MOSFET ที่ประดิษฐ์ขึ้นด้วยกระบวนการรุ่นล่าสุด[1] โดยมีโครงสร้าง super junction 600V ที่เหมาะสำหรับศูนย์ข้อมูล สวิตชิ่งเพาเวอร์ซัพพลาย และเครื่องปรับสภาพกำลังไฟฟ้าสำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ ผลิตภัณฑ์ใหม่ "TK055U60Z1" เป็นผลิตภัณฑ์ 600V ตัวแรกในซีรีส์ DTMOSVI ซึ่งเริ่มจัดส่งวันนี้

Toshiba: 600V N-channel power MOSFET TK055U60Z1 in the DTMOSVI Series. (Graphic: Business Wire)

Toshiba: 600V N-channel power MOSFET TK055U60Z1 ในซีรีส์ DTMOSVI (กราฟิก: Business Wire)

ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการออกแบบและกระบวนการของเกท ผลิตภัณฑ์ซีรีส์ 600V DTMOSVI ลดค่าความต้านทานเดรน-ซอร์สต่อหน่วยพื้นที่ลงประมาณ 13% และชาร์จ On-resistance × gate-drain จากเดรน-ซอร์ส ซึ่งเป็นตัวเลขที่คุ้มค่าสำหรับประสิทธิภาพของ MOSFET โดยประมาณ 52% เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ซีรีส์ DTMOSIV-H รุ่นปัจจุบันของ Toshiba ที่มีพิกัดแรงดันเดรน-ซอร์สเท่ากัน ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าซีรีส์นี้มีการสูญเสียการนำไฟฟ้าต่ำและการสูญเสียการสลับต่ำ และช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของแหล่งจ่ายไฟสลับ

ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้อยู่ในแพ็กเกจ TOLL ที่อนุญาตให้เชื่อมต่อเคลวินของเทอร์มินัลแหล่งสัญญาณสำหรับวงจรขับเกต อิทธิพลของความเหนี่ยวนำในสายต้นทางในแพ็กเกจสามารถลดลงได้เพื่อเน้นประสิทธิภาพการสลับความเร็วสูงของ MOSFET ซึ่งยับยั้งการสั่นระหว่างการสลับ

Toshiba จะยังคงขยายไลน์อัพซีรีส์ 600V DTMOSVI และผลิตภัณฑ์ซีรีย์ 650V DTMOSVI ที่เปิดตัวไปแล้ว และสนับสนุนการอนุรักษ์พลังงานโดยลดการสูญเสียพลังงานในสวิตชิ่งเพาเวอร์ซัพพลาย

หมายเหตุ:
[1] ณ เดือนมิถุนายน 2023

การใช้งาน

  • ศูนย์ข้อมูล (สวิตชิ่งเพาเวอร์ซัพพลายสำหรับเซิร์ฟเวอร์ ฯลฯ)
  • เครื่องปรับสภาพกำลังไฟฟ้าสำหรับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
  • ระบบไฟฟ้าสำรอง

คุณสมบัติ

  • บรรลุการชาร์จ On-resistance × gate-drain จากเดรน-ซอร์ส และเปิดใช้งานสวิตชิ่งพาวเวอร์ซัพพลายที่มีประสิทธิภาพสูง

ข้อมูลจำเพาะหลัก

(Ta=25°C เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น)

หมายเลขชิ้นส่วน

TK055U60Z1

การประเมินค่า

สูงสุดสุทธิ

แรงดันเดรน-ซอร์ส VDSS (V)

600

กระแสไฟที่ไหลผ่าน (DC) ID (A)

40

อุณหภูมิช่อง Tch (°C)

150

คุณลักษณะทางไฟฟ้า

ความต้านทานไฟฟ้า

ของเดรน-ซอร์ส RDS(ON) (mΩ)

VGS=10V

สูงสุด

55

ชาร์จเกตทั้งหมด Qg (nC)

typ.

65

ชาร์จเกต-เดรน Qgd (nC)

typ.

15

ความจุอินพุต Ciss (pF)

typ.

3680

แพ็กเกจ

ชื่อ

TOLL

ขนาด (มม.)

typ.

9.9×11.68,

t=2.3

การตรวจสอบตัวอย่างและความพร้อมใช้งาน

ซื้อออนไลน์

ติดตามลิงก์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
TK055U60Z1

ติดตามลิงก์ด้านล่างสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MOSFET ของ Toshiba
MOSFETs

หากต้องการตรวจสอบการวางจำหน่ายของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผู้จัดจำหน่ายออนไลน์ โปรดไปที่:
TK055U60Z1
ซื้อออนไลน์

* ชื่อบริษัท ชื่อผลิตภัณฑ์ และชื่อบริการอาจเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทนั้น ๆ

* ข้อมูลในเอกสารนี้ รวมถึงราคาและข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ เนื้อหาบริการ และข้อมูลติดต่อ เป็นปัจจุบัน ณ วันที่ประกาศ แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

เกี่ยวกับ Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation เป็นซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านเซมิคอนดักเตอร์และโซลูชันจัดเก็บขั้นสูง โดยนำประสบการณ์และนวัตกรรมที่สั่งสมมากว่าครึ่งศตวรรษมาใช้ เพื่อมอบเซมิคอนดักเตอร์, วงจร LSI ระบบ และผลิตภัณฑ์ HDD ที่มีความโดดเด่นให้แก่ลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจ

พนักงานของบริษัท 21,500 คนทั่วโลกมีความมุ่งมั่นในการเพิ่มคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ให้ถึงขีดสุด และส่งเสริมการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับลูกค้า เพื่อร่วมสร้างคุณประโยชน์และตลาดใหม่ ๆ ร่วมกัน ด้วยยอดขายต่อปีเกือบ 800 พันล้านเยน (6.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation ตั้งตารอที่จะสร้างและเข้ามามีบทบาทเพื่ออนาคตที่ดีกว่าสำหรับผู้คนทุกที่

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://toshiba.semicon-storage.com/ap-en/top.html

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

ช่องทางสอบถามสำหรับลูกค้า:
ฝ่ายขายและการตลาดอุปกรณ์ไฟฟ้า
Tel: +81-44-548-2216
ติดต่อเรา

ช่องทางสอบถามสำหรับสื่อมวลชน:
Chiaki Nagasawa
ฝ่ายการตลาดดิจิทัล
Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation
semicon-NR-mailbox@ml.toshiba.co.jp

แหล่งที่มา: Toshiba Electronic Devices & Storage Corporation

MIR4 อัปเดต ‘เรือลวงตามหัศจรรย์’ ที่ท่องไปในโลกหลายมิติ

Logo

  • แนะนำฟิลด์บอสใหม่ และเรื่องราวของเรือลวงตามหัศจรรย์สุดพิเศษพร้อมรางวัลสำหรับการทำภารกิจต่าง ๆ ให้สำเร็จ
  • เลเวลสูงสุดของตัวละคร รวมถึงสเตจของการพิชิต สภาวะร่างกาย และกำลังภายใน เพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มค่าสถานะของตัวละคร
  • จัดกิจกรรม 4 รายการที่ให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ มากมายเพื่อเฉลิมฉลองการอัปเดตพื้นที่ใหม่ 

กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้–(BUSINESS WIRE)–13 มิถุนายน 2023

MIR4 เกม MMORPG ระดับบล็อกบัสเตอร์ของ Wemade ได้เปิดเผยพื้นที่ใหม่ เรือลวงตามหัศจรรย์ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน

Wemade’s blockbuster MMORPG MIR4 revealed a new area, Mirage Ship, on June 13th (Graphic Wemade)

MIR4 เกม MMORPG ระดับบล็อกบัสเตอร์ของ Wemade ได้เปิดเผยพื้นที่ใหม่ เรือลวงตามหัศจรรย์ เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน (กราฟิก: Wemade)

เรือลวงตามหัศจรรย์เป็นเรือที่ขับเคลื่อนโดยศิลาวิญญาณ เพื่อท่องไปในโลกแห่งมิติต่าง ๆ ผู้เล่นจะสามารถขึ้นเรือลำนี้ได้ผ่านทะเลทรายแฟนตาเซีย

ด้วยเรือลวงตามหัศจรรย์ ผู้เล่นจะสามารถย้ายไปยังฟิลด์ที่อยู่ในมิติต่าง ๆ ฟิลด์บอสใหม่ "วิญญาณกระทิงว่างเปล่า" และ "ปีศาจน้ำแข็งสวรรค์" ปรากฏขึ้นในฟิลด์ และรางวัลมากมายจะมอบให้กับผู้เล่นที่เอาชนะบอสเหล่านี้ได้ อีกทั้งผู้เล่นยังสามารถทำภารกิจต่าง ๆ ให้สำเร็จและต่อสู้กับสัตว์ประหลาดที่ทรงพลังใน "ห้องโดยสารชั้นในเรือลวงตามหัศจรรย์" และ "ห้องเครื่องจักรเรือลวงตามหัศจรรย์" ซึ่งเป็นเนื้อหาพิเศษสำหรับเรือลวงตามหัศจรรย์ได้

ยิ่งไปกว่านั้น เลเวลสูงสุดของตัวละครจะเพิ่มเป็น 190 และตัวละครจะได้รับหีบที่บรรจุ "ศิลาเสริมพลังแห่งมังกรศักดิ์สิทธิ์ตำนาน" และ "สมุนไพรวิญญาณสีดำตำนาน" เมื่อถึงเลเวล 190 นอกจากนี้ ด่านสูงสุดของการพิชิต สภาวะร่างกาย และกำลังภายในจะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งช่วยทำให้ค่าสถานะของตัวละครเพิ่มขึ้น

มีกำหนดจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเฉลิมฉลองการอัปเดต "เรือลวงตามหัศจรรย์" ใน MIR4

ประการแรก “ร้านแลกเปลี่ยนเข็มทิศแห่งมิติเวลาของก็อบลิน” จะเปิดตั้งแต่วันที่ 13 ถึง 26 มิถุนายน ผู้เล่นจะสามารถนำ “เข็มทิศแห่งมิติเวลา” ที่ได้รับจากการล่าสัตว์และพอร์ทัลมอนสเตอร์ไปยัง NPC “ก็อบลินที่หลงทาง” ที่อยู่ในแต่ละเมืองใหญ่เพื่อแลกเปลี่ยนกับไอเทม เช่น ตราคัมภีร์ใหม่ 4 ประเภท “กล่องของขวัญจากมังกรเหลืองอีปิค” ที่บรรจุ “ตั๋วอัญเชิญวัตถุดิบมังกร” และ “กล่องของขวัญจากมังกรเงินอีปิค” ที่บรรจุตั๋วอัญเชิญและหินเสริมประสิทธิภาพมากมาย

กิจกรรม “เช็คชื่อ 14 วันแห่งเรือลวงตามหัศจรรย์” จะมีไปจนถึงวันที่ 10 กรกฎาคม ผู้เล่นทุกคนสามารถรับของขวัญมากมายรวมถึง “ตั๋วพรมังกรศักดิ์สิทธิ์” และ “ศิลาเสริมพลังมืดหม่นตำนาน” โดยขึ้นอยู่กับวันที่เข้าร่วม

ผู้เล่นยังสามารถเข้าร่วมใน “พรมังกรศักดิ์สิทธิ์” ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ได้ลองผสมไอเทมอีกครั้ง เช่นเดียวกับกิจกรรม “กิจกรรมลดราคาตั๋วอัญเชิญฉลองเรือลวงตามหัศจรรย์” ซึ่งขายไอเทมอัญเชิญ 9 ประเภทในร้านค้าในราคา 500 ทองแดง

จากกปีศาจน้ำแข็งสวรรค์ารต่อสู้ของฉัน สู่สงครามของเรา! สามารถดูข้อมูลอย่างละเอียดเกี่ยวกับ MIR4 ได้บนเว็บไซต์ทางการ  

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53418482/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Wemade Co., Ltd. (112040: KOSDAQ)
Jennifer Jung ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
jennifer@wemade.com

แหล่งที่มา: Wemade Co., Ltd.

Mary Kay เฉลิมฉลองสัปดาห์แห่งมหาสมุทรโดยการยืนยันความร่วมมือกับ The Nature Conservancy

Logo

ดัลลัส–(BUSINESS WIRE)–8 มิถุนายน 2023 

Mary Kay เฉลิมฉลองสัปดาห์แห่งมหาสมุทรโดยการยืนยันความร่วมมือที่ยาวนานนับทศวรรษกับ The Nature Conservancy (TNC) เพื่อสนับสนุนการอนุรักษ์มหาสมุทรและการปกป้องแนวปะการัง แนวปะการัง ซึ่งมักเรียกกันว่าป่าร้อนชื้นของทะเล ครอบคลุมพื้นที่น้อยกว่า 1% ของพื้นผิวโลก แต่รองรับ 25% ของสิ่งมีชีวิตในทะเลทั้งหมดและประชากรมากกว่าหนึ่งพันล้านคน

Dr. Elizabeth McLeod, The Nature Conservancy’s Global Oceans Director, conducting research in Ulong Channel, Palau as part of the Super Reefs project, a collaborative effort to discover the secrets of “super reefs” with support from Mary Kay. (Credit: © Kip Evans/CCC Marketing)

Dr. Elizabeth McLeod ผู้อำนวยการ Global Oceans ของ The Nature Conservancy กำลังดำเนินการวิจัยใน Ulong Channel ที่ประเทศ Palau โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการแนวปะการังขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นการดำเนินการร่วมมือกันในการค้นหาความลับของ “แนวปะการังขนาดใหญ่” โดยได้รับการสนับสนุนจาก Mary Kay (เครดิต: © Kip Evans/CCC Marketing)

เนื่องจากกลยุทธ์การอนุรักษ์แนวปะการังแบบดั้งเดิมนั้นไม่เพียงพอในการรับมือกับการสูญเสียแนวปะการังทั่วโลก Mary Kay เป็นผู้ร่วมลงนามใน UN Global Compact Sustainable Ocean Principles โดยสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญจาก TNC, Woods Hole Oceanographic Institution (WHOI) และ Stanford University ในฐานะที่พวกเขาเป็นผู้นำในการทำงานร่วมกันเพื่อค้นหาความลับของ “แนวปะการังขนาดใหญ่” ซึ่งเป็นชุมชนปะการังที่แตกต่างกันในระบบแนวปะการังที่ทนทานต่อคลื่นความร้อนที่สามารถสร้างความเสียหาย เพื่อพิสูจน์และป้องกันแนวปะการังที่สำคัญ

Mary Kay ยังคงสนับสนุนโปรแกรม Global Oceans และ Super Reefs ของ TNC อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้นักวิจัยสามารถประเมินสุขภาพของแนวปะการังขนาดใหญ่ และระบุตำแหน่งที่เป็นไปได้ของแนวปะการังขนาดใหญ่ และหารือเกี่ยวกับโอกาสในการปรับปรุงการจัดการแนวปะการังในพื้นที่ ข้อมูลนี้จะช่วยแนะแนวทางในการอนุรักษ์และฟื้นฟู พื้นที่ที่น่าสนใจสำหรับงานแนวปะการังขนาดใหญ่ในปัจจุบัน รวมถึง Hawaii, Palau, Indonesia, the Marshall Islands, the Bahamas, the Dominican Republic และ Belize

เช่นเดียวกับแม่น้ำและคูคลองต่างๆ สิ่งดีๆ ต่างๆ ในโลกนี้ของเราเริ่มต้นจากมหาสมุทร” กล่าวโดย Deborah Gibbins ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ของ Mary Kay Inc. “Mary Kay กำลังทำงานร่วมกันกับพันธมิตรอย่าง The Nature Conservancy เพื่อปกป้องทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของโลก น้ำที่สะอาดและดีต่อสุขภาพไม่เพียงสำคัญต่อธุรกิจของเราเท่านั้น แต่ยังสำคัญต่อสิ่งมีชีวิตในทุกๆ ที่อีกด้วย”

TNC มุ่งมั่นในการอนุรักษ์มหาสมุทร 4 พันล้านเฮกเตอร์ภายในปี 2030 และเราขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนจาก Mary Kay ที่ช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายที่สำคัญนี้ ความร่วมมือกับรัฐบาล องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร บริษัทต่างๆ และชุมชนท้องถิ่นมีความสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จของเรา” Dr. Lizzie Mcleod ผู้อำนวยการ Global Oceans ของ TNC กล่าว

ในปีนี้ Mary Kay จะยังคงให้การสนับสนุนพื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่งใน Texas ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแบรนด์ความงาม ในปี 2023 TNC จะยังคงทำงานตามวัตถุประสงค์ของโครงการระยะเวลาสามปี:

ในปี 1990 Mary Kay และ TNC ประกาศร่วมมือกัน Mary Kay ริเริ่มการอนุรักษ์จากใกล้บ้าน โดยมุ่งเน้นการปกป้องและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติใน Texas ในช่วง 33 ปีที่ผ่านมา Mary Kay มีการขยายการสนับสนุนเป็นหลายร้อยโครงการโดยความร่วมมือกับ TNC รวมถึงงานการฟื้นฟูมหาสมุทรและแนวปะการังทั่วโลก และด้วยความร่วมมือกับ TNC Mary Kay ยังได้ยกระดับความเป็นผู้นำของผู้หญิงในการอนุรักษ์ทะเลในโปรแกรมความยั่งยืนเพื่อสร้างเสริมความเท่าเทียมทางเพศ

เกี่ยวกับ Mary Kay

ตลอดและต่อไป Mary Kay Ash หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ความงามตามความฝันของเธอใน Texas ในปี 1963 โดยมีเป้าหมายเดียวคือ ทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีขึ้น และความฝันของเธอได้เบ่งบานกลายเป็นบริษัทระดับโลกที่มีพนักงานขายอิสระหลายล้านคนในกว่า 35 ประเทศ เป็นเวลากว่า 60 ปีแล้วที่ Mary Kay สร้างโอกาสให้ผู้หญิงสามารถกำหนดอนาคตของตัวเองการศึกษา การให้คำปรึกษา การสนับสนุน และนวัตกรรม Mary Kay ทุ่มเทให้กับการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทันสมัย เครื่องสำอาง อาหารเสริม และน้ำหอม Mary Kay เชื่อมั่นในการอนุรักษ์โลกสำหรับคนรุ่นใหม่ในอนาคต ปกป้องผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งและการถูกทำร้ายภายในครอบครัว และสนับสนุนให้เยาวชนทำตามความฝัน เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ marykayglobal.com ค้นหาเราได้ที่ FacebookInstagram และ LinkedIn หรือติดตามเราได้ที่ Twitter

เกี่ยวกับ The Nature Conservancy

The Nature Conservancy เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกที่อุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์ผืนดินและผืนน้ำที่ทุกชีวิตต้องพึ่งพา เราสร้างสรรค์วิธีการแก้ปัญหาเชิงนวัตกรรมตามหลักการวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ธรรมชาติและผู้คนสามารถก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน ซึ่งเป็นความท้าทายที่ยากที่สุดในโลก เราต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ อนุรักษ์ผืนดิน ผืนน้ำ และมหาสมุทรในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดหาอาหารและน้ำในรูปแบบที่ยั่งยืน และช่วยให้เมืองต่างๆ มีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น โดยมีการทำงานใน 76 ประเทศและภูมิภาค—37 แห่งที่มีผลกระทบด้านการอนุรักษ์โดยตรง และคู่ค้า 39 แห่ง—เราใช้วิธีการทำงานร่วมกันกับชุมชน รัฐบาล ภาคเอกชน และพันธมิตรอื่นๆ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม สามารเข้าไปดูได้ที่ www.nature.org หรือติดตามเราได้ที่ @nature_press บน Twitter

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53417208/en

ติดต่อ

Mary Kay Inc.
Corporate Communications
marykay.com/newsroom
972.687.5332 หรือ media@mkcorp.com

แหล่งข้อมูล: Mary Kay




Falcon 40B: โมเดล AI อันดับต้น ๆ ของโลกให้รางวัลแก่กรณีการใช้งานที่สร้างสรรค์ที่สุดในการยื่นข้อเสนอโครงการด้วยการฝึกอบรมพลังการประมวลผล

Logo

ความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย ผู้ประกอบการ SME

อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์–(BUSINESS WIRE)–7 มิถุนายน 2023

Falcon 40B ซึ่งเป็นโมเดล AI แบบโอเพนซอร์สอันดับต้น ๆ ของโลกบนกระดานผู้นำ Hugging Face สำหรับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) กำลังลงทะเบียนการตอบรับอย่างล้นหลามต่อการเรียกร้องข้อเสนอจากนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการปรับใช้โมเดลกับกรณีการใช้งานที่เป็นนวัตกรรมใหม่

การตอบสนองดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการประกาศแบบต่อเนื่องจากผู้สร้างโมเดล AI สถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งอาบูดาบี (TII) โดยเสนอแนวคิดโครงการที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการเข้าถึงการฝึกอบรมพลังการประมวลผลในรูปแบบของการลงทุน

พลังการประมวลผลช่วยให้นักพัฒนาสามารถรับมือกับกรณีการใช้งานที่ซับซ้อนและใช้ทรัพยากรมากด้วยประสิทธิภาพ ผลผลิต และการดำเนินการที่เพิ่มขึ้น ด้วยความสามารถในการทดลองด้วยความสามารถของ Falcon 40B ที่เป็น LLM แบบโอเพนซอร์สที่ดีที่สุดทั่วโลก นักพัฒนาสามารถผจญภัยในดินแดนที่ยังไม่ได้สำรวจ ขับเคลื่อนนวัตกรรมและขยายความเป็นไปได้ของโซลูชัน AI ได้อย่างรวดเร็ว

ยินดีต้อนรับผลงานจากทั่วทุกมุมโลก ทั่วทุกอุตสาหกรรมและภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อค้นหาแนวคิดการใช้งานที่ดีที่สุด ตัวอย่างของอุตสาหกรรม ได้แก่ เทคโนโลยีชีวภาพ วิศวกรรม โซลูชันสำหรับองค์กร การบริการลูกค้า การเงิน และการดูแลสุขภาพ ตัวอย่างเช่น ในการดูแลสุขภาพ แอปพลิเคชัน LLM สามารถช่วยแพทย์ได้โดยการวิเคราะห์วรรณกรรมทางการแพทย์ ประวัติผู้ป่วย และผลการวิจัยเพื่อให้คำแนะนำที่อิงตามหลักฐาน ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดและปรับปรุงการดูแลผู้ป่วยตามความรู้และข้อมูลเชิงลึกล่าสุด

“เราสนับสนุนอย่างเต็มกำลังให้นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และผู้ประกอบการที่มีแนวคิดกล้าได้กล้าเสีย ส่งข้อเสนอสำหรับการติดตั้ง Falcon 40B” กล่าวโดย H.E. Faisal Al Bannai เลขาธิการสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (ATRC) ซึ่งเป็นองค์กรแม่ของ TII “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ลงทุนในข้อเสนอที่มีผลกระทบสูงสุดด้วยพลังการประมวลผลผ่าน VentureOne ซึ่งเป็นหน่วยงานเชิงพาณิชย์ของ ATRC และมีโอกาสเป็นพันธมิตรกับนักพัฒนาที่มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากที่สุด”

ดร. Ebtesam Almazrouei รักษาการหัวหน้านักวิจัยของ AICCU กล่าวว่า "ทุกข้อเสนอที่มาถึงจะต้องผ่านการประเมินอย่างละเอียดถี่ถ้วนโดย AI Cross-Center Unit (AICCU) ของ TII โดยเฉพาะ" “ทีมนักวิทยาศาสตร์ AI ที่ยอดเยี่ยมกว่า 40 คนของเราพร้อมที่จะตรวจสอบข้อเสนอแต่ละข้อ โดยการเฟ้นหานักพัฒนาที่มีสติปัญญาและความเฉลียวฉลาดเป็นพิเศษ เป้าหมายสูงสุดของเราคือขับเคลื่อนความก้าวหน้าของ AI โดยใช้ศักยภาพสูงสุดเพื่อทำให้สังคมดีขึ้นอย่างทั่วถึง”

ผู้ใช้ที่สนใจควรส่งข้อเสนอโดยสรุปวัตถุประสงค์การวิจัย วิธีการ ผลลัพธ์ที่คาดหวัง และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากโครงการของตน ข้อเสนอควรเน้นวิธีใช้ Falcon 40B และโดเมนเฉพาะที่กำหนดเป้าหมาย นอกจากนี้ ผู้สมัครควรระบุไทม์ไลน์และการคำนวณงบประมาณโดยประมาณ ตลอดจนความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องหรืองานก่อนหน้านี้ที่สนับสนุนข้อเสนอของพวกเขา

หากคุณสนใจเข้าร่วมการยื่นข้อเสนอโครงการ เราขอเชิญคุณไปที่ FalconLLM.TII.ae

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tii.ae

แหล่งที่มาAETOSWire

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

สำหรับสื่อ กรุณาติดต่อ:
Jennifer Dewan ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายสื่อสาร
jennifer.dewan@tii.ae.

แหล่งที่มา: The Technology Innovation Institute

Hillstone Networks ได้รับเลือกให้เป็น Customers’ Choice ใน Gartner Peer Insights™ Voice of the Customer for Network Firewall ประจำปี 2023

Logo

Hillstone Networks ได้รับเลือกให้เป็น Customers’ Choice ใน Network Firewalls เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน นอกเหนือจากการได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้ดำเนินการที่แข็งแกร่งใน Voice of the Customer for Network Detection and Response ประจำปี 2023

ซานตาคลารา แคลิฟอร์เนีย–(BUSINESS WIRE)–7 มิถุนายน 2023

Hillstone Networks ผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันความปลอดภัยทางไซเบอร์ ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้รับการรวมอยู่ในรายงาน "Voice of the Customer" ของ Gartner Peer Insights สองฉบับ โดย Hillstone ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้จำหน่ายที่ลูกค้าเลือกสำหรับไฟร์วอลล์เครือข่าย (Network Firewall) และได้รับการเสนอชื่อให้เป็น Strong Performer สำหรับโซลูชัน Network Detection and Resolution (NDR) ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ ความแตกต่างใน Customers' Choice ของ Gartner Peer Insights ขึ้นอยู่กับข้อเสนอแนะและการให้คะแนนโดยสมัครใจและได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญด้านผู้ใช้ปลายทางซึ่งมีประสบการณ์ในการซื้อ การนำไปใช้ หรือการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ

“ลูกค้าได้พูดถึงและรับรู้ถึงความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ของเราในการจัดหาโซลูชันการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบบูรณาการที่มอบความครอบคลุม การควบคุม และการรวมเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพแก่บริษัทอื่น ๆ กว่า 26,000 แห่งทั่วโลก ท่ามกลางสภาพแวดล้อมการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ท้าทายและไม่หยุดนิ่ง” กล่าวโดย Tim Liu ผู้ร่วมก่อตั้งและซีทีโอของ Hillstone Networks “เราจะยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์นวัตกรรมและผลักดันขอบเขตของการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เพื่อปกป้องทรัพย์สินที่สำคัญของลูกค้าของเรา”

ไฮไลท์สำคัญ

NDR:

  • Hillstone Networks ได้รับคะแนน "เต็มใจที่จะแนะนำ" 100% จากผู้ใช้ โดยอ้างอิงจากรีวิว 25 รายการ ณ เดือนมีนาคม 2023
  • 92% ของผู้ใช้ Hillstone ที่ให้คะแนนบริษัทในแบบสำรวจ 5 เต็ม จาก 5 ดาว
  • ประสบการณ์การสนับสนุนของ Hillstone Networks ได้รับคะแนน 4.9 จาก 5 จาก 25 รีวิว
  • ความสามารถของผลิตภัณฑ์ของ Hillstone Networks ได้รับคะแนน 5 เต็ม 5 จาก 24 รีวิว

ไฟร์วอลล์เครือข่าย:

  • Hillstone Networks ได้รับคะแนน "เต็มใจที่จะแนะนำ" 99% จากผู้ใช้ โดยอ้างอิงจากรีวิว 107 รายการ ณ เดือนมีนาคม 2023
  • 84% ของผู้ใช้ Hillstone ที่ให้คะแนนบริษัทในแบบสำรวจ 5 เต็ม จาก 5 ดาว
  • ประสบการณ์การสนับสนุนของ Hillstone Networks ได้รับคะแนน 4.9 จาก 5 คะแนนจาก 102 รีวิว
  • ความสามารถของผลิตภัณฑ์ของ Hillstone Networks ได้รับคะแนน 4.9 จาก 5 คะแนนจาก 101 รีวิว

Gartner, Voice of the Customer for Network Firewalls, Peer Contributors, 31 เดือนพฤษภาคม 2023
Gartner, Voice of the Customer for Network Detection and Response, Peer Contributors, 29 เดือนพฤษภาคม 2023

เกี่ยวกับ Gartner Peer Insights™

Gartner และ Peer Insights เป็นเครื่องหมายการค้าของ Gartner, Inc. และ/หรือบริษัทในเครือ ขอสงวนลิขสิทธิ์ เนื้อหา Gartner Peer Insights ประกอบด้วยความคิดเห็นของผู้ใช้ปลายทางรายบุคคลตามประสบการณ์ของตนเอง และไม่ควรตีความว่าเป็นข้อเท็จจริง และไม่ได้แสดงถึงมุมมองของ Gartner หรือบริษัทในเครือ Gartner ไม่รับรองผู้จำหน่าย ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใด ๆ ที่ปรากฎในเนื้อหานี้ และไม่รับประกันใด ๆ ทั้งโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยายเกี่ยวกับเนื้อหานี้ เกี่ยวกับความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ รวมถึงการรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความสามารถในการขายหรือความเหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะ

เกี่ยวกับ Hillstone Networks

แนวทางการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เชิงบูรณาการของ Hillstone Networks มอบความครอบคลุม การควบคุม และการรวมเข้าด้วยกันเพื่อความปลอดภัยของการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับองค์กรมากกว่า 26,000 แห่งทั่วโลก สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ www.hillstonenet.com

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

ติดต่อ

Zeyao Hu
+1 4085086750
inquiry@hillstonenet.com

แหล่งที่มา: Hillstone Networks

Sequoia India & Southeast Asia ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Peak XV Partners

Logo

Peak XV Partners จะดำเนินการในฐานะบริษัทที่มีอิสระเต็มที่

บริษัทจะยังคงสนับสนุนผู้ก่อตั้งที่มีความทะเยอทะยานในอินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และที่อื่น จากเงินทุนปัจจุบันซึ่งรวมเงินทุน 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ (2 แสนล้านรูปี) ที่ยังไม่ได้ลงทุน

นิวเดลี–(BUSINESS WIRE)–6 มิถุนายน 2023

Sequoia India & Southeast Asia บริษัทร่วมทุนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคซึ่งบริหารเงินมากกว่า 9.2 พันล้านเหรียญสหรัฐใน 13 กองทุนจะเป็นที่รู้จักทั่วโลกในชื่อ Peak XV Partners*  การรีแบรนด์มีขึ้นหลังจาก Sequoia Capital (สหรัฐฯ/ยุโรป), Sequoia China และ Sequoia India & Southeast Asia ได้ตัดสินใจที่จะเป็นบริษัทแยกกันเป็นอิสระ ที่มีแบรนด์แตกต่างกัน Peak XV เป็นชื่อดั้งเดิมของยอดเขาเอเวอเรสต์ และเป็นสัญลักษณ์ของการแสวงหาเป้าหมายที่กล้าหาญอย่างไม่หยุดยั้งของผู้ก่อตั้ง

Managing Partners - L to R (General Partners) Standing - Shailesh Lakhani, Ashish Agrawal, Rajan Anandan, GV Ravishankar, Ishaan Mittal, Harshjit Sethi, Mohit Bhatnagar; Seated - Tejeshwi Sharma, Sakshi Chopra, Shailendra Singh, Abheek Anand. (Photo: Business Wire)

หุ้นส่วนผู้จัดการ – จากซ้ายไปขวา (หุ้นส่วนทั่วไป) สถานะ – Shailesh Lakhani, Ashish Agrawal, Rajan Anandan, GV Ravishankar, Ishaan Mittal, Harshjit Sethi, Mohit Bhatnagar; นั่ง – Tejeshwi Sharma, Sakshi Chopra, Shailendra Singh, Abheek Anand (รูปภาพ: Business Wire)

Shailendra Singh กรรมการผู้จัดการของ Peak XV Partners กล่าวว่านี่เป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับเราในฐานะ Peak XV Partners แต่ไม่เหมือนการเริ่มต้นส่วนใหญ่ นี่เป็นโอกาสสำหรับเราในการต่อยอดบนรากฐานที่วางมาตลอด 17 ปีที่ผ่านมา บริษัทของเราจะยังคงได้รับการบริหารจัดการโดยทีมผู้บริหารชุดปัจจุบัน และจะลงทุนต่อไปจากชุดกองทุนต่างๆ ที่ระดมมาล่าสุดโดยมุ่งเน้นไปที่อินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"

ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง Sequoia Capital (สหรัฐอเมริกา/ยุโรป), Sequoia China และ Sequoia India/SEA ได้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นธุรกิจที่แยกจากกัน ด้วยการตัดสินใจลงทุนที่เป็นอิสระ ตลอดระยะเวลาหลายปี กลยุทธ์สำหรับแต่ละธุรกิจได้แยกออกจากกัน ขนาดและความเป็นผู้นำตลาดทั่วทั้งภูมิศาสตร์ต่างๆ ได้เริ่มส่งผลเป็นความสับสนในแบรนด์และพอร์ตโฟลิโอที่ขัดแย้งกัน สิ่งนี้นำไปสู่การที่ผู้นำของแต่ละธุรกิจตัดสินใจร่วมกันที่จะเคลื่อนไปสู่ความเป็นพันธมิตรที่เป็นอิสระเต็มรูปแบบด้วยแบรนด์ที่แตกต่างกัน เพื่อที่จะให้บริการผู้ก่อตั้งและหุ้นส่วนจำกัดในลักษณะที่ดีที่สุด

"เรากำลังมองเห็นบริษัทต่างๆ เกิดขึ้นจากทุกภูมิภาคด้วยความทะเยอทะยานระดับโลก ความยืดหยุ่นที่มาพร้อมกับโครงสร้างใหม่จะเปิดโอกาสระดับโลกที่ไร้ขอบเขต และช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มมากขึ้นให้กับบรรดาผู้ก่อตั้งและหุ้นส่วนจำกัดของเรา" Singh กล่าว

ตลอดระยะเวลา 17 ปีที่ผ่านมา Sequoia India & SEA ได้ระดมทุน 13 กองทุน ลงทุนในสตาร์ทอัพมากกว่า 400 แห่ง โดยมีมากกว่า 50 บริษัทที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป พอร์ตโฟลิโอได้เห็นการเสนอขายหุ้น IPO 19 รายการและการควบรวมกิจการที่ประสบความสำเร็จหลายรายการ ซึ่งส่งผลให้มีการขายบริษัทเพื่อออกจากธุรกิจ (Exit) เกิดขึ้นแล้วเป็นมูลค่า 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐจนถึงตอนนี้ ทีมการลงทุนนำโดยกรรมการผู้จัดการ 11 คนซึ่งมีระยะเวลาการดำรงตำแหน่งโดยเฉลี่ยมากกว่า 12 ปี ที่บริษัท

Peak XV Partners จะยังคงลงทุนในระยะต่าง ๆ (เมล็ดพันธุ์ การร่วมทุน การเติบโต) และภาคส่วนต่าง ๆ อย่าง SaaS, AI, เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา, ความปลอดภัยทางไซเบอร์, โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์, เทคโนโลยีสภาพอากาศ, ฟินเทค, เทคโนโลยีด้านสุขภาพ และผู้บริโภค บริษัทจะเพิ่มความแข็งแกร่งยิ่งขึ้นให้กับโปรแกรมที่โดดเด่นและเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอย่าง Surge และ Spark ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากบรรดาผู้ก่อตั้ง

บริษัทยังคงมีความมุ่งมั่นเช่นเดิมที่จะช่วยผู้ก่อตั้งที่กล้าหาญในการสร้างบริษัทที่โดดเด่นที่สามารถเป็นผู้นำในหมวดหมู่ระดับภูมิภาคและระดับโลก

เกี่ยวกับ Peak XV Partners

Peak XV Partners* ก่อนหน้านี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Sequoia Capital India & Southeast Asia เป็นบริษัทร่วมทุนและการลงทุนเพื่อการเติบโตชั้นนำที่มุ่งเน้นที่อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอื่นๆ บริษัทมุ่งมั่นที่จะช่วยผู้ก่อตั้งที่กล้าหาญในการสร้างบริษัทที่โดดเด่นที่สามารถเป็นผู้นำในหมวดหมู่ระดับภูมิภาคและระดับโลกทั่วทั้ง SaaS, AI, เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา, ความปลอดภัยทางไซเบอร์, โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์, เทคโนโลยีสภาพอากาศ, ฟินเทค, เทคโนโลยีด้านสุขภาพ และผู้บริโภค

ตลอดระยะเวลา 17 ปีที่ผ่านมาในภูมิภาค Peak XV Partners ได้ระดมทุน 9.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐผ่าน 13 กองทุนและได้ลงทุนในบริษัทกว่า 400 แห่ง โดยมีบริษัทมากกว่า 50 บริษัทที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป และ 40 บริษัทที่บรรลุถึงรายได้มากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ พอร์ตโฟลิโอยังรวมถึงการเสนอขายหุ้น IPO 19 รายการและการควบรวมกิจการที่ประสบความสำเร็จหลายรายการ ซึ่งส่งผลให้มีการขายบริษัทเพื่อออกจากธุรกิจ (Exit) เกิดขึ้นแล้วเป็นมูลค่า 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐจนถึงตอนนี้

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Peak XV Partners เยี่ยมชมที่ www.peakxv.com

*อ่านว่า พีค ฟิฟทีน

สามารถรับชมภาพในรูปแบบมัลติมีเดียได้ที่: https://www.businesswire.com/news/home/53415884/en

เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย

รายชื่อติดต่อ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:

Peak XV Partners
Shweta Rajpal Kohli
PR.IndiaSEA@sequoiacap.com
+91 98998 88667

Ushma Jhaveri
PR@peakxv.com
+91 99168 08664

Lara Kanga
+65 8650 5983

บริษัท Avian WE
Oeindrila Biswas
oeindrila@avianwe.com
+91 8447776880

ที่มา: Peak XV Partners



The Bangkok Reporter